MannSukhaphan1999

CBRE เผยแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯปี 2568
"Multi-Speed Recovery, Split Performance" คือนิยามสั้นๆที่ทาง CBRE ให้ไว้ต่อแนวโน้มของธุรกิจอสังหาฯในแต่ละเซกเตอร์ ที่ทุกภาคส่วนทุกอุตสาหกรรมทั้ง Hospitality, Industrial, Retail, Office Space และ Residential ล้วนตั้งอยู่บนความท้าทายในทุกมิติดังที่หลายฝ่ายทราบกับ จนส่งผลให้แต่ละธุรกิจมี Speed ในฟื้นตัวไม่เท่ากัน โดยหากมองจากกราฟภาพรวม Performance จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่รุ่งสุดๆคือ Hotel และ Industrial จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของชาวต่างชาติ และการลงทุนของภาคเอกชนที่มีการร่วมทุนกับบ.ต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กลุ่ม Retail และ Office มี Speed ที่ตามมาจากการโครงการใหม่ในส่วนของกลุ่ม Mixed Use โดยกลุ่ม Residential ดูจะเป็นกลุ่มที่มาช้าที่สุด จากแรงฉุดภาวะเศรษฐกิจที่มีผลต่อดีมานด์ และการพัฒนาโครงการใหม่ โดยกลุ่มที่มีความ Positive แน่นอนว่าเป็นเซกเมนท์ที่จับกลุ่มกำลังซื้อใหม่
ในมุมมองของ CBRE จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยคือ องค์ประกอบสำคัญในการกระตุ้นตลาดอสังหาฯโดยเฉพาะในกลุ่ม Hotel และ Residential โดย Top 5 ของจำนวนนักท่องเที่ยวมี อินเดีย ที่น่าจับตามองกับจำนวน 2.1 ล้านคนในปีที่แล้ว ในขณะที่ชาวไต้หวัน เป็นกลุ่มที่ Contribute ได้มากทั้งในกลุ่มของ Industrial และ Residential ที่มีทั้งการลงทุน และการซื้ออสังหา และในส่วนของ Auatralia และกลุ่ม Middle East เป็นกำลังซื้อหลักของตลาด Medical Tourism
สำหรับธุรกิจโรงแรม ปีนี้จะมี Luxury Hotel 3 โครงการพร้อมเปิดให้เข้าพัก ทั้ง Andaz One Bangkok, Grand Centre Point Lumphini และ Aman Nai Lert ที่พร้อมจะยกระดับค่าเฉลี่ย ADR และ RevPAR ของโรงแรมหรูในย่านใจกลางเมืองให้สูงเทียบเท่าหรือมากกว่าบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา
สำหรับตลาด Industrial ดูจะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโต และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากดีมานด์ในกลุ่ม Data Centre ที่มีการเร่งซื้อที่ดินเพื่อเติม Supply เข้ามาเรื่อยๆ เพื่อรองรับการเปิดโรงงาน เช่นเดียวกับการสร้าง Ready to Bulit Factory ให้เช่า ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้ CBRE ได้ไม่น้อย ในขณะที่ Modern Logistic Property ในกลุ่ม Warehouse ปีนี้อาจมีการชะลอตัวลงเนื่องจากมี Supply ค่อนข้างเยอะ และ Stable แล้ว
ส่วนธุรกิจ Retail มีแนวโน้ม Supply เพิ่มขึ้นจากทั้งการ Renovated และสร้างใหม่ ซึ่งในปีนี้จะมีการ Revonate ที่ Central Bangna เพื่อ Support Residential Demand ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในย่านบางนา และมี New Supply ที่ Central Park ส่งผลให้พื้นที่ Retail ของห้างดังในกรุงเทพฯมีจำนวนรวมมากกว่า 1 ล้านตรม.จาก 12 ห้างดังใจกลางเมือง โดยผู้เช่าหลักจะเป็นในส่วนของ Luxury Shop ที่กำลังจะแซงสิงค์โปร์แล้ว
กลุ่มธุรกิจที่ถูกเติม Supply มากที่สุดคือกลุ่ม Office ที่ดีมานด์ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เช่าที่มีการ Relocated โดยตึกที่มี Occupancy ค่อนข้างสูง ก็จะมีแนวโน้มในการปรับขึ้นราคา ซึ่งทาง Landlord ของกลุ่มอาคารที่มีอายุมากๆก็เลือกที่จะอัพเกรดส่วนกลางใหม่ เช่นเดียวกับการเพิ่มเติมในแง่ของเทคโนโลยี มากกว่าการลดราคาลงมา โดยหากเป็นตึกเก่ามากๆที่ไม่ค่อยมีผู้เช่า ก็จะมีการ Repurpose เป็นโรงแรม หรืออพาร์ทเมนท์ เช่นเดียวกับการทุบสร้างใหม่
สำหรับภาคที่ทุกคนจับตามองคือ Residential โดยเฉพาะในส่วน Condominium ที่ทาง CBRE คาดว่าปีนี้จะมี New Launch เพียงแค่ 3,600 ยูนิตในส่วน Downtown และ 20,400 ยูนิตในส่วน Midtown/ Sub Urban สอดคล้องกับโครงการที่สร้างแล้วเสร็จที่จะมีเพียงแค่ 3,986 ยูนิตในส่วน Downtown และ 37,095 ยูนิตในส่วน Midtown/Sub Urban แย่ที่สุดในรอบ 4 ปี!!!
ที่พอจะมี Positive Sign อยู่บ้างคือ สัดส่วนการซื้อของคนต่างชาติในกรุงเทพฯที่ทยอยปรับขึ้นไปใกล้เคียงกับปี 2018 แต่เมื่อรวมทั่วประเทศโดยเฉพาะในส่วนภูเก็ต นับว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งรูปแบบการพัฒนาโครงการในแบบ Branded Residence เพื่อ Draw กำลังซื้อต่างชาติเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกลุ่มตลาด Luxury ขึ้นไป
สำหรับกลุ่ม Housing มี Supply ที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรวมของการโอนกลับลดลง โดยมีการ Absorb แค่ 30,000 กว่ายูนิตต่อปีเท่านั้น ทำให้ทาง CBRE คาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาถึง 5 ปีในการระบายสต๊อคให้หมด เพราะ Real Demand จริงๆ ส่วนมากซื้อไปตั้งแต่ช่วง Covid แล้ว ทำให้เกิดความไม่สมดุลกันใน Demand และ Supply โดยตลาด Luxury ในปีนี้ต้องประสบปัญหา Sale Performance ที่มีเพียงแค่ 50% สวนทางกับ Super Luxury ที่มี Sale Performance ที่ 87% และ Ultra Luxury ที่มี Sale Performance 70% แต่ต้องอย่าลืมว่าข้อมูลนี้ Based จาก Performance ของ CBRE ที่ถนัดเรื่องขายของหรูเป็นหลัก
สำหรับภูเก็ตตลาดคอนโด และวิลล่า ยังไปได้อยู่ โดยคอนโดมียอดขายสะสมที่ 65% และ Villa มียอดขายสะสมที่ 75% ซึ่งภูเก็ตจะยังคงเป็นเมืองหลักของกลุ่ม Luxury Residential ต่อไปในปีนี้
โดยสรุปแล้ว กลุ่มที่ดูจะอ่อนแอที่สุดคือ Residential ที่ยังคงต้องพึ่งพากำลังซื้อต่างชาติ สำหรับเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตเป็นหลัก ซึ่งทาง CBRE ให้ความเห็นว่าปีนี้แนวทางในการพัฒนาสำหรับกลุ่ม Mass to High - End ควรที่จะมองในเรื่องของ Value for Money ซึ่งไม่ได้หมายถึงการไปทำของราคาถูกเป็นหลัก แต่หมายถึงการให้ของที่สมกับราคาขาย เพื่อจับกลุ่ม Real Demand ที่มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะในตลาด โดยตัวแปรหลักอื่นๆก็ขึ้นอยู่กับนโยบายต่างๆของภาครัฐ และธนาคารแห่งประเทศไทย

新年快乐. 身体健康. 福禄双. 年年有余. 祝财运亨通 . 心想事成. 永遠勝利. 日进斗金. ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่จีน สุขภาพแข็งแรง ยิ้มๆ สดชื่น สดใสตลอดทั้งปี อายุมั่นขวัญยืน เงินทองเหลือกินเหลือใช้ คิดสิ่งดีสิ่งใดสมดังใจปรารถนา ประสบพบแต่ชัยชนะและมีเงินทองไหลมาเทกันนะคะ❤️❤️

https://www.matichon.co.th/economy/news_4990812

(Re)Cover the Flow
—
Charn at the Avenue แจ้งวัฒนะ เป็นโปรเจ็กที่ IF ชนะการประกวดแบบในการรีโนเวทพื้นที่เดิมที่เป็นโรงหนังและศูนย์การค้าที่ปิดตัวไปแล้ว ชุบชีวิตสู่การเป็น Community Mall ของชาวแจ้งวัฒนะ
IF สังเกตรูปแบบพื้นที่เดิมที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร 2 ก้อนแยกกัน จึงตีโจทย์แรกของการออกแบบศูนย์การค้า ด้วยการเชื่อม circulation ให้ต่อเนื่องกันทั่วทั้งพื้นที่โดยไม่ต้องเดินออกจากอาคาร ซึ่งเป็นจุดประสงค์ทางธุรกิจในการทำให้มาลูกค้าได้ใช้เวลาเดินเล่นในศูนย์การค้าได้ยาวนาน เพลิดเพลินตั้งแต่ที่จอดรถ โซนช้อปปิ้ง เพลิดเพลินไม่มีสะดุดไปถึงชั้นบนสุดของอาคาร เพิ่มโอกาสในการจับจ่ายใช้สอย
ในมุมของรูปลักษณ์โครงการ IF อยากให้มีความ friendly ดูสบายๆ เข้าถึงได้ง่าย ขณะเดียวกันก็ทำงานในมุมการสร้าง visual ที่มีเอกลักษณ์ให้โครงการ จากโจทย์เรื่อง circulation และ visual จึงเกิด design solution ที่เป็นหลังคารูปร่มที่เหมือนชานบ้าน ที่เชื้อเชิญ ให้ทุกคนเข้ามาใช้พื้นที่ที่นี่ พร้อมด้วยการเลือกใช้วัสดุอารมณ์ไม้ เพื่อความ ดูอบอุ่น เป็นกันเอง
ฟอร์มหลังคารูปร่ม ช่วยแก้ปัญหาการเชื่อม circulation ระหว่างอาคาร เพราะเมื่อหลังคายื่นออกมาจากตัวอาคารที่แยกกัน ก็ทำให้เกิดร่มเงาระหว่างอาคาร คนจึงเดินข้ามจากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารได้ง่าย และส่งเสริมให้ภาพรวมของทั้งโครงการดูเป็นก้อนเดียวกัน
ในส่วนของการออกแบบภายใน เป็นการพยายามให้ภาษาเดียวกัน resonate ไปทั้งโครงการ
เรามองไปถึงการใช้งานจริง ที่จะต้องมีหลากหลายร้านค้าและแบรนด์ต่างๆที่ต่างมี visibility ของตัวเองเข้ามาใช้พื้นที่ ทิศทางการออกแบบภายในจึงเป็นการใช้วัสดุและ มู้ดโทนของแสงที่มีความ Friendly ให้อารมณ์ไม้เหมือนด้านนอกอาคาร แต่มีความเรียบง่าย และอยู่กับร้านรวงของผู้เช่าพื้นที่ได้อย่างลงตัว

บริษัท แมนสุขภัณฑ์ ขอขอบคุณกลุ่ม และบริษัทพูลผล ที่ให้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบริจาคสุขภัณฑ์ เพื่อนักเรียน ในโครงการร่วมแบ่งปัน สานฝันให้น้อง โครงการ 20 โรงเรียนวัดช่องลมวรรณาราม(สมุทรประชานุ กูล) ตำบลวัดประดู่ อำเภออัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม

ขอบคุณ SPD ที่ให้ได้เป็นส่วนเล็กๆส่วนนึงในการแบ่งปันโอกาสให้น้องๆเด็กและสังคม


#โรงเรียนวัดช่องลม
#พูลผลกรุ๊ป

ไอเดียบ้านสวนร่มรื่น👍👍

บ้านสวนร่มรื่น แบบนี้ก็น่าอยู่

กรณีศึกษา เอพี ไทยแลนด์ กับความแข็งแกร่งทางการเงินของธุรกิจอสังหา แม้เจอความท้าทายรอบด้าน
AP X ลงทุนแมน

กำลังซื้ออ่อนแอลง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยแพงขึ้น
สินเชื่อที่อยู่อาศัยไม่ผ่านการอนุมัติจากธนาคารมากกว่า 40%

ปรากฏการณ์นี้เปรียบเสมือน “พายุลูกใหญ่” พัดเข้ามาท้าทายกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย
จนทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ บางรายเลือกปรับลดรายได้ บางรายชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ

แต่ในสถานการณ์ที่ดู “ติดลบ” เกือบทุกอย่าง กลับมีแบรนด์หนึ่งที่ดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคง

เรากำลังพูดถึง “เอพี ไทยแลนด์” ที่เชื่อว่าเป็นแบรนด์อสังหาฯ แรก ๆ ในใจคนเมือง
เมื่อล่าสุดแจ้งผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2567 รายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่น ๆ สูงถึง 21,130 ล้านบาท มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในตลาดอสังหาฯ เมืองไทย

ส่วนกำไรในครึ่งปีแรก 2,277 ล้านบาท และมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนแค่ 0.83 เท่า

ทำให้ล่าสุด TRIS Rating จัดอันดับเครดิตองค์กรของ เอพี ไทยแลนด์ ที่ระดับ A Stable

เอพี ไทยแลนด์ ทำอย่างไร ?
ถึงมีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง สร้างรายได้ได้อย่างมั่นคงในช่วงที่ตลาดอสังหาฯ เผชิญความท้าทาย
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง..

ผลประกอบการครึ่งปีแรกของ เอพี ไทยแลนด์ ถือว่าโดดเด่นเลยทีเดียว
โดยเฉพาะในไตรมาส 2 เอพี ไทยแลนด์ สร้างรายได้ท็อปฟอร์ม ทั้งคอนโดมิเนียม และแนวราบ

โดยมีรายได้รวม 11,561 ล้านบาท เติบโต 20.8%
กำไรสุทธิ 1,268 ล้านบาท เติบโต 25.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้

เบื้องหลังมาจาก เอพี ไทยแลนด์ มีพอร์ตสินค้า “ครบและครอบคลุม” ทุกเซกเมนต์มากที่สุดในตลาดอสังหาฯ ไทย ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว

อีกทั้งทีมงานยังมีการคิดพัฒนาปรับดีไซน์บ้าน และนำเสนอพื้นที่ใหม่ ๆ ตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเลอยู่ตลอดเวลา

ทำให้ขยายจำนวนโครงการใหม่ทั้งในทำเลใหม่ และทำเลเดิม
เพื่อเติมเต็มโครงการให้ครบครัน ด้วยบ้านคุณภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกทำเลทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
และยังสร้างยอดขาย Sold Out อย่างต่อเนื่อง

เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวจริงผู้นำตลาด เอพี ไทยแลนด์ เดินหน้าเปิดตัว 25 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม 27,440 ล้านบาท แบ่งเป็น

- บ้านแฝดและทาวน์โฮม 10 โครงการ มูลค่า 8,190 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 11,350 ล้านบาท
- คอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 4,700 ล้านบาท
- โครงการต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท

ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะมีโครงการพร้อมขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดกว่า 202 โครงการ มูลค่ารวม 151,411 ล้านบาท

คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ที่เติบโตอย่างเกินความคาดหมายผ่านโครงการ THE ADDRESS
สยาม-ราชเทวี, ASPIRE รัชโยธิน, ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม และอีกหลายโครงการ

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ เอพี ไทยแลนด์ สร้างยอดโอนได้มากขนาดนี้ ก็น่าจะมาจาก ความแข็งแกร่งของแบรนด์คอนโดมิเนียมเอพี
ด้วยการส่งมอบสเปซการใช้ชีวิตคุณภาพ มีดีไซน์โดดเด่นและแตกต่าง เจาะที่ตั้งที่ดีที่สุด พร้อมกับมีแพ็กเกจราคาหลากหลาย
เพื่อทำให้ลูกค้าแต่ละเซกเมนต์ รู้สึกถึงความคุ้มค่าและเข้าถึงราคาที่จับต้องได้จริง

ส่วนพอร์ตแนวราบ เช่น บ้านแฝด ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ก็สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น
ถือเป็นสินค้าสร้างชื่อ จนทำให้มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 โครงการจากเอพี สร้างยอดขายพรีเซลมากที่สุดในครึ่งปีแรก คือ

- บ้านกลางเมือง THE EDITION บางนา
- PLENO สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 60
- PLENO ดอนเมือง

ขณะเดียวกัน ยังรุกตลาดบ้านแฝดด้วยโครงการใหม่ ๆ ครอบคลุมทุกกำลังซื้อ
แต่ที่เป็นไฮไลต์ของปีนี้ ต้องยกให้ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” ถือเป็น Luxury Brand ในกลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมและบ้านแฝดของ เอพี ไทยแลนด์

แม้ว่า สารพัดความท้าทายในตลาดอสังหาฯ ที่เกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
แต่สิ่งที่ควบคุมได้คือ การปรับตัวให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ตรงนี้ถือเป็น DNA ของแบรนด์ เอพี ไทยแลนด์ ที่ในครึ่งปีแรก 2567 มีการปรับกลยุทธ์รวดเร็ว
สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งพอมาผสมผสานกับ 5 จุดแข็งของบริษัท ยิ่งทำให้ เอพี ไทยแลนด์ มีแต้มต่อเหนือกว่าคู่แข่ง

1. บริหารจัดการกระแสเงินสด
ปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.83 เท่า ถือว่าน้อยมากในธุรกิจอสังหาฯ ทำให้บริษัทมีเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลต่อสภาพคล่องในการลงทุนต่าง ๆ

2. กระจายพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย
ปัจจุบันมีไลน์อัปที่อยู่อาศัยครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างและลึก ส่งผลให้ยอดขายโตต่อเนื่อง

3. บริหารจัดการคนและโครงสร้างองค์กร
ด้วยกระบวนการทำงานที่แม่นยำ ช่วยให้การทำงานรวดเร็วทันต่อทุกการเปลี่ยนแปลง

4. สร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน
เน้นการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชื่อเหมือนกัน เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตในธุรกิจ

5. ซัปพลายเชน แมเนจเมนต์
มีระบบจัดการห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์แบบในการสร้างที่อยู่อาศัย ทำให้ทุกโครงการเต็มไปด้วยคุณภาพมาชนะใจลูกค้า

สุดท้ายแล้ว ถ้าถามว่า เอพี ไทยแลนด์ ทำอย่างไรถึงยังครองความเป็นตัวจริงบริษัทอสังหาฯ อันดับ 1
ในภาวะตลาดอสังหาฯ ที่อยู่ในช่วงขาลง

ถ้าตอบในมุมคนซื้อบ้าน คงเป็นเพราะการสร้างที่อยู่อาศัยที่ลูกค้ายอมรับในคุณภาพ
มีหลายรูปแบบสินค้าครบทุกเซกเมนต์ให้เลือกแบบ One Stop Service คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว รวมกว่า 202 โครงการ

สรุปคุณลักษณะ ของหุ้นที่มี MOAT สูง

- งานสัมมนา ลงทุนนอก 2024 เปิดจองพร้อมกันแล้วตอนนี้ บัตรมีจำนวนจำกัด ดูรายละเอียด และจองได้ที่: https://www.zipeventapp.com/e/longtunnork2024

สวยงาม แอดว่าบ้านแบบนี้แปลกตา ยกให้ ความสุดยอดของ Designer👍👍👍

บ้านกลางนา เป็นบ้านชั้นเดียว รูปทรงตัว L พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม.

Cr:119 Design & Construction

ขอขอบพระคุณคุณลูกค้าที่ไว้วางใจ สุขภัณฑ์ cotto เพื่อใช้ในห้องน้ำโรงแรมบนเกาะพะงัน : The Ventus พงัน
The Ventus สร้างโดยดร.รอยบุญ เลาหะวิไลยและเป็นอุปนายกสมาคมอาคารชุดไทย

บ้านกำแพงคอนกรีตที่ใช้แสงและเงาเป็นของตกแต่ง ทำให้บ้านดูสวยงามมีเสน่ห์แบบไม่ซ้ำใคร 🔆🏡

📍อยากมีบ้านโว้ยย วันนี้แอดเอาไอเดียบ้านคอนกรีตมาฝากทุกคน ตั้งอยู่วะโททระที่ประเทศอินเดีย 🇮🇳 เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่มีความหนาแน่น แต่เขาสร้างมาได้เหมือนบ้านพักตากอากาศมาก จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกัน 🤔
บ้านหลังนี้เน้นการเชื่อมต่อภายนอก และสร้างอบอุ่นให้กับภายในบ้าน ดังนั้นผู้ออกแบบจึงเน้นให้ผนังของบ้านหลังนี้เป็นกระจก และมีการทำสกายไลท์เพื่อเกิดเป็นแสงและเงาตกกระทบสู่ภายใน ช่วยให้บ้านดูสว่าง 🔆 แถมยังเกิดเส้นสายที่มาจากธรรมชาติด้วย เป็นการแต่งบ้านที่สวยงามแบบฟีลดีสุดๆ 🍃
การตกแต่งภายในมีการใช้คอนกรีตร่วมกับไม้ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ภายใน 💓 เช่น เคาน์เตอร์บาร์กาแฟ โต๊ะกลาง เตียงบิวท์อิน ที่นั่ง และยังเน้นความเรียบง่าย เพื่อให้ผู้อาศัยสัมผัสได้ถึงความสงบ และอยากกลับบ้านในทุกๆวัน 🏡
เป็นบ้านสวยงามจากธรรมชาติจริงๆ แค่มองก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ถ้าได้อยู่อาศัยตงจะสบายกายสบายใจจนไม่อยากออกไปไหนแน่เลย ใครอยากมีบ้านสวยสง่ารับพลังจากธรรมชาติก็เอาหลังนี้ไปเป็นไอเดียได้เลย 👍🏻
✍🏻 แอดบีม

เรียบหรูสไตล์เวียดนาม👍👍

So good

https://www.dailynews.co.th/news/3497622/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3BLRpkd9LO7VT9rv-gTvhr_owEBU4Nrrx-3sR3HK07aYAvtUObEFRff5s_aem_AUZjb6Hej0MewDfhHNWSKc6S7AboCGtFZgcqsb7ckjhlx-5Iz5KoF3UB-vAL2CMP2MUWz-vRmlBQFZaZ9cgFJTP9

ส่องสวัสดิการเอาใจ LGBTQ+ ฉ่ำ! ลาแปลงเพศ ลาพักใจ จะเพศไหนก็ลาได้เท่ากัน! | เดลินิวส์ ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว องค์กรธุรกิจไม่เพียงต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เท่า...

สวยงาม

Dear Customer
Please be informed that 𝗪𝗲 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗰𝗹𝗼𝘀𝗲𝗱 𝗳𝗼𝗿 𝗦𝗼𝗻𝗴𝗸𝗿𝗮𝗻 𝗛𝗼𝗹𝗶𝗱𝗮𝘆𝘀 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝟭2𝘁𝗵 𝗔𝗽𝗿𝗶𝗹 𝟮𝟬𝟮𝟰 𝘁𝗼 𝟭𝟲𝘁𝗵 𝗔𝗽𝗿𝗶𝗹 𝟮𝟬𝟮𝟰. We will resume on Wednesday 17th April 2024.

เรียน ลูกค้าทุกท่าน
ขอแจ้งหยุดให้บริการช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2567 โดยจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งใน วันพุธ ที่ 17 เมษายน 2567

Project Ref: Kronos
Wall/Floor Tile: Cotto MannSukhaphan1999
Toilet Brand: Ams/Dyson
Contact us: 02-238-1591-2
Line Id:

พื้นที่อาคารโครนอส ลืมกังวลเรื่องอากาศร้อน ช่วยให้การทำงานเป็นเรื่องสบายๆ ด้วย Insulated Glass ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Lease a spot at Kronos Office Building and experience daily comfort! Bid farewell to worries about hot weather as our (triple) Insulated Glass effortlessly maintains pleasant working conditions, making your workdays a breeze.

Contact Us Today
Tel : 065-7895888, 088-5542988
LINE: https://line.me/ti/p/wPF1Qqq-wj
Email : [email protected]
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲 : https://kronossathorn.com/

https://www.matichon.co.th/economy/news_4504680