Heisentrade FX

พี่แตวมั่ง แลคเชอร์เรื่องนี้ให้ฟัง ว้าวซ่าเลยครับ no.1 ict vvip ในใจผมจริงๆจั้บ

ทำไปทำไม เสียเวลา เจ๋งจริงอย่าbacktest เราจะไปเก่งกะข้อมูลในอดีตทำไม โถ่

จริง ๆ การ Backtesting ก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง หากเพียงแต่เรามั่นใจในกระบวนการที่นำไปสู่ผลลัพธ์แบบไหน เราก็แค่ทำแบบนั้น

ตลาดให้เราเป็นได้หมดทุกอย่าง เลือกที่ตัวเองชอบได้เลยค้าบ 🥰

ของดี ผมก็ใช้ยุครับ พี่แมวตั้งสอนในแลคเชอร์

คุณหนูน้องลูกหมิง

กาลิเลโอเคยเขียนไว้ว่า " คุณสอนอะไรคนอื่นไม่ได้หรอก คุณทำได้เพียงแค่ช่วยเขาให้เขาค้นพบสิ่งนั้นด้วยตัวเอง "

(จากหนังสือกินกบตัวนั้นซะ)
สวัสดีวันสุดท้ายของสัปดาห์ในการทำงานค้าบทุกท่าน วันนี้มาปรับ Mood หน่อย ลองอ่าน Content ที่หมาแดงให้น้องใน Gang เขียนบ้างค้าบ เผื่อ ท่านอื่นจะเบื่อ สำนวนการเขียนของหมาแดงแล้ว 🤣
ชีวิตเต็มไปด้วยภาระงานที่ไม่มีวันจบสิ้น และไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ก็ยังรู้สึกเหมือนว่ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่สำคัญจริง ๆ นั่นเป็นเพราะเรามักหลีกเลี่ยงงานที่ยากและซับซ้อนที่สุดไปเรื่อย ๆ แล้วทำให้ชีวิตเราเต็มไปด้วยความเครียดและความกังวลตลอดเวลา แต่ถ้าเราบอกคุณว่ามีวิธีที่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้วันนี้ผมนำเสนอ หนังสือ **"กินกบตัวนั้นซะ!"** ของ Brian Tracy 1 ใน Top หนังสือที่ผมยกให้เป็นหนังสือที่จะช่วยให้คุณจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เกริ่นซะดูดีมีสกุล อะเชิ้บ ๆ สวัสดีครับท่านสมาชิกชมรมคนชอบหมาแดง เทรดซิ่ง ทุกท่านครับ วันนี้ผมมีหนังสือที่ผมยกให้เป็นหนังสือในการบริหารงานและเวลาที่ดีอีกเล่มนึงเลย ที่ดีกว่านั้นคือหลังจากอ่านแล้วสามารถเอาไปปรับใช้ในชีวิตได้ทันที ไม่ว่าคุณจะเรียนอยู่ ทำงานแล้ว แล้วยิ่งเหมาะมากสำหรับคนที่วันๆ มีอะไรนู่นนี่ให้ทำเยอะ

ทำนู่นทำนี่งานนั้นทีงานนู้นที มาดูอีกที สรุปวันนี้ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง อยากให้ลองมาอ่านกัน

(แอบบอกว่ามีกิจกรรมแจกหนังสือด้วยนะ)

เรามาดูเนื้อหาคร่าว ๆ กัน

ผมจะลองยกตัวอย่างบางบทจากหนังสือมาให้ทุกท่านลองทดลองอ่านกันนะครับ

📌1. เริ่มต้นวันด้วยการทำงานสำคัญที่สุด (Start your day by tackling the most important task first)

✅หัวใจของหนังสือเล่มนี้คือการ "กินกบตัวนั้นซะ" โดยกบที่หมายถึงไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปกินต้มอึ่งแต่อย่างใด แต่หมายถึงการเริ่มต้นวันด้วยการทำงานที่ยากที่สุดหรือสำคัญที่สุดก่อน การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มวัน และสามารถจัดการกับงานอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น การทำงานที่ยากก่อนจะช่วยลดความเครียดที่สะสม และทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการทำงานต่อไป
ยกตัวอย่างเช่นพรุ่งนี้งานที่ยากที่สุดของผมคือการลุกไปนั่ง Back test จะไม่ทำก็ไม่ได้เดี๋ยวโดนพี่หมาแดงทุบเอา ผมก็จะตั้ง “กบตัวที่น่าเกลียดที่สุด” ในวันนั้นคือ การ Back test ระบบ พอเริ่มวันใหม่ขึ้นมา ผมจะตั้งหน้าตั้งตา เคลียร์งานนั้นก่อนเป็นอันดับแรก

📌2. การตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนและจดสิ่งที่ต้องทำ (Set clear goals and write down your to-do list)

✅สิ่งนี้เรียกได้ว่าในหนังสือที่ช่วยในการบริหารจัดการเวลา ต้องมี 100% นั่นคือการตั้งเป้าหมายที่จะทำแล้วเขียนสิ่งเหล่านั้นลงไปใน To Do List *เน้นย้ำว่าสำคัญจริง ๆ อันไหนคิดว่าไม่สำคัญพยายามไม่เขียนลงไป
โดยเราจะทำก่อนในช่วงกลางคืนก่อนนอน แบ่งเวลาสัก 10 นาทีมานั่งทบทวนว่า พรุ่งนี้มี กบ (งาน) ตัวไหนบ้างที่เราต้องจัดการมันก่อน เขียนมันลง To Do List ตื่นมาเราจะได้ไม่ต้องมานั่งหาว่า วันนี้เราจะต้องทำอะไรนะ ทำอันนี้เสร็จแล้วทำอะไรต่อ ซึ่งในส่วนนี้จะกินพลังในการคิดของเราอย่างมาก

📌**3. การแบ่งงานเป็นส่วนย่อยๆ (Break tasks into smaller parts)**

✅สำหรับปัญหาในส่วนนี้จะเจอเมื่อกบตัวนั้นน่าเกลียดและไม่อร่อย (งานที่ยากซับซ้อนและยากที่จะทำ)
ในหนังสือกล่าวไว้ว่าเมื่อเจองานที่ใหญ่และซับซ้อน แนะนำให้คุณแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ ที่จัดการได้ง่ายขึ้น การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถเห็นความก้าวหน้าของงานอย่างชัดเจน และลดความรู้สึกท่วมท้นจากงานที่ดูเหมือนจะใหญ่เกินไป การจัดการงานด้วยวิธีนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและทำให้คุณรู้สึกประสบความสำเร็จมากขึ้น สรุปก็กินกบอยู่ดีเพียง จับกบมาซอย แล้วค่อยเหยาะซอส จิ้มกินทีละชิ้น

📌**4. การใช้กฎ 80/20 (Pareto Principle)**

✅หนึ่งในแนวคิดที่ทรงพลังที่สุดจากหนังสือ
คือการใช้กฎ 80/20 หรือ Pareto Principle กฎนี้ระบุว่า 80% ของผลลัพธ์มักมาจาก 20% ของความพยายามที่คุณลงทุนไป ซึ่งหมายความว่า หากคุณสามารถระบุและโฟกัสไปที่ 20% ของงานที่สำคัญที่สุด คุณจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ในการทำงานได้อย่างมากมาย ฟังดูอาจจะงงๆ
ผมจะยกตัวอย่างให้นะครับ คุณเป็นนักเรียนที่ต้องอ่านหนังสือและทำการบ้านเพื่อเตรียมตัวสอบ คุณอาจพบว่ามีหัวข้อบางอย่างที่ออกสอบบ่อยและมีความสำคัญมากที่สุด หากคุณสามารถระบุหัวข้อเหล่านั้นได้ (20% ของเนื้อหาทั้งหมด) และมุ่งเน้นการศึกษาเฉพาะส่วนนี้ คุณจะสามารถทำข้อสอบได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้อ่านเนื้อหาทั้งหมดก็ตาม

โดยในส่วนนี้เราสามารถเอามาประยุกต์ใช้ได้หลายอย่างเลยในการเทรดก็ได้หรือการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีมากยิ่งขึ้นครับ

😺บทส่งท้ายจากผมเอง 0-0/
สวัสดีครับ เอาเรื่องเหมือนกันนะ ยินดีด้วยคุณเป็นคนไทยที่อ่านมาได้เกิน 7 บรรทัด เก่งมาก 55555
ใด ๆ ก็ตามคนที่อ่านมาถึงตอนนี้ผมไม่มีอะไรพูดมากนัก แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนที่พยายามจะพัฒนาตัวเอง แน่นอนว่ามันต้องแลกกับอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่มันคุ้มค่าแน่นอนครับ อย่างน้อยก็มีผมและพี่หมาแดงคอยให้กำลังใจอยู่แน่นอน 2 ตัว เอ้ย 2 คน ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ^^

(แอดมินออมสมิงลูกกระจ๊อกพี่หมาแดง)

📍📍📍
กิจกรรมแจกหนังสือ กินกบตัวนั้นซะ! จำนวน 3 รางวัล
เพียง Comment ว่ากบที่ท่านสมาชิกเจอ หรือต้องการอยากกินมันเข้าไปซะ คืออะไร ท่านใดตอบได้ถูกใจ รอรับหนังสือไปอ่านที่บ้านได้เลยค้าบ

ลุยโลด

เมื่อถึงวันนึงจึงเข้าใจว่า

“เราใช้เวลานับปี
ในการเรียนรู้ แต่อาจจะใช้เพียงแค่นาทีในการเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด”

”แค่จำยังผิด
จะไปคิดต่อได้ยังไง“

หากมีระบบเทรด
แล้วดันไปเทรดนอกเงื่อนไขของระบบ
เวลาบันทึกการเทรด จะรู้สึกยังไงบ้าง?
ไม่ว่าไม้นั้น จะกำไร หรือขาดทุน

19แนวคิด พิชิตตลาด สร้างเงินนับล้าน
มีอะไรบ้าง..?
.อ่านต่อในคอมเม้นต์

อ่านรายละเอียดใหม่อีกรอบ ครับ

กรอบการทำงาน ผมเริ่มต้นจากงานหมาแดงชุดนี้ หลังจากนั้นทุกอย่างมันก็ connect the dots จนมีงานcraft เป็นของตัวเอง

ขาดไม่ได้เลยจุดเริ่มต้น ไอเดียในตอนนั้น ที่ทำให้ผมเข้าใจกระบวนการทำงานบางอย่าง และนำมาต่อยอด เราคุยกันแทบทุกวัน แต่เทรดไม่เหมือนกัน สิ่งนึงที่เหมือนกันคือ ความพึงพอใจในกระบวนการทำงานที่มีทุกวันนี้

สิ่งนึงที่อยากแบ่งปันในวันศุกร์ เข้าใจคือเข้าใจเลย เกี่ยวกับเรื่องความสอดคล้องระหว่างวิธีการเทรด กับวิถีชีวิต ที่หากมันสอดรับกัน เพื่อนๆจะมีเส้นทางในการเทรดเป็นของตัวเอง

Talk กับ Dog x Heisentrade FX
Systematic Trading : The Game Charger
" ทำไมต้องให้ความสำคัญกับระบบเทรด "
วันนอนฟาร์ม วิปโยค ที่ 7 มิถุนายน 20.00 น.
เจอกันที่ Discord หมาแดง คอหมูยูนิตี้ ไว้พบกันค้าบ
สมาชิกที่สนใจเข้าร่วม Discord
รายละเอียด
https://www.facebook.com/reddogtrading/posts/249962484685601

สุ่มเข้าห้อง Discord พร้อมทั้งรับ E-book ไปอ่าน ฟรีเพียงแชร์โพสท์นี้เป็นสาธารณะ เดี๋ยววันพฤหัสตอนเที่ยงหมาแดงมาสุ่มค้าบ (5 รางวัล) ✅
ส่วนสมาชิกที่กลัวว่าตัวเองจะดวงไม่ดีแชร์โพสท์นี้เป็นสาธารณะมารับส่วนลด E-book 50% พร้อมทั้งเข้าร่วม Discord ได้เลยค้าบ ✅✅

โห โคตรดีย์

2 วิธี ที่จะทำให้การเทรดของคุณ "ดูดี" ขึ้นกว่าเคย
ทุกอาชีพจะมีคนเป็นเลิศ และมีคนล้มเหลวในนั้นเสมอ แต่หากวันนี้เรายังสู้อยู่ในเส้นทางก็อย่าพึ่งตัดสินว่า เราจะเป็นคนกลุ่มหลัง

ระหว่างการเดินทางนี้สิ่งที่คุณต้องมีแน่ ๆ คือ
- ความชอบความรักในสิ่งที่ทำ
- ความสม่ำเสมอ วินัยที่ต้องรักษาให้ได้
- มีเป้าหมายที่คุณจะเดินไป
- มีที่ปรึกษา แบบอย่างที่ดีในสายงาน หรือการใช้ชีวิต

แต่สิ่งที่ทำให้คนแตกต่างกัน จากที่เคยคุย และได้ศึกษาจากประสบการณ์ของคนที่ประสบความสำเร็จคือ “ความสม่ำเสมอ” และ “วินัย”

ซึ่ง 2 สิ่งที่จะทำให้เราเป็นคนที่รักษาวินัยได้คือ สมาธิ และ ทัศนคติที่ดี ในที่นี้จะเล่าอย่างเป็นรูปธรรมว่าทำอย่างไง ทำแล้วจะได้อะไร
“สมาธิ”
ในบริบทที่เราจะเอาสมาธิมาช่วยรักษาวินัย เป็นอย่างไร

เวลาเราใช้เวลาสั้น ๆ ต่อวันขั้นต่ำ เช่น ก่อนทำงานสิ่งนั้นสัก 1-5 นาที โดยไม่ต้องคิดอะไร ใช้ความรู้สึกมารับรู้ลมเข้า - ออก ที่จมูก หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเอาออกซิเจนเข้าร่างกายให้มากที่สุด และหากในเวลานั้น คิดเรื่องไม่ดี ก็ให้ลืมมันไปก่อน โฟกัสแค่ลมหายใจ

สิ่งที่คุณจะได้คือ
การเริ่มต้นทำงานในวันนั้น คุณจะเริ่มต้นด้วยสติ งานมีโอกาสจะออกมาดี อารมณ์จะอยู่ในโซนบวก
เมื่อผลออกมาดี > เราจะชอบและมีความสุข > เราอยากทำต่อ

เมื่อเรามีอาการ burn out สมาธิสามารถตัดวงจร ความเบื่อ ความไม่อยากทำ ความทุกข์นั้นได้ ซึ่งมักเกิดจากการเพลินไปในสิ่งที่เราคิด ซึ่งเป็นความคิดในเชิงลบ เมื่อเราเริ่มตั้งสติและโฟกัสที่ลมหายใจ หายใจลึกๆอีกครั้ง อาการมีแนวโน้มจะลดลงสูงมาก ตามด้วยข้อถัดไป…
”ทัศนคติที่ดี“
เมื่อเรามีเครื่องมือในการ สร้างสภาวะอารมณ์ที่ดี และตัดวงจรอารมณ์ที่ไม่ดีออกแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ การใส่ชุดความคิดที่ดีๆเข้ามาในชีวิต เพราะธรรมชาติของทุกคนมักจะคิดอยู่ตลอดเวลาที่ตื่น ต่อให้เราไม่คิด มันก็มีอะไรในหัวที่คิดอยู่ เคยไหมเดินผ่านต้นไทรที่ผูกผ้าสามสี แล้วความคิดในการท้าทาย มันคิดขึ้นเอง !!!

เพราะงั้น ธรรมชาติความคิดของเราต่อให้เราไม่ควบคุมมัน มันก็คิดเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องสร้างชุดความคิดที่ดีเข้าไปควบคุม

ในการรักษาวินัย การมีทัศนคติที่ดีสำคัญมาก
เช่น เราควรจะนึกถึงตอนที่เราทำงานสำเร็จ เราจะได้อะไรเป็นการตอบแทน บางครั้งแค่นึกถึงมันก็หอมหวาน ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อ

เวลาที่เรากำลังเพลินไปในความคิดเชิงลบ หากเราตั้งสติทัน ให้เราตอบข้อโต้แย้งในใจ ด้วยทัศนคติที่ดี ว่าหากเลิกทำไปเราจะต้องเสียอะไร แต่หากเราสู้ต่อเราจะได้อะไร และเกิดประโยชน์ขึ้นอย่างไร

เราสามารถสร้างชุดความคิด ชักจูงให้เราทำอะไรบางอย่างได้ทุกวัน ขอแค่อย่าใส่ชุดความคิด หรือยอมให้ตัวเราคิดว่า “เราทำไม่ได้หรอก” “ฝึกไม่ได้” ”เราไม่เก่ง“ “เป็นไปไม่ได้” ให้เราคิดตรงกันข้ามกับความคิดเชิงลบนั้นทั้งหมด

หากเราฝึกทำ 2 สิ่งนี้ไประยะนึง มันจะกลายเป็นธรรมชาติใหม่ และจะง่ายมากที่จะทำมัน

ซึ่งการที่เราจัดระเบียบในส่วนของจิตใจ มันจะเกิดสภาวะ Flow ให้นึกถึงท่อน้ำที่ไม่มีขยะ มันจะทำงานไหลลื่น ไม่ติดขัด ไม่มีหยุด

ชุดความรู้นี้มาจากการศึกษาสิ่งที่ท่านพุทธะเคยได้แชร์ไว้ และนำมาปรับใช้ เพราะเป็นประโยชน์มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเทรด หรือสิ่งใดก็ตามที่เราตั้งใจจะลงมือทำ
ขอให้ทุกท่านมีวันที่ดี : )

บางครั้งก็ต้องชั่งใจดีๆ ว่าเก็บสถิติ หรือซ้อมมือ

มันเส้นบางๆ

Art Analysis
Content นี้หมาแดงเหมือนมาเล่าจุดเริ่มต้นของการทำเพจมากกว่า ว่าทำไมถึงมาทำเพจเรื่องการทำระบบเทรด และไม่ค่อยแชร์เทคนิคเลย วันนี้เดี่ยวหมาแดงมาเหลาให้อ่านกันโดยละเอียดแบบที่พอจะละเอียดได้อ่ะนะค้าบ
หมาแดงมั่นใจว่าท่านสมาชิกส่วนใหญ่ที่มาติดตามกัน ก็คงเริ่มจากการเทรดแบบ Art กันทั้งนั้น หมาแดงเองก็โตมาจาก Art Analysis และตอนนี้ตัวหมาแดงก็ยังคง Art อยู่ แต่ปัญหาของการเป็น Art มาก ๆ และทำให้ไม่ตอบโจทย์การเทรดของหมาแดงอยู่ช่วงนึงคือ หมาแดงไม่สามารถวัดได้ว่าการเทรดแต่ละครั้งนั้น ครั้งต่อไปยังจะสามารถทำได้อยู่หรือเปล่า ยังมีความกังวลว่าที่เราทำไป ที่เรา Back test ไป มันมีประสิทธิภาพจริง ๆ มั้ย เพราะเงื่อนไข หรือตัวแปรที่ใช้ในการเทรด มันดิ้นได้ในทุก ๆ ครั้งเลย ตกรถก็ปรับระบบใหม่ SL ก็ปรับใหม่ สุดท้ายเลยพยายามปรับให้มีเงื่อนไขที่ค่อนข้างทำซ้ำได้ ความจริง ก็พยายามเอาวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ เพื่อหาจุดตรงกลางระหว่าง Art กับ Science ตั้งสมมติฐานให้ระบบ และพยายามตอบปัญหาที่ตั้งไว้ให้ได้ ด้วยเงื่อนไขที่ทำซ้ำ ตัวแปรที่คงที่ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะได้วัดในเชิงตัวเลขได้นั่นเองค้าบ
ทำไมถึงมาทำเพจเรื่องการทำระบบเทรด ?
หมาแดงมีความเชื่ออย่างนึงว่า ปัญหาที่เราเจอ เราไม่ใช่คนแรกที่เจอแน่นอน หมาแดงคิดว่าน่าจะมีพี่ ๆ สมาชิกหลาย ๆ ท่านที่เทรดมาแล้วประสบปัญหาแบบนี้ เลยอยากเปิดเพจขึ้นมาเพื่อมาแชร์แนวทางว่า ถ้าระบบเทรดเราทำซ้ำได้ ลุยหลังบ้านเก็บ stat ให้จบ หน้างานเราจะเทรดได้อย่างสบายใจแน่นอน หมาแดงให้ความสนใจกับเทคนิค ทุกวันนี้น้อยมาก ๆ เลยไม่ค่อยได้แชร์เทคนิคอะไรลงเพจเลย เพราะมีเพจของพี่ ๆ เทรดเดอร์ท่านอื่นก็ทำไว้ดี ๆ ทั้งนั้นเลยค้าบ เอาเทคนิคที่ชอบ มาคุยมาปรับว่าจะทำระบบเทรดออกมาได้อย่างไง ดูจะเป็นอะไรที่หมาแดงชอบส่ะมากกว่า
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้หมาแดงยังอยากบอกเสมอว่า หมาแดงเคารพทุก ๆ ระบบเทรด แม้จะเป็น Art เพียว ๆ ไม่ Back test เลย แล้วหาเงินในตลาดได้ ระบบไหน ที่ถูกจริตเราล้วนโอเคทั้งนั้น แค่ไม่โอเคกับเรา ไม่ได้แปลว่าไม่โอเคกับคนอื่น ถ้าเรารับข้อเสียของระบบนั้น ๆ ได้ จะใช้อะไรก็ตามแต่สะดวกกันเลยค้าบ
เคยมีสมาชิกถามหมาแดงเหมือนกันว่ามาทำระบบเทรดแบบนี้ทำไมไม่ทำ Quant หมาแดง Intromath D+ Cal 1 C+ แต่ดีหน่อยที่ stat B+ ถ้าให้หมาแดงไป Quant 100 เราจะอยู่กันอย่างไรค้าบ Cal หมาแดงสภาพนี้ 555555

ช่วงนี้งานเยอะจริงๆครับ เวลานั่งอึ๊ไม่ตัดเล็บ ก็เขียนพวกนี้ไว้ในโทรศัพท์แหละครับ

แต่มันมาจากจากลูกพี่หมาที่มักจะชงคำถามดีๆ และทอปปิกดีๆให้มาขบคิดกัน และหลายประโยค หลายชุดความรู้ก็ของเขาเอง

Content นี้ เฮีย Heisentrade FX เขียน แต่ ขก.โพสต์ค้าบ
ก็เลยฝากหมาแดงมาโพสต์ + หมาแดงหารูปให้เสร็จสรรพ 😂
ช่วงนี้มีพี่ ๆ อินฟลูหลายท่าน ออกมาพูดคุย แลกเปลี่ยน หรือแลกหมัดกันไม่มั่นใจ ฮ่าๆ และมีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับ backtesting

ผมเล่าจากมุมที่ผมทำ กับชุดความรู้ที่มี แง่มุมที่ตกผลึกมาระยะนึงตั้งแต่อยู่ Trust the process gang แล้วเห็นประโยชน์ และเป็นมุมของการเทรดแบบ Risk per trade สไตล์ Day trade หากคิดอะไรผิดพลาดไปก็พร้อมจะเรียนรู้ และรับฟังนำมาคิด อย่างมีอคติน้อยที่สุด ฮ่าๆ

Backtesting มันก็แค่เครื่องมือนึง วิธีการนึง อยู่ที่โจทย์ว่าเราจะใช้ทำอะไร ทำในตอนไหนของกระบวนการ ?

เราจะหาค่าผลทดสอบย้อนหลัง ใช่ไหมครับ?

มันจะเป็นได้แค่กระสอบทรายซ้อมนวม : กับระบบที่ใช้ดุลพินิจของคนเข้ามาตัดสิน อาจเป็นแค่เครื่องมือทดสอบความแม่นยำ ทดสอบความสามารถส่วนตัวซะส่วนใหญ่ ต่อเราแยก setup มากี่แบบ แต่หน้าเทรด เรายังต้องตัดสินใจว่า เอ๊! แบบนี้มันไม่สวย หน้าตาใช่ไม่ใช่ ไม่เอาดีกว่า เข้ามันตรงนี้แหละ ฯลฯ
เวลาผลออกมามันจะมี 4 ปัจจัย
•คิดถูก ผลถูก
•คิดผิด ผลผิด
•คิดถูก ผลผิด
•คิดผิด ผลถูก
แล้วเราจะได้อะไรบ้างจากการ backtesting ของระบบที่ใช้ดุลพินิจเราตัดสินใจเป็นส่วนใหญ่
-ทดสอบสิ่งที่คิด
-ทบทวนเงื่อนไขบางอย่างที่เราจะ fixed
-หาความคุ้นตาคุ้นมือ
-ได้ข้อมูลปรับเพิ่มลดเงื่อนไข (เป็นทั้งกับดัก และพัฒนา)

สิ่งที่ต้องระวัง
-อย่าอินกับค่าสถิติมาก ถ้าทุกอย่างผสมปนเปแล้วมาเทส มันได้ราว ๆ 4 ข้อ ข้างบน
แต่หากแยกตัวแปรแต่ละรูปแบบ แล้วกำหนดรูปแบบการเข้า-ออก รูปแบบ RRR ที่ชัดเจน แล้วตัดสินใจแค่ daily bias มันก็ยังพอวัดได้ แต่จากที่เคยทำมา มันก็ยาก เพราะดุลยพินิจคน มันไม่นิ่ง มันดิ้นได้ ซึ่งมันไม่ใช่ข้อเสียอะไรที่จะดิ้น แต่หากเรารู้แล้วว่าระบบเราถูกออกแบบมาให้ใช้ดุลพินิจเรามาก ๆ ก็คาดหวังการ backtest อย่างน้อยแค่ 4 ข้อ ข้างต้น ที่เราจะได้แน่ๆ
แต่หากเทสดีแล้วเทรดจริงมันไม่ดี มันไม่ใช่เพราะกระบวนการ backtest ไม่ดี แต่เราอาจจะคาดหวังผิดจุดประสงค์

มันจะมีประโยชน์มากๆ : กับระบบที่ใช้ตัววัดเชิงปริมาณ มันจะมาจาก การเข้าไปสังเกตุ > การตั้งสมมุติฐาน > ออกแบบเงื่อนไขเบื้องต้น (การเกลา) > ทดสอบเพื่อหานัยยะ หาลักษณะ ที่ไม่บีบรัด หรือ ไม่ย่อหย่อน กับช่วงเวลานึงเกินไป > ตั้งเงื่อนไข > ทดสอบกับช่วงเวลาที่มากขึ้น ทั้งอดีต และอนาคตที่กำลังจะเกิด
เวลาผลมันออกมามันจะมี
•ผลผิด
•ผลถูก
แล้วเราก็เอาค่ามาดูว่าสมส่วนไหม
เช่น win/loss
Average win/loss streaks
Max consecutive win/loss
Price Range ฯลฯ

แต่ส่วนใหญ่ก็ดูข้อมูลเกี่ยวกับ worst trade เพราะมันดูแลตัวเองไม่ได้ จึงต้องใช้ค่าต่างๆเหล่านี้มา optimized เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น คราวนี้ backtest มีความสำคัญขึ้นมายังครับ

“เราไม่ backtest หาค่า average con win/loss ,max con win/loss แล้วจะหาค่านี้จากไหน

แล้วเราไม่มีค่าพวกนี้ เราจะรู้ได้ยังไงว่าระบบเรา ควรจะ optimized จุดไหน จะ overfitting หรือ underไปไหม”

ในวันที่เราแพ้ติดจะได้รู้ ปัญหามันมาจากไหน
-เราเทรดคร่อมรอบเอง ข้ามไม้ชนะ รับแต่ไม้แพ้มา
-มาจากตลาดเปลี่ยนไป แล้วระบบเรา overfitting เพราะเช็คแล้วว่าไม่ได้เทรดมั่วผิดเงื่อนไข ไม่ได้คร่อมรอบ แต่ค่า con มันเกิน

ผมมีพี่ ๆ ที่รู้จักหลายคน บอกไม่ backtest เพราะมันทำให้ถอยหลัง มีทั้งที่ทำ forward ไปหลัก 3 เดือนแล้วใช้เลย มีทั้งที่ไม่ทำ คิดเงื่อนไขได้แล้วเทรดเลย เขาเหล่านั้นก็อยู่ได้นะครับ ผ่านมาปีสองปีเขาก็บอกแบบเดิม แล้วก็ไม่รู้จะไปหักล้างเขาทำไม ถ้าวิธีที่เขาทำไม่ได้เดือนร้อนใคร

แล้วก็มีทั้งที่ต้องพึ่งค่า backtesting เพื่อความมั่นใจ ในตอนเทรด และอดทนในช่วงแพ้ ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร

คือดูความเหมาะสมเถอะ อย่าไปคิดว่าสิ่งนี้จริง สิ่งอื่นเปล่า มันทะเลาะกันซะเปล่า ๆ

ในพื้นที่นึงของโลก เงินมีค่ามาก ๆ บางพื้นที่เสื้อขนสัตว์มีค่ามากที่สุด อีกพื้นที่วัวนี่สุด ๆ ของเขาแล้ว

เพจนี้ถูกสร้างมาเพื่ออวยหมาแดง จบ!

Red dog Soccer EP.5
“ทุก ๆ อย่างคุณต้องมีแนวทางของตัวเอง”
กล่าวโดย (เกือบ) ผู้จัดการทีมคนใหม่ Liverpool Fc
หมาแดงเห็นด้วยกับประโยคข้างต้นทุกพยางค์เลย เพราะตั้งแต่เปิดเพจและได้ทำระบบกับ พี่ ๆ น้อง ๆ สมาชิกชมรม หมาแดงให้ Survival rate การทำระบบเทรดอยู่ที่ 70.1285 % ที่ค่าสูงไม่ใช่ว่าหมาแดงเก่ง เจ๋งนะค้าบ แต่เพราะ พี่ ๆ น้อง ๆ แต่ละท่านมีแนวทางที่ชัดเจนและเป็นตัวของตัวเอง ส่วนระบบเทรดที่หมาแดงยังหาทางออกร่วมกับสมาชิกชมรมไม่ได้ก็มีค้าบ เช่น ระบบเทรดที่ต้องใช้ความชำนาญส่วนบุคคล เพราะต้องยอมรับว่าเงื่อนไขที่ดิ้นได้ เลยทำให้วัดค่าเชิงคณิตศาสตร์ออกมาได้ยาก ก็พยายามหาแนวทางการแก้ไขกันต่อไปค้าบ
ที่เกริ่นมาแบบนี้ไม่ได้จะอวดอะไรค้าบ (ถึงจะเหมือน) แต่ใจความสำคัญคือ เราสามารถนำ View จากคนอื่นมาพัฒนาต่อยอดให้เป็นแนวทางที่เฉพาะเจาะจงในรูปแบบฉบับของตัวเองได้ อย่างเช่น ล่าสุดที่หมาแดงได้คุยกับน้องที่สนิท น้องได้ไปให้ต่างชาติเป็น Mentor ให้ แต่ด้วยระบบของเขาที่มีเงื่อนไขที่เยอะ น้องได้ปรับให้มีความเป็นตัวเอง และเงื่อนไขที่ได้ก็น้อยลง ซึ่งประเด็นพวกนี้ก็คือเรื่องการประยุกต์นั่นเอง ถ้าทำอะไรแล้วอึดอัด ทำอะไรแล้วเหมือนไม่ใช่ที่ของเรา ก็แค่เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่มัน Comfort ต่อสภาพจิตใจ ก็จะทำให้การเทรดของเรา Happy มากขึ้นนั่นเองค้าบ เห็นคนอื่นเทรดระบบนั้น ระบบนี้ แล้วเราทำตามไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเราไม่ Cool เรา Cool ด้วยแนวทางของเราได้เสมอค้าบ ในตลาดนี้อยากจะเป็นอะไร เราก็เป็นได้ทั้งนั้นค้าบ
ฝากอีกนิดค้าบ แม้จะเหมือนขายของก็ตาม ท่านสมาชิกชมรมที่สนับสนุน E-Book ของหมาแดง หากนำ View ของหมาแดงที่ใส่ไว้ไปปรับแต่งให้เข้ากับจริตตัวเอง หรือจะใช้ของหมาแดงเลย อย่าลืมนำกลับมาคุยกันนะค้าบ พอสนับสนุนแล้วเงียบไปเลย หมาแดงไม่รู้ว่ามันเวิร์ค หรือเจอปัญหาอะไรกันบ้างหรือเปล่า
ขอให้ทุกท่านมีวันที่ดี ตลาด London และ New York เป็นใจกันนะค้าบ : )
ภาพ โดย พี่ปะป๊าของเจอเก้น (^_^=)
จาก คิด ทำ บริหาร แบบอลอนโซ ปาฏิหาริย์เลเวอร์คูเซน 120 ปี | The Secret Sauce EP.728

หนังสือของคนทำล้าบบ

อ่าน Post นี้ จบมีแจกนะค้าบ : )
แจ้ง Update การ Optimization ระบบเทรด ให้ท่านสมาชิกชมรมที่สนับสนุน E-Book ค้าบ
ท่านสมาชิกชมรมที่ติดตามกันมาสักพักนึงจะพอเข้าใจ Concept การทำเพจ รวมไปถึงการทำ E-Book มาให้สนับสนุน ว่าหมาแดงไม่ได้อยากที่จะโชว์แค่ว่าระบบเทรดนั้น ทำงานอย่างไร แต่อยากให้มุ่งเน้นไปที่การวางรากฐานการสร้างระบบเทรด เพราะหากเรามี Skill นี้ เราจะสามารถสร้างระบบเทรดที่มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นตัวเองได้ อาจจะเห็นจากการที่หมาแดงออกแบบระบบเทรดตัวเอง หมาแดงไม่เคยเรียกมันว่า SMC หรือ ICT หรืออะไรเลย เพราะหลักคิดไม่ได้มาจาก มุมมองพวกนั้น แต่มาจากจริต ความชอบตัวเองล้วน ๆ แล้วค่อยเอามาปะติดปะต่อเป็นระบบเทรดของตัวเองอีกที
เราจะทำให้พี่ ๆ สมาชิกชมรมมองการสร้างระบบเทรดให้ออกได้อย่างไร หากเราไม่อธิบายถึงขั้นตอนการสร้าง รวมไปถึงการปรับปรุงระบบให้ดูเพื่อเป็น Guideline ก็เลยมี Part นี้ออกมานั่นเองค้าบ ซึ่งการที่เราทำให้ดู พลาดให้ดู (ใคร ๆ ก็พลาดได้ค้าบประเด็นนี้ชิว ๆ ) และแก้ให้ดู เพื่อที่พี ๆ สมาชิกชมรม จะได้นำไปประยุกต์เป็นของตัวเองได้ในอนาคต
แล้วทำไมต้องขาย ทำไมไม่ให้ฟรี ?
จะบอกว่ามีน้อง ๆ มาขอลดราคาแล้วหมาแดงให้อ่านฟรีไปเยอะมากค้าบ แต่สิ่งนึงที่หมาแดงทำ E-Book เล่มนี้มาแบบให้สนับสนุน เพราะอยากให้ท่านสมาชิกตั้งใจอ่าน ตั้งใจศึกษา และเพิ่ม Value ให้งานตัวเอง เวลาเราได้เสียเงินเราจะมีความกระตือรือร้นที่จะอ่าน หมาแดงตอบจากประสบการณ์ตัวเอง หมาแดงมองว่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำ ถ้าตั้งใจอ่านจริง ๆ หรือศึกษาจริง ๆ จะได้ประโยชน์ในการสร้างระบบเทรดกลับไปแน่นอน
สุดท้ายระบบเทรดทีหมาแดงนำมา Optimized ให้ดู ก็ยังคงไม่ได้การันตีว่าพี ๆ สมาชิกชมรมทีสนับสนุนกันจะทำตามได้แบบ 100% แต่สิ่งทีหมาแดงมั่นใจระดับหนึ่งคือกระบวนการการถ่ายทอดในการประยุกต์ส่วนต่าง ๆ ให้ดู รวมไปถึงหลักการสร้างระบบเทรด ว่าน่าจะทำให้พี ๆ มองภาพการมีระบบเทรดได้ชัดมากขึ้น
ถ้าท่านสมาชิกท่านใดที่ตามหา E-Book ที่บอกระบบเทรด และสามารถทำตามได้ 100% เล่มนี้คงไม่เหมาะ แต่ถ้าตามหา E-Book ที่อธิบายตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างระบบเทรด การเก็บข้อมูล และการ Optimized ก็ไม่ควรพลาด E-Book เล่มนี้ด้วยประการทั้งปวงค้าบ (จริง ๆ ทำไปทำไม เหมือน mini course แล้วค้าบ E-Book เล่มนี้ 😂)
โปรลด 50% หมดเขตวันที่ 1 พ.ค. นี้นะค้าบ หลังจากนั้นราคาจะปรับฐานจริง ๆ แล้วค้าบ
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/reddogtrading/posts/pfbid0crP2kYXTZ31gKr6iVU1HREiHErjKLUf6VhnHS3jn8gkoFTnCYFcV8AuVQEWwAeHgl
อ่าน Post นี้จบ แชร์เป็นสาธารณะ เดียวหมาแดงมาสุ่มแจก E-Book เล่มนี้ 5 รางวัล สุ่มแจก พน.ตอนเที่ยงค้าบ สมาชิกที่ได้ฟรี จะได้สิทธิการ Update ตัว E-Book ตลอดเหมือนกันนะค้าบ : )
พรุ่งนี้มาลุยตลาดกันต่อขอให้เป็นคืนวันอาทิตย์ ที่กินอิ่มนอนอุ่นกันทุกท่านค้าบ 🫶

เรื่องนี้ครูผิด เพราะ ”ผิดเป็นครู“

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาหมาแดงเห็นข่าวการนับข้าวหมื่นเม็ดผ่านหูผ่านตา เลยทำให้เกิดไอเดียว่าประเด็นนี้น่าสนใจ และเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาหลัก ๆ ของการเป็น Trader เลยก็ว่าได้
ข่าวคือ คุณครูได้ให้นักเรียนนับข้าวหนึ่งหมื่นเม็ด ซึ่งผู้ปกครองก็มาช่วยนักเรียนนับห่ามรุ่งห่ามค่ำ จนรู้สึกว่าคุณครูสั่งงานมากเกินกว่าเหตุ
ซึ่งคุณครูได้ตอบประเด็นการสั่งงานนี้ว่า "จริง ๆ แล้วแบบฝึกหัดนี้ไม่ได้ตั้งใจให้นักเรียนนับข้าวหมื่นเมล็ด แต่ต้องการให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองหาวิธีอื่นที่ง่ายกว่าในการทำแบบฝึกหัดนี้แบบตรง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความผูกพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความสามารถในการคิดและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก" ครูเสริมว่าผู้ปกครองสามารถช่วยบุตรหลานทำแบบฝึกหัดนี้ได้ โดยการนับข้าวสาร 200 เมล็ด แล้วชั่งน้ำหนักเพื่อดูว่ามีกี่เมล็ด ต่อไปแค่เอาปริมาณข้าวเท่าน้ำหนักเดิม ชั่งข้าวนี้ซ้ำ 50 ครั้ง จะได้ข้าวประมาณ หมื่นเมล็ดอย่างรวดเร็ว
แบบฝึกหัดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทดสอบความยืดหยุ่นในการคิด เพื่อปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์เชิงตรรกะของนักเรียน
แล้วหมาแดงเอาเรื่องนี้มาเหลาทำไม ?
มนุษย์เราขาดการคิดแบบสร้างสรรค์ รวมถึงวิธีการแก้ปัญหา
ถ้ายกตัวอย่างการเป็น Trader ก็อาทิเช่น เราอาจจะไปลงเรียนคอร์สมา 1 คอร์ส และเรารู้สึกว่าต้องทำตามระบบนั้น ๆ เป๊ะ ๆ ห้ามออกนอกลู่นอกทาง เพราะคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำแบบไหน เราก็ควรจะทำแบบนั้น ซึ่งปัญหาตรงนี้ก็คือ เมื่อเราทำตามเขาไม่ได้ทั้งหมด เรามักจะโทษตัวเองและรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง แต่ความเป็นจริงคือ เราสามารถนำระบบนั้น ๆ มาเป็นแนวทางหรือ Guideline ให้ตัวเอง และสามารถหาจริตหรือความชอบส่วนตัวมาประยุกต์ใส่ได้เช่นกัน หมาแดงเลยพยายามมุ่งเน้นไปที่การคิดนอกกรอบให้ได้ รวมไปถึงกระบวนการการแก้ปัญหาแบบงานวิจัย เพราะ Pain Points ของคนเราไม่มีทางที่จะเหมือนกันได้ 100 % เพราะฉะนั้นหมาแดงจึงคิดว่ากระบวนการการแก้ปัญหาแบบนอกกรอบ และสร้างสรรค์จึงสำคัญอย่างมากในการเป็น Trader เมื่อเรามีกระบวนการการแก้ปัญหาที่ดีแล้ว Setup เป็นหมื่นท่าก็คิดได้ทั้งนั้นค้าบ : )
การเทรดนั้นหลีกหนีไม่พ้นในการแก้ปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่กล้าที่จะคิดเอง ไม่กล้าที่จะแตกต่าง หรือไม่กล้าที่จะมีหลักคิดเป็นของตัวเอง แบบนั้นเราจะมีระบบเทรดที่เป็นของเรา และตอบโจทย์รูปแบบชีวิตของเราเองได้อย่างไร ?
พน.วันหยุดอย่าลืมไปพักผ่อนกันบ้างนะค้าบทุกท่าน : )
ขอบคุณที่มา https://www.sanook.com/news/9096786/

คุณก็ประจานผมเกินไป

คลินิกระบบเทรด Ep.1
อาการธาตุไฟเข้าแทรก

นิสัยที่น่ารังเกียจสำหรับการรันระบบของผมที่เคยเป็นเสมอมาคือ การเข้าเทรด โดยการเดา พยายามหาเหตุผลที่จะเข้าเทรด อย่างไม่มีสถิติ แผนรองรับ ไม่ได้ทำการบ้านมาแต่แรก

"ธาตุไฟเข้าแทรก"

จะบอกให้คนมีระบบก็ยังแหกวินัยตัวเองได้ ถ้าไม่มีกระบวนการฝึก สร้างกระบวนการพัฒนานิสัย มารองรับเรื่องนี้

หากระบบที่เราทำ มันต้องรอ แล้วยิ่งเป็นfulltimeด้วย มีทั้งระบบที่เป็น day trade scalping มันมักจะมีบางวันที่ไม่มี setup เลย หรือมีแต่ไม่เป็นใจ

อย่างวันไม่มี setup เลย แล้วธาตุไฟเข้าแทรก และสติหลงลืมไม่คุมตัวเอง มันจะล่อให้ทำนอกsetup (ไอเราก็ความรู้เยอะซะด้วยสิ) "หน้าตาแบบนี้มันเทรดได้อยู่นะ" พอใจเคลิบเคลิ้มตามการปรุงแต่งอย่างไร้สติ เรางับเหยื่อเข้าให้

หากเทรดถูกอันตรายละครับ อันตรายยังไงมันได้เงินนะ? •สมมุติมีวัยรุ่นคู่นึงยังเรียนไม่จบ คบกันมาสักระยะ และที่โรงเรียนก็สอนให้ใส่ถุงป้องกัน แต่มีวันนึงชายคนนี้ถุงหมด แต่ขี้เกียจลงไปซื้อ เลยทำภารกิจด้วยความเสี่ยง
•ครั้งนี้มันอาจไม่ท้อง แต่เชื่อเถอะรูปแบบพฤติกรรมนี้ จะทำให้เขาประมาทอยู่เรื่อย ทำไปโดยมักจะคิดว่า "ไม่เป็นไรหรอก" และวันนึง black swan จะมาเยี่ยมเขา และเขาจะได้รับวิกฤติแบบที่มันจะไม่ถามความพร้อม ว่าพร้อมรับมือไหม

หากเทรดผิด ผมจะคิดว่าสูญเสีย2เท่าตัวจากที่เสียไป
1.เงินเสียไปแล้ว
2.วินัยเสียโดนนับหนึ่งใหม่ทันที
•เหมือนคนเลิกบุหรี่ได้มาพักนึง แล้วไปดูดใหม่ แค่มวนเดียวเท่านั้นแหนะ มันจะเป็นตัวแปรนึง ที่นำไปสู่หายนะ ยิ่งธาตุไฟสุม หน้ามืดเอาได้ ตามทุนไม้ 2 3 4 หรือหนักเข้าเพิ่มขนาดการเทรด

• รูปแบบพฤติกรรมเหมือนกับตอนได้กำไร กำไรมันจะหลอกล่อด้วยความสุข ให้เครดิตตัวเองว่าเก่ง เคลิบเคลิ้มกับผลลัพธ์
• แต่การเสีย ขาดสติก็อาจจะเสียหายหนักเข้าไป แต่หากดึงสติ ก็พอจะให้ความรู้สึกผิดในตอนที่เสีย และยิ่งมีกระบวนการรองรับ ก็จะช่วยดึงให้กลับมาได้ดีกว่ากำไร

มนุษย์อะเนอะเพื่อนๆ เรามันไม่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว

แต่ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง พร้อมกับการปรับปรุงตัวเอง

อาการเหล่านี้ ก่อนจะแก้ไขอะไรในเชิงรูปธรรม เราต้องทำความเข้าใจมันก่อน
•ว่ามันเกิดได้ยังไง ? (ตัวแปร)
•โอกาสเกิดมีแค่ไหน ? (สิ่งเร้า)
•เกิดแล้วเสียหายแค่ไหน ? (ผลที่เราต้องรู้เพื่อตระหนัก)
pattern นี้ผมมักจะถามกับปัญหาทุกเรื่องที่เจอในชีวิต เราต้องรู้จักมันก่อนถึงจะแก้ได้

พอเรารู้แล้วก็สร้างรูปแบบการฝึก แก้ไข
ยกเคสจากเรื่องนี้เลย

•อย่างแรกให้ย้อนกลับไปว่าระบบเรามันมีแล้วไหม อยู่ในขั้นตอนการสร้าง, ค้นหาคำตอบ, ปรับปรุง, พร้อมใช้ อยู่ตรงไหน? ไม่พร้อมก็ไม่ต้องเทรดซี้ซั้ว เงินเราไม่เทรดซี๊ซั๊วก็ไม่มีใครเอาไปจากเราได้(อย่าพึ่ง full time) เอาตรงนี้ให้ชัด อย่าว่างดูกราฟเพื่อจะเทรดบ่อย

•ลองใช้การจดแบบ journal บันทึกในหัวข้อ"การรักษาวินัยสร้างสันดารการเทรดที่ดี"(เวลาทำได้เกิน 20 วัน แล้วไปแหกวินัย มันจะทวีคูณความเจ็บปวดได้) แต่ย้ำว่า"ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง" ยิ่งรักษาได้นานมันจะมีคุณค่า คุณจะภูมิใจในตัวเอง
ผมเรียนรู้เรื่องนี้จากชีวิตความสัมพันธ์10ปี ที่ผมไม่เคยหม้อสาว เที่ยวผญ. นอกใจแฟนเลย ผมนึกถึงความซื่อสัตย์ตัวเองแล้ว ผมภูมิใจในความเป็นตัวผมมาก และผลประกอบการชีวิตคู่มันก็ดีเอามากๆ ชีวิตก็สุขสงบอยู่ในแผนชีวิตที่วาดไว้ ซึ่งมันคือเรื่องเดียวกัน “วินัย”

• แล้วเวลาจะเทรดอย่ารีบ ให้เวลาเตรียมตัว ทบทวนทั้งแผนการเทรด ทั้งกฎที่เราจะไม่ทำ หากมันต้องรอก็รอ การเป็น active trade ระบบที่เราทำมา มันใช้การรอเพื่อหาจังหวะที่เราจะได้เปรียบซะส่วนใหญ่

• เวลามีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้เงิน อย่าเอาความคาดหวังมายำรวมกับการเทรด เพราะธาตุไฟชอบแทรกคนที่มีภาวะจำเป็นต้องใช้ มันจะไม่ค่อยมีสติดี "บางอย่างต้องใช้เวลา คุณไม่สามารถคลอดเด็กภายในเดือนเดียว โดยใช้คนอุ้มท้อง 9 คน" คำของปู่วอเรน

• ระบบถ้าไม่ได้ใส่กรอบเวลาในการเทรด ให้จัดเวลาเทรดดีกว่า จบในเวลาก็ไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องหมกมุ่น

• ออกกำลังกาย เรื่องนี้ผมได้จากแฟนบังคับให้ดูดวง หมอดูบอกให้ผมวิ่งเยอะๆ แล้วตอนนั้นก็ทำไปไม่รู้เลยมันจะเกี่ยวอะไรกะการเทรด แต่พอทำเออ รู้สึกเลือดไหลเวียนดี หัวมันเบาๆ ค้นไปมันมีวิจัยเรื่องการหลังโดปามีน และเอ็นโดรฟิน จากการออกกำลังกาย เวลาชีวิตเรามีความสุขพอ อะดรีนาลีนก็คงไม่จำเป็นต้องเสพมัน ซึ่งการเสพติดฮอร์โมนนี้ มันชอบเสียวชอบลุ้นกับกราฟ

จริง ๆ มันมีแนวทางที่จำเพาะเจาะจงแต่ละคน และมีรายละเอียดปลีกย่อย ในการกำหนดขอบเขตความเสียหาย เช่นการกำหนดRiskต่อวัน ที่ใช้ได้ (day trade Scalping)ไว้เจอกันในคลินิกนะครับเพื่อนๆ

เอ้อคลินิกระบบเทรดที่ว่าเป็น Project ที่กำลังจะทำร่วมกับพี่หมา หัวหน้าเผ่า และเพื่อน ๆ ในกลุ่มเทรด ร่วมกันทำเพื่อมาช่วยให้เพื่อน ๆ มีแนวทางในการพัฒนาตัวเอง แลกเปลี่ยน เพื่อเป็นนักเทรดที่ดี ไว้เริ่มแล้วจะแจ้งครับ

Concentrate EP.1 Nature

ตลอดระยะเวลา5-6ปี ที่อยู่ในตลาดFXมา สิ่งนึงที่เห็นด้วยลูกกะตาตัวเอง คือตลาดมันมีความเป็นไปได้หมด มันให้อิสระที่เราจะเป็นอะไรก็ได้ในตลาดนี้

จะคิดอะไร ทำอะไร จะเทรดแบบไหน มันมีผลลัพธ์ที่ทำให้เราคิดว่า “เราคิดถูก”ในช่วงเวลานึงเลย ต่อให้ไม่มีระบบ ทำซ้ำไม่ได้ มันก็มีบางช่วงเวลาที่ตลาดให้รางวัลอยู่ดี

และในเวลาถัดมามันก็พรากสิ่งที่เคยให้มาเช่นกัน หลายครั้งตลาดเอาเกินทุนที่เราลงไปอีก เหมือนการงับเหยื่ออาบยาพิษ เจ็บปางตายก็มี ในการเทรดถัดไป จะแหยงๆ กลัว เทรดคร่อมจังหวะ ความมั่นใจที่มีกระเจิงแน่นอน

ตลาดมันสุ่ม เป็นสิ่งที่เราๆไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนกระบวนการเทรดแรกเริ่มของเราก็สุ่มเช่นกัน ไม่ง่ายเลยที่จะจับต้นชนปลายได้ภายในเวลาสั้นๆ

วิถีตลาดมันก็เดินหน้า เคลื่อนตัว เป็นไปของมันอย่างสุ่มๆ ซึ่งเราก็มักจะถูกดึงดูดให้ทำอะไรบางอย่างกับตลาดเสมอ
•อย่างกราฟวิ่งแรงๆ เรากลัวพลาดโอกาสเราก็อยากแจมด้วย
•เปิดเฟสมามีคนโชว์กำไรเยอะๆ ผลตอบแทนสูงๆ เราก็อยากจะได้ด้วย ฯลฯ

ส่วนความคิดเราจะคล้อยตาม จะพยายามเข้าร่วมให้ได้เลย ซึ่งถ้าไม่ได้จัดระเบียบไว้ก่อนที่จะเทรด มันก็คือการเทรดสุ่มสี่สุ่มแปด แล้วค่อยหาเหตุผลมาสนับสนุนตัวเองเวลาเทรดถูกทาง และโทษปัจจัยภายนอกที่ไม่ใช่ตัวเองในคราวที่ผิด

ซึ่งหากเราตามกระแสกราฟที่ไหลไป บวกกับวิธีการที่มีมันเป็นการสุ่ม การคาดเดาตลาดเป็นส่วนใหญ่ กระบวนการเทรดมันจะไม่นิ่ง

คนใหม่ที่อยู่มาไม่เกิน2ปี อยู่ในช่วงศึกษา ทดลองทำ หากเข้าใจเรื่องนี้ได้ไว จะเสียเวลาพายเรือวนอ่างไม่นาน

แต่อย่างคนที่อยู่มาเกินนี้ แค่ดูย้อนหลัง1ปีล่าสุด ศึกษาหาความรู้ เปลี่ยนวิธีการเทรดไปกี่รอบ หาholy grail การเทรดที่สมบูรณ์แบบดั่งใจต้องการ เจอไหม? ซึ่งส่วนตัวผมไม่เจอจากใครที่ไปศึกษาด้วย หรือด้วยวิธีการที่พยายามหามาลอง ก็ยังไม่เจอนะครับ ที่จะสมบูรณ์แบบดั่งใจนึก

จนมาทำความเข้าใจตลาด ว่ามันคืออะไร เราควรตอบสนองกับมันยังไง เพื่อให้เราเริ่มอยู่รอด ทั้งผลประกอบการ และความคิดจิตใจ ที่พอจะสมดุลที่สุด

สิ่งที่เราจะตอบสนองตลาด และมีแนวโน้มว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเลย ทำยากนิด แต่เป็นไปได้ คือ ”การควบคุมตัวเอง“

รายละเอียดคือ
•ความรู้ที่เราจะเอาไปจับตลาด ให้เราทดสอบย้อนหลัง ดั่งหลายโพสที่เคยนำเสนอไป เพื่ออะไรรู้ไหมครับ?
เพื่อเราควรได้เห็นผลลัพธ์ย้อนหลัง แต่ละเดือน ละปี ว่าหากผลมันออกมาประมาณนี้เราโอเคไหม (ให้เราเริ่มควบคุมความคาดหวังตัวเองก่อน)

•สิ่งที่เราออกแบบมา มันควรเหมือนเดิมเวลาที่เราจะaction คือต้องทำซ้ำได้ เมื่อผมได้ลองทำ ผมรู้สึกมันง่ายกว่าแต่ก่อนที่ต้องเปิดกราฟมาเพื่อคาดเดาตลาด และเทรดไม่เคยจะซ้ำกัน (ให้เริ่มสร้างรูปแบบการทำงานที่ง่ายสำหรับเรา)

•ให้เราควบคุมความคิด จิตใจตัวเองให้ทำตามแผนที่วางให้ได้ ไม่ออกนอกแผน ต่อให้กราฟนั้นจะยั่วยวนให้เราเข้าไปเทรดขนาดไหน หรือชาวบ้านในเฟสที่โชว์กำไรกันปาวๆ เพื่อนๆไม่ต้องไปสนใจ เราเริ่มจากตรงนี้ก่อน วินัยมันจะทรมานและยากในช่วงเริ่ม เพราะเราแทบทุกคนเติบโตมาจากการโดนคนอื่นสร้างกรอบมาควบคุมเราทั้งตอนเรียนก็ครู อยู่บ้านก็พ่อแม่ ทำงานก็บริษัท ซึ่งตอนนี้เราควรสร้างขอบเขตของเรา เพื่อได้คาดหวังผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง (ให้เริ่มสร้างวินัย เพื่อพิสูจน์สิ่งที่คิดทำ และรักษาผลลัพธ์ระยะยาว)

•หากเราทั้งทดสอบย้อนหลัง ไปหน้า เราจะเจอจุดขาดจุดเกิน ทั้งวิธีการเทรด และการบริหารความเสี่ยง ตรงนี้ให้เราปรับเปลี่ยนตามการประเมินของเราเอง อย่าไปฝากความหวังที่ใคร ให้เราเอาผลลัพธ์ที่ทดสอบมากาง หาประเด็น หาตัวแปร มาแก้ ทดสอบอีกครั้ง กล้าหาญที่จะคิด จะลอง ลองเดินไปข้างหน้าโดยไม่ตามก้นใครดู (ศึกษา พัฒนา ปรับเปลี่ยน เพื่อให้กระบวนการเทรด เหมาะกับเราในทุกมิติ)

หากมีข้อสงสัยไม่เข้าใจอะไร เพื่อนๆทักมาพูดคุยแลกเปลี่ยนได้เสมอ ผมก็อยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเช่นกัน

แต่อยากจะบอกเพื่อนว่า ผมศึกษา เอามาคิด ตกผลึก ลงมือทำ พยายามรักษาวินัย สิ่งที่ผมได้คือ องค์ประกอบในชีวิตไม่ว่าจะ การทำงาน เวลา ครอบครัว สุขภาพจิต และอีกหลายอย่าง มันจะถูกแกไขแบบ connect the dots ชีวิตเราดีขึ้นแน่นอน

ถึงเป้าหมายเราอาจจะต่างกันไป แต่หากเราใช้การเทรดเป็นยานพาหนะไปสู่เป้าหมาย เราคือเพื่อนกัน❤️

แชร์ซ้าาาาาา

“ Take Action ให้จี๊ด เดี๋ยว Take Proฟี๊ด มาเอง ”
สวัสดีในช่วงวันหยุดยาวนะค้าบท่านสมาชิกทุกท่าน ท่านใดที่ได้หยุดแล้วหมาแดงดีใจด้วย ท่านใดที่ยังไม่ได้หยุดก็ถือว่าได้ตากแอร์ที่บริษัทฟรี ๆ ไปก่อนค้าบ วันนี้หมาแดงไปอ่านบันทึกเก่า ๆ ของตัวเอง เจองานวิจัยที่นำระบบเทรดมาเก็บค่าสถิติ ที่เคยทำไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เลยนำมาให้ท่านสมาชิกชมคร่าว ๆ หมาแดงจะสื่อว่าเวลาเรามีระบบเทรด ไม่ใช่พูดแค่คำว่าระบบ แต่ควรมีความชัดเจน ว่าเราจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร ส่วนใหญ่เวลาเราเทรดกันแบบทับมือไม่ได้ เพราะเราไม่มีความชัดเจนในระบบมากพอ ว่า 1234 เราจะ Take Action อย่างไง จะเทรดด้วย Zone แบบไหน จะรออะไรในการ Confirm ไม่ใช่การหาหน้าเทรดจากการย้อนกราฟ แล้วจับทุกอย่าง ๆ มาอยู่ใน Setup เดียว แบบนั้นค่อนข้างที่จะทำซ้ำยาก และแน่นอนว่ามีโอกาสเกิด Overfitting ในอนาคตแน่นอน ท่านใดจะนำไปใช้ก็ยินดีค้าบ แต่อย่าลืมนำไป Back Test เพิ่มมุมมองกันก่อนนะค้าบ
ท่านสมาชิกท่านไหนที่สนับสนุน E-Book หมาแดง https://www.facebook.com/reddogtrading/posts/249962484685601 อยู่จะทราบว่าจาก Trading System ข้างต้นกับ Trading System ที่หมาแดงใส่ไว้ใน E-Book ต่างกันเยอะมาก แบบที่บอกค้าบ ก่อนจะนิ่งก็ซิ่งมาพอตัว แต่ไม่ใช่ว่า Trading System ข้างต้นไม่ดีนะค้าบ แต่หมาแดงแค่ไม่ชอบ และไม่ถูกจริต หมาแดงอยากนำ View ของตัวเองมาทดสอบตลาด และอยากมีแนวทางที่เป็นของตัวเองจริง ๆ หรืออาจจะ เรียกง่าย ๆ ก็หาทำนั่นแหละค้าบ พอสิ่งที่เราตั้งสมมติฐานไว้มันใช้ได้ดี ก็ Happy เก็บ Stat ก็ Enjoy ท่านสมาชิกที่มี View มีแนวคิดเป็นของตัวเอง ก็อย่าลืมนำมาทดสอบดูนะค้าบ ตลาดให้อิสระเราเสมอ อยากทำอะไรก็ทำค้าบ ป.ล. ระวังแค่เรื่อง Overfitting พอค้าบ แฮะๆ
มีวันหยุดที่ Enjoy กับครอบครัว เดินทางกลับบ้านกันโดยสวัสดิภาพนะค้าบ

สวัสดีปีใหม่ไทยค้าบ : )

(หมาแดง Trading)