CPA Thailand
เพจ CPA Thailand รวมเอาข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวิชาชีพสำหรับ CPA และผู้เตรียมสอบ CPA ให้สนุกและเข้าใจง่าย

"จีน" เล็งยกระดับคุมเข้มบรรดาผู้ตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศและท้องถิ่น ขณะที่ "สี จิ้นผิง" ผู้นำจีน พยายามขจัดความเสี่ยงในระบบการเงินของประเทศ หลังบริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านอสังหาริมทรัพย์และการธนาคารล้มละลายไปหลายแห่ง
กระทรวงการคลังจีน เปิดเผยในวันนี้ (27 มี.ค.) ว่า นายจู จงหมิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจีนกล่าวกับนางชารอน ธอร์น ประธานระดับโลกของดีลอยท์ (Deloitte) ว่า จีนจะบังคับใช้กฎระเบียบทางการเงินอย่างเข้มงวด และเพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแลบริษัทตรวจสอบบัญชีในจีน ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง 4 แห่ง
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นขณะที่นายจูพบปะกับนางธอร์น ณ กรุงปักกิ่ง โดยเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนจะเริ่มต้นคุมเข้มภาคการตรวจสอบบัญชี ซึ่งจะเพิ่มความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมการตรวจสอบบัญชีและการให้คำปรึกษาในอนาคตของบริษัทดีลอยท์, พีดับบลิวซี (PwC), เคพีเอ็มจี (KPMG) และอีวาย (EY) ในจีน
ในเดือนนี้ กระทรวงการคลังจีนได้สั่งปรับเงินดีลอยท์สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 31 ล้านดอลลาร์และระงับการดำเนินกิจการในกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 3 เดือน หลังตรวจพบ “ข้อบกพร่องขั้นร้ายแรง” ในการประเมินคุณภาพสินทรัพย์ของไชน่า หัวหรง แอสเซต แมเนจเมนต์ (China Huarong Asset Management) บริษัทจัดการหนี้เสียของรัฐบาล ซึ่งร้องขอเงินอุดหนุนจำนวน 6.6 พันล้านดอลลาร์จากภาครัฐในปี 2564
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-03-26/china-tells-deloitte-that-accounting-firm-regulations-to-toughen
- https://www.consultancy.asia/news/5122/china-suspends-deloittes-beijing-office-over-huarong-accounts
#จีน #ผู้ตรวจสอบบัญชี #ระบบการเงินของประเทศ
#กรุงเทพธุรกิจBusiness #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Website: http://www.bangkokbiznews.com
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
OpenChat: https://bit.ly/3ZgoMib
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit: https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok: https://www.tiktok.com/
Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i


📌 วันพรุ่งนี้ วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 9.00 น. ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมรับชม พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สคส. ร่วมกับ ธปท. ก.ล.ต. และ คปภ. เพื่อส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA และสนับสนุนกระบวนการทำงานร่วมกันของหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง 4 แห่ง
🎥 ผ่านทาง page Facebook: PDPC Thailand
#ข้อมูลส่วนบุคคลภาคการเงิน #สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล #สคส #ธปท #กลต #คปภ

ก.ล.ต. เปิดตัวเว็บเพจ Cyber Resilience ศูนย์รวมข้อมูลให้ความรู้และแจ้งเตือนภัยทางไซเบอร์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดทำเว็บเพจ www.sec.or.th/cyber เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ และแจ้งเตือนภัยทางไซเบอร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) ให้กับผู้ประกอบธุรกิจในภาคตลาดทุน รวมถึงบริษัทจดทะเบียน และประชาชนที่สนใจ ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย
ทั้งนี้ สามารถรับชมคลิปวิดีโอแนะนำเว็บเพจ Cyber Resilience ได้ที่ YouTube: ThaiSEC หรือคลิก link https://youtu.be/aPtUEA2v3Og
____________________
อ่านข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 43/2565 ได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=9368

ก.ล.ต. ประกาศ ไม่สนับสนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลชำระค่าสินค้าบริการ มีผล 1 เม.ย. 2565 ดูข้อมูลเพิ่มที่หน้าเว็บข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 39/2565
https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=9353

PDPA ใกล้จะบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ขอขอบคุณ อาจารย์สุริยา นาชิน, ดร. นิพนธ์ นาชิน และชมรมสำนักงานสอบบัญชีตลาดทุนไทย ที่ร่วมจัดงานเสวนา online เพื่อให้ความรู้กับผู้สอบบัญชี
อจ.สุริยา นาชิน และ ดร.นิพนธ์ นาชิน สมาคมเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPOA) ร่วมกับชมรมสำนักงานสอบบัญชีตลาดทุนไทย โดยคุณสุวิมล กฤตยาเกียรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท DIA Audit จัดเสวนา Online หัวข้อ “พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)ให้กับสมาชิกชมรม”
Crypto ยังไงก็น่าจะมา…

ก.ล.ต. ลดค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนสำหรับผู้สอบบัญชีรายใหม่ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุน
ก.ล.ต. ออกประกาศว่าด้วยค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุน* โดยลดค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้สอบบัญชีรายใหม่ที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนและยื่นคำขอความเห็นชอบเป็นครั้งแรก จากเดิมค่าธรรมเนียม 50,000 บาท เหลือ 10,000 บาท ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เพื่อเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีที่มีคุณภาพรองรับการเติบโตของตลาดทุนในอนาคต พร้อมทั้งช่วยลดภาระของสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน
อ่านข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 16/2565 เพิ่มเติมได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=9303&NewsNo=16&NewsYear=2565&Lang=TH

📣📣การปรับปรุงระบบแจ้งและยืนยันการลงลายมือชื่อของผู้สอบบัญชี
(การยืนยันการลงลายมือชื่อในปี 2565 เป็นต้นไป)
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 สภาวิชาชีพบัญชีได้มีการปรับปรุงระบบแจ้งและยืนยันการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี เพื่อให้ระบบแสดงข้อมูลการแจ้งและยืนยันให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น โดยในขั้นตอนการยืนยันการลงลายมือชื่อของผู้สอบบัญชีตั้งแต่ปีที่ลงลายมือชื่อ 2565 เป็นต้นไป สภาวิชาชีพบัญชีได้เปลี่ยนแปลงตารางที่ผู้สอบบัญชียืนยันข้อมูลเกี่ยวกับการลงลายมือชื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินในระบบ📃
📌สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่👉👉 https://bit.ly/33tVvsl
📌อ่านในรูปแบบ PDF ได้ที่ 👉👉https://bit.ly/3rpiufW

📣📣 ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 1/2565 เรื่อง กำหนดการการทดสอบความรู้ขอผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ครั้งที่ 50 (1/2565)
📌 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม Click >>> https://bit.ly/3tpkd7U

PwC ประเทศไทย ชี้ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อรายงานทางการเงินในอนาคต PwC ประเทศไทย ชี้ภาวะโลกร้อนจะส่งผลกระทบต่อรายงานทางการเงินในอนาคต หลังประชาคมโลกออกกฎเกณฑ์ เพื่อร่วมมือ.....

ขอเชิญศึกษาคู่มือประมวลจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี รวมถึงมาตรฐานเรื่องความเป็นอิสระ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ. 2564 Read Now 👉👉https://acpro-std.tfac.or.th/uploads/files/Code-of-Ethics%20211221.pdf
หรือ เข้าสู่หน้ารวมข้อมูลเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี Click 👉👉
https://acpro-std.tfac.or.th/standard/6/จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพ
--------------------------
ขอเชิญชวนผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีเข้าร่วมรับชมและเผยแพร่ต่อไปยังเพื่อนร่วมวิชาชีพบัญชีของท่าน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ตามแนวทางในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพบัญชี ก่อนมีผลบังคับใช้คู่มือประมวลจรรยาบรรณฉบับปรับปรุง 2020 Edition ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565
📌 หลักการที่ 1 ความซื่อสัตย์สุจริต 🎥 https://youtu.be/1nUGBFf5XMg
📌 หลักการที่ 2 ความเที่ยงธรรมและความเป็นอิสระ 🎥https://youtu.be/q_jwn-IjHWU
ทั้งนี้ สำหรับ Animation 4 ตอนที่เหลือ ได้แก่ ความรู้ ความสามารถ ความเอาใจใส่ และการรักษามาตรฐานในการปฏิบัติงาน, การรักษาความลับ, พฤติกรรมทางวิชาชีพ และความโปร่งใส ขณะนี้คณะอนุกรรมการฯ อยู่ระหว่างการจัดทำ โดยสภาวิชาชีพบัญชีขอให้ท่านติดตามข่าวสารผ่านช่องทางเว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี 💻 www.tfac.or.th หรือหากมีคำถามและข้อสงสัยเพิ่มเติมติดต่ออีเมล 📩 [email protected]

ยูจีน โอ'เคลลี่ (Eugene O'Kelly) ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่ KPMG ที่มีเครือข่ายไปทั่วโลก ได้ถ่ายทอดเรื่องราวช่วงสุดท้ายในชีวิตไว้ในหนังสือ “Chasing Daylight”
ยูจีนได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขณะที่เขามีอายุ 53 ปี และกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ยากจะเอาชนะ นั่นคือ “ความตาย”
ยูจีน โอ'เคลลี่ ใช้เวลา 53 ปีที่ผ่านมา ทำงานอย่างหนักจนประสบความสำเร็จ และได้เป็นผู้บริหารสูงสุดของ KPMG บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบบัญชี และภาษีระดับโลก
หากจินตนาการไม่ออกว่าเขาทำงานหนักขนาดไหน ในหนังสือเล่าว่า ครั้งหนึ่ง ยูจีนต้องการได้ Account ของ Investent Bank สาขาใหญ่ในออสเตรเลีย แต่เงื่อนไขคือเขาต้องประมูลแข่งกับบริษัทคู่แข่งอีก 4 บริษัท
ยูจีนต้องการที่จะพูดคุยกับประธานสาขาเพื่อยื่นข้อเสนอ แต่ประธานสาขายุ่งเกินกว่าจะให้เขาเข้าพบ ยูจีนจึงสอบถามไปยังเลขาของประธานท่านนั้นว่า ท่านมีแผนจะเดินทางไปที่ไหนหรือไม่ และขอเลขที่นั่งบนเครื่องบินมา
เมื่อยูจีนรู้ว่าประธานจะเดินทางไฟท์สั้นๆ จากซิดนีย์ไปยังเมลเบิร์น เขาจึงเดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปยังซิดนีย์ โดยใช้เวลาเดินทาง 22 ชั่วโมง และขึ้นเครื่องบินจากซิดนีย์ไปยังเมลเบิร์นอีก 2 ชั่วโมง เพื่อพูดคุยกับประธานท่านนั้นในระหว่างบิน และทันทีที่ไปถึงจุดหมาย เขาก็นั่งเครื่องบินกลับสหรัฐฯ
หลังจากที่ยูจีนบินกลับไปถึงนิวยอร์คได้ไม่นานเขาก็ได้รับข่าวดีจาก Investment Bank แห่งนั้น KPMG ชนะการประมูลได้ Account สำคัญนั้นมา นี่เป็นเครื่องยืนยันว่ายูจีนทำงานอย่างหนัก และได้รับผลตอบแทนที่แสนคุ้มค่าเป็นการตอบแทน
ยูจีน โอ'เคลลี่ เป็นอีกหนึ่งคนที่มีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด เขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และเข้านอนตรงเวลา เขาแทบไม่เคยป่วยเลยตลอดชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดปวดหัวอย่างหนักจนถูกหามส่งโรงพยาบาล
ผลตรวจที่ออกมาทำให้ยูจีนรู้ว่าตัวเองกำลังป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย และเขาเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกเพียง 100 วันเท่านั้น
สิ่งแรกที่ยูจีนทำหลังจากเขารู้ตัวว่าเขากำลังจะจากโลกนี้ไปคือ การลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทและ CEO ของ KPMG ท่ามกลางความช็อคของพนักงานกว่าสองหมื่นคน
ยูจีนใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตไปกับการลิสต์รายชื่อผู้คนที่เขารู้จักทั้งที่สนิท และไม่สนิท จากนั้นพยายามติดต่อทุกคนด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรหา เขียนอีเมล เขียนจดหมาย เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่าครั้งหนึ่งยูจีนดีใจที่ได้ใช้เวลาไปพวกเขา รวมถึงขอบคุณ และขอโทษกับสิ่งต่างๆ ที่อาจทำผิดพลาดไป
ในบันทึกหน้าท้ายๆ ของยูจีน เขาพูดถึงความสัมพันธ์อันเรียบง่ายระหว่างเขาและคนรอบข้าง รวมถึงโมเมนต์ที่ประทับใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทานข้าวกับเพื่อนสนิท ตีกอล์ฟกับพาร์ทเนอร์บริษัท ตั้งแต่คนวงนอกจนมาถึงคนสนิทอย่างครอบครัว ญาติพี่น้อง ภรรยา และลูกสาว
ยูจีนได้เขียนความตั้งใจสุดท้ายไว้ว่า เขาอยากพาลูกสาวไปเที่ยวกรุงปราก ที่สาธารณรัฐเช็ค แต่ตอนนี้เขาพบว่าตัวเองไม่มีแรงเหลือพอที่จะทำเช่นนั้น เขาจึงเปลี่ยนสถานที่ไปพักผ่อนที่ทะเลสาบทาโฮแทน
ยูจีนเขียนบันทึกไว้ว่า ช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนที่ทะเลสาบทาโฮ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เขาได้ออกไปแล่นเรือกับครอบครัว ได้นั่งพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ นั่งดูคนตีกอล์ฟกับลูกสาว
ยูจีนบอกว่า คนมากมายต่างพูดกันว่าเขาจากโลกนี้เร็วเกินไป แต่เขากลับมองว่าตัวเองมีโอกาสได้ร่ำลาคนที่รัก มีโอกาสได้พูดคุยถึงสิ่งต่างๆ ที่ค้างคา ยูจีนมองว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดี
หลังจากที่เขียนบันทึกนี้จบยูจีนก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
ภรรยาของยูจีน โอ'เคลลี่ ได้เขียนสรุปบทเรียน 5 ข้อ ที่เธอได้รับจากช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตสามี
1. ยอมรับความพ่ายแพ้ในบางครั้ง : ยูจีน โอ'เคลลี่ เป็นคนเก่ง และสามารถหาทางออกให้กับปัญหาทุกเรื่องได้เสมอ แม้บางครั้งจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็กลับขึ้นมาลุกได้อีกครั้ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ “ความตาย” ที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เขาก็ยินดีที่จะยอมรับมัน และใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตได้อย่างคุ้มค่า
2. ต้องมีมากแค่ไหน : ภรรยาของยูจีนเล่าว่า ในขณะที่ยูจีนมีชีวิตอยู่ เขามีทรัพย์สินมากมายที่คนอื่นๆ ล้วนอยากมี แต่เมื่อความตายเดินทางมาถึง เขากลับต้องการเพียง “เวลา” ที่จะอยู่กับครอบครัวเท่านั้น
3. จงมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน : หลังจากรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็ง เขาก็หันหลังให้กับอนาคตทั้งหมด และใช้เวลาอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น เขาเริ่มมองหา Perfect Moment จากทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ฟังเสียงน้ำไหล ได้ทานอาหารอร่อยๆ หรือได้นั่งฟังภรรยาอ่านหนังสือ
4. พยายามตามหา Perfect Moment ทุกช่วงขณะ : ยูจีนใช้ชีวิตมากว่า 53 ปี แต่เขาเพิ่งค้นพบ Perfect Moment ใน 100 วันสุดท้ายของชีวิต เขาบอกว่าชีวิตที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดภรรยา และลูกๆ มาร่วมใช้เวลาไปกับมัน
ภรรยาของยูจีนเล่าว่า เธอเคยพูดเรื่องลูกน้องคนหนึ่งให้ยูจีนฟัง ลูกน้องคนนั้นทำงานอย่างหนัก เมื่อกลับถึงบ้าน สิ่งที่เขาทำเป็นอย่างแรกคือการเช็คอีเมล เธอจึงถามลูกน้องคนนั้นว่าทำงานหนักขนาดนี้เพื่ออะไร? เขาตอบว่าเพื่อ “ครอบครัว”
เรื่องนี้ทำให้ยูจีนคิดเรื่องการจัด Piority ในชีวิตใหม่ เพราะบางครั้งสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เราทำ ผลลัพธ์ที่ออกมาดันตรงกันข้ามกัน ดังนั้นอย่าทำงานจนมองข้าม Perfect Moment ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกนาที
5. สร้างความสมดุลให้กับชีวิต : มันสำคัญมากที่เราจะหาจุดกึ่งกลางของชีวิตให้เจอ คำว่า “บาลานซ์” ไม่ได้หมายถึงแค่เวลา แต่ยังรวมไปถึงอารมณ์ พลังงาน ความคิด ความเชื่อ ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเรา
จงใช้ทุกช่วงเวลาให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวเหมือนดั่งใจหวัง คนส่วนใหญ่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะรู้ว่านี่คือ 100 วันสุดท้ายของตัวเองด้วยซ้ำ
Credit : Mission To The Moon

UPDATE: สรรพากรเผยเก็บภาษี E-Service เดือนแรกได้กว่า 686 ล้าน สูงกว่าเป้า 65% คาดทั้งปีสร้างรายได้เข้าประเทศ 8,000-10,000 ล้าน
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพากรได้ออกกฎหมายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศ (VAT for Electronic Service: VES) ที่ให้บริการกับผู้ใช้บริการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นมา พบว่าในเดือนแรกที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้ มีแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนแล้วจำนวน 106 ราย และมียอดค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์รวมกว่า 9,800 ล้านบาท คิดเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชำระในเดือนแรกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 686 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ถึง 65%
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กฎหมายภาษี E-Service มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการต่างประเทศที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ บริการโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) บริการขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) บริการแพลตฟอร์มสมัครสมาชิก เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม (Subscription) บริการแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลาง เช่น บริการขนส่ง (Peer to Peer) และบริการแพลตฟอร์มจองที่พัก โรงแรม ตั๋วเดินทาง (Online Travel Agency) ที่ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อย (ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในประเทศไทย
โดยกฎหมายภาษีนี้กำหนดให้ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บริการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยและมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบ VES (VAT for Electronic Service) บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
เอกนิติ กล่าวว่า ภาษี E-Service จะช่วยสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจบริการออนไลน์และมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่ผู้ประกอบการต่างชาติที่ให้บริการออนไลน์เหมือนกันไม่ต้องจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย ขณะเดียวกันการเก็บภาษี E-Service จะช่วยให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลรายได้ของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติที่จะสามารถนำไปใช้ในการคำนวณเป็นฐานภาษีใหม่ที่จะเป็นรายได้อีกทางหนึ่งของประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย
“การจัดเก็บภาษี E-Service ได้ทะลุเป้าในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของการชำระภาษี ทำให้คาดว่าทั้งปีกรมสรรพากรน่าจะสามารถเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท” อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/wealth/
—————————————————
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
ประเภท
เว็บไซต์
ที่อยู่
Bangkok