The journey is starting.
TS Journey
"ประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน" วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
สืบสานประเพณีตักบาตรเทโว วันออกพรรษา
"ข้าวต้มลูกโยน" หรือ ข้าวต้มหาง ขนมที่มีประวัติยาวนาน มีรูปแบบการห่อที่มีเอกลักษณ์ นิยมทำสำหรับเทศกาลทำบุญตักบาตรเทโว วันออกพรรษา
ข้าวต้มลูกโยน เป็นชื่อขนมอย่างหนึ่ง นิยมทำสำหรับเทศกาลทำบุญตักบาตรในวันออกพรรษา ในสมัยพุทธกาลตามที่มีกล่าวขานเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกหลังจากเสด็จขึ้นไปจำพรรษาอยู่ในดาวดึงส์ถ้วนไตรมาส และแสดงอภิธรรมเทศนาโปรดพระมารดาในเทวโลกนั้นมาตลอดเวลา 3 เดือน เมื่อถึงวันมหาปวารณา หรือ วันออกพรรษา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 คือวันสุดท้ายของการอยู่จำพรรษา ซึ่งในปี 2566 ตรงกับวันที่ 29 ตุลาคม 2566
พระพุทธเจ้าจึงเสด็จมายังโลกมนุษย์โดยเสด็จมาทางบันไดสวรรค์ลงที่ประตูเมืองสังกัสสะ อันตั้งอยู่เหนือกรุงสาวัตถี วันที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้นเรียกกันว่า “วันเทโวโรหณะ” วันนั้นถือกันว่าเป็นวันบุญกุศล ที่สำคัญวันหนึ่งของพุทธบริษัท โบราณเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก”
วันรุ่งขึ้นจากวันนั้นเป็นวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 จึงมีการทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ กันเป็นการใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า โดยพุทธบริษัทได้พร้อมใจกันใส่บาตรแด่พระสงฆ์ที่อยู่ทั้งหมดในที่นั้นกับทั้งพระพุทธองค์ด้วยโดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน
แต่เนื่องจากประชาชนต่างพากันไปเฝ้าตักบาตรกันมากมาย แต่ไม่สามารถเข้าถึงพุทธองค์ได้จึงได้โยนข้าวไป อาหารเหล่านั้นก็ตกลงในบาตรของพระพุทธองค์ทั้งหมดเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง จึงเป็นเหตุให้ทำอาหารห่อใบมะพร้าวหรือใบเตย ห่อไว้หางเพื่อจับโยนไปได้และนำไปตักบาตรในวันออกพรรษา ซึ่งเรียกว่า ตักบาตรเทโวโรหณะ ขึ้นเป็นประจำทุกปีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
คำว่า “เทโว” ย่อมาจากคำว่า “เทโวโรหณะ” ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก อันหมายถึงการเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า
สำหรับในปีนี้ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ จะมีขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2566
คำขวัญของ จังหวัดอุบลราชธานี
“เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์”
"จังหวัดอุบลราชธานี" เป็นอีกจังหวัดที่เราทั้ง 2 คนนั้นยังไม่เคยได้ไปสัมผัสกัน
ที่สำคัญเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง บอกได้เลยว่าทริปสั้นๆแค่ 3 วัน 2 คืนของเรานั่นจะเที่ยวได้กี่ที่ ตามมาดูกันได้เลยครับ...
เราขอแชร์ประสบการณ์ทริป"เผชิญพายุโนรูที่อุบลฯ" ดังนี้ครับ
วันที่ 1 (26 ต.ค.65) *เราจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่ต้นปี
04:00-05:15 น.เดินทางไปสนามบินสวรรณภูมิ
05:15-05:45 น.เช็คอิน สายการบิน Veitjet
05:45-06:25 น.ขึ้นเครื่อง(เที่ยวบิน VZ226)
06:25-07:30 น.เดินทางถึงสนามบินอุบลราชธานี
07:30-08:30 น.เดินทางออกจากสนามบินอุบลราชธานี
ไปยังตลาดน้อยด้วยรถบัสของสนามบิน
(บริการฟรี)
08:30-09:30 น.ฝากท้องมื้อเช้าที่ตลาดน้อย เมนูก๋วยจั๊บ
09:30-10:00 น.ไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุบลราชธานี
แล้วก็รับรถเช่าที่เราได้จองไว้กับ เจเจ รถเช่า
อุบลราชธานี(800 บาท/วัน ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต)
10:00-12:00 น.เดินทางออกจากตัวเมืองไปอุทยานแห่ง
ชาติผาแต้ม* แดดแรงมาก ท้องฟ้าสดใส
12:00-14:00 น.ชมรูปวาดสีบริเวณหน้าผา ซึ่งมีอายุกว่า
ราว 3 พันปี ก่อนประวัติศาสตร์ และเสาเฉลียง
14:00-16:00 น.เดินทางไปวัดโขงเจียม เพื่อชมแม่น้ำ
2 สี ซึ่งก็คือจุดบรรจบของแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง
ณ.บริเวณ วัดโขงเจียม
16:00-18:00 น.เดินทางเข้าเช็คอินที่พัก"บ้านเคียงฟ้า
รีสอร์ท" ติดกับด่านช่องเม็ก
18:00-19:00 น.เราฝากมื้อค่ำที่ตลาดหน้าด่านช่องเม็ก
19:00-20:00 น.เดินทางไปวัดสิรินธรภูพร้าววราราม
(วัดเรืองแสง) พร้อมกับเก็บภาพสวยๆยามค่ำคืน
ซึ่งการเดินทางจะต้องขับรถเข้าไปในป่าบนภูเขา
ของป่าไม้ โดยจะปิดและให้นักท่องเที่ยวลงก่อน
เวลา 21:00 น.นะจ๊ะ
วันที่ 2 (27 ต.ค.65) * ตื่นเช้ามาท้องฟ้าสดใส
08:00-09:30 น.เราเดินถ่ายรูปอาคารที่ทำการด่าน
ช่องเม็ก รวมถึงฝากมื้อเช้าเป็นที่เรียบร้อย
09:30-10:30 น.เดินทางไปชมความงดงามเขึ่อนสิริธร
10:30-12:00 น.เดินถ่ายรูปบน Sky walk ชมความ
งดงามของจุดชมวิว Solar cell ทุ่นลอยน้ำ
เหนือเขี่อนสิรินธร
12:00-13:30 น.เดินทางเช็คอิน โรงแรม Hop Inn
อุบลราชธานี
17:00-19:00 น.หาของอร่อยๆมื้อค่ำที่ตลาดโต้รุ่งทุ่งศรีเมือง ของกินอร่อยๆเยอะมากๆ
วันที่ 3 (28 ต.ค.65) เป็นวันแรกที่พายุโนรูเข้าไทย โดยจังหวัดอุบลราชธานีนั้นจะมีลมพัดแรงพร้อมฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 03:00 น.โดยประมาณ
08:00-09:30 น.เช็คเอ้าท์จากโรงแรม แล้วเดินทาง
ไปตลาดเทศบาล3 ท่ามกลางลมพายุฝน
เพื่อหาซื้อของฝากและอาหารอร่อยๆในมื้อเช้า
09:30-10:00 น.เดินทางไปสนามบินอุบลราชธานี
พร้อมกับส่งมอบรถเช้าคืน ให้กับ
เจเจ รถเช่าอุบลราชธานี ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี
10:00-14:00 น.เรารอที่จะเช็คอิน เที่ยวบิน VZ225
ของสายการบิน Vietjet ซึ่งสุดท้ายจากอิทธพล
ของพายุโนรู ส่งผลทำให้ทุกสายการบินที่จะ
ออกจาก และบินลงสนามบินอุบลราชธานีนั้น
ต้องยกเลิกทั้งหมดทุกไฟท์ของวันนี้
14:00-15:00 น.เราเข้าแถวต่อคิวลงทะเบียน Refun
ของสายการบิน Vietjer(หากไม่ทำก็คือสละสิทธิ์)
15:00-16:00 น.เราต้องเปลี่ยนแผนการเดินทาง โดยมุ่ง
ไปที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ที่
อ.วารินชำราบ(ห่างจากสนามบินราว 7 กม.)
เราเรียกแท็กซี่มิเตอร์ โดยมีค่าโดยสารอยู่ที่
80 บาท ซึ่งเราให้แบงค์ 100 บาท และบอกว่า
ไม่ต้องทอนครับ(ในตอนนั้นเราดีใจมากที่น้ำยัไม่
ท่วม และฝ่าพายุมาจนถึงสถานีรถไฟได้ในที่สุด)
16:00-17:45 น.เราซื้อตัวรถไฟ ชั้น 3 เพื่อลงสถานี
สระบุรี ระหว่างรอเราก็ทานมื้อเย็นกันที่ร้านค้า
อาหารตามสั่งในสถานีอุบลราชธานี
17:45-05:30 น.เป็นครั่งแรกที่เราร่วมเดินทางด้วยรถไฟ
ด้วยกัน ตั้งแต่แต่งงานกันมา 22 ปี รู้สึกว่าเราต้อง
ดูแลผู้หญิงคนนี้(แม่ของลูกๆ) อย่างสุดชีวิต 555
05:30-06:30 น.เราต่อรถ 99 มาลงปากทางเข้าบ้านของ
เราโดยสวัสดิภาพ จบทริป"เผชิญพายุโนรูที่อุบลฯ"....
#อุบลราชธานี
#พายุโนรูเข้าไทยวันแรก
พระเจดีย์กลางน้ำ(สมุทรเจดีย์)@ระยอง....
จุดชมวิวบนเกาะช้าง
"Golden Hour"