Health & Beauty by Aphrodite
ทางลัดสู่สุขภาพที่ดีและผิวสวย..............จากภายในและภายนอก
คอกาแฟ อ่านทางนี้ค่ะ 🤩☕️
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของผู้คนทั่วโลก เนื่องจากหอมอร่อยและทำให้สดชื่นตื่นตัว
รวมทั้งกาแฟสด ชนิดกาแฟดำ ยังเป็นที่นิยมในวงการ anti-aging (เวชศาสตร์ชะลอวัย) เนื่องจากในกาแฟสดมีกรดคลอโรจินิก (chlorogenic acid; CGA) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี
มีการศึกษาผลของกาแฟต่อดวงตา อาทิ
• การดื่มกาแฟ อาจช่วยปกป้องจอประสาทตาจากอนุมูลอิสระ
• การดื่มกาแฟอาจช่วยป้องกันการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงเบาหวานขึ้นจอตา
• การดื่มกาแฟ ทำให้ความดันโลหิตสูงชั่วคราว อาจมีผลต่อความดันตาและโรคต้อหิน
• การดื่มกาแฟ อาจช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาทดลองในมนุษย์ที่มากเพียงพอ ข้อสันนิษฐานต่าง ๆ จึงไม่อาจสรุปได้อย่างแน่ชัด
ทางที่ดี แนะนำดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ รับคาเฟอีนไม่เกินวันละ 400 มิลลิกรัม หรือไม่เกิน 2-6 แก้วต่อวัน ขึ้นกับปริมาณคาเฟอีนต่อแก้วค่ะ
Cr:
https://twitter.com/drsasiyaisawang/status/1302504717998723073?s=21
Squalane และ Squalene ต่างกันยังไง ?
หลายคนอาจเคยได้ยิน 2 คำนี้ มาบ้างแล้วนะคะ
☘️Squalene (มี“ e”) เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวหนึ่งในผิว ที่สามารถผลิตขึ้นตามธรรมชาติ โดยเซลล์ผิวของคน แต่ปริมาณของ squalene ที่ผลิตได้ในร่างกายของคนจะลดลงตามอายุ และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม เช่น แสงแดด ความร้อน ความเย็น และมลภาวะ เป็นต้น
🍀การผลิตมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติจะเกิดขึ้นสูงสุดในช่วงวัยรุ่น และจะชะลอตัวลงในช่วงอายุ 20 - 30 ปี ส่งผลให้ผิวแห้งกร้านและหยาบขึ้น รวมถึงเกิดริ้วรอยได้ง่าย
🌿Squalene ไม่ได้มีผลิตได้ในคนเท่านั้น ยังพบอยู่ตามธรรมชาติ เช่น ในน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว และอ้อย นอกจากนี้ยังพบได้จากตับปลาฉลาม (นิยมนำมาผสมในเครื่องสำอางตั้งแต่ยุคแรกๆ)
🌱Squalene จากสัตว์และพืช ตามปกตินั้นจะไม่เสถียร เมื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพราะเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนจะทำให้เกิดการเหม็นหืนและเสียได้อย่างรวดเร็ว
🌼ดังนั้น ก่อนที่จะนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Squalene จะต้องมีการเติมไฮโดรเจน (การเติมไฮโดรเจนในโมเลกุล เรียกว่า Hydrogenation)ให้เป็น Squalane (มี "a") ก่อน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีความเสถียรมากกว่า
>
จึงช่วยให้เข้ากันได้ดีกับผิวและช่วยเพิ่มอายุในการเก็บรักษา นอกจากนี้ เนื้อสัมผัสของ Squalane มีความเบาบางมากกว่า ไม่ทำให้เหนอะหนะเวลาใช้ ไม่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงคนที่มีผิวผสมถึงผิวมัน และผิวบอบบาง
Photo : Internet
ต้องการการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเชียงใหม่ค่ะ
#เบิกถอนใบรับจดแจ้งเจลแอลกอฮอล์ ทั้งผลิตในประเทศและนำเข้า 💥💥💥
ใครว่ามีเลขจดแจ้งอย.แล้วจะปลอดภัยและถูกต้องเสมอ ‼️
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่า การจดแจ้งทำได้โดยการส่งข้อมูลและยื่นรายการผ่านทางเอกสารหรือทางอินเตอร์เนต ทางอย.ทำการตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้มา
ดังนั้น การที่ได้รับเลขจดแจ้ง ไม่ได้หมายความว่า จะถูกต้องและปลอดภัยเสมอไป เพราะถ้าผู้ผลิต/ผู้นำเข้าไม่ซื่อสัตย์ และตั้งใจปกปิดข้อมูลอันเป็นจริง อย.เองก็ไม่สามารถคัดกรองและพิจารณาได้
นั่นคือ...ผู้ซื้อ ต้องพิจารณาเบื้องต้นตามประกาศฉลากเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ คือ
🔬1.ต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบมากกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร (70%v/v)
🧪2. ต้องระบุชื่อแอลกอฮอล์ตาม INCI Name ตัวใดตัวหนึ่ง หรือ ผสมกัน คือ
Ethyl Alcohol หรือ Ethanol
Isopropyl Alcohol หรือ Isopropanol
🔥3.เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นวัตถุไวไฟ ต้องมีคำเตือนการใช้งาน การเก็บรักษา บนฉลากด้วย
#อย่าลืมอ่านฉลากนะคะ
#เชียงใหม่ นอกจากต้องเฝ้าระวังโควิท-19 แล้ว ปัญหาไฟไหม้ป่า ก็ยังน่าห่วง
ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ
ร่วมสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานฯและทีมดับไฟ #ดอยสุเทพปุย
ขอบคุณเพจต้นทางค่ะ
จากประเด็นที่มีการพบว่า แอลกอฮอล์ที่ขายกันในตลาดออนไลน์นั้น มีเมทานอลหลุดออกมาในตลาดเจลและสเปรย์แอลกอฮอล์ด้วย
คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าแอลกอฮอล์ที่ซื้อมาใช้ ทั้งที่เป็นวัตถุดิบ (Ethanol95%) และสเปรย์แอลกอฮอล์ (แอลกอฮอล์70%) เป็น Ethanol แท้ หรือ ผสมกับ Isopropyl alcohol หรือ แจ๊คพอต ได้ Methanol มาใช้แทน ซึ่งเราก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่า #เมทานอลอันตราย 💥☠️💥
การตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์นั้นสามารถตรวจสอบได้ แต่ค่าใช้จ่ายก็มากตาม....ราคาเครื่องก็แพงแสนแพงอยู่แล้ว
การขอเอกสารของสาร เพื่อยืนยันนั้นถือเป็นด่านแรกที่ทำได้ ซึ่งเอกสารคือ Specification (ต่อไปในบทความนี้จะเรียกว่า Spec) และ MSDS และ Certificate of Analysis (ต่อไปในบทความนี้จะเรียกว่า COA)
............กรณีซื้อมาเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตแอลกอฮอล์สเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์นั้น Spec และ MSDS ควรมีให้เราอ่านพิจารณาเป็นอย่างแรก
และ COA จะต้องมีแนบมาพร้อมกับของที่เราสั่ง ชื่อและLot การผลิตจะต้องตรงกันทั้งในฉลากและในเอกสาร COA
📑ตรวจสอบอะไรได้บ้างในเอกสาร ??
Ethanol 95 ส่วนใหญ่จะมีปริมาณ Ethanol ต่ำสุด 95% ที่เหลือจะเป็นสารแต่งเติมอื่นๆ โดยปริมาณสารแต่งเติมนี้ต้องไม่เกินที่กฏหมายกำหนด และจะต้องระบุในเอกสารว่าคือสารอะไร้าง ปริมาณเท่าไหร่
ตัวอย่างของ COA ที่ง่ายต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อ เลือกใช้แอลกออฮอล์
(ในรูป) 📋
ชื่อสาร ETHAL 95 เป็นชื่อที่ผู้ผลิตตั้งขึ้น หรือ เรียกว่า Trade Name
เอทานอล ตัวนี้เป็นตัวนำเข้า และเป็นแบบ Denatured คือ มีการเพิ่มสารเพื่อให้ไม่เหมาะสำหรับรับประทาน
🧪Ethanol หรือ Ethyl Alcohol มีปริมาณ 95.3 เมื่อเทียบกับ Specification (95.0 +/- 0.5) แล้ว ถือว่าอยู่ใน Spec .....ยอมรับได้ !!
ส่วนสารแต่งเติมมีรายการและปริมาณ ดังที่ระบุตามตาราง.....ตัวที่เราโฟกัสคือ
🧪Methanol ซึ่งปกติแล้วถือว่าอันตราย แต่ในนี้มีปริมาณที่ไม่สูงมาก และอยู่ใน Spec........ยอมรับได้ !!
เอกสารควรมี #ชื่อบริษัทผู้ขายและผู้มีอำนาจรับรอง หรือ #ชื่อบริษัทผู้ผลิตและผู้มีอำนาจรับรอง เพื่อการยืนยันว่าเมื่อเกิดข้อผิดพลาดจากสารเคมีนั้นๆ เราสามารถสืบค้นและแจ้งผู้ขาย/ผู้ผลิตได้ว่ามาจากสารเคมีดังกล่าว
การขอเอกสารจากผู้ขายนั้น เป็นสิทธิ์ที่พึงควรกระทำเป็นอันดับแรกของผู้บริโภค เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยในการใช้สินค้าหรือสารเคมีนั้นๆ
ขอบคุณ เอกสาร COA จากบริษัทดังระบุในเอกสารค่ะ 🥰
ในสถานะการณ์การต่อสู้ไวรัส covic-19
วันนี้พี่มีสูตรเจลแอลกอฮอล์/แอลกอฮอล์เจล อย่างง่ายมาฝากค่ะ
🌱สูตรนี้ไม่ต้องใช้ด่าง**มาปรับนะคะ
🌿เตรียมส่วนผสมโดยการชั่งน้ำหนัก
☘️ผสมทีละตัวตามลำดับ
💥ใช้แอลกอฮอล์เพียง 62.4 กรัมในสูตร 100 กรัม จะได้ #แอลกอฮอล์เจล ที่มีเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 70%โดยปริมาตร ที่สามารถฆ่าไวรัสได้ 🦠
**ด่างส่วนใหญ่ที่ใช้คือ TEA สำหรับสูตรที่ใช้ Carbomer (Carbopol)
***อ้างอิงจากตารางเปรียบเทียบความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ โดยปริมาตรและโดยน้ำหนัก
💥💥💥ที่จดแจ้งและขายอยู่ ต้องเก็บออกจากตลาด, ทำเอกสารยกเลิก แล้วขอยื่นจดแจ้งใหม่เป็นเครื่องมือแพทย์ ค่ะ💥💥💥
ข้อมูลล่าสุดจาก อ.บู๋ วันนี้ค่ะ
ประกาศ #แอลกอฮอล์เจล #ล้างมือไม่ใช้น้ำ ออกมาก่อนไวรัสอู่ฮั่นจะระบาด โดยให้ขึ้นทะเบียนเป็น #เครื่องมือแพทย์ มีผลบังคับสำหรับผู้นำเข้าและผู้ผลิต 180 วันหลังประกาศฉบับนี้ โดยฉลากจะต้องระบุเพิ่มข้อความต่อไปนี้ด้วย
#สาหรับทำความสะอาดมือโดยไม่ใช้น้ำ
#ห้ามวางหรือใช้ใกล้เปลวไฟ
#ใช้เฉพาะภายนอกเท่านั้น
ว่าด้วย #แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 🦠
ในช่วงที่ไวรัสอู่ฮั่นระบาด ทั้งหน้ากาก ทั้งแอลกอฮอล์เจล ขาดตลาดมากๆ 😷
วันนี้พี่เอาข้อมูลดีๆจากกรมสรรพสามิตมาฝากค่ะ
เผื่อใครที่ไม่อยากอ่านข้อมูลยาวๆนะคะ พี่มีสรุปสั้นๆให้ค่ะ
🧪แอลกอฮอล์ที่ใช้ควรมีความเข้มข้นตั้งแต่ 60-95%
🌡ในตลาดบ้านเราส่วนใหญ่จะพบที่ 70% ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผล เพราะไม่เปียกเกินไป ไม่แฉะเกินไป ไม่ระเหยง่ายเกินไป มีเวลาให้ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
☢️แอลกอฮอล์มีหลายชนิด นิยมมากที่สุด 3 ตัว คือ isopropanol, ethanol และ n-propanol
🧫🦠🧬ผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อ มีแอลกอฮอล์มากกว่า 1ตัว ที่พบบ่อยคือ ethanol และ isopropanol โดยให้ผลในการต้านเชื้อจุลชีพที่เสริมฤทธิ์กันมากขึ้น เนื่องจาก ethanol สามารถต้านเชื้อไวรัสได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในกลุ่มแอลกอฮอล์ และ isopropanol มีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดีกว่า
⏳แอลกอฮอล์จะใช้เวลาช่วงหนึ่งในการฆ่าเชื้อ ดังนั้นในการทำความสะอาดมือ หรือสิ่งของใดๆ ควรใช้เวลาอย่างน้อย 20 วินาที เพื่อให้แอลกอฮอล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
🚭แอลกอฮอล์ติดไฟง่าย ต้องระวัง !
🧴ทำให้ผิวแห้งง่าย อาจทำให้ระคายเคืองผิว
แอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุข ALCOHOL FOR PUBLIC HEALTH องค์การสุรา กรมสรรพสามิต
มาอัพเดทกันหน่อยค่ะ
#ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่๒๘ พย ๒๕๖๒ ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๒๓ ธค ๒๕๖๒
อเมริกาออกกฏหมายมาได้สักพักแล้ว วันนี้บ้านเราออกกฏมาแล้วค่ะ
เนื่องจากไม่ละลายน้ำ ไม่สลายตัว ทำให้ตกค้างในดิน ในแหล่งน้ำต่างๆ ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
#เครื่องสำอาง
ช่วงนี้หนาวๆค่ะ มือแข็งไปหมด 😅😅
ขอหยิบ ยก บทความนี้มาแชร์นะคะ
Credit : ตามต้นเรื่องค่ะ
🌿🌿🌰🌰Shea Butter กับ 7 ข้อดี ข้อดีที่ทำให้ผู้หญิงควรเลือกใช้บำรุงผิว 🌰🌰🌿🌿
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนอาจจะคุ้นหูกับคำว่า เชียร์ บัตเตอร์ กันมาบ้างแล้ว เพราะพวกครีมบำรุงผิวกายและผิวหน้าที่ใช้กันอยู่เป็นประจำนั้น มักจะใส่เชียร์ บัตเตอร์ผสมลงไปด้วย ซึ่งเจ้าสิ่งนี้แหละที่จะช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้กลับนุ่มนิ่มมีน้ำมีนวล แถมยังมีวิตามินที่มีประโยชน์หลากหลายอยู่ในนั้น หากใครยังไม่รู้จักเชียร์ บัตเตอร์ดีมากนัก วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำ 7 ข้อดีของเชียร์ บัตเตอร์ ที่ทำให้ผู้หญิงควรเลือกใช้บำรุงผิวมาฝากกันแล้ว เอ้า … สาว ๆ มาดูกันเลยจ้า
1. อุดมไปด้วยวิตามินเอ 🅰
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมสาว ๆ หลายคนเลือกบำรุงผิวด้วยเชียร์ บัตเตอร์ ก็เพราะมันอุดมไปด้วยวิตามินเอในธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันริ้วรอยให้เกิดขึ้นช้าลงได้ด้วย ใครที่กลัวผิวหนังเหี่ยวย่นหรือแก่ก่อนวัย อย่ารอช้ารีบเลือกเชียร์ บัตเตอร์มาบำรุงผิวเลยจ้า 2. อุดมไปด้วยวิตามิน✳️
นอกเหนือไปจากวิตามินเอแล้ว แต่ในเชียร์ บัตเตอร์ก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่สาว ๆ หลายคนชอบนำมาบำรุงเพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย อีกทั้งในสกินแคร์และครีมบำรุงผิวส่วนใหญ่ก็มีส่วนผสมของวิตามินอี ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยปกป้องผิวไม่ให้แห้งเสียจากการโดนแสงแดดทำร้าย
3. ช่วยรักษาโรคผิวหนัง
เชียร์ บัตเตอร์ ก็เปรียบเหมือนกับเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและรักษาโรคผิวหนังไปด้วยในคราวเดียวกัน ซึ่งในเชียร์ บัตเตอร์มีวิตามินหลากหลายชนิดและกรดไขมัน ที่จะช่วยรักษาโรคผิวหนังเมื่อเกิดอาการคันหรือมีผื่นแดง นอกจากวิตามินหลากหลายและกรดไขมันแล้ว เชียร์ บัตเตอร์ยังมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านการอักเสบอีกด้วย
4. มีกรดซินนามิกช่วยป้องยูวี
รู้หรือไม่ว่า ในเชียร์ บัตเตอร์มีกรดซินนามิก ที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีตัวการร้ายทำลายผิว โดยอาจพูดได้ว่าเชียร์ บัตเตอร์คือครีมกันแดดจากธรรมชาตินั่นเอง อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยฟื้นฟูเซลล์ใหม่ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์
5. มีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์
ในเชียร์ บัตเตอร์ ประกอบด้วยกรดไขมัน 5 ชนิด ทั้งกรดปาลมิติ (Palmitic Acid), กรดสเตียริก (Stearic Acid), กรดโอเลอิก (Oleic Acid), กรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) และกรดอะราคิโดนิก (Arachidonic Acicd) ซึ่งกรดเหล่านี้แหละจะช่วยให้คุณมีผิวยืดหยุ่นและอ่อนนุ่มน่าสัมผัส 6. ช่วยรักษาสิว
แม้ว่าในเชียร์ บัตเตอร์จะอุดมไปด้วยกรดไขมัน แต่มันก็ยังเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีเริดต่อผิวเป็นสิว เพราะมันจะไม่เข้าไปอุดตันรูขุมขน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะต่อต้านกับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดสิว ที่สำคัญเชียร์ บัตเตอร์ยังช่วยลดรอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิวด้วยนะ 7. บรรเทาผิวหนังที่ด้านหนา
ผิวหนังที่ด้านหนา อย่างพวกตามข้อศอก ตาตุ่ม หรือในส่วนต่าง ๆ ที่ไม่อ่อนนุ่ม เมื่อสัมผัสไปแล้วก็รู้สึกรำคาญใจ ปัญหานี้สามารถใช้เชียร์ บัตเตอร์เข้ามาช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มลงได้ ใครที่มีปัญหานี้ก็ลองนำเชียร์ บัตเตอร์มาบำรุงผิวดูนะคะ รับรองว่านุ่มน่าสัมผัสกว่าเดิมแน่นอน
โอ้โห … ประโยชน์เยอะจริง ๆ เลยนะเนี่ย แบบนี้รีบไปตามหาเชียร์ บัตเตอร์ มาบำรุงผิวกันดีกว่า หากใครที่ต้องการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นและไม่อยากให้ผิวดูแก่กว่าวัย. รีบเลยค่ะ
🌾🌾ราคาถูก. แต่คุณภาพ Organic 100%🌾🌾
🍀🍀Shea Butter 100% Organic >>> The secret of beauty from Africa🍀🍀
หายไปนาน.....กลับมาแล้วนะคะ 🥰
***นำบทความเกี่ยวกับพลาสติกมาแชร์ค่ะ***
cr: ต้นทาง
💅🏼บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ไม่นิยมใช้ #3 และ #6 นะคะ
💄ก่อนทำการผลิตเพื่อจำหน่ายควรมีการทดสอบตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กับบรรจุภัณฑ์นั้นๆก่อน ว่ามีความเข้ากันมากน้อยแค่ไหน เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์นั้นไหม
🧴ต้องดูความจำเพาะของพลาสติกที่ใช้ กับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ด้วย สารบางตัวมีฤทธิ์กัดกร่อน(แบบช้าๆ)กับพลาสติกบางตัว
การอ่านฉลาก หรือ ดูรายละเอียดบรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่เราจะเลือกใช้นั้น สำคัญเป็นอับดับต้นๆนะคะ
👉🏻 อ่านและเลือกเถอะค่ะ เพื่อตัวเราเองและสิ่งแวดล้อมนะคะ ♻️🧴🧼🍀
เพื่อน ๆ เคยสังเกตเห็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมเล็ก ๆ ที่อยู่บรรจุภัณฑ์พลาสติกต่าง ๆ ไหม? เจ้าสัญลักษณ์นี้มีไว้บอกประเภทของพลาสติกที่นำกลับไปรีไซเคิลได้ ช่วยให้เราคัดแยกขยะพลาสติกได้สะดวกและง่ายมากขึ้นนั่นเอง ไปดูกันว่าแต่ละสัญลักษณ์หมายถึงพลาสติกแบบไหน นำไปรีไซเคิลเป็นอะไรได้บ้าง
♻เบอร์ 1 PET, PETE คือ โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate) ใช้ทำขวดน้ำดื่ม ขวดน้ำอัดลม น้ำมันพืช ถุงขนม เป็นพลาสติกที่ปลอดภัยแต่ก็ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
✅ รีไซเคิลเป็นเส้นใยสำหรับทำเสื้อกันหนาว พรม ใยสังเคราะห์ในหมอน ถุงหูหิ้ว กระเป๋า
♻เบอร์ 2 HDPE คือ โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene) ใช้ทำขวดนม ขวดน้ำผลไม้ โยเกิร์ต ขวดน้ำยาทำความสะอาด ขวดแชมพู ถุงหูหิ้ว โต๊ะเก้าอี้ เป็นที่พลาสติกปลอดภัยไม่มีสารเคมี
✅ รีไซเคิลเป็นขวดน้ำมันเครื่อง ท่อหรือลังพลาสติก ไม้เทียมทำรั้ว
♻เบอร์ 3 PVC คือ โพลีไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) ใช้ทำท่อน้ำประปา สายยาง แผ่นฟิล์มห่ออาหาร แผ่นพลาสติกทำประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น ถุงหูหิ้วขนาดเล็ก อุปกรณ์สำนักงาน เมื่อถูกเผาไหม้จะปล่อยสารพิษออกมา จึงไม่ควรนำอาหารร้อน ๆ ใส่ในถุงหูหิ้วที่ทำจากพลาสติก PVC โดยตรง
✅ รีไซเคิลต่อเป็นท่อน้ำประปา กรวยจราจร เฟอร์นิเจอร์ ม้านั่งพลาสติก
♻เบอร์ 4 LDPE คือ โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (Low Density Polyethylene) ใช้ทำฟิล์มห่ออาหาร ห่อสิ่งของ ถุงเย็นแช่แข็ง ถุงขนมปัง แม้ว่าจะค่อนข้างปลอดภัยแต่ก็ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ
✅ รีไซเคิลเป็นถุงหูหิ้วพลาสติกแบบบาง ถุงดำสำหรับใส่ขยะ ถังขยะ กระเบื้องปูพื้น เฟอร์นิเจอร์
♻เบอร์ 5 PP คือ โพลีโพรพิลีน (Poly propylene) ใช้ทำภาชนะบรรจุอาหารร้อน จาน ชาม กล่องใส่อาหาร หลอดดูดน้ำ ถัง ตะกร้า กระบอกน้ำแช่เย็น ขวดบรรจุยา ส่วนใหญ่แล้วเข้าไมโครเวฟได้แต่ต้องตรวจดูสัญลักษณ์ไมโครเวฟอีกทีเพื่อความชัวร์
✅ รีไซเคิลเป็นกล่องแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนในรถยนต์ ไม้กวาดพลาสติก
♻เบอร์ 6 PS คือ โพลีสไตรีน (Polystyrene) ใช้ทำพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น จาน ชาม ช้อนส้อม โฟม แก้ว สามารถปล่อยสารก่อมะเร็งได้เมื่อโดนความร้อน จึงไม่ควรนำมาใช้ซ้ำในระยะยาว
✅ รีไซเคิลเป็นไม้แขวนเสื้อ ไม้บรรทัด แผงสวิตช์ไฟ ฉนวนความร้อน แผงไข่ เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ
♻เบอร์ 7 Other พลาสติกอื่น ๆ เช่น PC หรือ โพลีคาร์บอนเนต (Polycarbonate) พบบ่อยในส่วนประกอบของแว่นกันแดด, เคสไอพอด, เคสคอมพิวเตอร์, แผ่น CD-DVD, เสื้อกันกระสุน, ขวดแกลลอน 5 ลิตร แม้กระทั่งขวดนมเด็ก โดยปกติจะมีสาร BPA หรือ Bisphenol A ที่เป็นอันตรายปะปนอยู่ เมื่อถูกความร้อน เช่น เข้าไมโครเวฟ หรือโดนสารกัดกร่อนที่มีฤทธิ์แรงก็จะยิ่งปล่อยสาร BPA ออกมาปนเปื้อนมากขึ้น จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง
✅ รีไซเคิลเป็นขวดน้ำ กล่องและถุงบรรจุอาหาร กระสอบปุ๋ย ถุงขยะ
รู้แบบนี้แล้ว ก่อนทิ้งขยะพลาสติกครั้งต่อไปเพื่อน ๆ ลองสังเกตสัญลักษณ์แล้วคัดแยกขยะ เพื่อให้เจ้าพลาสติกถูกนำกลับมาใช้ต่ออย่างคุ้มค่ามากที่สุด ไม่ต้องถูกเอาไปทิ้งปะปนอยู่กับธรรมชาติรอวันย่อยสลายยาวไกลนับพัน ๆ ปีนั่นเอง
เรียบเรียงข้อมูลจาก naturalsociety.com, wontogether, posttoday.com
บทความดีๆของเชียร์บัตเตอร์ จาก ค่ะ 🌰🧀🥰
Campus Star | 9 ประโยชน์จาก เชีย บัตเตอร์ – มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เชีย บัตเตอร์ (Shea Butter) ได้มาจากถั่วของต้นแอฟริกันเชีย (Vitellaria Paradoxa) เป็นกลุ่มกรดไขมันที่อุดมด้วยวิตามิน A, D, E และ F และ...
หนาวแล้วนะคะ....แดดแรงมาก UV ก็แรงเช่นกัน
#อย่าไว้ใจครีมกันแดด
ครีมกันแดดที่ใช้อยู่อาจไม่ช่วยกันแดด ซ้ำยังอาจเป็นอันตราย จากการสำรวจผลิตภัณฑ์กันแดดในตลาดสหรัฐอเมริกากว่า 1,700 ชนิดพบว่ามีเพียง 21 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีประสิทธิภาพกันแดดและใช้ได้อย่างปลอดภัย
Environmental Working Group’s (EWG) กลุ่มองค์กรอิสระที่ทำงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสารเคมีเป็นพิษในสหรัฐอเมริกา ได้สำรวจผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่ามีคุณสมบัติกันแดด 1,700 ชนิด (รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากครีมกันแดด เช่น มอยซ์เจอไรเซอร์,ลิปบาล์ม ที่โฆษณาว่ามีส่วนผสมของสารกันแดด) เพื่อเป็นคู่มือผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเล็ต(ยูวี) ได้จริง
เดฟ แอนดรูวส์ นักวิทยาศาสต์อาวุโสประจำ EWG ให้ข้อมูลว่า ครีมกันแดดทุกตัวไม่ได้มีประสิทธิภาพกันแดดเท่ากันหมด การซื้อจากคำโฆษณาจึงไม่เพียงพอ
“ผลิตภัณฑ์กันแดดหลายชนิด ไม่ได้ช่วยป้องกันรังสียูวีได้เพียงพอ บางชนิดมีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายเช่น Oxybenzone และ retinyl palmitate ที่เป็นสารรบกวนการทำงานของฮอร์โมน ที่มาในรูปแบบของวิตามินเอ ซี่งอาจทำลายผิว”
EWG พบว่าผู้ผลิตบิดเบือนข้อมูลหลายอย่างผ่านคำโฆษณาสรรพคุณ เช่น ครีมกันแดดแบบสเปรย์ที่ถูกยกให้เป็น Hall of shame ไม่สามารถปกป้องผิวได้เพียงพอ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดสเปรย์ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อสูดดมเข้าไป แต่ก็ยังนิยมใช้ในสหรัฐอเมริกาเพราะง่าย สะดวก รวดเร็ว องค์การอาหารและยาสหรัฐหรือFDA ก็เคยออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่แบนสักที
sunscreen2
รวมถึงการใส่ส่วนผสมที่อันตรายลงไป เช่น oxybenzone ที่เป็นสารรบกวนการทำงานของฮอร์โมน งานวิจัยบางชิ้นพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับการเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในสตรีสูงอายุ
อีกส่วนผสมสำคัญที่ผลิตภัณฑ์กันแดดมาใส่ลงไปคือ retinyl palmitate ซึ่งมาในรูปของวิตามิน A ที่มีส่วนก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
หรือๆผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่ามีค่า SPF เกิน 50 เพราะจากข้อมูลของ EWG ค่า SPF สูงสุดอยู่ที่ 30-50 เท่านั้น และ ค่า SPF สูงๆ เหล่านี้ไม่เคยโฆษณาโดยการบอกว่าป้องกันได้แค่รังสียูวีบี แต่ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอได้น้อยมาก ซึ่งเมื่อรังสียูวีเอซึมลงไปในผิวหนัง จะไปก่อกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังได้
จากข้อมูลของ Watchdog (องค์กรอิสระที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เอกชน และองค์กรอิสระด้วยกันเพื่อประโยชน์สาธารณะ) เผยว่า เมื่อพิจารณาจากส่วนผสมและวิธีการโฆษณาแล้ว ผลิตภัณฑ์กันแดดประมาณครึ่งหนึ่ง “ไม่สามารถวางขายในยุโรปได้” อันเนื่องมาจากกฎระเบียบของสหภาพยุโรปที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกา กฎระเบียบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองในปัจจุบัน อนุญาตให้ผู้ผลิตเติมส่วนผสมประเภทสารไม่ออกฤทธิ์ลงไปในผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งรวมถึงสารเคมีต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนต่างๆ ของร่างกาย หรือทำลายผิว และก่อให้เกิดอาการแพ้
EWG ยังเสริมอีกว่า งานวิจัยหลายชิ้น แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเชื่อคำของสรรพคุณในโฆษณา เกี่ยวกับการป้องกันแสงแดด และ ผลก็คือ คนที่ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูง มีแนวโน้มที่จะออกแดดนานกว่า และ มีโอกาสผิวไหม้ได้มากกว่า
สามารถติดตามตรวจสอบรายชื่อผลิตภัณฑ์กันแดดในสหรัฐอเมริกาที่ปลอดภัยและอันตรายทั้งหมดได้ที่ http://www.ewg.org/2015sunscreen/
จากบทความของ Way Magazine 🥰
EWG's 2018 Guide to Safer Sunscreens Almost three-fourths of the products we examined offer inferior sun protection or contain worrisome ingredients like oxybenzone, a hormone disruptor, or retinyl palmitate, a form of vitamin A that may harm skin.
#เกลือก็คือเกลือ ค่ะ
🤔
วันนี้แอดก็จะมาเล่าถึง #เกร็ดความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ เกี่ยวกับ #เกลือหิมาลายัน ที่มีราคาแสนแพงมาให้ฟังกันนะครับ 😁😁
เนื่องจากว่าเกลือหิมาลายัน (Himalayan salt) นั้นเป็นเกลือที่มีสีชมพูที่มีการเคลมว่าดีต่อสุขภาพกว่าการใช้เกลือธรรมดา เนื่องจากชูจุดขายว่ามีแร่ธาตุมากมายกว่าเกลือปกติ อีกทั้งยังมีสีที่ดึงดูดผู้ประกอบอาหาร รวมไปถึงความไฮโซเวลาที่ปรุงอาหารบนโต๊ะแบบเก๋ๆกันเลยทีเดียว
ปกติแล้วเกลือหิมาลายันนั้นเป็นเกลือที่มีลักษณะคล้ายหิน (rock salt) ที่ผลิตได้จากรัฐปัญจาป (Punjab) เป็นหลักที่ใกล้ๆเทือกเขาหิมาลัย เลยทำให้สามารถชูจุดขายได้ว่าขุดจากเทือกเขาหิมาลัยกันเลยทีเดียว
โดยอาจจะบดเป็นเม็ดเล็กๆ เพื่อใช้ปรุงอาหารหรืออาจจะเจียรเป็นก้อนเขียงสำหรับประกอบเมนูหลายๆชนิด โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรุงรสด้วยเกลือเพิ่มด้วยนะครับ 😁
ซึ่งโดยองค์ประกอบของเกลือหิมาลายันนั้นก็จะมีโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ที่เป็นเกลือเค็มๆถึงประมาณ 98% เลยทีเดียว และจะมีแร่ธาตุอื่นปะปนอยู่บ้าง เช่น โครเมียม (Cr) , เหล็ก (Fe), สังกะสี (Zn), ตะกั่ว (Pb) และทองแดง (Cu) เลยทำให้เค้ามีสีชมพูเสริมความน่าทานของเกลือไปอีก
ซึ่งก็มีบทความโฆษณาว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าเกลือธรรมดาอย่างมากมาย แต่ปรากฏว่าแทบจะไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เลยว่าแร่ธาตุที่ปะปนมานั้นจะดีต่อสุขภาพกว่าการบริโภคเกลือราคาถูกๆกันเลย
นอกจากนั้นยังพบว่าแร่ธาตุหลายๆชนิดที่ปะปนในเกลือหิมาลายันนั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะตะกั่วที่ปะปนมา ทำให้เกลือที่ขุดได้บางแหล่งนั้นไม่สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยหากว่าไม่กำจัดสิ่งเจือปนอย่างโลหะหนักเหล่านี้ก่อนด้วยนะครับ
ซึ่งในงานวิจัยหลายๆงานนั้นถึงกับเคลมว่า แม้ว่าเกลือหิมาลายันที่กำจัดสิ่งเจือปนที่เป็นอันตรายออกแล้วนั้นจะสามารถใช้ปรุงอาหารได้รสชาติดี เนื่องจากมีรสชาติที่ไม่เค็มจัดเท่าเกลือบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ค่อยต่างจากเกลือสินเธาว์/เกลือสมุทรบ้านเราหรอกครับ 😁
แล้วแถมไม่มีหลักฐานว่าจะดีต่อสุขภาพกว่าเกลือราคาถูกธรรมดาอย่างที่โฆษณากันนะครับ จนมีประโยคที่ว่า “There is no evidence that it is healthier than using common table salt” กันเลยทีเดียว
ดังนั้นหากต้องการซื้อเกลือหิมาลายันมาใส่เพื่อปรุงแต่งรสชาติให้ดีขึ้น หรือว่ารู้สึกว่ามันสวยดีน่าสะสม ก็สามารถซื้อมาใช้ได้ตามสบาย
แต่ถ้าหากคิดว่ามันจะเป็น #เกลือสายเฮลตี้ นั้นก็จงเปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ เนื่องจากว่า #เกลือก็ยังคงเป็นเกลือ ที่มีปริมาณโซเดียมที่สูงไม่ต่างกันอยู่นั่นเองนะครับ
สุดท้ายนี้แอดก็ขอขอบคุณรูปเขียงเกลือหิมาลายันที่นิยมใช้ประกอบอาหารจากลิงก์นี้ด้วยนะครับ
http://newtonsuniverse.com/shop/himalayan-salt-plate-8-x-8-x-2-guaranteed-authentic-fda-aprroved/
#บางทีความชมพูนั้นดีต่อใจ
#แต่อาจไม่ได้ดีต่อสุขภาพอย่างที่คิด
#หักห้ามใจยามเห็นของสีชมพูอ่องต่องบ้างเนอะ 😁😁
ปล. ถ้าใครสนใจว่าแร่ธาตุที่เจือปนในเกลือหิมาลายันมีอะไรบ้าง ลองเข้าไปอ่านดูในลิงก์นี้นะครับ
http://www.saltnews.com/chemical-analysis-natural-himalayan-pink-salt/comment-page-1/
🌞🌻🤩
ฤดูร้อนมาถึงแล้วนะคะ สาวๆหลายคนอดไม่ได้ที่จะออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่แสงแดดบ้านเรานี่ร้าย ร้อนแรงเหลือเกิน จำเป็นต้องปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างวันและต้องฟื้นฟูดูแลผิวหลังออกแดดด้วยนะคะ
เชียร์บัตเตอร์ ฟังดูแล้วอาจจะดู มันๆเหนอะๆ ไม่เหมาะกันหน้าร้อนบ้านเราแน่นอนใช่ไหมคะ แต่.......หากเลือกได้แนะนำว่าควรเลือกที่เป็น 100%Natural ค่ะ นั่นคือเราจะได้คุณสมบัติโดยตรงของเชียร์บัตเตอร์เลยค่ะ
ก่อนออกแดด : วอร์มเชียร์บัตเตอร์ด้วยฝ่ามือทั้งสองเบาๆ ให้รู้สึกอุ่นๆที่ฝ่ายมือ นวดหรือทาเบาๆลงบนใบหน้า(ก่อนแต่งหน้า) แขน ขา หรือส่วนที่ต้องโดนแสงแดดระหว่างวัน เพื่อเป็นเกราะปกป้องผิว โดยเป็นสารกันแดดที่มาจากธรรมชาติ
หลังออกแดด : วอร์มเชียร์บัตเตอร์ด้วยฝ่ามือทั้งสองเบาๆ ให้รู้สึกอุ่นๆที่ฝ่ายมือ นวดหรือทาเบาๆลงบนใบหน้า แขน ขา หรือส่วนที่ผ่านการโดนแดดระหว่างวัน เพื่อฟื้นฟู ลดบวมแดง ลดการอักเสบ แสบร้อนของผิวช่วยให้ผิวไม่ถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง
💯‼️ คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงแดดและค่าSPF ของ Shea Butter
Shea Butter จะมีค่า SPF ตามธรรมชาติที่ 6-10 ซึ่งถือว่าเป็นค่าที่สูงสำหรับส่วนผสมจากธรรมชาติ ดังนั้น สามารถใช้ Shea Butter ได้ในทุกๆวันทั้งกลางวันและกลางคืน (กลางคืนมีค่า UV จากแสงไฟจากหลอดไฟ)
ส่วนประกอบใน Shea Butter ที่สำคัญ ที่ทำให้มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดด คือ มีสารประกอบเอสเทอร์ของ Cinnamic Acid (สามารถพบได้ในอบเชยเช่นกัน)
โดยสารนี้มีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาอาการบวมแดง อักเสบและระคายเคืองที่ผิวหนัง พร้อมทั้งสามารถช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยป้องกันรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อผิว ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
>> ใช้เพื่ออะไรบ้าง
ใช้ทาได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เพราะเชย์บัตเตอร์ มาจากธรรมชาติแท้ ทำให้ไม่แพ้
บางคนตอนกลางวันทาลิปสติก สะสมสารเคมีต่างๆ ตอนกลางคืนก็ดูแลด้วยเชย์บัตเตอร์
บางคนทาลิปสติกมานาน ไม่ทานี่ปากดำ พอได้หยุดมใช้ลิปสติก ลิปกรอสที่ทำร้ายผิว หยุดการใช้ทินท์ที่มีสวนผสมของสารลอกผิว แล้วใช้เชย์บัตเตอร์พบว่าเมื่อใช้ไปสักระยะ อาการจะดีขึ้น ริมฝีปากหายดำ เพราะเชย์บัตเตอร์ไม่ทำให้ระคายเคืองทั้งยังป้องกัน UV ได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องใช้เวลา
บำรุงใต้ตา ด้วยความอ่อนโยนเป็นพิเศษเพราะมาจากธรรมชาติ จึงใช้ได้แม้ส่วนที่บอบบางอย่างรอบดวงตา นำมาวอร์มบนมือให้ละลาย แล้วนวดเป็นวงกลมเบาๆรอบดวงตา เท่านี้ ก็หมดปัญหาแพนด้าลิซึ่ม
ลดริ้วรอยใบหน้า หากคุณเป็นคนหน้าแห้ง หน้าลอก ทาทั้งหน้า รับรองผิวนุ่มชุ่มชื้น หรือใครมีริ้วรอยเล็กๆ รับรองไม่นาน จะจางหายไป เพราะผิวจะมีประสิทธิภาพในการอุ้มน้ำเพิ่มขึ้น
ลดอาการแพ้ และสิวหลังโกนขน หรือหนวด หลังโกนหนวดทีไรผมมักแสบ และสิวขึ้นตามมา เมื่อทาเชียร์บัตเตอร์หลังโกนหนวด ลดอาการระคายเคือง และลดการเกิดขนขุด อันเป็นสาเหตุของสิวได้
ใครที่ตากแดด จนแสบร้อน ผิวลอก ทาเชย์บัตเตอร์อาการเหล่านี้จะช่วยได้
โดนน้ำร้อน หรือสารอะไรที่ระคายเคืองผิว มากๆ ล้างส่วนที่โดนด้วยน้ำเปล่าเยอะๆหรือปล่อยน้ำผ่าน แล้วใช้เชย์บัตเตอร์ทา หากไม่ได้โดนรุนแรง ไม่นานก็หาย แต่หากอาการรุนแรง เมื่อทาเชย์บัตเตอร์แล้วก็รีบไปหาหมอ ก็จะทำให้ผิวถูกทำร้ายน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่าไม่ทา เชย์บัตเตอร์เป็นการฟฐมพยาบาลเบื้องต้น
หรือใครที่ไปยิงเลเซอร์มาแล้วแสบร้อนผิวจนนอนไม่ได้ หมอห้ามทาครีมอะไรเด็ดขาด เชย์บัตเตอร์ช่วยได้ครับ เพราะเชย์บัตเตอร์นี้ไม่มีสารใดก่อให้ระคายเคืองและมีองประกอบใกล้เคียงกับน้ำหล่อมันเลี้ยงผิวเราตามธรรมชาติ
ด้านตรงไหน แตกตรงไหน ศอกด้าน ส้นเท้าแตก หลังจากขัดผิวด้วยอุปกรณ์ เส้นใยธรรมชาติ หรือแนะนำ มะขามเปียก ขัดผิวเสร็จ ล้าง ซับน้ำให้แห้ง แล้วทา ใช้เป็นประจำ ทาเช้า ก่อนนอน นุ่ม น่าสัมผัสอย่างใจ
ส่วนแม่บ้านท่านไหน ทำงานบ้านบ่อย มือโดนน้ำ สารชะล้างบ่อยๆ มือแห้งด้าน ไม่น่าสัมผัส ทามือบ่อยๆด้วยเชย์บัตเตอร์ ใครได้สัมผัส เป็นอันต้องหลงแน่นอน
หรือใครจะทาทั้งตัวแทนโลชั่น อันนี้ก็ไม่ว่ากัน
ข้อมูลจาก .blogspot
Photo from Internet
อายุเครื่องสำอาง หลังจากเปิดใช้แล้ว.....เก็บได้นานแค่ไหน 💄💋
Cr: อย
ห่างหายไปนาน...เป็นปี !!!
กลับมาแล้วนะคะ....ที่ห่างหายไปเพราะการงานที่วุ่นวาย ความรับผิดชอบมากขึ้น เวลาเหลือน้อยลง #ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับการเข้ามากดถูกใจ กดติดตาม และตามอ่านข้อมูลดีๆที่เรานำมาแบ่งปันกัน
วันนี้ขอพูดถึง.....วิตามิน ดี วิตามินที่ใครหลายๆคนมองผ่านกันนะคะ เป็นวิตามินที่ได้มาฟรีๆแค่รับแสงแดดวันละเล็กละน้อยในเวลาที่เหมาะสม
หรือ “วิตามินแดด” เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ร่างกายของเรา (หากยังจำกันได้ สมัยเรียนอาจารย์จะให้ท่อง วิตามินที่ละลายไขมันคือ A D E K)
เราจะได้รับวิตามินชนิดนี้จากแสงแดดหรืออาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ เพราะรังสี UV จากแสงแดดจะทำปฏิกิริยากับน้ำมันที่ผิวหนัง ก่อให้เกิดการสร้างวิตามินดีซึ่งจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกาย
วิตามินดี (Vitamin D) เป็นวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายอย่างมาก โดยมีบทบาทที่สำคัญคือการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงอย่างดีเลยทีเดียว ความสำคัญของวิตามินดีที่ขาดไม่ได้ ถ้าคุณขาดวิตามินดีเมื่อไหร่เมื่อนั้นร่างกายจะมีปัญหาทันทีทันใด
ดังนั้นอย่าลืมที่จะรับวิตามินดีจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างอยู่เสมอ โดยเฉพาะวิตามินดีจากแสงแดดให้คุณได้รับอย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว นี่คือวิตามินดีที่คุณได้รับมันมาฟรีๆ และเพียงพอต่อวัน โดยไม่จำเป็นต้องไปซื้อเพิ่มเดิมหรือกินวิตามินดีเสริมอีกต่อได้
ในส่วนของอาหารที่มีวิตามินดีสูงพบมากในไข่แดง ผักใบเขียว ในตับของสัตว์ แต่อย่างไรก็ตามวิตามินดีพบได้น้อยในอาหาร จึงจำเป็นต้องได้รับจากแสงแดดเป็นส่วนใหญ่จึงจะดีพอ
เวลาในการรับแสงแดดเพื่อให้ได้รับวิตามิน ดี นั้นอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น คือเป็นแดดอ่อนๆ จนถึงเกือบเวลา 9 โมงเช้า เพียงแค่คุณออกแดดในแต่ละวัน 10 – 15 นาทีอย่างต่อเนื่อง แค่นี้คุณก็จะได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอแล้ว
ข้อมูล : รวบรวมและเรียบเรียงจาก Internet
รูปภาพ : Credit ในภาพ
Merry X'mas & Happy New Year นะคะ
#อากาศบ้านเราเย็นลงแล้ว รักษาความอบอุ่นของร่างกายกันให้ดีๆนะคะ อย่าให้เจ็บป่วย และอย่าลืมดูแลผิวด้วยนะคะ
วันนี้เราจะนำเสนอทางเลือกในการเลือกใช้สบู่อาบน้ำที่เป็นธรรมชาติค่ะ
1. สบู่มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ??
- สบู่ธรรมชาติที่ได้จากการสปอน (Sponification) จากไขมัน/น้ำมัน ร่วมกันกับด่างแก่ (Sodium Hydroxide/Potassium Hydroxide/น้ำขี้เถ้า) ผลลัพธ์ได้ เป็นสบู่ที่มี Glycerin ธรรมชาติผสมในก้อนเดียว ให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ และบำรุงผิวตามคุณสมบัติของไขมัน/น้ำมันที่ใช้
-สบู่เบสสปอน คือการนำเบสสบู่ที่ได้จากการสปอน (ข้างต้น...อาจมีการดึง Glycerin ออก มักเกิดในอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เพื่อนำ Glycerin มาขายเป็นสารให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวต่อไป) มาหลอมละลาย แล้วเติมสี กลิ่น หรือส่วนประกอบอื่นๆลงไปเพิ่ม รวมถึงอาจมีการเติม Glycerin ลงไปเพื่อให้ความชุ่มชื่นกับผิว
2. สังเกตอย่างไรเมื่อจะเลือกซื้อสบู่ธรรมชาติ ??
สังเกตจากฉลากสินค้าที่เป็นส่วนประกอบ ....เพราะหากเป็นสบู่ที่มาจากธรรมชาติ จะต้องประกอบด้วยน้ำไมัน/ไขมัน และด่าง(ตามประเภทที่ใช้) รวมถึงมี น้ำ เป็นส่วนประกอบบนฉลาก
แต่หากเป็นสบู่เบสสปอน ชื่อส่วนประกอบที่ปรากฏจะเป็นชื่อทางเคมี ไม่ใช่ชื่อของไขมัน/น้ำมัน และจะไม่มีชื่อของด่างปรากฏ ตามกฏหมายฉลากประเทศไทย จะมีการเรียงลำดับส่วนประกอบจากมากไปหาน้อย
>
แพทย์เตือนวัยรุ่นที่ซื้อ "กรดทีซีเอ" ผ่านเว็บไซต์มาใช้เอง เพื่อหวังให้หน้าขาวใสเรียบเนียน เหมือนดาราเกาหลี เสี่ยงเสียโฉมถาวร จากฤทธิ์ของกรดที่มีความเข้มข้นสูง พร้อมแนะนำวิธีการดูแลผิวหน้าด้วยการหมั่นทาครีมบำรุงทุกคืน
นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันวัยรุ่นหนุ่มสาวไทย นิยมใช้กรดทีซีเอ มาใช้ลอกผิวหน้า หรือ ลบรอยหลุมสิว เพื่อให้หน้ามีผิวขาวใสเรียบเนียนไร้สิวฝ้าตามกระแสนิยมเหมือนดาราเกาหลี
ซึ่งที่ผ่านมามีวัยรุ่นหลายรายที่ซื้อครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของกรดทีซีเอจากอินเทอร์เน็ต อ้างสรรพคุณทำให้หน้าขาวใสรอยหลุมสิวได้เพียง 1 สัปดาห์ เมื่อนำไปใช้แล้วเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ผิวหนังที่ใบหน้าบวม แดง มีน้ำเหลือง และกลายเป็นรอยไหม้ดำทั่วใบหน้า อาจไม่สามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีก
ทั้งนี้กรดทีซีเอ มีลักษณะเป็นของเหลวใส มีความเข้มข้นแตกต่างกัน ตั้งแต่ 10 - 100 % เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่ากรดเอเอชเอ (AHA)ที่ใช้ทำเป็นครีมหน้าขาวใส และสำนักงานคณะกรรมการอาหาหารและยาหรือ อย. ไม่อนุญาตให้นำกรดทีซีเอมาผสมเป็นครีมทาหน้าขาวใส
ซึ่งปัจจุบันกรดชนิดนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังนำใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็น หูด สิว ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ไฝ และติ่งเนื้อเล็กๆ ที่ขึ้นตามลำคอ เท่านั้น
ทั้งนี้ได้แนะนำให้วัยรุ่น อย่าซื้อกรดชนิดนี้ผ่านอินเทอร์เน็ตมาใช้ เพราะอาจทำให้หน้าเสียโฉมได้ หากมีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณหรือใบหน้าขอให้ไปรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแต่หากต้องการใช้ครีมทาหน้าขาวใส ควรเลือกใช้ครีมที่มีส่วนประกอบของเอเอชเอ ซึ่งเป็นกรดจากผลไม้ ที่ผสมในครีมต้องไม่เกิน 4 เปอร์เซ็นต์
Cr: http://www.lerdsin.go.th/modules.php?name=News&file=article&sid=3837
โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - แพทย์เตือน "กรดทีซีเอ"เสี่ยงหน้าพัง โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
**ไขความลับของน้ำมัน**
oil >> กรดลอริค ในน้ำมันมะพร้าว เป็นกรดไขมันขนาดกลาง สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทันที ไม่สะสมเป็นไขมัน
oil >> เป็นน้ำมันชนิดเดียวที่ให้สาร resveratrol ที่ช่วยต้านมะเร็งและโรคหัวใจหลอดเลือด
seed oil >> อุดมไปด้วยกรดอัลฟ่าไลโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า3 หรือ ALA เหมาะสำหรับคนทางมังสวิรัติและแพ้อาหารทะเล(น้ำมันปลา)
seed oil >> sesamin ในน้ำมันงาสกัดเย็น ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกในร่างกาย
อ้างถึง
-ข้อมูลจาก วรสารเพื่อนสุขภาพ ฉบับที่2 ปีที่17 เดือน พค-มิย 58
-รูปภาพ จาก internet
Infused Water ???
>>Infused water เป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับอาหารประเภท Clean Food
>>>Infused water หรือน้ำหมักผลไม้ ฮิตมากที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่คนรักสุขภาพ โดยเฉพาะตระกูลเบอรี่เมื่อนำมาใช้ทำ infused (infusion) สารละลายน้ำได้อย่างพวกสารให้สี เมื่อเอาไปเช็คค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) แล้วพบว่าสูง จึงเป็นที่มาว่า Infused water มีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ (antioxidant)
นอกเหนือจากนี้ Infused water ยังให้ผลในเรื่องการ Detox หรือระบายอ่อนๆ เมื่อดื่มตอนเช้าหลังจากตื่นนอน จะช่วยให้สดชื่นและได้รับวิตามินและเกลือแร่จากผักและผลไม้ชนิดนั้นๆทันที
>>>เปลี่ยนจากน้ำอัดลมเป้นน้ำหมักผลไม้ ดีกว่าไหม??
Infused water ให้ประโยชน์ในหลายส่วน อีกทั้งยังสามารถดีไซน์ให้สวยงามได้ตามใจ เพียงเลือกผลไม้ที่ชอบสีสันสดสวย มาใส่ในขวด พกไปทานได้ทุกที ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัย ที่ทำงาน หรือ ฟิตเนต
#น้ำที่ใช้สำหรับทำ Infused water
1.น้ำแร่ : น้ำแร่สำหรับดื่มทั่วๆไป หรือจะเป็นน้ำแร่ชนิดที่มีฟอง (Sparkling Mineral Water ส่วนมากแนะนำในต่างประเทศ) เพราะให้ความสดชื่น ลดความเหนื่อยล้า อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ดีต่อสุขภาพ
2.น้ำสะอาด : ในความหมายของ easycooking คือ น้ำกรองตามบ้านเราปกติเลยค่ะ ที่เราใช้ดื่มที่บ้านนั่นแหล่ะเอามาใช้ได้เลยค่ะ
3.น้ำแข็ง : อันนี้แล้วแต่ความชอบนะคะ จะไม่ใช้น้ำแข็งก็ได้ค่ะ (แต่หากใครต้องการความเย็นสดชื่นแบบเร่งด่วน ให้เลือกใช้น้ำแข็งอนามัย หรือน้ำแข็งทำเอง) เพราะหากเลือกน้ำแข็งไม่สะอาดมีการปนเปื้อนสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า เผลอๆอาจท้องร่วงได้ด้วยค่ะ
#ผักผลไม้ที่นิยมใช้ทำ Infused water
ในส่วนนี้ไม่มีอะไรตายตัวค่ะ ขึ้นกับความชอบและการดีไซน์ของแต่ละคนล้วนๆเลย
อุปกรณ์
เหยือกแก้วหรือขวดพาสติกที่มีฝาปิด หากสงสัยให้ search คำว่า ขวดสำหรับทำ Infused water ใน google คุณจะพบคำตอบมากมาย แต่! ไม่ต้องไปซีเรียสตามแฟชั่น ลองหาขวดในบ้านที่เรามีอยู่แล้ว มาใช้ก็ได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือเราเริ่มทำและดื่มน้ำหรือยัง ?
วิธีทำ
1.นำผัก หรือผลไม้ที่ชอบมาล้างให้สะอาด
2.นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เด็ดเป็นใบ หรือทั้งก้าน ตามสะดวก (ให้ใส่ขวดได้เป็นพอ)
3.ใส่ขวดหรือกระบอกที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนยาวๆ บี้เค้านิดหน่อยให้น้ำผลไม้ และน้ำมันหอมระเหยของผักออกมา ใส่น้ำแข็งลงไป ตามด้วยน้ำสะอาด ปิดฝาแช่เย็น ในกรณีต้องทานทานแบบเย็นสะใจ แช่ไม่นาน (แต่ถ้าต้องการหมักข้ามวัน ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำแข็งค่ะ)
4.หมักขั้นต่ำ 1 ชั่วโมง (บางสูตรพอน้ำหมดเติมใหม่ใช้ได้สองถึงสามวัน) หรือจะหมักตอนเย็นวันนี้เพื่อทานพรุ่งนี้ทั้งวัน และหลายคนสงสัยว่าผลไม้ในขวดทำยังไงกับมัน ถ้าไหวก็กินเข้าไปด้วยเลยค่ะ ไม่ต้องทิ้ง เสียดายมันค่ะ
ประโยชน์ที่ได้
1.ช่วยลดการทานน้ำอัดลมได้เยอะมาก เพราะเป็นคนติดน้ำอัดลม และแทบไม่ทานน้ำเปล่าเลยค่ะ
2.สีสันที่สวยงาม รสชาติเปรี้ยวนิดหอมหน่อย จากผลไม้และสมุนไพร ทำให้ชวนดื่มมากๆ
3.เป็นคนท้องผูกมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ต้องกินผักเยอะมากจึงจะขับถ่ายปกติ แต่พอดื่มเจ้า Infused water การขับถ่ายดีขึ้นมากค่ะ สิวแทบไม่ขึ้นอีกเลย
4.เป็นคนผิวแห้งมาแต่เด็กๆ ตอนนี้ก็ยังแห้งอยู่นะ แต่ผลจากการดื่มน้ำมากๆ ทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น (ไม่ถึงขนาดกลายเป็นคนผิวดี แต่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะค่ะ)
5.แน่นอนจากการดื่มน้ำผลที่ตามมาคือ การเข้าห้องน้ำบ่อยมาก (แต่ถ้าเราคิดดีๆ การเดินไปเข้าห้องน้ำแลกมาด้วยสุขภาพที่ดี ผิวพรรณดี ไม่ต้องทรมาณเวลาท้องผูก หรือเสียเงินค่าครีมแพงๆมาพอกตัว ซึ่งมันคุ้มนะคะ)
Cr: fb.com/easycookingmenu (ปล...แอดมีตัด-แก้ไขนิดหน่อยค่ะ)