NDeP - Neuro Decoding Program

NDeP - Neuro Decoding Program

Share

NDeP คือศาสตร์การถอดรหัสโปรแกรมสมองเ?

19/10/2021

"แรงจูงใจ สร้างได้เอง"

กฎ “เหตุต้น ผลลัพธ์” ไม่เพียงสามารถใช้อธิบาย สาเหตุของการลงมือทำ หรือ เหตุการณ์ที่พบเจอได้เท่านั้น ในทางกลับกัน ผู้ที่เข้าใจกฎนี้อย่างแท้จริง ยังสามารถนำไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ หรือสร้างแรงจูงใจด้วยตนเอง ให้เกิดการลงมือทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย ได้เป็นอย่างดี

จากกฎ “เหตุต้น ผลลัพธ์” ที่มีอยู่ว่า การกระทำใด ๆ เป็นผลมาจากอารมณ์ และอารมณ์เป็นผลที่เกิดมาจากความคิด นั้น

ความคิดจึงเป็นต้นเหตุ ของการกระทำ หรือ การลงมือทำ ในทุก ๆ เหตุการณ์

ดังนั้น "การปรับ" หรือ "พัฒนา" ความคิด เพื่อนำไปสู่การเกิดอารมณ์ที่ดี หรือ อารมณ์ที่เหมาะสม อันจะนำไปสู่ การกระทำ หรือ การลงมือทำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงมีความจำเป็น และ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้

การ ถามตนเอง ด้วยคำถามที่เหมาะสม หรือที่เรียกว่า “คำถามที่ดี” คือสิ่งที่จะสามารถใช้ในการ “ปรับ” หรือ “พัฒนา” ความคิดของตนเองได้ โดยลักษณะของคำถามที่ดี คือ เป็นคำถามชวนให้คิด และเป็นคำถามปลายเปิด

กล่าวโดยสรุปคือ เพียงสามารถใช้คำถามที่เหมาะสม ในการถามตนเอง คุณก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้

11/10/2021

“เหตุต้น ผลลัพธ์”

คุณเคยพูดกับตัวเอง หรือ ได้ยินใครบางคนพูดว่า “วันนี้ไม่มีอารมณ์ทำงาน” หรือไม่

และเคยสงสัยไหมว่า การลงมือทำอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับอารมณ์ได้อย่างไร?

กฎ “เหตุต้น ผลลัพธ์” สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ครับ

กฎ “เหตุต้น ผลลัพธ์” มีอยู่ว่า การกระทำใดๆ เป็นผลมาจากอารมณ์ และอารมณ์เป็นผลที่เกิดมาจากความคิด เรียงลำดับขั้นตอนของการแสดงออกทางพฤติกรรมหรือการกระทำ ได้คือ

ความคิด -> อารมณ์ -> การกระทำ

ความคิดคือสิ่งที่เกิดขึ้นใน หัวหรือสมอง ของเรา อาจจะเป็น ภาพ เสียง ความรู้สึก หรือแม้กระทั่งเรื่องราว ซึ่งความคิดจะเกิดขึ้นจากการจินตนาการตามประสบการณ์ที่เคยได้รับในอดีต และความคิดเหล่านี้จะส่งผลให้เรานั้นเกิด อารมณ์ เช่น อารมณ์ดี อารมณ์รัก อารมณ์เบื่อ อารมณ์เสีย หรืออารมณ์โกรธ และอารมณ์เหล่านี้เองจะเป็นตัวกำหนดให้เกิดผลลัพธ์เป็น การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งของเรา

จากประโยคข้างต้นที่ว่า “วันนี้ไม่มีอารมณ์ทำงาน” ผู้พูดได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการทำงาน เนื่องจากไม่มีอารมณ์ที่จะทำงาน ซึ่งหากมองให้ถึงความคิดขณะนั้นของผู้พูดก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้พูดกำลังคิดถึงความเครียด ความเหนื่อยล้า ที่จะเกิดขึ้นในขณะทำงานซึ่งอาจจะเป็นประสบการณ์ที่เคยได้พบมาในอดีต นั่นเอง

04/10/2021

IDENTITY : Switch or Swing ?

Identity หรือที่เข้าใจกันว่า คือ ตัวตน เอกลักษณ์ ลักษณะเฉพาะของ บุคคล อาชีพ หรือ บทบาทที่แตกต่างกัน เช่น Identity ของ แพทย์ ครู นักขาย สามี ภรรยา พ่อ แม่ ลูก พี่สาว และอื่นๆ อีกมากมาย

Identity แต่ละชนิด จะส่งเสริมการทำงานหรือหน้าที่ที่แตกต่างกันไป และเนื่องจาก ในช่วงเวลาของวันที่แตกต่างกัน เรานั้นไม่ได้มีหน้าที่หรือบทบาทเดียว

จะดีแค่ไหน? ถ้าเราสามารถสลับ (Switch) Identity ให้มีความเหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ของแต่ละช่วงเวลา เปรียบได้กับการเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสมกับงาน ในทางกลับกัน หากเลือกใช้เครื่องมือนี้ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ (Swing)

ดังนั้น การเรียนรู้ และทำความเข้าใจ ความคิดและการแสดงออกในแต่ละพฤติกรรมของแต่ละ Identity จึงมีความสำคัญสำหรับโลกในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะสามารถ ปรับหรือสลับการใช้ Identity ได้อย่างเหมาะสม ในแต่ละช่วงเวลา

07/09/2021

เราจะรู้ได้ยังไงว่าเรามีอาการ
“ป่วยทางจิต” ครับพี่เพียว
คำถามที่ต้องบอกว่า “มาถูกทาง”
เพราะถ้าเผอิญเรารู้ว่าเราป่วย
เราก็จะได้หาทางป้องกันและรักษามันได้
สังเกตง่ายๆ เลยครับ
ถ้าลองให้นั่งอยู่ในห้องคนเดียว
หรืออยู่คนเดียวสักพัก
แล้วปรากฏว่า
เราเกิดคิดมาก เครียด หงุดหงิด
เศร้าซึม วิตกกังวล นั่นก็หมายความว่า
สติปัญญาของเราได้หันกลับมาทำร้ายเราเอง
เปรียบเสมือนคนถือมีดคมๆเล่มหนึ่ง
แล้วก็เอามีดมาทิ่มตัวเองให้เลือดออก
แถมไม่ได้จิ้มครั้งเดียว จิ้มแล้วจิ้มอีก
แล้วก็ถามตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงเจ็บ”
แบบนี้เรียกว่า “ป่วยจิต” หรือเปล่าครับ?
ต่อเมื่อเราเรียนรู้ที่จะสั่งการให้
“ความคิด” และ “อารมณ์”
เป็นไปในแบบที่เราต้องการได้
เมื่อนั้นอาการเหล่านี้ก็จะหายไป
และนั่นก็เป็นเหตุผลว่า
ทำไมเราถึงต้องมาเรียนเรื่อง
“Inner Management” กันยังไงครับ
จะเป็น NDeP โค้ชต้องจัดการเรื่องนี้ไห้ได้นะ

12/08/2021

ความสำคัญของ “ความเป็นแม่”
ไม่ใช่เพียงแค่เป็น “ผู้ให้กำเนิด”
ตามกระบวนการธรรมชาติเท่านั้น
แต่มันหมายถึง “ความเต็มใจ” “ความยินดี”
ที่ยอมรับและโอบอุ้ม “อีกชีวิตหนึ่ง”
ให้มาเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของชีวิตตัวเอง
น้อมคารวะ “คุณแม่” ทุกท่านครับ

The significance of motherhood is not in the biological process but in the willingness to include another life as a part of yourself. Sadhguru

28/07/2021
13/07/2021

เช็คชีวิตก่อนคิดไปต่อ by Coach Jua (NDeP Coach)

04/07/2021

“คิดมาก” กับ “ท้องเสีย” คนละเรื่องเดียวกัน???

ท้องเสียถ่ายไม่หยุด!
คนเคยเป็นคงรู้ว่ามันทรมาน
อยากให้มันหยุดมากแค่ไหน
แต่ก็ไม่สามารถควบคุมอะไรมันได้
เกิดจากกลไกของ “ร่างกาย” ที่พยายามขับ
สิ่งที่มันไม่เหมาะกับร่างกายเราออกมา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะ
เรากินอาหารที่ “เป็นพิษหรือผิดปกติ” เข้าไป
คิดมากวิตกกังวลเครียดเศร้าเหงาใจ
คนเคยเป็นก็คงรู้อีกเช่นกันว่าทรมาน
อยากให้มันหยุดมากแค่ไหน
ก็ไม่สามารถควบคุมอะไรมันได้
เกิดจากกลไกของ “จิต” ที่พยายามขับ
สิ่งที่มันไม่ใช่ “ตัวจิตเดิมแท้” ออกมา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะ
เราดันไป “หลงยึดติด” ในสิ่งที่ “ไม่ใช่ตัวเรา”
เมื่อคุณเริ่มกำหนดตัวตนและให้ข้อสรุปเกี่ยวกับ
ตัวคุณเองและสิ่งต่างๆเมื่อไหร่
เมื่อนั้น “ความคิด” “อารมณ์” “ความรู้สึก”
ของคุณจะหลั่งไหลท่วมท้นออกมา
อย่างกับกินยาระบาย
ต่อเมื่อเรากินอาหารที่มันใช่กับร่างกาย
ต่อเมื่อเราไม่ยึดติดกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา
เมื่อนั้น “อาการไม่พึงประสงค์” ทั้งหลาย
จะหยุดเองอัตโนมัติครับ

02/07/2021

“เมื่อสมองเราถูกถอดรหัสโปรแกรมออกมา
เราจะได้ผลลัพธ์อะไรในชีวิตที่ดีขึ้นเหรอ??”🤔🤔🤔
มาดูผลลัพธ์จากผู้เข้าเรียนหลักสูตร Goal Coaching รุ่นที่ 2กันครับ
💪ด้านสุขภาพโดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักตัวได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายเฉลี่ย 112% โดยความพึงพอใจเพิ่มไปที่ 80%
💰ด้านการเงินมีความพึงพอใจในผลลัพธ์ตัวเองเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 เท่าโดยคิดจากคนที่ให้คะแนนด้านนี้น้อยที่สุดและเกี่ยวเนื่องไปกับความพึงพอใจด้านอาชีพที่ขยับไปถึง 70-80%
😄ด้านอารมณ์พบว่ามีความพึงพอใจในการจัดการอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้นถึง 70% จากแต่ก่อน 30-40%
😝ด้านความสนุกสนานในชีวิตรวมไปถึงด้านจิตวิญญาณที่ถามหาการมีคุณค่าของเราก็เพิ่มระดับความพึงพอใจไปที่ 80-90%
ความมหัศจรรย์ของคอร์สนี้ก็คือเมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว
ใช้กระบวนการโค้ชแบบถอดรหัสโปรแกรมภาษาสมอง
(NDeP) จะช่วยปลดล็อกให้ชีวิตเราง่ายขึ้น พาก้าวข้ามอุปสรรค ทำให้มีโฟกัสกับเป้าหมาย สามารถสร้างความสุขให้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง💯
ดังนั้นผลสำรวจความพึงพอใจในแต่ละด้านของชีวิตล้วนแล้วแต่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้นโดยเพิ่มขึ้นไปถึง 70-90%
คนที่สุขภาพดี อารมณ์ ความสัมพันธ์และความสนุกสนานรวมถึงการรู้สึกมีคุณค่าในชีวิตก็เพิ่มขึ้นด้วย คนที่ตั้งเป้าหมายทางการเงิน ทั้งความพึงพอใจในอาชีพ ความสัมพันธ์ อารมณ์ก็ดีตามไปด้วยเช่นกัน 😃
เมื่อทำแบบสอบถามและประเมินผลในเชิงคุณภาพก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้กัน จากคำถามที่ว่า🧩
สิ่งที่คุณได้ประโยชน์มากที่สุดหรือผลลัพธ์ที่คุณได้กับตัวเองมากที่สุดจากการเรียนคืออะไร???
🎯สูตรในการสร้างผลลัพธ์ความสำเร็จ 5 ข้อ
🎯ได้แนวทางในการใส่ความเชื่อให้กับสมอง
🎯การตั้งเงื่อนไขความสุข และการลงมือทำ
🎯การตั้งโจทย์ที่ดีสำหรับทุกๆวัน
🎯การตั้งเป้าหมายและสูตรลับความสำเร็จ
🎯ชีวิตง่ายขึ้น
ถ้ามีคนถามคุณว่าหลักสูตรนี้ดียังไง ช่วยคุณได้อย่างไรคุณจะตอบว่าอย่างไร???
😁ช่วยในการวางแผนชีวิต
😁สามารถพาคุณไปหาทางออกได้ดีมาก
😁ต้องมาลองพิสูจน์ครับ
😁เข้าใจตนเองและทำให้มีพลังในการบรรลุเป้าหมาย
😁ได้แนวคิดใหม่ๆช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
😁เปลี่ยนสมอง
😁ช่วยทำให้มุ่งมันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมาย

ผลสำรวจว่าอยากให้ใครได้มาเข้าเรียนต่อ
ก็จะมีหลากหลายมากตั้งแต่น้องทีมงาน เพื่อนร่วมงาน
ทีมงานระดับKeyman คนที่อยากใช้งานสมองมากกว่าถูกสมองใช้งาน!!!👏👏👏

นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณพลาดไม่ได้เลยว่า
ถ้าคุณอยากได้ผลลัพธ์ใหม่ๆในชีวิต
ให้ลงเรียนคอร์ส Goal Coaching รุ่น 3 ทันทีครับ
เรียนทั้งหมด 7 ครั้งผ่านโปรแกรม Zoom (วันพุธทั้งหมด) เวลา 19.30 - 21.00 น.
เดือน สิงหาคม วันที่ 11 และ 18
เดือน กันยายน วันที่ 1 , 8 , 15 , 22 และ 29
ราคา 16,900 บาท
พิเศษส่วนลดอีกกว่า 20%
เหลือเพียง 12,900 บาท
รับเพียง 10 ท่านเท่านั้น
ติดต่อ โค้ชจั๊ว Attakorn Thanyalakmetha
โทร 0626355941
Line id : attakornt

#โค้ชเพียว Weerapong Sattaphon

(NeuroDecodingProgram)

# # บนโลกนี้ไม่มีคนขี้เกียจหรอก มีแต่คนที่ไร้เป้าหมาย # #
คำกล่าวนี้ดูจะเป็นความจริงแท้แน่นอน
เพราะถ้าไล่ย้อนดูคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย
ทำไมเค้าถึงได้ขยันและลงมือทำอะไรเยอะและหนักขนาดนั้น
คงไม่ใช่เพียวเพราะเค้าอยากทำหรือแค่นึกขยันเป็นแน่
แต่เป็นเพราะเค้ามีปัจจัยบางอย่าง
ที่ทำให้อยู่เฉยไม่ได้ต้องลุกขึ้นมา
ลงมือทำอย่างบ้าคลั่ง
เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือให้ได้มาซึ่งบางสิ่งบางอย่าง
และสิ่งนั้นเรียกว่า “เป้าหมาย” นั่นเอง
เป้าหมายหรือ Goal
เชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมายแต่จะมีมากน้อยแตกต่างกันไป
จะเป็นสิ่งของ เงินทอง ความสัมพันธ์หรือความสุข
อยู่ที่ความพึงพอใจของแต่ละคน
ไม่มข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น
แต่แน่นอนว่าเป้าหมายย่อมหมายถึง
“สิ่งที่อยู่ไกลออกไปและยังมาไม่ถึง”
มันต้องเกิดการลงมือทำบางอย่างเสมอเพื่อให้ได้มา
และคนส่วนใหญ่พอตั้งเป้าหมายที่คิดว่าใช่
ก็ไปลงมือทำ ทำ และทำ
แต่ทำไปทำมาพลังที่เคยมีมันหายไปไหนหมด
บางคนอาจเกิดคำถามขึ้นในใจตามมาอีกว่า
“เรากำลังทำอะไรอยู่ เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร”
ถ้ามีคำถามนี้เกิดขึ้นระหว่างทาง
บางทีเป้าหมายที่คุณตั้งขึ้นมา
อาจไม่ใช่เป้าหมายที่ใจคุณต้องการจริงๆ ก็ได้
อาจเป็นเพียงแค่เป้าหมาย “ทั่วไป” ของใครหลายคน
ที่บังเอิญคุณไปเห็น ไปได้สัมผัสมา
แล้วเกิดความรู้สึกอยากได้ อยากมี อยากเป็น
หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤก็คือ Want นั่นเอง
คำว่า want นั้นยังไม่ใช่คำที่มีพลังมากพอ
มันยังไม่ลงลึกไปในระดับความรู้สึก
มันเป็นเพียงความคิดที่ผุดขึ้นมาชั่วคราว
และจะเลือนลางหายไปหลังจากนั้นไม่นาน
แต่ถ้าคุณอยากจะทำเป้าหมายของคุณให้สำเร็จ
คุณจำเป็นจะต้องหา Need ของคุณให้เจอเสียก่อน
และ need นั้นต้องเกิดจากการสำรวจลึกลงไป
ถึงความรู้สึกลึกๆ ที่มันกำลังเรียกร้อง
ซึ่งบ่อยครั้งเรามักจะไม่ได้ยิน
หรือได้ยินแต่คิดไปเองว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร
อ้าว! แล้วเราจะหา need ของเราได้ยังไงล่ะ
มันมี 2 ทางเลือกสำหรับคุณครับ
1. คุณต้องทำจิตใจคุณให้สงบมากพอ
2. ใช้กระบวนการโค้ชจากโค้ชมืออาชีพ
ซึ่งในทางเลือกที่ 1 คงต้องย้ำอีกครั้งครับว่า
คุณต้องทำใจจิตของคุณให้ “สงบมากพอ”
ผ่านการทำสมาธิ ฝึกฝนจิตใจ
แล้วคุณจะพบเองว่า need ที่คุณต้องการในชีวิตนี้
หรือในตอนนี้คืออะไรโดยไม่ต้องปรึกษาใคร
ดูจะออกแนวสายมูไปสักหน่อย แต่มันคือความจริงแน่นอน
เมื่อจิตใจคุณสงบคุณจะพบคำตอบเสมอ
แต่ก็ต้องและมาด้วยระยะเวลาที่ไม่อาจบอกได้
ว่านานแค่ไหนคุณถึงจะค้นเจอคำตอบ
ส่วนทางเลือกที่ 2 นั้นประหยัดเวลากว่าทางเลือกที่ 1 มาก
เพราะบนโลกนี้มันมีกระบวนการ Coaching
ที่ผ่านการทดลอง วิจัย และใช้งานจริงมาแล้ว
ว่าสามารถช่วยให้คนหา need ของตนเองเจอได้
และยังใช้กระบวนการโค้ชอย่างต่อเนื่อง
เพื่อพาคนคนนั้นก้าวไปสู่เป้าหมายที่เค้าต้องการได้จริง
ในโลกที่ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ถ้าคุณมีเวลาชีวิตมากพอก็สามารถเลือกทางที่ 1 ได้เลยครับ
แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่ได้มีเวลามากมายขนาดนั้น
อยากสร้างเป้าหมายเร็วๆ และอยากไปถึงเป้าหมายได้เร็ว
ลองหาโค้ชสักคนให้เค้าช่วยคุณสร้างเป้าหมายที่แท้จริง
และพาคุณก้าวเดินไปอย่างที่ควรจะเป็นจนถึงจุดหมายดีกว่าครับ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดหลักสูตรนี้ขึ้น
2021 Goal Coaching รุ่นที่ 3
ความพิเศษของหลักสูตรนี้คือ
มันจะเต็มไปด้วยกระบวนการโค้ช
ที่เจาะลึกแบบรายบุคคล
จึงทำให้สามารถรับได้พียง 10 ท่านเท่านั้น
เพราะกระบวนการโค้ชจำเป็นต้องใช้เวลา
โดยกระบวนการเรียนการสอนในกลุ่มจะแบ่งสัดส่วนดังนี้
30% จะเป็นเนื้อหา (คัดสรรมาแล้ว)
60% คือกระบวนการโค้ช (สำคัญมาก)
10% คือการแบ่งปันประสบการณ์ (สะท้อนและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน)
.
อาจจะดูขัดใจสักเล็กน้อยที่ต้องบอกว่า
ถ้าคุณอยากได้เนื้อหาแน่นๆ ข้อมูลเยอะๆ
หลักสูตรนี้อาจไม่เหมาะกับคุณ
เพราะเนื้อหาความรู้เชื่อว่าคุณสามารถ
ค้นหาได้มากมายตามอินเตอร์เน็ท
แต่สิ่งที่คุณต้องระวังก็คือ
ข้อมูลมากมายจะถาโถมมาที่คุณ
จนคุณเริ่มสับสนว่าจะต้องเลือกอันไหน
ต้องเชื่ออันไหน ต้องทำแบบไหนกันแน่
ซึ่งในหลักสูตรนี้ได้ตัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นเหล่านั้นออกไปแล้ว
เหลือเพียงแก่นที่จะพาคุณสร้างผลลัพธ์ได้จริงเท่านั้น
ผสมกับกระบวนการโค้ชที่สร้างผลลัพธ์มาแล้วมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ 7 หลัก 8 หลัก 9 หลัก หรือ 10 หลักก็ตาม
เป็นหลักสูตร Online เรียนผ่าน Zoom
เจอกันทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งละ 1.30-2.00 ชั่วโมง
มีหัวข้อดังนี้
1.ทำเป้าหมายให้ชัด
2.สูตรสำเร็จในการสร้างทุกผลลัพธ์
3.วิธีก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ที่ติดมาตลอด
4.เทคนิคที่ทำให้ลงมือทำทันทีโดยไม่ต้องรอแรงบันดาลใจ
5.วิธีทำให้เป้าหมายคงอยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะสำเร็จ
6.เจาะลึกถึงตัวตนภายในที่ฉุดรั้งไม่ให้เกิดผลลัพธ์
7.สร้างความเชื่อใหม่ที่ช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้อย่างมีความสุข
สอนโดย ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล (โค้ชเพียว)
ผู้ก่อตั้งบริษัท Code of Success
นักสร้างสมองแห่งความสำเร็จ
เจ้าของหนังสือ Best Seller “สำเร็จไวถ้าใช้สมองเป็น”
โค้ชและวิทยากรที่ช่วยองค์กรชั้นนำต่างๆ มาแล้วมากมาย
และยังได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของธุรกิจหลายท่าน
ให้เป็น Private Consult แบบรายปีอยู่ตลอดไม่ขาดสาย
เรียนทั้งหมด 7 ครั้งผ่านโปรแกรม Zoom (วันพุธทั้งหมด)
เวลา 19.30 - 21.00 น.
เดือน สิงหาคม วันที่ 11 และ 18
เดือน กันยายน วันที่ 1 , 8 , 15 , 22 และ 29
ราคา 16,900 บาท
พิเศษส่วนลดอีกกว่า 20%
เหลือเพียง 12,900 บาท
ซึ่งปกติการโค้ช 1:1 กับโค้ชเพียว
ในเวลา 1 ชั่วโมงก็มีค่าโค้ชอยู่ที่ 15,000 บาท
แต่ครั้งนี้คุณได้อยู่ในกระบวนการโค้ชจากโค้ชเพียวถึง 10 ชั่วโมง
ในราคาถูกลงกว่า 10 เท่า
รับเพียง 10 ท่านเท่านั้น
ติดต่อ โค้ชจั๊ว
โทร 0626355941
Line id : attakornt
ถ้าเวลาคือสิ่งสำคัญสำหรับคุณ
อย่าปล่อยให้มันเลยผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
แล้วพอกันในคลาสครับ

19/06/2021

อยากได้ดอกไม้สวยๆก็ต้องรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย
บางครั้งเป้าหมายที่เราตั้งไว้
อาจมีความคลาดเคลื่อนด้วยเหตุผลบางอย่าง
โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยภายนอกที่คุมไม่ได้เข้ามา
ส่งผลกระทบโดยตรง
แทนที่เราจะมามัวแต่เครียดหรือวิตกกังวลในผลลัพธ์
ที่อาจไม่ได้ดั่งหวัง มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรขึ้นมา
หากเราทุ่มเทกับกระบวนการที่นำไปสู่ผลลัพธ์
ไม่ว่าจากมุมใดๆก็ตาม ที่นำไปสู่ผลลัพธ์
ผลลัพธ์มันก็ย่อมต้องแสดงผลด้วยตัวของมันเอง
เหมือนกับการมี่เราปลูกดอกไม้เพราะอยากเห็นดอกไม้ออกดอกสวยงาม
แทนที่เราจะมานั่งเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นดอกไม้
เราก็ควรจะรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช
ซึ่งมันดูไม่ใช่และไม่เหมือนดอกไม้
แต่ท้ายที่สุดการกระทำนี้ก็จะนำไปสู่การ
ออกดอกของดอกไม้นั่นเอง
“เมื่อเป้าหมายตั้งไว้แล้ว ก็ให้โฟกัสไปที่กระบวน ไม่ใช่โฟกัสไปที่ตัวเป้าหมาย”


#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง

อยากได้ดอกไม้ก็ต้องรดน้ำพรวนดิน

“เมื่อเป้าหมายตั้งไว้แล้ว ก็ให้โฟกัสไปที่กระบวน ไม่ใช่โฟกัสไปที่ตัวเป้าหมาย”

12/06/2021

ตัดสินใจ!

เด็กสองคนเกิดมายากจนเหมือนกัน
คนหนึ่งตัดสินใจหนีไปแว้นรถกลางคืนเพื่อความสนุก
อีกคนตัดสินใจรับจ้างทำทุกอย่างหลังเลิกเรียนแม้กระทั่งเก็บขยะขายเพื่อหวังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
ผ่านไปหลายปี เด็กที่รักสนุกติดคุกติดตะรางถลำลึกจนไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ส่วนเด็กอีกคนเรียนจนจบรับราชการเป็นเสาหลักให้กับพ่อแม่ได้ภาคภูมิใจ
คนสองคนทำงานในบริษัทเล็กๆที่เดียวกัน
คนหนึ่งตัดสินใจลาออกเมื่อหัวหน้าให้ทำงานเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มเงินเดือนที่ได้
อีกคนตัดสินใจทำทุกอย่างที่เจ้านายให้ทำเพราะรู้สึกว่าเขาได้เรียนรู้หลายๆอย่างที่หาได้ยากในบริษัทใหญ่ๆ
ผ่านไปหลายปี คนแรกยังวนเวียนกับการเปลี่ยนงานเพื่อหาเงินเดือนเพิ่มครั้งละ 10%
คนที่สองทำงานที่เดิมหลายปีจนเข้าใจระบบทั้งหมด ตัดสินใจออกมาตั้งบริษัทเองมียอดขายหลายสิบล้าน
คนโสดอวบอ้วนสองคนอยากมีแฟน
คนแรกอยากได้คนที่รักเขาแบบที่เขาเป็นไม่ใช่ที่รูปร่าง แล้วตัดสินใจกินแบบเดิมต่อไปพร้อมกับคำพูด “ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้”
คนที่สองตัดสินใจลดน้ำหนักดูแลรูปร่างตัวเองให้ดีเพื่อสร้างความมั่นใจภาคภูมิใจกับตัวเองก่อนแล้วค่อยหาแฟน
ผ่านไปหลายปีคนแรกก็ยังคงโสดและอวบอ้วนมากกว่าเดิมพร้อมกับอารมณ์ที่นับวันมีแต่หงุดหงิดมากขึ้น
คนที่สองน้ำหนักลดหุ่นเฟิร์มมีความมั่นใจและออกมาเผยแพร่วิธีลดน้ำหนักแบบปลอดภัยกลายเป็นเน็ตไอดอลมีผู้คนเข้ามารุมจีบมากมาย
เพื่อนกันสามคนทำงานเดิมๆมานาน
บ่นเบื่องานอยากหาอะไรทำในชีวิตใหม่ๆบ้าง
คนแรกตัดสินใจซักผ้าทำความสะอาดบ้านทุกเสาร์อาทิตย์พร้อมกับเหตุผลว่าวันธรรมดาทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วอยากอยู่บ้านพักผ่อน
คนสองตัดสินใจไปเข้าสัมมนาพารวยหรือทุกสัมมนาที่มีคำว่ารวยทุกเสาร์อาทิตย์โดยไม่เคยศึกษาประวัติคนสอนให้ดีก่อน
คนสามตัดสินใจหาโค้ชทางความคิดเพราะเชื่อว่า “คนเราจะสำเร็จได้ต้องเริ่มจากวิธีคิดไม่ใช่วิธีการ”
ผ่านไปหนึ่งปี
คนแรกก็ยังคงซักผ้าอยู่ทุกเสาร์อาทิตย์อย่างขมักเขม้น
พร้อมกับคำบ่นว่า “เบื่องาน” อยู่ทุกวี่ทุกวัน
คนที่สองหมดเงินไปเยอะกับคำว่ารวย และตอนนี้เงินขาดมือจนเริ่มกู้นอกระบบ ทรัพย์สินที่เก็บไว้ขายใช้หนี้ไปหมดแล้ว
คนที่สามงงกับตัวเองอยู่เป็นนาน เพราะไม่สามารถตอบคำถามของโค้ชได้ว่า “ชีวิตนี้ต้องการอะไร” พอตั้งหลักได้คุยกับโค้ชอีกรอบจนรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร รู้ว่าอะไรเป็นอุปสรรค ก็เริ่มลงมือทำเริ่มจากเล็กๆ จนมั่นใจขยายกิจการขึ้นจนสามารถสร้างธุรกิจใหม่ให้ตัวเองได้
คุณได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องพวกนี้ครับ??

"โชคชะตาถูกควบคุมโดย การตัดสินใจ ไม่ใช่ เงื่อนไข"
"Destiny is controlled by decisions — not conditions." - Tony Robbins


#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง
------------------------

11/06/2021

“วาสนา” เปลี่ยนไปตาม “ความคิดความรู้สึก”
“วาสนา” แปลว่า “รอยประทับแห่งจิต”
“รอยประทับแห่งจิต” คือ “ความคิดความรู้สึกที่เกิดขึ้นซ้ำๆ”
อะไรที่ “คิดและรู้สึกซ้ำๆ” จะเกิดเป็น “การทำซ้ำๆ”
เมื่อใดที่เกิด “การทำซ้ำๆ” ก็จะเป็น “วัฏจักร”
และเมื่อเป็น “วัฏจักร” ก็จะวนเป็น “วงกลม”
เมื่อเป็นวน “วงกลม” ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ในชีวิตจะวนมาหาเราใน “รูปแบบเดิม” เสมอๆ
“วาสนาดี” ก็เพราะ “คิดแต่เรื่องดีๆรู้สึกดีๆซ้ำๆ”
“วาสนาแย่” ก็เพราะ “คิดแต่เรื่องแย่ๆรู้สึกแย่ซ้ำๆ”
ทุกวันนี้ “วาสนา” เราเป็นยังไงกันบ้างครับ?
อยากได้ “วาสนาใหม่” ก็ลอง “คิด” “รู้สึก” และ ”ทำ” “อะไรใหม่ๆ” ที่ไม่ใช่รูปแบบเดิมๆบ้างนะครับ

#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง


“วาสนา” เปลี่ยนไปตาม “ความคิดความรู้สึก”

วาสนาดีก็เพราะคิดดีรู้สึกดี
วาสนาแย่ก็เพราะคิดแย่รู้สึกแย่

05/06/2021

เพื่อให้เราขยับเข้าใกล้เป้าหมายตอนนี้ทุกคนก็เร่งทำงานกันเต็มที่ครับโค้ช!!
เมื่อเราได้ยินคนในทีมพูดเช่นนี้ก็อย่าคิดว่ามันดีแล้วนะครับ เพราะในคำพูดนี้แฝงไว้ด้วยโปรแกรมทำลายล้างเป้าหมายที่อันตรายที่สุดตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ในการโค้ชแบบถอดรหัสโปรแกรมสมอง (Neuro Decoding Program: NDeP) นั้นเราสามารถถอดรหัสมาได้คำว่า “ทำงานกันเต็มที่” ซึ่งเป็น “คำพูดลอยๆหาที่มาที่ไปไม่ได้” เป็น 1 ใน 5 โปรแกรมทำลายล้างเป้าหมาย
หลังจากช่วยลูกค้าผู้มีอุปการะคุณโค้ชทีมงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลายคนจะพูดคำนี้ออกมาซึ่งปกติถ้าใครได้ยินก็คงวางใจให้ไปลงมือทำต่อ
แต่ทุกคำพูดล้วนมาจากวิธีคิดและวิธีคิดก็จะส่งผลต่อการลงมือทำ ดังนั้นเมื่อเราถอดรหัสโปรแกรมทำลายล้างได้ เราก็จะสามารถทำการโค้ชด้วยการตั้งคำถามย้อนกลับไปแก้ไขวิธีคิดของเขาได้ซึ่งจะส่งผลต่อการลงมือทำ
คำว่า “ทำงานเต็มที่” นี่คือทำอะไรและทำยังไงบ้าง?
เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราหรือทีมงานทำเต็มที่แล้ว?
แล้วเราจะใช้อะไรเป็นตัวชี้วัดในการวัดผลความคืบหน้าของเป้าหมายถ้าเราหรือทีมงานทำงานเต็มที่แล้ว??
3 คำถามปลดล๊อคที่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการหาคำตอบพร้อมกับการได้แผนการและการประเมินผลที่ชัดเจนของทีมงานในการไปลงมือทำ
วันนี้เจ้าของบริษัทโทรมาบอกว่า
“มันได้ผลค่ะโค้ช น้องๆทีมงานขยับทำงานกันดีมาก
มีแผนการมีกลยุทธ์ในการลงมือทำชัดเจน
ไม่สะเปะสะปะ ทุกคนมุ่งไปที่เป้าหมายเดียวกัน
การโค้ชทีมมันดีแบบนี้เอง”
ปล. เมื่อเราถอดรหัสโปรแกรมสมองเป็นอะไรๆมันก็จะง่ายขึ้นครับ55

#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง

03/06/2021

อารมณ์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ
แต่กระบวนการการเกิดขึ้นของ “อารมณ์” นั้น
ล้วนแล้วแต่ถูกกำหนดไว้โดยโปรแกรมสมอง
ที่มันเป็นรหัส ”เงื่อนไข”หรือ “กฏ” ที่ชัดเจนมาก
ดังนั้นทุกครั้งที่เราแสดงอารมณ์ใดๆก็ตาม
มันจะเป็นการทำงานของรหัสโปรแกรมสมอง
ที่ทำงานผ่านตัวกรองของรหัส “กฏ” ที่ตั้งไว้
หนึ่งในการโค้ชแบบ ถอดรหัสโปรแกรมสมอง
(Neuro Decoding Program: NDeP) นั้น
“อารมณ์” คือขั้นตอนสำคัญที่เราจะต้อง
เข้าใจที่มาที่ไปและสิ่งที่กำหนดการแสดงผล
ของมันไว้ ซึ่งสิ่งนั้นเราเรียกว่า “กฏ”
ที่เราเป็นคนตั้งขึ้นมานั่นเองโดยทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว
เมื่อเงื่อนไขเข้า “กฏ” นี้มันจะแสดงอารมณ์นั้นทันที
หรือเมื่อเงื่อนไขไม่เข้า “กฏ” นี้อารมณ์นั้นก็จะไม่เกิดขึ้น
โกรธ หงุดหงิด เศร้า เสียใจ น้อยใจ
ดีใจ สุขใจ เบิกบานใจ เย็นใจ ตื่นเต้น
เหล่านี้ล้วนมี “กฏ” ที่เป็นรหัสตายตัวโดยเฉพาะของเรา
ถ้าวันนี้เราอยากมีอารมณ์สุขใจแต่มันไม่สุขใจ
ก็เป็นเพราะว่า “กฏ” ความสุขนั้นมันยากที่จะเกิดขึ้น
ถ้าวันนี้เราโกรธหรือหงุดหงิดง่ายมากวันละ 100 รอบ
ก็เป็นเพราะว่า “กฏ” ความหงุดหงิดนั้นง่ายมากเกินไป
จนอะไรที่เข้ามาก็ผ่านเงื่อนไขของกฏนี้ทั้งหมด
=================================
เราจะรู้สึกสุขใจเมื่อเกิดอะไรขึ้นครับ ผมถามหากฏ “สุขใจ” กับน้องคนหนึ่ง
อืม ผมจะรู้สึก “สุขใจ” เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าทุกคนในครอบครัว ทุกคนไม่เครียด ผมต้องดูแลให้พวกเขาสบาย
ผมต้องมีเงินสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวครับ
นี่.. (ผมท้วง) “กฏ” ของเรามันยากมากเลยนะ มีทั้ง 1. อยู่พร้อมหน้า 2. ทุกคนไม่เครียด 3. ดูแลให้เขาสบาย 4. ต้องมีเงิน แถม 5. สร้างความมั่นคงเพิ่มมาอีกด้วย ถ้ามันไม่ครบ 5 อย่างนี้เราก็จะไม่มีทางสุขใจได้แน่ๆ ลองดูสิ ทุกวันนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะ
เครียดครับ เครียดวิตกกังวล
ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่า “กฏ” ความเครียดของเราง่ายมาก
นั่นก็คือ “เราจะเครียดเมื่อเงื่อนไขที่บอกมา 5 ข้อ มันไม่ครบ” ใช่ไหม?
(สีหน้าอึ้งไปพร้อมกับคิดทบทวน) ครับ..ใช่เลยครับ
มาา งั้นเดี๋ยวมาออกแบบกฏใหม่กัน
ให้จำเอาไว้ว่า “กฏความสุขต้องเกิดง่าย
กฏความทุกข์ต้องเกิดยาก” นะ
ติดตามกันต่อไปครับ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง

01/06/2021

เมื่อรู้สึกอึดอัด สงสัยตัวเองกับเป้าหมาย ว่ามันใหญ่เกินไป
ระหว่างการโค้ชส่วนตัวให้กับผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ที่ตั้งเป้าทำยอดเทรด100ล้าน โดยใช้กระบวนการโค้ชแบบ “ถอดรหัสโปรแกรมสมอง” (Neuro Decoding Program: NDeP)
สิ่งหนึ่งที่พบเจอเสมอๆก็คือ “การสงสัยตัวเอง” ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โปรแกรมทำลายล้างที่จะคอยทำลายการไปถึงเป้าหมายของเราอยู่ตลอดเวลา
ให้เราจำเอาไว้ว่าเลย “ทุกเป้าหมาย” ที่เราตั้งไว้ก็คือ
สิ่งใหม่และเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงก่อนหน้านี้ มันคือสิ่งใหม่ที่เราไขว่คว้าอยากไปให้ถึง และมันเป็น “สิ่งใหม่ที่ท้าทาย” กับสมองอย่างมาก
แน่นอนครับว่า เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำเสมอก็คือก็คือการล๊อคเป้าหมายให้มันติดแน่นทนนานในสมองก่อน โดยการหาแรงบันดาลใจและความสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ เพื่อสร้างระบบนำทาง GPS ติด “คันเร่ง” ไปสู่เป้าหมายให้กับสมอง
แต่ถึงแม้สมองจะมหัศจรรย์มากแค่ไหน เขาก็ไม่ชอบอะไรที่มันใหม่ๆท้าทายนอกเหนือไปจากสิ่งที่เขา “คุ้นเคย” ดังนั้น หน้าที่หลักๆของเขาอีกอย่างก็คือการ “แตะเบรก” เพื่อดึงเรากลับไปสู่ “ที่เดิม” เสมอๆนั่นเอง
ช่วงวัดใจก็อยู่ตรงนี้แหละครับ ระหว่าง “คันเร่ง” กับ “แตะเบรก” มันจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่ากัน ถ้า “แตะเบรก” เยอะก็จะไปได้ช้ามาก หน้าที่ของโค้ชก็คือช่วยให้เขา เหยียบ “คันเร่ง” ไปข้างหน้าเรื่อยๆ และ “แตะเบรก” เมื่อถึงคราวจำเป็นเท่านั้น
===================================
ดังนั้นเมื่อเราคุยกับโค้ชที่คอยถอดรหัสสมองเรา บทสนทนาก็จะเป็นแบบนี้
อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้างครับ ผมถามติดตามผล
อาทิตย์ที่ผ่านมารู้สึกดาวน์ค่ะโค้ช อึดอัดกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่ะ
ยังไงครับ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อย
คือหนูรู้สึกว่า เป้าหมายมันใหญ่เกินไป ไม่รู้ว่าว่าจะทำมันได้หรือเปล่า
เจอตัวทำลายล้างตัวเด็ดเข้าแล้วสินะ ผมคิดในใจ แล้วถามไปว่า ที่บอกว่าเป้าหมายใหญ่เกินไป ใหญ่เมื่อเทียบกับอะไรครับ?
เอ่อ อืมมมมม (สีหน้าครุ่นคิด)
นั่นสิ... หนูเทียบกับอะไรอ่ะ อืมมม (ครุ่นคิดต่อ)
เทียบกับ “ที่ผ่านมา” มั้งคะ
(มาแล้วสาเหตุ! ผมเริ่มกระบวนการในใจ
พร้อมกับถามต่อว่า)
เทียบยังไงครับกับ “ที่ผ่านมา”?
คือ ที่ผ่านมาหนูไม่เคยทำเป้าหมายใหญ่ขนาดนี้
ก็เลยรู้สึกว่า มันใหญ่เกินตัวหนูไปไหม
เป้าหมายที่ตั้งไว้มันเป็นของใหม่นี่ครับ ท้าทายความสามารถเราสุดๆด้วย แล้วเกิดอะไรขึ้นถึงคิดว่า แต่ก่อนเราทำได้แค่เท่านั้น ตอนนี้เราถึงจะไม่สามารถทำให้มันได้มากกว่าเดิมได้ล่ะครับ?
อืมมม นั่นสิคะ หนูคิดอะไรอยู่ (สีหน้างงๆ เพราะสมองถูกกระตุ้นให้หลุดจากโปรแกรม “แตะเบรก”)
ตอนนี้ล่ะครับสำคัญ เพื่อที่จะดึงข้อมูลและลงโปรแกรมสมอง “เรื่องเอาชนะความยาก” ที่ถูกลบทิ้งไปกลับมา ผมรีบถามระหว่างที่โปรแกรม “แตะเบรก” หยุดทำงานชั่วคราว

ก่อนหน้านี้พอที่จะมีเรื่องที่ยากมากๆที่เราไม่เคยทำมาก่อน แล้วเรามุ่งมั่นทำจนมันสำเร็จมีบ้างไหมครับ?”
มี...มีค่ะโค้ช (นึกได้ทันที) เรื่องนี้ยากมากด้วย เรื่องทำเงินกู้ซื้อที่ดินเปล่า 15 ไร่ค่ะ หนูไปไฟท์หาแหล่งเงินกู้เยอะมากๆ ยากมากๆ แต่หนูก็ทำมันจนสำเร็จ หนูขับรถไปกลับกรุงเทพยโสธรเป็น 6-7 ร้อยกิโล บางครั้งไปถึงเย็นรุ่งเช้าก็ขับรถกลับกรุงเทพเลย

โอ้ยยย ตอนนั้นโคตรยากเลยแต่หนูก็ทำได้ แล้วทำไมหนูถึงคิดว่าเป้าหมายใหม่หนูมันยากล่ะ มันไม่ยากกกเลย เพราะไอ้ที่ยากกว่านี้หนูก็ทำมาแล้ว ถูกสมองหลอกอีกแล้วค่ะโค้ช
55 ดีครับ (พูดเอง หาเอง สรุปเอง ช่วยโค้ชได้มาก ผมคิดในใจ55)
ตอนนั้นแรงบันดาลใจคืออะไรครับ ทำได้ขนาดนั้นไม่ธรรมดานะนั่น (ผมกำลังถามหา “คันเร่ง” อยู่ครับ)
แม่ค่ะ อยากซื้อที่ดินให้แม่
ดีมากๆ เลยครับ งั้นตอนนี้อยากให้แรงบันดาลใจของเราที่จะบรรลุเป้าหมายใหม่นี้เป็นยังไงครับ
ลูกๆค่ะ ตอนนี้อยากให้เขาสะดวกสบายมากกว่านี้
งั้นก็ดีเลยครับ ทุกครั้งที่รู้สึกว่าเป้าหมายใหญ่เกินตัว ก็ให้นึกถึงหน้ากับรอยยิ้มของลูกๆเอาไว้นะครับ (ใส่คันเร่งตัวใหม่)
ขอบคุณมากค่ะโค้ช หนูเลิกสงสัยตัวเองแล้วค่ะ
สมองนี่มันยังไง หลอกหนูซะไปไม่เป็นเลย
ดีมากครับ งั้นไหนลองสรุปให้ฟังหน่อยสิว่า
คุยกันมาตั้งนาน วันนี้ได้อะไรที่มันเปลี่ยนชีวิตเราบ้างครับ?
คำนี้เลยค่ะโค้ช
“เมื่อมีเป้าหมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะทำไม่ได้”
ปรบมือสิครับ รออะไร 555
================================

#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง

31/05/2021

ลองทายสิว่าตัวอย่างด้านล่างเป็น 1 ใน 5 โปรแกรมทำลายล้างเป้าหมาย ตัวไหน

เพื่อให้เราขยับเข้าใกล้เป้าหมายตอนนี้ทุกคนก็เร่งทำงานกันเต็มที่ครับโค้ช!!
เมื่อเราได้ยินคนในทีมพูดเช่นนี้ก็อย่าคิดว่ามันดีแล้วนะครับ เพราะในคำพูดนี้แฝงไว้ด้วยโปรแกรมทำลายล้างเป้าหมายที่อันตรายที่สุดตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ในการโค้ชแบบถอดรหัสโปรแกรมสมอง (Neuro Decoding Program: NDeP) นั้นเราสามารถถอดรหัสมาได้คำว่า “ทำงานกันเต็มที่” ซึ่งเป็น “คำพูดลอยๆหาที่มาที่ไปไม่ได้” เป็น 1 ใน 5 โปรแกรมทำลายล้างเป้าหมาย
หลังจากช่วยลูกค้าผู้มีอุปการะคุณโค้ชทีมงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลายคนจะพูดคำนี้ออกมาซึ่งปกติถ้าใครได้ยินก็คงวางใจให้ไปลงมือทำต่อ
แต่ทุกคำพูดล้วนมาจากวิธีคิดและวิธีคิดก็จะส่งผลต่อการลงมือทำ ดังนั้นเมื่อเราถอดรหัสโปรแกรมทำลายล้างได้ เราก็จะสามารถทำการโค้ชด้วยการตั้งคำถามย้อนกลับไปแก้ไขวิธีคิดของเขาได้ซึ่งจะส่งผลต่อการลงมือทำ
คำว่า “ทำงานเต็มที่” นี่คือทำอะไรและทำยังไงบ้าง?
เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราหรือทีมงานทำเต็มที่แล้ว?
แล้วเราจะใช้อะไรเป็นตัวชี้วัดในการวัดผลความคืบหน้าของเป้าหมายถ้าเราหรือทีมงานทำงานเต็มที่แล้ว?
3 คำถามปลดล๊อคที่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการหาคำตอบพร้อมกับการได้แผนการและการประเมินผลที่ชัดเจนของทีมงานในการไปลงมือทำแบบใหม่
วันนี้เจ้าของบริษัทโทรมาบอกว่า
“มันได้ผลค่ะโค้ช น้องๆทีมงานขยับทำงานกันดีมาก
มีแผนการมีกลยุทธ์ในการลงมือทำชัดเจน
ไม่สะเปะสะปะ ทุกคนมุ่งไปที่เป้าหมายเดียวกัน
การโค้ชทีมมันดีแบบนี้เอง”
ปล. เมื่อเราถอดรหัสโปรแกรมสมองเป็นอะไรๆมันก็จะง่ายขึ้นครับ55 be😇
#ถอดรหัสโปรแกรมสมอง

Telephone

Website