Ride On Zwift

จากโพสต์เมื่อสัปดาห์ก่อน Zwift Insider พยายามจะทำให้ Boone พี่บุญ นักปั่นมือใหม่ อายุ 40 กว่าปี หนัก 120 กก พยายามที่จะผลักดันจากที่ไม่เคยปั่นจักรยานเลย ให้มาเป็นนักแข่งจักรยานใน Cat C ที่มีค่าวัตต์เกิน 2.5 w/kg

Zwift Insider ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องปั้นนักปั่นมือใหม่หนัก 120กก นักปั่นมือใหม่ชื่อบุญทำการทดสอบ FTP ครั้งแรกได้ 1.92 w/kg ให้มาเป็น นักแข่ง Zwift Racer ใน Cat C (2.5 w/kg) ภายใน 6 สัปดาห์

โพสต์นี้เป็นข้อมูลการซ้อมสัปดาห์ที่ 2 ของบุญ

ปั่นครั้งที่ 5 # ปั่นครบ 1 ชั่วโมง เป้าหมายสั้นๆง่ายๆคืออยู่บนจักรยาน ปั่นจนครบ 1 ชั่วโมง ซึ่งมีการเพิ่มเวลาในการปั่นให้กับบุญทุกครั้ง จนมาครั้งนี้ บุญสามารถทำจนครบได้ 1 ชั่วโมง
บุญเข้าไปปั่นกับ กลุ่มกับ Dan Diesel ซึ่งบุญสามารถตามได้ 45 นาที และหลุดมาปั่นเองเบาๆ อีก 15 นาที 15นาทีสุดท้าย บุญเหนื่อยมากแต่ก็สู้จนจบ ครบ 1 ชั่วโมง

ปั่นครั้งที่ 6 # เริ่มสนุกกับการปั่นกลุ่มไปกับ Dan Diesel เป้าหมายคือ 70 นาที แต่ บุญสามารถปั่นตามได้ 45 นาทีและปั่นด้วยตัวเองจนครบ 70 นาที

ปั่นครั้งที่ 7 # ก้าวข้ามอุปสรรค แพลนการปั่นก็คล้ายๆกับ การปั่นก่อนหน้านี้ แต่จะให้บุญเพิ่มรอบขาให้สูงขึ้น โดยให้กล้ามเนื้อ ส่วนอื่นได้ทำงาน เพื่อเพิ่มการควงขาได้ดีขึ้น โดยจะให้บุญปั่นรอบขาสูงที่สุด 10-15 วินาที โดยที่ก้นไม่โยกไม่ส่ายออกจากเบาะ เชื่อไหมครับ ครั้งแรกที่บุญปรับเกียร์ลง 2 เกียร์ สามารถออกแรงวัตต์ได้ถึง 986 วัตต์ ทีงานประทับใจมากเพราะเป็นวัตต์ที่ได้มาจากการนั่ง และบุญสามารถที่จะออกวัตต์ได้สูงกว่านี้แน่นอน แต่ที่หมดก่อนก็เพราะแรงขาหมดไปก่อน เชื่อว่าบุญน่าจะได้ สติกเกอร์ 1.21 gigawatts เร็วๆนี้แน่นอน
บุญตอนนี้สามารถปั่นเข้าใกล้ความเร็วเฉลี่ย 32 กม/ชม สำหรับการปั่นใน 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้าบุญอยากจะปั่นเร็วกว่านี้ ต้องปั่นแซง กลุ่ม Dan Diesel และตามดูดกลุ่มให้น้อยลง

ปั่นครั้งที่ 8 # Volcano Climb ปั่นขึ้นภูเขาไฟ ทางทีมงานตัดสินใจให้บุญไปปั่นขึ้นภูเขาไฟ ปั่นวอร์มมาในทางราบและปั่นขึ้นเขาด้วยแรงคงที่ 15 นาที บุญจะได้เรียนรู้ที่จะยืนปั่น บุญเป็นคนตัวใหญ่ จนทีมงานต้องไปปรับค่า Trainer Difficulty จนบุญสามารถยืนโยกปั่นได้ที่รอบขา 60-70 รอบต่อนาที ตอนแรกบุญปั่นท่าทางเก้ๆกังๆ จนสักพักเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ต้องใช้เวลา
จบสัปดาห์ที่ 2 # จากที่สามารถปั่นได้ 25 นาที ในสับดาห์ที่ 1 ตอนนี้บุญ สามารถปั่นได้ 70 นาทีอันนี้ถือว่าเป็นความก้าวหน้าแล้วและตัวบุญเองก็อยากลดน้ำหนัก เพื่อที่จะทำให้ w/kg สูงขึ้นเช่นกัน

ผลลัพธ์ที่ตามมาที่เป็นเรื่องดี คือบุญ บอกว่าอยากปั่นอีกต่อไป เขารู้สึกดีหลังจากการปั่นจักรยาน บุญทำงานเป็นช่างไม้และไม่เคยออกกำลังกาย Cardio แบบนี้มาก่อน อันนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่บุญเริ่มติดการปั่นจักรยานแล้ว

สัปดาห์หน้า การฝึกก็จะยังเหมือนเดิม แต่ทางทีมงานอยากจะให้บุญไปฝึกการปั่นกับ Cara Cadence ประมาณ 10-20 นาที ลองดูว่า ถ้าบุญไปปั่นกับกลุ่มนักปั่นผู้หญิงที่ใช้ความเร็วสูงๆ บุญจะเกาะกลุ่มไปกับพวกเธอได้อย่างไร และที่สำคัญ ทีมวานจะทดสอบว่า Max Sprint Power ของบุญจะมากขนาดไหน

https://zwiftinsider.com/couch-to-cat-c-2/

Couch to Cat C, Week 2: Doing the Time - Zwift Insider Boone settles in for some endurance work.

อยากให้กำลังใจและแสดงตัวอย่างกับคนที่มาเล่น Zwift ใหม่ๆหรือกำลังเล่นอยู่แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ไม่รู้จะฝึกแบบไหน ให้พยายามเหมือนกับ Boone น้องบุญ นักปั่นมือใหม่ อายุ 40 กว่าปี หนัก 120 กก พยายามที่จะผลักดันจากที่ตัวเองไม่เคยปั่นจักรยานเลย ให้มาเป็นนักแข่งจักรยานใน Cat C ที่มีค่าวัตต์เกิน 2.5 w/kg

Zwift Insider ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องปั้นนักปั่นมือใหม่หนัก 120กก นักปั่นมือใหม่ชื่อบุญทำการทดสอบ FTP ครั้งแรกได้ 1.92 w/kg ให้มาเป็น นักแข่ง Zwift Racer ใน Cat C (2.5 w/kg) ภายใน 6 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 1 คือการทำความคุ้นเคยกับการปั่นใน Zwift และการทดสอบพื้นฐานต่างๆ สัปดาห์ที่ 2 คือการสร้างความแข็งแรง โดยการปั่น แบบ Endurance และการสร้างรูปแบบ ทักษะในการปั่น บนจักรยาน สัปดาห์ที่ 3 และ 4 คือการเริ่มเพิ่มความเข้มข้นในการซ้อม ต่อยอดจากการปั่น Endurance การฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มพลังวัตต์ ให้สูงขึ้น กับช่วงระยะเวลาที่ปั่นจักรยาน สัปดาห์ที่ 5 ทุกอย่างจะโหดขึ้น ต้องเริ่มซ้อมแบบ VO2 แทรกเข้าไปในการฝึกแบบต่างๆ สัปดาห์ที่ 6 สัปดาห์สุดท้าย จะซ้อม VO2 Max มากขึ้นพร้อมไปกับ การเข้าร่วมการแข่งขันและการทดสอบ FTP เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าในการฝึกซ้อม
แผนการซ้อม

เพื่อเป็นการย้ำเตือนเรื่องแผนการฝึกซ้อม Zwift Insider สร้างแผนการซ้อมแบบเบสิค โดยใช้ระยะเวลาแค่ 6 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 1 การทดสอบ FTP ที่แท้จริง เพื่อได้ค่าตามเกณฑ์มาตรฐาน + การปั่น Endurance เพื่อสร้างความแข็งแรง
(การทดสอบหาค่า FTP, การร่วมแข่งขันใน Zwift Race และการหาเวลาปั่นจักรยานบ่อยๆ)

สัปดาห์ที่ 2-4 การฝึกปั่นเพื่อสร้างความแข็งแรง Endurance + สร้างรอบขา Cadence
(การซ้อมในรูปแบบต่างๆ จากโซน 2 ต้นๆ ไปโซน 3 กลางๆ และการฝึกทักษะการใช้ รอบขาสูง เพื่อฝึกให้ขามีการปั่นจักรยานที่มีประสิทธิภาพ)

สัปดาห์ที่ 5-6 การฝึกปั่นเพื่อสร้างความแข็งแรง Endurance + การฝึกที่เข้มข้นขึ้น Intensity และการสอบ FTP วัดผลหลังจากครบ 6 สัปดาห์
(ปั่นเหมือนกับสัปดาห์ที่ 2-4 แต่มีการเพิ่มการฝึกซ้อมแบบ VO2 และ Threshold เข้าไปในการฝึกซ้อมในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และในช่วงสุดท้าย ของสัปดาห์ที่ 6 ทดสอบ FTP และแข่งใน Zwift Race อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบการพัฒนาของเราจากสัปดาห์ที่ 1 ได้)

สัปดาห์ที่ 1 นักปั่นมือใหม่ของเรา ชื่อบุญ ปั่นทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน
ปั่นครั้งแรก บุญเริ่มปั่นและปั่นได้ประมาณ 25 นาที ขาบุญก็หมดแรง ระหว่างปั่นบุญพยายามทดสอบหา Max HR ได้ประมาณ 187

ปั่นครั้งที่สอง บุญทำการทดสอบ FTP Ramp Test บุญดันไปได้ถึง 260 วัตต์ จากนั้นก็เริ่มลำบาก จนไปหยุดที่ 300 วัตต์ บุญได้ค่า FTP 230 วัตต์ ถ้าหารด้วยน้ำหนักตัว 120 ก็จะได้ค่า 1.92 w/kg ตอนนี้ Zwift Insider พยายามที่จะให้บุญลดน้ำหนักลง 9-13 กก และพยายามเพิ่มค่า FTP ขึ้นไป เพื่อที่จะให้บุญ มีค่าวัตต์ต่อกิโลกรัมสูงกว่า 2.5 w/kg เพื่อให้ได้เป็น นักแข่งในคลาส C ให้ได้ใน 6 สัปดาห์

ปั่นครั้งที่สาม ปั่นเพื่อสร้างความแข็งแรง Endurance ปั่นครั้งที่สามของบุญเป็ฯการปั่นเพื่อสร้างความแข็งแรง และนักปั่นหน้าใหม่ต้องได้รับการฝึกขา เพื่อให้ได้การปั่นที่มีประสิทธิภาพ และร่างกายต้องเรียนรู้ที่จะปั่นรักษาพลัง โดยให้ออกวัตต์ได้คงที่ การฝึกซ้อมครั้งนี้ไม่ใช่การปั่นโดยออกแรงให้มากที่สุด แต่ควรจะเป็นระหว่างโซน 2และโซน 3 ครั้งนี้บุญสามารถปั่นได้ 51 นาทีและเริ่มเรียนรู้การใช้ PowerUp เพื่อเป็นประโยชน์ในการแข่งขัน

ปั่นครั้งที่สี่ การแข่งขันครั้งแรก
Zwift Insider ต้องการให้บุญ มีประสบการณ์ในการแข่งขันและเรียนรู้ความตื่นเต้น ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ในระหว่างการแข่งขัน และวิธีที่ใช้ในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการดร๊าฟหรือการใช้ PowerUp ในเกม
Zwift Insider เลือกสนามแข่งแบบไคทีเรี่ยมแค่ 6 รอบ ระยะสั้นๆ ประมาณ 12 กม. ให้บุญแข่งเป็นรายการแรก โดยมีเหตุผลสองประการ
1. ระยะทางสั้น เนื่องจจากบุญไม่ได้มีความแข็งแรงที่จะปั่นแข่งขันในระยะเวลา 30-50 นาที
2. มีระบบ Anti-Sandbagging ใน Cat D นั่นจะทำให้พวกที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า Cat D จะหลุดจากการแข่งขันได้ง่าย
จากการแข่งครั้งแรก มีจุดน่าสนใจคือ
• การปล่อยตัวจะโหดเสมอและเนินแรกในสนามแข่งขันที่จะปีนขึ้นไป จะใช้เวลา 75 วินาทีในการปั่น การที่จะเกาะกลุ่มไปกลุ่มแรก โดยที่ไม่ปั่นต้านลม ด้วยตัวเองเป็นเรื่องยากลำบากมาก
• สามารถพักหายใจได้ตอนทางลง
• ดูด ดูด ดูด ตามดูดอย่างเดียวเพื่อรอด
ถ้าหลุดจากกลุ่มแรก มีสองทางเลือกคือสู้ต่อไปพยายามเต็มที่หรือปั่นช้าๆรอปั่นกับกลุ่มสองที่ตามเข้ามา
• การแข่งขันจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ฉะนั้นปั่นรักษาเพซ
• ต้องเก็บแรงไว่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจะได้มีแรงไว้ใช้เมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องใช้
ผลการแข่งขัน บุญเข้ามาอันดับที่ 12 ในการแข่งขัน Zwift Race แต่ได้อันดับ 4 ใน ZwiftPower

จบสัปดาห์แรกบุญบอกว่าจะต้องไปหาเบาะที่สบายกว่านี้ บุญดีใจที่มีการพัฒนาจากปั่นวันแรกได้ 25 นาที จนสามารถปั่นได้ 50 นาที ใน 1 สัปดาห์
สัปดาห์หน้า บุญต้องฝึกการปั่น Endurance เพิ่มขึ้น ใช้เวลาในการปั่นมากขึ้นและที่สำคัญ ต้องพยายามให้บุญสามารถปั่นได้อย่างสบายมากขึ้น กับเบาะที่เข้ากับบุญ เพื่อที่บุญจะได้มีความสบายในการปั่นและปั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนจักรยาน ในช่วงที่บุญกำลังสร้างความฟิตและลดน้ำหนักลง

ค่อยมาดูครับว่าสัปดาห์ที่สอง การฝึกของบุญจะเป็นในรูปแบบไหน และบุญจะเป็นอย่างไรบ้าง

https://zwiftinsider.com/couch-to-cat-c-1/

Couch to Cat C, Week 1: Breaking In a Zwift Newbie - Zwift Insider The journey begins with an FTP test and Boone's first Zwift race

Tron Bike หรือ “Zwift Concept Z1” ไม่มีขายครับ ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อของจริงครับ

คนที่ปั่น Zwift จะรู้จักในชื่อ ตรอนไบค์ ยากไหมกว่าจะได้ตรอนไบค์ คำตอบคือไม่ยากเลยครับ แต่ก็ไม่ง่ายเกินไปที่ได้มาครอบครอง ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นเดือนๆแน่นอนครับ

ขั้นตอนแรกไปสมัคร Challenge ก่อนครับ
หลังจากเข้าเกมไปแล้วให้คลิ๊ก Menu และให้คลิ๊กหน้าต่าง Challenge ต่อครับ (รูปสีกรอบสี่เหลี่ยมขวามือบนครับ)
จากนั้นให้เลือก ปั่นขึ้นภูเขาเอเวอร์เรส “Climb Mt. Everest” หลังจากเลือกแล้ว ไปปั่นขึ้นเขาที่ไหนก็ได้ครับ ให้ปั่นขึ้นเขาครับ จนได้ความสูงประมาณ 8,850 เมตร รู้สึกว่าครบระยะนี้จะได้ Trek Emonda และไปต่ออีก 41,150 เมตรครับ

พอครบ 50,000 เมตร เราก็จะได้ครอบครองเจ้า Tron Bike คันนี้ครับ

เจ้าตรอนไบค์เร็วกว่ารถคันอื่นๆในเกม Zwift 45 วินาที ในระยะทางที่ทดสอบใน Volcano Climb ถ้าไม่นับรวมรถปีนเขาอย่างเดียวเช่นเจ้า Specialized Tarmac Pro with Lightweight wheels ที่ขึ้นเขาได้เร็วที่สุดหรือรถ ทามไทร์อัลที่เร็วที่สุดในทางราบ

ความสามารถของตรอนไบค์สามารถดราฟคันหน้าได้ และการแข่งขันส่วนใหญ่เส้นทางมีทั้งลงเขาขึ้นเขา โดยคุณสมบัติของการดราฟและรถที่มีน้ำหนักเบาอย่างตรอนไบค์ ทำให้เราต้องมีไว้ครับ จะเห็นว่าการแข่งขันส่วนใหญ่ จะมีตรอนไบค์เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ข้อจำกัดของ ตรอนไบค์
• เป็นเฟรมเดียว ที่ล้อเปลี่ยนไม่ได้นะครับ แต่ไม่ต้องใส่ใจครับ ล้อมีไฟนี่เจ๋งที่สุดแล้วครับ เราสามารถเปลี่ยนสีล้อได้ตลอดเวลาครับ เปลี่ยนให้เข้ากับชุดปั่นก็เท่ห์ไปอีกแบบครับ
• ไม่มีท่านั่งยกตัวตอนดราฟนะครับและไม่มีการยืนปั่นขึ้นเขาครับ ตรอนไบค์จะก้มตัวตลอดเวลา แต่เวลาสปริ้นจะมีท่ายืนยกสปริ้นนะครับ
• ขี่ตรอนไบค์จะไม่มีท่าดื่มน้ำครับ 555 เราต้องดื่มน้ำเองบ่อยๆครับ

รีบไปหาตรอนไบค์มาใช้กันดีกว่าครับ

Ride On!

Zwift คืออะไร [ตอนที่ 8 ใช้เกม Zwift เพื่อการฝึกซ้อมอย่างมีแบบแผนได้หรือไม่]

ใน Zwift มีแผนการฝึกซ้อมมากมาย ซึ่งแต่ละแผนการฝึกซ้อมก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน คุณสามารถเลือกแผนการซ้อมแบบกว้างๆได้เพื่อสร้างความฟิตให้กับร่างกายหรือสามารถเลือกการซ้อมแบบเฉพาะเจาะจงได้ครับ

ระบบการฝึกซ้อมใน Zwift ถือเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งในเกม Zwift ครับ

Zwift มีรูปแบบการฝึกซ้อมมากว่าหนึ่งพันรูปแบบ ซึ่งเป็นการซ้อมแบบ Interval ที่มีความจำเป็น คุณสามารถเลือกได้ ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือการฝึกซ้อมระยะยาว หรือแม้กระทั่งคุณสามารถที่จะสร้างรูปแบบการฝึกซ้อมของคุณขึ้นมาได้เองเช่นกัน

คุณสามารถเลือกวางแผนการฝึกซ้อม เพื่อเข้าร่วม Event อย่างเฉพาะเจาะจงหรือใช้การซ้อมเพื่อเสริมจุดอ่อนของคุณได้ เช่น แผนการซ้อม “TT-Tune Up” ซึ่งเหมือนที่ชื่อบอกไว้ว่าเป็นการฝึกเพื่อให้เหมาะสมกับการปั่นแบบทามไทร์อัล ซึ่งจะโฟกัสไปที่การซ้อมแบบ แอโรบิคเพาเวอร์ และการเสริมสร้างความฟิตระดับสูงเพื่อให้คุณสามารถปั่นทามไทร์อัลได้ หรือแม้แต่แผนการฝึกซ้อมแบบกว้างๆเช่น “FTP Builder” คือการเพิ่มค่า FTP ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ระดับสมรรถภาพร่างกายของคุณโดยทั่วไปมีความฟิตมากขึ้นหรือเพื่อเพิ่มค่า FTP (Functional Threshold Power) ของคุณในระยะเวลาอันสั้น

แผนการฝึกซ้อมนี้ โค้ชจักรยานจริงๆ เป็นผู้สร้างและออกแบบการฝึกซ้อมเหล่านี้ขึ้นมา โดยให้มีความยืดหยุ่น ซึ่งถ้าผู้ฝึกไม่สะดวกหรือไม่มีเวลา ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนแผนการฝึกเพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันจริงๆของคุณ

แผนการฝึกซ้อม Zwift คุณสามารถที่จะปรับเปลี่ยนระยะเวลาในการฝึกให้เข้ากับชีวิตประจำวันของคุณได้

แผนการฝึกซ้อมอย่างมีรูปแบบเหล่านี้ทั้งหมด มีพื้นฐานการฝึกโดยใช้ w/kg ของค่า FTP ฉะนั้นคุณจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่บอกค่าเพาเวอร์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทอินดอร์ไบค์ สมาร์ทเทรนเนอร์หรือเพาเวอร์มิเตอร์ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากโหมดการฝึกซ้อมของ Zwift

ถ้าคุณใช้สมาร์ทอินดอร์ไบค์หรือสมาร์ทเทรนเนอร์ จะมีออฟชั่นให้คุณเลือกว่าจะซ้อมในระบบโหมด ERG เพื่อปรับควบคุมความหนืดในการปั่น ระบบนี้จะยกเลิกค่าระดับความชันต่างๆในเกมและเปลี่ยนเป็นค่าความหนืด ตามค่าวัตต์ตามที่รูปแบบการฝึกซ้อมของคุณกำหนดมา ระบบนี้จะทำให้คุณออกค่าวัตต์ได้ตามเป้าหมายที่แผนการฝึกกำหนดมาให้และคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการฝึกซ้อมแต่ละรูปแบบ

ถ้าคุณไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่บอกค่าเพาเวอร์วัตต์ เกม Zwift จะยังคงประมาณค่าเพาเวอร์ของคุณออกมาเป็นค่าเสมือนที่ใกล้เคียงที่สุด จากเซนเซอร์รอบขาและความเร็วและข้อมูลของเทรนเนอร์ที่คุณบันทึกลงในระบบว่าคุณใช้อะไรอยู่ เนื่องจากค่าเพาเวอร์ที่ได้มาจากการประมาณค่า โซนต่างๆในการฝึกซ้อมและข้อมูลที่ใช้ในการฝึกซ้อมอาจจะไม่เหมาะสมหรือถูกต้องตามที่เครื่องมือวัดเพาเวอร์ที่สามารถบอกค่าวัตต์คุณได้จริงๆ

Ride On!

Zwift คืออะไร [ตอนที่ 7 PowerUps คือพลังวิเศษ]
PowerUps คือพลังวิเศษ ที่มอบโดย CEO ของ Zwift ที่บอกว่ามันเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้ Zwift เป็นเกม PowerUps แต่ละอันจะมีคุณสมบัติ ที่แตกต่างกัน บางอันจะมอบค่าประสบการณ์ (XP) จำนวนหนึ่งให้ทันที หรือบางตัวจะมอบพลังพิเศษให้กับคุณชั่วคราว เช่นทำให้ตัวอวตารของคุณมีความเร็วเพิ่มขึ้น

คุณจะได้ PowerUps ก็ต่อเมื่อคุณผ่านซุ้มป้าย Start/Finish ผ่านซุ้ม KOM หรือ ผ่านซุ้มจุดสปริ้นท์ แต่ถ้าคุณยังคงมี PowerUps ที่ไม่ได้ใช้ เวลาคุณผ่านจุดพวกนี้ คุณก็จะไม่ได้รับอันใหม่ คุณยังคงจะมีอันเก่าอยู่

ในเกม Zwift มี ประเภทของ PowerUps ทั้งหมด 7 ประเภทดังนี้ครับ

• โบนัส XP เป็นเครื่องหมาย + ขนาดใหญ่ คุณจะได้แต้มค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น ทั้งหมด 250 XP

• โบนัส XP ป็นเครื่องหมาย + ขนาดเล็ก คุณจะได้แต้มค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น ทั้งหมด 10 XP

• ขนนก น้ำหนักเบา เมื่อคุณกดใช้ จะลดน้ำหนักของตัวอวตารลง 9 กก เป็นเวลา 15 วินาที เหมาะสำหรับใช้เวลาเจอทางเขาที่ชันมากๆ เมื่อคุณกดใช้อาจจะทำให้ความเร็วของคุณเพิ่มขึ้นอย่างแตกต่างเห็นได้ชัด หรือใช้ตอนที่ต้องการโจมตีบนภูเขาครับ

• รถบรรทุก เมื่อคุณกดใช้ จะทำให้ตัวอวตารอยู่ในสถานะกำลังดราฟคันข้างหน้า มีผล 50% เป็นเวลา 30 วินาที เหมาะสำหรับใช้ PowerUps นี้ ขณะใช้ความเร็วสูงหรือบนทางราบ สามารถใช้เมื่อต้องการสปริ้นมาจากด้านหลังของกลุ่ม

• หมวกแอร์โร่ เมื่อคุณกดใช้ จะลดแรงต้านลมลง 25% เป็นเวลา 15 วินาที จะมีประโยชน์มากเมื่อใช้ปั่นคนเดียวบนทางราบหรือขณะความเร็วสูงๆ ใช้เมื่อต้องการโจมตีเมื่อคุณอยู่หน้ากลุ่มหรือใช้เชื่อมเข้าหากลุ่มบนทางราบหรือลงจากภูเขา

• เบอร์ริโต้ เบรคอะเวย์ ทำให้ตัวอวตารของนักปั่นคนอื่นไม่สามารถดราฟเราได้เป็นเวลา 10 วินาที มีประโยชน์เมื่อต้องการ เบรคอะเวย์ ออกจากกลุ่มและไม่ต้องการให้ใครตาม หลังจากกดใช้ไปฟูลแก๊สเลยครับ

• ผีน้อย สามารถทำให้คุณหายตัวได้ นักปั่นคนอื่นไม่สามารถเห็นคุณได้เป็นเวลา 10 วินาที มีประโยชน์เมื่อต้องการจะเบรคอะเวย์ออกจากกลุ่ม วิธีการใช้ที่ดีที่สุดคือ พยายามเบรคอะเวย์ออกจากกลุ่มและสร้างช่องห่างกับกลุ่มให้ได้เมื่อกดใช้ ก่อนที่ทกคนจะรู้ว่าคุณพยายามจะเบรคอะเวย์ สามารถใช้ลวงให้ผู้เล่นคนอื่นเข้าใจผิดได้ว่าคุณกำลังจะโจมตีออกจากกลุ่มไป

PowerUps สามารถใช้เมื่อไรก็ได้ เพียงแค่กดแป้น Space Bar บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเพียวแค่กดผ่าน แอพ Zwift Companion เมื่อกดใช้แล้ว เราจะเห็น ตัวจับเวลาที่ PowerUps แสดงให้เราเห็นว่า เหลือเวลาให้ได้ใช้ได้อีกนานแค่ไหน

ถ้าเราอยู่ในโหมดทำ Workoutหรือบนรถทามไทรอัล เราสามารถใช้ PowerUps ได้แค่ ตัวเพิ่มค่าประสบการณ์เท่านั้น เราไม่สามารถใช้ PowerUps มาช่วยเราในการฝึกซ้อมได้เลยครับ

PowerUps ทำให้นักปั่นในเกมมีความสนุก ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เรียนรู้ที่จะใช้มันอย่างมีประโยชน์สูงสุด ทำให้เกมมีความสนุกสนานเพิ่มขึ้น Ride On และ PowerUp!

Zwift คืออะไร ตอนที่ 6 แล้ววัตต์ต่อกิโลกรัม (w/kg) คืออะไร

วัตต์ต่อกิโลกรัม (w/kg) คือค่าวัตต์หารด้วยค่ากิโลกรัม หรือค่า FTP หารด้วยน้ำหนักตัวกิโลกรัม ค่าวัตต์ต่อกิโลกรัม มีอีกชื่อหนึ่งคือ “power to weight ratio” อัตราส่วนระหว่างพลังต่อน้ำหนัก

สิ่งที่สำคัญที่สุดของค่านี้คือเป็น ค่าชี้วัดระดับความสามารถในการปั่นจักรยานทั้งในโลกของ Zwift และในโลกความเป็นจริง

ในถนนทางเรียบ ค่าพลังวัตต์ที่แสดงออกมาที่แท้จริง เป็นปัจจัยสำคัญในการนำมาคำนวนแต่เมื่อต้องปั่นขึ้นเขา นักปั่นต้องสู้และเอาชนะต่อแรงโน้มถ่วงของโลก ยิ่งนำหนักโดยรวมของนักปั่นและรถมากขึ้นเท่าใด ยิ่งต้องใช้แรงในการปั่นมากขึ้นเท่านั้น เพื่อที่จะเร่งความเร็วหรือการรักษาความเร็วให้คงที่

“Zwiftใช้ค่า w/kg เป็นลำดับแรกในการกำหนดความเร็วของตัวอวตารของนักปั่นในโลกเสมือนจริงนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปั่นขึ้นเขา”

สิ่งนี้เองค่าพลังวัตต์ต่อกิโลกรัม w/kg เป็นค่าที่สำคัญในการคำนวน สำหรับการปั่นขึ้นเขาในภูเขาที่สำคัญต่างๆ ในเกม Zwift

Zwiftใช้ค่า w/kg เป็นลำดับแรกในการกำหนดความเร็วของตัวอวตารของนักปั่นในโลกเสมือนจริงนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปั่นขึ้นเขาแต่นอกเหนือไปจากนี้ Zwift ยังใช้ค่านี้มาแบ่งประเภทของการแข่งขัน ระดับความสามารถในการปั่น การจัดกลุ่มปั่นแต่ละกลุ่ม การฝึกซ้อมและแผนการฝึกซ้อมอีกด้วย

ตอนนี้คุณก็รู้แล้วครับว่า มันง่ายมากที่จะโกงเกม Zwiftและกลายมาเป็นขาแรง โดยการใส่น้ำหนักตัวที่เบาลงไปน้อยกว่าน้ำหนักจริง แต่ก็อย่างที่มีผู้ใหญ่บอกเสมอว่า “คุณทำเช่นไร มันก็สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณเช่นนั้น” ถ้าขนาดในเกมคุณยังโกง ตัวจริงคุณก็จะยิ่งเป็นคนคตโกง มากกว่าในเกมเช่นกัน

Zwift คืออะไร ตอนที่ 5 ผมจะแข่งจักรยานใน Zwift ได้ไหมครับ

ได้ครับ ได้แน่นอน คุณสามารถแข่งจักรยานในเกม Zwift ได้ เป็นเรื่องง่ายมาก ให้เข้าไปในหน้าต่าง Event แล้วเลือกดูว่ามีรายการแข่งขันไหน ที่คุณอยากเข้าร่วมแข่งขันบ้าง คลิกเข้าไปที่รายการแข่งขั้นนั้นๆ และเลือกคลิก เครื่องหมายบวก ลงในประเภทการแข่งขัน (Category) ที่ตรงกับระดับความสามารถของคุณ

ในการแข่งขันจักรยานใน Zwift จะแบ่งออกเป็นประเภท ตามค่า FTP - Functional Threshold Power ในรูปแบบ วัตต์ต่อกิโลกรัม (w/kg)

ประเภท A นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 4.0 หรือมากกว่า
ประเภท B นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 3.2-3.9
ประเภท C นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 2.5-3.1
ประเภท D นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 2.4 หรือน้อยกว่า

ถ้าคุณไม่รู้ว่า ค่า FTP ของคุณคือเท่าไรคุณสามารถที่จะทำการทดสอบหาค่า FTP ในหน้า Workout ของ เกม Zwiftได้

เมื่อคุณเลือกประเภทและระดับความสามารถในการแข่งขันแล้ว ระบบ Zwift จะพาคุณไปจุดที่ เริ่มทำการแข่งขันโดยอัตโนม้ติ เมื่อการแข่งขันใกล้จะเริ่มขึ้น

คุณต้องมีกระติกน้ำและพัดลมขนาดใหญ่ แบบใหญ่มากๆ ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ เตรียมไว้ก่อน เพราะถ้าคุณหยุดระหว่างการแข่งขัน คุณจะถูกทิ้งและไม่สามารถที่จะตามกลุ่มข้างหน้าได้ทันอีกแล้ว

ให้แน่ใจว่าคุณต้องวอร์มอัพนานพอสมควรก่อนการแข่งขันจะเริ่ม การแข่งขันใน Zwift มีชื่อเสียงว่าการเริ่มปั่นแข่งขันใน Zwift หลังจากปล่อยตัว จะปั่นกันเร็วมากและบางคนก่อนที่เวลาปล่อยตัวจะเริ่มก็หมุนขาเร่งวัตต์ขึ้นมาสูงมากก่อนปล่อยตัว พอปล่อยตัวออกไป คนเหล่านี้ก็จะกระโจนนำหน้าผู้อื่นออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

มีคำแนะว่าการแข่งขันใน Zwift การดราฟหรือการดูดนักจักรยานคนด้านหน้า เป็นเรื่องที่ทำได้จริงแม้ว่าจะอยู่ในโลกเสมือน สามารถประหยัดแรงได้ถึง 25% คุณต้องพยายามใช้การดราฟเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เหมือนกับว่าคุณกำลังปั่นในโลกแห่งความเป็นจริง

Zwift คืออะไร ตอนที่ 4 จะไปร่วมปั่นจักรยานกับกลุ่มไหนได้บ้าง

จะหากลุ่มปั่นได้อย่างไรในเกม Zwift เมื่อคุณติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆกับจักรยาน สมัครสมาชิก Zwift ล็อคอินพร้อมที่จะเล่นแล้ว คุณสามารถที่จะท่องโลกไปในโลกเสมือนจริงของเกม Zwift ตามใจคุณปารถนา แต่ก็มีทางเลือกอื่นๆ คุณสามารถที่จะหากลุ่มเพื่อไปร่วมปั่นได้ใน Event ของเกม Zwift ครับ

ถ้าคุณล็อคอินเข้าไปในเกม Zwift คุณจะเห็นรายชื่อของ Event การปั่นกลุ่มหรือการแข่งขัน ที่กำลังจะเริ่มบนหน้าต่างมุมบนขวามือของจอคอมพิวเตอร์ แต่คุณจะสามารถดูรายละเอียดได้มากขึ้น พร้อมคำอธิบายถึง Event นั้นๆโดยละเอียด เวลาเริ่มและข้อมูลต่างๆมากมาย ได้จากแอพ Zwift Companion ที่เป็นแอพที่คุณต้องดาวน์โหลดลงในมือถือของคุณ เพื่อช่วยสนับสนุนในการเล่นเกม Zwift หรือจะเข้าเว็บไซต์ http://zwift.com/events/ สำหรับข้อมูลของ Event นั้นโดยละเอียดเช่นกัน

เมื่อสนใจใน Event อะไร แค่คลิกเข้าไปใน Event นั้นๆแล้วคลิกเครื่องหมายบวก (เขาร่วม) ใน Event โดยที่คุณสามารถเลือกระดับความสามารถของการแข่งขัน ให้เหมาะสมกับคุณได้ จาก ประเภทการแข่งขัน A, B, C หรือ D (รายละเอียดแสดงด้านล่าง)

ประเภท A นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 4.0 หรือมากกว่า
ประเภท B นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 3.2-3.9
ประเภท C นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 2.5-3.1
ประเภท D นักปั่นต้องมีค่า วัตต์ต่อกิโลกรัม เท่ากับ 2.4 หรือน้อยกว่า

การจัดกลุ่มปั่นตามความสามารถนั้น เป็นการจัดการปั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถที่จะปั่นไปด้วยกันได้ เมื่อคุณคลิกเข้าร่วมในราย Event แล้ว ให้เข้าเกมก่อนเวลาของ Event จะเริ่ม เราสามารถที่จะวอร์มขา ปั่นไปเรื่อยๆ จนเหลือเวลาอีกประมาณ 15 นาทีจะเริ่ม Event จะมีหน้าต่าง Join Event เล็กๆโผล่ขึ้นมาด้านล่างซ้ายมือ เราต้องกดเข้าร่วม Event อีกครั้งจากหน้าจอเกมครับ จากนั้น Zwift ก็จะพาตัวอวตารของคุณว๊าบมาที่จุดเริ่มปล่อยตัวครับ ซึ่งคุณสามารถที่อบอุ่นร่างกายได้ด้วยเทรนเนอร์เสมือนในเกม ก่อน Event จะเริ่มครับ

ในช่องปล่อยตัว เราก็เห็นนักปั่นคนอื่นๆที่มาร่วม Event เดียวกับเราครับ โดยที่เราสามารถส่งข้อความ โดยที่ข้อความที่ส่งออกไปนั้น นักปั่นในกลุ่มก็สามารถมองเห็นได้ทั้งหมดครับ

ทุกๆ Event จะมีผู้นำของ Event นั้นๆครับ คุณจะต้องทำตามผู้นำในแต่ละ Event ครับ และคุณสามารถอ่านข้อความที่ผู้นำต้องการที่จะบอกให้นักปั่นทุกคนรับทราบ เราจะเห็นบนหน้าจอครับ โดยปกติผู้นำกลุ่มจะบอกให้พวกเราปั่นอยู่ด้วยกันครับ ไม่แตกกลุ่ม

Zwift | Events on Zwift Looking for some company? Join an official group ride.

การตั้งค่าเทรนเนอร์จับดุมหรือเทรนเนอร์ทั่วไปที่ไม่ใช่ สมาร์ทเทรนเนอร์ ถ้าอยากให้สมจริงและให้ได้ค่าพลังวัตต์ ออกมาให้สมจริงที่สุด ต้องทำอย่างไรครับ มาดูกันครับ

Zwift คืออะไร ตอนที่ 3

เราสามารถ ปั่น ในโลกเสมือนจริง ในเกม Zwift ได้ที่ไหนบ้าง
โลกเสมือนจริง ในเกม Zwift มีทั้งหมด 7 ที่ด้วยคือ

1. Watopia - วาโทเปีย
2. Bologna - โบโลญญ่า
3. Innsbruck (INS) - อินสบรุ๊ค
4. London (LDN) - ลอนดอน
5. New York City (NYC) - นิวยอร์คซิตี้
6. Richmond (RCH) - ริชมอนด์
7. Yorkshire (YKS) - ยอร์คไชร์

ในแต่ละโลกจะมีเส้นทางให้เลือกเฉพาะต่างหากสำหรับคุณเพื่อเลือกสถานที่ ที่จะปั่น หรือจะปั่นไปเรื่อยๆ อย่างอิสระในแผนที่ของแต่ละโลกได้

Zwift พึ่งอัพเดทหน้าจอให้ สามาถเลือกได้ 3 โลก เมื่อไม่นานมานี้ โดยมี โลก Watopia เป็นโลกที่มีให้เลือกปั่นทุกวัน แต่โลกอื่นๆ อีก 2 โลก ก็จะสลับกันมาให้เลือก ตามปฏิทินของเกม Zwift

ฟังดูเหมือนเข้มงวดมาก ที่ทำไมให้เลือกได้ไม่เยอะ แต่ Zwift ออกแบบมาให้มีพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมและเป็นการหยุดไม่ให้นักปั่นกระจัดกระจายแยกย้ายกันอยู่อย่างเบาบางเกินไป และจะทำให้เวลาปั่นจะไม่โดดเดี่ยวและเจอนักปั่นคนอื่นๆปั่นด้วยข้างๆหรือแข่งขันด้วยกัน ตอนนี้การนำโลกออกมาให้ปั่น 3 โลก เนื่องจากตอนนี้มีผู้เข้ามาเล่น Zwift เป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องเปิดอีก 1 โลก ขึ้นมาเพื่อลดการแออัดแทน

ถ้าอยากรู้ว่าจะมีโลกเสมือนจริงอะไร ให้ปั่นวันไหน เมื่อไร ก็สามารถดูได้ที่กำหนดการตามปฏิทินที่ด้านล่างขวามือ ของหน้าจอเลือกโลกเสมือนนะครับ

เขียนเรื่องปุ่ม Shortcut ไว้นานแล้วครับ จังหวะชี้เป็นชี้ตาย ตบแป้นผั๊วะ ระเบิดพลังสปริ้นท์เข้าเส้นได้เต็มที่ครับ ไม่ใช่จับเม้าส์ เขย่าเม้าส์ไล่คลิ๊กหน้าจอครับ ไม่ทันฝรั่งครับเพราะมันไปไกลละครับ 555 ต้องอ่านดูครับ โดยเฉพาะ เคาะปุ่มอะไร ใช้ PowerUp ได้ทันทีครับ

เข้าไปอ่านมาครับ เลยเอามาฝากกันครับ ปุ่มลัดครับ เวลาจะกด Power Ups บน PC ต้องกดอะไร ไม่ต้องเลื่อนเม้าส์ไปกด หมายเหตุใช้ได้กับ PC นะครับ

NUMBER KEYS (CAMERA ANGLES)
ปุ่มหมายเลข (แสดงมุมมองจากกล้อง)

หมายเลข 1: Default 6 o’clock view - เป็นค่าเริ่มต้น มุมมองจากด้านหลัง ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
หมายเลข 2: Third person view - มุมมองจากคนที่ 3
หมายเลข 3: First person shooter perspective - มุมมองจากนักปั่น
หมายเลข 4: To the side front-left of the rider - มุมจากด้านหน้าซ้ายของนักปั่น
หมายเลข 5: Rear view from the right of the rear wheel - มุมมองจากด้านหลังขวาของนักปั่น
หมายเลข6: Head on to the rider - มุมมองจากด้านบนศรีษะของนักปั่น
หมายเลข 7: Spectator view - มุมมองจากผู้ชม
หมายเลข 8: Helicopter view - มุมมองจากเฮลิคอปเตอร์
หมายเลข 9: Bird’s eye view - มุมมองจากมุมสูง
หมายเลข 0: Drone View – use the arrow keys, +, and – keys to move and zoom camera - มุมมองจากโดรน – ใช้เครื่องหมาย + หรือ – เพื่อลด เพิ่มขยายการซูมกล้อง

FUNCTION KEYS (RIDER ACTIONS)
ปุ่มฟังชั่น (ท่าทางการแสดงของนักปั่น)
ปุ่ม F1: Stick out elbow – โบกข้อศอก
ปุ่ม F2: Wave hand – โบกมือ
ปุ่ม F3: “Ride On!” – ปั่นกันเถอะ
ปุ่ม F4: “Hammer Time!” – ถึงเวลาทุบแล้ว
ปุ่ม F5: “Nice!” – เยี่ยม
ปุ่ม F6: “Bring It!” – ก็มาดิครับ
ปุ่ม F7: “I’m toast” – ผมไม่ไหวแล้ว
ปุ่ม F8: Bike bell – สั่นกระดิ่งจักรยาน
ปุ่ม F10: Screen Capture/Photo – บันทึกภาพหน้าจอ

OTHER KEYS
ปุ่มอื่นๆ
ปุ่ม A: Device pairing screen – แสดงหน้าจอเชื่อมต่อ อุปกรณ์
ปุ่ม E: Bring up workout selection screen – แสดงหน้าจอ Workout
ปุ่ม G: Toggle Watt/HR graph – แสดงกราฟพลังวัตต์และหัวใจ
ปุ่ม M: Group Message window – หน้าต่างข้อความในกลุ่ม
ปุ่ม P: enter promo code – หน้าต่างเพื่อใส่รหัสโปรโมชั่น
ปุ่ม T: User Customization screen (change bike, kit, etc) – แสดงหน้าต่างปรับแต่ง ของผู้ใช้ เช่นเปลี่ยน รถจักรยาน เสื้อ อุปกรณ์

ปุ่ม Up Arrow: Show actions/options menu (use left/right arrows to select) – ลูกศรชี้ขึ้น แสดงเมนู ออปชั่นต่างๆ (ใช้ลูกศรซ้ายหรือขวาเพื่อเลือก)
ปุ่ม Down Arrow: Perform a u-turn – ลูกศรชี้ลง เลี้ยวยูเทิร์นกลับ
ปุ่ม Left or ปุ่ม Right arrows to turn – ลูกศรซ้าย หรือขวา เพื่อเลือกไปทางซ้ายหรือขวา
ปุ่ม Spacebar: use power-ups – ใช้พลัง power-ups
ปุ่ม Esc: Brings up the “End Ride Screen” (press again to go back to the game) – กด ESC เพื่อไปหน้าจอสิ้นสุดการปั่น (กดอีกครั้งเพื่อออกจากหน้าจอสิ้นสุดการปั่น)
ปุ่ม Tab: skip workout block – ปุ่ม Tab เพื่อข้ามโหมด workout
ปุ่ม Page Up/Down: adjust workout % intensity (aka “FTP bias”) during a workout – ปุ่ม Page Up/Down เพื่อปรับเพิ่มหรือลด ค่า % ของค่า FTP ในโหมด workout ระหว่างการทำ workout

หมายเหตุ – ปุ่มลัดนี้ ใช้ได้กับ PC/Mac ครับ บนระบบ IOS ไม่มีแป้นพิมพ์ การสื่อสารกับเกมก็ใช้โดยระบบสัมผัสหรือปัด

Ride On!
More Zwifter, More Fun.

https://zwiftinsider.com/keyboard-shortcuts/

Zwift Keyboard Shortcuts Complete list of Zwift keyboard shortcuts, including a printable PDF.

ซวิฟท์ (Zwift) คืออะไร ตอนที่ 2

คุณจะต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างถึงจะสามารถเล่นเกมจักรยานออนไลน์ ซวิฟท์ได้

• จักรยาน
• เทรนเนอร์จักรยานหรือสามลูกกลิ้งก็ได้
• อุปกรณ์วัดค่าที่ส่งสัญญาณระบบ ANT+หรือ Bluetooth เช่นตัวพาวเวอร์มิเตอร์ สมาร์ทเทรนเนอร์ หรือ ตัวเซนเซอร์วัดความเร็วรอบขา
• คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ตพร้อมตัวรับสัญญาณ Bluetooth หรือ ANT+ หรือตัว USB ANT+ เพื่อเชื่อมสัญญาณ ANT+ เข้าคอมพิวเตอร์

อุปกรณ์วัดค่าที่ ส่งสัญญาณระบบ ANT+หรือ Bluetooth ถือเป็นตัวส่งข้อมูลหลักเข้าไปสู่โลกเสมือนจริง ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี และแน่นอนจักรยานก็เช่นกัน

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบปั่นจักรยานและฝึกซ้อมในร่มอย่างจริงจัง และคุณมีเงินมากพอ คุณก็สามารถที่จะลงทุนซื้อจักรยานออกกำลังกายที่ใช้ปั่นในร่มได้ เช่น วัตต์ไบค์ มีหลายแบรนด์เช่น Stages, Wahoo หรือ SRM ในปัจจุบันจักรยานฝึกซ้อมในร่มของแบรนด์เหล่านี้ สามารถที่จะตอบโจทย์การฝึกซ้อมในร่มได้เกือบทั้งหมด และสามารถที่จะทำให้คุณสามารถเค้นพลังทั้งหมดที่มีเพื่อใช้ในการฝึกซ้อมหรือเพื่อการแข่งขันในโลกเสมือนจริงของ Zwift ได้เลย

“ซวิฟท์จะใช้ข้อมูลจาก พาวเวอร์มิเตอร์ของคุณและนำมาคำนวนออกมาเป็นความเร็วในเกม”

สมาร์ทเทรนเนอร์ถือเป็นทางเลือกถัดไป เหมือนๆกับ จักรยานฝึกซ้อมในร่ม สมาร์ทเทรนเนอร์จะวัดค่าพาวเวอร์ของคุณโดยตรงและจะส่งสัญญาณข้อมูลเข้าไปในเกม Zwift

นอกเหนือจากสมาร์ทเทรนเนอร์จะเป็นตัววัดค่าพาวเวอร์โดยตรงแล้ว ยังสามารถจำลองความชันเสมือนในเส้นทางได้ โดยการเปลี่ยนค่าความหนืดโดยขึ้นอยู่กับความชันที่เกมกำหนดและสมาร์ทเทรนเนอร์ยังสามารถที่จะใช้ฝึกซ้อม Workout โดยผ่านระบบควบคุมของ Zwift โดยสามารถกำหนดค่าพาวเวอร์วัตต์ที่ใช้ในแต่ละช่วงของการฝึกซ้อมได้

แต่ถ้าคุณมี พาวเวอร์มิเตอร์ คุณก็สามารถนำมาใช้กับเทรนเนอร์อะไรก็ได้ หรือสามลูกกลิ้ง เกม Zwift จะใช้ข้อมูลจากค่าพาวเวอร์มิเตอร์ของคุณ มาเปลี่ยนเป็นความเร็วในเกม แต่แน่นอนคุณจะพลาดระบบการปั่นความชันเสมือนจริงและระบบ Workout ที่ควบคุมโดยเกม Zwift ซึ่งไม่เหมือนกับการปั่นจักรยานฝึกซ้อมในร่มหรือการปั่นบนสมาร์ทเทรนเนอร์

ตัวเซนเซอร์วัดความเร็วรอบขาถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานและสามารถทำให้คุณปั่นจักรยานที่ไม่มีพาวเวอร์มิเตอร์ โดยใช้กับเทรนเนอร์ธรรมดา ระบบ Zwift จะคำนวนและเปลี่ยนค่าตัวเลขความเร็วรอบขา มาเป็นค่าพาวเวอร์ในเกม แน่นอนว่าการคำนวนนี้ไม่ได้สมจริงถูกต้องแม่นยำที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้มันได้เปรียบอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ เพราะว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ราคาถูกที่สุดและพาคุณเริ่มเข้าสู่โลกเสมือนจริงได้ใน Zwift

คุณจะเริ่มเล่นเกม Zwift ได้อย่างไร

อันดับแรกเลย คุณต้องลงทะเบียนสร้างบัญชีของคุณกับ Zwift
บน Mac หรือ PC คุณสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้บนเว็บไซต์ของ Zwift ที่ www.zwift.com บนแท็ปเล็ตหรือมือถือคุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Zwift ได้จาก Apple App Store หรือ Google Play และลงทะเบียนผ่านจากแอพเหล่านี้ได้เช่นกัน
คุณสามารถลงทะเบียนสมาชิกและจ่ายรายเดือน 14.99 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 500 บาท หรือจะเริ่มจากการทดลองเล่นฟรีก่อน เป็นเวลา 7 วัน

ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์หรือ Apple TV เพื่อใช้งาน Zwift เราขอแนะนำให้คุณดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Zwift Companion จาก Apple App Store หรือ Google Play ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้มีตัวช่วยเหลือและคุณลักษณะต่างๆมากมาย ที่จะคอยช่วยเหลือข้อมูลให้กับผู้เล่นและสนับสนุนผู้เล่นเพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัส ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนเส้นทางการปั่นของตัวอวทาร์ตัวละครเสมือนจริงหรือการส่งข้อความให้กับ ชาว Zwift คนอื่นๆ

แอพพลิเคชั่น Zwift Companion ถือเป็นช่องทางที่สะดวกมากที่จะใช้เลือกและลงรายชื่อเข้า Event รายการปั่นหรือรายการแข่งขันต่างๆ มากมาย เช่น การปั่นกลุ่ม การทำ Workout กลุ่มหรือ การแข่งขัน
และเมื่อคุณลงทะเบียนทุกอย่างเสร็จสิ้นและคุณเปิดแอพพลิเคชั่น Zwift จะมีหน้าต่างเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆของคุณเข้ากับเกม Zwift เพียงแค่คุณเลือกและคลิกเท่านั้น

ลำดับต่อไป ก็แค่เข้าเกมและเลือกว่า จะไปปั่นโลกเสมือนจริงที่ไหนใน Zwift

ซวิฟท์ (Zwift) คืออะไร ตอนที่ 1

ซวิฟท์ (Zwift) คืออะไร นอกจากบอกกันว่ามันเป็นเกมปั่นจักรยานออนไลน์ เมื่อเข้าใจมันมากขึ้นก็จะเล่นได้สนุกขึ้นครับ

ซวิฟท์คือรูปแบบพื้นฐานเพื่อการแข่งขันและการฝึกซ้อมที่ตอบสนองต่อความต้องการซึ่งโต้ตอบได้ทั้งผู้ใช้และเกมในโลกออนไลน์ การควงขาปั่นจักรยานบนเทรนเนอร์จะควบคุมให้ ตัวอวทาร์หรือตัวแทนตัวตนของเราในโลกเสมือนจริงไปท่องในเส้นทางของโลกเสมือนจริงและยิ่งออกแรงปั่นมากเท่าไร เราก็สามารถไปได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

ซวิฟท์มีโลกเสมือนทั้งหมด 7 โลด้วยกันก (จะมีมากขึ้นในอนาคต) ในแต่ละโลกเสมือนคุณสามารถเดินทางไปได้บนถนนที่เชื่อมต่อกันได้หลายเส้นทาง
คุณสามารถปั่นพร้อมกับนักปั่นหลายพันคนในซวิฟท์ คุณสามารถเข้าร่วมกลุ่มปั่นจักรยานและสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้หลายรายการ และคุณสามารถดราฟนักปั่นคนอื่นๆได้ ในโลกซวิฟท์นี้ คุณสามารถเข้ามาแล้วร่วมปั่นไปพร้อมกับคนอื่นๆได้เมื่อคุณต้องการและคุณสามารถที่จะเลือกการฝึกซ้อมโดยใช้พื้นฐานของพาวเวอร์มิเตอร์ได้อย่างมีแบบแผน

คุณลักษณะและองค์ประกอบที่หลากหลายของซวิฟท์ จะผลักดันให้คุณสามารถปั่นได้ยาวนานและหนักมากยิ่งขึ้น โดยซวิฟท์มีวัตถุประสงค์ที่จะยกระดับความฟิตของคุณ ซวิฟท์จึงใช้วลีที่ว่า ความสนุกคือความเร็ว (Fun is fast)

ซวิฟท์ทำงานอย่างไร

ซวิฟท์รับข้อมูลมาจากการปั่นของคุณบนจักรยาน โดยผ่านพาวเวอร์มิเตอร์ สมาร์ทเทรนเนอร์หรือแค่ ตัวเซนเซอร์วัดรอบขาและวัดความเร็ว ซึ่งเชื่อมต่อผ่านการรับส่งสัญญาณโดยระบบ Ant+ และบลูทูธ ซวิฟท์ใช้ระบบอัลกอริธึมการคำนวณทางคณิตศาสตร์เพื่อแปลความหมายจากข้อมูลที่ได้รับมา และแปลเปลี่ยนเป็นความเร็วให้กับตัวอวทาร์หรือตัวแทนตัวตนของเราในโลกเสมือนจริงของคุณ ในเส้นทางเสมือนจริง

น้ำหนักของคุณ พาวเวอร์ (Watt) ของคุณ ค่าพาวเวอร์ที่ได้รับการคำนวณมาแล้ว (FTP) ของคุณ ระดับความชันของถนนและการดราฟจักรยานและข้อมูลจากนักปั่นคนอื่นๆ จะถูกนำไปรวมในการคำนวนความเร็วด้วยเช่นกัน

คุณสามารถเล่น ซวิฟท์บนคอมพิวเตอร์ ทั้ง PC และ Mac บนโทรศัพท์ไอโฟน ไอแพ็ด หรือสมาร์ทโฟนบนระบบแอนดรอยด์หรือแท็ปเล็ตได้
ซวิฟท์ตอนนี้สามารถเล่นบนทีวี Apple ถ้าคุณมีอุปกรณ์อันใดอันหนึ่งจากที่กล่าวมา คุณสามารถเล่นซวิฟท์ได้ที่หน้าจอทีวี (ถ้าเพื่อนหรือแฟนคุณไม่ว่าอะไร)

ซวิฟท์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร

ตอนแรกฟรี พอนานๆไป ในระยะยาวต้องเสียเงิน เราสามาถเล่นได้ฟรี 7วันแรก หลังจากคุณลงทะเบียนในระบบแล้ว แต่หลังจากหมดระยะเวลาทดลองเล่นฟรี คุณจะต้องจ่ายเงินเดือนละ14.99 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 500 บาทไทยต่อเดือนเพื่อที่จะเล่นต่อไป

https://www.bikeradar.com/features/zwift-your-complete-guide/

รายละเอียดเล็กๆ บนหน้าต่างนักปั่นที่อยู่ใกล้ๆ ด้านขวาของจอครับ ในรายชื่อของนักปั่นจะมีเวลาที่ห่างกันอยู่และจะมีไอคอน รูปต่างๆปรากฏมา บนตัวเลขเป็นไอคอนเล็กๆ มีดังนี้ครับ

มีอะไรบน หน้าจอแสดงผลในเกม Zwift ครับ
สำหรับมือใหม่หัดเล่น Zwift ครับ

Ride On!

พี่จักรไม่ได้อัพเดทหลายวัน เพราะไปลองระบบ Meetup อีกทั้งไปแว้นในห้อง Event ต่างๆ ก็ถึงเวลากลับมา แนะนำอะไรสนุกๆให้กับ ชาว Zwifter ในเรื่องการสร้าง Meetup เพื่อที่จะพาแฟนหรือพวกเพื่อนๆอารมณ์ศิลปิน สายแฟชั่น สายกาแฟ แรงมีไม่เยอะแต่จิตใจฮึกเหิม ไปปั่นด้วยกันกับเราโดยที่ไม่มีหลุดรั้งท้ายหรือเราทิ้งหายให้ปั่นเดียวดายอีกต่อไป

ระบบนี้คือ Keep Every Together ใช้ไม่อยากครับแค่สร้างห้องเชิญชวนเพื่อนๆมาปั่นด้วยกัน แล้วเลือกประเภทการปั่นเป็น Keep Every Together แค่นั้นครับ

แต่ที่เด็ดคือ เกิดวันนั้นถึงวันที่ต้องทำ Interval แล้วเพื่อนๆเราไม่อยากจะทำ อยากจะปั่นชิลๆ เราก็ทำของเราไป เพื่อนก็ปั่นชิลๆไป ออกทริป 100กม เราอยากได้เพื่อนคุย เพื่อนแรงไม่เยอะ ขอให้แค่เพื่อนหมุนขาเบาๆ ก็จะตามเรามาไม่ห่างเลยครับ
ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ด้วย Keep Everyone Together

แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ ถ้าเรามีเพื่อนหรือชมรม อยากจะซ้อม Interval เหมือนกัน โดยที่ไม่หลุดกลุ่ม ออกแรง FTP ของใครของมัน สามารถไปด้วยกันได้ แอดก็แนะนำวิธีการมาด้วยแล้วครับ โดยใช้ระบบ Keep Everyone Together นี่ละครับ ปั่นกัน 9-10คัน เปิดระบบซ้อมเหมือนกันเลยครับ

โลกของการฝึกซ้อม โลกของการปั่นเปลี่ยนไปแล้วครับ อย่ากลัวสิ่งใหม่ๆครับ สนุกไปกับมัน อะไรดีเราก็เก็บไว้ อะไรไม่ดีเราก็ทิ้งไป

Ride On!