ดีพอต D-Pot ปอดดี ลดหอบ ลดเสมหะ ลดอักเสบ สบายปอด

ดีพอต D-Pot ปอดดี ลดหอบ ลดเสมหะ ลดอักเสบ สบายปอด

เพื่อสุขภาพปอดที่ดี ปอดแข็งแรง หาย?

15/01/2021

ไม่สูบ แค่สูดควันหรืออยู่ใกล้…ก็เสี่ยง!

กว่า 90 % ของผู้ป่วยโรคปอดโดยเฉพาะมะเร็งปอดในปัจจุบันล้วนมีสาเหตุสำคัญมาจากการสูบบุหรี่ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือกว่าร้อยละ 30 ของคนที่เป็นมะเร็งปอดคือคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ แต่ได้รับควันบุหรี่จากคนใกล้ชิด และผู้ที่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะทั่วไป เพราะในบุหรี่ 1 มวนมีสารพิษกว่า 60 ชนิดที่เป็นอันตรายกับร่างกาย และสารพิษเหล่านั้นยังสามารถตกค้างอยู่ในพื้นที่ที่เคยมีคนสูบบุหรี่ได้นานถึง 6 เดือน ไม่จะไม่มีควันแล้วก็ตาม ดังนั้นแม้จะไม่สูบหรี่ก็มีโอกาสเสี่ยงโรคถุงลมปอดโป่งพอง รวมถึงเป็นสาเหตุของอาการเหนื่อยหอบตลอดชีวิต เพราะร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมเนื้อปอดที่ถูกทำลายจากบุหรี่ได้

ไม่แสดงอาการฉับพลัน...แต่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรง
สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด หรือโรคทางเดินหายใจ การสูดฝุ่นละอองที่เป็นพิษอาจจะแสดงผลในทันที แต่สำหรับบางคนที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง การสูดฝุ่นละอองอาจไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงแบบเฉียบพลันทันที แต่จะไปสมสะอยู่ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ก่อให้เกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคทางสมอง และโรคมะเร็งได้ในระยะยาว

ผิดปกติแบบนี้ พบแพทย์ทันที ก่อน “ปอด” พัง
โดยธรรมชาติแล้วปอดมักจะไม่แสดงอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น ทุกคนจึงควรหมั่นสังเกตตัวเอง หากมีอาการไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด ไอรักษาไม่หาย หอบเหนื่อย แน่นเจ็บชายโครง เจ็บหน้าอก หายใจแล้วเจ็บ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีไข้ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ปอดของเราอาจถูกโรคร้ายทำลาย จนไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้ดังเดิม “หมั่นตรวจสุขภาพปอดประจำปี ไม่ต้องมีอาการก็ตรวจได้”

12/08/2020

No other gift in the world will be more special than the gift of mother.
I am really too glad to have you. Love you lots mom. Wish you a happy Mother’s Day.

ไม่มีของขวัญใดในโลกที่จะพิเศษมากไปกว่าของขวัญจากแม่
ลูกดีใจเหลือเกินที่มีแม่ รักแม่ที่สุด สุขสันต์วันแม่

28/07/2020

28 กรกฎาคม 2563

วันเฉลิมพระชนมพรรษา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

#ทรงพระเจริญ

10/06/2020

ช่วงนี้ทั้งปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 เรื่องสถานการณ์โรคระบาดสร้างความกังวลให้กับประชาชน เกี่ยวกับ “ปอดอักเสบ” นั้น การไม่ตื่นตระหนกและรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็จะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์และโรคที่เกิดขึ้นได้ เพื่อเป็นการระมัดระวังและป้องกัน ทั้งนี้โรคปอดอักเสบ ทำให้กระบวนการแลกเปลี่ยนออกซิเจนทำงานได้ไม่ดี ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจอึดอัด หายใจลำบาก มีระดับความรุนแรงตั้งแต่รุนแรงน้อยไปจนถึงรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิต

อาการที่ควรสังเกตคือ ไอ มีเสมหะ มีไข้สูง อาจตัวร้อนตลอดเวลา หนาวสั่นมาก หายใจลำบาก หายใจหอบเร็ว อาจเจ็บแปลบหน้าอกเวลาหายใจเข้า อาจไอแรงร้าวไปที่หัวไหล่หรือสีข้าง แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยจากอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก โดยจะใช้เครื่องตรวจฟังเสียงปอด หลังจากนั้นหากต้องทำการตรวจพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจเสมหะ ตรวจเสมหะ RP33 (Respiratory Pathogen Panel 33) เป็นต้น ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

09/06/2020

เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม โรค หรือไม่ใช่โรค

อาการเหนื่อยง่าย หอบ จุกเสียดหน้าอก บ่อยๆ อาจจะเป็นเรื่องปกติของหลายๆ จะมากน้อยก็แล้วแต่บุคคล ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคร้ายหรืออาการป่วยที่เป็นอันตราย อาจจะบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ จนสามารถกลับมาหายใจได้ตามปกติด้วยวิธีต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย ฝึกเทคนิคการหายใจ หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการที่เกิดขึ้นกับตนเองอยู่เสมอ

สาเหตุการเกิดอาการ

- ภาวะเลือดเป็นกรด ,ช็อก ผู้ป่วยมักมีประวัติเป็นเบาหวาน (แต่ขาดการรักษา) ตกเลือดรุนแรง ท้องเดิน หรืออาเจียนรุนแรง
- โรคปอดเรื้อรัง โรคถุงลมปอดโป่งพอง ผู้ป่วยมักมีอาการหอบเหนื่อยเวลาออกแรงทำงานหรือเคลื่อนไหวร่างกาย
- โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ ผู้ป่วยมักมีอาการปวดจุกบริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่ และ ร้าวขึ้นคอ ขากรรไกร หรือต้นแขน มักพบในผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันเลือดสูง คนอ้วน สูบบุหรี่จัด
- สำลักสิ่งแปลกปลอม อาหาร หรือเผลอกลืนเมล็ดผลไม้
อาการเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย
- ชอบถอนหายใจถี่ๆ อาจเป็นเพราะติดการถอนหายใจจากการผ่อนคลายความเครียด หรือ เกิดจากจิตใต้สำนึกจากการทำบ่อยๆ ผู้ป่วยชนิดนี่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ จากการได้รับยาคลาย
- เครียดอ่อนๆ โดยเฉพาะเวลานอน หรือ บางรายอาจต้องปรึกษาจิตแพทย์
- ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism)
- กรดในกระเพาะไหลย้อนกลับ (Gastroesophageal Reflux) และ ท้องอืด

07/06/2020

ปอดติดเชื้อ อันตรายถึงตาย ถ้าไม่ป้องกันให้ถูกต้อง
อวัยวะปอดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากสามารถเกิดโรคร้ายได้อย่างโรคปอดติดเชื้อ ซึ่งมีความรุนแรง ทำให้เสียชีวิตได้ วันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับโรคปอดติดเชื้อ และการดูแลรักษาตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายนี้มาฝากเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน

โรคปอดติดเชื้อหรือที่เรียกว่าโรคปอดบวม เกิดจากเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย และทำให้เกิดอาการติดเชื้อที่ปอด โดยแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคปอดบวมได้นั้นเป็นแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “Streptococcus pneumoniae” (สเตรปโตคอคคัส นิวโมเนียอี) เมื่อเกิดการติดเชื้อคนไข้จะมีอาการไข้ ไอ หายใจหอบ หรือบางครั้งคนไข้ที่เข้าไปพบแพทย์ด้วยโรคปอดติดเชื้ออาจมีอาการของหัวใจล้มเหลวด้วย การติดเชื้อในปอดมีความรุนแรงสามารถทำให้เสียชีวิตได้

การป้องกันรักษาโรคปอดที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ห่างไกลจากโรคปอดติดเชื้อก็คือ “การฉีดวัคซีน” โดยการป้องกันโรคปอดติดเชื้อจากเชื้อไวรัส คนไข้จะต้องได้รับวัคซีนที่ป้องกันไวรัสชนิดที่ชื่อว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ ส่วนการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคปอดติดเชื้อจากแบคทีเรีย คนไข้จะต้องได้รับวัคซีนที่ป้องกันแบคทีเรียชนิดที่ชื่อว่า Streptococcus pneumoniae ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคปอดมากที่สุด สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดติดเชื้อคือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มคนอื่นๆ จึงต้องดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ

02/06/2020

สารสกัด 7. สารสกัดจากบร็อคโคลี่ ช่วยขจัดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อปอดได้อย่างดี

02/06/2020

สารสกัด 6. สารสกัดจากเมล็ดลินิน มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

01/06/2020

สารสกัด 5. สารสกัดจากโสมราชาสมุนไพร ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ปรับสภาวะ และฟื้นฟูให้ร่างกาย

01/06/2020

สารสกัด 4.สารสกัดจากแครอท ช่วยป้องกันระบบทางเดินหายใจ

31/05/2020

สารสกัด 3.สารสกัดจากแอ๊ปเปิ้ล ช่วยลดหอบหืด เปิดระบบทางเดินหายใจ

31/05/2020

สารสกัด 2. สารสกัดจากขิง ช่วยเรื่องภูมิแพ้ หายใจโล่ง ป้องกันอักเสบ ลดติดเชื้อ

30/05/2020

สารสกัด 1. สารสกัดจากกระเทียม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เสริมภูมิต้านทาน ป้องกันเชื้อรา และไวรัสที่ปอด

30/05/2020

🙏 เพราะปอดเรา...นั้นสำคัญ มาช่วยกันดูแลปอด ให้ปลอดจากฝุ่นพิษ ไวรัส และมลภาวะรอบตัว

D-POT (ดี-พอต) ผลิตภัณฑ์บำรุงปอด ✔️ ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัดต่างๆ
✔️ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
✔️ ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
✔️ ช่วยควบคุมการทำงานของอินซูลินในร่างกายได้ดีขึ้น
✔️ ช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆได้ดีขึ้น
✔️ ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงยิ่งขึ้น
✔️ ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด
✔️ ช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้อที่ผิดปกติ
✔️ มีฤทธิ์ต้านการเจริญของจุลชีพ รวมถึงแบคทีเรียและเชื้อรา
✔️ ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด
✔️ ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด และ ลดการทำลายเซลล์จากการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในเซลล์

28/05/2020

D-POT.. ดีต่อ..ปอด.!
หากมีอาการเหล่านี้ ทานกันเถอะ ฟื้นฟูและเพิ่มภูมิ
🔅 มีอาการ ไอเรื้อรัง
🔅 มีปัญหาเรื่อง การหายใจ
🔅 เป็นหอบ เหนื่อยง่าย
🔅 สูบบุหรี่ หรือกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดคนสูบบุหรี่

#ดีต่อปอด หายใจโล่งสดชื่น ขับเสมหะ ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ล้างสารพิษในปอด

27/05/2020

ฝุ่น ควันทำลายปอด
แค่ฝุ่นจางๆและควัน ก็ทำให้เสี่ยง “โรคปอด” ได้นะ

มลภาวะทางอากาศหลายอย่างเป็นสิ่งที่เราไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา คนส่วนใหญ่จึงละเลยที่จะปกป้องตัวเองจากอันตรายเหล่านี้ จนกระทั่งเกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและปอด หรืออาจเพราะมลภาวะทางอากาศหลายชนิดไม่มีกลิ่น จึงทำให้เราไม่ทันระวังและรับสารพิษเหล่านี้เข้าไปกับลมหายใจโดยไม่รู้ตัว
ไม่ใช่แค่ PM 2.5 ที่อันตรายกับทางเดินหายใจ
แม้ว่าร่างกายจะออกแบบมาให้จมูกคอยทำหน้าที่เป็นตัวกรองและดักจับเชื้อโรคที่ปะปนในอากาศที่เราหายใจ แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้ถึงหลอดลมฝอยขนาดเล็ก และยิ่งหากมีขนาดเล็กกว่า 1 ไมโครเมตร ก็จะสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด แต่ก็ไม่ใช่แค่ PM 2.5 เท่านั้นที่เราต้องระวัง เพราะในอากาศยังมีมลภาวะอื่นๆ ที่อันตรายไม่แพ้กัน อาทิ

- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง กระบวนการอุตสาหกรรม การบด การโม่ หรือการทําให้เป็นผงจากการก่อสร้าง เมื่อหายใจเข้าไปจะสามารถสะสมในระบบทางเดินหายใจ เป็น อันตรายต่อสุขภาพ
- ก๊าซโอโซน (O3) ที่ทำให้ความสามารถในการทำงานของปอดลดลง เหนื่อยเร็ว โดยเฉพาะในเด็ก คนชรา และคนที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง
- ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิง ก๊าซชนิดนี้จะเข้าไปจับกับเม็ดเลือด ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายลดน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย และหัวใจทำงานหนักขึ้น
- ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) มีผลต่อระบบการมองเห็นและกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
- ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับเป็นเวลานานๆ จะทำให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้

27/05/2020

บุหรี่..ทำลายปอด..

ทุกวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลก กำหนดให้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ โดยในปี 2562 คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก คือ “บุหรี่เผาปอด”

“ปอด” เป็นด่านแรกที่ได้รับสารพิษจากควันบุหรี่มากที่สุดเมื่อเทียบกับอวัยวะอื่นๆ โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ครึ่งหนึ่งเกิดจากโรคปอด คนไทยที่สูบบุหรี่ส่วนใหญ่พบเป็นมะเร็งปอด หรือถุงลมโป่งพอง หรือปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพทั้งผู้สูบและผู้อยู่ใกล้ชิดที่สูดควันบุหรี่เข้าไปเพราะควันบุหรี่มีสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาทิ

"ทาร์" ตัวการทำลายปอด เมื่อสูบบุหรี่สารทาร์ในบุหรี่จะจับอยู่ที่ปอด และรวมตัวกับฝุ่นละอองที่สูดเข้าไป ทำให้เกิดการระคายเคือง อันเป็นสาเหตุของการไอก่อให้เกิดมะเร็งปอดและโรคถุงลมโป่งพอง

"ไนโตรเจนไดออกไซด์" สาเหตุของโรคถุงลมปอดโป่งพอง โดยจะไปทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม

นอกจากนี้นิโคตินและสารพิษชนิดอื่นๆในควันบุหรี่ยังทำให้เกิดเป็นวัณโรคปอดและโรคร้ายแรงอีกหลายโรค อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และโรคมะเร็งอีกหลายชนิดด้วย

ทั้งนี้ วิธีการป้องกัน “ปอด” ให้มีสุขภาพดี คือ การเลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่เข้าไป

27/05/2020

ปอดเป็นอวัยวะของระบบหายใจ อยู่ภายในทรวงอกทั้ง 2 ข้าง ปอดข้างขวามีขนาดใหญ่กว่าทางซ้ายเล็กน้อย ข้างขวาแบ่งออกเป็น 3 พู (lobes) ส่วนล่างซ้ายมี 2 พู



⇒ รูปร่างลักษณะของปอด
ปอด มีรูปร่างลักษณะโดยทั่ว ๆ ไปคล้ายกับต้นไม้หรือพุ่มไม้ เอาลำต้นขึ้นและเอาพุ่มหรือยอดลง มีเยื่อหุ้มปอดบาง ๆ คล้ายเอาถุงพลาสติกมาหุ้มหรือคลุมไว้อีกทอดหนึ่ง หลอดลมใหญ่(trachea) ที่เป็นทางผ่านของอากาศเข้าสู่ปอดเทียบได้กับลำต้นของต้นไม้จากหลอดลมใหญ่นี้ จะแยกเป็น 2 กิ่ง ขวาซ้าย เรียกว่า หลอดลม (bronchus) ไปสู่ปอดแต่ละข้าง กิ่งหรือหลอดลม แต่ละข้างนี้ จะผ่านเยื่อหุ้มปอดไปสู่ปอดและแตกแขนงเล็ก ๆ เรียกว่า หลอดลมฝอย (bronchioles) จนกระทั่งถึง ถุงลมเล็ก ๆ มากมาย มีลักษณะคล้ายลูกโป่งหรือเป็นพวงคล้ายองุ่น เรียกถุงลมเหล่านี้ว่า “แอลวีโอไล” (alveoli) รอบ ๆ ถุงลมนี้มีลักษณะเป็นแผ่นเยื่อบาง ๆ และมีเส้นเลือดฝอยมาสัมผัสมากมาย สำหรับแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

เลือดที่มีก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์มาก (มีก๊าซอ๊อกซิเจนน้อย) เรียกว่า เลือดเสีย คือ เลือดที่ยังไม่ได้ไปฟอกที่ปอด จะถูกหัวใจสูบฉีดไปสู่ปอดเพื่อมีการถ่ายเทก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ออกและรับก๊าซอ๊อกซิเจนเข้า กลายเป็นเลือดที่ฟอกแล้วเรียกว่า เลือดดี ก็จะไหลกลับเข้าสู่หัวใจ เพื่อสูบฉีดไปเลี้ยงร่างกายต่อไป



⇒ หน้าที่ปอด
ปอด มีหน้าที่ในการหายใจ เพื่อนำก๊าซออกซิเจนเข้ามา และถ่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกไป
คนเราปกติมีการแลกเปลี่ยนก๊าซประมาณวันละ 20 ลูกบาศก์ฟุต หายใจเข้าออกประมาณ 17 ครั้งต่อนาที และสามารถหายใจได้ถี่ถึง 70-80 ครั้งต่อนาที ในกรณีที่กล้ามเนื้อทำงานหนัก เช่น การออกกำลังกายหรือในกรณีที่เป็นปอดบวม



⇒โรคที่เกี่ยวกับปอด มีหลายอย่าง เช่น

วัณโรคปอด (Tuberculosis) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า ที.บี. (T.B.)

ปอดบวม (Pneumonia) อาการบวมอย่างรวดเร็วของปอด เนื่องจากสภาพของปอดซึ่งตามปกติมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ยืดหยุ่นได้ จะเปลี่ยนสภาพเป็นก้อนแข็ง เกิดจากสาเหตุหลายประการ โดยมากเกิดจากเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก

นอกจากนี้อาจจะมีการอักเสบที่หลอดลมเรียกว่า หลอดลมอักเสบ(bronchitis) การแพ้ฝุ่นหรือโรคภูมิแพ้ (Hay fever) ทำให้เกิดการเป็นหวัดคัดจมูก เนื่องจากในฝุ่นละอองมีละอองเกสรดอกไม้บางชนิด ฝุ่นนุ่น ขนสัตว์ ไรแดง และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้ร่างกายเกิดการแพ้ทุกครั้งที่เข้าใกล้สิ่งเหล่านี้ และจะทำให้เกิดการจามติดต่อกันหลายครั้ง แล้วมีอาการน้ำมูกไหลหรือคัดจมูก

อาการไอหรือจามหรือการคัดจมูก แสดงถึงว่า มีสิ่งแปลกปลอมที่ไม่พึงประสงค์ผ่านเข้าสู่ปอด ร่างกายก็จะขจัดสิ่งเหล่านี้ออกด้วยการไอหรือจาม การคัดจมูกเป็นการป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมผ่านเข้าสู่ปอด อันเป็นการป้องกันตามธรรมชาติอยู่แล้ว

ถ้ามีการไอ หรือจามหลายวันแล้วยังไม่หาย ควรรีบไปหาหมอ เนื่องจากอาจจะมีเชื้อพวกไวรัส (จุลินทรีย์ขนาดเล็ก) ที่ไม่อาจจะขับออกได้ ปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้เยื่อหุ้มปอด หรือถุงน้ำช้ำและฉีกขาดเป็นอันตรายได้
สำหรับคนที่สูบบุหรี่ใหม่ ๆ เพิ่งหัดสูบ จะรู้สึกระคายเคืองทำให้ไอและสำลักควันเพื่อขับสิ่งที่ติดมากับควันบุหรี่ ที่เรียกว่า นิโคติน สังเกตได้ที่มือและฟัน จะมีคราบของนิโคตินติดเป็นสีเหลือง ขัดก็ไม่ค่อยออก เมื่อสูบบุหรี่บ่อยเข้าจนเกิดความเคยชิน จะไม่รู้สึกสำลักหรือไอ ถึงแม้ท่านจะไม่เชื่อว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดมะเร็งที่ปอดได้ แต่การสูบบุหรี่ก็จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซน้อยลง เนื่องจากในควันบุหรี่มีแต่ก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เต็มไปหมด ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง การหายใจจะแรงมาก บางคนหายใจคล้ายคนเป็นหืด เพราะก๊าซออกซิเจนไม่เพียงพอ มีวิธีทดลองง่าย ๆ เกี่ยวกับก๊าซ ออกซิเจนไม่เพียงพอ คือ ในตอนกลางคืนจุดกองไฟเผาขยะหรือไล่ยุงก็ตาม ท่านที่นั่งอยู่รอบ ๆ กองไฟเวลามีควันผ่านมาท่านจะรู้สึกหายใจไม่พอ จนต้องลุกหนีดังนั้น คนเราจึงต้องการอากาศบริสุทธิ์มาก ยิ่งคนที่ทำงานตามโรงงานที่มีควันมาก ๆ หรือคนกรุงเทพฯที่อยู่ในย่านที่มีอากาศเสียจากควันท่อไอเสียรถยนตร์มากมายแล้ว ถึงแม้ท่านจะเป็นคนไม่สูบบุหรี่เลย ก็เท่ากับท่านได้สูบบุหรี่ทุกวัน วันละ 1 ซอง แล้วท่านยังจะเสียเงินเพื่อซื้อบุหรี่สูบอีกไหม อีกหน่อยท่านอาจจะต้องเสียเงินซื้ออากาศบริสุทธิ์ไว้ใช้ในบ้านแน่นอน หรืออย่างน้อยก็เสียเงินไปพักผ่อนตากอากาศตามชายทะเลที่มีอากาศบริสุทธิ์บ่อย ๆ เป็นแน่

Cr : หมอชาวบ้าน

27/05/2020

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด D-POT (ดี-พอต) ฟื้นฟูและบำรุงปอด

D-POT.. ดีต่อ..ปอด.!
หากมีอาการเหล่านี้ ทานกันเถอะ ฟื้นฟูและเพิ่มภูมิ
🔅 มีอาการ ไอเรื้อรัง
🔅 มีปัญหาเรื่อง การหายใจ
🔅 เป็นหอบ เหนื่อยง่าย
🔅 สูบบุหรี่ หรือกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดคนสูบบุหรี่

#ดีต่อปอด หายใจโล่งสดชื่น ขับเสมหะ ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ล้างสารพิษในปอด

27/05/2020

โรคปอดอักเสบ
โรคปอดอักเสบ หรือเรียกว่าโรคปอดบวม เป็นโรคติดต่อชนิดเฉียบพลันที่มีการอักเสบของเนื้อปอด หลอดลมขนาดเล็ก หลอดลมฝอยถุงลม

สาเหตุของโรคปอดอักเสบเกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด

1. จากเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยในปาก จมูก และ คอ
2. โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ได้แก่ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหัด โรคสุกใส และไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

การติดต่อสามารถติดต่อได้ 4 ทาง
1. หายใจเอาเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ
2. สำลักเอาเชื้อโรคที่อยู่บริเวณช่องปากเข้าสู่ปอด
3. แพร่กระจายจากตำแหน่งที่เป็นโรคตามส่วนต่างๆของร่างกายผ่านมาตามกระแสโลหิตเข้าสู่ถุงลม
4. เชื้อโรคจากการอักเสบที่บริเวณใกล้ๆ ปอด เช่น ตับ หลอดอาหาร แล้วกระจายลุกลามเข้าสู่ปอดโดยตรง

โรคปอดอักเสบสามารถติดต่อได้ตลอดจนกระทั่งเชื้อโรคหมดไปจากน้ำมูกน้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย

27/05/2020

เตือนคนอ้วนระวังไขมันอุดตันในปอด ก่อโรคหอบหืด-หายใจลำบาก

ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ปกติ นอกจากจะเสี่ยงกับภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดและหัวใจแล้ว ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่า ไขมันส่วนเกินสามารถเข้าไปสะสมตัวในปอด จนเบียดทางเดินหายใจให้ตีบแคบลง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการหายใจลำบากและโรคหอบหืดในคนอ้วนได้

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย (UWA) ตีพิมพ์ผลการค้นพบข้างต้นซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของโลกในวารสาร European Respiratory Journal โดยระบุว่ายิ่งคนอ้วนมีดัชนีมวลกาย (BMI) เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบเนื้อเยื่อไขมันในปอดในปริมาณที่สูงขึ้นเท่านั้น

- พบชายไขมันสูงจนเลือดเปลี่ยนเป็นสีขาว แพทย์ต้องรักษาด้วยวิธีโบราณ
- โรคอ้วนทำให้เกิดมะเร็งบางชนิดมากกว่าสูบบุหรี่
- 5 ปัจจัยส่งผลต่อน้ำหนักตัว
มีการวิเคราะห์ตัวอย่างปอดซึ่งได้จากผู้บริจาคที่เสียชีวิตไปแล้ว 52 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นของผู้ป่วยโรคหอบหืดซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคที่เป็นอยู่ 16 ราย, เป็นของผู้ป่วยโรคหอบหืดที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่น 21 ราย รวมทั้งปอดของผู้ที่ไม่เป็นโรคหอบหืดอีก 15 ราย

27/05/2020

ปอด เป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสัตว์มีกระดูกสันหลัง ใช้ในการหายใจ หน้าที่หลักของปอดก็คือ การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ระบบเลือดในร่างกาย และแลกเปลี่ยนเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบเลือดออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำงานโดยการประกอบกันขึ้นของเซลล์เป็นจำนวนล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์ที่ว่านี้มีลักษณะเล็กและบางเรียงตัวประกอบกันเป็นถุงเหมือนลูกโป่ง ซึ่งในถุงลูกโป่งนี้เองที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซต่าง ๆ เกิดขึ้น นอกจากการทำงานแลกเปลี่ยนก๊าซแล้ว ปอดยังทำหน้าที่อื่น ๆ อีก
การแลกเปลี่ยนก๊าซและการใช้ออกซิเจน เมื่อเราหายใจเข้า อากาศภายนอกเข้าสู่อวัยวะ ของระบบหายใจไปยังถุงลมในปอดที่ผนังของถุงลมมีหลอดเลือดฝอยติดอยู่ ดังนั้นเมื่ออากาศผ่านเข้ามาถึงถุงลมจึงมีโอกาสใกล้ชิดกับเม็ดเลือดแดงซึ่งไหลมาพร้อมกับเลือดภายในหลอดเลือดฝอยมากขึ้น จากนั้นออกชิเจนในอากาศซึ่งมีประมาณมากกว่าประมาณออกซิเจนในเลือด ก็จะซึมผ่านผนังถุงลมและผนังหลอดเลือดฝอยนี้เข้าสู่เม็ดเลือดแดง และพร้อมกันนั้น คาร์บอนไดออกไชด์ที่เหลือจากกระบวนการเมทาบอลิซึมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และส่งมากับเม็ดเลือดแดงก็จะออกจากเม็ดเลือดผ่านผนังออกมาสู่ถุงลม ปกติในอากาศมีออกชิเจนร้อยละ 20 แต่อากาศที่เราหายใจมีออกซิเจนร้อยละ 13

สินค้าดูแลสุขภาพของศูนย์เรา D-POT (ดี-พอต) ผลิตภัณฑ์บำรุงปอด

หากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ อันเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพ หรือปัจจัยอื่น ๆ มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน อันได้แก่

อาการแพ้หรือโรคหอบหืด หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง หรือโรคหอบหืดที่รุนแรงมากขึ้นจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากภูมิคุ้มกันลดลงมากผิดปกติ จะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อร้ายแรงมากขึ้น หรือการติดเชื้อเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลร้ายแรงต่อผู้ป่วยได้ ซึ่งโรคที่อาจพบได้แก่ ปัญหาทางพันธุกรรมซึ่งพบได้น้อย เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องปฐมภูมิ (Severe combined immunodeficiency Disease: SCID) หรือการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เป็นต้น

Telephone

Website