Apc2521
ตำแหน่งใกล้เคียง มหาวิทยาลัย
11 หมู่ 13 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง, Muang Sukotai
หมู่13 ต. บ้านกล้วย, Sukhothai Thani
Sukhothai Thani 64000
ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลธานี อำ, Sukhothai Thani
ชุมชนรามเล็ก ต. เมืองเก่า อ, Sukhothai Thani
Sukhothai Thani 64000
ถนนสิงหวัฒน์ ตำบลธานี อำเภ, Sukhothai Thani
Sam Ruean, Si Samrong
ตำแหน่งใกล้เคียง โรงเรียน
หมู่ 7 ตำบลปากแคว อำเภอเมือง, Amphoe Muang Sukhothai
เลขที่ 1 หมู่ 7 ถนนสุโขทัย-กำแพงเพชร ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง จังหวัดสุโข
เลขที่ 1 หมู่ 7 ถ. สุโขทัย-กำแพงเพชร ต. บ้านกล้วย อ. เมือง สุโขทัย, Ban Kluai
Tumbon Bankuay, Amphoe Muang Sukhothai
หมู่ 7 ถ. สุโขทัย-กำแพงเพชร ต. บ้านกล้วย, Sukhothai Thani
242/1 หมู่ 7 ถนนพหลโยธิน ต. ธานี, Sukhothai Thani
เพจแห่งแรงบัลดาลใจ

สวดมนต์ "เป็น"..
อานิสงส์สูง ปาฏิหาริย์เกิด
การสวดมนต์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านได้พูดถึงอานิสงส์หรือผลที่จะได้รับ และเมตตาบอกแนววิธีการไว้ และเพื่อเป็นกำลังใจสำคัญในการสร้างคุณงามความดี บุญกุศลตลอดไปว่า
การสวดมนต์ในแต่ละครั้งจะได้รับอานิสงส์อย่างไรบ้าง..
1. อานิสงส์ที่เกิดกับสุขภาพร่างกาย..
ผู้ที่นิยมสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิสม่ำเสมอจะก่อให้เกิดผลดีต่อจิตยิ่ง จะมีความผ่องแผ้วสว่างบริสุทธิ์ จิตที่สว่างจะทำให้อารมณ์ผ่องใส ไม่โกรธง่าย ไม่เครียด แม้ถ้าจะต้องใช้ความคิดก็จะคิดแบบมีเหตุมีผล
การที่จิตผ่องแผ้วถือเป็นโอสถทิพย์ที่สำคัญต่อร่างกายที่เดียว ส่งผลให้ร่างกายสร้างและหลั่งฮอร์โมนในร่างกายที่เป็นปกติ ทำให้ร่างกายสมดุล เมื่อร่ายกายสมดุลบุคคลนั้นจะอายุยืน คนที่มีอารมณ์ดี ไม่เครียด จะอายุยืนยาวเช่นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเป็นสรณะจะอายุยืนบางองค์เกินร้อยปีก็มี
หรือคนโบราณที่ชอบสวดมนต์ ไหว้พระจะอายุยืนยาวมากไม่มีต่ำกว่าแปดสิบปี ซึ่งต่างจากคนสมัยปัจจุบันที่แก่เร็ว อายุสั้น เฉลี่ยแล้วไม่เกินหกสิบห้า หรือ อย่างมากก็เจ็ดสิบปี การมีจิตที่ผ่องใส เสมือนหนึ่งมียาอายุวัฒนะขนานเอกไว้ในตัวเอง ลักษณะนี้ ครูบาอาจารย์ท่านให้เรียกว่า “ การนำปัจจัยภายในมาสร้างอายุวัฒนะ”
2. อานิสงส์ให้เกิดจิตที่แกร่ง..
หลังการสวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิ จะทำให้จิตมีกำลัง เป็นการบำรุงจิต จิตที่มีกำลังจะเข้มแข็ง ไม่อ่อนไหวง่าย สติดี หนักแน่น การมีจิตเป็นสมาธิสติจะคงอยู่เสมอ จะก่อให้เกิดปัญญาตามมา
ปัญญา หมายถึง ระบบการคิดที่มีสติคอยกำกับ การคิดจึงอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลไม่มีอารมณ์เข้ามาเจือปน ส่วนความคิดที่ขาดสติ เราเรียกว่า “อารมณ์” คนสมัยใหม่ที่ไม่นิยมนั่งสมาธิ ส่งผลให้สติไม่มั่นคง โกรธง่าย โมโหร้าย ขี้หงุดหงิด ไม่อดทนต่อแรงกดดันทั้งปวง มีอารมณ์แปรปรวนไม่สม่ำเสมอ เหตุเพราะจิตมีอ่อนกำลัง
เราจึงพบว่า สถิติการฆ่าตัวตายของคนสมัยนี้ จึงมีอัตราที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น รูปธรรมข้างต้นเหล่านี้คงจะพอแสดงให้เห็นถึงความต่างระหว่างจิตสองลักษณะคือ จิตแกร่งกับจิตอ่อน ได้เป็นอย่างดี
ให้เปรียบเทียบง่ายๆ ว่า การที่เราต้องรับประทานข้าวปลาอาหารเพราะอาหารเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับชีวิต ฉันใดก็ฉันนั้น สมาธิก็จะเป็นอาหารที่สำคัญของจิต เช่นกัน
3. ได้อานิสงส์จากการได้โปรดดวงจิตวิญญาณ..
ผู้ที่สวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิถึงขั้นเป็นผู้มีจิตใสสว่างนั้น เป็นที่โปรดปรานของพวกวิญญาณเร่ร่อนยิ่งนัก เพื่อปรารถนาจะขอส่วนบุญ ส่วนกุศลให้ตนได้ร่มเย็น หรือพ้นทุกข์ หรือแม้กระทั่งหลุดพ้นจากการถูกจองจำ
โดยปกติบทสวดมนต์จะมีความขลังอยู่ในตัวเพราะ เป็นอักขระภาษาที่มีมนต์ขลัง บางบทเป็นพระคาถาที่มีอานุภาพสูง โดยเฉพาะบทพุทธบารมี บทพระคาถาชินบัญชร มีอานุภาพสูง ยิ่งผู้สวดมีสมาธิจิตที่ดีแล้ว พลังแห่งเมตตา พลังแห่งอานุภาพจะแผ่กระจายปกคลุมไปไกล
ด้วยอานุภาพของพลังจิตผู้สวดเอง เมื่อเสียงสวดและอักขระไปกระทบ หรือสัมผัสกับดวงจิตวิญญาณใด พลังเมตตาและพลานุภาพแห่งมนตรานี้จะกระตุ้นให้ดวงจิตวิญญาณเกิดความระลึกได้ เมื่อระลึกได้ก็จะสามารถดูดซับพลังบารมีทั้งปวงจากบทสวดอย่างเต็มที่
ดวงจิตที่มืดบอดก็จะสว่างผ่องใสขึ้นและหลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการในที่สุด สภาพโดยธรรมชาติของวิญญาณทั้งหลายนั้น พวกเขาจะถูกจำกัด หรือถูกควบคุมพื้นที่เสมือนถูกจองจำ
ตีตรวน เหมือนนักโทษที่ติดอยู่ในคุก บางคนก็สำนึกได้เอง บางคนต้องได้รับการอบรมสั่งสอนก่อนจึงจะเกิดสำนึก เช่นกัน
ดวงวิญญาณหลายดวงเกิดสำนึกในความดี ความชั่วที่ตนได้กระทำได้เอง เมื่อสำนึกได้ก็จะสามารถเปิดรับธรรมะได้เลยทันที การสำนึกได้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
ดังที่คนโบราณได้สั่งสอนบอกต่อกันมาว่า..
ก่อนตายให้นึกถึงพระ ความหมายนี้ก็คือ ให้เกิดรู้สำนึกนั่นเอง แม้ถ้าคนเราสำนึกได้ในวินาทีสุดท้ายขณะใกล้จะตายก็ถือว่า มีโอกาสที่จะรับรู้สัมผัสธรรมได้ ( จิตเปิด) มีโอกาสหลุดพ้น(จากการจำกัดบริเวณ )ได้ และภาษาอักขระในบทสวดดวงจิตวิญญาณสามารถก็สามารถเข้าถึงได้ ให้ดวงจิตวิญญาณเข้าใจได้ ก่อให้เกิดความกระจ่างได้และยิ่งเมื่อเราแผ่เมตตาตามอีก เขาก็จะได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้น
ดวงจิตวิญญาณเหล่านั้นชุ่มเย็นเป็นสุขเสมือนเรานำน้ำที่เย็นชโลมรดให้กับผู้ที่หิวกระหาย ลุ่มร้อนมานานปี จนสุดท้ายก็จะสามารถหลุดพ้นไปได้ การที่เราทำให้วิญญาณตกทุกข์ได้ยาก
ทุกข์ทรมาน ได้รับความสุข สว่างสดใส หรือ กระทั่งหลุดพ้นไปได้ นับว่าได้อานิสงส์มหาศาลทีเดียว
สภาพความจริงในภพแห่งวิญญาณนั้น ถ้ามนุษย์มองเห็นก็จะพบว่ามีวิญญาณเร่ร่อน ( สัมภเวสี )จำนวนมากมายทีเดียว มีทุกหนทุกแห่ง
เช่น คนมีจิตสว่างบางคนไปนอนที่ไหนก็จะมีวิญญาณมาดึง มาปลุก มาทำให้ไม่สามารถนอนได้ ปรากฏการณ์เช่นนี้ให้ท่านเข้าใจเป็นเบื้องต้นว่า เขามาขอส่วนบุญ เขาเห็นจิตของท่านที่สว่าง แสดงว่าท่านเป็นมีบุญที่สามารถแผ่ให้กับเขาได้ อย่าตกใจ อย่ากลัวให้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี วิธีปฏิบัติก็คือ สวดมนต์ แผ่เมตตาให้เขาเสีย แล้วท่านจะนอนหลับฝันดี เขาจะเฝ้าดูแลท่านตลอดทั้งคืน
บางที่อาจให้โชคลาภกับท่านเสียอีก สถานที่บางแห่งวิญญาณอยู่กันเหมือนตัวหนอน เหมือนฝูงแมลงวัน ยิ่งดวงวิญญาณอยู่กันมากมายเช่นนี้ผู้สวดมนต์ แผ่เมตตา ภาวนาสมาธิให้ ก็จะได้อานิสงส์มากเท่าทวีคูณ การสวดมนต์ที่แท้ก็คือ การแผ่เมตตานั่นเอง
การทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิบ่อยๆ เสมือนเราอยู่ในที่สูง อานิสงส์ที่เราสร้าง บุญกุศลที่เราทำจะเปรียบเสมือนเราเทน้ำให้ไหลลงสู่เบื้องล่าง ผู้อยู่เบื้องล่างที่หิว กระหายก็จะรอรับอย่างชุ่มเย็น มีความปีติยินดี
4. ได้อานิสงส์จากโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลาย..
นอกจากดวงจิตวิญญาณแล้ว ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ปรารถนาจะได้รับพลังเมตตาบารมีจากการสวดมนต์ ไหว้พระและนั่งสมาธิเช่นกัน ซึ่งก็คือพวกสัตว์เล็ก สัตว์น้อย สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นนั่นแหละ
พลังแห่งการแผ่เมตตาบารมีนี้มีอานุภาพยิ่งใหญ่
เป็นพลังแห่งพุทธานุภาพ เป็นพลังฝ่ายบุญกุศล
การสวดมนต์ ไหว้พระนั่งสมาธิ และแผ่เมตตาบ่อยๆ จะทำให้จิตมีความแข็งแกร่ง พลังแห่งการแผ่เมตตาก็จะมีอานุภาพที่แรงครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
นั่นย่อมหมายถึง ไปสู่สรรพสัตว์มากจำนวนยิ่งขึ้นตามเบื้องต้นสามารถพิสูจน์ได้จริง ไม่ว่ามด ยุง แมลง ฯลฯ ล้วนต้องการ และแสวงหาพลานุภาพแห่งเมตตาอย่างหิวโหยจริง เช่นผู้ปฏิบัติธรรมบางคนพบว่ามีมดขึ้นมาเกาะบนกลดขณะที่ท่านกำลังที่ภาวนาอยู่จำนวนมาก หรือมียุงมากัดจำนวนมากขณะนั่งสมาธิ แต่เมื่อท่านกล่าวแผ่เมตตาให้แล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็จะจากไปของเขาเอง ไม่ทำร้าย ไม่รบกวนเราอีกเหตุเพราะพวกเขาได้รับแล้วนั่นเอง
ลักษณะเช่นนี้จะเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ครูบาอาจารย์ที่กล่าวไว้ว่า พวกมด ยุง แมลง นั้นพวกเราสามารถพูดกับเขาได้นั่นเอง เมื่อเราทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้ทุกข์หลุดพ้นจากทุกข์ ช่วยให้สรรพสัตว์ที่ได้สุข ให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไป เราก็ได้อานิสงส์แห่งการนี้ตอบคืน อานิสงส์เช่นนี้ เป็นอานิสงส์ที่ก่อให้เกิดบารมีที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว เราเรียกว่า “ อานิสงส์ทางทิพย์”
5. ได้อานิสงส์จากพรเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์..
ทุกครั้งที่เราสวดมนต์ หลังจากสวดบทบูชาพระรัตนตรัยแล้ว เราก็มักจะสวดบทชุมนุมอัญเชิญเทวดาเสมอ (สักเคฯ) เป็นการบอกกล่าวอัญเชิญเทวดาให้มาร่วมพิธีการสวดมนต์ เทวดาเทพ เทพารักษ์ทั้งหลายโปรดการฟังสวดมนต์มาก เพราะถือเป็นพิธีกรรมแห่งพุทธที่มีมนต์ขลังมีความศักดิ์สิทธิ์
ดังที่ได้เรียนไปแล้ว บทสวดทุกบทเป็นอักขระ มีพลังพุทธานุภาพสูง ใครได้ยินได้ฟังได้ซึมซับก็จะเกิดความสว่างไสว เกิดพลังบารมี
มนุษย์ที่สวดมนต์ไหว้พระประจำเทวดา จึงเป็นที่โปรดปรานของเทวดา ไปที่ไหนมีเทวดาปกป้องคุ้มครองให้โชคให้ลาภ ให้ความมั่งมี ศรี สุข
คนโบราณจึงย้ำหนักหนาให้ลูกหลานสวดมนต์ก่อนนอน นี่คือความหมายที่แท้จริงของการสวดมนต์ก่อนนอน เทวดาก็ต้องการสร้างบารมีของตนให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไปเช่นกัน
เมื่อเราสวดมนต์ ไหว้พระ แผ่เมตตา ทำให้เทวดาได้บารมีเพิ่ม ได้ความสว่างเพิ่ม เทวดาก็จะอำนวยอวยพรชัยมงคลให้กับเรา เป็นการตอบแทนคุณเรา หากเราสังเกตให้ดี เราจะพบว่า ทุกพิธีกรรมทางพุทธศาสนาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันจะต้องเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับเทวดาเสมอ
ก่อนเริ่มพิธีกรรมจึงต้องมีการสวดบวงสรวงอัญเชิญทวยเทพเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาร่วมพิธีก่อนเสมอ พุทธองค์ทรงสำเร็จมรรคผลด้วยทวยเทพ เทวดาช่วยเหลือ ชี้แนะ
ในทางกลับกันเทวดาก็พึ่งพาธรรมจากพุทธองค์ หรือพุทธสาวก เพื่อสร้างบารมี ชี้ทางสว่างเสมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า องค์ทวยเทพเทวากับพุทธศาสนาจึงแยกกันไม่ออก เป็นของคู่กัน
6. สามารถแผ่เมตตาช่วยคนเจ็บป่วยได้..
อานิสงส์การแผ่เมตตานั้น นอกจากสรรพสัตว์และดวงวิญญาณทั้งหลายแล้ว มนุษย์ทั่วไปที่นอนเจ็บป่วยทนทุกข์ทรมานก็สามารถรับอานิสงส์ของการแผ่เมตตาได้ โดยให้เรากล่าวว่าดังนี้..
“ อานิสงส์ของการสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ของข้าพเจ้าในวันนี้ ขอส่งให้ (ชื่อ-สกุล ผู้ป่วย)” เพียงเท่านี้เองก็จะก่อให้เกิดผลดีต่อผู้ป่วยมหาศาล โดยเฉพาะผู้แผ่เมตตาเป็นผู้บุญบารมีมากยิ่งก่อให้เกิดผลเร็วขึ้น
โดยมาตรฐานที่จะให้เกิดผลสมบูรณ์ ให้ทำติดต่อกัน 33 วัน สภาพร่างกายและอำนาจจิตของผู้ป่วยก็จะดีขึ้นอย่างชัดเจน
แม้บางรายสังขารจะไม่ดีก็ตาม ความทุกข์ทรมานจะลดลงจิตจะดี คนเราเมื่อจิตดีก็มีความสุข อย่างไรก็ดีต้องทำความเข้าใจหลักของเวรกรรมแต่ละคนด้วย (ผู้ป่วย) ผู้ป่วยบางรายอาจจะยกเว้นไม่เป็นไปตามมาตรฐานนี้ อันเนื่องจากอยู่ในภาวะชดใช้กรรมของเขาเอง
และอีกประการหนึ่ง ให้เข้าใจในเรื่องวิถีจิตของผู้ป่วยต้องเปิดด้วย ถ้าจิตปิดก็รับไม่ได้ แต่หากผู้ป่วยเป็นผู้ปฏิบัติธรรมแล้วก็จะยิ่งเกิดผลเร็วทันตาเห็น ใช้เวลาเพียง 16 ถึง 24 วันเท่านั้นก็เพียงพอ นั้นหมายถึงเขาเปิดประตูจิตไว้รออยู่แล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ความเป็นสายเลือดสายโลหิตระหว่างผู้แผ่อานิสงส์และผู้ป่วย ก็เป็นข้อยกเว้นพิเศษอีกเช่นกัน เพราะความเป็นสายเลือดการส่งอานิสงส์บุญกุศลจะยิ่งรวดเร็วที่สุด เกิดอานุภาพแรงที่สุดเช่นกัน
ดังกล่าวมาข้างต้น คงพอจะทำให้ทุกท่านเข้าใจ เรื่อง อานิสงส์ หรือ ประโยชน์ที่จะรับจากการสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ตลอดจนการแผ่เมตตาเป็นอย่างดีแล้ว
อย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงประโยชน์เบื้องต้นเท่านั้น ความจริงแล้วมีอานิสงส์ที่จะได้รับทางอ้อม ทางลึกอีกมากมายกว่านี้นักแต่เป็น “ ปัจจัตตัง” ของแต่ละคนไป
การอ่านบรรยายข้างต้นเชื่อว่าสามารถทำให้ท่านเข้าใจได้แต่จะให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ท่านต้องปฏิบัติเอง
ธรรมะคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีเครื่องมือชนิดใดสามารถมาวัดประสิทธิภาพ วัดความจริงได้
เป็นเรื่องเหนือวิทยาศาสตร์ ต้องวัดผลด้วยการปฏิบัติเอง..............................
ขออำนาจแห่งบุญกุศลที่เหล่าข้าพเจ้าทั้งหลายนำธรรมทานมาเผยแพร่นี้จงส่งผลต่อท่านผู้อ่านและครอบครัว พร้อมทั้งบริวารทั้งหลาย
จงพบแต่ความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมเทอญ..
Cr.ใต้ร่มธรรม

พยามจะกลับไปหาหัวใจตัวเองที่บ้าน
สันตุสสโกวาท ลำดับที่ ๗๗ : พญานาค
ขอร่วมแชร์ให้พระพุทธศาสนาเจริญงอกงามแพร่หลายไปทั่วโลก

#เทิดไว้เหนือเกล้าในแผ่นดิน
#ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คน ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..."
#พระบรมราโชวาท
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"
ในพิธีเปิดงานชุมชุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี
วันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒

พระพุทธเจ้า 100 ชาติ

วันออกพรรษาพระจันทร์สวยที่สุดก็วันนี้

ธรรมอันเป็นนิรันดร์ ยามเช้า
คำสอน พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร (อรัญวาสีภิกขุ)
ต่อไปนี้จะได้กล่าวข้อธรรมอันเป็นคติสอนใจเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ทราบไว้เป็นแนวทางบำเพ็ญจิตเข้าสู่พระนิพพาน ดังนี้
· ยิ่งคิดยิ่งไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งไม่เห็น ยิ่งทำยิ่งไม่เป็น ธรรมะนี้เหมือนเส้นผมบังภูเขา เมื่อหยุดทำ หยุดคิด หยุดดู แล้วธรรมสภาวะจะเกิดขึ้นเอง สำคัญอยู่ที่จิตดวงเดียว
· อันว่าความทุกข์สุขอยู่ที่ใจมิใช่หรือ ถ้าใจยึดถือเป็นทุกข์ไม่สุกใส ถ้าใจไม่ยึดถือก็สุขไม่ทุกข์ใจ อะไรๆ สำคัญอยู่ที่ใจของเราเอย
· ฉันมองดูแต่ไม่มีผู้เห็น ฉันฟังอยู่ไม่มีผู้ได้ยิน ฉันดมอยู่แต่ไม่มีผู้ใดกลิ่น ฉันกินอยู่แต่ไม่มีผู้ได้รส ฉันถูกต้องแต่ไม่มีผู้ได้สัมผัส ฉันคิดอยู่แต่ไม่มีผู้คิด ฉันทำงานทุกอย่างแต่ไม่มีผู้ทำ ฉันพูดอยู่แต่ไม่มีผู้พูด ฉันเดินอยู่แต่ไม่มีผู้เดิน ธรรมสภาวะนี้ใครได้สัมผัสรู้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป ดังเส้นผมบังภูเขา ถ้าหมดความอยากก็หมดทุกข์
· จิตที่ส่งออกนอกเป็นสมุทัย จิตที่สงบอยู่ภายในเป็นนิโรธ จิตที่รู้แจ้งอยู่เป็นมรรค
· นกบินไปในฟ้าไม่เห็นอากาศ ปลาว่ายแหวกอยู่ในน้ำไม่เห็นน้ำ ไส้เดือนกินดินไม่เห็นดิน คนอยู่กับทุกข์ไม่เห็นทุกข์
· เมื่อแบกก็หนักเมื่อวางก็เบา ไม่คิดถึงปรุงแต่งไปตามอารมณ์ทั้งห้า จิตก็สงบสบายไร้กังวล
· ไม่ห่วงข้างหลัง ไม่ห่วงข้างหน้า เฝ้าดูจิตปัจจุบัน มีสติทุกเมื่อเป็นทางนิพพาน
· ไม่คิดพยาบาทมาดร้ายใคร ไม่เป็นศัตรูกับใคร ไม่มีเวรต่อใคร ไม่โกรธใครให้อภัยทุกเมื่อ คนผู้นั้นย่อมอยู่ในโลกด้วยความสุขทุกเมื่อ ไม่คิดเบียดเบียนใคร ไม่ทำความลำบากให้แก่ใคร มีจิตรักทุกเมื่อ มีจิตรักเอ็นดูสัตว์ทั้งหลายทั่วหน้า บุคคลผู้นั้นย่อมอยู่ในโลกนี้ด้วยไม่มีภัย
· จงเฝ้าดูสังขารรูปนามนี้เกิดดับ ไม่มีหยุด ไหลไปเหมือนสายน้ำ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นอะไรสักอย่างในโลกนี้
· จงเฝ้าดูจิตให้สงบอยู่ภายใน ไม่ปรุงแต่งทั้งบุญทั้งบาป ทำจิตเป็นกลางอยู่ ไม่ติดโลกนี้โลกหน้า เป็นทางเข้าสู่นิพพาน
· จงเฝ้าดูพิจารณาสังขารขันธ์ห้านี้เสื่อมไปหายไป ใกล้ความตายมาทุกวัน แล้วเราได้ที่พึ่งโลกหน้าหรือยัง อย่ามัวประมาทอยู่
· จงตั้งจิต ทำความเพียรยินดีในภาวนาเถิด การเกิดมาเป็นทุกข์แท้หนอ
· พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทุกข์ และความดับทุกข์อย่างเดียวตลอดพระชนมายุ คนไม่เห็นทุกข์สัจจะแม้ว่าจะมีอายุได้ตั้งร้อยปีก็เหมือนตายแล้ว ไม่มีประโยชน์ คนที่เห็นความจริงทุกข์สัจจะ แม้นว่ามีอายุวันเดียวก็ประเสริฐกว่า
· จงดับความโลภ โกรธ หลงให้ได้ในปัจจุบัน เพื่อความดับไปแห่งกองทุกข์ทั้งหลายดังนี้แล
· ไม่ดูแล้วเมื่อไรจะได้เห็น ไม่ฟังแล้วเมื่อใดจะรู้ ไม่ทำแล้วเมื่อไรจะเป็น ไม่เดินแล้วเมื่อใดจะถึง จงตั้งจิตปฏิบัติวิปัสสนาตั้งแต่ในวันนี้ จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป
· ยารักษาความโลภหมั่นให้ทาน ยารักษาความโกรธให้รักษาศีล มีจิตเมตตา ยารักษาความหลงให้หมั่นภาวนาวิปัสสนา
· จงเอาสตินำหน้าเหมือนนายเรือจับหางเสือ จงเอาปัญญาเป็นประทีปนำทาง เอาความเพียรเป็นเสบียงอาหาร เอาธรรมสติปัฏฐานเป็นแพข้ามฟาก เอาความสงบกิเลสเป็นนิพพาน
· ดูกายให้เห็นกาย ดูเวทนาให้เห็นเวทนา ดูจิตให้เห็นจิต ดูธรรมให้เห็นธรรม ไม่มี ไม่เอา ไม่ได้ ไม่เป็น ปล่อยวางทุกอย่างแล้วก็สบายใจ
· อันความสุขทางโลกมีอยู่ชั่วคราว ความสุขยืนยาวต้องเข้าหาพระธรรม ความสุขอยู่ไม่ไกลเมื่อใจเรามีสติทุกเมื่อ
· ธรรมะของจริงอยู่ในกาย กว้างศอก ยาววา หนาคืบ นี้ มีให้เราเห็นทุกๆ อย่างในกายนครนี้ ใครหมั่นพิจารณาจะได้เข้าสู่นิพพานเอย
· กินน้อยตายยาก กินมากตายง่าย ไม่กินเลยก็ตาย ให้เดินทางสายกลางเป็นทางนิพพาน
· ในตัวคนเรามีแต่ขี้ทั้งนั้น นับตั้งแต่หัวถึงเท้าเป็นขี้หมด มีขี้รังแค ขี้ตา ขี้หู ขี้มูก ขี้ฟัน ขี้เล็บ ขี้ไคล ขี้ในท้องแล้วยังไม่พอยังมีขี้ในใจอีก ขี้เกียจ ขี้กลัว ขี้ลัก ขี้หึง ขี้เอา มีแต่ขี้ทั้งนั้นนับไม่ถ้วน ให้พิจารณาให้เกิดความเบื่อหน่าย หายความรักความชังเสียเถิด แล้วจะเกิดปัญญาก็เกิดขึ้นมาเอง
· ธรรมะทุกอย่างรวมกันเป็นความไม่ประมาท ถ้าประมาทเหมือนคนตายแล้ว
· เกิดเป็นคนให้มีดีสามอย่าง หนึ่งใจดี สองพูดจาดี สามทำแต่สิ่งดีๆ แล้วเราจะได้ของดี อย่ามัวเมามาขอแต่ของดีจากพระ จงทำดีเอาคนเดียว ธรรมมะ ทุกอย่างรวมอยู่ที่จิต เจตสิก รูป นิพพาน ให้หมั่นศึกษาปฏิบัติจะได้รู้แจ้งอันว่า สัจจะความจริงนี้มีในโลก ใครรู้แจ้งพ้นโศกโลกสงสาร ใครไม่รู้แจ้งแทงปัญญาพาให้เกิดเอากำเนิดไม่รู้จบ พบทุกข์ในสงสาร ไม่ถึงพระนิพพาน นานหนักเอย
· ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ใช้ให้ทำทุกอย่างตามตัณหาความอยากไม่มีที่สิ้นสุด ดับตัณหาความอยากได้เป็นสุขในโลก แม่น้ำเสมอดังตัณหาไม่มี
· พระพุทธเจ้ากล่าวว่า อุปมาคนเรานี้ มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ท่านว่าตาเราเหมือนงู หูเราเหมือนจระเข้ จมูกเราเหมือนนก ปากลิ้นเราเหมือนหมาบ้าน ตัวเราเหมือนหมาป่า ใจเราเหมือนลิง มีความจริงตามพระพุทธเจ้ากล่าวทุกอย่าง ท่านอุปมาเปรียบเทียบอย่างนั้น
· ตาเราชอบดูเข้าออกไปมาเหมือนงู หูเราชอบฟังเสียงดีๆ เย็นเหมือนจระเข้อยู่น้ำ จมูกเราชอบอากาศดีๆ เหมือนนกบินไปในอากาศ ปากลิ้นเราชอบกินนั้นกินนี่อยู่ตลอด เหมือนหมาบ้านชอบอยู่แต่ในครัวเตาไฟ ตัวเราเหมือนหมาป่าชอบนอนอยู่ที่สงัดสบายที่ในป่า ใจเราเหมือนลิงชอบคิดนั้นคิดนี่ตลอด กระโดดไปกระโดดมาไม่อยู่นิ่ง พระพุทธองค์เจ้าสอนให้เจริญสติปัฏฐานสี่ ภาวนากรรมฐานจึงจะมัดจิตใจนี้ได้ให้สงบยินดีซึ่งพระนิพพานแล
· พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบขันธ์ห้าเรานี้ว่า รูปนี้เหมือนฟองน้ำ เวทนานี้เหมือนพยับแดด สัญญานี้เหมือนมายากล สังขารเหมือนต้นกล้วย วิญญาณเหมือนของยืมมา ไม่มีแก่นสารน่าเบื่อหน่ายที่สุดในขันธ์ห้า ไม่จีรังยั่งยืน เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
· เห็นก็สักแต่ว่าเห็น เมื่อได้ยินก็สักแต่ว่ายิน ได้กลิ่นก็สักแต่ว่ากลิ่น ลิ้มรสก็สักแต่ว่ารส เมื่อถูกต้องกระทบทางกายก็สักแต่ว่าถูกต้อง เมื่อคิดธรรมารมณ์ก็สักว่าคิด ไม่ติดไม่ข้อง ไม่หลงไม่ไหลไปตามกระแสตัณหามานะทิฏฐิ ทุกสิ่ง ทั้งปวงเกิดดับเป็นเช่นนั้นเอง เมื่อมีสติเฝ้าดูจิตอยู่เห็นแจ้งตามเป็นจริงแล้ว ไม่น่าเอาไม่น่าเป็นอะไรสักอย่าง จิตย่อมเบื่อหน่ายรูปธาตุ นามธาตุ มีจิตยินดีซึ่งนิพพาน ไม่ต้องเป็นทุกข์อีกต่อไป เท่านี้เราก็เข้าถึงสัจะธรรมแล้ว
ท้ายที่สุดนี้เราขอเมตตาให้ทุกท่านจงเป็นผู้มีสติมีปัญญาพาตนให้พ้นทุกข์ ในวัฏฏะสงสาร ให้ถึงพระนิพพานอันเป็นอมตะสุขยิ่ง ตราบใดยังไม่ถึงพระนิพพานได้เวียนว่ายตายเกิดทุกภพทุกชาติ ขอให้ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ดีเป็นบัณฑิต ขอให้ได้สร้างบารมีธรรมให้เต็มเปี่ยม ให้ทำประโยชน์ตน ประโยชน์แก่ญาติแก่สังคม ประโยชน์แก่ชาวโลก ให้สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการด้วย เทอญ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล สาธุ สาธุ สาธุ
· จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง การฝึกจิตดีแล้วเป็นสุขอย่างยิ่ง
· ธัมมะจารี สุขขัง เสติ ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข
ข้อธรรมทั้งหมดนี้ ข้าพเจ้าครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร ได้เขียนบันทึกเมตตาไว้
ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ ขณะที่ได้เข้าจำพรรษา ณ ถ้ำมหาโพธิสัตว์ราชคฤห์ เมืองงาว จังหวัดลำปาง ถ้าหากว่าข้อธรรมตรงไหนผิดถูกขาดตกบกพร่องไป ก็ขอให้ท่านผู้รู้ทั้งหลายให้อภัย ด้วยประสงค์เมตตาเผยแผ่ธรรมะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นธรรมทานสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน โดยมีความตั้งใจอันเป็นมหากุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในมหามงคลวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบแปดสิบพรรษา จึงขออาราธนาบูชาธรรมได้ดังกล่าวมานี้....
ด้วยมุทิตา..ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร
อรัญวาสีภิกขุ

#เทิดไว้เหนือเกล้าในแผ่นดิน
"...ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียว ไม่ได้ก็ช่วยกันคิดกัน แก้หลายๆ คน หลายๆ ทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น นั้นจักได้ไม่กลายเป็น อุปสรรคขัดขวาง และบ่อนทำลาย ความเจริญและความสำเร็จ..."
#พระบรมราโชวาท
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
คำพ่อสอนคนดี ต้องเข้มแข็งในความดี

บทพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกที่พระองค์ทรงโปรดปรานเป็นที่สุด

อ่านหนังสื่อเล่มนี้ทำให้มีพลังแห่งความรักและความเพียรพยายาม

คนวิจารณ์น่าจะได้เดรด f นะผมว่าเพราะว่าตอนเรียนไม่ค่อยฟังอาจารย์พูด 555555...£
โทษฐานที่ฤดูกาลนี้เป็นอีกฤดูกาลที่ผมได้ดู แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครบทั้ง 38 นัด โดยแบ่งเป็นการดูถ่ายทอดสด 34 นัด และไปดูที่สนาม 4 นัด (โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3 แอนฟิลด์ 1) ว่าแล้วขออนุญาตกล่าวถึงฟอร์มการเล่นพลางตัดเกรดให้นักเตะสายพันธุ์ปีศาจแดงแบบพอสังเขป
#ผู้รักษาประตู
ดาบิด เด เคอา: ฤดูกาลนี้น่าจะเป็นฤดูกาลที่ "พี่เดฟ" แสดงความผิดพลาดออกมาอย่างน่าเกลียดน่ากลัวตัวละ 3 บาทมากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอต.มาดริด เมื่อ 9 ปีก่อน คือถึงแม้นว่าเปอร์เซนต์การเซฟลูกยากๆ จะยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจก็ตาม แต่บทจะพลาดก็พลาดง่ายๆ แบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้นชนิดครบสูตร
ทั้งเตะไปอัดคู่แข่งกระเด้งเข้าประตูตัวเอง - ปิดมุมเสาแรกไม่มิด - รับลูกกระฉอก - รับลูกหลุดมือเข้าประตูดื้อๆ และป้องกันลูกที่ควรจะป้องกันไม่ได้...ซะอย่างนั้น
เข้าใจว่าคงเสียความมั่นใจแหละ...ดูออก
เกรด: C
‼เข้ากลุ่มไลน์ บอ.บู๋ 🤫🔥🔥
📲 Click ➡️➡️ http://bit.ly/2R4dop4
#กองหลัง
อารอน วาน-บิสซาก้า: การจัดการกับคู่แข่งในฐานะแบ็คขวา เขาเสียบสกัดได้แม่นยำดีนักแล และไม่ปล่อยให้ปีกซ้ายของคู่แข่งลากผ่านหรือเปิดบอลเข้ามาได้ง่ายๆ อีกต่างหาก
ปัญหาอยู่ที่เกมรุก คือเมื่อพาบอลไปถึงเส้นหลังแล้วไม่ค่อยกล้าเปิดเข้ากลางสักเท่าไหร่ ทั้งที่จะว่าไปก็ครอสส์ลูกเข้ามาได้ไม่เลว กระนั้นก็ยังอุตส่าห์ "แอสซิสต์" ไปได้ตั้ง 4 ครั้ง
เกรด: B
ดิโอโก้ ดาโลต์: ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่นัดเดียว โดยลงมาเป็นสำรองอีก 3 นัด ไม่มีอะไรให้พูดถึงสักเท่าไหร่
เกรด: D
แอชลี่ย์ ยัง: ช่วงต้นฤดูกาลลงเป็นตัวจริงไป 10 นัด ฟอร์มการเล่นถือว่าพอใช้ ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ แต่ด้วยอายุที่เกินสามหมิบจึงถูกขายให้ อินเตอร์ มิลาน
เกรด: D+
ทิมโบ้ โฟซู-เมนซ่าห์: แทบไม่ได้ลงเล่นเลยตลอดฤดูกาล แถมถูกยืมไปนานกว่า 2 ปี ก่อนกลับมาลงสนามในช่วงท้ายของฤดูกาลแค่ 2-3 นัด ยังดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่
เกรด: D
ลุค ชอว์: ฟอร์มการเล่นโดยรวม - ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไรนะครับทั้งในเกมรุกและเกมรับ ยกเว้นบางสถานการณ์ที่ถูกขยับเข้าไปเป็น 1 ในเซ็นเตอร์แบ็คของระบบ "หลังสาม" ถือว่าทำได้ไฉไลเลยทีเดียว - ยิงประตูไม่ได้ แอสซิสต์ไม่ได้ แต่พอขาดไปแล้วเห็นผลกระทบชัดเจนว่าทำให้ทีมขาดสมดุลย์
เกรด: C+
แบรนดอน วิลเลี่ยมส์: ข้อดีเท่าที่เห็นคือมีจิตใจนักสู้ และบู๊ล้างผลาญ เกมรุกขึ้นสุด เกมรับลงสุด แถมยิงประตูได้มากกว่า ลุค ชอว์ ซะด้วย เพียงแต่ยังขาดความนิ่ง เพราะไร้ประสบการณ์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้
เกรด: C
อั๊กเซิ่ล ตวนเซเบ้: เพราะอาการบาดเจ็บทำให้ลงเล่นน้อยไปหน่อยแค่ 5 นัดเท่านั้นเอง (ตัวจริง 2 สำรอง 3) โดยแสดงความผิดพลาดออกในเกมที่เจอกับ อาร์เซน่อล จนถูกตีเสมอ นอกนั้นยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากนัก
เกรด: D
วิคตอร์ ลินเดเลิฟ: โทษฐานตัวเลือกอันดับแรกในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เจ้าของสมญา "มนุษย์น้ำแข็ง" เป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ไม่ค่อยกล้าปะทะและขาดความหนักหน่วงในบทบาทของปราการหลัง แถมชอบแสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็นเป็นระยะทั้งที่ดูทรงแล้วเขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้จึงไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่
เกรด: C
แฮร์รี่ แม็กไกวร์: ด้วยความที่มีค่าตัวมหาศาลถึง 85 ล้านปอนด์จนกลายเป็นกองหลังราคาแพงที่สุดในโลกส่งผลให้เขาถูกจ้องจับผิดเป็นพิเศษ เวลาพลาดแสดงความซุ่มซ่ามออกมาจึงมักเข้าตากรรมการจนถูกล้อเลียนอย่างหนัก แต่ผลงานโดยรวมในสายตาของผมถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง ทั้งการอ่านเกมและดักสกัด รวมถึงตัดบอลถือว่าทำได้ไฉไลเลยทีเดียว
ไอ้หัวแตงโมนี่แหละช่วยให้เกมรับของปีศาจแดงมีความเหนียวแน่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพียงแต่มักถูกมองข้ามความดีงามด้วยค่าตัวที่มหาศาลนี่แหละ
เกรด: C+
เอริก ไบยี่: ถูกอาการบาดเจ็บสาหัสลักพาตัวไปตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลทำให้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่นัดเดียว สำรองอีก 2 นัด ซึ่งคงไม่เพียงพอที่จะพิพากษาว่าดีหรือห่วย
เกรด: W
ฟิล โจนส์: ลงเล่นเป็นตัดจริงนัดแรกในระบบ "หลังสาม" ก็ก่อเหตุอื้อฉาวจนทีมเสียประตูทันที (ในเกมเสมอ เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-3) ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 2 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เบิร์นลี่ย์ คาบ้าน 0-2 คิดเอา !!!
เกรด: F
มาร์กอส โรโฮ: ทำได้ดีมากนะครับ ตอนถูกจัดลงเป็น 1 ในเซ็นเตอร์แบ็คของระบบ "หลังสาม" ในศึกแดงเดือดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด (เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1) หลังจากนั้นก็ไม่ได้ลงเป็นตัวจริงอีกเลยกระทั่งถูกปล่อยออกจากทีมในรูปแบบยืมตัว
เกรด: W
#โปรดทราบ บอ.บู๋ มียูทูปด้วยนะ ว่าแล้วติดตามกันได้เลยที่ 'บอ.บู๋ Channel'
https://www.youtube.com/channel/UCsS1nKrY6qUx-6XW8e-Tuww
#กองกลาง
ปอล ป๊อกบา: เจ็บยาวตั้งแต่ช่วงต้นของฤดูกาล และหากเกมฟาดแข้งไม่ถูกแช่แข็งซะก่อนคงกลับมาไม่ทัน ต่อเมื่อกลับมาแล้วแสดงให้เห็นว่าสามารถเข้าขากับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โดยจะเห็นได้ว่าเขาเล่นง่ายๆ ตามจังหวะเกมแบบ ไม่ดันทุรัง เหตุเพราะหน้าต่ำอย่าง "บรูโน่" ขยันขยับหาที่ว่างตลอดเวลาทำให้ "คุณป็อก" มีตัวเลือกในการจ่ายบอล
ส่วนการวางยาวยังคงแม่นยำและทะลุทะลวง ครองบอลเหนียวแน่น แต่เวลาโดนแซะจนเสียบอลมักทำให้ทีมเสียประตู
เกรด: B
สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์: เล่นได้ดุดันบนความมุ่งมั่นและทุ่มเทเต็ม 80,000 ตีนถีบ ขึ้นๆ ลงๆ ช่วยทีมทั้งในเกมรุกและเกมรับจนกระหน่ำไป 4 ประตู ฟอร์มโดยรวมถือว่ามีอนาคต
เกรด: C+
เฟร็ด: ช่วงแรกๆ เหมือนจะเข้าอีหรอบเดิมนะครับคือไม่มีแมวน้ำอะไรไม่ต่างจากนักเตะสายพันธุ์แซมบ้าที่มาจากเซิ่นเจิ้น แต่หลังจากที่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มการเล่นก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับทั้งการจ่ายบอลใกล้ๆ ที่ไม่ค่อยพลาด เชื่อมเกมระหว่างกองหลังกับกองหน้าพลางช่วยทำลายจังหวะคู่แข่งในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ
เกรด: C+
เนมานย่า มาติช: ตอนแรกเหมือนจะ "หมด" แล้วนะครับสำหรับดาวเตะวัยสามเบ็ดผู้นี้ คือทั้งเชื่องช้าและอืดอาดจนเต่าแทบกัดสตั๊ด แต่หลังจากได้ลงเล่นบ่อยๆ ก็เริ่มปรับจังหวะตัวเองได้อีกครั้ง จุดเด่นคือการคุมจังหวะด้วยความเยือกเย็นพลางจ่ายบอลสั้นและยาวที่ค่อนข้างแม่นยำ
นอกจากนี้ยังอาศัยวิธีการอ่านเกม เพื่อทำลายจังหวะของคู่แข่งแบบไม่ต้องใช้แรงมากอีกต่างหาก
เกรด: C+
อันเดรียส เปเรยร่า: น่าเห็นใจตรงที่เป็นผู้เล่นประเภทจับฉ่ายจึงมักถูกจับไปเล่นในหลากหลายตำแหน่งทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง หน้าต่ำ หรือตัวริมเส้นจนหาจุดเด่นของตัวเองไม่เจอ
เกรด: F
เจมส์ การ์ดเนอร์: ตลอดฤดูกาล - ดาวรุ่งจากโรงเรียนลูกกรอกคะนองผู้นี้ถูกลงเล่นเป็นตัวสำรองเพียงแค่ 8 นาทีเท่านั้นจึงไม่สามารถวิพากษ์-วิจารณ์ได้
เกรด: W
บรูโน่ แฟร์นันด์ส: นับตั้งแต่เกมแรกที่สวมเครื่องแบบปีศาจแดง เขายกระดับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้สูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยช่วยให้เกมรุกมีความหลากหลายและอันตรายมากยิ่งขึ้น
ด้วยความขยันทุ่มเททำให้เขามีส่วนร่วมกับเกมตลอดเวลา แถมมีความกล้าได้และกล้าเสีย แถมวัดในทุกจังหวะ
ลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกไป 14 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 9 เสมอ 5 ไม่แพ้ใครเลย โดยกระหน่ำไป 8 ประตู และแอสซิสต์อีก 7 ครั้ง
เกรด: A
เจสซี่ ลินการ์ด: ในฐานะ "หน้าต่ำ" ผู้มีหน้าที่สร้างสรรค์เกมรุก มันจัดเป็นฤดูกาลที่คุณพี่เขาโชว์ฟอร์มได้ห่วยแตกที่สุด แม้สุดท้ายแล้วจะกระทุ้งตาข่ายได้สำเร็จก็ตามที
เกรด: F
ฆวน มาต้า: ลงเล่นเป็นตัวจริงไปแค่ 8 นัด เรียนตามตรงว่าไม่มีแมวน้ำอะไรเลย นอกจากความขยัน วิธีการเล่นแค่ประคองตัว จับและจ่ายบอลง่ายๆ ไม่กล้าได้กล้าเสีย เลี้ยงไม่เก่ง เปิดบอลไม่แม่น และยิงประตูไม่ค่อยได้ ยังดีที่จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูไป 2 ครั้ง
เกรด: D
แองเจิ้ล โกเมซ: ลงเป็นตัวสำรอง 2 นัด มีเวลารวมกันในสนามแค่ 19 นาที...จบข่าว !!!
เกรด: W
#กองหน้า
มาร์คัส แรชฟอร์ด: ในฐานะกองหน้าทางด้านซ้ายในระบบ 4-2-3-1 สามารถใช้ความคล่องแคล่วและรวดเร็ว รวมถึงลีลาการเล่นอันแพรวพราวเล่นงานคู่แข่งได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ข้อเสียคือจังหวะสุดท้ายที่ไม่มีความเด็ดขาดสักเท่าไหร่จึงมักตกม้าตายตอนจบเป็นประจำ
อย่างไรก็ตามการกระหน่ำไปถึง 17 ประตู 7 แอสซิสต์ ถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เลื่อนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่
เกรด: B
อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล: อาจเพราะจัดอยู่ในประเภทกองหน้าสมัยใหม่ที่ไม่ปักหลักในกรอบเขตโทษ เพื่อรอเข้าชาร์จหน้าประตูเพียงอย่างเดียว ดังฉะนั้นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า เขาจึงไม่ค่อยพุ่งเข้าฮอร์ส หรือโฉบเข้าหาบอลเท่าที่ควร โดยมักจะฉีกไปเอาบอลด้านข้าง หรือขยับลงมาต่อบอลทำชิ่งกับเพื่อนร่วมทีมมากเกินไปโดยใช่เหตุ
พูดง่ายๆ ว่าวิธีการเล่นไม่เหมือนกองหน้าหมายเลข 9 นั่นแหละ
กระนั้นการกดไปถึง 17 ดอก แถมแอสซิสต์ไปอีก 6 ครั้ง ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่สะเด่าไปเลยอีน้องมากที่สุดนับตั้งแต่ขายวิญญาณให้ปีศาจแดง
เกรด: B
เมสัน กรีนวู๊ด: ในตำแหน่ง "หน้าขวา" ที่ได้ลงเล่นเป็นประจำ เจ้าหนูสิงห์นักเตะผู้นี้มีความเป็น "กองหน้า" มากกว่าเป็น "ปีก" จึงไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมรุกสักเท่าไหร่ บทจะหายก็หายไปเลยดื้อๆ
อยู่ๆ ก็โผล่ออกมาสับไกยิงทันที ซึ่งทำได้อย่างยอดเยี่ยมบรรลัยจนต้องนึกถึงอดีตดาวถล่มประตูอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แถมตะบันได้เฉียบคมทั้ง 2 เท้า
ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ขวบ ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกแค่ 12 นัด (สำรอง 19 นัด) แล้วทำลายตาข่ายไปถึง 10 ประตู มันสะท้อนถึงความเปรี้ยงปร้างมากกว่านี้ในอนาคต
เกรด: C+
โอเดี้ยน อิกาโล่: ถูกยืมตัวมาเป็นอะไหล่จึงไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกสักนัด (ลงสำรอง 11 นัด) โดยทำไม่ได้เลยสักประตู แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควรในบทบาทของหัวหอกตัวเป้าที่ปักหลักค้ำกองหลังคู่แข่งในกรอบเขตโทษ
เกรด: D+
ตาฮิธ ชอง: ลงเป็นตัวสำรอง 3 นัด มีเวลารวมกันในสนาม 34 นาที เข้าใจตรงกันนะ
เกรด: W
ดาเนี่ยล เจมส์: เปิดฉากอย่างเร้าใจดีนักและด้วยความเร็วระดับนรกไม่ต้อนรับ
ช่วงต้นฤดูกาลเขาลากบอลตัดเข้าในแล้วตะบันตุงตาข่าย การเปิดบอลเข้ากลางในฐานะปีกซ้ายและปีกขวาก็ทำได้ดีมิใช่น้อย แต่หลังจากแนะนำตัวให้บรรดาคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกได้รู้จักเป็นที่เรียบร้อย ข้อดีทุกอย่างที่เคยแสดงให้เห็นมันก็หายไปจนเหลือแต่ความเร็วที่ใช้ให้เป็นประโยชน์ไม่ได้
มิเท่านั้นทักษะความสามารถเฉพาะตัวก็ค่อนข้างต่ำ เลี้ยงกินตัวคู่แข่งไม่ค่อยได้ แถมอยู่ดีๆ ก็จ่ายบอลไม่แม่นยำซะอย่างนั้น
สรุปว่าน่าจะเป็นของปลอมนั่นแหละ
เกรด: D
#ผู้จัดการทีม
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา: การบริหารและจัดการทีมโดยรวมยังไม่ค่อยจะโสภาสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับการแก้เกมและเปลี่ยนตัวผู้เล่น มิหนำยังคิดมากเกินไปหน่อย แต่ทว่าอย่างน้อยก็ดึงแนวทางการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของปีศาจแดงกลับมาได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังยึดสูตรการจัดตัวที่ค่อนข้างชัดเจนคือ 4-2-3-1 พร้อมผู้เล่นที่ลงตัวในทุกตำแหน่ง โดยจะเปลี่ยนระบบการเล่นเฉพาะตอนปะทะกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ยกตัวอย่างเช่น แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ซึ่งก็ถือว่าทำได้ไม่เลว
ถือว่าสอบผ่านแบบหวุดหวิด
เกรด: C
อนึ่ง สำหรับผู้เล่นยอดเยี่ยมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาลนี้คงเห็นพ้องต้องกันว่าคงจะเป็นใครไปเสียมิได้ นอกจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่วนดาวรุ่งยอดเยี่ยมก็คงจะเป็นใครไปเสียมิได้เช่นกัน นอกจากกองหน้าวัย 18 ขวบที่ขวาตาย ซ้ายทะลวงไส้ กะซวกตาข่ายได้หนักหน่วงปานภูผาถล่มทลาย และคบกริบระดับบาดหินขาดเลยทีเดียว
•••
‼เด็กผีฟังทางนี้ บอ.บู๋ มีกลุ่มไลน์แล้ว
สาวกผีแดงต้องไม่พลาด🔥แอดเลย🔥
📲 Click ➡️➡️ http://bit.ly/2R4dop4
•
#บอบู๋ # #ฟุตบอล #บอลไทย #บอลนอก
#พรีเมียร์ลีก #ยูฟ่า #ลีกเอิง #ลาลีก้า #ยูโรป้าลีก #แมนยู #ผีแดง #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #ปีศาจแดง

Photos from Apc2521's post

Numerous ongoing clinical trials are evaluating potential treatments for COVID-19.
According to available studies, hydroxychloroquine does not have clinical benefits in treating COVID-19.

สถานการณ์ทั่วโลก วันที่ 30 กรกฎาคม 2563, เวลา 06:00 น.
- ผู้ป่วยยืนยัน 17,150,251 ราย
- กลับบ้านแล้ว 10,670,856 ราย
- ยังรักษาใน รพ. 5,810,646 ราย
- เสียชีวิต 668,863 ราย
อย่าลืมสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือนะคะ
#โควิด-19 #โควิด19
https://www.worldometers.info/coronavirus/

ภาพจากmilano อิตาลี่

พระมหาชนกแรงบัลดาลแห่งความเพียร

หนังสือหน้าอ่านขอสมุดแห่งชาติอีกเล่มหนค่งครับ
เพลงกล่อมพ่อ
Trailer I Coping With COVID-19

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะข้าพระพุทธเจ้าApck2521ขอน้อมถวายพระพร

รับฟังท่านด้วยใจบริสุทธิ์นะครับ
หาดูยากเชฟเก็บไว้!
One Love
ภาพจำ - พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ [Official MV]

เกิดเป็นไทยใจต้องสู้ มันยู่อในสายเลือด



เมตตาคือพลังแห่งความเพียรครับ



Photos from Apc2521's post

ประเภท
ติดต่อ ธุรกิจของเรา
เบอร์โทรศัพท์
เว็บไซต์
ที่อยู่
ลำน้ำบง
Udon Thani
41110
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ส
Udon Thani, 41000
"นวัตกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG เพ
สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรร
Udon Thani, 41000
เป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการบริหารจัด?
ทหาร
Udon Thani, 41000
โครงการอบรมช่างไฟฟ้า โซล่าร์เซลล์ อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย บึงกาฬ
432 หมู่ 11 ถ. โนนภู่ทอง ต. บ้านจั่
Udon Thani
วิทยาลัยเทคโนโลยีไคโกะอุดรธานี KAIGO
ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัม
Udon Thani, 41000
ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์ มส
ถนนโพศรี
Udon Thani, 41000
เฟซบุ๊กแฟนเพจอย่างเป็นทางการ ทีมประชาสัมพันธ์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี #UDVCPR