สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี

🟢 กรมส่งเสริมการเกษตร ชวนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร รับสิทธิโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
🟢 นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เปิดให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนทุกปี ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้สามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และจัดทำโครงการมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้ และเป็นฐานข้อมูลในการช่วยเหลือ เมื่อเกษตรกรประสบภัยพิบัติด้านพืช รวมถึงเป็นข้อมูลในการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เมื่อมีโครงการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่น โครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
🟢 โดยสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรหลังจากทำการเพาะปลูกข้าวแล้ว 15 วัน ซึ่งเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกในช่วงนาปี จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนตุลาคม-ธันวาคม จากข้อมูลระบบการติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกข้าว ของประเทศไทยจากข้อมูลดาวเทียม โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีพื้นที่เพาะปลูกข้าว ช่วง มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 67 จำนวนประมาณ 10.36 ล้านไร่ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผลการขึ้นทะเบียนการปลูกข้าวนาปี ปี 2567/68 ของกรมส่งเสริมการเกษต จำนวน 1,858,950 ครัวเรือน ทั้งหมด 3,742,646 แปลง โดยเป็นการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Farmbook จำนวน 1,721,493 ครัวเรือน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาการเกษตรที่ดี (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2567)
🟢 โดยเกษตรกรสามารถแจ้งข้อมูลเพื่อขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ 3 ช่องทางเท่านั้น คือ (1) แจ้งข้อมูล ณ สถานที่รับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ได้แก่ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ (ตามที่ตั้งแปลง) หรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอกำหนด (2) เกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ด้วยตนเองผ่าน e-Form ทบก. (https://efarmer .doae .go .th) และ (3) Farmbook Application (สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม)
🟢 อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ขอเชิญชวนเกษตรกรแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรหลังจากทำการเพาะปลูกข้าวแล้ว 15 วัน ตามช่องทาง 3 ช่องทางข้างต้น และเน้นย้ำว่าให้ระวังมิจฉาชีพหลอกลวง แอบอ้างอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อเข้าร่วมโครงการมาตรการให้ความช่วยเหลือต่างๆ จากภาครัฐผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือ Line โปรดดูรายละเอียดช่องทางการสื่อสารต่างๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนให้ข้อมูล หรือ ดำเนินการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ และหากมีข้อสงสัย โปรดติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่านเท่านั้น

กรมส่งเสริมการเกษตร ชวนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร รับสิท นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กา […]

เตือนพี่น้องชาวนา ระวังหนอนกระทู้กล้าระบาดนาข้าว
ผีเสื้อหนอนกระทู้กล้า Spodoptera mauritia (Boisduval) เป็นผีเสื้อกลางคืนปีกคู่หน้าสีเทาปนน้ำตาล ความกว้างของปีกกลางออกประมาณ 3.5-4 เซนติเมตร ปีกคู่หลังสีขาว บินเก่งสามารถอพยพได้ไกลเป็นระยะทางหลายสิบ หรือหลายร้อยกิโลเมตร วางไข่เป็นกลุ่มบริเวณยอดอ่อนของข้าว ตัวหนอนมีสีเทาถึงเขียวแกมดำ ด้านหลังมีลายตามความยาวของลำตัวจากหัวจรดท้าย แต่ละปล้องมีจุดสีดำ ตัวหนอนฟักจากไข่ช่วงเช้าตรู่ และรวมกลุ่มกันกัดกินส่วนปลายใบข้าว กลางวันจะหลบอยู่ในดินใต้เศษใบพืช ในพื้นนาที่แห้ง บางส่วนอยู่บนต้นข้าวส่วนที่อยู่เหนือน้ำในนาที่ลุ่ม ชอบเข้าดักแด้ในดินหรือบนต้นหญ้าตามขอบแปลง ตัวหนอนโตเต็มที่ยาวประมาณ 3.5-4 มิลลิเมตร กว้าง 5-6 มิลลิเมตร ชีพจักรจะแตกต่างกันตามพื้นที่ระบาด
ลักษณะการทำลายและการระบาด
โดยทั่วไปหนอนจะทำลายข้าวในเวลากลางคืนหนอนระยะแรกจะกัดกินผิวข้าวเมื่อโตขึ้นจะกัดกินกัดกินทั้งใบ และต้นข้าวเหลือไว้แต่ก้านใบตัวหนอนจะกัดกินต้นกล้าระดับพื้นดินนาข้าวจะถูกทำลายแหว่งเป็นหย่อมๆและอาจเสียหายได้ภายใน 1-2 วัน ความเสียหายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หนอนมีการเคลื่อนย้ายเป็นกลุ่มคล้ายกองทัพ จากการขยายพันธุ์หลายๆ รุ่นบนวัชพืชพวกหญ้า และเคลื่อนเข้าสู่แปลงกล้าและนาข้าวจากแปลงหนึ่งไปยังอีกแปลงหนึ่ง มักพบระบาดในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะหลังจากผ่านช่วงแล้งที่ยาวนาน แล้วตามด้วยฝนตกหนัก การระบาดจะรุนแรงเป็นบางปี บางพื้นที่
การป้องกันกำจัด
1). กำจัดวัชพืชตามคันนาหรือบริเวณใกล้เคียงเพื่อทำลายแหล่งอาศัย
2). ใช้สารฆ่าแมลง มาลาไทออน (มาลาไธออน 83% อีซี) อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เฟนิโตรไทออน (ซูมิไทออน 50% อีซี) อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อพบใบข้าวถูกทำลายมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์
#กรมการข้าว

ว่าด้วยเรื่องของ " ปุ๋ย "

ปุ๋ย (fertilizer) หมายถึง "สารอินทรีย์หรืออนินทรีย์ไม่ว่าจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือทำขึ้นก็ตาม สำหรับใช้เป็นอาหารธาตุแก่พืชได้ไม่ว่าโดยวิธีใด หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในดินเพื่อบำรุงการเจริญเติบโตแก่พืช"
#หลักการใช้ปุ๋ย
🌲🌳🌴🌱การที่พืชเจริญเติบโตได้สมบูรณ์และให้ผลผลิตได้ดีขึ้นนั้นเกิดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายปัจจัย ปุ๋ยหรือธาตุอาหารเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นการใช้ปุ๋ยให้มีประสิทธิภาพสูงควรพิจารณาด้วยกัน 4 ข้อดังนี้ครับ
ข้อที่ 1. "ชนิด" เลือกใช้ชนิดปุ๋ยให้ถูกต้องโดยพิจารณาจากสูตรและธาตุอาหารในปุ๋ยชนิดนั้น✅
ข้อที่ 2 "เวลา" เลือกใส่ปุ๋ยในระยะเวลาที่เหมาะสมโดยพืชปลูกแต่ละชนิดนั้น มีระยะเวลาที่เหมาะสมแตกต่างกัน✅
ข้อที่ 3 "อัตรา" เลือกใช้ในอัตราที่พอเหมาะต่อพื้นที่เพาะปลูกและชนิดของพืชที่เกษตรกรปลูก ✅
ข้อที่ 4 "วิธีการ" เลือกวิธีการใส่ที่ถูกต้องโดยใส่ที่จุดที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย และรวดเร็วที่สุดในพืชแต่ละชนิด เช่นการให้ปุ๋ยทางใบ หรือการหว่านเฉพาะจุดเป็นต้น✅

ปล.จะเห็นได้ว่าหลักการในการใช้ปุ๋ยนั้นไม่ได้แตกต่างจากการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชเลยครับ หากปฏิบัติได้ตามนี้จะเกิด 3 ป. อย่างที่เราได้เน้นย้ำมาตลอด

หนอนกระทู้กล้า (Rice Seedling armyworm)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spodoptera mauritia (Boisduval)

วงศ์ : Noctuidae
อันดับ : Lepidoptera
ชื่อสามัญอื่น :

รูปร่างลักษณะ
หนอนกระทู้กล้าเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 40 มม. ด้านบนของตัวหนอนมีสีน้ำตาลแก่ และมีลาย
ตามความยาวของลำตัว 3 เส้น ด้านล่างของหนอนมีสีน้ำตาลอ่อน ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืนมีสีเทาปนน้ำตาล ความกว้างของปีกเมื่อ
กางออกประมาณ 35 - 40 มม. ชีพจักรของหนอนกระทู้กล้าแตกต่างกันไปตามท้องที่มีรายงานพบว่าตัวเต็มวัยเพศเมีย วางไข่เป็นกลุ่ม
วางไข่เป็นกลุ่มๆ ละ 15 - 20 ฟอง โดยไข่จะถูกวางที่ยอดอ่อนของข้าว ระยะไข่ 3 - 5 วัน อายุหนอนประมาณ 3 สัปดาห์ ระยะดักแด้ ประมาณ 10 วัน (Rothschild, 1969)


ลักษณะการเข้าทำลาย
การระบาดของหนอนกระทู้กล้าทำความเสียหายแก่ต้นข้าวในระยะกล้ามากเพราะตัวหนอนเกิดเป็นจำนวนมากและ
มีนิสัยชอบเดินทางเป็นกลุ่มคล้ายกองทัพ สามารถเข้าทำลายกล้าข้าวอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ความเสียหายที่เกิดขึ้น มักจะเกิด
ในท้องที่เดิมซ้ำกันทุกๆ 3 - 4 ปี ตัวหนอนเมื่อยังเล็กมองเห็นได้ยาก ในระยะแรกจะกัดกินผิวใบ เมื่อโตขึ้นจึงเริ่มกัดกินใบข้าวทั้งใบ
เหลือไว้แต่ก้านใบโผล่อยู่เท่านั้น และจะกัดกินต้นกล้าระดับพื้นดิน ทำให้มีลักษณะเหมือนควายกิน ความเสียหายทั้งหมดอาจเกิดขึ้น
ภายใน 1 - 2 วันเท่านั้น ตามปกติหนอนจะกัดกินข้าวในเวลากลางคืน ส่วนตอนกลางวันมักจะลงกินหญ้าตามคันนาก่อนแล้วจึงลุกลาม
เข้าไปในแปลงกล้า บางปีทำความเสียหายมากจนเกษตรกรไม่มีพันธุ์ข้าวจะปลูก การระบาดของแมลงชนิดนี้มีความสำคัญเพิ่มขึ้นใน
การทำนาหว่านน้ำตม การระบาดของแมลงจะระบาดในพื้นที่กว้างขวางขณะที่ข้าวยังเล็ก

พืชอาหาร
ข้าว ข้าวป่า ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย หญ้าข้าวนก หญ้าคา หญ้าชันกาด หญ้าไซ หญ้าตีนกา หญ้าตีนนก
หญ้าตีนติด หญ้าปล้องหิน

กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำวิธีป้องกันกำจัด ดังนี้
1. หมั่นสำรวจแปลงข้าวอย่างสม่ำเสมอ
2. กำจัดวัชพืชตามคันนาหรือบริเวณใกล้เคียงเพื่อทำลายแหล่งอาศัย
3. ใช้สารกำจัดแมลง มาลาไทออน (มาลาไธออน 83% อีซี) อัตรา 20 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เฟนิโตรไทออน (ซูมิไทออน 50% อีซี) อัตรา 30 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบใบข้าวถูกทำลายมากกว่า 15 %

ระวัง หนอนกระทู้บุกไร่มันสำปะหลัง
สภาพอากาศในช่วงนี้มีฝนตก และฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือนผู้ปลูกมันสำปะหลัง ใน ทุกระยะ การเจริญเติบโต รับมือหนอนกระทู้
โดยหนอนระยะแรกเข้าทำลายเป็นกลุ่ม ในระยะต่อมาจะทำลายรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นหนอนที่มีขนาดใหญ่ สามารถกัดกินใบ ก้าน
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
๑. หมั่นสำรวจแปลงปลูก ตั้งแต่เริ่มงอก หากพบกลุ่มไข่และตัวหนอนทำการเก็บทำลายทันที
๒. ปล่อยแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แตนเบียนไตรโคแกรมม่า แมลงหางหนีบ มวนพิฆาต เป็นต้น
๓. ใช้สารชีวภัณฑ์ พ่นด้วยเชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร โดยเฉพาะหนอนระยะแรกๆ ควรพ่นสารชีวภัณฑ์ในช่วงเย็น จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
๔. หากพบการระบาดรุนแรงใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงตามคำแนะนำ
การป้องกันกำจัดโดยวิธีใช้สารเคมี
- ต้องสลับกลุ่มสารทุก ๓๐ วัน (๑ รอบวงจรชีวิต) เพื่อลดความต้านทานต่อสารฆ่าแมลง
- ขณะพ่นสารผู้พ่นควรอยู่เหนือลมเสมอ ผู้พ่นสารควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง
สารที่แนะนำในการป้องกันกำจัด
สารเคมีพ่นทางใบ
IRAC กลุ่ม ๕
๑. สารสไปนีโทแรม ๑๒% เอสซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
๒. สารสไปนีโทแรม ๒๕% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา ๑๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
IRAC กลุ่ม ๖
๑. สารอีมาเมกตินเบนโซเอต ๑.๙๒% อีซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
๒. สารอีมาเมกตินเบนโซเอต ๕% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา ๑๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
IRAC กลุ่ม ๑๓
๑. สารคลอร์ฟีนาเพอร์ ๑๐% เอสซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
IRAC กลุ่ม ๑๕
๑. สารลูเฟนนูรอน ๕% อีซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
IRAC กลุ่ม ๒๒
๑. สารอินดอกซาคาร์บ ๑๕% อีซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
IRAC กลุ่ม ๑๘+๕
๑. สารเมทอกซีฟีโนไซด์+สไปนีโทแรม ๓๐+๖% เอสซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
IRAC กลุ่ม ๒๘
๑. สารคลอแรนทรานิลิโพรล ๕.๑๗% เอสซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
๒.สารฟลูเบนไดอะไมด์ ๒๐% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา ๑๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
สารชีวภัณฑ์
IRAC กลุ่ม ๑๑
๑. เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส สายพันธุ์ไอซาไว อัตรา ๘๐ กรัมหรือมิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
๒. เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส สายพันธุ์เคอร์สตากี้ อัตรา ๘๐ กรัมหรือมิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร

ข่าวส่งเสริมการเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี ประจำวันอังคาร ที่ 2 กรกฎาคม 2567

🌾🌾มาเช็คคุณสมบัติและวิธีการเข้าร่วม โครงการ "ปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง" กันก่อน 🌾🌾
**ข้อมูลรายละเอียดติดต่อสอบถามที่ “กรมการข้าว” กรมการข้าว เลขที่ 2177 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
[email protected]
0-2561-3236
0-2561-3056

" เอาแล้ว อำเภอตาลสุม จัดทำแผนประชาคมตรวจสอบพื้นที่ผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ประจำปี 2567
ตำบลสำโรง อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี"
———————————————

ขอประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่มีการเพาะปลูกข้าวและพืชอื่นๆ ที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ในพื้นที่ตำบลสำโรง อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชาคม ตามหมู่บ้านที่ตั้งแปลงปลูก เพื่อตรวจสอบ และยืนยันพื้นที่ปลูก ปี 2567/68 ตามวัน และเวลาดังกล่าว

สิ่งที่ต้องนำมาด้วย
- บัตรประจำตัวประชาชน
- แว่นสายตา 🤓

***หมายเหตุ : ขอให้เกษตรกรแต่ละคนมายืนยันด้วยตนเอง หากไม่สะดวกให้ทำหนังสือมอบอำนาจคนในครัวเรือนดำเนินการแทน พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนทั้งผู้มอบและผู้รับมอบ
-เอกสารมอบอำนาจสามารถดาวโหลดได้ในคิวอาร์โค้ดด้านล่าง 👇👇👇

"รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี"
วันที่ 29 มิถุนายน 2567 นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วย นายกมล โสพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี นางวิไลวรรณ หล้าแหล่ง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ นางคำตัน บุญกาญจน์ เกษตรอำเภอวารินชำราบ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และคณะรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดอุบลราชธานี
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ ลงพื้นที่ ณ ศาลประชาคมบ้านผึ้งออก หมู่ 7 ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์เตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ โดยมีนายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์ และมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับประชาชนในพื้นที่

“ กรมส่งเสริมการเกษตร ขับเคลื่อนการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร รณรงค์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร จ.อุบลราชธานี ”
วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.00 น. นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร,นายกมล โสพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี นางวิไลวรรณ หล้าแหล่ง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ นางคำตัน บุญกาญจน์ เกษตรอำเภอวารินชำราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี จัดนิทรรศการรณรงค์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2567 ณ ศาลาประชาคมบ้านผึ้งออก หมู่ 7 ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้จัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชนร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
โดยในปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร (ทุกชนิดพืช) จำนวน 259,017 ครัวเรือน (คิดเป็น 83.53% ของปี 2566) 563,045 แปลง 4,186,682.57 ไร่
ทั้งนี้แยกเป็นเกษตรกรผู้ปลูก ข้าวนาปี ปี 2567 จำนวน 250,929ครัวเรือน (คิดเป็น 82.2% ของปี 2566) 460,442แปลง 3,435,866.93 ไร่ และ มี การจัดชุดตรวจสอบ จำนวน 51,004 ครัวเรือน (คิดเป็น 20.33%) 90,199 แปลง 681,788.51 ไร่
กรมส่งเสริมการเกษตร จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกร มาการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรในเป็นปัจจุบัน เพื่อรักษาสิทธิ์ รับโอกาส และการช่วยเหลือจากภาครัฐ ต่อไป

วิธีแจ้งปัญหา Farmbook อัปภาพถ่ายไม่ได้
✅ ติดต่อ FB : Digital DOAE หรือ
Add Line OA :
✅ แจ้งรุ่นโทรศัพท์
✅ แจ้ง Version Android
🔔 ทั้งนี้ ทีมงานได้เตรียมวิธีการอัปโหลดรูปภาพในเบื้องต้น
และต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
⚠️เนื่องจากตอนนี้มีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาจมีการดำเนินการให้บริการช้าหรือให้บริการการตอบคำถามช้าไปบ้าง ทางทีมพัฒนาต้องขออภัยอย่างสูงและพยายามเร่งตอบผู้รับบริการอย่างรวดเร็วและเต็มที่ที่สุด
ขอบพระคุณที่ใช้บริการ.
Digital DOAE

“ กษจ.อุบลฯ ร่วมต้อนรับคณะกรรมการประกวดศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนดีเด่นระดับเขต ประจำปี 2567 ณ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตำบลโนนผึ้ง ”
วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 09.00 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนางสมปอง นาสารีย์ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช, นางวิไลวรรณ หล้าแหล่ง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ เกษตรอำเภอวารินชำราบ,เมืองอุบลฯ, ตาลสุม นาตาล และศรีเมืองใหม่ คณะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลฯ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอวารินชำราบ และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ผู้นำชุมชน ร่วมต้อนรับการคัดเลือกศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ดีเด่น ระดับเขต ประจำปี พ.ศ. 2567 ณ ที่ทำการศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตำบลโนนผึ้ง หมู่ที่ 3 ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้คณะกรรมการคัดเลือกศูนย์ฯ นำโดยนางสาวเกศณี เถื่อนบัวระบัติ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ จากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 ท่าน
สำหรับศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ เป็นศูนย์ศจช. ที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการผลิตไม้ดอกให้มีคุณภาพดี มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน โดยใช้เทคโนโลยีด้านการอารักขาพืชเข้ามามีบทบาทในการผลิต ตั้งแต่เริ่มการผลิตจนกระทั่งเก็บเกี่ยวด้วยกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร มีความรู้ความชำนาญในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ การสำรวจระบบนิเวศเกษตร การวิเคราะห์ข้อมูลในการตัดสินใจ ติดตามสถานการณ์ศัตรูพืช การจำแนกแมลงศัตรูพืชและศัตรูธรรมชาติ ด้วยการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) และการใช้ชีวภัณฑ์เข้ามาทดแทนการใช้สารเคมี ด้วยการผลิตขยายชีวภัณฑ์ ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน มีการใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัยมีกระบวนการผลิตไม้ดอกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบาย BCG Model

" ปุ๋ยคนละครึ่ง"
โครงสรับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะเปิดระบบแจ้งความประสงค์โครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2567 – 31 พ.ค. 2568 ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตามปกติ

" กษจ.อุบลฯ ประชุมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี (Provincial Meeting : PM) ประจำเดือนมิถุนายน 2567"
วันจันทร์ ที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 13.30 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการ ประชุมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี(Provincial Meeting : PM) ประจำเดือนมิถุนายน 2567 ณ ห้องประชุมพระพิรุณ 1 สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบเดือนที่ผ่านมาและชี้แจงภารกิจ การดำเนินงานตามนโยบายและโครงการต่างๆ จากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนโยบายการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนจากทางรัฐบาล พร้อมทั้งร่วมวางแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ ให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกัน เกิดความรวดเร็ว และถูกต้อง บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป

" ประกาศ พยากรณ์อากาศเพื่อก่ารเกษตร 7 วัน ข้างหน้า " 21-27 มิ.ย 67

" รณรงค์การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน ”
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 นายกมล โสพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี Kick Off รณรงค์การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน โดยมี นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นางสาวนฤมล ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านวิศวกรรมเกษตร จังหวัดร้อยเอ็ด นางสุนีรัตน์ ชารีแก้ว เกษตรอำเภอกุดข้าวปุ้น เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยงานภาคี ร่วมกันประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกรจังหวัดอุบลราชธานีแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน ณ ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการให้บริการแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรของสำนักงานเกษตรอำเภอตาลสุม และสำนักงานเกษตรอำเภอตระการพืชผลด้วย

" สำนักงานเกษตรอำเภอศรีเมืองใหม่ พร้อมเต็มที่ เต็มใจให้บริการพี่น้องเกษตรกร มาขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร "
อย่าลืม อย่าพลาด เพื่อเป็นข้อมูลในการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ และเป็นข้อมูลในการวางแผนการส่งเสริมการเกษตร ตลอดตนเพื่อประกอบการช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ทำการเกษตร อย่าลืมนะครับ #ทะเบียนเกษตรกร #ศรีเมืองใหม่ #สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี

“ กษจ.อุบลฯ จัดรายการวิทยุ รวมใจ ไทอุบล ช่วง เกษตรออนซอน รอบรู้การเกษตร ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างสรรค์สังคม ทาง สวท. อุบลฯ ระบบ FM 98.50 MHz ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ”

วันพฤหัสบดี ที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา11.00 - 12.00 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายธวัชชัย พันเทศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ,นางวิภาวดี สาธรราษฎร์ เกษตรอำเภอตาลสุม และนายประดิษฐ์ ซึ่งพรม เจ้าของสวนกนกพร อินทผลัม อำเภอตาลสุม ร่วมจัดรายการวิทยุ กับ ในรายการ “ รวมใจ ไทอุบล ช่วงเกษตรออนซอน ” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี หรือ สวท.อุบลราชธานี ระบบ FM 98.50 MHz และถ่ายทอดสดผ่านhttps://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=2162352280787375 ของ สวท.อุบลราชธานี โดยนำเสนอในเรื่อง
1. การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2567 โดยเกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน หากเป็นไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ให้แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 30 วัน และปรับปรุงข้อมูลทุกปีให้เป็นปัจจุบัน โดยเกษตรกรผู้ปลูกพืช สามารถแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร 1. แจ้งผ่าน Farmbook Application ได้ทั้งระบบ Android และระบบ iOS ในกรณีเกษตรกร รายเดิม แปลงเดิม ที่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วในปีที่ผ่านมา 2.แจ้งผ่าน e-Form ที่ https://efarmer.doae.go.th แจ้งได้ทั้งเกษตรกร รายใหม่และเกษตรกร รายเดิม 3. แจ้งผ่าน ThalD Application 4. ยื่นคำร้องแบบ ทบก.01 ณ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช สำนักงานเกษตรอำเภอ (ตามที่ตั้งแปลงปลูก)
2. การท่องเที่ยวเชิงเกษตรอำเภอตาลสุม สวนกนกพรอินทผลัม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
3. การแจ้งเตือนเฝ้าระวังการระบาดของหนอนกระทู้หอม (Spodoptera exigua) ในมันสำปะหลัง
4.การเตรียมความพร้อมโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

" การปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร " ง่ายๆ ไม่ยาก ครับผม ตามนี้เลยนะครับ

" กรณีแอฟพลิเคชัน Farmbook ไม่สามารถอัพโหลดภาพได้ "

https://www.youtube.com/watch?v=7dz8-OF7dUY Farmbook สมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัล

Farmbook สมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัล อัปเดตล่าสุด 2564 (รอบรู้ด้านการเกษตร ปี 4) สื่ออธิบายเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน farmbook สมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัล (ล่าสุด อัปเดต 2564)อธิบายวิธีใช้งานเบื้องต้นเ.....

“ กษจ.อุบลฯ ร่วมต้อนรับผู้ว่าฯ อุบลฯ ติดตามความก้าวหน้า การดำเนินงานจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนภูเขาทอง ”

วันที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลา 15.00 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี นายสะอาด วงศ์รักษ์ นายอำเภอเดชอุดม พร้อมด้วย นายอรรถยา ลาพ้น เกษตรอำเภอเดชอุดม หัวหน้าส่วนระดับอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในโอกาสให้เกียรติลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ภูเขาทอง ณ สวนทุเรียน นายชัยสงวน ดาราคำ บ้านโนนสักทอง หมู่ 21 ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
โดย นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวรายงานข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยมีความเข้มแข็ง สามารถบริหารจัดการการผลิตและการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับฟาร์มขนาดใหญ่ได้ จังหวัดอุบลราชธานี มีการจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 25 อำเภอ จำนวน 410 แปลง มีสมาชิกเกษตรกร 18,318 ราย รวมพื้นที่ 240,987 ไร่

https://www.youtube.com/watch?v=xgqgwrda2Js " ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกร มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อรับเข้าร่วมโครงการภาครัฐและเป็นข้อมูลให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติด้านพืช" โดย นายกมล โสพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ที่ 4 จังหวัดขอนแก่น

ขอเชิญชวนขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดย ผอ.เขต 4 ขอเชิญชวนขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดย ผอ.เขต 4

ข่าวส่งเสริมการเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี ประจำวันศุกร์ ที่ 14 มิถุนายน 2567

"กษจ.อุบลฯ ร่วมเป็นเกียรติการส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรให้กับวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าว"

วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเป็นเกียรติในการส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าว หมู่ 7 ตำบลหนองเมือง โดยมี นายสำเริง ม่วงสังข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธาน มีนายอำเภอม่วงสามสิบ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ เกษตรอำเภอม่วงสามสิบและเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารบริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าว หมู่ที่ 7 ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ที่ทำการวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าว หมู่ 7 ตำบลหนองเมือง อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
ในการนี้ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้วมด้วย ร้านคูโบต้าศรีเมืองยนต์ 1991 ดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนและสังคม ภายใต้โครงการ "คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ" เพื่อพัฒนากลุ่มและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนด้วย

“ กษจ.อุบลฯ จัดรายการวิทยุ รวมใจ ไทอุบล ช่วง เกษตรออนซอน รอบรู้การเกษตร ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างสรรค์สังคม ทาง สวท. อุบลฯ ระบบ FM 98.50 MHz ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ”

วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา11.00 - 12.00 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายธวัชชัย พันเทศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมจัดรายการวิทยุ กับพ่อบุญเหล็ง สายแวว (โฟนอิน) ในรายการ “ รวมใจ ไทอุบล ช่วงเกษตรออนซอน ” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี หรือ สวท.อุบลราชธานี ระบบ FM 98.50 MHz และถ่ายทอดสดผ่าน https://www.youtube.com/live/bLuJw-EFG7o ของ สวท.อุบลราชธานี โดยนำเสนอในเรื่อง
1. การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2567 โดยเกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน หากเป็นไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ให้แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 30 วัน และปรับปรุงข้อมูลทุกปีให้เป็นปัจจุบัน โดยเกษตรกรผู้ปลูกพืช สามารถแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร 1. แจ้งผ่าน Farmbook Application ได้ทั้งระบบ Android และระบบ iOS ในกรณีเกษตรกร รายเดิม แปลงเดิม ที่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วในปีที่ผ่านมา 2.แจ้งผ่าน e-Form ที่ https://efarmer.doae.go.th แจ้งได้ทั้งเกษตรกร รายใหม่และเกษตรกร รายเดิม 3. แจ้งผ่าน ThalD Application 4. ยื่นคำร้องแบบ ทบก.01 ณ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช สำนักงานเกษตรอำเภอ (ตามที่ตั้งแปลงปลูก)
2. หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว

"กษจ.อุบลฯ พบปะและให้แนวทางแก่เกษตรกรผู้เข้าร่วมอบรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรแบบครบวงจร เพื่อยกระดับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็นเกษตรอินทรีย์ตามแนวทาง BCG Economy กิจกรรม : เพิ่มศักยภาพการผลิตไม้ดอกไม้ประดับแบบครบวงจร ปี 2567 "

วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 14.30 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี พบปะและให้แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไม้ดอกไม้ประดับให้แก่ผู้เข้าอบรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรแบบครบวงจร เพื่อยกระดับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็นเกษตรอินทรีย์ตามแนวทาง BCG Economy กิจกรรม : เพิ่มศักยภาพการผลิตไม้ดอกไม้ประดับแบบครบวงจร
ปี 2567 อบรมถ่ายทอดความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไม้ดอกไม้ประดับให้กับเกษตรกรรายเก่า ในการนี้ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกร แจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร
ให้เป็นปัจจุบันด้วย ณ ศูนย์เรียนไม้ดอกบ้านตาติด ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

"กษจ.อุบลฯ พบปะและให้แนวทางแก่เกษตรกรผู้เข้าร่วมอบรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรแบบครบวงจร เพื่อยกระดับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็นเกษตรอินทรีย์ตามแนวทาง BCG Economy กิจกรรม : เพิ่มศักยภาพการผลิตไม้ดอกไม้ประดับแบบครบวงจร ปี 2567 "

วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 13.30 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี พบปะและให้แนวคิดในการพัฒนาการผลิตไม้ดอกไม้ประดับให้มีปริมาณและคุณภาพตามความต้องการของตลาด แก่ผู้เข้าอบรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการ
ผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรแบบครบวงจร เพื่อยกระดับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็นเกษตรอินทรีย์ตามแนวทาง BCG Economy กิจกรรม : เพิ่มศักยภาพการผลิตไม้ดอกไม้ประดับแบบครบวงจร
ปี 2567 อบรมถ่ายทอดความรู้เพิ่มพื้นที่การผลิตไม้ดอกไม้ประดับให้กับเกษตรกรรายใหม่ ในการนี้ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกร แจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร
ให้เป็นปัจจุบันด้วย ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หมู่ที่ 4 ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธาน

“ การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2567 จ.อุบลราชธานี ”

วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 15.30 น. นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายธวัชชัย พันเทศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเข้าการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2567 จังหวัดอุบลราชธานี ณ ห้องประชุมศรีสิงหเทพ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมฯ โดยผู้มีที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำ พ.ศ. 2567 จำนวน 3 ราย และคณะกรรมการคัดเลือกพ่อตัวอย่างฯ ได้พิจารณาคัดเลือกพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2567 จังหวัดอุบลราชธานี ตามลำดับดังนี้ ลำดับที่ 1 พันตำรวจเอก รณชัย ครองยุทธ ลำดับที่ 2 นายสนั่น วาจาดี และลำดับที่ 3 นายประทีป บุญธรรม

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 นางสาวนพคุณ นิยมคุณ เกษตรอำเภอโขงเจียม มอบหมายให้นายคำหล้า พรมจันทร์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรและนายธีระยุทธ ไชยวัน เจ้าพนักงานธุรการ พร้อมด้วยผู้นำชุมชน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ดำเนินการออกประชาสัมพันธ์ชี้แจงการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรฤดูกาลผลิต ปี 2567/2568 บ้านตุงลุง หมู่ 5 และบ้านปากห้วยแคน หมู่ 6 ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี