สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

แชร์

สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธธานี
UBONRATCHATHANI RECRUITING OFFICER

12/02/2025

วันมาฆบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 โดยส่วนใหญ่มักจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งวันมาฆบูชา 2568 นี้ตรงกับวันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
ประวัติและความสำคัญของวันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา มากจากคำว่า “มาฆบูชา” มาจากคำว่า “มาฆะ” หรือ “มาฆบุรณมี” ซึ่งเป็นชื่อย่อของเดือน 3 หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือน 3 ตามปฏิทินของอินเดีย ซึ่งในวันนี้พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก โดยสรุปใจความของการแสดงธรรมครั้งนี้คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"
เหตุการณ์สําคัญในวันมาฆบูชามีอะไรบ้าง
เหตุการณ์สําคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันมาฆบูชา มีทั้งหมด 4 อย่าง จึงเรียกอีกชื่อว่า จาตุรงคสันนิบาต ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ มีดังนี้

1. พระสงฆ์ 1,250 รูป มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย เพื่อเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ
2. พระสงฆ์ 1,250 รูป ได้รับการบวชจากพระพุทธเจ้า เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา”
3. พระสงฆ์ 1,250 รูป ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์
4. พระสงฆ์ 1,250 รูป มาชุมนุมตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

หลักธรรมวันมาฆบูชามีอะไรบ้าง
หลักธรรมสำคัญในวันมาฆบูชาที่ถือว่าเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาติโมกข์ ประกอบด้วย 3 หลักการ ได้แก่ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้ผ่องใส หรือเป็นที่รู้จักกันดีคือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" นั่นเอง

กิจกรรมทางศาสนาในวันมาฆบูชา มีอะไรบ้าง
วันมาฆบูชาถือเป็นวันพระใหญ่ นอกจากการทำบุญ ฟังธรรม รักษาศีลเจริญภาวนาในช่วงเช้าแล้ว ในช่วงเย็นยังจะมีการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ให้จุดธูป เทียน และเตรียมดอกไม้พร้อมแล้ว จะเริ่มเดินวนไปทางขวา และท่องบทสวดดังนี้

รอบที่ 1 ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ภาวนาคาถา บทอิติปิโส ภควาฯ
รอบที่ 2 ให้รำลึกถึงคุณพระธรรม ภาวนาคาถา บทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ
รอบที่ 3 ให้รำลึกถึงคุณพระสงฆ์ ภาวนาคาถา บทสุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ
ที่มา : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

05/02/2025

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ครับ 📢📢
📍📍 ขอเชิญชวน....ชายไทย ที่เกิด พ.ศ.2551 ซึ่งจะมีอายุครบ 17 ปี ในปี พ.ศ.2568 (ไม่ต้องนับวันและเดือนเกิด)
📍 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบุคคลที่ครบกำหนดลงบัญชีทหารกองเกิน ให้ไปติดต่อที่หน่วยสัสดีอำเภอ (ตามภูมิลำเนาทหาร) เพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน
📍 โดยเตรียมหลักฐาน ดังต่อไปนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชน (เฉพาะของตนเอง หากยังใช้บัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นเด็กชาย ให้ท่านทำบัตรฯ ใหม่ก่อน)
2.สำเนาทะเบียน (ของตนเอง , บิดาและมารดา ฉบับบจริง)
3.สูติบัตร (ถ้ามี)
4.เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล , มรณะบัตร (กรณีบิดาหรือมารดาถึงแก่กรรม) เป็นต้น
📍📍 ขอเชิญชวน....ชายไทย ที่เกิด พ.ศ.2548 ซึ่งจะมีอายุครบ 20 ปี ในปี พ.ศ.2568
📍 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ให้ไปติดต่อที่หน่วยสัสดีอำเภอ (ตามภูมิลำเนาทหาร) เพื่อแสดงตนรับหมายเรียก (แบบ สด.35)
📍 โดยเตรียมหลักฐาน ดังต่อไปนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง
2.ใบสำคัญ (แบบ สด.9)
****ได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 จนถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2568 (ในวัน เวลาราชการ )****
**หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะมีความผิดตามกฎหมาย....
#การลงบัญชีทหารกองเกิน
#การรับหมายเรียก
#สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

Photos from สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี's post 03/02/2025

3 กุมภาพันธ์ "วันทหารผ่านศึก" 🌺🌺

สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมพิธีสดุดีและวางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก ณ อนุสาวรีย์วีรชน ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
โดยมี พล.ต.อัครพนธ์ มูลประดับ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 เป็นประธานในพิธี

#เราผู้กล้ารบ
#ทหารผ่านศึก
#ทหารผ่านศึกผู้กล้ารบ
#วันทหารผ่านศึก
#กองทัพบก
#สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

03/02/2025

3 กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก 🇹🇭🌹🎖️

วันที่ไม่ได้กำหนดขึ้นเพื่อสดุดีทหารผ่านศึกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพลเรือนที่ได้ทำหน้าที่ป้องกันประเทศ แม้ว่าในปัจจุบันสงครามจะหมดไปแล้ว แต่ทหารผ่านศึกก็ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น เพราะคำนิยามของทหารผ่านศึก คือ ทหารหรือบุคคลซึ่งกระทำหน้าที่ในสงคราม หรือการรบ หรือทำการป้องกันหรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคง หรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักรไม่ว่าภายใน หรือภายนอกราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงกลาโหมหรือสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนด

แม้ว่าประเทศไทยจะปลอดจากภาวะสงครามตามแบบมานานแล้วก็ตาม แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่คุกคามประเทศ ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง และคงไม่มีใครรู้ได้ว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า เหตุการณ์บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หากเกิดศึกสงครามในวันนั้น คนแรกที่จะออกไปต่อสู้เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ก็คือทหารผ่านศึก ดังนั้น ทุกวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันทหารผ่านศึก หรือวันไหน ๆ ก็ตาม จึงอยากให้ทุกคนพึงระลึกถึงวีรกรรมของทหารกล้าจากทุกสมรภูมิรบ และร่วมกันเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้อยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนไทยตลอดไป

#วันทหารผ่านศึก #สดุดีเหล่าทหารกล้า

Photos from สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี's post 31/01/2025

อีธานฮันท์ หากคุณพร้อมที่จะยอมรับภารกิจนี้.....
เว็บไซต์รับสมัครทั้ง 4 เหล่า
เหล่า ทบ.
https://crma-admission.rta.mi.th/admission
เหล่า ทอ.
http://admission.nkrafa.com/register/
เหล่า ทร.
https://admission-rtna.net/
เหล่า ตร.
https://admission.rpca.ac.th/register/
#นักเรียนนายร้อย
#นักเรียนนายเรืออากาศ
#นักเรียนนายเรือ
#นักเรียนนายร้อยตำรวจ
#นักเรียนเตรียมทหาร
#สมัครสอบทหาร
#กองทัพบก
#ทหารไทย

22/01/2025

📣โค้งสุดท้าย!! โอกาสที่เลือกได้
#สมัครทหารออนไลน์ ถึงวันที่ 26 ม.ค.68 !!
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบก
สำหรับน้องๆที่อายุ 18 - 20 ปีบริบูรณ์ (ก่อนเกณฑ์ทหาร )
และ พี่ๆที่ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว
ช่วงอายุ 22-29 ปี บริบูรณ์ ( จับได้ใบดำ )
ถ้าสนใจก็สมัครได้เหมือนกันนะครับ ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหน จังหวัดไหน สามารถเลือกลงได้ทุกหน่วย

✅️ลิ้งค์สมัครทหารออนไลน์
https://rcm.rta.mi.th/68/conf_rcm.php

#น้องคนเล็ก #ทหารออนไลน์68 #สมัครทหารออนไลน์
#กองทัพบก #ทหารออนไลน์
#สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

19/01/2025

ประชาสัมพันธ์ครับ📢.ประกาศหยุดทำการ..
สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี หยุดทำการ 1 วัน ในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568
"เนื่องจากเป็นวันหยุดชดเชย วันกองทัพไทย".จะเป็นให้บริการในวันอังคารที่ 21 มกราคม 2568..

#วันหยุดชดเชย #วันกองทัพไทย
#สำนักงานสัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

18/01/2025

18 มกราคม #วันกองทัพบก
“ปกป้อง พิทักษ์ อธิปไตย
เสริมสร้างศักยภาพกำลังรบ”

วันกองทัพไทย หรือ วันกองทัพบกเป็นวันที่รำลึกถึงวีรชนผู้กล้า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำยุทธหัตถี เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช และอธิปไตยของชาติ ทำให้ไทยคงความเป็นเอกราช จนถึงทุกวันนี้

#กองทัพบก “ความพร้อมเพรียง ความแข็งแกร่ง ของเหล่าทหาร ในพิธีสวนสนามกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพบก วันกองทัพไทย 18 มกราคม 2568
📌 ณ หน่วยทหารในพื้นที่และลานเอนกประสงค์ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร สระบุรี

#วันกองทัพไทย #วันกองทัพบก

17/01/2025

RTA PODCAST 🎧 พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล
“ ข้าพเจ้า ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า
ข้าพเจ้า จักยอมตายเพื่ออิสรภาพและความสงบแห่งประเทศชาติ
ข้าพเจ้า จักอยู่ในศีลธรรมของศาสนา
ข้าพเจ้า จักเทิดทูนและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า
ข้าพเจ้า จักรักษาไว้ ซึ่งการปกครอบระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ”
คำปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล
โดยแต่เดิมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนฯ จะกระทำในวันที่ 25 มกราคม ของทุกปี เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันกองทัพไทย และในวันดังกล่าวทหารใหม่ได้ฝึกเสร็จสิ้นแล้วตามหลักสูตร พร้อมที่จะทำการรบได้ นอกจากนี้ยังเป็นวันระลึกถึงวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะต่อข้าศึก ซึ่งต่อมาเมื่อนักประวัติศาสตร์ได้ตรวจสอบวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชใหม่จึงพบว่า วันกระทำยุทธหัตถีที่ถูกต้องนั้น ตรงกับวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 กองบัญชาการทหารสูงสุดจึงมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทยมาเป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีแทน โดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป
สำหรับพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล นั้น จากหลักฐานพบว่ามีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2470 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยจัดขึ้นที่พระลานพระราชวังดุสิต ในครั้งนั้นเป็นการประกอบพิธีของหน่วยทหารบก ทหารรักษาวัง และทหารเรือ ที่ประจำอยู่ในกรุงเทพ ฯ ซึ่งพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานพิธีสวนสนามครั้งนี้

เมื่อวันนี้มาถึง.... ทหารไทยทุกหมู่เหล่า ต่างรู้ถึงความสำคัญของวันนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย และวันกองทัพบก โดยจัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกระทำยุทธหัตถีและนำเหล่าทหารปกป้องแผ่นดิน นับเป็นการยุทธที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนหลายเหตุการณ์ที่บูรพกษัตริย์และบรรพชนทหารกล้า ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญเสียสละเลือดเนื้ิอและชีวิต เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย ให้เป็นมรดกของชนรุ่นหลังมาจนถึงทุกวันนี้ กองทัพไทยจึงได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก โดยในวันที่ 18 มกราคม 2568 กองทัพบกได้จัดพิธีทางศาสนา เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษและวีรชนทหารกล้าที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติในสมรภูมิรบต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและพิธีถวายราชสักการะแด่บูรพกษัตริย์ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และที่สำคัญในวันนี้ผู้ที่บรรจุรับราชการทหารใหม่ทุกนายจะร่วมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งแสดงถึงการเป็นทหารอย่างสมบูรณ์พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ ด้วยความทุ่มเทเสียสละ ซึ่งจะจัดพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน ณ มณฑลทหารบกทั่วประเทศ

17/01/2025

17 มกราคม วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ตรงกับวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี โดยวันนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อเดือนธันวาคม 2531 สำนักสภาจังหวัดสุโขทัย ได้มีหนังสือเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้มีการกำหนดให้วันที่ 17 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น "วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ที่เลือกวันนี้ เพราะป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงตำแหน่งพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงประกอบพระราชพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในปี 2526

ต่อมา คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยและจัดเอกสารทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ได้พิจารณาเรื่องการกำหนดวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ใหม่ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ก็ได้เสนอว่า วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ควรเป็นวันที่ 17 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพบหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อปี 2376 และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2532 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบด้วย จึงกำหนดให้วันที่ 17 มกราคม ของทุกปีเป็น "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช”

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขทัย ในขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ 19 พรรษา ได้เสด็จไปกองทัพกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ผู้เป็นบิดา สู้รบกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด (เมืองสอด จังหวัดตาก) ที่ยกทัพมาตีเมืองตากในความปกครองจนได้รับชัยชนะ ทำให้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์พระราชทานนามให้ว่า “รามคำแหง” ที่มีความหมายว่า รามผู้กล้าหาญเข้มแข็งในการรบ ก่อนที่พระองค์จะได้ขึ้นเสวยราชย์ ราวปี 1822 ต่อจากพ่อขุนบาลเมือง พระเชษฐาธิราช

ทรงปกครองบ้านเมืองแบบ”พ่อปกครองลูก” ทรงแขวนกระดิ่งไว้หน้าประตูพระราชวัง ใครมีเรื่องร้องทุกข์ก็มาสั่นกระดิ่ง และทรงโปรดให้เข้าเฝ้าเพื่อทูลร้องทุกข์ได้รวดเร็ว โปรดให้สร้างพระแท่นขึ้นด้วยหิน เรียกว่า พระแท่นมนังคศิลาอาสน์ ที่กลางดงตาล ทุกวันโกนวันพระทรงนิมนต์พระมาเทศน์ที่พระแท่นโปรดประชาชน ส่วนวันธรรมดาพระองค์ทรงใช้เป็นที่ปฏิบัติภารกิจเสมอมา

มีการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ประชาชนอยู่ดีกินดี สภาพบ้านเมืองก้าวหน้าทั้งทางการเกษตร การชลประทาน การอุตสาหกรรม และการศาสนา อาณาเขตของกรุงสุโขทัยได้ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล ทรงเจริฐสัมพันธ์ไมตรีกับมหาอำนาจอย่าง”จีน” แล้วยังโปรดให้นำช่างปั้นถ้วยชามจากนมาสอนคนไทย ผลิตเป็น อุตสาหกรรมส่งออกไปยังประเทศจีน มลายู และอินเดีย ถ้วยชามที่ผลิตขึ้นนี้เรียกว่า "ชามสังคโลก”

ข้อความในศิลาจารึกแสดงให้เห็นว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงใช้พระราชอำนาจในการยุติธรรมและนิติบัญญัติไว้ดังต่อไปนี้ คือ ราษฎรสามารถค้าขายได้โดยเสรี เจ้าเมืองไม่เรียกเก็บจังกอบหรือภาษีผ่านทาง ผู้ใดล้มตายลง ทรัพย์มรดกก็ตกแก่บุตร และหากผู้ใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีพิพาท ก็ไปสั่นกระดิ่งที่แขวนไว้หน้าประตูวังเพื่อถวายฎีกา พระองค์ก็ทรงตัดสินด้วยพระองค์เอง

ด้านศาสนา พ่อขุนรามคำแหงมหาราชยังทรงใช้พระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ จากลังกา ผ่านเมืองนครศรีธรรมราช มาประดิษฐานที่เมืองสุโขทัย แทนลัทธิมหายาน ทำให้พระพุทธศาสนาวางรากฐานมั่นคง ในอาณาจักรสุโขทัย และเผยแพร่ไปยังหัวเมืองต่างๆ ในราชอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งได้เป็นศาสนาประจำชาติไทยมาจนถึงทุกวันนี้

พระองค์ยังโปรดให้สร้างทำนบกักน้ำที่เรียกว่า ”สรีดภงส์” เพื่อนำน้ำไปใช้ในตัวเมืองสุโขทัยและบริเวณใกล้เคียง โดยอาศัยแนวคันดินที่เรียกว่า "เขื่อนนพพระร่วง” ทำให้มีน้ำสำหรับใช้ในการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภคในยามที่บ้านเมืองขาดแคลนน้ำ

ในปี พ.ศ. 1826 พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้คิดประดิษอักษรไทยขึ้นใช้แทนตัวอักษรขอมที่เคยใช้กันมาแต่เดิม เรียกว่า "ลายสือไทย” และให้ช่างสลักอักษรไว้ในศิลาจารึก ณ กรุงสุโขทัย ซึ่งศิลาจารึกได้ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ และตัวหนังสือไทยทุกตัวในศิลาจารึกได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับจนถึงอักษรไทยในปัจจุบัน ทำให้คนไทยมีอักษรไทยใช้มาจนถึงทุกวันนี้

จะเห็นได้ว่าไทยได้เริ่มเป็นปึกแผ่น นับตั้งแต่รัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นต้นมา ทรงเสวยราชย์นาน 40 ปี พระชนมายุ 60 พรรษา เสด็จสวรรคตประมาณปี พ.ศ. 1842

อ้างอิง : ประชิด สกุณะพัฒน์, อุดม เชยกีวงศ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : ภูมิปัญญา, 2549.

บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541.

ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้

นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี

14/01/2025

วันที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ ๒๖,๔๖๙ วัน เท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑)

รัฐบาลจึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช ๒๕๖๘

#ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
#พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
#สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี

พลทหาร.. โอกาสที่เลือกได้ 10/01/2025

พลทหาร.. โอกาสที่เลือกได้

สิทธิและประโยชน์ของการเป็นทหารกองประจำการ
ยิ่งสมัครใจมาก ยิ่งลดจำนวนผู้ต้องจับใบแดง

อีกทั้งปีนี้กองทัพปรับตัว
มีมาตรการป้องกันการใช้ความรุนแรงอย่างเข้มงวด

#พลทหารโอกาสที่เลือกได้
#ทหารออนไลน์
#เกณฑ์ทหาร
#กองทัพปรับตัว
#เริ่มเปลี่ยนไปด้วยกัน

พลทหาร.. โอกาสที่เลือกได้ สิทธิและประโยชน์ของการเป็นทหารกองประจำการ ยิ่งสมัครใจมาก ยิ่งลดจำนวนผู้ต้องจับใบแดง อีกทั้งปีนี้กองทัพ...

08/01/2025

#ทรงพระเจริญ
๘ มกราคม ๒๕๖๘ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร ผ่านระบบออนไลน์
ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ ๗ – ๙ มกราคม

#ทรงพระเจริญ
๘ มกราคม ๒๕๖๘ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร ผ่านระบบออนไลน์
ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ ๗ – ๙ มกราคม ๒๕๖๘

07/01/2025

👏ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 8 มกราคม 2568
👉 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์
👉 ระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2568
👉 www.royaloffice.th

28/12/2024

วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี นับเป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วันที่ 28 ธันวาคม 2310) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรีเพียงพระองค์เดียว

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมีพระนามเดิมว่า "สิน” (ชื่อจีนเรียกว่า "เซิ้นเซิ้นซิน) พระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2277 พระราชบิดาเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ชื่อ "นายไหฮอง” ได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ”นางนกเอี้ยง” ในช่วงรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (สมเด็จพระธรรมราชาธิราชที่ 3) ซึ่งเจ้าพระยาจักรีได้ขอไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ต่อมาเมื่ออายุครบ 13 ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำตัวเด็กชายสิน ไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ครั้น พ.ศ. 2301 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรเสด็จขึ้นครองราชย์ได้ 3 เดือนเศษ ก็ถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราช "สมเด็จพระบรมราชาที่ 3” (สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์) สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นายสินมหาดเล็กรายงาน เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราพระราชสีห์ไปชำระความที่หัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งปฏิบัติราชการได้รับความดีความชอบมากจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงยกกระบัตร เมืองตาก ช่วยราชการพระยาตากครั้นพระยาตากถึงแก่กรรม ก็ทรงโปรดให้เลื่อนเป็น "พระยาตาก ปกครองเมืองตาก”

10/12/2024

วันรัฐธรรมนูญซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทยซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศและเป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนของสังคม สำหรับปี 2565 นี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2565

ประวัติวันรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย

หลังคณะราษฎรได้ทำการอภิวัฒน์สยาม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) มีการประกาศใช้ "พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475" เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2475 ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ฉบับแรกของไทย

ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 ทรงพระราชทาน "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475" เป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ฉบับแรกของไทย ทำให้วันรัฐธรรมนูญตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาแล้วทั้งหมด 20 ฉบับ โดยฉบับปัจจุบัน คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

ความสําคัญของวันรัฐธรรมนูญ

นอกจากวันรัฐธรรมนูญจะมีขึ้นเพื่อระลึกถึงการมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ฉบับแรกของไทยแล้ว ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีส่วนช่วยในการวางกรอบการปกครองและสร้างเสถียรภาพให้ระบอบการเมือง ดังนี้

สถาปนาอำนาจของรัฐ : แสดงถึงการดำรงอยู่ของรัฐ เป็นเอกราชไม่ขึ้นต่อใคร

สถาปนาเป้าหมายของสังคม : สร้างเอกภาพและแสดงเจตจำนงของการสร้างรัฐว่าต้องการให้การปกครองเป็นไปในทิศทางใด

สร้างรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ : ระบุหน้าที่ของผู้ปกครอง กำหนดบทบาทและกลไกการทำงานของสถาบันการเมือง

คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ : ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งการเคลื่อนไหว การแสดงความคิดเห็น และการเลือกนับถือศาสนา

รับรองความชอบธรรมให้ระบอบการเมือง : รัฐที่มีรัฐธรรมนูญจะได้รับความชอบธรรม เมื่อเข้าร่วมกับประชาคมนานาชาติในภาคีความร่วมมือต่างๆ

วันรัฐธรรมนูญซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทยซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และเป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนของสังคม

ประวัติวันรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย

หลังคณะราษฎรได้ทำการอภิวัฒน์สยาม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) มีการประกาศใช้ "พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475" เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2475 ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ฉบับแรกของไทย

ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 ทรงพระราชทาน "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475" เป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ฉบับแรกของไทย ทำให้วันรัฐธรรมนูญตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาแล้วทั้งหมด 20 ฉบับ โดยฉบับปัจจุบัน คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

ความสําคัญของวันรัฐธรรมนูญ

นอกจากวันรัฐธรรมนูญจะมีขึ้นเพื่อระลึกถึงการมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ฉบับแรกของไทยแล้ว ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีส่วนช่วยในการวางกรอบการปกครองและสร้างเสถียรภาพให้ระบอบการเมือง ดังนี้

สถาปนาอำนาจของรัฐ : แสดงถึงการดำรงอยู่ของรัฐ เป็นเอกราชไม่ขึ้นต่อใคร

สถาปนาเป้าหมายของสังคม : สร้างเอกภาพและแสดงเจตจำนงของการสร้างรัฐว่าต้องการให้การปกครองเป็นไปในทิศทางใด

สร้างรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ : ระบุหน้าที่ของผู้ปกครอง กำหนดบทบาทและกลไกการทำงานของสถาบันการเมือง

คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ : ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งการเคลื่อนไหว การแสดงความคิดเห็น และการเลือกนับถือศาสนา

รับรองความชอบธรรมให้ระบอบการเมือง : รัฐที่มีรัฐธรรมนูญจะได้รับความชอบธรรม เมื่อเข้าร่วมกับประชาคมนานาชาติในภาคีความร่วมมือต่างๆ

ต้องการให้ธุรกิจของคุณ องค์กร ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง บริการภาครัฐ ใน Ubon Ratchathani?
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?

วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)

1-12 เมษายนนี้  ขอเชิญชวนชายไทยสมัครใจเป็นทหาร#ปีใหม่ทหารใหม่โอกาสใหม่  #เป็นทหาร2ปีมีโอกาสเป็นนายสิบ #สมัครเป็นทหารได้ส...

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

ที่อยู่


422 ถนนพรหมราช ต. ในเมือง อ. เมืองอุบลราชธานี จ. อุบลราชธานี
Ubon Ratchathani
34000

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 16:30
อังคาร 08:30 - 16:30
พุธ 08:30 - 16:30
พฤหัสบดี 08:30 - 16:30
ศุกร์ 08:30 - 16:30