สาระดีดี Grab & Go

มีสาระดีดีมาฝากกันค่ะ​🥗💚🤍

#เทคนิคการทานผักใบเขียวให้อร่อยโดยนักโภชนาการ

ใครๆ ต่างก็รู้กันดีว่า ผักใบเขียวอุดมไปด้วยประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่ก็มีหลายคนเหมือนกัน ที่ไม่ชอบทานผักใบเขียวเหล่านั้น เนื่องจากไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับกลิ่นและรสสัมผัสสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี เทคนิคที่จะเข้ามาช่วยคลี่คลายเรื่องเหล่านี้ พร้อมๆ กันกับทำให้การทานผักใบเขียวเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้นก็มีอยู่ โดยไม่นานมานี้ Ryan Andrews นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ซึ่งเป็นนักโภชนาการผู้ทรงคุณวุฒิ และที่ปรึกษาแห่ง Precision Nutrition ได้มีการเปิดเผยเคล็บลับการทานผักใบเขียวให้อร่อยด้วยวิธีง่ายๆ เอาไว้ 5 ข้อ ซึ่งสาระดีดีขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ ตามนี้เลย,,,


1) #เตรียมผักแบบโปร

การเตรียมผักสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแช่ผักในน้ำกับชามใบใหญ่ จากนั้นสะบัดผักในน้ำอย่างเบามือ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกไป แล้วนำผักเข้าตู้เย็น ซึ่งการนำผักเข้าตู้เย็นจะใส่ไว้ในชาม หรือในกล่องเก็บอาหารแทนก็ได้ วิธีการเตรียมผักแบบนี้จะทำให้ผักพร้อมนำไปปรุงอาหารต่อ และพร้อมสำหรับทานสดๆ ได้เลย


2) #เริ่มทานจากผักต้นอ่อน หรือหั่นผักเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่คู่กับซุป, แกง

ด้วยความที่ผักใบเขียวมีรสขม นั่นจึงทำให้หลายๆ คนต้องการเลี่ยงทานผัก แต่เทคนิคหนึ่งที่น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ก็คือ การเลือกทานผักต้นอ่อนที่มีขนาดเล็กและเคี้ยวง่าย เพราะผักจำพวกนี้มีรสชาติที่อ่อนละมุนกว่าผักใบเขียวทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อทานแบบสดๆ ในสลัด หรือโรยหน้าบนอาหารที่ปรุงสุกแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบทานผักใบเขียว เพราะเนื้อสัมผัส ก็ให้ลองหั่นผักให้ละเอียด แล้วใส่ลงในซุป สตูว์ แกง หรือในเมนูเผ็ดๆ แทน หรือปั่นให้ละเอียดจนกลายเป็นสมูทตี้ไปเลยก็ได้


3) #นวดผักสักหน่อย

ในการทานผักสลัดอย่างเคล เราควรนวดเคลประมาณ 1 นาทีก่อนจะนำไปทำเป็นสลัด เพราะการนวดจะช่วยให้ใบผักหนาๆ อ่อนนุ่มลง ทำให้กินง่ายขึ้น นอกจากนี้ ถ้าเรานำเกลือ น้ำมัน และส่วนผสมที่มีความเปรี้ยว เช่น น้ำเลมอน มาผสมกัน จากนั้นเทลงบนใบผัก ก็จะทำให้เกิดกระบวนการหมักขึ้นเองตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผักเปื่อยยุ่ย ซึ่งถ้าเติมการนวดเข้าไปอีก จะช่วยเร่งกระบวนการเปื่อยยุ่ยเร็วขึ้นได้มากทีเดียว โดยวิธีการหมักดังกล่าว เหมาะกับผักใบหนาที่ทานสดๆ มากที่สุด


4) #ลองลวกผักสักเล็กน้อย

หนึ่งในวิธีที่จะช่วยขจัดรสขมออกจากผักใบเขียวได้ก็คือ การนำผักไปลวก ซึ่งทำได้ง่ายๆ เพียงนำผักที่ล้างแล้ว ลงไปลวกในหม้อน้ำเดือดแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น การที่เรานำผักออกมาจากหม้ออย่างรวดเร็วและสะเด็ดน้ำออกทันที จะทำให้ผักสูญเสียสารอาหารที่อาจละลายไปกับน้ำร้อนๆ เพียงเล็กน้อย อีกทั้งวิธีการนี้ยังช่วยขจัดรสชาติของผักแปลกๆ ที่หลายๆ คนไม่ชอบได้อีกต่างหาก


5) #ตุ๋นผักก็ช่วยได้

นอกจากการลวกแล้ว การตุ๋นก็ช่วยให้ผักใบเขียวมีรสชาติที่อร่อยขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีการทำก็เพียงนำกระทะแบนๆ หน้ากว้างมาใส่ผัก แล้วเติมส่วนผสมที่มีลักษณะเป็นน้ำ เช่น น้ำซุป, กะทิ หรือซอสถั่วเหลืองโซเดียมต่ำ ลงไป พร้อมกับปรุงรสเพิ่มสักหน่อย จากนั้นปิดฝาตุ๋นไปเรื่อยๆ ด้วยไฟเบาเป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที

แต่ถึงอย่างนั้น ข้อควรใส่ใจก็มีอยู่ว่า ปริมาณน้ำก็จะต้องขึ้นอยู่กับชนิดของผักด้วย โดยหากเป็นผักใบหนา เช่น ผักกาดเขียวปลี, คะน้า ก็จะต้องใช้ส่วนผสมที่เป็นน้ำเยอะกว่า ส่วนผักใบบางที่มีน้ำในตัว เช่น ปวยเล้ง ก็ใช้น้อยกว่า ขณะที่การตุ๋นนั้น ในช่วงแรก ควรใส่น้ำครั้งละน้อยๆ ก่อน จากนั้นค่อยเติมเพิ่มเท่าที่ต้องการ


สั่งสลัดและอาหารสุขภาพพร้อมส่งได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #กินแทนข้าว
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต
#สารพิษในผักผลไม้ #นักโภชนาการ

วันหยุดแบบนี้​ ไม่อยากออกจากบ้าน
แต่อยากกินอาหารสุขภาพดี​ จากสาระดีดี
กดแอพ​ GrabFood​ กันเลยจ้า
ได้ข่าวว่า ช่วงนี้แจกโค๊ดส่วนลดกระหน่ำมากๆ

ร้านสาระดีดี​ Grab&Go​
เปิดให้บริการ​ 09.00-19.45น​ ทุกวัน
สั่งอาหารล่วงหน้า​ โทร​ 0910037781​

#สาระดีดีGrab_Go​ #สาระดีดี​
#สลัดดี​ #พิษณุโลก

กินสลัดอย่างไร​ ให้ได้ประโยชน์ที่สุ้ดดด

#ทานสลัดอย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มที่

จริงอยู่ที่สลัด 1 จาน อาจเต็มไปด้วยผักและผลไม้ที่ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่า การทานสลัดที่ถูกต้องและได้ประโยชน์อย่างเต็มที่นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่การตักผักและผลไม้มาวางไว้บนจานให้เยอะเข้าไว้เท่านั้น ทว่าต้องเลือกสิ่งต่างๆ มาวางในจานอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงการได้สารอาหารครบ 5 หมู่ด้วย ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่า การทานสลัดอย่างถูกวิธีและได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ต้องทำอย่างไร? ในโพสต์นี้ สาระดีดีมีคำตอบในเรื่องดังกล่าวมาบอกเล่ากัน


วิธีการทานสลัดให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

1) #ตรวจสอบปริมาณโปรตีนในจานสลัด

การทานสลัด ใช่ว่าในจานจะต้องมีแต่ผักและผลไม้เท่านั้น ถ้าต้องการให้ได้รับประโยชน์จากการทานสลัดแบบเต็มๆ ในจานสลัดก็ควรมีอาหารที่เป็นโปรตีนรวมอยู่ด้วย ประมาณ 1/2 ถ้วย เช่น ธัญพืชจำพวกถั่ว หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน นอกจากนี้ อาหารทะเลอย่างปลาแซลมอน, ปลาทูน่า หรือกุ้ง ก็จะเป็นโปรตีนที่สามารถเข้ามาเสริมจานสลัดได้เช่นกัน


2) #เน้นผักที่หลากหลาย

ถ้าต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนจากการทานสลัด สิ่งหนึ่งที่ควรทำก็คือ การทานผักที่หลากหลาย ไม่ควรเลือกหรือเฉพาะเจาะจงแค่กับผักใบเขียวเท่านั้น โดยในจานสลัด 1 จาน ควรมีผักอย่างน้อย 3 สี เนื่องจากจะทำให้ได้รับสารอาหารและวิตามินที่หลากหลายนั่นเอง


3) #ทานไขมันแต่พอดี

แม้สารอาหารจำพวกไขมันจะเป็นสิ่งที่หลายคนหลีกเลี่ยง แต่ไม่ว่าอย่างไร ไขมันก็ยังคงเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการอยู่ดี และในสลัด 1 จาน ก็ควรมีอาหารจำพวกไขมันรวมเข้าไปด้วย โดยเฉพาะไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ปลาจากทะเลน้ำลึก ได้แก่ แซลมอน, ทูน่า, แมคเคอเรล ฯลฯ รวมถึงน้ำมันที่ใช้เป็นน้ำสลัดอย่างน้ำมันมะกอก และผลไม้อย่างอะโวคาโดด้วย


4) #อย่างดแป้ง

มีหลายคนบอกไว้ว่า เราไม่ควรทานแป้ง เพราะจะทำให้อ้วน แต่ในความเป็นจริงแล้ว แป้งก็ยังคงเป็นสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายต้องการ และในจานสลัด 1 จาน ก็ควรมีสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าใครต้องการเลี่ยงทานแป้งจากข้าวหรือขนมปัง ขอแนะนำว่า ให้ทานแป้งที่มีอยู่ผักหรือผลไม้ อาทิ เมล็ดควีนัว, เผือก, มันเทศ, มันฝรั่ง หรือข้าวโพด เพื่อให้อิ่มท้อง และร่างกายได้พลังงานที่จำเป็นแทน

5) #เติมรสชาติให้สลัดด้วยเครื่องเทศ

สลัดไม่ใช่จานที่มีรสชาติจืดชืดอีกต่อไป เพราะเราสามารถเติมปรุงรสหรือแต่งกลิ่นได้ โดยการใส่เครื่องเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใบเบซิล, ผักชี, ใบมิ้นท์ หรือกัวคาโมเล่รสเผ็ด ซึ่งทำให้รสชาติของจานสลัดอร่อยมากขึ้น แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย เนื่องจากเครื่องเทศเหล่านี้ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และการเผาผลาญในร่างกายด้วย

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพพร้อมส่งได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #กินแทนข้าว
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

ผักผลไม้​ ดี​ มีประโยชน์

5 สุดยอด #ผักผลไม้ช่วยล้างพิษในร่างกาย

สารพิษในร่างกาย คือ สิ่งที่คนเราเผลอนำเข้าสู่ร่างกายตัวเองโดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอ ซึ่งวิธีที่สารพิษเข้าไปสู่ร่างกายของเราได้นั้น หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สุดก็มาจากวิถีการทานอาหารในปัจจุบันของเราเอง และถ้าสารพิษเหล่านี้สะสมเข้าไปในร่างกายมากๆ เข้า ก็อาจทำให้มีอาการต่างๆ เกิดขึ้น ไล่ตั้งแต่เบาไปหาหนัก ได้แก่ ปวดหัว, คลื่นไส้, อาเจียน และอาจถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล หรือลามไปถึงเสียชีวิตเลยก็เป็นได้

แต่ถึงอย่างนั้น การจัดการกับสารพิษในร่างกายก็มีวิธีอยู่ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การเลือกทานอาหารที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกายออกไป โดยอาหารที่ช่วยขจัดสารพิษให้นั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นผักหรือไม่ก็ผลไม้ที่หาทานกันได้ไม่ยาก ส่วนจะมีอะไรบ้าง? วันนี้สาระดีดีจะบอกให้ฟังกัน


1) #อะโวคาโด
นอกจากอะโวคาโดจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน เนื่องจากมีคอเลสเตอรอลต่ำแล้ว สรรพคุณของมันยังช่วยปิดกั้นสารพิษที่จะเข้ามาทำลายหลอดเลือดแดงได้อีกต่างหาก ไม่เพียงเท่านั้น สารอาหารที่มีชื่อว่ากลูต้าไธโอน ซึ่งมีอยู่ในอะโวคาโด ยังสามารถต้านทานสารก่อมะเร็งได้ถึง 30 ชนิด แถมช่วยล้างพิษตับจากสารเคมีต่างๆ ได้ด้วย


2) #แตงกวา
รู้หรือไม่ว่า แตงกวาเป็นผักที่ช่วยให้ลำไส้ลำเลียงของเสียออกมาได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ผักฉ่ำน้ำชนิดนี้ยังมีไฟเบอร์แบบไม่ละลายน้ำ ซึ่งคอยช่วยดักจับและกำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน


3) #บวบ
ในบวบอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำอยู่มาก ซึ่งก็คล้ายกับแตงกวา ที่สารอาหารชนิดนี้จะคอยช่วยดักจับและกำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น บวบยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำหนักของอุจจาระ ทำให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นให้ขับของเสียออกมาได้รวดเร็วขึ้นอีกต่างหาก


4) #มะเขือเทศ
สิ่งที่ทำให้มะเขือเทศมีสรรพคุณช่วยล้างพิษ คือ สารไลโคปีน วิตามินหลากหลายชนิด รวมถึงเบต้าแคโรทีนด้วย ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามา ช่วยขจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่ติดอยู่ผนังหลอดเลือดและกระแสเลือด แถมยังช่วยดูแลระบบการขับถ่ายให้เป็นไปอย่างปกติอีกต่างหาก นอกจากนี้ ในมะเขือเทศยังอุดมด้วยไฟเบอร์และน้ำในปริมาณมากเช่นกัน


5) #แอปเปิล
ในแอปเปิลประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีชื่อว่าเพคติน ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารชนิดที่สามารถดักจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายได้อย่างดี นอกจากนี้ แอปเปิลที่ใครหลายคนชอบทานกันยังช่วยกำจัดสารพิษ แล้วขับออกมาทางลำไส้ได้ด้วย

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพพร้อมส่งได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันเสาร์ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #กินแทนข้าว #ผลไม้
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ #บำรุงสายตา
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

สนใจ​ ชุด​เบรคพรีเมี่ยม​ ติดต่อได้นะคะ​ 🥗🍓🍎❤️

สาระดีดี​ สาระน่ารู้

รู้จัก Plant-Based Food
อาหารอนาคตจากพืชผัก

ทุกวันนี้ เทรนด์การบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการทานเมนูที่ปราศจากเนื้อสัตว์และหันมาทานพืชผักแทน กำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากทีเดียว ซึ่งนอกจากสลัด ที่ใครหลายๆ คนยกให้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งแล้ว เดี๋ยวนี้ชอยซ์การทานอาหารจากผักก็มีตัวเลือกให้ทานกันหลากหลาย และหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมาแรงในแวดวงอาหารเวลานี้ก็คือ Plant-Based Food หรืออาหารจากพืชนั่นเอง


Plant-Based Food คืออะไร? หลายคนอาจจะยังสงสัย เนื่องจากไม่คุ้นชินกับชื่อนี้เท่าไหร่นัก แต่ในช่วงหลังจากนี้ รับประกันได้เลยว่า เราจะได้ยินการเรียกชื่อนี้กันมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน Plant-Based Food ได้กำลังกลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกไปแล้ว

ทั้งนี้ Plant-Based Food สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “อาหารจากพืช” ก็ได้ เนื่องจากเป็นอาหารที่ใช้พืช ผัก ผลไม้ เห็ด และธัญพืชต่างๆ เป็นส่วนประกอบหลักอย่างน้อย 95% แล้วมีการพัฒนารสชาติ กลิ่น รวมไปถึงสีสัน เพื่อให้มีความเหมือนผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์


ขณะที่สารอาหารจาก Plant-Based Food ก็มีครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงไขมัน ซึ่งการทาน Plant-Based Food มีการวิจัยออกมาแล้วว่า จะช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งยังลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ฯลฯ ได้

อาหารจากพืช หรือ Plant-based Food จัดเป็นอาหารในกลุ่มโปรตีนทางเลือก ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ของผู้บริโภค ที่ต้องการอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยในสหรัฐฯ ผู้บริโภคประมาณ 23% มีการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคมาทานอาหารประเภท Plant-Based Food มากขึ้น ขณะที่ 1 ใน 4 ของผู้บริโภคในยุโรปก็ตั้งใจจะทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลงภายใน 5 ปีข้างหน้า ส่วนที่ไทยก็มีรายงานว่า 53% ของผู้บริโภคต้องการลดการทานเนื้อสัตว์ และอีก 45% สนใจปรับเปลี่ยนไปทานแบบมังสวิรัติ วีแกน และอาหารจากพืชด้วย


นอกจากเหตุผลด้านสุขภาพแล้ว เรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจ Plant-Based Food เช่นเดียวกัน เนื่องจากการผลิตและทานอาหารจากพืชจะมีส่วนช่วยลดโลกร้อน แถมยังเป็นการให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิภาพสัตว์อีกต่างหาก

สำหรับประเภทของ อาหารจากพืช หรือ Plant-Based Food นั้น ปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 8 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่


1) เนื้อวัวจากพืช (Plant-Based Beef) เป็นเนื้อวัวที่ทำจากพืช มีการเลียนแบบเนื้อสัมผัส เพิ่มไฟเบอร์และคุณค่าทางอาหารให้เหมือนกับการกินเนื้อวัวจริงๆ จนสามารถนําไปปรุงอาหารได้หลากหลาย เช่น เบอร์เกอร์ สเต็ก ไส้กรอกผัดกะเพรา ฯลฯ

2) เนื้อหมูจากพืช (Plant-Based Pork) ใช้โมเลกุลพืชทดแทนเนื้อหมู สามารถนําไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาหารจีนและไทย ซึ่งใช้หมูเป็นวัตถุดิบ


3) เนื้อไก่จากพืช (Plant-Based Chicken) ทำจากโปรตีนของพืช มีรสสัมผัสเหมือนกับเนื้อไก่จริงๆ แถมยังมีไขมันต่ำแต่โปรตีนสูง ไม่แตกต่างจากเนื้อไก่ด้วย

4) อาหารทะเลจากพืช (Plant-Based Seafood) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนรักซีฟู้ด แต่ไม่อยากกินเนื้อ ปัจจุบันมีทั้งทูน่าและกุ้งจากพืช ซึ่งทําจากสาหร่าย ให้โปรตีนสูง มีไขมันต่ำ แถมยังมีโอเมก้า 3 และปราศจากคลอเลสเตอรอลอีกต่างหาก


5) ไข่จากพืช (Plant-Based Egg) ทำจากโปรตีนถั่วเหลืองที่ผ่านกระบวนการทำให้เหมือนไข่ แล้วบรรจุมาในรูปแบบซองหรือขวด สามารถนําไปทำออมเล็ต เฟรนช์โทสต์ วาฟเฟิล หรือข้าวผัดก็ได้

6) ผลิตภัณฑ์นมจากพืช (Plant-Based Dairy) นอกจากนมจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมเฮเซลนัทแล้ว ในตอนนี้ยังมีทั้งที่เป็นไอศกรีม โยเกิร์ต เนย วิปปิ้งครีม รวมถึงชีสจากพืช (Plant-Based Cheese) ด้วย


7) น้ำสลัดจากพืช (Plant-Based Dressing) ที่เป็นที่นิยมที่สุด คือ มายองเนสที่ปราศจากไข่ โดยแม้เนื้อครีมจะเข้มข้นได้รสชาติเหมือนมายองเนสจริงๆ แต่ในส่วนประกอบกลับไม่มีไข่แดงเลย แถมไร้สารกลูเตน (Gluten-Free) อีก ทำให้นําไปเป็นน้ำสลัดได้อย่างไร้ปัญหา

8) เครื่องปรุงรสจากพืช (Plant-Based Seasoning) เครื่องปรุงจากพืชนั้น ปัจจุบันออกมาในรูปแบบของผงปรุงรสเบค่อน ผงปรุงรสชีส ผงปรุงรสบาร์บีคิว ที่ผลิตจากพืช

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพพร้อมส่งได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันเสาร์ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #กินแทนข้าว

#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

🥗🥗

ความเหมือนที่แตกต่างระหว่าง
การทาน Plant-Based Food, เจ และมังสวิรัติ

ในโพสต์ก่อนหน้านี้ สาระดีดีได้บอกกล่าวไปแล้วว่า Plant-Based Food หรืออาหารจากพืชนั้น เป็นอาหารที่ทำจากพืชเป็นหลักถึง 95% เพราะส่วนใหญ่ทำมาจากผัก ผลไม้ เห็ด และธัญพืชต่างๆ ทำให้มีบางคนอาจตั้งคำถามขึ้นมาว่า แล้วการทาน Plant-Based Food นั้น เปรียบได้กับการทานเจหรือมังสวิรัติหรือไม่? ถ้าไม่ แล้วความแตกต่างของสิ่งเหล่านี้อยู่ตรงไหน?


เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว สาระดีดีขออนุญาตบอกเล่าให้ฟังกันต่อว่า เนื่องจาก Plant-Based Food เป็นเนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืชผัก ดังนั้น คนที่ทานเจ มังสวิรัติ หรือแม้แต่วีแกน ก็สามารถเอร็ดอร่อยกับการทาน Plant-Based Food ได้ เพียงแต่คนที่เลือกทาน Plant-Based Food อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ทานเจหรือมังสวิรัติก็ได้

การทาน Plant-Based Food ไม่มีประเด็นเกี่ยวกับศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีกฏเหล็กอย่างการงดอาหารรสจัด งดไข่ นม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์ งดผักกลิ่นฉุน หรือต้องมีการถือศีลร่วมไปด้วยแบบคนที่ทานเจ ขณะเดียวกัน ก็ไม่เคร่งครัดเรื่องการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ และผลผลิตจากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านศาสนา สิ่งแวดล้อม หรือสุขภาพ เหมือนกับมังสวิรัติหรือวีแกน


วิถีการทาน Plant-Based Food นั้น นับว่ามีความยืดหยุ่นกว่าการทานเจหรือมังสวิรัติพอสมควร เพราะแม้จะโฟกัสไปที่การเลี่ยงทานเนื้อสัตว์เหมือนกัน แต่ก็สามารถเลือกได้ว่า จะทานผลผลิตจากสัตว์หรือไม่

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ การทาน Plant-Based Food เน้นไปที่กลุ่มคนที่ต้องการทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และถั่วต่างๆ เป็นหลัก แต่มีความยืดหยุ่นตรงที่ไม่ได้ห้ามทานเนื้อสัตว์เด็ดขาด เพียงแต่เลือกรับประทานให้น้อยลงเท่านั้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นทานเนื้ออาหารแบบเลี่ยงเนื้อสัตว์นั่นเอง

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพพร้อมส่งได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันเสาร์ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #เจ
#มังสวิรัส
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

🥗🥰🥰❤️

เลือกกินได้น้าา​ 💚💚

#ประโยชน์ของการทานไก่ (ในช่วงหมูแพง)
ในวันที่ราคาหมูแพงหูฉี่ จนทะยานพุ่งขึ้นไปแตะหลัก 200 บาทต่อกิโลกรัม แน่นอนว่า เราหลายๆ คนคงพยายามมองหาตัวเลือกในส่วนของเนื้อสัตว์ที่จะมาแทนที่ของหมูกันอยู่ ซึ่งหนึ่งในช๊อยส์ที่หลายคนเลือกใช้เอามาเป็นวัตถุดิบแทนกันในเวลานี้ก็คือ “ไก่” นั่นเอง


“ไก่” เป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารต่างๆ ได้หลากหลาย และสามารถนำไปปรับให้เข้ากับเมนูมากมายได้อย่างไม่เคอะเขิน นอกจากนี้ ไก่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่เพียงเป็นเฉพาะแหล่งโปรตีนที่บางคนก็อาจรู้กันอยู่แล้วเท่านั้น

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า นอกจากโปรตีนแล้ว ไก่ยังมีประโยชน์อะไรบ้าง ในโพสต์นี้ สาระดีดีจะมาบอกเล่าเรื่องดังกล่าวให้ได้ฟังกัน เพื่อที่คุณจะไม่เสียใจในภายหลัง ที่ใช้ไก่มาแทนที่หมูในช่วงเวลานี้


ประโยชน์ของการทานไก่

1) ดีต่อสุขภาพจิต
เพราะเนื้อไก่อุดมไปวิตามิน บี ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นในการรักษาสุขภาพจิต การทานเนื้อไก่เป็นประจำจะช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลต่างๆ แถมยังป้องกันโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย

2) ป้องกันโรคโลหิตจาง
โรคโลหิตจางสามารถรักษาหายได้ด้วยการทานธาตุเหล็ก ซึ่งมีอยู่มากในตับไก่ นอกจากนี้ วิตามินหลายชนิด ได้แก่ เอ, อี และเค ซึ่งช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงนั้น ก็ยังพบมากในตับไก่ด้วยเช่นเดียวกัน


3) บำรุงสายตา
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การทานไก่สามารถช่วยบำรุงสายตาได้ เนื่องจากมีเรตินอล, ไลโคปีน, อัลฟา, เบต้าแคโรทีน รวมถึงสารอาหารจำเป็นอื่นๆ ในการช่วยดูแลสุขภาพโดยรวมของดวงตานั่นเอง

4) ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
เพราะเนื้อไก่เป็นแหล่งของโปรตีน ทำให้การทานเนื้อไก่เป็นประจำสามารถช่วยเสริมสร้างและก็ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ นอกจากนี้ ยังบำรุงผิว, เส้นผม, เล็บ และกระดูกได้ดีอีกต่างหาก


5) ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด
การทานเนื้อไก่ให้เพียงพอนั้น สามารถช่วยบรรเทาโรคความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลได้ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ ล้วนเป็นสาเหตุของปัญหาโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายทั้งสิ้น

6) ปรับสมดุลฮอร์โมน
รู้หรือไม่ว่า การทานไก่สามารถสร้างความสมดุลของฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายได้ ซึ่งทำให้คนเราไม่เครียดมากจนเกินไป โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาของการที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลไม่สมดุล ก็มาจากการทำงานที่เหมาะสมของต่อมหมวกไตนั่นเอง

7) เสริมสุขภาพของช่องปาก
หลายคนอาจไม่รู้ว่า ไก่เป็นแหล่งอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง ซึ่งนั่นส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก ทำให้ฟันและเหงือกแข็งแรง


8) เหมาะต่อการลดน้ำหนัก
ไก่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลดน้ำหนัก เพราะเป็นแหล่งรวมของโปรตีนและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ ยังมีปริมาณไขมันต่ำ ซึ่งช่วยให้น้ำหนักของเราลดลง

เมื่อไล่เรียงดูคุณประโยชน์จากไก่แล้ว จะเห็นได้ว่า เราพบสารอาหารมากมายอยู่ในนั้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการทานเมนูไก่ได้อย่างหลากหลาย จึงไม่น่าแปลกเลยที่จะมีการนำไก่ไปประกอบของอาหารต่างๆ ที่เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย ตั้งแต่ทารก จนถึงคนสูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันเสาร์)
เวลาให้บริการ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #กินไก่ #หมูแพง
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

แจ้งวันหยุด​ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
หยุด​ 31-1-2 เปิด​ 3มกราคม​2565
นะคะ​🎀🎉🎀🎉

ปักหมุดความอร่อยกับร้าน สาระดีดี​ SALAD:D​GRAB​ & GO​
ที่ได้รับการการันตีจาก Grab ให้เป็น ‘ร้านอร่อยยกนิ้ว’ 👍🏻
แจกส่วนลดพิเศษ! ชวนเดินทางมาพิสูจน์ความอร่อยที่ต้องยกนิ้วให้กันถึงที่ เดินทางไป-กลับร้านเรา กดเรียก JustGrab รับตรงจุด ส่งถึงที่หมาย ราคาสบายใจและสบายกระเป๋าไปกับส่วนลดสุดคุ้ม!!🔥🔥🔥

📍โค้ดส่วนลดนั่ง JustGrab ลด 50%
ใส่รหัส ‘JUSTGRAB50’ | ลดสูงสุด 50 บาท
ใช้ได้ 20 ครั้ง/ผู้ใช้
ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2565

🚗 มาร้านสาระดีดี​ SALAD:D.Grab&Go กดเรียก JustGrabเลย!
https://grb.to/BookJG

🍚🍚🥗

#อาหารทางเลือกใช้ทานแทนข้าว
เพราะชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีทางเลือก ปัจจุบัน ความใส่ใจในการเลือกทานอาหารของผู้คนมีมากขึ้น หลายคนตัดสินใจเลือกที่จะลด ละ เลิกจากการทานอาหารขยะ แล้วเลือกทานอาหารสุขภาพที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองแทน ด้วยเหตุนี้ อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพจึงเกิดขึ้นมาในท้องตลาดมากมาย ซึ่งบางคนก็นิยมทานเป็นประจำ จนกลายเป็นอาหารหลักที่ทานแทนข้าวไปแล้วด้วย

อย่างไรก็ดี หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกทานอะไรดี ในโพสท์นี้ สาระดีดีมีอาหารทางเลือกที่เหมาะจะทานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเปี่ยมไปด้วยประโยชน์มากมายมาฝากกัน


1) คูสคูส

คูสคูส (Couscous) เป็นอาหารแอฟริกาเหนือชนิดหนึ่ง ที่ได้จากการนำแป้งข้าวสาลีบดหยาบเป็นเม็ดเล็กๆ มาผ่านความร้อนด้วยกรรมวิธีต่างๆ ในคูสคูสนั้น เต็มไปด้วยสารต้านคอเลสเตอรอลจำนวนมาก แถมยังอุดมไฟเบอร์ ที่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น ทำให้ถูกนับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพนั่นเอง

โดยทั่วไปแล้ว คูสคูสจะใช้เสิร์ฟเคียงในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมเนื้อสัตว์หมักเครื่องเทศ ชีสนมแพะ และผักต่างๆ นอกจากนี้ ด้วยความที่คูสคูสมีเนื้อแน่นหนุบ จึงเหมาะสำหรับทำสตูหรือใช้ผสมเป็นไส้ในออร์เดิร์ฟเช่นเดียวกัน


2) โฟนิโอ

โฟนิโอ (Fonio) เป็นธัญพืชโบราณจากแอฟริกา อยู่ในตระกูลเดียวกับข้าวฟ่าง ขึ้นชื่อเรื่องความละมุนและมีรสชาติคล้ายถั่ว ซึ่งอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก สังกะสี และแม็กนีเซียม อีกทั้งยังให้กรดอะมิโนจำเป็นอย่างเมทไธโอนีน (Methionine) และซีสเทอีน (Cysteine) ซึ่งช่วยในการกระตุ้นความยืดหยุ่นของผิวหนัง ดีต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เล็บ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อร่างกายส่วนที่สึกหรอด้วย

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization) เปิดเผยว่า โฟนิโอจัดว่าเป็นธัญพืชที่ให้แคลเซียมสูงที่สุด ดังนั้น สำหรับผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมวัวเนื่องจากมีอาการแพ้ การทานโฟนิโอจึงนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว


3) บัลเกอร์วีท

บัลเกอร์วีท (Bulgur Wheat) เป็นที่รู้จักกันในชื่อของข้าวสาลีแยก ซึ่งอุดมไปด้วยแป้งเช่นเดียวกับคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณค่าทางชีวภาพสูง นิยมทานกันมากในตะวันออกกลางและแอฟริกา

การทานบัลเกอร์วีทนั้น ดีสำหรับการย่อยอาหาร โดยเฉพาะกับผู้ที่มีความผิดปกติหรือมีปัญหากระเพาะอาหารเกี่ยวกับเรื่องการย่อย ขณะเดียวกัน ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน เนื่องจากมีปริมาณไขมันที่ต่ำนั่นเอง


4) ข้าวบาร์เลย์

ข้าวบาร์เลย์เป็นธัญพืชเก่าแก่ ที่ได้รับความนิยมและเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตได้ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวาน และยังช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารด้วย นอกจากนี้ ข้าวบาร์เลย์ยังทำให้อิ่มง่าย มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกต่างหาก


5) ข้าวโอ๊ต

ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่นิยมทานกันมาก เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและโปรตีน อีกทั้งยังมีสารอาหารสำคัญอื่นๆ เช่น แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, ซีลีเนียม, วิตามิน อี และวิตามิน บี 1 เป็นต้น ซึ่งเชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพและอาจช่วยลดความเสี่ยงและรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เช่น โรคความดันโลหิตสูง, คอเลสเตอรอลสูง, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ ฯลฯ

ในปัจจุบัน ข้าวโอ๊ตเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ทานคลีน ส่วนข้าวโอ๊ตที่มีขายตามท้องตลาดนั้น จะเป็นข้าวโอ๊ตที่ผ่านกรรมวิธีอบสุก ทำให้ทานง่ายขึ้น เหมาะเป็นมื้อเช้า เนื่องจากช่วยให้ท้องอิ่มนาน


6) ดอกกะหล่ำ

ดอกกะหล่ำไม่ได้เอาไว้ใช้เป็นเพียงผักเคียงของสเต๊กเพียงอย่างเดียว แต่มันยังสามารถนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วดัดแปลงทานแทนข้าวได้ด้วย โดยดอกกะหล่ำมีสรรพคุณต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยส่งเสริมระบบการย่อยให้มีประสิทธิภาพ, ป้องกันมะเร็ง, ช่วยในเรื่องความจำ, บำรุงกระดูก, สร้างความสมดุลให้กับฮอร์โมน, เพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกัน, ดีต่อลำไส้ แถมยังอุดมด้วยวิตามินและสารอาหาร อาทิ โฟเลต, วิตามิน ซี, โพแทสเซียม, วิตามิน เอ, ไทอามีน, ไรโบฟลาวิน, ไนอาซิน, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส อีกต่างหาก

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการ : 09.00 - 20.00 น.
#สาระดีดี #สลัด #กินแทนข้าว
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #ทางเลือกสุขภาพ
#กินผักเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

🥗🍚

เมนูใหม่ไฉไลกว่าเดิม

ใครชื่นชอบการทานปลา​ ห้ามพลาดเมนูนี้โดยเด็ดขาดน้าาา

ชุดข้าวหน้าปลากะพงย่างสมุนไพร

ทั้ง​2สาขา
สาระดีดี​ SALAD​:D สาขา​ ม.นเรศวร
สาระดีดี​ SALAD​:D​ ​สาขา​ Grab​&Go

#จานสาระ​ #ชุดข้าวสุขภาพดี​ #สาระดีดี
#สลัดดี​ #พิษณุโลก

อาหารดี​ มีประโยชน์

“ตา” ดีได้ ด้วยอาหารบำรุงตา
ในยุคสังคมก้มหน้า ที่หลายคนใช้เวลามองมือถือ, แท็ปเล็ต หรือแล็ปท็อป เป็นเวลานาน เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จะส่งผลเสียต่อสายตาแน่ๆ ซึ่งหากมีการจ้องมองอุปกรณ์เหล่านี้นานๆ โดยไม่มีการพักสายตาเลย อาการจำพวกสายตาล้า ปวดตา ตาแห้ง ตามัว หรือสายตาสั้น ก็อาจมาเยือนอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวได้

ทั้งนี้ นอกจากการเงยหน้าขึ้นมาพักสายตาจะเป็นเรื่องที่สำคัญแล้ว การกินอาหารที่ช่วยสร้างบำรุงสายตา ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะทำเช่นเดียวกัน ซึ่งอาหารที่เหมาะต่อการบำรุงสายตา ได้แก่


1) ผักและผลไม้
ผักและผลไม้หลากหลายสี เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งช่วยบำรุงสายตา และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อาทิ

> วิตามิน เอ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยปกป้องกระจกตา ช่วยการมองเห็นในที่มืด หารับประทานทานได้จากผัก ผลไม้ สีเหลือง ส้ม เขียว ซึ่งมีสารแคโรทีนอยด์ ที่เป็นสารตั้งต้นในการสร้างวิตามินเอ เช่น ตำลึง, ฟักทอง, ข้าวโพด, แครอท, ผักโขม ฯลฯ ส่วนในผลไม้จะพบในมะละกอ, แคนตาลูป และมะม่วงสุก

> วิตามินซี ที่เป็นสารที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ และป้องกันการเกิดต้อ สามารถหารับประทานได้จากผักและผลไม้ต่างๆ เช่น คะน้า, ผักโขม, กะหล่ำปลี, บล็อคโคลี, หน่อไม้ฝรั่ง, พริก, ผลไม้ตระกูลส้ม, ตระกูลเบอรี่, ฝรั่ง และกีวี่ เป็นต้น

> ลูทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในข้าวโพด, ผักโขม และอะโวคาโด

> ไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะเขือเทศ, ฟักข้าว

> แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบในผักและผลไม้สีม่วง ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอรี่, ทับทิม, กะหล่ำปลีม่วง, มะเขือม่วง


2) ปลา
กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนในการทำงานของสายตาให้มีประสิทธิภาพ จะพบได้ในปลาทะเลและปลาน้ำจืด ซึ่งปลาเหล่านี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ แอสตาแซนทีน ที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของตาได้ด้วย

3) ไข่
ในไข่แดงอุดมไปด้วยลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยป้องกันการเสื่อมประสิทธิภาพของตาได้

“สาระดีดี” อยากให้คุณกินเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

:::

สั่งสลัดและอาหารสุขภาพได้ที่
Line :
โทร : 088-177-7331
แผนที่ : https://goo.gl/maps/yoYyqJFNMNxW9Qha6
เปิดให้บริการ : 09.00 - 20.00 น.

#สาระดีดี #สลัด #บำรุงตา
#ภูมิคุ้มกัน #ผัก #อาหารเพื่อสุขภาพ
#กินเพื่อสุขภาพตลอดชีวิต

ขออนุญาตแจ้ง​
วันนี้​ร้านสาระดีดี​
หยุดให้บริการ​ 1วัน​ค่ะ ทั้ง​2สาขานะคะ

ฝนตกพร่ำๆ​ อากาศดีดี๊
สั่งสลัดจากสาระดีดี​ ไป​ กินที่บ้านกันเถอะ​ 🥗🥗
#ซีซาร์สลัดอกไก่ซูวี_65c`
#สลัดออแกนิค​ #อาหารเพื่อสุขภาพ​
#อาหารคลีน​
#พิษณุโลก
เรามีบริการผ่าน​GrabFood​น้าาา

วันนี้ร้านหยุด

1​วัน​ นะคะ

ฝากเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ​ ☘️🤍🥗

#สาระดีดี​
#สลัด​
#พิษณุโลก​
#ผักอินทรีย์

ผักสวนครัว​ ปลอดสารเคมี​ หลากหลายชนิด​
มาแน่นๆตู้เย็น​ เลยจ้า​ มาเลือกชมเลือกซื้อกันได้แล้วนะค้า
ที่​ สาระดีดี​ SALAD​D​ สาขา​สีหราชบ้านคลอง​
มาร่วมอุดหนุน​ เพื่อเป็นกำบังใจให้กับเกษตรผู้ตั้งใจปลูกผักแบบไม่ใช้สารเคมี​ ให้มีรายได้กันค้า

สุขภาพที่ดีเริ่มการการกิน
🤍🤍🥗🥗🤍🤍

อโวคาโด้จ้าา​
จะสั่งใน​ Grabก็ได้. จะสั่งกับเราก็ดีจ้า

สดชื่นๆ​ กับน้ำส้มคั้น​ Orenji 🍊🍊

เมนูแนะนำ​

ยำทูน่าตะไคร้

: ทูน่าสเต๊ก​ คลุกเคล้ากับ​น้ำยำสูตรพิเศษ​ และเครื่องเคียงสมุนไพรนานา​ ทานกับผักสลัดปลูกดิน​ แซ่บ​ ซี๊ด แบบมีสาระแน่นอนค่า

ข้าวสีม่วง​ (ข้าวไรซเบอร์รี่)​ มีประโยชน์มากมาย

มาดูคุณประโยชน์ที่เราจะได้รับกันเลย

° มีโอเมกา​ 3​ ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง

° ลดคอลเลสเตอรอลและไตรกีเซอไรด์ในหลอดเลือด

° กระตุ้นการทำงานสร้างคอลลาเจน​

° ลดอัตราเสี่ยงของโรคที่จะเกิดจากหลอดเลือดสมองและหัวใจ

° ป้องกันโรคเหน็บชา

° มีกากใยอาหาร​

° มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

ประโยชน์เยอะขนาดนี้​ หันมาเลือกทานเมนูสุขภาพดีกันเถอะ

**ข้าวไก่อบ​ ทานคู่กับ​ ซอสโชยุญี่ปุ่นงาคั่ว**

ร้านสาระดีดี​ สาขา​ สีหราช​ (บ้านคลอง)
เปิดให้บริการทุกวัน​ 11.00 -​ 21.00 น.
โทรสั่งอาหารล่วงหน้า​ 0910037781​

ให้บริการผ่าน​ Grabfood​ Delivery​ ด้วยนะคะ

กินผักหลากสี​ มีประโยชน์​ 🥗🍀☘️🍎🍅🍋🍊🥭

ช่วยเพิ่มความต้านทานโรคหวัดเจ็บคอ ภูมิแพ้
ใช้ผลิตคอลลาเจน​ ช่วยให้เซลล์เกาะกันทำให้ผิวพรรณเต่งตึงสดใส ช่วยเม็ดเลือดแดงต่อสู้กับเชื้อโรค เป็นแผลหายเร็ว​ ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมของร่างกายเป็นไปด้วยดีน้า

มีประโยชน์มากขนาดนี้​ มากินผักกันเถอะ​☘️🥗🍀

ร้านสาระดีดี​ SALAD​ D
เปิดให้บริการ​ 11.00 -​21.00น.
สั่ง​อาหารล่วงหน้า​ 📞 โทร.091 0037781​📞

เรายังมีบริการที่สะดวกสบายสำหรับ​ ชั่วโมงเร่งด่วน
ให้บริการ​แบบ​ Dive​ thur 🚗
ให้บริการผ่าน​ Grabfood​ Delivery​ 🛵

ร้านสาระดีดี​ สาขา​ สีหราช​
เปิดให้บริการทุกวันนะคะ​
โทร​สั่งอาหาร​ล่วงหน้า​ 0910037781
มีบริการ​ Drive Thru ให้ด้วยนะคะ
มีบริการผ่าน​ Grab​ Food​Delivery​ ด้วยนะคะ
ค้นหา​ ชื่อ​ ร้านสาระดีดี​ Grab​&Go​ ได้เลยค่ะ

สลัดหมด​ คือ​ ไม่มีผัก...

สลัดรัก​ คือ​ ไม่มีเธอ​นะ​...

❤️🍀🥗☘️

สลัดผัก​ อ่ะทำง่าย​ แต่ถ้าจะสลัดเธออกจากใจ​ อ่ะ​ ทำยากจริงน้าาาา

❤️🥗❤️☘️🍀

#ร้านสลัดพิษณุโลก​ #สาระดีดี​ #สลัด

มื้อเย็น​ สั่งกับพี่​Grab​.​ ก็ได้นะค้าาา​❤️

มื้อเย็นนี้​ กินอะไรดีน้าา

#สปาเกตตี้ต้มยำกุ้ง

จะเที่ยงแล้ว​ เรามีเมนูเบาๆสบายพุงมาอวดกันจ้า
เป็น​เมนู สลัดสาระดีดี​ (สลัดมิกซ์)​ และ
เมนูข้าวปลาซาบะย่าง​
ทานคู่กับซอสเทริยากิ​ หอมๆ​

โทรสั่งล่วงหน้าก็ได้นะคะ​ 091 0037781
หรือๆๆ​ ถ้าไม่สะดวกออกมา​ กดสั่งในGrab​Food​Delivery.​ ค้นหา​ สาระดีดี​ grab&go
กันได้เลยจ้า​ ❤️🥗🤍

มาแจกความสดชื่นจ้า​🍊🍊🍊
เริ่มวันนี้​ ถึงวันศุกร์นะค้า​ ❤️❤️🥗🥗

เพียงสั่งอาหาร​ ครบ​ 100บาทขึ้นไป​ รับน้ำส้มคั้น​ 1ขวด​ ฟรีๆ​ เลยจ้า​ เลยจ้า

จะทานที่ร้านก็ได้​
จะสั่งกลับบ้านก็ได้
จะสั่งผ่าน​ Grab​ Food​ Delivery​ก็ได้เช่นกันจ้า

**ยกเว้น​ โปรโมชั้นที่ร่วมรายการใน​Grab​**

ร้านเปิดปกตินะคะ
9.00 -​ 21.00น.
อยู่บ้านพักผ่อน​ แฮปปี้ๆ​ กับอาหารมื้อสุขภาพดี​ กับเราได้เลยจ้า​ ❤️🥗❤️

ปล.สั่ง​ Grab​ Food​ Delivery​ ก็ได้จ้า

เมนูโปรดของใครหลายคน​ 🥗❤️🥗
สลัดผัก​ แซลม่อนย่าง

📌📌โปรแรงๆ​ จาก​ สาระดีดี​ SALAD​ D​​
📍📍(เฉพาะที่สาขา​ สีหราช)​ จ้าา
เริ่มวันที่​ 9 พ.ย.​ -​ 29​ พ.ย.​ 63​ นี้​ นะค้าา

มีน้ำสลัดสีสัน​สวยงาม มาฝากกันค่ะ
ถูกอก ถูกใจ​ รสชาติใหนกันบ้างคะ
🥗🥕🍅🥗❤️

ถ้าชอบความรวดเร็ว​ สะดวก​ ง่ายๆ
เมนูนี้เหมาะมากจ้า
จับ​ จิ้ม​ ง่ำๆ​
อร่อย​ สะดวก​ สุขภาพดี

#สลัดโรลปูอัด​ จิ้มน้ำสลัดครีมซีฟู้ด​โฮมเมด สูตรพิเศษของทางร้าน​ แซ่บ​ ซี้ด​ แน่นอนจ้า