Mr.Kongsak
ตำแหน่งใกล้เคียง วณิชย์
Phitsanulok 65000
Phitsanulok 65000
พิดโลก, Phitsanulok
999, Muang Phitsanulok
65000
Amphoe Mueang Phitsanulok 65000
พิษณุโลก, Phitsanulok
65000
อำเภอเมือง, Phitsanulok
"มุมมองชีวิค กับการใชีชีวิตให้มีสุข"
Paow
สำหรับท่าน ที่กำลังเริ่มเลี้ยง หรือเร่ิมๆไปแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์. (เคดิต. เค กล้ามแดง). การเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดถึง1นิ้ว เลี้ยงอย่างไรให้รอด....
เริ่มจากหากุ้งก้ามแดงตัวผู้ตัวเมียที่คัดพันธุ์เพื่อจะเป็นพ่อแม่พันธุ์
ไซส์ประมาณ 5-6นิ้ว(ไม่รวมก้าม)
อายุประมาณ 6-8เดือน น้ำหนักประมาณ 50-70กรัม
เลี้ยงตัวเมียให้ลอกคราบก่อน เมื่อลอกคราบแล้ว
ให้กินอาหารโปรตีนสัตว์ให้เต็มที่(เทอร์โบโปรตีนสูตร3)
ประมาณ20-25วัน แล้วนำมาผสมกับตัวผู้
(ตัวผู้เลี้ยงให้เป็นพ่อพันธุ์ จะลอกคราบหรือไม่ลอกคราบก็ได้
เมื่อนำกุ้งพ่อแม่มาผสมจะออกไข่ประมาณ2-3ชั่วโมง
อยู่ที่ความแข็งแรงของแม่กุ้งที่จะขับไข่เร็วหรือช้า
แม่กุ้งจะตั้งไข่และออกเป็นตัวลงเดินประมาณ30-35วัน
ลูกกุ้งแรกเกิดจะลงเดินเป็นตัวและเลี้ยงต่อไป 6-8เดือน
ก็จะเป็นกุ้งไซส์ผสมพันธุ์ เมื่อตั้งไข่แล้วก็จะเป็นพ่อแม่พันธุ์ต่อไป
(ในภาพนำแม่กุ้งไข่มาใส่ในตู้เพื่อการถ่ายรูปโชว์ ไม่ได้เลี้ยงในตู้)
ลูกกุ้งแรกเกิด ลงเดินต้องเลี้ยงในสถานที่ที่ใหญ่พอควร
เลี้ยงในอ่างดำ อ่างปูน กะบะสี่เหลี่ยม ขนาด 1x1เมตร 1x1.5เมตร
ก็ได้ ต่อแม่กุ้ง1ตัว ใส่น้ำ 20cm มีอ๊อคซิเจน+หัวทรายก็ได้
การเตรียมน้ำที่จะเลี้ยงนำน้ำใหม่ใส่สูงประมาณ15cm
แล้วนำน้ำจากบ่อที่เลี้ยงแม่กุ้งมาใส่ต่อให้น้ำในอ่างหรือบ่อสูง20cm
(น้ำที่เลี้ยงแม่กุ้งนำมาใส่ด้วยเพราะน้ำจะมีแบคทีเรียในการเลี้ยงด้วย)
ผู้ที่ซื้อลูกกุ้งแรกเกิดไปเลี้ยง ต้องเตรียมน้ำไว้ก่อน2-3วัน ใส่อ๊อคซิเจน+
หัวทราย ใส่เกลือ1กำมือ เปิดอ๊อคซิเจนให้แรงๆ ถ้าที่บ้านเลี้ยงปลา
นำน้ำที่เลี้ยงปลามาใส่3-4ขัน และเอาปลาหางนกยูงมาเลี้ยงให้ขี้ด้วยก็ได้
ก็จะเกิดแบคทีเรียในการเลี้ยงลูกกุ้ง
ถ้าที่บ้านไม่ได้เลี้ยงปลา เตรียมน้ำแล้วหาปลาหางนกยูงมาเลี้ยง2-3วัน
เมื่อเลี้ยงปลา ปลาก็จะขี้ น้ำก็จะมีแบคทีเรีย ก็เลี้ยงลูกกุ้งได้
เมื่อซื้อลูกกุ้งแรกเกิดมาเลี้ยง ก็เอาปลาหางนกยูงย้ายไปเลี้ยงที่บ่ออื่น
หรือถ้าเตรียมน้ำไว้แล้ว เมื่อไปซื้อลูกกุ้งแรกเกิดที่ผู้เพาะเลี้ยง
ก็ขอน้ำที่เลี้ยงกุ้งมาด้วย ก็จะดี ถ้าเอาใส่รถมาได้....
ก็เอาน้ำเลี้ยงมาผสมน้ำใหม่ได้เลย....
สถานที่เลี้ยงถ้าเลี้ยงในบ้าน ข้างบ้าน หน้าบ้าน
การเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดควรหาฟิวเจอร์บอร์ด ผ้าใบหรืออะไรที่ปิดบ่อได้
นำมาปิดด้วยจะดี จะป้องกันอากาศ ลม ที่จะทำให้อุณหภูมิไม่แกว่ง
และป้องกันสารเคมีต่างๆที่จะลงไปในบ่อเลี้ยงลูกกุ้งด้วย
แต่ถ้าสถานที่เลี้ยงเป็นโรงเรือนก็หาผ้าใบมาปิดทุกด้านก็จะดี
ที่ศูนย์เรียนรู้กุ้งก้ามแดง Yabby House ปิดกระจกทั้งหมด
ขั้นตอนแรกสำหรับการเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดถ้าไปซื้อมาเลี้ยง
การเตรียมน้ำสำหรับการเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ส่วนผู้ที่เพาะเลี้ยง เพาะได้ลูกกุ้งอยู่แล้ว ก็อ่านข้อมูลการเลี้ยงต่อไป
ขั้นตอนที่2 การให้อาหาร
ขั้นตอนที่3 การเปลี่ยนถ่ายน้ำ
ขั้นตอนที่4 การลอกคราบ
ขั้นตอนที่5 การคัดแยกไซส์
เดี๋ยวมาเขียนต่อ ........
การลงทุนในการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงเลี้ยงแบบบ้านๆ
เริ่มที่บ่อเลี้ยง บ่อพลาสติก 1x1.5 บ่อผ้าใบ 2x2เมตร
สระบ่อเด็ก 6ฟุต อ่างปูน 90x110x40cm แล้วแต่จะหามาเลี้ยง
หรือสร้างบ่อปูนขึ้นมา แนะนำ 2x2เมตรสัก 4บ่อ
หรือถ้ามีบ่อปูนอยู่แล้ว ก็ดี
ราคาบ่อต่างๆ ก็สอบถามราคากันเองนะคับ
ปั้มลม 2 ทาง 5-6วัตต์ ตัวละ 250-400.-
ปั้มลมสัก 1 ตัว 45วัตต์ สำหรับ4-10บ่อ ราคาก็อยู่ประมาณ 650-850.-
แล้วแต่ร้าน สายอ๊อคซิเจน หัวทราย ตัวเปิดปิดลม ตัวแยกสามทาง สี่ทาง
เขียนต่อ....
การเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดงจำนวนมาก ต้องมีขั้นมีตอน ไม่ง่ายอย่างที่คิด
ร้านที่ทำอาหารให้นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ต่อเดือนต้องมีกุ้ง 2ไซส์
ไซส์ 20ตัวต่อกิโล(4-5นิ้วอายุ7-8เดือน)
ไซส์10ตัวต่อกิโล (6-7นิ้วอายุ10-12เดือน)
แต่ส่วนใหญ่จะทำแค่ไซส์ 20ตัวต่อกิโล เพราะเวลาการเพาะเลี้ยงสั้นกว่า
1ร้านทำอาหารต่อเดือนจะใช้กุ้งประมาณ 50-100กิโล
ต้องเป็นกุ้งตัวเป็นๆเท่านั้น
ถ้า100กิโลx20ตัว=2,000ตัว/เดือน
จะต้องเลี้ยงอย่างไรให้มีกุ้ง2,000ตัว ไซส์ 4-5นิ้ว นำหนัก 50กรัม
จะต้องมีสถานที่เลี้ยงกี่บ่อ
และต้องมีลูกกุ้งสำหรับการเลี้ยงไซส์ 1-1.5นิ้ว จำนวนเท่าไร
ลองมาคิดวิธีการเลี้ยงดูว่ามันจะง่ายอย่างที่หลายคนบอกไหม
กุ้งก้ามแดง อายุการเลี้ยง
แรกเกิดถึง1.0-1.5นิ้ว อายุประมาณ 1-2เดือน
แรกเกิดถึง4.5-5.0นิ้ว อายุประมาณ 5-7เดือน (20ตัว/กิโลกรัม)
แรกเกิดถึง6.0-7.0นิ้ว อายุประมาณ 9-12เดือน (10ตัว/กิโลกรัม)
สาเหตุการตายของกุ้งเครฟิช
1.แก่ตาย อายุมากแล้ว (หมดอายุไข)
2.ดูแลเรื่องน้ำไม่ดี ไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำ..ของเสียมาก
3.ลอกคราบไม่ผ่าน สะสมอาหารไม่เพียงพอ
ลอกคราบไม่ผ่านเพราะก่อนลอกคราบเปลี่ยนถ่ายน้ำก่อน
ลอกคราบไม่ผ่านเพราะเป็นสนิม
ลอกคราบผ่านแต่ก็ตายเพราะหมดแรง ไม่มีอ๊อคซิเจน
อันนี้แยกไม่ทันเลี้ยงรวม ลอกคราบผ่าน..เพื่อนช่วยกันเอาไปกิน
4.ใส่อาหารมากเกินไป น้ำเสีย กุ้งน็อค..แล้วก็ตาย
โดยเฉพาะลูกกุ้ง ใส่อาหารมากเกินไป น้ำเสียเร็ว
5.ด้วยความซ่า ปีนออกนอกตู้ แห้งตาย
6.เลี้ยงกุ้งตัวเล็กรวมกับตัวใหญ่ โดนตัวใหญ่กิน
7. กุ้งลอกคราบแยกใส่กล่องแยกไม่ปิดฝา
กุ้งแข็งแรงแล้วปีนออกจากกล่องแยกลงไปในตู้
โดยเพื่อนๆช่วยกันกิน..อร่อยมากเลย และ
8.โดนยาฆ่าแมลง ยาฉีดยุง ยาฉีดปลวก
โลชั่นทามือทาแขน เส้นผมที่มียาย้อมผม
เส้นผมที่มีเจลแต่งผม ยาทาเล็บ
มือเปื่อนน้ำมันหรือจับอะไรมาแล้วไปโดยน้ำในตู้กุ้ง
ก่อนเลี้ยงกุ้งควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
กุ้งถ้าโดนสารเคมีไม่ตายก็ไม่โต
ผู้เพาะเลี้ยงกุ้งโดนกันมามากแล้ว...คับ
ฝากเตือน..ผู้ที่เริ่มเลี้ยงและจะเริ่มต้นเลี้ยงกุ้งเครฟิชด้วยคับ....
Top of Form
ไม่อยู่บ้านหลายวัน กุ้งจะอดอาหารได้กี่วันครับ?
วิธีที่1เปลี่ยนถ่ายน้ำก่อนไม่อยู่สัก2วัน เปลี่ยนถ่ายน้ำ50% ใส่เกลือ1กำมือสำหรับตู้24นิ้ว หาขอนไม้เล็กๆมาใส่ให้กุ้งได้แทะเล่น เปิดอ๊อคเจนตลอด ให้อาหารปกติในแต่ละครั้ง ก่อนวันไปเที่ยวหรือกลับบ้า่นต่างจังหวัด ใส่อาหารนิดหน่อยไม่ต้องเผื่อมื้อต่อไป ทำแบบนี้กุ้งสามารถอยู่ได้ 7-10วัน หาแผ่นอคิริคมาหรือฟิวเจอร์บอร์ดมาปิดบนตู้ด้วยกันกุ้งหนี (จะใส่หรือไม่ใส่ปลาสอดหรือปลาหางนกยูงก็ได้)
วิธีที2 ถ้าไม่อยู่บ้านหลายวัน ก่อนไม่อยู่บ้าน1วันหากล่องพลาสติกใหญ่พอสมควร ใส่น้ำแค่ครึ่งตัวกุ้ง ใส่กุ้งได้หลายตัว ไม่ต้องใส่อาหาร ไม่ต้องใส่อ๊อคซิเจนก็ได้ อยู่ได้ 5-7วัน ตั้งกล่องพลาสติกหาพื้นที่ๆไม่ร้อนซะหน่อย ที่มีลมผ่านยิ่งดี ถ้ามีตัวลอกคราบเปลือกนิ่ม ก็แยกออกไปเลี้ยงตู้ที่มีอ๊อคซิเจน หาแผ่นอคิริคมาหรือฟิวเจอร์บอร์ดมาปิดบนกล่องด้วยกันกุ้งหนี
วิธีที่3 เลี้ยงกุ้งตัวใหญ่ตัวเล็ก4นิ้วขึ้นไปจำนวนมากในบ่อปูน บ่อผ้าใบ หาตะกล้าพลาสติก มาใส่กุ้งทีละตัวใส่น้ำครึ่งตะกล้า เผื่อไฟดับกุ้งสามารถปีนตะกล้าขึ้นมาหายใจได้ เปิดอ๊อคซิเจน มีหัวทราย2-3หัวก็จะดี
อุณหภูมิน้ำในตู้สำหรับการเลี้ยงเครฟิชก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
การเจริญเติบโตก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเช่นกัน
เครฟิชบางสายพันธุ์อยู่เย็นแต่เลี้ยงร้อน
เครฟิชบางสายพันธุ์อยู่ร้อนแต่เลี้ยงเย็น
จึงทำให้เครฟิชจำศีลนอนอย่างเดียวไม่กินไม่เดินไม่เล่นไม่ทุกอย่าง
และถ้าเลี้ยงอุณหภูมิร้อนมากจะทำให้เกิดคราบสนิมที่ตัวและที่ก้ามได้ด้วย
สำหรับการเลี้ยง การเปลี่ยนถ่ายน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญในการเจริญเติบโต
และสีของตัวเครฟิชด้วย
ตู้เลี้ยงเครฟิชอุณหภูมิ26-28องศา เปลี่ยนถ่ายน้ำ100% อุณหภูมิน้ำ
ในตู้หลังเปลี่ยนแล้วประมาณ30-31องศา เมื่อใส่กุ้งเครฟิชลงไป
1. เครฟิชจะเดินไป-มา เราก็คิดว่าเค้าคงหิว ใส่อาหารลงไป แต่เค้าก็ไม่กิน
2. เครฟิชจะหาที่หลบเลย และไม่ไปไหนเลย นอนนิ่ง ใส่อาหารก็ไม่กิน
เป็นธรรมดาสำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำ100% เมื่อกุ้งเครฟิชลงไปในตู้
เค้าจะเดินหรือจะหลบ เพราะส่วนใหญ่เครฟิชจะงง..กับน้ำใหม่ประมาณ1-2วัน
อาหารก็จะไม่ค่อยกิน เปลี่ยนอาหารใหม่ก็ไม่กิน เพราะน้ำใหม่
การเปลี่ยนถ่ายน้ำ 50% - 100%
เติมน้ำใหม่เข้าไป ตู้24นิ้ว เติมเกลือสัก1กำมือ
ตู้30-36นิ้ว เติมเกลือสัก2กำมือ
เพื่อฆ่าเชื้อโรค และการใส่เกลือทำให้น้ำใหม่และน้ำในตัวกุ้งสมดุลกัน
และถ้าเก็บอาหารและขี้กุ้งด้วยการดูดน้ำออกและเติมน้ำเข้าทุกวัน
จะทำให้อุณหภูมิเปลี่ยน เครฟิชก็จะไม่ค่อยกินอาหาร
การเปลี่ยนถ่ายน้ำก็ต้องเช็คดูเครฟิชด้วยว่าจะกุ้งจะลอกคราบหรือยัง
ช่วงใกล้จะลอกคราบ เปลี่ยนถ่ายน้ำพอดี
กุ้งอาจจะลอกคราบไม่ผ่านและทำให้กุ้งเครฟิชที่คุณรัก...ตายได้
การเปิดไฟที่มีวัตต์สูงๆก็จะทำให้น้ำอุณหภูมิสูงได้ เครฟิชไม่ชอบไฟแรงๆ
ชอบไฟสลัวๆ ไฟแรงทำให้กุ้งตาบอดได้
ถ้าอุณหภูมิน้ำในตู้สูงก็ใช้พัดลมตั้งโต๊ะที่บ้านเป่าไปที่ตู้หรือมีพัดลมที่จับขอบตู้
อุณหภูมิที่เลี้ยงเครฟิชในเมืองไทย จากประสบการณ์เลี้ยงมา
สาย P อุณหภูมิเลี้ยง26-30องศา
ถ้าเลี้ยงเย็นอุณหภูมิ 22-25องศา จะนอนอย่างเดียวเลย (จำศีล)
สาย C อินโด จะเลี้ยงเย็นก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง22-25องศา
เลี้ยงปกติก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง26-29องศา
สาย C เดสทรัคเตอร์ จะเลี้ยงเย็นก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง22-25องศา
เลี้ยงปกติก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง26-30องศา
สาย C บลูเพิร์ล จะเลี้ยงเย็นก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง22-25องศา
เลี้ยงปกติก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง26-29องศา
สาย C กุ้งก้ามแดงบลูล็อบน้ำจืด
จะเลี้ยงเย็นก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง22-25องศา
เลี้ยงปกติก็ได้อุณหภูมิเลี้ยง26-29องศา
เครฟิชที่เลี้ยงน้ำเย็นสีจะสวยมาก..กว่าเลี้ยงน้ำธรรมดา และจะเดินไปมาตลอด
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงเกิน30องศาขึ้นไป กุ้งจะกินอาหารน้อย
ไม่ค่อยเดิน ชอบหลบ และจะเกิดคราบสนิมที่ดัวและที่ก้าม
จากประสบการณ์ที่เลี้ยงเครฟิชที่ฟาร์ม Yabby House....คับ
ความสำคัญอันดับที่1 ในการเลี้ยงกุ้งเครฟิช
วิธีการเซ็ทน้ำในตู้แบบง่ายๆ
ตู้24นิ้วน้ำใหม่(น้ำประปา น้ำบาดาล )ประมาณ50ลิตร
(ไม่ต้องใส่น้ำยาลดคลอรีน เพราะน้ำจะขุ่น และคลอรีนฆ่า
เชื้อโรคในน้ำได้ดี จากการทดลองทดสอบ กุ้งไม่เป็นอะไร)
ใส่เกลือไปประมาณ1กำมือ เปิดอ๊อกซิเจนแรงๆ
ตีน้ำประมาณ 2-3ชั่วโมง ก็นำน้องกุ้งไปลงในตู้ได้เลย
ใส่หินและขอนไม้ทีหลังก็ได้ หลังจากลงไปแล้ว
ก็ยังไม่ต้องให้กุ้งกินอาหารอะไรเลยสัก24ชั่วโมง
เพราะแบคทีเรียในน้ำยังไม่เซ็ทตัว
และความสมดุลระหว่างน้ำในตู้กับน้ำในตัวกุ้งยังไม่เข้ากัน
หาปลาหางนกยูงหรือปลาสอดมาเลี้ยงใส่ในตู้ก็ดี
เพราะถ้ามีขี้ปลาก็จะทำให้น้ำมีแบคทีเรียได้เร็วขึ้น
แบคทีเรียยังไม่เซ็ทตัว..กุ้งก็ไม่อยากกินอาหาร คับ
ประสบการณ์จาำกการเซ็ทตู้ที่ฟาร์ม Yabby House
ลองทำดูนะค่ะ
วิธีการเซ็ทน้ำในตู้แบบง่ายๆ
ตู้24นิ้ว น้ำใหม่ประมาณ50ลิตรใส่เกลือไปประมาณ1กำมือ
เปิดอ๊อกซิเจนแรงๆ ประมาณ2-3ชั่วโมง
ก็นำน้องกุ้งไปลงในตู้ได้เลย
หินและขอนไม้ใส่ทีหลังก็ได้ เพราะกุ้งลงไปแล้วก็จะหลบ
หลังจากกุ้งลงตู้ไปแล้วก็ยังไม่ต้องให้กุ้งกินอาหารอะไรเลยสัก24ชั่วโมง
เพราะแบคทีเรียในน้ำยังไม่เซ็ทตัว
หาปลาหางนกยูงหรือปลาสอดมาเลี้ยง เมื่อปลาขี้ออกมา
ขี้ปลา+น้ำใหม่ผสมกันก็จะเกิดแบคทีเรียขึ้นเอง
ในตู้กุ้งต้องมีแบคทีเรีย ถ้าไม่มีแบคทีเรียใส่อาหารลงไป
น้ำก็จะขุ่น หรือที่เรียกกันว่า ระบบกรองล่ม
(น้ำประปามีคลอรีน การเลี้ยงกุ้งไม่ต้องใส่น้ำยาลดคลอรีน)
การล้างตู้100% ก็เหมือนกับการเซ็ทตู้ใหม่
วิธีการเซ็ทน้ำในตู้แบบง่ายๆ ตู้24นิ้วน้ำใหม่ประมาณ50ลิตร
ใส่เกลือไปประมาณ1กำมือ เปิดอ๊อกซิเจนแรงๆตีน้ำประมาณ
2-3ชั่วโมง ก็นำน้องกุ้งไปลงในตู้ได้เลยใส่หินและขอนไม้
ทีหลังก็ได้ หลังจากลงไปแล้วก็ยังไม่ต้องให้กุ้งกินอาหารอะไร
เลยสัก24ชั่วโมง เพราะแบคทีเรียในน้ำยังไม่เซ็ทตัว หาปลา
หางนกยูงหรือปลาสอดมาใส่ตู้ก็ดีเพราะถ้ามีขี้ปลาก็จะทำให้
น้ำมีแบคทีเรียได้เร็วขึ้น แบคทีเรียยังไม่เซ็ทตัวกุ้งก็ไม่อยาก
กินอาหาร คับ
การใส่เกลือเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำและเพื่อเพิ่มความสมดุล
ระหว่างน้ำในตู้กับน้ำในตัวกุ้งใ้ห้สมดุลกัน
น้ำประปาและน้ำบาดาล มีคลอรีนและมีแร่ธาตุในน้ำด้วย
เหมาะสำหรับการเลี้ยงกุ้งเครฟิชเมื่อนำใส่ลงไปในตู้
ไม่ต้องใส่น้ำยาลดคลอรีนเพราะจะทำให้น้ำุขุ่น
ประสบการณ์จาำกการเซ็ทตู้ที่บ้านค่ะ ลองทำดูนะค่ะ
กุ้งตายหัวจะแข็งและหัวจะเปิด
กุ้งที่จะลอกคราบหัวจะนิ่ม กุ้งกินอาหารมากหัวกุ้งจะเปิดหรือจะยกขึ้น
กุ้งที่หัวเปิดแล้วตายอาจจะมีสาเหตุมาจาก
1โดยสารเคมี สเปร์ยฉีดยุง ยาฉีดปลวก เจล-น้ำยาใส่ผม ยาทาเล็บล้างเล็บ โลชั่นทาแขน ตายแบบนี้หัวจะเปิด
2.กุ้งเป็นโรคหางพอง หางกรอน หางเป็นสนิม ไม่ค่อยกินอาหารก็ตายได้ ตายแบบนี้หัวจะเปิด
3.อุณหภูมิในตู้เปลี่ยนเร็วฉับพลันก็ตายได้ เช่น 26-28องศา เปลี่ยนถ่ายน้ำน้ำร้อนมาก เป็น 32-35องศา ก็ตายได้ค่ะ
แต่ถ้าอากาศหนาวเย็น21-22องศา กว่าจะเปลี่ยนเป็น26-27องศา ใช้เวลา 6-8ชั่วโมงแบบนี้ไม่เป็นไร
4.ตู้ไม่ค่ิอยทำความสะอาดเปลี่ยนถ่ายน้ำ อาหารเก่าหมักหมม จึงทำให้เกิดปรสิต หนอนสมร พาลาเรีย พยาธิเส้นได้
เมื่อเลี้ยงกุ้งในตู้แล้วมีปรสิตเหล่านี้มากๆ ปรสิตเหล่านี้จะเข้าไปทางเหงือกและจะไชเข้าไปดูดเลือดและเข้าไปที่สมอง
กุ้ง ทำให้กุ้งเดินไม่ค่อยได้ เดินเป๋ๆ เดินไปสั่นไป เดินไปเกร็งไป แล้วก็ล้มหงายท้อง เพราะปรสิตเข้าสมอง แล้วต่อมา
กุ้งก็จะตาย ถ้าจับหัวกุ้งหัวจะแข็ง
สรุป กุ้งลอกคราบหัวจะนิ่มและถ้าลอกคราบไม่ผ่านกุ้งก็ตายแต่หัวจะนิ่ม
กุ้งที่โดยปรสิตเข้าสมอง กุ้งตายหัวจะเปิดทุกตัว และหัวจะแข็ง
อาหารที่เป็นโปรตีน ถ้ากุ้งกินเข้าไปมากๆ ไม่สามารถทำให้กุ้งตายได้ กินโปรตีนมากขี้ก็จะดำมาก และกุ้งจะสมบูรณ์แข็งแรง
สำหรับสมาชิกใหม่
เคล็ดไม่ลับในการจับคู่แบบ Yabby House
การจับคู่กุ้งเครฟิชเพื่อผสมแบบง่ายๆ
กุ้งเครฟิชไซส์ประมาณ3นิ้วตัวผู้และตัวเมีย
การเตรียมตู้กุ้งสำหรับการเข้าคู่
ในตู้กุ้งเป็นตู้โล่งมีหินปูพื้น มีกรองฟองน้ำเท่านั้น
(บ้านกุ้ง ท่อกุ้ง ขอนไม้ เซลามิค กระถางเอาออกหมด)
อาหารทุกชนิดไม่ต้องให้เลย สำหรับการจับคู่
นำกุ้งตัวเมียและตัวผู้ ใส่พร้อมกันคนละข้าง
สังเกตที่หนวดกุ้ง
ถ้าหนวดชี้ไปข้างหน้าก็จะเป็นมิตรกัน
ถ้าหนวดชีไปข้างหลังก็จะลุยกัน
สมาชิกต้องนั่งหน้าตู้ ถือไม้สำหรับแยกไว้ด้วย
ถ้าลุยกันก็ต้องมีกรรมการแยกออก
ประมาณ10-15นาที ถ้ากุ้งลุยกันก็จับแยก
ถ้าเข้าคู่กันก็ปล่อย และสมาชิกต้องดูอยู่ห่างๆ
อย่าพึ่งไว้ใจ การจับคู่สมาชิกต้องมีเวลาด้วย
อย่างน้อย1-2ชั่วโมง จนกว่ากเค้าทั้งสองจะเดินตามกัน
ถึงจะปลอดภัย ก็ให้อยู่อย่างนั้น สองสามวัน
อาหารเวลาให้ ให้สองจุด พร้อมกัน
สาเหตุที่จับคู่ไม่ได้
ในตู้ที่จับคู่ จะมีที่หลบ มีบ้าน มีท่อ
กุ้งจะหวงถิ่นเป็นอับดับแรก อะไรก็หวงไปหมดคับ.................................................................
กุ้งเครฟิชก้ามใหญ่..ก้ามโต ทำอย่างไร
ในตู้กุ้ง ถ้ามีบ้านให้กุ้งอยู่
ส่วนใหญ่กุ้งจะกินแล้วก็นอน
สังเกตุดูตัวกุ้งจะใหญ่แต่ก้ามจะเล็ก
ก้ามใหญ่..ก้ามโต ทำอย่างง่ายๆ
เอาบ้านกุ้งออก ใส่ขอนไม้เล็กๆ ขอนไม้ใหญ่ๆ
ขอนไม้ที่มีกิ่งสูงๆเพื่อให้ปีนป่ายได้
กุ้งไม่มีบ้าน ก็จะเดินไปมารอบๆตู้
เจอขอนไม้เล็กๆขวางหน้า ก้ามกุ้งก็จะปัดออกได้
กุ้งชอบปีนขอนไม้ก็จะใช้ก้ามช่วย
เมื่อก้ามถูกใช้งานบ่อยๆ
เมื่อกุ้งลอกคราบก้ามก็จะใหญ่ขึ้น
อาหารก็เป็นส่วนสำคัญ
ให้กุ้งกินอาหารที่เป็นโปรตีนมากๆ
อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ หรืออาหารเม็ดโปรตีนมากๆ
ถ้าไม่มีบ้านจะทำให้กุ้งได้เดินไปมา
กุ้งกินอาหารโปรตีนมากๆ
กุ้งลอกคราบ ก็จะก้ามใหญ่ ก้ามโต
ถ้ามีบ้านกุ้ง กุ้งชอบนอน
กุ้งชอบเอาอาหารไปกินไปซ่อนในบ้าน
ในบ้านกุ้งก็จะมีขี้ของกุ้ง+อาหารเก่าด้วย
กุ้งก็จะนอนกับของเสีย
กุ้งก็จะป่วยง่าย
ก่อนให้อาหารใหม่
ตักอาหารเก่าและขี้กุ้งออกก่อนทุกครั้ง
เปลี่ยนถ่ายน้ำ50% 7-10วัน
ตู้24นิ้ว ใส่เกลือไปสัก1กำมือเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วยก็ดี
การให้อาหารกุ้งเครฟิชและการเปลี่ยนถ่ายน้ำ แบบYabby House
หลังจากเปลี่ยนถ่ายน้ำ50% แล้วไม่ต้องให้อาหารกุ้งเลย เพราะไม่กิน
วันต่อมา วันที่1-5 ให้อาหารเม็ดเทอร์โบ
วันที่6-7ให้อาหารสด เช่น กุ้งฝอยต้ม
วันที่8 ล้างตู้เปลี่ยนถ่ายน้ำ50% ตู้24นิ้ว ใส่เกลือ1กำมือ
วันที่เปลี่ยนถ่ายน้ำไม่ต้องให้อาหารเพราะกุ้งได้น้ำใหม่จะไม่กินอาหาร
และต่อมาให้อาหารเม็ด5วัน ให้กุ้งฝอยต้ม2วัน ครบ7วัน
วันที่8ก็เปลี่ยนถ่ายน้ำ ก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ก็จะได้กุ้งสวยๆ ลอกคราบตัวใหญ่....ก้ามใหญ่....คับ
หินปูพื้น ขอนไม้ กรองฟองน้ำ และอื่นๆที่อยู่ในตู้
ก็เอาออกมาล้าง ทำความสะอาด....
สังเกตุหนวดกุ้งเครฟิช...ในการเข้าคู่กัน
ถ้าหนวดชี้ไปข้างหน้าประสานกันทั้งสองตัว ก็จะเข้าคู่กันได้
ถ้าหนวดชี้ไปข้างหลังทั้งสองตัว ก็จะลุยกัน วางก้ามใส่กัน
ถ้าหนวดตัวผู้ชี้ไปข้างหน้าแต่ตัวเมียชี้ไปข้างหลัง ตัวผู้จีบตัวเมีย
ถ้าหนวดตัวเมียชี้ไปข้างหน้าแต่ตัวผู้ชี้ไปข้างหลัง ตัวเมียจีบตัวผู้
ถ้าตัวเมียจีบตัวผู้แล้วตัวผู้ไม่สนใจ ตัวผู้จะวางก้าม
ตัวเมียจะเดินถอยหลังเอาหางมาแหย่หน้าตัวผู้
และจะเอียงข้างตัวไปถูไถ่ข้างตัวผู้ ตัวเมียจะทำแบบนี้
จนกว่าตัวผู้จะยอมให้ไปนอนเคียงข้างกัน
ถ้าตัวผู้ไม่สนใจก็จะวางก้ามและเดินหลีกไป
แต่ถ้าตัวผู้และตัวเมียยอมกันก็จะเดินตามกันไป
นอนด้วยกัน กินด้วยกัน
ตัวเมียจะขึ้นไปทับตัวผู้ แสดงว่าตัวผู้ตัวนี้ของข้า
ตัวผู้ก็จะขึ้นไปทับตัวเมีย แสดงว่าตัวเมียตัวนี้ของข้า
ใครอย่าแตะ .....
การกินตัวผู้จะยอมตัวเมียให้ตัวเมียกินก่อน
ถ้าตัวผู้เข้าคู่ได้แล้วจะเดินตามตัวเมียซะส่วนใหญ่
เดินตามต้อยๆเลย....เดี๋ยวอด...55555
สายซี บลูเพิร์ล เดสทรัคเตอร์ กุ้งก้ามแดงบลูล็อบเตอร์
สายซีอินโด จะเป็นแบบนี้ในการเข้าคู่
ถ้าเป็นสายพี ตัวผู้จะจับตัวเมียมาผสมพันธุ์เลย
หรือถ้าตัวเมียพร้อมผสมพันธุ์ ถ้าตัวผู้เดินมา
ตัวเมียจะนอนหงายรอเลย .....
การผสมพันธุ์ กุ้งเครฟิช
สายP ก้ามหนาม และสายC ก้ามเรียบ
สายP ก้ามหนาม ไซส์ที่ผสมพันธุ์3นิ้วขึ้นไป
เมื่อกุ้งขึ้นไซส์นี้ จะเริ่มกินน้อยลง ตัวผู้จะจับตัวเมียมาผสมพันธุ์เลย
การผสมพันธุ์ตัวเมียจะอยู่ข้างล่างตัวผู้จะอยู่ข้างบน ใช้เวลาผสมนาน
มากและตัวผู้จะจับผสมไปเลย ตัวเมียตัวไหนอยู่ใกล้จะจับผสมหมด
ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้ด้วยกันหรือคราบกุ้ง กุ้งสายนี้จะเป็นแบบนี้ (หื่น)
เมื่อตัวเมียถูกผสมแล้ว น้ำเชื้อตัวผู้จะเก็บไว้เป็นเวลา15วัน
ถ้าน้ำเชื้อตัวเมียมาผสมประมาณ15วัน แม่กุ้งก็จะเริ่มห่อหางให้สนิท
จะอุ้มไข่ประมาณ5-7วันก็จะเปิดหางออกมาเพื่อให้อ๊อคซิเจนเข้าไป
กุ้งสายนี้เวลาตั้งไข่จะกินอาหารน้อยมาก หรือไม่กินเลย
จากนั้นก็จะดูแลไข่ไปประมาณ30วัน ครบ30วันไข่ก็จะเป็นลูกกุ้ง
ใส่อาหารให้น้อยๆ ถ้าอาหารเหลือก็จะเกิดเชื้อราได้
แต่ถ้าผสมกันแล้ว15วันต่อมาไม่หุบหางไม่มีไข่ก็เริ่มต้นผสมใหม่
สายP ก้ามหนาม ถ้าผสมพันธุ์แล้วตั้งไข่แล้ว ให้เอาตู้ผู้ออกได้เลย
เพราะตัวผู้จะไปกวนตัวเมียเพื่อจะผสมต่อ.....
สายC ก้ามเลียบ เดส-สายCอินโด ไซส์ที่ผสมพันธุ์3นิ้วขึ้นไป
สายC ก้ามเลียบ บลูเพิร์ล กุ้งก้ามแดงบลูล็อบเตอร์
ไซส์ที่ผสม4นิ้วขึ้นไป เมื่อกุ้งขึ้นไซส์นี้ จะกินอาหารปกติ
การผสมพันธุ์ตัวผู้จะอยู่ข้างล่างตัวเมียจะอยู่ข้างบน
ใช้เวลาผสมไม่เกิน1นาที การผสมพันธุ์หวังผลเลยตัวเมียจะท้องเลย
ไม่ถึงชั่วโมงก็เห็นไข่เลย ตัวเมียจะนอนหงายท้องไปมาสัก1-2วัน
จะไม่กินอาหาร ประมาณ5-7วันก็จะเปิดหางออกมาเพื่อให้อ๊อคซิเจน
เข้าไป กุ้งสายนี้หลังจากตั้งไข่ก็จะเริ่มกินอาหารทั้งตัวผู้-ตัวเมีย
จากนั้นก็จะดูแลไข่ไปประมาณ30วัน ครบ30วันไข่ก็จะเป็นลูกกุ้ง
ให้อาหารพอดีๆ อย่าให้มาก เพราะถ้าอาหารเหลือก็จะเกิดเชื้อราได้
กุ้งสายC เมื่อตั้งท้อง ตัวผู้จะอยู่กับตัวเมียได้ จะนอนอยู่ข้างๆตัวเมีย
ครั้งหน้าจะเขียนต่อ เรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำสำหรับตู้แม่กุ้งไข่
เค กุ้งก้ามแดง....
กุ้งจะเลือกกินอาหารที่มีกลิ่น
อาหารนั้นจะเป็นอาหารสดหรืออาหารเม็ด
ถ้าใส่ลงไปในตู้แล้วไม่มีกลิ่นอาหาร กุ้งก็จะไม่กิน
อาหารก็จะเหลือ จะทำให้น้ำเริ่มสะสมของเสีย
และน้ำก็จะเริ่มมีกลิ่น
ให้อาหารพอดีๆในแต่ละครั้ง ไม่ต้องให้เผื่อในครั้งต่อไป
หาขอนไม้มาใส่ กุ้งจะได้มีกิจกรรม แทะเล่น .....ต่อไป
เคล็ดลับที่ไม่ลับ การเพาะพันธุ์กุ้งเครฟิช
ตัวเมียต้องลอกคราบก่อนเป็นเวลา20-30วัน
กุ้งกินอาหารทุกวัน สังเกตุกุ้งตัวเมียเกาท้องเมื่อไหร่
ก็เปลี่ยนถ่ายน้ำดูแลเรื่องน้ำให้ดี
เพราะเมื่อกุ้งผสมพันธุ์แล้วถ้าได้น้ำที่เปลี่ยนถ่ายแล้ว
จะดูแลแม่กุ้งได้สบาย
ก็เอากุ้งตัวผู้มาผสม กุ้งตัวผู้พร้อมผสมตลอดเวลา
เมื่อผสมแล้ว เชื้อตัวผู้ก็จะไปผสมกับตัวเมีย
ตัวเมียก็จะนอนหงาย นอนตะแคง เพื่อรับน้ำเชื้อ
สัก4-5วันแม่กุ้งก็จะเปิดท้องก็จะเห็นไข่
เมื่อไข่แล้วก็จะได้ไข่เยอะและไม่สลัดไข่ ......
เมื่อกุ้งเกาท้องและผสมกันแล้ว
ทั้งตัวผู้และตัวเมียก็จะไม่กินอาหารประมาณ5-7วัน
เมื่อตั้งท้องแล้ว ไม่ต้องเอาตัวผู้ออกก็ได้
การเพาะพันธุ์ สำหรับกุ้งเดส แม่กุ้งไซส์3นิ้วขึ้นไป
การเพาะพันธุ์ สำหรับกุ้งก้ามแดง แม่กุ้งไซส์4นิ้วขึ้นไป
การเพาะพันธุ์ สำหรับกุ้งสายซีอินโด แม่กุ้งไซส์3นิ้วขึ้นไป
การเพาะพันธุ์ สำหรับบลูเพิร์ล แม่กุ้งไซส์4นิ้วขึ้นไป
การเพาะพันธุ์ สำหรับสายพี แม่กุ้งไซส์2.5นิ้วขึ้นไป
ลองไปทำดู หาแม่กุ้งสัก3-5ตัว ได้ลูกแน่นอน..
การให้อาหารให้พอดีกับกุ้ง ไม่ต้องเผื่อ มื้อต่อไป
กุ้งจะกินอาหารตามกลิ่น ถ้าไม่มีกลิ่นกุ้งก็จะไม่กินอาหารนั้น
ถ้าใส่อาหารมากกุ้งกินไม่หมดก็จะเหลือ ก็ต้องจัดเก็บออกไป
การให้อาหารใหม่ก็เอาอาหารเก่าออกไปก่อน
โดยวิธีการตักออกไป เอาที่ตักปลามาวนน้ำขึ้นลง
อาหารเก่าและขี้กุ้งก็จะลอยขึ้นมา และก็ตักออกไป
การดูดน้ำเพื่อเอาอาหารและขี้กุ้งออกและเติมน้ำ
จะทำใ้ห้อุณหภูมิน้ำในตู้ขึ้นลง ไม่คงที
การเปลี่ยนถ่ายน้ำ7-10วัน เปลี่ยนถ่ายน้ำครั้ง50%
ตู้24นิ้วใส่เกลือ1กำมือ ตู้36นิ้วใส่เกลือ2กำมือ
ใส่เกลือเพื่อให้น้ำใหม่และตัวกุ้ง ปรับสภาพให้สมดุลกัน
และในน้ำเก่าที่อยู่ในตู้จะมีแบคทีเรียอยู่
กุ้งกินอาหารได้ทั้งวัน ให้อาหารพอดีกับกุ้งที่จะกิน
ถ้ากุ้งไม่กินอาหาร กินไม่หมด ก็ลดอาหารลงไป
กุ้งจะสะสมอาหารพอแล้วก็จะไม่ค่อยกิน เพราะจะลอกคราบ
กุ้งลอกคราบแล้ว 2-3วันก็จะไม่กินอาหาร
การเปลี่ยนถ่ายน้ำกุ้งก็จะไม่กินอาหาร1-2วัน
การเลี้ยงลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดง ไซส์ 1-1.5นิ้ว
อายุประมาณ 1-2เดือน
เลี้ยงในกระบะพลาสติกทรงสี่เหลี่ยม 1.0x1.5 เมตร
เลี้ยงประมาณ 200ตัว
เลี้ยงในบ่อปูน 2.0x2.0เมตร 2.0x2.5เมตร
เลี้ยงประมาณ300-400ตัว
เลี้ยงในบ่อผ้าใบทรงสี่เหลี่ยม 2.0x2.0 เมตร
เลี้ยงประมาณ300-400ตัว
การเลี้ยงลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดง ไซส์1-1.5นิ้ว
เลี้ยงในนาข้าว 1ไร่ กุ้งที่จะปล่อยลงในนาข้าวประมาณ5,000ตัว
เมื่อลูกกุ้งโตขึ้นลอกคราบขยายไซส์ ต้องมีบ่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น
ไซส์ที่ตลาดต้องการไปทำอาหาร
ไซส์ 4.0-5.0นิ้ว อายุประมาณ 5-7เดือน (20ตัว/กิโลกรัม)
ไซส์ 6.0-7.0นิ้ว อายุประมาณ 9-12เดือน (10ตัว/กิโลกรัม)
การเพาะเลี้ยงในบ่อดินต้องมีผ้าใบ คลุมบ่อดินด้วย
เพราะกุ้งที่เลี้ยงในบ่อดิน กุ้งจะอยู่ในเลนดิน จะมีปรสิตติดมา
ปรสิตที่ติดตัวกุ้งมาจะทำให้กุ้งไม่โต น้ำหนักเนื้อตัวกุ้งจะไม่มาก
ลักษณะตัวกุ้งที่เลี้ยงในบ่อดิน หัวกุ้งจะใหญ่ ตัวกุ้งจะเล็ก
การนำกุ้งก้ามแดงไปทำอาหาร ถ้ามีกลิ่นดิน
ผู้สั่งซื้อจะไม่สั่งซื้อไปทำอาหาร เพราะมีกลิ่นดิน
อาหารสำหรับเพาะพันธุ์กุ้งก้ามแดง
อาหารเม็ดจมเทอร์โบโปรตีน สูตรปลาทะเล
อาหารสำหรับลูกกุ้งแรกเกิดอายุ 7-20วัน
กินอาหารผงเทอร์โบโปรตีน สูตรปลาทะเล โปรตีน70%เร่งโต
อาหารสำหรับลูกกุ้งไซส์1cm-1.5นิ้ว
กินอาหารเม็ดจม สูตรลูกกุ้งเทอร์โบโปรตีน 70% เร่งโต
อาหารสำหรับกุ้งไซส์ 1.5นิ้วขึ้นไป
กินอาหารเม็ดจมสูตรกุ้งก้ามแดง+อาหารเม็ดจมเทอร์โบสูตร1
พ่อแม่พันธุ์กุ้งก้ามแดง
กินอาหารเม็ดจมเทอร์โบสูตร3 โปรตีน 50%-60%
จะมีการอบรมการเลี้ยงลูกพันธุ์กุ้งก้ามแดงเร็วๆนี้
ปรึกษาและเลี้ยงกุ้งก้ามแดง โทร 087-0352033
การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์กุ้งก้ามแดง ไซส์4-5นิ้ว
อายุประมาณ6-8เดือน
สะสมอาหารมากพอก็จะผสมพันธุ์ และจะท้องตั้งไข่ทันที
จะได้ลูกประมาณ 200-400ตัว โดยประมาณ
ตั้งไข่และลงเดินเป็นตัว ใช้เวลาประมาณ30-35วัน
แม่กุ้งจะได้ลูกกุ้งมากน้อยขึ้นอยู่ที่การสะสมอาหารโปรตีน
และการดูแลเรื่องการเลี้ยง การเปลี่ยนถ่ายน้ำ อ็อกซิเจน ขนาดของบ่อเลี้ยง
บางแม่ตั้งไข่เต็มท้อง พอลูกลงเดินอาจจะเหลือ 10-100ตัว
บางแม่เหลือ100-200ตัว บางแม่เหลือ200-400ตัว
และบางแม่ก็ไม่เหลือไข่เลยก็มาก สำหรับการเพาะพันธุ์
แม่กุ้งไม่ทุกแม่จะให้ลูกมาก
อยู่ที่ขั้นตอนในการเลี้ยงดูแม่กุ้ง .........
การเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดไปถึงลูกพันธุ์กุ้งไซส์1-1.5นิ้ว เลี้ยง1-2เดือน
การเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดไปถึงพ่อแม่พันธุ์ไซส์ 4-5 นิ้ว เลี้ยง6-8เดือน
การสั่งซื้อพ่อแม่พันธุ์
การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ ก็เป็นการศึกษาสายพันธุ์เพื่อเพาะพันธุ์
อาจจะใช้เวลานาน และต้องมีแม่พันธุ์จำนวนมากในการศึกษาสายพันธุ์
เพื่อเพาะลูกกุ้งจำนวนมากๆ ต้องใช้เวลาในการเพาะพันธุ์1-2ปี
เพื่อให้ได้ลูกพันธุ์เลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ จำนวนมากก่อน
การสั่งซื้อลูกพันธุ์ 1-1.5นิ้ว
การเลี้ยงลูกพันธุ์ 1-1.5นิ้ว ใช้เวลาเลี้ยง 1-2เดือน
เลี้ยงประมาณ 4-5เดือน ก็ได้เป็นพ่อแม่พันธุ์
เลี้ยงเพื่อต่อยอดทำพันธุ์เนื้อเพื่อบริโภค
เลี้ยงเพื่อคัดแยกพ่อแม่พันธุ์ที่จะทำพันธุ์
ข้อมูลขนาดและอายุกุ้งก้ามแดง
แรกเกิดถึง 1.5นิ้ว อายุ 45-60วัน
แรกเกิดถึง 3.5นิ้ว อายุ 100-120วัน ไซส์ 30-35ตัวต่อกิโล
แรกเกิดถึง 5.0นิ้ว อายุ 180-210วัน ไซส์ 20ตัวต่อกิโล
แรกเกิดถึง 7.0นิ้ว อายุ 300-360วัน ไซส์ 10ตัวต่อกิโล ผู้เพาะเลี้ยง
แรกเกิดถึง 7.0นิ้ว อายุ 280-300วัน ไซส์ 10ตัวต่อกิโล เลี้ยงในอ่างเก็บน้ำ
แรกเกิดถึง 10 นิ้ว อายุ 900-1080วันไซส์ 10ตัวต่อกิโล ผู้เพาะเลี้ยง
แรกเกิดถึง 10นิ้ว อายุ 660-720วัน ไซส์ 10ตัวต่อกิโล เลี้ยงในอ่างเก็บน้ำ
การเลี้ยงกุ้งจำนวนมาก
แนะนำอาหารเม็ดจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการเลี้ยง
ที่ศูนย์เรียนรู้ กุ้งก้ามแดง Yabby House
ถ้าเลี้ยงจำนวนมาก ในบ่อปูน บ่อผ้าใบ อ่างปูน กะบะพลาสติก
จะใช้อาหารเม็ดกุ้งก้ามแดง สูตรปลาป่น50% ผสมเทอร์โบโปรตีน50%
อาหารกุ้งก้ามแดง1กิโล ผสมเทอร์โบ โปรตีน สูตรปลาทะเล 100-200กรัม
หรือใช้อาหารกุ้งกุลาดำ ปลาป่น 10กว่า% กากถั่วเหลือง ข้าวโพด 20%
มาผสม เทอร์โบ โปรตีน ก็ได้
และต้องการขุนพ่อแม่พันธุ์ ใช้สูตร3 เทอร์ฺโบ โปรตีน อย่างเดียวเลย
ลูกกุ้งแรกเกิดกินอาหารเทอร์โบ แบบผง
ลูกกุ้งไซส์1cm-1.5นิ้ว กินอาหารลูกกุ้งเทอร์โบ โปรตีน
กุ้งไซส์ 1.5นิ้ว ขึ้นไปถึง10นิ้ว กินเทอร์โบ สูตร 3
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เค กุ้งก้ามแดง 087-0352033 093-0061220
ศูนย์เรียนรู้ กุ้งก้ามแดง Yabby House
อยู่ที่ ศูนย์อาหารบ้านสวนปาร์ม
ตรงข้าม ม.กรุงเทพ รังสิต
Wealth Creation
30 แนวคิดเปลี่ยนชีวิต ที่ต้องรู้ให้ได้ก่อนอายุ 30
"30 แนวคิดเปลี่ยนชีวิต ที่ต้องรู้ให้ได้ก่อนอายุ 30"
1. Don't settle -- อย่าใจง่าย
ด้วยความที่อายุยังน้อย หลายคนเป็นแบบนี้ครับ "อะไรก็ได้เอามาเถอะ" นิสัยนี้แหละตัวดี!..
เราทุกคนควรมีตัวกรองเป็นของตัวเอง อะไรที่ใช่ อะไรที่มีความสุข ถึงเลือก!..เพราะถ้ามันไม่ใช่แล้ว คนที่รับผิดชอบคือเราคนเดียวนะครับ
2. ครอบครัวมาเป็นอันดับแรก
3. เพื่อนที่ดีแม้เพียงคนเดียว ก็มีคุณค่ามากกว่าทองทั้งหมดบนโลกใบนี้
4. ชื่อเสียงมีผลต่อทุกสิ่งที่คุณทำ -- นิสัยบางนิสัยก็ทำให้บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ แต่ชื่อเสียงที่ดีจะทำให้ทุกคนยินดีเปิดรับคุณ พร้อมที่จะฟังคุณและมองข้ามข้อเสียบางเรื่องของคุณไป
5. อะไรคือสิ่งที่เจ๋งมากๆ จนคุณต้องการจะไปให้ถึง ต้องการจะเป็นอย่างนั้นให้ได้? ..คุณต้องหามันให้เจอ!
6. ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือ ดีที่สุด (ยกเว้นหนี้เพื่อสร้างสินทรัพย์)
7. ท่องเที่ยวให้บ่อยที่สุดที่จะทำได้
8. วางใจเป็นกลาง อคติไม่สามารถทำให้เรามีความสุขได้เลย
9. การตัดสินใจที่สำคัญ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเวลาที่สำคัญ เพระาฉะนั้นอย่าประมาท บางทีการตัดสินใจเล็กๆ ก็เปลี่ยนชีวิตเราได้
10. อย่าปล่อยให้ความคิดหรือคำพูดใครเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตเราได้ง่ายๆ
11. ถ้าหางานที่รักไม่เจอ ก็จงเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ทำ
12. จงลงทุนเพื่ออนาคตของตัวเองให้เร็วที่สุด
13. ถ้ารู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็เปลี่ยนซิ!.. อดทนไปทำไม อย่าปิดกั้นตัวเองและคนอื่น
14. หาคนที่สามารถพูดความจริงกับเราได้ในทุกเรื่องให้เจอ
15. ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุด
16. ใช้เงินให้เป็น จงเรียนรู้ที่จะหาเงินให้เก่งและใช้จ่ายอย่างฉลาด
17. ความคิดเห็นของคนอื่นก็เป็นเพียงความคิดเห็นนั่นแหละ เราต้องแยกแยะ!
18. ไม่มีหรอกความยุติธรรม หาวิธีมีความสุขกับสิ่งที่เรามีดีกว่านะ
19. จงยินดีกับสิ่งที่เรามี แต่ก็อย่าละทิ้งความทะเยอทะยานที่จะมีเพิ่มขึ้น เพื่อส่งต่อสิ่งที่ดีให้กับคนอื่น
20. เรียนรู้วิธีที่จะปล่อยวางบ้าง บางทีสิ่งๆ นั้นก็คงไม่ใช่ของเราจริงๆ
21. อย่าต่อราคามากเกินไป และก็อย่าจ่ายเต็มทุกครั้ง เราต้องเรียนรู้ที่จะมองคุณค่าของสิ่งๆ นั้น ผ่านสายตาคนอื่นบ้าง
22. อย่าจริงจังกับชีวิตมากเกินไป พักบ้าง เล่นบ้าง เอาจริงบ้าง เนี่ยแหละดี!
23. ประสบการณ์มันมีทั้งดีและไม่ดี แต่อย่าไปสนใจอะไรมากเลย เอาเป็นว่าเราเรียนรู้อะไรจากมันได้ นั่นก็เพียงพอแล้ว!
24. อย่าตัดสินใจตอนโกรธ มันไม่คุ้มหรอกนะ พูดจริง
25. อย่าอาย อย่ากลัวที่จะเรียกร้องในสิ่งที่เราคู่ควร -- อย่าดูถูกความสามารถของตัวเองซิ
26. เราไม่สามารถทำให้ทุกคนที่เราพบมีความสุขได้ เพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลากับสิ่งนี้มากเกินไป
27. เวลา คือ สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต
28. ความเมตตาและรอยยิ้ม จงเรียนรู้ที่จะให้สองสิ่งนี้กับทุกคน
29. เป็นตัวของตัวเองน่ะดีแล้ว แต่อย่าลืมดูกาลเทศะ
30. คำว่า "ไม่" ก็เป็นประโยคเหมือนกัน -- ถ้ารู้ว่าไม่ใช่ ก็ปฏิเสธไป อย่าซื้อเวลาเพราะเกรงใจ ถ้าปล่อยไว้นานเกิน มันก็จบไม่สวยทั้งคู่อยู่ดีนั่นแหละ
อ่านบทความ: http://bit.ly/2demPh4
เป้าหมายที่ดีเป็นอย่างไร - 12%UP - มงกุฎฑูตเชวง คุณชยางกูร
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
ประเภท
เบอร์โทรศัพท์
เว็บไซต์
ที่อยู่
89/26
Phisanulauk
65000
303 ซ. 3 ถ. ดำริพัฒนา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จ. พิษณุโลก รหัสไปรษณีย์
Phisanulauk, 65000
สร้างรายได้แบบไม่มีขีดจำกัดด้วยกาแฟ