วัดลำปางกลางตะวันออก

ทำบุญเปรตพลี ประจำปี 2566 อนุโมทนา ทุกท่านทุกคน

คำจารึกสร้างพระเจ้าดอกปันดวง วัดลำปางกลางตะวันออก

เป็นคนดี ที่ถูกใส่ร้าย
ดีกว่า ไปใส่ร้ายคนดี

เป็นคนดี ที่ถูกรังแก
ดีกว่า ไปรังแกคนดี

ทำความดี ให้คนอิจฉา
ดีกว่า ไปอิจฉาคนทำดี

เป็นคนดี ที่เขาว่าไม่ดี
ดีกว่า บอกว่าเป็นคนดี
แต่คอยตำหนิ ว่าแต่คนอื่น

อนุโมทนาเจ้าภาพโต๊ะเคียง วางของ จำนวน ๑๑๐ ตัว ไว้ใช้ในวัด และ ในชุมชน ตอนนี้ได้เจ้าภาพเพียงพอต่อความต้องการในการใช้แล้ว ขออนุโมทนาผู้มีส่วนร่วมถวายทานในครั้งนี้ทุกท่านทุกคน

โครงการ ธรรมะสัญจร ครั้งที่๒ ณ วัดสันปินไชย ศาลาดอน คณะสงฆ์ ตำบลชมพู เขต๑ เขต๒ เขต๓ พร้อมด้วยคณะศรัทธา ร่วมกันจัดขึ้น

บทความดีๆ

ธรรมะสัญจร ครั้งที่๑ ประจำปี ๒๕๖๖ ณ วัดลำปางกลางตะวันออก

เรียนเชิญ คณะศรัทธา ทุกท่าน ทุกคน ร่วมงาน ธรรมะสัญจร ครั้งที่ ๑ ปี ๒๕๖๖
วัน พฤหัสบดีที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. จัดโดยคณะสงฆ์ /คณะศรัทธาตำบลชมพู เขต ๑ ,เขต ๒,เขต๓ และหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลชมพู คณะศรัทธาวัดลำปางกลางตะวันออกทุกหลังคาเรือน เจ้าภาพ/ภายใต้ โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่านสามารถร่วมทำบุญโรงทาน/น้ำดื่ม/น้ำปานะถวายพระสงฆ์/สามเณร/ แด่ผู้ร่วมงาน/ขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่าน/สาธุ สาธุ สาธุ/

คณะสงฆ์ คณะศรัทธา วัดลำปางกลางตะวันตก วัดลำปางกลางตะวันออก ร่วมกันถวายเพลสามเณร นักเรียน โรงเรียนวิสิฐวิทยา วัดนางแล

คณะสงฆ์ตำบลชมพู เขต ๑ ,๒,๓ ร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "สำรวจและอนุรักษ์งานพุทธศิลป์ เพื่อการสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดลำปาง"
ระหว่างวันที่ 18 - 19 สิงหาคม 2566 ณ วัดกาศเมฆ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
โดยหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดลำปาง
มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

ทาน ศีล เมตตา ภาวนา
วันพระ เดือน ๑๐ ดับ
ปฎิบัติบูชา
เช้า
กลางวัน
เย็น

มอบทุนการศึกษา จำนวน 5ทุน จำนวน 4,500 บาท โรงเรียน แม่ลามาหลวง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย พ่อสามเณรเป็นตัวแทนมอบทุนในครั้งนี้

คณะสงฆ์ คณะศรัทธา ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพร ตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันแม่ แห่งชาติ 12 สิงหา 2566

จัดแต่งเตรียมสถานที่ ถวายเป็นพระราชกุศล 12 สิงหาคม พ.ศ.2566
ขอเชิญพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธา มาร่วมกันทำบุญตักบาตร เนื่องในวันแม่แห่งชาติ หรือ วันแม่ ของประเทศไทย ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กำหนดการเริ่มทำบุญตักบาตรในเวลา 08:00 น.
จำนวน พระภิกษุ สามเณร ๑๐ รูป รวมพระพุทธ

หมายเหตุ : มีข้าวต้ม น้ำชากาแฟ อาหารว่าง ไว้ให้บริการด้วยตนเอง
จัดในสถานที่ร่ม เผื่อสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

วันพระ เดือน ๑๐ แรม ๘ ค่ำ
ปฎิบัติบูชา ตามจารีต อันงดงาม ของบรรพบุรุษ ที่สืบต่อกันมา
ภาคเช้า ตักบาตร
ภาคบ่าย ฟังเทศน์
ภาคกลางคืน สวดมนต์
อนุโมทนาในบุญของทุกท่าน

คณะสงฆ์ คณะศรัทธา ตำบลชมพู ร่วมกัน ทอดผ้าป่า ทางการศึกษา โรงเรียนเหล่าป๋าป๋วย เขื่อนภูมิพล ถวายเทียน 9 วัด

ขึ้นชื่อว่า บุญ บัณฑิต ย่อมสรรญเสริญ และยินดีในการให้ทานเสมอ สุขใจในการให้ การแบ่งปัน

ประวัติชุมชนบ้านลำปางกลางตะวันออก
ประวัติวัดลำปางกลางตะวันออก
ประวัติชุมชนลำปางกลางตะวันออก เป็นชุมชนโบราณ ที่ตั้งขึ้นติดยาวริ่มฝั่งแม่น้ำวัง ฟากตะวันออก ไม่ปรากฏหลักฐานก่อตั้งชุมชน หรือตั้งวัด ในอดีต เป็นหมู่บ้านศุนย์กลางการค้าขาย ของทางเรือโบราณ
จากคำบอกเล่า ของ พระครูวิสาลกิตติคุณ (ศรีนวล กิตติวัณโณ) อดีตเจ้าอาวาส ได้รับคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ในอดีตเล่าสืบๆกันมา ว่า ในอดีต จะมีการตั้งเมือง เจ้าเมืองลำปางในสมัยนั้น จึ้งได้หาสถานที่ ตั้งเมืองจุดสำคัญ เลยได้ตกลงกันว่า เอาไก่ขาว มาตั้งไว้ ทำเป็นซุ้ม มีจ้อง หรือ ร่มกลาง โดยเลือก ไว้ ๓ ที่ คือ ลำปางหลวง ลำปางกลาง และ ในเมืองปัจจุบัน โดยมีข้อตกลงกล่าวว่า ถ้าไก่ ที่ไหน ขันก่อน ให้ ตั้งเมืองไว้ตรงนั้น ไก่ที่ตั้งไว้ในเมือง ขันก่อน จึงตั้งเมืองปัจจุบัน ไว้ตรงนั้น จากการบันทึกในหนังสือ ของอาจารย์ธวัชชัย ทำทอง ได้กล่าวถึงเป็นหลักฐานอ้างอิง ตำนานพระเจ้า ๕ พระองค์ ได้กล่าวถึงหมู่บ้านลำปางกลาง ใน พ.ศ.๒๓๐๗ ตำนานเชียงใหม่ ได้กล่าวถึง เจ้าฟ้าชายแก้ว และนายพ่อเรือน ถูกกลุ่มของ แสนพื้น น้อยธัมม์ และท้าวลิ้นก่าน ปองร้ายเอาชีวิต จึงได้หนี ไปเมืองแพร่ ระบุว่า กองกำลังของเจ้าฟ้าชายเมืองแก้ว ไปขอกำลัง ริพล จากเจ้าเมืองแพร่ จำนวน ๒๕๐ คน ได้ยกกองทัพมาถึงเมืองนครลำปาง เลียบฝั่งแม่น้ำวัง ฟากตะวันออก เมื่อมาถึง บ้านลำปางกลาง ตะวันออก แสนพื้น และน้อยธัมม์ ยกกองกำลังมาบรรจบรบกัน จนเป็นเหตุ ให้ นายพ่อเรือน ถูกปืนสีหนาด ในที่นั้น ปัจจุบัน คือหน้าวัดลำปางกลางตะวันออก ตรงกับการให้ข้อมูลจากบรรพบุรุษเล่าสืบ ว่ามีการรบที่บ้านลำปางกลาง
และการบันทึกท้ายธรรมของวัดลำปางกลางตะวันออก ของการอพยพของชาวเชียงแสน ในยุคสมัยของเจ้ากาวิละ เข้ามาสู่เมืองละคอร หรือลำปาง บางส่วนได้อพยพ ตั้งรกรากถิ่นฐานในชุมชนลำปางกลางตะวันออก เช่น ใน ปี พ.ศ.๒๓๔๙ พระอุปลัสสะ ภิกขุ ลุกอพยพจากเมืองเชียงแสน ได้มาจำพรรษา ณ วัดลำปางกลางตะวันออก หลังจากเหตุการณ์ เมืองเชียงแสนแตก เมื่อปี ๒๓๔๗ และจึงมี ท้าวคำฟู หรืออ้ายคำฟู จากเชียงแสน อพยพเข้ามาอยู่ด้วย อ้ายคำฟู หรือ ท้าวคำฟู ได้สร้างธรรม ถวาย ในยุค ครูบาเจ้า มณีวรรณ ในบันทึกท้ายธรรม เช่น มณีวัณ รัสสะ ภิกขุ เขียน เมือ จศ ๑๑๘๘ ตรงกับ พ.ศ.๒๓๖๙ ท้าวคำฟู หรือ อ้ายคำฟู เป็นต้นตระกูล บรรพบุรุษ สายคำฟู จนถึง ยุค พ่อหน้อยโล้ะ สายคำฟู
ลำปางกลาง (ก้อม) หรือบ้านก้อม น่าจะมีมานาน จะมีชื่อเรียกมาในอดีต จากบันทึกท้ายธรรม ของครูบาเจ้ามณีวรรณ ได้กล่าวถึง ไว้เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๓๙๘ ว่า ตัวแห่งข้า มณีวัณรัสสะ ภิกขุ ป๋างเมื่อ เข้าปริวาสกรรม เขียน ที่ ธาตุน้อย บ้านก้อม จากคำบอกเล่า พ่อตั๋น ซาวสืบ ในอดีต เคยมีธาตุน้อย อยู่บ้านก้อม สร้างริมฝั่ง แม่นำวัง ติดกับ ลำปางลิเวอลอดจ์ ในปัจจุบัน ต่อมาได้ถูกน้ำแม่วังพัดจมลงไป หลังจากแม่น้ำวังเปลี่ยนทิศ

ชุมชนลำปางกลางตะวันออก อดีตเคยเป็นจุดศูนย์กลาง ของการค้าขายทางเรือโบราณ แล้วถ่ายสินค้า ทางเกวียนเข้าสู่ในตัวเมืองลำปาง โดยบันทึกท้ายธรรมใบลาน ของวัดได้กล่าวถึง เมื่อปี ๒๔๐๒ เจ้าหลวงลำปาง ได้นำช้างส่งไปเมืองบากกอก จำนวน ๒ เชือกในอดีต จะมีท่าเรือ โดย ตามูล ยางสาย และ ลุงหน้อยมี กันทะมูล ให้ข้อมูล ว่า อดีต จะมีเจ้าของท่าเรือ ส่ง สินค้า ขึ้นสินค้าไปบางกอก ปากน้ำโพ เช่น ท่า พระยาอินตะ และ ท่า พระยาธัมมกิตติ และ เจ๊กต้น กงไถ แป๊ะหก แม่เฒ่าตุ่น แซ่ห่าน จะมีคนจีน เข้ามาอาศัยค้าขาย ส่งสินค้า ในอดีต เช่น ต้นตระกูล แม่เลี้ยงทองคำ สุวรรณนิชกุล แม่ฮวย ตันสุวรรณ ต้น ตระกูล แซ่ห่าน เป็นต้น ต่อมาการค้าขายทางเรือได้เปลี่ยนไป เมื่อ ได้สร้างทางรถไฟ มาจนถึงที่สถานีลำปาง จึงได้มีการอพยพการค้าขาย เข้าไปสู่ในเมืองลำปาง
การถ่อเรือไปปากน้ำโพ บากกอก ยุคสุดท้าย มีพ่อเฒ่าหนานอุต วงศ์ศาลา และ พ่อเฒ่าหนุก คำมาก ต่อมาในยุครัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่๖ ได้สร้างทางรถไฟ ทำให้การส่งสินค้าง่ายขึ้น คนจีน และคหบดี หลายท่านจึงอพยพไปตั้งถิ่นฐานในเมือง หลายท่าน เช่น ต้นตระกูล แม่เฒ่าตุ่น แซ่ห่าน ตั้งอยู่กาดกองต้า ปัจจุบัน เป็นบ้าน จักรสิงห์ ในปัจจุบัน และฝั่งตะวันตก มีแม่โต้ย จิวะสันติการ ตั้งรกรากถิ่นฐาน สถานนีรถไฟ ในปัจจุบัน และ แม่ฮวย ตันสุวรณ แม่จันทร์คำ จตุกูลสันติสิน โรงแรมเอเชีย ในปัจจุบัน และร้านเปรมจิต เป็นต้น
และในอดีตบ้านลำปางกลาง เป็นจุดศูนย์รวม เคลื่อนขบวน ของเจ้าหลวงลำปาง และ ศรัทธา หลายที่ จะมารวมตัว ด้านหลังวัดและในวัด เพราะในอดีต จะมีต้นโพธิ์ ๒ ต้น ใหญ่ เป็นร่มเงา ให้คนมาพัก ศูนย์รวม โดยการบอกเล่า เจ้าหลวงในอดีต จะแวะกราบครูบามณีวรรณ ก่อนไปนมัสการพระธาตุลำปางหลวง อยู่เสมอ (จากคำบอกเล่า พ่อหนานตัน แก้วคำดี เล่า สู่ พ่อหนานเขียน แก้วแพร่) โดยคำบอกเล่า ถนนด้านใต้ของวัด ในปัจจุบัน อดีตเรียกว่า กองช้าง เพราะเป็นถนน ช้างเดินของเจ้าหลวงลำปาง เพื่อไปนมัสการพระธาตุลำปางหลวงในอดีต เพื่อข้ามน้ำหลังวัดไปวัดพระธาตุลำปางหลวงเสมอ จาการบันทึกท้ายธรรมใบลานยะมะคัมภีร์ เขียนเมื่อปี ๒๔๕๒ เสด็จแล้วลงสู่ค่ำ จะลาลับ สามเณรต๋นหน้อยชื่อปัญญา เขียนป๋างเมื่อปฎิบัติ ครูบาธนัญไชย วัดลำปางกลางหล่ายวันออก น้ำวังที่คนไหลชุม เก๊าศรีใหญ่ คนมาพักยั้งจอด เป็นที่จุมคนหุมทุกวันค่ำเช้า แลนายเหย

ลำดับการปกครอง ของชุมชน บ้านลำปางกลางตะวันออก เท่าที่ทราบนาม ระบุท้ายธรรมใบลาน ของวัด การปกครองในอดีต จะปกครองดูแล ถึง บ้านฟ่อน บ้านต้า ชมพูหลวง และ ลำปางกลาง ต่อมาในยุคสมัย พ่ออิ่นแก้ว เครือนวล ได้แบ่งเขต เป็นดูแล เฉพาะบ้านลำปางกลาง ที่เดียว
๑ อ้ายคำฟู หรือ ท้าวคำฟู อพยพลุกมาจากเชียงแสน ยุคสมัยเจ้ากาวิละ เป็นต้นตระกูล บรรพบุรุษ สายคำฟู จนถึง ปัจจุบัน ในธรรมใบลาน กล่าวถึง สุตันตะปิฎก จ.ศ.๑๒๐๘ ตรงกับ พ.ศ.๒๓๘๙ ปีรวายสง้า เดือน ๑๑ แรม ๘ ค่ำ วัน ๕ ไทย ลิขิตแล้ว มณีวรรณ ภิกขุ อัตโน โชตะกะ หื้อ อ้ายคำฟู ถวายเป็นตาน
๒ แสนเทพ เป็นบุคคคล กล่าวถึง ยุค ครูบามณีวรรณ ถวายธรรม ไว้จำนวนหนึ่ง การบันทึก เช่น ปู่แสนเทพ เป็นเก๊า ภริยาลูกเต้าได้สร้างธรรมไว้โชตะกะ ขอสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นยอด จ.ศ ๑๒๐๙ พ.ศ ๒๓๙๐ มณีวรรณ ภิกขุ ลิขิต เดือน ๑๑ แรม ๓ค่ำ ปีเมืองเม็ด
๓ พระยาอินต๊ะราชา หรือ ท้าวอินต๊ะ เป็นเจ้าของท่าเรือ สมัยโบราณ เป็นผู้มีอิทธิพลมากในสมัยนั้น เป็นผู้สร้างธรรมาสน์หลวง และ อาสนา และ เขียนธรรม ตานธรรม ไว้กับวัด จำนวนมาก ที่ได้กล่าวถึง จารึกการสร้างธรรมมาสน์หลวง จ.ศ.๑๒๒๗ พ.ศ.๒๔๐๘ ปีดับเปล้าเดือน ๗ ดับ วันจันทร์ไทย ท้าวอินต๊ะราชา พร้อมภริยา ลูกเต้า มีเจตนาสร้าง ธรรมมาสน์ จองสัง สร้างธรรมชะตา เป็นตาน เสี้ยงคำ ๘,๖๐๐ แผ่น เป็นเงิน ๒๐๐ แถบ หาง ๕แถบ รัก ๗ แถบ แก้ว ๘๐ แถบ สังรวมกัน ๒๙๒ แถบ
๓ พระยาธรรมกิตติ (หน้อยดวงแก้ว) เป็นเจ้าของท่าเรือ สมัยโบราณ เป็นบุคคลสำคัญ ที่เขียนธรรม ถวายธรรมไว้กับวัด จำนวนมากอีกท่านหนึ่ง เป็นต้นตระกูล แก้วคำดี สืบมาถึงปัจจุบัน การบันถึงสร้างธรรมถวาย เช่น อานิสงค์ บังสุกุล อหัง นามะ ขัตติยะภิกขุ พระยาธรรรมกิตติยศ สร้างไว้ จ.ศ.๑๒๔๐ พ.ศ.๒๔๒๑
๔ แสนธนัญชัย บันทึกธรรมใบลาน ปู่แสนธนัญชัย เป็นเก๊า พร้อมภริยาลูกเต้า บ้านลำปางกลางตะวันออก จ.ศ.๑๒๕๗ พ.ศ.๒๔๓๘
๕.ท้าวเมืองบุญ หรือ พระยาไชยชนะ บันทึกท้ายธรรม จันทะกุมาร ปฐะมะมูลศรัทธา ท้าวเมืองบุญ เป็นเคล้า พร้อมภริยา ชื่อ จันแก้ว สร้างไว้ ศาสนา บ้านลำปางกลางตะวันออก ๑๒๗๐ พ.ศ.๒๔๕๑

๖ ท้าวอุตมะ เป็นต้นตระกูล อุตมะ การบันทึกท้ายธรรม ปฐมะมูลศรัทธา ท้าวอุตมะ เป็นเคล้า พร้อมลุกเต้าพ่อแม่พี่น้องได้สร้างไว้กับวัดลำปางกลางตะวันออก ใน จ.ศ.๑๒๘๔ พ.ศ.๒๔๖๕ ปีเมืองเหม้า เดือน ๔ แรม ๑๒ ค่ำ เม็งวัน๑ไทย ร้วงเหม้า ยามแถรใกล้เที่ยง
๗ หมื่นอนันต์นิกร หรือ พ่อแก่จุ้ม อุตมะ เป็น บรรพบุรุษ สาย ป้ากาญจนา สายทอง ปกครองในยุคสมัย ครูบากันทะวงศ์
๘ พ่อหลวงหน้อยนวล เครือนวล ปกครอง ในช่วงระยะเวลาอันสั้น ไม่ถึง ๑ ปี จากคำบอกเล่า ของ ตาเสาร์ แก้วคำดี
๙ ผู้ใหญ่วงศ์ อุตมะ หรือ แก่ วงศ์ เป็นบุคคล ผู้มีบทบาท อีกคนของหมู่บ้าน ปกครองมาจนถึง ปี ๒๕๑๙
๑๐ ผู้ใหญ่อิ่นแก้ว เครือนวล ปกครองเฉพาะในบ้านลำปางกลาง หลังเปลี่ยนเป็น หมู่ที่ ๑๑
๑๑ ผู้ใหญ่ประมวล แก้วบ้าง
๑๒ ผู้ใหญ่ประเสริฐ คำมาก
๑๓ ผู้ใหญ่ศรีมา แก้วปันกูล
๑๔ ผู้ใหญ่สมพร สลีวงศ์
๑๕ นายไพบูลย์ โพธิ์ทอง ต่อมาเปลี่ยนการปกครองจากผู้ใหญ่บ้าน เป็นประธานชุมมชน
๑๖ นายเฉลิมชัย ชูสุวรรณ
๑๗ นายบุญมี มณีแก้ว
๑๘ นายรัตน์ คำมูลตา ปัจจุบัน

รายนาม พ่ออาจารย์วัด ในอดีต เท่าที่ทราบนาม
๑ พ่อหนานจุมปู คนบ้านชมพูหลวง มีภรรยา อยู่บ้านลำปางกลาง บรรพบุรุษ สาย ป้าเตียง สองเมือง
๒ พ่อหนานคันธิยะ คนบ้านศาลา มีภรรยาอยู่บ้านลำปางกลาง (ยุคครูบาธนัญชัย)
๓ พ่อหนาน ปัญญา ปิ๋ว
๔ พ่อหนานอุต วงศ์ศาลา บรรพบุรุษ สาย ป้าลัย สายวงศ์ปัญญา
๕พ่อเฒ่าหนานใจ ยาพุฒสืบ
๖ พ่อหนานคำ แปงกาใส
๗ พ่อหนานตัน แก้วคำดี
๘พ่อหนานเขียน แก้วแพร่ ถึงปัจจุบัน

สิกฺขาสโภ ภิกขุ เรียบเรียงไว้ ตามปัญญาอันน้อย

ประวัติวัดลำปางกลาง (ตะวันออก)
ประวัติวัดลำปางกลางตะวันออก เป็นชุมชนโบราณ ที่ตั้งขึ้นติดยาวริ่มฝั่งแม่น้ำวัง ฟากตะวันออก ไม่ปรากฏหลักฐานก่อตั้งชุมชน หรือตั้งวัด ตามหนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร ได้กล่าวบันทึกว่า วัดลำปางกลางสร้างเมื่อปี ๒๒๖๓ ตั้งอยู่ เลขที่ ๓๕๕ ม๑๑ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีคณะศรัทธาอุปถัมภ์ ประมาณ ๔๐๐ หลังคาเรือน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี ๒๕๐๒ มีเนื้อที่ พื้นที่ ของวัดจำนวน ๔ ไร่ ๓ งาน ในอดีต เป็นหมู่บ้านศุนย์กลางการค้าขาย ของทางเรือโบราณ
จากคำบอกเล่า เดิมที ลำปางกลาง ฝั่งตะวันตก และ ฝั่งตะวันออก มีวัดเดิม อาศัยร่วมกัน คือวัดดอกพร้าว ต่อมาแม่น้ำวังได้เปลี่ยนทิศ ทำให้ แม่น้ำวัง ได้กัดเซาะ ตลิ่ง พัง จนถึงเขต วัดดอกพร้าว พระสงฆ์ และศรัทธาในสมัยนั้น จึงได้แยกย้ายไปก่อสร้างวัดใหม่ อีกฝั่งหนึ่งของทางวัดดอกพร้าว ได้ตั้งชื่อวัดลำปางกลาง ในยุคสมัย ของครูบาเจ้ามณีวรรณ เขียนธรรมไว้ จะเขียนกล่าวเพียงชื่อ วัดลำปางกลาง หางเมืองนคร ตามจารึกในท้ายธรรม หลายๆผูก กล่าวชื่อวัด เช่น ศัพท์สูตรบั้ง ลิขิตเมื่อ อยู่ ลำปางคะมัชฌะ คามะวาสี เมืองนคร ไชยบุรี แล มณีวรรณโณ ภิกขุ ลิขิตไว้ เมื่อ จ.ศ ๑๑๘๘ แล และยังมี หลายผูกกล่าว เช่น เวสสันตะระ รอม ฉบับหนองควายเชียงใหม่ ธัมมะปัญญา สามเณร เขียน เมื่อ จศ ๑๑๘๙ ตรงกับ พ.ศ.๒๓๗๐ เมื่ออยู่ ปฎิบัติ ครูบาหลวงมณีวรรณ ลำปางกลางแก้วกว้างท่าข้ามกลางเมืองวันนั้นแล และอีกผูกหนึ่งเขียน พุฒิมา ภิกขุ เขียน มิลินทะปัญหา จศ ๑๑๗๔ พ.ศ.๒๓๕๕ ข้าเขียน เมื่องครั้งปฎิบัติ ครูบาเจ้ามณีวรรณ ลำปางกลางแก้วกว้าง ท่าข้ามแล และ ธรรมราช ภิกขุ ลิขิตใน จ.ศ.๑๒๓๙ ปางเมื่อปฎิบัติ ครูบาราชครูเจ้าหลวงมณีวรรณ ลำปางกลาง ท่าข้าม นครไชยบุรี (วัดดอกพร้าวเดิม อยู่ในเขต บ้านลำปางกลางตะวันตก ปัจจุบันมียังมีศาล และต้นโพธิ์ อยู่) ที่ชาวบ้านนับถืออยู่ วัดลำปางกลางในอดีต ได้เริ่มก่อสร้างวิหารหลังแรก ในยุคครูบาเจ้า มณีวรรรณ และพระประธานในวิหาร โดยเป็นวิหารโล่ง แบบ พระธาตุลำปางหลวง ปัจจุบัน ยังเหลือ วิหารน้อย จำลอง ต่อมาได้มีการรื้อถอน วิหารหลังเดิม ในยุคของครูบากันทะวงศ์ (ตี้) หลังจากครูบากันทะวงศ์ มรณภาพ ในปี ๒๔๘๔ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ ครูบาเจ้าอภิชัย ขาวปี มาก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จ โดยใช้งบประมาณสร้าง ๕๐๐ บาท ในสมัยนั้น ปัจจุบัน ยังคงเหลือ นาคฑัณ วิหารหลังเดิม ยุค ครูบาเจ้ามณีวรรณ คงเหลืออยู่ ต่อมาในปี ๒๕๑๕ ได้ทำการรื้อถอน พระวิหารหลังเดิม โดย พระครูวิสาลกิตติคุณ ( ศรีนวล กิตติวัณโณ )เป็นประธานนำสร้าง มี หลวงพ่อเกษม เขมโก และ หลวง พ่อเมือง อุตโม วัดท่าแหน เป็นผู้อุปถัมภ์ และศรัทธา ร่วมกันอุปถัมภ์ สมัยนั้น และได้ทำการฉลอง ผูกพัทธสีมา เมื่อ วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓
ลำดับการปกครองคณะสงฆ์
ในยุคแรกการก่อตั้งวัดลำปางกลางตะวันออก ระบบการปกครอง คณะสงฆ์ ในอดีต เป็นระบบหัวเมืองในล้านนา กล่าวคือ แต่ละหัวเมืองจะมีพระมหาเถระได้รับการยกย่อง สถาปานาขึ้นเป็น สังฆะราชา หัวเมือง และ ราชครู เมือง ในอดีต รวมทั้งพระสายป่า อรัญญวาสี และ คามวาสี สายบ้าน และในช่วงเวลานั้น ได้ปรากฏคือ ครูสืบสายในลำปางมา แต่อดีต เช่น ครูบาสังฆะราชา นาระทะ วัดพระธาตุลำปางหลวง ครูบาสมเด็จวังช้าง วัดบ้านหลุก ครูบามหาป่าสุริยาสังฆะราชา วัดป่าตันกุมเมือง ครูบามหาเถรเจ้าหลวง ญาณสมุทร วัดศาลาหลวง ครูบาสังฆราชาจินา วัดแสงเมืองมา ครูบามหาป่าเจ้าเทวะ วัดท่าผา ครูบามหาราชครูเจ้ามณีวัณ วัดลำปางกลางตะวันออก ครูบามหาราชครูหลวงคัมภีระ วัดชมพูหลวง โดยได้รับบันทึกครูบาแต่ละท่านที่กล่าวถึงนั้น สืบสายมาจาก ครูบาเก๊า คือ ครูบามหาป่าเจ้าเกสระปัญโญ เสลารัญญะวาสี ครูบาแห่งวัดไหล่หินหลวง ซึ่งเป็นบรมครูในสายวัตรปฎิบัติแห่งคณะสงฆ์ เมืองลำปางในสมัยโบราณ และสืบทอดมา มาจนถึง ครูบาอาโนชัย วัดปงสนุกด้านเหนือ
ลำดับนามเจ้าอาวาสวัดลำปางกลางตะวันออก

๑.ครูบามหาราชครูเจ้ามณีวรรณ จาการสำรวจคัมภีร์ใบลานของวัดลำปางกลางนั้น น่าจะเป็นปฐมเจ้าอาวาสรูปแรก ของวัดลำปางกลางตะวันออก ปรากฏนาม ของท่าน ตั้งแต่ ปี ๒๓๔๐ ถึง ๒๔๒๒ ในบันทึกท้ายลาน จะเป็นการยกย่อง ครูบาเจ้า ตลอดเสมอมา เช่นมโหสถชาดก ผูกนี้ ตัวบ่องามสักน้อย ข้าเขียนป๋างเมือปฎิบัติครูบาหลวงเจ้ามณีวัณ วัดลำปางกลาง แลนายเหย และ เทพรังสี ภิกขุ ลิขิต จ.ศ.๑๒๓๓ พ.ศ. ๒๔๑๔ ค้ำชู ครูบาเจ้ามณีวรรณ ป๋างเมื่อเข้าปาริวาสกัม กับครูบาเจ้าวันนั้นแล ครูบาจะใช้คำนำหน้า ของตัวเองคือ มณีวัณรัสสะ ภิกขุ เช่น จศ.๑๑๘๕ พ.ศ.๒๓๖๖เขียนกองวิปัสสนากัมมัฐฐานขึ้นป๋าง เมื่อ เข้าปริวาสกรรม วัดป่าตันกุมเมือง ในปีสร้างพระธาตุวัดป่าตันกุมเมือง ร่วมกับ ครูบาญาณสมุทร วัดศาลาหลวง ครูบามหาป่าเทวะ วัดท่าผา ครูบามหาป่าสุริยา วัดป่าตันกุมเมือง ครูบาได้รับยกย่องเป็นราชครู เมืองลำปาง โดยการบันทึกกล่าวถึง ของพระครูศรีวิลาสวชิรปัญญา วัดราชคฤห จังหวัดพะเยา ได้กล่าวว่า ครูบาโน วัดปงสนุก ได้บอกครูกัมมัฐฐาน สืบต่อกันมา ตามลำดับ ครูบามหาป่าเทวะ วัดท่าผา ครูบาราชครูหลวงมณีวรรณ วัดลำปางกลาง ครูบาปินตา วัดนาก่วมใต้ ครูบาชินา วัดแสงเมืองมา ครูบาปัญญา วัดศรีล้อม ครูบาอโนชัยจินดามุนี วัดปงสนุกเหนือ จนถึง พระครูศรีวิลาสวชิระปัญญา วัดราชคฤห เมือง พะเยา ในยุคสมัยครูบา มีลูกศิษย์ หลายรูป ที่เข้ามาเรียน บาลีเมือง วิปัสสนา กองกัมมัฐฐาน เช่น ครูบาไชยลังกา ครูบาธัมมะลังกา วัดนาคตหลวงเป็นต้น ครูบาน่าจะมีอายุยืน พอสมควร โดย บันทึกท้ายธรรมจนถึง ๒๔๒๒ ที่กล่าวถึงครูบา ครูบามณีวรรณในอดีต เจ้าหลวงลำปางอุปถัมภ์ โดยให้ความเคารพครูบา เจ้าหลวงแวะไปนมัสการพระธาตุลำปางหลวง จะเสด็จลงมาไหว้ ครูบาเสมอ ในยุคของครูบามณีวรรณเป็นยุคปราชญ์ในล้านนา เกี่ยวกับวิปัสสนากัมมัฐฐาน บาลี เมือง ในอดีต

๒ ครูบาธรรมราช ๒๔๒๕ ไม่ปรากฏจนถึงช่วงระยะเวลาไหน เข้ามาปกครองวัดสืบต่อจาก ครูบาเจ้ามณีวรรณ โดยการกล่าวถึง ครูบาไม่มากนัก เป็นช่วงระยะเวาลาอันสั้น เช่น ธรรมสังฆวัฒนะ สุริยา ภิกขุ ลิขิต ป่างเมือปฎิบัติสวาธุเจ้าธรรมราช วัดลำปางกลาง จ.ศ.๑๒๔๓ พ.ศ.๒๔๒๔ ปัจจุบัน ธรรมผูกนี้ อยู่วัดพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดตาก โดยการคมนาคม ทางเรือ การยืมธรรม ไปเทศน์ไปเขียนคัดลอก ของคนใอดีต สำรวจโดย ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย สนั่น ธรรมธิ ปี ๒๕๒๕ ครูบาปกครองวัดช่วงระยะเวลาอันสั้น

๓ ครูบาเจ้าธนัญชัย (จันทร์) เป็นบุตรของ พ่อเฒ่าตา แม่เฒ่ามูล เป็นหลาน ของพระยาไชยชนะ ครูบาปกครองวัดต่อจากครูบาธรรมราช ในช่วง พ.ศ. ๒๔๓๐ จนถึง ๒๔๗๐ ที่ได้กล่าวถึงครูบา ครูบาได้ก่อสร้างหอธรรม หลังที่๒ และได้นำพระธาตุ ที่ขุดได้จากพระธาตุเก่า มาเก็บรักษา และได้ก่อสร้าง พระพุทธรูปไกรสรดอกไม้พันดวง เพื่อเป็นการอุทิศไว้ในพระพุทธศาสนา ในยุคสมัยนั้น มีการเขียนธรรมไว้จำนวนมาก ทั้งครูบาเขียนเอง หรือกลุ่มพระเณร และ คณะศรัทธาปราชญ์เขียน คำชูยกยอครูบา หลายท่าน ยุคของครูบา มีพระภิกษุ สามเณร จำนวนมาก เช่น การบันทึก ธนัญชัยภิกขุ ลิขิต ป๋างเมื่ออายุครูบาได้ ๗๔ ปี พ.ศ.๒๔๖๔ ปีนั้น อันเตวาสิก ภิกขุ มี ๙ ต๋น เณร มี ๒๔ ต๋น ธรรมป๋าระมีพันชั้น เขียนป๋างเมื่อปฎิบัตติ ครูบาเจ้าธนัญชัย วัดลลำปางกลางหล่ายวันออก เมืองนครไชย ที่น้ำไหลดั้นกำแพงและอิฐ ปีนี้น้ำแม่วัง นองนักหลายได้ซัดกำแพงด้านนอก จมลงกับน้ำในปีนั้นแล ปี ๒๔๕๐ สอดคล้อง กับคำบอกเล่าของลุงหน้อยมี กันทะมูล ว่าในอดีตวัดมีกำแพง ๒ชั้น ปัจจุบันอยู่กลางแม่น้ำวัง ในปัจจุบัน

๔ ครูบาคันธวงศ์ หรือ กันทวงศ์ (ตี้) ครูบาร่วมกับอันเตวาสิกใน ครูบาธนัญชัย ต่อมาครูบาธนัญชัยมรณภาพ จึงได้รับภาระเป็นเจ้าอาวาสสืบมา ครูบาเป็น ลูก ของพระยาสุภา หรือท้าวสุข บ้านศาลา ครูบาเป็นหมอยา สมุนไพร ทำยาธาตุต่างๆ มีผู้คนหลั่งไหลมารักษากับครูบามากในอดีต ได้สร้างศาลาบาตร ข้างวิหาร โฮงหลวง หลังที่ ๒ ของวัด ครูบามรณะภาพ ในปี ๒๔๘๔ และได้ทำการ ประชุมเพลิง เกาะกลาง แม่น้ำวัง ในเดิอน๓ ขึ้น๕ค่ำ วัน ๗ ไทย ปี ๒๔๘๕ ครูบาเป็นสหธรรมิกกับ ครูบาไชยวงศ์ วัดพรมพิราม หนามปู่ย่า แม่ทะ ตามบันทึกใบลาน ของวัด จ.ศ.ได้ ๑๒๘๘ ปีรวายยี เดือน๑๒ แรม๑๒ ค่ำ เวลายามกองงาย จึงเขียนแล้วแล เขียนธรรมผูกนี้ แล้งเต็มที ฝนกะบ่าตก น้ำแม่ปูนกะบ่านอง คนหนีไปอยู่เชียงแสน เชียงราย กะนักเต็มที และนายเหย
๕ ตุ๊เจ้าคำ พระคำ มาจากเมืองน่าน เป็นช่วงระยะเวลาอันสั้น โดยการรบันทึกของ พ่อหนานมี เปาปวง ว่า เขียนธรรมผูกนี้ หื้อนางเฮือนแก้ว บ้านก้อม จศ.๑๓๐๗ พ.ศ.๒๔๘๘ ปีนี้ ตุ๊เจ้าคำลุกจากเมืองน่าน มาอยู่ ลำปางกลางแล ตรงกับ ลุงหน้อยมี และ พ่อหนานขียน หื้อข้อมูล ว่า ตุ๊เจ้าคำ มาอยู่ได้ ๒ ปี ลวดกลับเมืองน่าน ศรัทธาได้ลวดเป๊กตุ๊เจ้าเส้า จากเณร เป็นพระ (( พ่อหนานเส้า แก้วปันกุล ) ในปี ๒๔๙๐ พร้อมกับ พ่อหนานจันทร์ แก้วแพร่

๖ เจ้าอธิการเส้า อุตรธัมโม ๒๔๙๐ ถึง ๒๕๐๖ อดีตเจ้าคณะตำบลชมพู ต่อมาได้ลาสิกขามีครอบครัวอยู่บ้านฟ่อน ยุคสมัยพ่อหนานเส้า เป็นเจ้าอาวาสได้สร้าง กำแพง และศาลาบาตร โรงเรียน อุตรธัมโม ประชาราษรังสรรค์ ถนนไปปากทางปัจจุบัน สุสานป่าช้า ในปัจจุบัน และโฮงหลวง โดยได้รับการอุปถัมภ์ จากพ่อเลี้ยงบ่น แม่คำปัน ต้นประทุม พ่อหนานเขียนเล่าว่า การก่อสร้างวัด ยุคนั้นสบาย ขาดเหลือ พ่อเลี้ยงบ่น จะอุปถัมภ์ ดูแล เสมอ จึงทำให้เจริญรุ่งเรือง อีกยุคหนึ่ง ในสมัยนั้น ถึงขั้นที่ว่า ใช้เงินชั่ง แทน การนับแทน ให้วัด ในการก่อสร้าง

๗ พระครูวิสาลกิตติคุณ (ศรีนวล กิตติวัณโณ) อดีตเจ้าคณะตำบลชมพู เขต ๑ ได้รับ การแต่งตั้งดูแลแป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี ๒๕๐๖ ถึง ปี ๒๕๕๐ ได้ทำการก่อสร้าง ศาลา หอธรรมหลังปัจจุบัน พระวิหาร หลังปัจจุบัน หอระฆัง กุฎิสงฆ์ หลังปัจจุบัน ศาลาโรงครัว ห้องน้ำ ศาลาบาตร ได้ปกครองวัดมายาวนาน เรียบร้อยด้วยดีเสมอมา เป็นบุคคลสำคัญ ในชุมชน หมู่บ้าน ตุ๊ลุง ได้ถึง การมรณภาพ เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๐ และทำการพระราชทานเพลิงศพ ลานหน้าวัด วัน ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๑

๘ เจ้าอธิการวรรณ สิกขาสโภ เจ้าคณะตำบลชมพูเขต ๑ ได้รับดำรงตำแหน่ง ปกครองดูแลวัด ตั้งแต่ ๒๕๕๐ ถึง ปัจจุบัน

สิกฺขาสโภ ภิกฺขุ เรียบเรียง ตามปัญญาอันน้อย

กิจกรรม วันอาสาฬหบูชา ประจำปี ๒๕๖๖ วัดลำปางกลางตะวันออก
๑ ภาคเช้า ทำบุญตักบาตร ถวายเทียนพรรษา ผู้สูงอายุ แห่พระเจ้าแก้วลำปางกลาง ที่ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันสร้างถวาย แห่โล่ห์ รางวัล วัดพัฒนาตัวอย่าง
๒ ภาคบ่าย ฟังเทศน์ ในพรรษา ตามประเพณี ตามจารีต บรรพชน
๓ ภาคกลางคืน สวดมนต์ ไหว้พระ เวียนเทียน
๔ มอบสนับสนุน ทุนการศึกษา ให้สามเณร เด็กวัด ตามกำลัง วาระ และ โอกาส

วัดลำปางกลางตะวันออก เข้ารับประทาน โล่ห์ วัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทน สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ ประทานมอบ
ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพ

งานทำบุญสลากภัตร ในอดีต

งานปอยหลวง ผูกพัทสีมา วิหาร ปี 2523

ผลการคัดเลือกวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น​ วัดพัฒนาตัวอย่าง​ และอุทยานการศึกษาในวัด​ ประจำปี​ 2566 สำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ
วัดลำปางกลาง ได้รับคัดเลือก เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี 2566 ในลำดับที่ 27

ยามฝนตก วัดลำปางกลาง
ฟ้าหลังฝน

การให้ไม่มี ที่สิ้นสุด มีก็ให้ ได้ก็แบ่งปัน การให้ไม่มีที่สิ้นสุด
แม่ลามาหลวง สบเมย แม่ฮ่องสอน

ร่วมกินร่วมตาน ตวยกันเน้อ

เรียนเชิญ ทุกท่าน ทุกคนเน้อ กินตานหยาดน้ำ ปอยหลวงวิหาร

องค์ความรู้ ถ่ายทอดผ่านคัมภีร์ใบลาน ของวัด บอกบุคคล สำคัญ ความเป็นไปเป็นมา และ ประวัติในชุมชนได้เป็นอย่างดี จากการบันทึกท้ายธรรมคัมภีร์ใบลานจำนวน 3,000กว่าผูก

วันพระ เดือน ๑๒ แรม ๘ ค่ำ
ปฎิบัติบูชา ตามจารีต อันงดงาม ของบรรพบุรุษ ที่สืบต่อกันมา

พระวิหารหลังเดิม สร้างโดยครูบาขาวปี ไม่ระบุ ปี พ.ศ.สร้าง แต่รื้อ สร้างใหม่ ในปี ๒๕๑๕ วิหารหลังนี้ครูบาขาวปีสร้าง เป็นหลังที่๒ ทดแทนหลังเดิม ที่เป็นวิหารโล่ง น่าจะสร้างหลังจากครูบากันทวงศ์ (ตี้) มรณะภาพแล้ว

ภาพโฮงหลังเก่า สร้างเมื่อปี 2492 โดยสล่า จากในเมือง มาจากในเวียง มาแป๋งบ้าน โกบ่น ก่อน แล้วมาทำโฮงหลังนี้ มีโกบ่น แม่คำปัน เป็นเจ้าภาพสร้างถวาย ในยุคสมัย พ่อหนานเส้า เป็นเจ้าอาวาส
ข้อ มูลจาก พ่อตั๋น ซาวสืบ เล่า หื้อฟัง

โกบ่น พ่อหนานเส้า ผู้มีคุณูปการการ อีกท่านหนึ่ง สร้างกุฎิ ศาลาบาตร กำแพง 4 ด้าน ถนนไปปากทาง ในปัจจุบัน โรงเรียนหน้าวัด อุตรธัมโม ประชาราชรังสรรค์ สุสาน ป่าช้านอก ในปัจจุบัน
ข้อมูล จาก พ่อหนานเขียน แก้วแพร่ เล่าหื้อฟัง

กิจกรรม วันพระ ในพรรษา ปี 2565
ช่วงเช้า ทำบุญใส่บาตร
ช่วงบ่ายฟังเทศน์
กลางคืน สวดมนต์
ประเพณี สืบทอดกันมา แต่งบรรพบุรุษ ไม่สืบทอด ก็สาบสูญ

ลำปางกลางในอดีต

งานถวายห้องน้ำ ทำบุญเปรตพลี ประจำปี ๒๕๖๕

หลังจากบูรณะซ่อมแซม ปัจจุบันพร้อมปฏิบัติกิจกรรมแล้ว

📢ประกาศบุญใหญ่บุญหลวง📢
ขอเชิญคณะศรัทธาท่านเศรษฐีผู้ใจบุญ นายทุนผู้ใจดีทุกท่าน ร่วมทำบุญรับเป็นเจ้าภาพปิดทององค์พระปฏิมาพระประธานในวิหาร
บอกบุญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บุญปิดทองพระประธานอายุ 200 กว่าปี
✨ขอเชิญร่วมกองบุญปิดทองพระประธานในวิหาร ของ วัดลำปางกลางตะวันออก ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
ร่วมทำบุญได้จนถึงเดือนมีนาคม 2565 จึงได้มาบอกบุญให้กับญาติธรรมทุกท่านได้ร่วมบุญกันในครั้งนี้

เจ้าภาพทองคำเปลวแผ่นละ 9️⃣ บาท
หรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธา
🚩 #ร่วมบุญได้ที่
🔹ธ.กรุงไทย
🔹เลขบัญชี 986-6-79494-6
🔹ชื่อบัญชี วัดลำปางกลางตะวันออก

✨วัดลำปางกลางตะวันออก
โทร 096-350-8346

“ด้วยอานิสงส์แห่งการปิดทองนี้ ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่านได้เติมเต็มสิ่งดี ๆ ที่ยังไม่เต็มให้สมบูรณ์ด้วยเทอญ

ยุคโควิด-19 การ์ดอย่าตก ขอให้แข็งแรง อยู่รอดปลอดภัยทุกท่าน เทอญ

ภาพสวยๆเผื่อใครอยากเอาไปทำโปสการ์ดแจกปีใหม่ (ทำแจกวัด แจกแอดมินโตยเน้อ)

📢ฝากแชร์ ....เจริญพร ญาติโยมทุกท่านฝากเป็นสะพานบุญให้ด้วยนะครับ
ขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมบูรณะพระอุโบสถ (วิหาร)วัดลำปางกลางตวันออก ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ตามกำลังศรัทธา
และร่วมบุญสร้าง “พระเชียงแสนปรกโพธิ์” ขนาด 2นิ้ว สูง 3นิ้ว เนื้อตะกั่ว
พร้อมปิดทองคำแท้ถวาย 1,500 องค์ เพื่อนำไปประดิษฐานติดหลังองค์พระประธานของอุโบสถ ขนาดหน้าตัก 2.2 เมตร ณ วัดลำปางกลางตะวันออก ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งกำลังทำการบูรณะอยู่😊😊

🔷ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพองค์พระ เพื่อประดิษฐานหลังองค์พระประธาน องค์ละ 200 💵 หรือตามกำลังศรัทธาของทุกท่าน😊

🔷หากปัจจัยเกิน จะนำไปสมทบบุญบูรณะซ่อมปิดทององค์พระประธานในพระอุโบสถของวัดและสร้างห้องน้ำ เท่ากับได้บุญสองต่อเลยนะ😊😊 เป็นบุญต่อบุญ

สามารถร่วมบุญได้ที่
ธนาคารกรุงไทย - ชื่อบัญชีวัดลำปางกลางฝั่งตะวันออก
เลขที่ 986-6-79494-6

🔹สร้างจำนวน 1,500 องค์

✳️สำหรับเจ้าภาพองค์ละ 200 💵

📌 รบกวนขอ “ชื่อ-นามสกุล” เพื่อเขียนติดด้านหลังองค์พระด้วยนะครับ ตามอินบล็อค ข้อความหรือใต้โพส📌

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB.Maneechai Wan(ท่านเจ้าอาวาส)
เจ้าอธิการวรรณ สิกขาสโภ เจ้าคณะตำบลชมพูเขต ๓ เจ้าอาวาสวัดลำปางกลางตะวันออก โทรติดต่อ 086 4286027

เราชาวพุทธ ยุคโควิด19 นี้ การอยู่บ้านไม่ออกไปไหนจะปลอดภัยที่สุด แต่ปัจจุบันมีการเที่ยวทิพย์ หากท่านมีรูปที่หล่อที่สวยที่ดูดี ใช้แอพพริเคชั่นในมือถือตัดต่อภาพตัวท่านนำไปใส่วิวภาพสถานที่ที่ท่านอยากไป เสร็จแล้วลองทำมาอวดกันบ้างเด้อ