ตอบคำถามสุขภาพและความงามที่คุณอยากรู้ BEAUTY AND HEALTH WITHOUT LIMITS
เปิดเหมือนปกติ
ที่คลินิกมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ บริการแล้วนะครับ
คลินิกหยุด29 กค. 2562 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษานะครับ
แจ้งคลินิกหยุด 16-17 กค. 2562 ขออภัยในความไม่สะดวกครับ
ตา2ชั้นแบบกรีดยาว แก้ปัญหาหนังตาตก หางตาหย่อน ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
เสริมจมูก ซิลิโคนผ่าน อย. ไทย อย. เกาหลี สนใจสอบถามได้ครับ
คลินิกหยุด 17-20 พค. 62 นะครับ ขออภัยในความไม่สะดวก
ทางคลินิกหยุดให้บริการ 12-16 เมษายน 2562 นี้
#ขออภัยในความไม่สะดวกครับ
เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน สอบถามรายระเอียดได้
#SirichaiClinic
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ #คลินิกเรามี https://www.facebook.com/1461529694103268/posts/2180029662253264/
เราพร้อมบริการอัลตร้าซาวด์ครับ
#ฝากครรภ์
#ตรวจภายในตรวจมะเร็งปากมดลูก
#อัลตร้าซาวด์
หัวยันHee เรามีบริการให้คุณ
@ศิริชัยคลินิกเวชกรรม
#เสริมจมูกหน้าผากคาง
#ตา2ชั้นตัดหนังตาหย่อน
#upขนาดหน้าอกรีแพร์แต่งแคม
ขณะนี้ทางคลินิกมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้บริการแล้วครับ
วันนี้เราสามารถตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยตนเองแล้ว
มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัส เอชพีวี ( HPV ) ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การป้องกันมะเร็งทำได้โดยการตรวจคัดกรอง เพื่อค้นหามะเร็งในระยะแรกเริ่มก่อนเป็นมะเร็งระยะลุกลาม ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ไม่ยาก ยังเก็บรักษาน้องหนูให้ใช้งานได้ตามปกติและมีค่าใช้จ่ายน้อย
ใครบ้างที่มีความเสี่ยง...ที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก
♦ เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว
♦ อายุ 30–60 ปี
♦ ไม่เคยตรวจคัดกรอง หรือเว้นการตรวจเกิน 3 ปี
ปัจจุบันมีการพัฒนาการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกขึ้นมาใหม่เพื่อให้ผู้หญิงสามารถเก็บสิ่งส่งตรวจในช่องคลอดด้วยตัวเองที่บ้าน แล้วส่งสิ่งตรวจที่ได้ไปที่โรงพยาบาลหรือศูนย์ตรวจทางการแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกโดยตรง
สนใจติดต่อได้ที่ ศิริชัยคลินิกเวชกรรม โทร 091-0709111 Line ID: Sirichaicliniแ
https://youtu.be/xaJxvkEfdy8
วันที่ 26 ตค.นี้ คลินิก ปิด เพื่อน้อมส่งเสด็จในหลวง ร.9 เป็นครั้งสุดท้ายครับ
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22205763
เดี๋ยวจะมาเล่าว่า อาหาร วิตามิน แร่ธาตุ สำคัญต่อสมองอย่างไรนะคะ
ระดับสารอาหารนั้น ส่งผลในเรื่องความทรงจำ ความสามารถในการคิด และปริมาณเนื้อสมอง
มาตามอ่านต่อจากกางศึกษาวิจัยกันค่ะ👉
จากการศึกษา ในผู้สูงวัย อายุเฉลี่ย 87 ปี
104 คน
🎯ได้วัดระดับสารอาหาร และนำมาศึกษาถึงผลลัพธ์ ด้านความคิด และความทรงจำ รวมถึง ตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า วัดปริมาณเนื้อสมอง ว่าสมองฝ่อไปรึเปล่า
📍ผลปรากฏว่า
🏆ผู้เข้าร่วมการศึกษานั้น ไม่สูบบุหรี่ มีโรคประจำตัวเพียงไม่กี่ราย และไม่มีปัญหาเรื่องสมอง และความจำมาก่อน
และการศึกษาพบว่า ระดับสารอาหาร มีผลเพิ่มความสามารถในการคิดและความทรงจำได้ถึง 17% และช่วยรักษาเนื้อสมองให้ไม่ฝ่อได้ถึง 37%🎯🎯
👉และเมื่อศึกษาในรายละเอียดเจาะลึกแต่ละบุคคล พบว่า
ผู้ที่ได้รับสารอาหารที่มี
📍กรดไขมันโอเมก้า 3 สูง
📍วิตามิน ซี วิตามิน ดี วิตามิน อี และวิตามิน บี
ในระดับสูง ช่วยให้คุณภาพสมอง ในเรื่องความทรงจำและความคิดดีขึ้น
รวมถึงสมองฝ่อช้าลง
ทำไมโฆษณาต่างๆ พยายามแอบแฝง เรื่อง นมมี DHA
เพราะ DHA คือกรดไขมันที่จำเป็นต่อสมอง และมีมากใน กรดไขมันโอเมก้า -3
และสารอาหารต่างๆเหล่านี้ช่วยให้สมอง คงหน้าที่และการทำงานได้ดีขึ้น
จะดีแค่ไหน หากมีสารอาหารสกัด ที่ให้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง และมีงานวิจัยยอมรับ
ที่สำคัญ เป็นสารอาหารที่ดูดซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ ไม่ต้องมานั่งย่อย แล้วลุ้นว่า ที่ทานเข้าไปได้ปริมาณเพียงพอหรือเปล่า
ไบโอเมก้าของยูซาน่า ใช้ปลาทะเลน้ำลึกตัวเล็ก
และให้ปริมาณ DHA และ EPA สูงถึง 1050 มิลลิกรัม
โอเมก้าของยูซาน่านั้น ได้กรองด้วยวิธี การกรองสองชั้นที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน เพื่อเอาสารเคมีปนเปื้อนออก
(Double molecule distillation)
และ📍
ในสารอาหารจำเป็นพื้นฐานนั้น ให้คุณค่าทางอาหารที่ดีมากๆ และจำเป็นต่อสมองและร่างกายทุกส่วน ซึ่งในแต่ละวันเราคงต้องยอมรับว่า เราได้รับไม่พอแน่นอน
ดังนั้น ถึงเวลาที่เราจะให้ทางรอดกับเซลล์เราได้รึยังคะ💪🏻💪🏻💪🏻
เครดิต หมอตาลค่ะ Pratana Piboolvorakul
เมื่อข้อดีมีเยอะขนาดนี้แล้วจะรออะไรละครับ
Nutrient biomarker patterns, cognitive function, and MRI measures of brain aging. - PubMed - NCBI Neurology. 2012 Jan 24;78(4):241-9. doi: 10.1212/WNL.0b013e3182436598. Epub 2011 Dec 28. Research Support, N.I.H., Extramural; Research Support, U.S. Gov't, Non-P.H.S.
วันนี้จะมาเล่าว่า อาหารเสริมกับคนไข้มะเร็งสำคัญมากแค่ไหน
คนไข้กลุ่มนี้ จะโดนข้าศึกโจมตีตลอด และใช้กองกำลังทหารภายในร่างกายเข้าสู้อยู่ทุกๆวัน ตั้งแต่ระยะแรก ที่ยังวินิจฉัยไม่ได้จนกระทั่งมาให้เคมีบำบัดแบบโทรมๆ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นักโภชนาการในต่างประเทศสำคัญมาก ก่อนให้เคมีบำบัด ต้องมีการให้อาหารให้พอ👉คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขม้น เกลือแร่ และวิตามิน เพราะการได้รับอาหารที่ดี ช่วยให้
1.ร่างกายรู้สึกสบายขึ้น
2.มีพลังงานและมีแรงเพียงพอ
3.ช่วยให้สมดุลย์น้ำหนักคงที่ไม่ผอมและโทรมจนเกินไป
4.ทนต่อการให้เคมีบำบัดได้ดีขึ้น
5.ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
6.ฟื้นตัวเร็ว แผลหายเร็ว
ข้อมูลจากองค์กรมะเร็ง ประเทศสหรัฐอเมริกา
Cr. คุณหมอตาล Pratana Piboolvorakul
มะเร็งคืออะไร????????
สำหรับความหมายของ 'มะเร็ง' มีการให้ความหมายที่คล้ายคลึงกันจำนวนมาก ในที่นี้ ขอนำเสนอใน 2 ความหมาย ดังนี้
1. มะเร็ง หมายถึง โรคชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะของการแบ่งเซลล์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และเซลล์เหล่านี้ มีความสามารถที่จะลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่ออื่นๆ โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเช่น เจริญเติบโตโดยตรงเข้าไปในเนื้อเยื่อข้างเคียง (Invasion) หรือการอพยพเคลื่อนย้ายเซลล์ไปยังตำแหน่งที่ไกลๆ (Metastasis) การเจริญเติบโตแบบไม่เป็นระเบียบของเซลล์นี้ อาจมีสาเหตุที่เกิดขึ้นภายหลัง หรือเป็นกรรมพันธุ์ โดยการกลายพันธุ์ของ DNA ภายในเซลล์ มีการทำลายข้อมูลของยีน ซึ่งเป็นตัวกำหนดหน้าที่ของเซลล์ การเคลื่อนย้าย และการควบคุมความปกติของการแบ่งตัวของเซลล์
2. โดยปกติ อวัยวะและเนื้อเยื่อของร่างกาย จะประกอบด้วยส่วนที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ เรียกว่า 'เซลล์' เซลล์ที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจจะมีลักษณะและหน้าที่การทำงานแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่การสร้างหรือผลิตตัวเองขึ้นมาใหม่ จะเป็นในแบบเดียวกัน เซลล์จะเริ่มแก่และตายไปในที่สุด และเซลล์ตัวใหม่ ก็จะเริ่มผลิตขึ้นมาแทนที่ โดยปกติ การแบ่งตัวและการเจริญเติบโตของเซลล์ จะมีการควบคุมและเป็นไปตามลำดับขั้นตอน แต่ถ้ากรรมวิธีนี้ไม่สามารถควบคุมได้ ด้วยเหตุผลใดก็ตาม เซลล์ก็จะทำการแบ่งตัวต่อไปตามลำดับจนพัฒนาขึ้นมาเป็นก้อนที่เรียกว่า Tumor ก้อนนี้ อาจเป็นก้อนที่ไม่อันตราย (Benign Tumor) หรืออาจเป็นก้อนเนื้อร้าย (Malignant Tumor) ก็ได้ และมะเร็ง ก็คือชื่อของก้อนเนื้อร้ายนี้เอง การเรียกชื่อของมะเร็ง ให้เรียกชื่อจากจุดที่เริ่มต้นเป็น เช่น เริ่มเป็นที่มะเร็งเต้านม แล้วแพร่กระจายไปที่ตับ แต่จะยังคงเรียกว่า มะเร็งเต้านมอยู่ ไม่ใช่มะเร็งตับ
😄ข่าวดีสำหรับคนอ้วนลดน้ำหนักด้วยสมุนไพร😘😘
เพาเวอร์ เบิร์น ( Power Burn ) ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและลดความอยากอาหาร สลายไขมันสะสมเก่าด้วยวิธีเผาผลาญให้เป็นพลังงานความร้อน เพิ่มการเผาผลาญพลังงานให้มากขึ้นกว่า 17 % Power Burn ขนาดบรรจุ 180 แคปซูล
คุณประโยชน์
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและลดความอยากอาหารด้วย Yerba Mate จากบราซิล
- Guarana Seed Extract , Black Tea Extract ให้คาเฟอีน ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันด้วย Coco Fruit Extract
- Almond Nut, Ginger root, Capsicum Fruit, Licorice Root Chromium ช่วยเสริมการทำงานของอินซูลิน
- สารสกัดจากโกโก้และอัลมอนด์ช่วยลดความอยากอาหาร
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีและ Quercitin
วิธีการรับประทาน เพาเวอร์ เบิร์น
ครั้งละ 3 แคปซูลก่อนทานอาหารประมาณ 30 นาที มื้อเช้าและมื้อเที่ยง (2 มื้อ) และควรดื่มน้ำตามมาก ๆ
คำแนะนำ เพาเวอร์ เบิร์น
- ควรงดการเผาผลาญในมื้อดึกหรือก่อนนอน
- การอกกำลังกายจะช่วยเสริมโปรแกรมควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การอบตัวควบคู่ไปด้วยจะทำให้ลดได้เร็ว
- ไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยาจากแพทย์ ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต นอนไม่หลับ แพ้คาเฟอีน
รายละเอียด Power Burn
“Calorie-Burning Formula: สลายไขมันสะสมเก่าด้วยวิธีเผาผลาญให้เป็นพลังงานความร้อน เพิ่มการเผาผลาญพลังงานให้มากขึ้นกว่า 17 %”
ส่วนประกอบ
- Yerba mate
- Guarana Seed Extract
- Black Tea Extract
- Coco Fruit Extract
- Almond Nut
- Ginger root
- Capsicum Fruit
- Licorice Root Chromium
มะเร็งปากมดลูก
อะไรเป็นสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก?
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก คือ ปากมดลูกติดเชื้อไวรัส ชื่อ ฮิวแมน แปปิลโลมา ไวรัส(Human Papilloma Virus) เรียกสั้นๆว่า เอชพีวี(HPV) หรือ ไวรัสหูดนั่นเอง ไวรัส เอชพีวี มีทั้งหมดกว่า 100 ชนิด แต่ที่ทำให้ติดเชื้ออวัยวะสืบพันธุ์มีประมาณ 30-40 ชนิด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มเสี่ยงต่ำจะทำให้เกิดการเป็นหูดหงอนไก่ และกลุ่มเสี่ยงสูงจะทำให้เกิดมะเร็ง ซึ่งที่พบบ่อย คือ มะเร็งปากมดลูก
ไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิว หรือเยื่อบุในอวัยวะสืบพ้นธุ์ จึงทำให้เชื้อไวรัสเข้าไปอยู่ที่ปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อ เยื่อ หรือ เซลล์ ของปากมดลูก กลายเป็นเซลล์/เนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง(ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก) และเป็นมะเร็งในที่สุด โดยระยะเวลาตั้งแต่ติดเชื้อไวรัสจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งนั้น ใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 ปี แต่อาจเร็ว หรือ ช้ากว่านี้ได้
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกอีกด้วย โดยแบ่งเป็น
•ปัจจัยเสี่ยงของฝ่ายหญิง ที่สำคัญ คือ ◦มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย(ต่ำกว่า 18 ปี)
◦มีคู่นอนหลายคน
◦คลอดบุตรจำนวนหลายคน(มากกว่า 3 คนขึ้นไป)
◦เป็นโรคเรื้อรังหรือโรคที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ โดยเฉพาะติดเชื้อไวรัส เอชไอวี/โรคเอดส์ (HIV/ AIDs)
◦มีประวัติเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน เช่น เริม หรือ หนองใน
◦เคยมีความผิดปกติ(การอักเสบเรื้อรัง)ของปากมดลูก โดยตรวจพบ จากการตรวจภายใน และจากตรวจเซลล์ปากมดลูก ที่เรียกว่า แป๊บสเมียร์ หรือ แป๊บเทส/Pap Smear หรือ Pap Test (วิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ )
◦ สูบบุหรี่
◦ มีประวัติการใช้ยาฮอร์โมนเพศ ชนิดไดอีธีลสติลเบสทรอล (Diethylstilbestrol เรียกย่อว่า DES/ดีอีเอส) เพื่อป้องกันการแท้งบุตร
◦อาจจากขาดสารอาหารบางชนิด เพราะพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานผักและผลไม้น้อย มีโอกาสเป็นมะเร็งชนิดพบบ่อย รวมทั้งมะเร็งปากมดลูก สูงกว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้มาก
◦อาจจากมีปัญหาทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขไม่ทั่วถึง หรือ เพราะมีลูกมาก
◦อาจจากพันธุกรรม
•ปัจจัยเสี่ยงจากฝ่ายชาย ที่เป็นคู่นอน ◦มีคู่นอนหลายคน
◦มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม และ/หรือ หนองใน
◦มีประวัติเป็นมะเร็งสืบพันธุ์อวัยวะเพศชาย
◦เคยมีคู่นอนที่มีประวัติเป็นมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกมีอาการอย่างไร?
ในระยะเริ่มแรกหรือในระยะก่อนเป็นมะเร็ง ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการเลย แต่ตรวจพบจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (วิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ )
เมื่อโรคเริ่มเป็นมาก อาการที่พบบ่อย ก็คือ การมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด โดยอาจจะเป็นเลือดออกกะปริบกะปรอยช่วงระหว่างรอบเดือน ประจำเดือนมานานผิดปกติ มีเลือด ออกจากช่องคลอดหลังจากพ้นวัยหมดประจำเดือนถาวรไปแล้ว หรือ มีเลือดออกเวลามีเพศ สัมพันธ์(เดิมไม่เคยมี) นอกจากนั้นผู้ป่วยบางรายอาจมีตกขาวมากผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น และ/หรือมีเลือดปนออกมาด้วย รวมไปถึงบางรายอาจมีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
แต่ถ้าหากโรคมะเร็งลุกลามไปมากขึ้นหรือลุกลามไปอวัยวะอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้มีอาการปวดหลังหรือปวดก้นกบหรือปวดหลังร้าวลงขาหากโรคไปกดทับเส้นประสาท อาจมีปัสสาวะเป็นเลือดหรืออุจจาระเป็นเลือดหากโรคลุกลามเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ใหญ่ อาจขาบวมหากโรคลุกลามไปกดทับท่อน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน หรือทำให้ท่อน้ำเหลืองเหล่านั้นอุดตัน และอาจมีปัสสาวะผิดปกติ มีอาการของไตวายเฉียบพลันหากโรคลุกลามไปกดทับท่อไต (ท่อไตอยู่ติดกับปากมดลูก)
ผู้หญิงควรจะเริ่มตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกเมื่อใด?
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ทุกช่วงอายุ ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเสมอ (วิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ) หรือที่เรียกว่า ตรวจแป๊ปสเมียร์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเริ่มเมื่ออายุประมาณ 21-25 ปีขึ้นไป ซึ่งเมื่อพบความผิดปกติ แพทย์อาจมีการตรวจอื่นๆเพิ่มเติม เช่น ตรวจแป๊บสเมียร์ซ้ำ หรือ นัดตรวจแป๊บสเมียร์บ่อยขึ้น หรือ ตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกตรวจทางพยาธิวิทยา ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วย และดุลพินิจของแพทย์
แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างไร?
การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น แพทย์จะทำการตรวจทางช่องคลอด พร้อมตรวจ คลำหน้าท้อง และตรวจทางทวารหนัก เพื่อจะได้เห็นปากมดลูกอย่างชัดเจนรวมไปถึงคลำการลุกลามของโรคในอวัยวะข้างเคียง (คลำได้ทางทวารหนัก) หากพบก้อนเนื้อ และ/หรือ แผล แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา หรือในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่พบก้อนเนื้อ หรือแผลชัดเจน แต่จากการตรวจแป๊บสเมียร์ สงสัยความผิดปกติ แพทย์นรีเวชอาจทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยกล้องขยายที่เรียกว่า คอลโปสโคป(colposcope) และพิจารณาตัดชิ้นเนื้อในส่วนที่ผิดปกติ เพื่อส่งตรวจทางพยาธิเพิ่มเติมต่อไป
นอกจากนั้นยังมีการตรวจอื่นๆที่อาจช่วยวินิจฉัยโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น การขูดมด ลูก การตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า การผ่าตัดปากมดลูก หรือตามแต่แพทย์นรีเวชจะเห็นว่าเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย
โรคมะเร็งปากมดลูกแบ่งเป็นกี่ระยะ?
โรคมะเร็งปากมดลูกนั้นแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
•ระยะที่ 0 หรือระยะเริ่มแรกก่อนเป็นมะเร็ง คือ ระยะที่เซลล์ของปากมดลูกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจพบได้จากการตรวจแป๊บสเมียร์ ยังไม่สามารถพบความผิดปกติจากการตรวจร่างกายได้
•ระยะที่ 1 คือ ระยะที่มีเซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะบริเวณปากมดลูกเท่านั้น
•ระยะที่ 2 คือ ระยะที่มะเร็งลุกลามออกจากปากมดลูกไปบริเวณช่องคลอดส่วนบนหรือบริเวณอุ้งเชิงกรานแต่ยังไม่ลุกลามถึงผนังอุ้งเชิงกราน
•ระยะที่ 3 คือ ระยะที่มะเร็งลุกลามไปจนติดผนังอุ้งเชิงกราน หรือ ก้อนมะเร็งมีการกดทับท่อไต ทำให้การทำงานของไตเสื่อมลงจนไตด้านนั้นไม่ทำงาน(อาจทั้งสองไต)
•ระยะที่ 4 คือ ระยะที่มะเร็งลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียง คือ กระเพาะปัสสาวะ และ/หรือ ลำไส้ใหญ่/ทวารหนัก หรือมะเร็งกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ ปอด กระดูก สมอง และ/หรือ ต่อมน้ำเหลืองอยู่ไกลปากมดลูก เช่น ในช่องท้อง
รักษาโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างไร?
แนวทางการรักษามะเร็งปากมดลูกนั้น ขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่ผู้ป่วยเป็น สภาพร่างกายทั่วๆไปของผู้ป่วย โรคร่วมอื่นๆที่ผู้ป่วยเป็นอยู่(เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจ) รวมไปถึงความต้องการมีบุตรของตัวผู้ป่วยเอง(เมื่อเกิดโรคในอายุน้อย) และดุลพินิจของแพทย์
ระยะที่ 0 การรักษาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
•การทำลายเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก ได้แก่ ◦การใช้ความเย็นจัด (ไครโอเซอร์เจอรี/cryosurgery)จี้ทำลาย
◦การใช้เลเซอร์จี้ทำลาย
◦การตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า (LEEP/ลีป)
◦การผ่าตัดปากมดลูก (conization/โคไนเซชัน)
หลังจากที่ทำการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวตามความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละรายแล้ว ผู้ป่วยยังต้องทำการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องด้วยการตรวจร่างกาย ตรวจแป๊บเสมียร์ และอาจต้องตรวจ คอลโปสโคป ทุก 3-6 เดือนหรือตามที่แพทย์นรีเวชนัดตรวจ (มักใช้รักษาเมื่อผู้ป่วยยังต้องการมีบุตร)
•การตัดมดลูก เพื่อเอามดลูกและปากมดลูกออกทั้งหมด มักใช้ในกรณีที่ ◦ผู้ป่วยมีบุตรเพียงพอแล้ว
◦ผู้ป่วยมีอายุมาก หรืออยู่ในภาวะหมดประจำเดือนแล้ว
◦ผู้ป่วยไม่สามารถติดตามผลการรักษาแบบการทำลายเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกในระยะยาวได้
◦ผู้ป่วยมีพยาธิสภาพอย่างอื่นทางนรีเวชที่จะต้องทำการผ่าตัดด้วย เช่น เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (ไมโอมา)
•หากผู้ป่วยไม่สามารถทำการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้นได้ อาจพิจารณาทำการรักษาโดยรังสีรักษาด้วยการใส่แร่
ระยะที่ 1 การรักษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
•การผ่าตัด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น ◦การผ่าตัดมดลูกโดยอาจผ่าตัดรังไข่และท่อนำไข่ 2 ข้างด้วย
◦การผ่าตัดมดลูกแบบถอนรากร่วมกับตัดต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน
หากผลชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาจากการผ่าตัดทั้งสองแบบพบว่า เนื้อเยื่อมะเร็ง มีความรุนแรงสูง ส่งผลมีโอกาสการกลับเป็นซ้ำของโรคสูง ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการรักษาต่อ เนื่องด้วยการให้รังสีรักษาเพิ่มเติม
•การรักษาด้วยการให้รังสีรักษา ซึ่งอาจต้องทั้งฉายรังสีร่วมกับการใส่แร่ หรืออาจจะใส่แร่เพียงอย่างเดียว ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยในแต่ละราย
•การรักษาด้วยการให้รังสีรักษาร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด
ระยะที่ 2 การรักษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
•การผ่าตัดมดลูกแบบถอนรากร่วมกับตัดต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน หากผลชิ้นเนื้อ (การตรวจทางพยาธิวิทยา)ออกมาพบว่ามีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำของโรคสูง ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการรักษาด้วยการให้รังสีรักษาเพิ่มเติม
•การรักษาด้วยการให้รังสีรักษา ซึ่งจะต้องให้ทั้งฉายรังสีร่วมกับการใส่แร่
•การรักษาด้วยการให้รังสีรักษาร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด
ระยะที่ 3 คือ การรักษาด้วยการให้รังสีรักษาร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด แต่ถ้าหากผู้ ป่วยไม่สามารถให้เคมีบำบัดได้ อาจให้การรักษาด้วยรังสีรักษาเพียงอย่างเดียว ซึ่งการให้รังสีรักษานั้นจะต้องให้ทั้งฉายรังสี ร่วมกับการใส่แร่
ระยะที่ 4 การรักษาแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
•การรักษาด้วยการให้รังสีรักษาร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งจะต้องให้ทั้งฉายรังสี ร่วมกับการใส่แร่ มักให้การรักษาในผู้ป่วยที่มะเร็งกระจายไปยังอวัยวะข้าง เคียง คือ กระเพาะปัสสาวะ หรือ ลำไส้ใหญ่ และผู้ป่วยต้องมีสภาพร่างกายสม บูรณ์แข็งแรงเท่านั้น
•การรักษาด้วยการให้รังสีรักษา เพื่อลดอาการที่เกิดจากมะเร็งและเพื่อเพิ่มคุณ ภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย เช่น มีเลือดออก มีอาการปวด
•การรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ
•การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถให้การด้วยวิธีทางรักษามะเร็ง(ผ่าตัด รังสีรักษา ยาเคมีบำบัด)ได้
การรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง?
ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งปากมดลูกในแต่ละวิธีนั้นจะแตกต่างกันตามแต่ละวิธีที่ผู้ ป่วยได้รับการรักษา และผลข้างเคียงอาจพบได้มากขึ้นหากผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยหลายๆวิธีร่วมกัน
ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด ได้แก่ อาการปวด การมีเลือดออก การติดเชื้อ การบาดเจ็บจากการผ่าตัดถูกอวัยวะข้างเคียง หากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเอามดลูกออกจะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถมีบุตรได้อีก และหากผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง ผู้ป่วยก็จะมีภาวะหมดประจำเดือนและมีอาการของวัยทองได้
ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยการให้รังสีรักษา คือ ผลข้างเคียงต่อผิวหนังในบริเวณที่ฉายรังสีรักษา (การดูแลผิวหนัง และผลข้างเคียงต่อผิวหนังบริเวณฉายรังสีรักษา) และผลข้าง เคียงและวิธีดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณช่องท้อง และ/หรืออุ้งเชิงกราน
ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัด เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ผมร่วง มือเท้าชา ภาวะซีด เม็ดเลือดขาวต่ำทำให้ติดเชื้อได้ง่าย (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัดและ/หรือรังสีรักษา:การดูแลตนเอง) ภาวะเกร็ดเลือดต่ำทำให้มีเลือดออกได้ง่าย การทำงานของไตลดลง ซึ่งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของยาเคมีบำบัด อายุ และสุขภาพของผู้ป่วย
โรคมะเร็งปากมดลูกรักษาหายไหม?
มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมีความรุนแรงปานกลาง ซึ่งเมื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ได้ผลการรักษาดังต่อไปนี้ คือ
•ระยะที่ 0 รักษาได้ผลดีเกือบ 100%
•ระยะที่ 1 มีอัตราอยู่รอดที่ 5 ปี ประมาณ 80-90%
•ระยะที่ 2 มีอัตราอยู่รอดที่ 5 ปี ประมาณ 60-70%
•ระยะที่ 3 มีอัตราอยู่รอดที่ 5 ปี ประมาณ 40-50%
•ระยะที่ 4 มีอัตราอยู่รอดที่ 5 ปี ประมาณ 0-20%
ดังนั้นการตรวจคัดกรองเพื่อหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกจึงมีความสำคัญมาก เพื่อผลการรักษาที่ดี
มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ไหม?
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
•การป้องกันปฐมภูมิ คือ การป้องกันโดยการหลีกเลี่ยง การลด หรือขจัดสาเหตุ หรือปัจจัยเสี่ยง เช่น ◦หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
◦หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย
◦ให้ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยเสมอเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อต่างๆทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งเชื้อ เอชพีวี และเชื้อ เอชไอวี
◦คุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัย
◦หลีกเลี่ยงการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะการติดเชื้อเอชพีวี และเอชไอวี
◦เลิกสูบบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่
◦ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก) ซึ่งในปัจจุบัน ยังมีราคาแพง และป้องกันโรคได้ประมาณ 70% และต้องมีข้อปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนให้ได้ผล
•การป้องกันทุติยภูมิ คือ การค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกโดยยังไม่มีอาการ หรือ การตรวจคัดกรอง (วิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ )
•การป้องกันตติยภูมิ คือ การรักษาโรคมะเร็ง เพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ซึ่งก็คือ เพื่อให้ผู้ป่วยหายจากโรคมะเร็ง มีชีวิตยาวนาน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ผลการรักษา ขึ้นกับระยะโรค อายุ และสุขภาพของผู้ป่วย
ที่มา http://haamor.com/th/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/
มะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งปากมดลูก Cervical cancer - หาหมอ.com
ฮิตที่สุดในเวลานี้ขนตาแม่เหล็ก Butterfly ตาสวยได้ไม่ง้อกาวติดแน่นทนนาน
รับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ. ปลีก-ส่ง 0813808339 แท็ก Idline. taxi2810
โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ สอนจากไม่เป็นจนประกอบอาชีพได้ ผลิตช่างเสริมสวยออกรับใช้สังคมมากม
• เสื้อผ้าแฟชั่นสวยๆสุดชิค อัพเดทสินค้าทุกวัน • รับตามหางานป้ายทุกแบบ ทุกป้าย
พร้อมแล้วค่าาาา #เอมิสเต้าหู้พันล้านน ล้านกระปุก แค่หน้าบ้าน #ทีมงานคุณภาพ ��
ร้านเคอล ห้าแยกหอนาฬิกา ตัด สระ ซอย ทำสี ยืดผม
คืนความสุข เพิ่มความสดใส ให้กับหญิงชายที่อยากสวย หล่อ ใส สุขภาพดี อย่างปลอดภัย ไม่เจ็บตัว
แก้โหงวเฮ้ง สักคิ้ว เพนท์คิ้ว สามมิติ คิ้วลายเส้น