หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

แชร์

จำหน่าย อุปกรณ์ แพทย์ ผู้ป่วย วิทยาศาสตร์ ร้านตั้งอยู่ ตรงข้าม รพ.ศูนย์ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์
บริการจัดส่งอุปกรณ์การแพทย์ ทั่วประเทศ ดูแลโดยเภสัชกร

11/03/2025

4 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม❗ เมื่อเครื่องมือแพทย์เริ่มมีปัญหา...
1️⃣เครื่องไม่ทำงานหรือเปิดไม่ได้
: หากเครื่องมือไม่สามารถเปิดใช้งานได้ หรือเปิดได้แต่ไม่ทำงานตามปกติ อาจหมายถึงว่าเครื่องมือมีปัญหาทางไฟฟ้าหรือระบบภายใน
2️⃣หน้าจอแสดงผลไม่ปกติ
: หากหน้าจอแสดงผลผิดเพี้ยน เช่น ตัวเลขไม่ชัดเจน หรือมีการกระพริบ แสดงว่าเครื่องมืออาจมีปัญหากับระบบจอแสดงผล
3️⃣เสียงดังหรือการสั่นผิดปกติ
: หากเครื่องมือมีเสียงดัง หรือสั่นผิดปกติขณะใช้งาน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องมือนั้นเกิดปัญหาต้องได้รับการตรวจสอบ และซ่อมแซมโดยเร็ว
4️⃣ปัญหาการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ
: เครื่องมือแพทย์บางชนิดอาจต้องเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ หากไม่สามารถเชื่อมต่อได้ อาจเกิดจากการเสียหายของพอร์ตหรือสายเชื่อมต่อ
📍หากพบปัญหาดังกล่าว แนะนำติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการซ่อมแซม และตรวจเช็คโดยเร็ว
🧡KME MEDICAL SERVICE CENTER by หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ ศูนย์บริการรับซ่อมเครื่องมือแพทย์ทุกชนิด โดยทีมช่างวิศวกรมืออาชีพ มาตรฐาน ISO 17025
สนใจติดต่อสอบถาม จองคิว หรือส่งซ่อม ได้ที่
📱: 098-0987313
💌Line :
หรือทัก Inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ
#ซ่อมเครื่องมือแพทย์ #รับซ่อมเครื่องมือแพทย์ขอนแก่น #อุปกรณ์การแพทย์ #เครื่องมือแพทย์ #เครื่องมือแพทย์มือสอง #เครื่องมือห้องปฏิบัติการ #ห้องปฏิบัติการ #ห้องแล็บ #คลินิกเวชกรรม #คลินิกเสริมความงาม #โรงพยาบาล #ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

4 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม❗ เมื่อเครื่องมือแพทย์เริ่มมีปัญหา...

1️⃣เครื่องไม่ทำงานหรือเปิดไม่ได้
: หากเครื่องมือไม่สามารถเปิดใช้งานได้ หรือเปิดได้แต่ไม่ทำงานตามปกติ อาจหมายถึงว่าเครื่องมือมีปัญหาทางไฟฟ้าหรือระบบภายใน

2️⃣หน้าจอแสดงผลไม่ปกติ
: หากหน้าจอแสดงผลผิดเพี้ยน เช่น ตัวเลขไม่ชัดเจน หรือมีการกระพริบ แสดงว่าเครื่องมืออาจมีปัญหากับระบบจอแสดงผล

3️⃣เสียงดังหรือการสั่นผิดปกติ
: หากเครื่องมือมีเสียงดัง หรือสั่นผิดปกติขณะใช้งาน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องมือนั้นเกิดปัญหาต้องได้รับการตรวจสอบ และซ่อมแซมโดยเร็ว

4️⃣ปัญหาการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ
: เครื่องมือแพทย์บางชนิดอาจต้องเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ หากไม่สามารถเชื่อมต่อได้ อาจเกิดจากการเสียหายของพอร์ตหรือสายเชื่อมต่อ

📍หากพบปัญหาดังกล่าว แนะนำติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการซ่อมแซม และตรวจเช็คโดยเร็ว

🧡KME MEDICAL SERVICE CENTER by หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ ศูนย์บริการรับซ่อมเครื่องมือแพทย์ทุกชนิด โดยทีมช่างวิศวกรมืออาชีพ มาตรฐาน ISO 17025
สนใจติดต่อสอบถาม จองคิว หรือส่งซ่อม ได้ที่
📱: 098-0987313
💌Line :
หรือทัก Inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ

#ซ่อมเครื่องมือแพทย์ #รับซ่อมเครื่องมือแพทย์ขอนแก่น #อุปกรณ์การแพทย์ #เครื่องมือแพทย์ #เครื่องมือแพทย์มือสอง #เครื่องมือห้องปฏิบัติการ #ห้องปฏิบัติการ #ห้องแล็บ #คลินิกเวชกรรม #คลินิกเสริมความงาม #โรงพยาบาล #ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

08/03/2025

🌟 KME เดินหน้าส่งมอบสุขภาพดีให้คนไทย 🌟🏥🚚
ขอขอบพระคุณลูกค้าผู้ใจบุญที่ให้ความไว้วางใจเลือกซื้อ "เครื่อง Infusion Pump" จากเรา เพื่อนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลชนบท จังหวัดขอนแก่น 🙏✨
หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ ยินดีให้บริการทุกท่าน พร้อมดูแลและสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้การดูแลสุขภาพของคนไทยเป็นไปอย่างดีที่สุด 💪🧡
สนใจติดต่อสอบถาม สั่งซื้อสินค้า หรือร่วมบริจาค ได้ที่
📱: 084-0524466
💌Line :
หรือทัก Inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ 📣

#ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ #มอบสุขภาพดีให้คนไทย #โรงพยาบาลชนบท #บริจาคเพื่อสุขภาพ #จำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ #เครื่องมือแพทย์

Photos from หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ ให้เช่า รับซ่อม จำหน่าย's post 27/02/2025

KME MEDICAL SERVICE CENTER
ศูนย์บริการรับซ่อมเครื่องมือแพทย์ทุกชนิด คลินิก โรงพยาบาล ห้องเเล็บโดยทีมช่างวิศวกรมืออาชีพ มาตรฐาน ISO 17025
สนใจติดต่อสอบถาม จองคิว หรือส่งซ่อม ได้ที่
📱: 098-0987313
💌Line :
หรือทัก Inbox เข้ามาที่เพจได้เลยค่ะ 📣

28/12/2024

📢 ประกาศปิดร้านช่วงเทศกาลปีใหม่ 🎉
❤️ ร้านหยุดตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 67 ถึง 1 ม.ค. 68
✅ จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 2 ม.ค. 68

01/12/2023

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว อากาศที่เย็นลงทำให้หลายๆคนมีอาการเหมือนจะไม่สบาย วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้อากาศมาฝากค่ะ

โรคภูมิแพ้🤧 คือ โรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานไวผิดปกติ เมื่อสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมหรือสารต่าง ๆ ซึ่งแสดงออกได้หลายอาการ อารการทางตา อาการทางจมูก อาการทางผิวหนังและอาการแพ้แบบเฉียบพลัน

แบบไหนที่เรียกว่าแพ้อากาศ?🧐
คือการที่เยื่อบุจมูกจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ไม่ว่าอากาศจะเปลี่ยนเป็นร้อนหรือเย็น ความชื้นในอากาศ กลิ่นฉุน ละอองฝุ่นที่อยู่ในอากาศ ทำให้มีอาการทางจมูก ได้แก่ คันจมูก จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก และอาจมีอาการภูมิแพ้ทางตาร่วมด้วย

📌วิธีป้องกันและการรักษา
1. ทานอาหารให้ครบ 5หมู่ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
2. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือบ้านที่เป็นบริเวณที่มีการสะสมฝุ่น ป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศแล้วมากระตุ้นเยื่อบุโพรงจมูก การใช้สเปรย์พ่นจมูกป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือสารก่อภูมิแพ้จับกับเยื่อบุโพรงจมูกได้
3. รักษาด้วยยารับประทานและยาพ่นจมูก

ข้อมูลจาก: 1. อนัญญ์ เพฑวณิช. (2553).โรคแพ้อากาศ. วันที่สืบค้น 24 พฤศจิกายน 2566. สืบค้นจาก;https://www.si.mahidol.ac.th/Th/healthdetail. asp?aid=196

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#ภูมิแพ้ #แพ้อากาศ #คันจมูก #จาม #คันตา #น้ำตาไหล #ใต้ตาคล้ำ

03/11/2023

🎯วิตามิน เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงานแต่มีความจำเป็นต่อร่างกาย

ในผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ผู้ที่กินมังสวิรัติ อาหารเจ หรือฟาสต์ฟู้ดบ่อยครั้งหรือเป็นเวลานานๆอาจทำให้ได้รับวิตามินไม่ครบถ้วนอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานหรือเสริมวิตามินเหล่านี้เข้าไปเพื่อให้พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย

วิตามิน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินซี และวิตามินบี
2. กลุ่มละลายไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค

🎯ประโยชน์ของวิตามิน
-วิตามินซี ➡️ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน เหงือกอักเสบ ผิวหนังแห้งคัน แผลหายช้า และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน
-วิตามินบี ➡️ช่วยป้องกันอาการชาปลายมือ-ปลายเท้า อาการปากนกกระจอก อาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ช่วยบำรุงโลหิตและระบบประสาท
-วิตามินเอ ➡️ช่วยป้องกันอาการตาบอดกลางคืนและป้องกันอาการตาแห้ง
-วิตามินดี ➡️ช่วยป้องกันภาวะกระดูกอ่อนในเด็ก ป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้ใหญ่ และช่วยป้องกันกล้ามเนื้ออ่อนแรง
-วิตามินอี ➡️ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด
-วิตามินเค ➡️ช่วยในการแข็งตัวของเลือดทำให้เลือดที่บาดแผลหยุดไหล

วิตามินเหล่านี้สามารถพบได้ในอาหารประเภทต่างๆ แต่ต้องรับประทานให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน

ที่มาข้อมูล: . โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์.(2565). แหล่งรวมวิตามินในอาหาร. วันที่สืบค้น 30 ตุลาคม 2566. สืบค้นจาก; https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/vitamins-food

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#วิตามิน #อาหารเสริม #อ่อนล้า #อ่อนเพลีย #ทำงานหนัก #กินเจ

26/10/2023

ใกล้ออกพรรษาแล้ว ทางร้านมีบริการรับจัดชุดสังฆทานนะคะ

🎯ชุดใหญ่ ราคา 499 บาท

🎯ชุดเล็ก ราคา 240 บาท

หรือจัดชุดตามงบ💸 ตามกำลังศรัทธา🙏ได้ค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#ออกพรรษา #สังฆทาน #ชุดสังฆทาน #ถวายพระ

29/09/2023

โรคฉี่หนู (Leptospirosis) คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียตัวหนึ่งที่มีรูปร่างแบบเกลียว ชื่อว่า เล็บโตสไปร่า อินเทอโรแกนส์ (Leptospira interrogans)

🧐ทำไมถึงเรียกว่าโรคฉี่หนูกันนะ?
เพราะโรคนี้มากับฉี่หนูยังไงล่ะ เนื่องจากสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู เป็นพาหะของโรค โดยตัวเชื้อจะอยู่ที่ไตของสัตว์แต่สัตว์เหล่านี้ไม่มีอาการแสดง ซึ่งไตจะทำหน้าที่กรองของเสียเพื่อขับออกเป็นปัสสาวะหรือฉี่ ทำให้เชื้อปะปนมากับฉี่ของสัตว์เหล่านั้น นั่นเอง นอกจากนี้ยังพบเชื้อได้ในสุนัข หมู วัว ควาย อีกด้วย แต่พบในหนูก่อนจึงถูกเรียกว่า”โรคฉี่หนู”

🧐ติดเชื้อได้อย่างไร?
ติดต่อโดยตรงผ่านการสัมผัสหรือโดนสัตว์ที่ติดเชื้อกัด และติดต่อทางอ้อมผ่านบาดแผลที่สัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อซึ่งมาจากฉี่ของหนู สุนัข วัว ควายนั่นเอง
ดังนั้นบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อคือกลุ่มเกษตรกร คนทำงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล กลุ่มคนที่ทำงานใกล้ชิดกับสัตว์ นักสำรวจ นักขุดเจาะ นักเดินป่า นักลาดตระเวน หรือคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง โรคนี้จึงมักระบาดในฤดูฝน

🧐อาการของโรคฉี่หนูมีอะไรบ้าง?
-มีไข้สูง หนาวสั่น เยื่อบุตาแดงทั้ง 2 ข้าง อาจพบเลือดออกในตาขาวได้
-กดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยฉพาะน่อง คอแข็ง
-อาจมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนได้
-อาจมีเลือดออกตามผิวหนังหรืออวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง
-อาจเกิดผื่นผิวหนังได้ ทั้งผื่นแดง ผื่นราบ หรือผื่นลมพิษ
-อาการตัวเหลือง ตาเหลืองมักเกิดในวันที่ 4-6 ของโรค

🧐เราจะป้องกันได้อย่างไร?
1. กำจัดหนูในบ้านและในชุมชน
2. สวมชุดป้องกัน เช่น รองเท้าบู๊ท ถุงมือ ถุงเท้า
3. หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืนที่ไม่มีภาชนะปิด
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่อาจเป็นพาหะ
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนฉี่หรือฉี่ของสัตว์ที่เป็นพาหะ
6. หากจำเป็นต้องสัมผัสกับแหล่งน้ำที่สงสัยว่ามีการปนเปื้อนเชื้อ เมื่อขึ้นจากแหล่งน้ำควรทำความสะอาดร่างกายโดยเร็วที่สุด

ที่มา: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข. (2563). เลปโตสไปโรซีส หรือโรคฉี่หนู มักพบการระบาดในฤดูฝน. สืบค้น 25 กันยยายน 2566, จาก https://www.ddc.moph.go.th/odpc7/news.php?news=13552&deptcode=odpc7

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#โรคฉี่หนู #ฉี่หนู #ไข้สูง #ปวดน่อง #ตัวเหลืองตาเหลือง #โรคหน้าฝน

29/08/2023

🌧เข้าสู่ฤดูฝนมักมีโรคยอดฮิตที่มากับฝนด้วย หนึ่งในนั้นคือโรคไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดในช่วงเดือนสิงหาคมนี้เลย วันนี้จึงมีความรู้เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่และความแตกต่างระหว่างไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดธรรมดามาฝากค่ะ

🤧ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (มกราคม-มีนาคม) ของทุกปี มีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ A, B และ C แต่มีเพียงสายพันธุ์ A และ B ที่มีการระบาด
- สายพันธุ์ A มีหลายซัปไทด์ ที่มีการระบาดเป็นประจำคือ H1N1 และ H3N2
- สายพันธุ์ B แบ่งออกเป็น 2 lineages คือ Victoria และ Yamagata (อาการมักไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ A)

📌ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือ Influenza virus ขณะที่ไข้หวัดทั่วไปจะเกิดจากเชื้อไวรัสทั่วไป เช่น rhinovirus, adenovirus เป็นต้น

📌อาการของไข้หวัดใหญ่จะคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่นมีไข้ น้ำมูก ไอ เสมหะ เจ็บคอ เป็นต้น แต่อาการที่แตกต่างคือการมีไข้สูงเฉียบพลัน อาจสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการหนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัวและกล้ามเนื้อ ในบางรายอาจมีอาการท้องเสียหรือเบื่ออาหารได้
บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย เช่น หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบ หรือภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อย เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปลายประสาทอักเสบ และสมองอักเสบเป็นต้น

📌การรักษา ในคนที่อาการไม่รุนแรงจะรักษาตามอาการ คล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่น ใช้ยาพาราเซตามอลและใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวลดไข้ ใช้ยาลดน้ำมูกหรือยาละลายเสมหะ รับประทานอาหารอ่อนๆ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
ในรายที่มีอาการรุนแรงจำเป็นจะต้องได้รับยาต้านไวรัสคือยา โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ในรายที่มีความเสี่ยงจะมีอาการรุนแรงหรือมีอาการของปอดอักเสบจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการโดยแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด

📌กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
1. หญิงมีครรภ์
2. เด็กเล็ก อายุ 6 เดือน- 2 ปี
3. อายุ 65 ปี ขึ้นไป
4. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ ไตวาย หลอดเลือดสมอง เบาหวาน ธาลัสซีเมีย มะเร็งที่อยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัด ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ติดเชื้อเอชไอวี
5. ผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

📌📌วัคซีนไข้หวัดใหญ่ต้องฉีดทุกปีเพราะเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ วัคซีนที่ผลิตในแต่ละปีจะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตามเชื้อไวรัส📌📌

ที่มาของข้อมูล: กนกพร รังสิตเสถียร, วรรษมน จันทรเบญจกุล สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย. (2566). โรคไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่. สืบค้น 25 สิงหาคม 2566, จาก https://www.pidst.or.th/A709.html

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#ไข้หวัดใหญ่ #ไข้หวัด #หวัด #ไข้สูง

26/07/2023

เครื่องบริหารปอด (Incentive spirometer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัดเพื่อให้ปอดขยายตัวได้อย่างเต็มที่ โดยใช้หลักการให้ผู้ป่วยหายใจเข้าอย่างช้า ๆ จนรู้สึกว่าหายใจเข้าลึกจนสุด

✨ชนิดของเครื่องบริหารปอด (Type of Incentive spirometer )✨
1. ชนิดควบคุมปริมาตรอากาศที่หายใจเข้าไป (Volume displacement devices)
หลักการเพิ่มความจุของปอดโดยการค่อย ๆ เพิ่มปริมาตรอากาศที่หายใจเข้าให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ มี 3 แบบได้แก่ Voldyne 2500 ml, Voldyne 5000 ml และ Pediatric Voldyne

วิธีใช้เครื่อง Voldyne
1.กำหนดปริมาตรอากาศที่ต้องการหายใจเข้า
2. นั่งตัวตรง ใช้ริมฝีปากครอบmouthpiece ให้แนบสนิท
3. ค่อยๆดูดลมเข้า รักษาระดับลูกบอลฝั่งซ้ายให้อยู่ในระดับ best จนลูกสูบสีขาวเลื่อนขึ้นถึงระดับที่ตั้งไว้ จากนั้นคลายปากออกจาก mouthpiece แล้วหายใจออก
4. รอจนลูกสูบสีขาวลงมาถึงตำแหน่งเริ่มต้นพักสักครู่แล้วเริ่มทำซ้ำ

2. ชนิดควบคุมการไหลเข้าของอากาศ (Flow dependent device)
หลักการเพิ่มความจุของปอดโดยการเพิ่มการไหลของอากาศที่หายใจเข้า มี 2 แบบ ได้แก่ Uniflow และ Triflow/tri ball

วิธีใช้เครื่อง Triflow
1. นั่งตัวตรง ใช้ริมฝีปากครอบ mouthpiece ให้แนบสนิท
2. ค่อยๆดูดลมเข้า เมื่ออัตราการไหลของอากาศที่หายใจเข้ามีค่า ≥ 600 ml/s ลูกบอลลูกแรกจะลอยขึ้น
3. ดูดค้างไว้จนลูกบอลลอยขึ้นมาจนครบ ในส่วนลูกที่ 2 และ 3 จะมีอัตราการไหลของอากาศ ≥ 900 และ 1200 ml/s
4. จากนั้นคลายปากออกจาก mouthpiece แล้วหายใจออก
5. พัก 2-3 วินาที แล้วเริ่มทำซ้ำ 5-10 ครั้ง/ชั่วโมง ควรทำอย่างน้อย 100ครั้ง/วัน

ที่มา:1. ขนิษฐารัตนกัลยา, การโค้ชการบริหารการหายใจโดยใช้เครื่องบริหารปอดในผู้ป่วยหลังผ่าตัด, "วารสารพยาบาลทหารบก 19 ฉบับพิเศษ, (พฤษภาคม - สิงหาคม 2561) : 1-9.
2. นิดา วงศ์สวัสดิ์ นักกายภาพบำบัด ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, การบริหารปอดโดยใช้อุปกรณ์ช่วยขยายปอด.(ออนไลน์). แหล่งที่มา: https://malengpod.com/incentive-spirometer/. ; วันที่สืบค้น: 23 กรกฎาคม 2566.
3. มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, การใช้ Triflow อย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ. (ออนไลน์).30 พฤษภาคม 2557.แหล่งที่มา : https://www2.si.mahidol.ac.th /km/cop/clinical/respiratory/5137/.วันที่สืบค้น 22 กรกฎาคม 2566.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#เครื่องบริหารปอด #เครื่องดูดปอด #เหนื่อย #หายใจลำบาก #พักฟื้นหลังผ่าตัด

Photos from หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์'s post 28/06/2023

ประเทศไทยได้เดินทางเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้อากาศในประเทศเย็นลง แต่สิ่งที่แฝงมากับฤดูนี้คือโรคระบาดที่เรียกว่า “ไข้เลือดออก”

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันว่าคืออะไร ติดต่อกันได้อย่างไร มีอาการอะไรบ้าง มีวิธีการดูแลรักษาตนเองเบื้องต้นอย่างไร และวิธีป้องกันตัวเองจากโรคนี้อย่างไร

โรคไข้เลือดออก คือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ซึ่งมียุงลายเพศเมียเป็นพาหะนำโรค มักมีการระบาดในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน-สิงหาคม) มี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4

การติดต่อของโรค
1. ยุงลายได้รับเชื้อไวรัสจากการดูดเลือดคนไข้ที่อยู่ในระยะมีไข้ (ติดเชื้อ 2-6 วัน)
2. ไวรัสไปฝังตัวที่เซลล์ผนังกระเพาะของยุงลายและทำการเพิ่มจำนวนเมื่อมีจำนวนมากพอเชื้อไวรัสจะไปฝังอยู่ที่ต่อมน้ำลายของยุงลาย ใช้เวลา 8-12 วัน
3.เมื่อยุงลายที่มีเชื้อไปกัดคนจะทำการปล่อยเชื้อไวรัสเข้าสู่คนผ่านการดูดเลือด หลังจากนั้นจะเริ่มแสดงอาการภายใน 3-7 วัน (ยุงลายมักออกหาอาหารในช่วงเวลากลางวัน)

อาการของโรค
ในการติดเชื้อครั้งแรก 80-90% อาการมักไม่รุนแรง อาจมีบางรายที่มีอาการ ไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดตามข้อ หรือมีผื่นขึ้นตามผิวหนัง อาการเหล่านี้เรียกว่าไข้เดงกีที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี โดยการติดเชื้อนี้จะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ที่ติดเชื้อตลอดชีวิตจะไม่ติดเชื้อสายพันธุ์เดิมซ้ำ รวมถึงมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์อื่นในระยะสั้น 3-12 เดือน
การติดเชื้อครั้งที่ 2 จะเป็นการติดเชื้อต่างสายพันธุ์กับครั้งแรก ซึ่งมักทำให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยแบ่งระยะของโรคเป็น 3 ระยะดังนี้
1. ระยะมีไข้ เกิดในช่วง 2-7 วันหลังการได้รับเชื้อ มีอาการไข้สูง มากกว่า 38.5 oC หรืออาจสูงถึง 40-41 องศาเซลเซียสได้ และมักไม่ตอบสนองต่อยาลดไข้ มักเรียกกันว่าไข้ลอย นอกจากนี้ยังมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือมีผื่นขึ้นตามผิวหนังด้วย
2. ระยะวิกฤต เกิดขึ้นในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังจากระยะไข้ ในระยะนี้ผู้ที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอาการจะค่อยๆดีขึ้น ส่วนในผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอ่อนเพลียมากกว่าเดิม
อันตรายที่สุดของระยะนี้คือการมีเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เลือดออกง่ายขึ้น เช่นเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ถ่ายเป็นสีดำ ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลดำ อาเจียนเป็นเลือดสีดำ เป็นต้น และจากการเกิดการรั่วซึมของพลาสมาออกจากหลอดเลือด ส่งผลให้"เกิดภาวะช็อค"ได้ สังเกตุได้จากไข้ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว มือเท้าเย็น ความดันต่ำ ชีพจรเต้นเบาเร็ว ปัสสาวะได้น้อยหรือไม่มีปัสสาวะในช่วง 4-6 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระยะนี้จะเรียกกันว่าไข้เลือดออกที่เกิดจากไวรัสเดงกี
3. ระยะฟื้นตัว อาการจะค่อยๆดีขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพจรเต้นแรงและช้า ปัสสาวะได้มากขึ้น อาจมีผื่นแดงเป็นจุดตามผิวหนังได้บางราย

การดูแลตัวเองเบื้องต้น
โรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะกับไวรัส ทำได้เพียงรักษาแบบประคับประคองตามอาการ
1. ควรได้รับอาหารและน้ำที่พียงพอ รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอโดยสังเกตจากสีของปัสสาวะที่มีสีเหลืองใส หากมีสีเข้มแสดงว่าร่างกายยังขาดน้ำอยู่ ทั้งนี้ควรงดน้ำที่มีสีดำ แดง น้ำตาลพื่อป้องกันการประเมินสีที่ผิดไปของปัสสาวะ ส่วนในผู้ป่วยที่มีอาการอาเจียนหรือท้องเสียควรได้รับเกลือแร่ O.R.S. ทดแทน
2. ลดไข้ โดยเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นร่วมกับการรับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล แต่ไม่ควรใช้เกิน 4000 มิลลิกรัมต่อวันหรือ ขนาดยา 500 มิลลิกรัมจำนวน 8 เม็ดต่อวัน เพื่อป้องกันภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน
ห้ามใช้ยาลดไข้ในกลุ่ม NSAIDs และ Steroids เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน โดยเด็ดขาดเนื่องจากทำให้เกิดเลือดออกได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้โรครุนแรงขึ้นได้
3. สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการดังนี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที
- ไข้ลดลงแต่อาการไม่ดีขึ้น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง กระสับกระส่าย
- ปวดท้องหรืออาเจียนมากกว่า 3 ครั้ง/วัน
- หน้ามืด จะเป็นลม เวียนศีรษะ หรือมือและเท้าเย็น ซึมลง
- ปัสสาวะลดลงหรือไม่มีปัสสาวะใน 4 - 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- เลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล อุจจาระสีดำ อาเจียนเป็นเลือด ประจำเดือนมานอกรอบหรือมามากผิดปกติ ปัสสาวะสีน้ำตาลเข้มหรือดำ

การป้องกันไข้เลือดออก
- ป้องกันตัวเองจากการถูกยุงกัด โดยการนอนกางมุ้ง สวมเสื้อและกางเกงแขนยาวขายาว ใช้สารไล่ยุงทั้งยากันยุง ฉีดสเปรย์ ทาโลชั่น หรือแผ่นแปะกันยุง
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย แหล่งน้ำขังต่างๆ เช่น ยางรถยนต์ ขวด กระป๋อง เป็นต้น ควรมีการถ่ายเทน้ำในภาชนะต่างๆ เช่น แจกันดอกไม้ เป็นต้น ปิดฝาภาชนะต่างๆที่ใช้บรรจุน้ำให้มิดชิด เติมทรายบริเวณใต้ต้นไม้ที่รดน้ำเป็นประจำเพื่อช่วยดูดซับน้ำป้องกันน้ำท่วมขังเป็นแหล่งเพาะพันธ์ของยุงลาย
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก โดยวัคซีนสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ในผู้ใหญ่หรือเด็กที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป ที่มีประวัติเคยติดเชื้อไวรัสเดงกีแล้ว

ข้อมูลจาก:
1. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข.(2565).ไข้เด็งกี่. วันที่สืบค้น 24 มิถุนายน2566. สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=44
2. โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์.(2565). โรคไข้เลือดออก ภัยร้ายจากยุงลาย. วันที่สืบค้น 24 มิถุนายน 2566. สืบค้นจาก https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/dengue
3.World Health Organization.(2565). Dengue and severe dengue. วันที่สืบค้น 26 มิถุนายน2566. สืบค้นจาก https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/dengue-and-severe-dengue

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#ไข้เลือดออก #ยุงลาย #ไข้เดงกี่ #ไข้สูง

Photos from หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์'s post 26/05/2023

โรคเบาหวานเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งพฤติกรรมในการบริโภคอาหารก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
ยิ่งอากาศร้อนๆในช่วงนี้ ต้องมาคู่กับของหวานๆเย็นๆ ช่วยคลายร้อน รวมถึงผลไม้ต่างๆที่เริ่มออกในฤดูกาลนี้ เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก เงาะ แตงโม เป็นต้น แน่นอนว่าต้องมีอันตรายแฝงมากับอาหารเหล่านี้ด้วย นั่นก็คือน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นนั่นเอง

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดด้วยตนเอง ซึ่งสะดวก พกพาง่าย วิธีตรวจไม่ยุ่งยาก สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน หรือผู้ป่วยเบาหวานเอง เพื่อป้องอันตรายจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป

✨การติดตามค่าน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองคืออะไร?
คือการใช้เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองชนิดพกพา (self monitoring of blood glucose meter) ทำให้ผู้ป่วยสามารถตรวจระดับน้ำตาลในเลือดได้เอง ใช้ควบคุมติดตามการเปลี่ยนแปลงค่าน้ำตาล ในแต่ละช่วงเวลา ในแต่ละวัน

✨ใครต้องตรวจติดตามค่าน้ำตาลในเลือดบ้าง?
• ผู้ป่วยที่ต้องการควบคุมเบาหวานอย่างเข้มงวด • ผู้ป่วยที่ควบคุมเบาหวานไม่ได้
• ผู้ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยเป็นเบาหวาน ต้องการเรียนรู้การดูแลตนเอง
• ผู้ป่วยที่มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำบ่อย ๆ
• ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน

✨ใช้อุปกรณ์อะไรในการตรวจบ้าง?
1. ตัวเครื่องอ่านค่าน้ำตาลในเลือด
2. แถบทดสอบ/แผ่นวัดน้ำตาล
3. ปากกาเจาะลือด
4. เข็มเจาะเลือด

✨มีวิธีตรวจอย่างไร?
1. เตรียมปากกาและเข็มเจาะเลือดให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2. ปรับระดับความลึกของอุปกรณ์เข็มเจาะเลือดให้เหมาะสมกับสภาพความหนาของผิวบริเวณปลายนิ้ว
3. เตรียมเครื่องตรวจวัดและแถบทดสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
4. ล้างมือให้สะอาดและทำให้แห้ง หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดปลายนิ้วและรอแห้ง
5. เจาะบริเวณด้านข้างของปลายนิ้วกลางหรือนิ้วนาง เจาะเลือดในปริมาณเพียงเล็กน้อยที่บริเวณปลายนิ้ว ไม่ควรบีบเค้น ***กรณีที่เลือดไม่เพียงพอ ห้ามเค้นเลือด ให้เพิ่มระดับความลึกของเข็ม และเจาะเลือดใหม่โดยเปลี่ยนบริเวณที่เจาะไม่ซ้ำบริเวณเดิม***
6. ตรวจวัดน้ำตาลในเลือดตามขั้นตอนการตรวจวัดของคู่มือการใช้งานหรือเอกสารกำกับที่มาพร้อมกับเครื่องตรวจวัด
7. กดห้ามเลือดบริเวณที่เจาะด้วยสำลีแห้งที่สะอาดจนเลือดหยุด
8. ทิ้งเข็มที่ใช้แล้วและวัสดุปนเปื้อนอื่น ๆ ในภาชนะที่ป้องกันการแทงทะลุ ก่อนนำไปทิ้งถังขยะ

✨เป้าหมายของระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด?
- ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด ก่อนอาหาร เป้าหมาย 80 –120 mg/dL
- ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด หลังอาหาร 2 ชม. เป้าหมาย < 180 mg/dL
- ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด ก่อนเข้านอน เป้าหมาย 100 –140 mg/dL

✨การปฏิบัติตัวเมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูง?
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) 100-140 mg/dL
อาการที่พบ : คอแห้ง กระหายน้ำ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย บางรายอาจหมดสติ
คำแนะนำ : ดื่มน้ำเปล่าให้มากเพื่อป้องกันการขาดน้ำ ห้ามหยุดยาลดระดับน้ำตาลในเลือดเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ หากหมดสติให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

✨คำแนะนำและข้อควรระวังเพิ่มเติมในการตรวจติดตามค่าน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง
- ตลับแผ่นตรวจต้องปิดฝาให้สนิททันทีหลังเปิดใช้
- แผ่นวัดต้องไม่เสื่อมสภาพ
- เก็บรักษาเครื่องและภาชนะบรรจุแผ่นวัดไว้ในที่แห้งและเย็น
- ตรวจสอบวันหมดอายุของแผ่นวัด
- ก่อนเจาะเลือดนิ้วต้องสะอาดและแห้ง หลีกเลี่ยงการเจาะจากบริเวณผิวหนังที่มีการติดเชื้อ
- ***เจาะบริเวณด้านข้างของปลายนิ้วจะเจ็บน้อยกว่า***
- ไม่บีบเค้นเลือดบริเวณปลายนิ้ว เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลที่วัดได้ผิดพลาด
- ไม่ควรใช้เข็มเจาะมากกว่า 1 ครั้ง
- ทำความสะอาดช่องอ่านผลเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้คราบเลือดรบกวนการอ่านผล

ข้อมูลจาก:
1. คณะกรรมการพิจารณาคุณภาพมาตรฐานเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยตนเองชนิดพกพา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.(2555). ใช้เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดให้เป็น. วันที่สืบค้น 20 พฤษภาคม 2566. สืบค้นจากhttps://www.nayokhospital.go.th/dept/NCDs-Center/wpcontent/uploads/2019/03/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94.pdf
2. โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์.(2564). วิธีตรวจระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน. วันที่สืบค้น 20 มีนาคม 2566. สืบค้นจาก https://www.siphhospital.com /th/news/article/share/self-monitoring-of-blood-glucose

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#เบาหวาน #เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด #เครื่องตรวจน้ำตาล #ตรวจเลือด #น้ำตาลในเลือดต่ำ #น้ำตาลในเลือดสูง

20/04/2023

โควิด 19 สายพันธุ์ลูกผสมโอมิครอน!!!

หลังจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีแนวโน้มการระบาดของโควิด 19 เพิ่มขึ้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโควิดสายพันธุ์ลูกผสมของโอมิครอนที่มีแนวโน้มจะระบาดแทนที่สายพันธ์เดิมกัน

สายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกเฝ้าระวังและมีการพบในผู้ป่วยโควิดของไทยคือ สายพันธุ์ XBB.1.5 และ XBB.1.16

โดยสายพันธุ์ XBB.1.5 เป็นสายพันธุ์ผสมของโอมิครอน BJ.1 BM.1.1.1 แพร่กระจายได้เร็วและเป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดใน 95 ประเทศ มีความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดี แต่ยังไม่พบหลักฐานที่แสดงว่าส่งผลต่อความรุนแรงของโรค ส่วนอาการจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก

ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ผสมของโอมิครอน BA.2.10.1 BA.2.75 อาจแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ XBB.1.5 การระบาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้เทียบเท่าสายพันธุ์ XBB.1.5 แต่ยังไม่พบหลักฐานที่แสดงว่าส่งผลต่อความรุนแรงของโรคเช่นเดียวกับสายพันธุ์ XBB.1.5 ส่วนอาการจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกคล้ายกันแต่อาจมีอาการเยื่อบุตาอักเสบทำให้เกิดอาการตาแดง คันตา มีขี้ตาเหนียวร่วมด้วยในบางราย

อย่างไรก็ดีจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยในสายพันธุ์ XBB.1.5 พบจำนวน 43 คน สายพันธุ์ XBB.1.16 พบจำนวน 10 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 เมษายน 2566) ซึ่งจำนวนยังไม่สูงแต่ควรมีการเฝ้าระวัง ป้องกันตนเองโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะหรือพื้นที่แออัด ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อได้

ส่วนการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ยังคงใช้วิธีการตรวจแบบ PCR หรือ ATK ในการตรวจหาเชื้อได้เช่นเดิมในทุกๆสายพันธุ์

ที่มา:กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.(2566). สไลด์แถลงข่าว อัพเดทสายพันธุ์โควิด 19 ในไทย วันที่ 18 เมษายน 2566. วันที่สืบค้น 19 เมษายน 2566. สืบค้นจาก; https://www3.dmsc.moph.go.th/post-view/1865

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#โควิด #โควิด19 #โควิดลูกผสมโอมิครอน #โควิดสายพันธุ์ใหม่ #ตาแดง #คันตา

Photos from หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์'s post 22/03/2023

โรคลมแดดหรือ Heatstroke ภัยร้ายที่มากับหน้าร้อน!!!🥵
ในปีนี้ประเทศไทยก็ได้เดินทางเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2566 สัมผัสได้จากอุณหภูมิในช่วงสัปดาห์นี้ที่ร้อนระอุขึ้นมาถึง 38 องศาเซลเซียสตั้งแต่ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา อากาศที่ร้อนไม่ได้เป็นปัญหาเพียงอย่างเดียวแต่ยังแฝงมาด้วยโรคที่เกิดจากความร้อนนั่นก็คือ "โรคลมแดดหรือ Heatstroke" วันนี้เราจึงมีความรู้ วิธีปฐมพยาบาล และเคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงโรคลมแดดมาฝากค่ะ

โรคลมแดด (heatstroke) คืออะไร???🤔
โรคลมแดด (heatstroke) เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ได้ (อุณหภูมิปกติอยู่ในช่วง 36-37.5 องศาเซลเซียส) ส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยปกติร่างกายจะมีกลไกสำคัญในการลดอุณหภูมิร่างกายผ่านการขับความร้อนออกทางเหงื่อ แต่ในภาวะที่กลไกการขับเหงื่อทำงานไม่ได้ทำให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ ส่งผลให้อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นถึง 40.5 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่านั้นภายใน 10 ถึง 15 นาที ซึ่งอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

โรคลมแดดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1) โรคลมแดดที่ไม่ได้เกิดจากการใช้กำลังกายหนัก (classical heatstroke or non-exertional heatstroke: NEHS) โรคลมแดดประเภทนี้เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่มากเกินไป มักพบได้ บ่อยในผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังซึ่งทำให้ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนและการขาดน้ำได้โรคลมแดดประเภทนี้ยังสามารถเกิดขึ้นกับคนในทุกๆ วัย โดยเกิดจากยารักษาโรคบางชนิด หรือ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
2) โรคลมแดดที่เกิดจากการใช้กำลังกายหนัก (exertional heatstroke: EHS) เช่น การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป มักเกิดขึ้นกับคนอายุน้อย นักกีฬา และทหารเกณฑ์ที่ฝึกหนักในอากาศร้อนจัดและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

อาการของโรคลมแดดมีอะไรบ้าง???🤔
โรคลมแดดไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่สัมผัสกับอากาศร้อน แต่เกิดขึ้นจากการอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานานหรือใช้กำลังกายในอุณหภูมิที่ร้อนสูง ซึ่งเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น อาจเริ่มมีอาการ
👉วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อ่อนแรงและคลื่นไส้
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น
👉สับสน พูดไม่ชัดเจน กระสับกระส่าย หรือเห็นภาพหลอน หากรุนแรงมากอาจทำให้เกิดการชักเกร็งและมีอาการโคม่าได้ในที่สุด

สังเกตได้ว่าเมื่อสัมผัสผู้ที่มีอาการจะพบตัวร้อนมากและมีผิวสีแดงกว่าปกติ (flushing)

🚑การปฐมพยาบาล🚑
1. ย้ายผู้ป่วยไปยังพื้นที่ร่มและเย็น และ/หรือถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออก ห้ามรุมเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
2.ทำให้อุณหภูมิร่างกายเย็นลงโดยใช้น้ำเย็นหรืออ่างน้ำแข็งทำให้ผิวเปียก วางผ้าเปียกบนผิวหนัง วางผ้าเปียกหรือผ้าห่อน้ำแข็งตามจุดบนร่างกายที่มีอุณหภูมิสูงคือบริเวณศีรษะ คอ รักแร้ และขาหนีบ

***ทั้งนี้หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาโดยทันที อาจเกิดอาการที่รุนแรงและบางครั้งอาจไม่กลับมาเป็นปกติได้ ยิ่งผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษานานเท่าใด โอกาสในการเสียชีวิตจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น***

🎯เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงโรคลมแดด
✨หากอยู่ในที่อุณหภูมิสูง สามารถหลีกเลี่ยงโรคลมแดดได้โดยการดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสามารถทำตัวให้เย็นลงได้ตามธรรมชาติผ่านทางเหงื่อ
✨หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากเพิ่มการขับน้ำทางปัสสาวะ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากขึ้น
✨สวมใส่เสื้อผ้าที่เบาบางและไม่รัดแน่นจนเกินไป ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่เย็นอย่างเหมาะสม
✨อย่าใช้กำลังกายมากเกินไปในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน ให้ทำงานที่ใช้กำลังมากที่สุดในตอนเช้าหรือตอนเย็นเมื่ออุณหภูมิเย็นลง
✨หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีแดดจัด รวมถึงการนั่งในรถยนต์ที่จอดไว้ถึงแม้จะเปิดกระจกทิ้งไว้หรือจอดรถยนต์ไว้ในที่ร่มก็ตาม เพราะอุณหภูมิในรถยนต์สามารถร้อนจัดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจาก:
1. ชลทิตย์ จงบุญประเสริฐ.(2559).รู้ทัน..ป้องกันโรคลมแดด.วันที่สืบค้น 20 มีนาคม 2566. สืบค้นจาก https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/march-2016/heatstroke-symptoms-prevention
2. The National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH).(2565). Heat Stress – Heat Related Illness. วันที่สืบค้น 20 มีนาคม 2566. สืบค้นจาก https://www.cdc.gov/niosh/topics/heatstress/heatrelillness.html

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#โรคลมแดด #ลมแดด #เป็นลม #ร้อน #ฤดูร้อน #ฮีทสโตรก

Photos from หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์'s post 26/02/2023

🐟🐟น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร🧐
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาหลายๆคนคงเคยได้ยินและบางคนอาจเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้คือสิ่งเดียวกัน ใช้ประประโยชน์ได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้มีความแตกต่างกันและใช้ประโยชน์ที่ต่างกัน ซึ่งจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรวันนี้เรามีคำตอบค่ะ

1. แหล่งที่มาของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
✨น้ำมันปลา ผลิตมาจากส่วนต่างๆของปลาทะเลน้ำลึก เช่น หนัง เนื้อ หัว หางปลา เป็นต้น จะได้เป็นน้ำมันปลาหรือ Fish oil
✨น้ำมันตับปลา ผลิตมาจากตับของปลาทะเลแต่ส่วนใหญ่เป็นตับของปลาค็อด จึงเรียกว่าน้ำมันตับปลาหรือ Cod liver oil

2. สารสำคัญของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
✨- น้ำมันปลา มีสารสำคัญคือกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบไปด้วย กรดไขมันอีโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentanoic acid: EPA) หรือที่เรารู้จักในชื่อ อีพีเอ และกรดไขมันโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid: DHA) หรือที่เรารู้จักในชื่อ ดีเอชเอ
✨น้ำมันตับปลา สารสำคัญที่พบมากในตับปลาจะเป็นวิตามิน เอ และวิตามิน ดี นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 แต่พบได้น้อยกว่าน้ำมันปลา

3. ประโยชน์ของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
เมื่อสารสำคัญแตกต่างกันแล้วดังนั้นการใช้ประโยชน์จึงแตกต่างกันด้วย
✨น้ำมันปลา ใช้สำหรับลดไขมันในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังพบว่าหากใช้ร่วมกับยาลดปวดในผู้ป่วยด้วยข้ออักเสบรูมาตอยด์พบว่าสามารถลดปริมาณยาที่ใช้ในการลดอาการปวดได้
✨น้ำมันตับปลา เป็นแหล่งรวมของวิตามิน เอ และวิตามิน ดี ดังนั้นจึงใช้เพื่อเสริมปริมาณวิตามินเหล่านี้ในผู้ที่ขาด เช่น ผู้ที่มีอาการมองไม่เห็นในที่แสงน้อยหรือตาบอดกลางคืน ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามินเอ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้ใหญ่และกระดูกอ่อนในเด็ก

4. ผลข้างเคียงของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
ผลข้างเคียงทั้งสองค่อนข้างคล้ายคลึงกันคือทำให้แสบร้อนกลางอก, คลื่นไส้, ไม่สบายท้อง, ท้องเสียได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเลือดออกได้ง่ายและเลือดหยุดไหลยาก แต่ที่แตกต่างกันคือน้ำมันตับปลาส่งผลให้มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มได้

5. ข้อควรระวังของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
✨น้ำมันปลา มีกรดไขมันโอเมก้า 3 มีผลต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด จึงไม่ควรใช้ในคนที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน วาฟาริน เป็นต้น หรือใช้ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออก เช่น ผู้สูงอายุ มีแผลในทางเดินอาหาร หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
✨น้ำมันตับปลา เป็นแหล่งของวิตามิน เอ และวิตามิน ดี ดังนั้นควรระวังปริมาณการใช้หรือการใช้ร่วมกับวิตามิน เอและวิตามิน ดี เสริมตัวอื่นๆ เพราะหากใช้ในขนาดที่สูงอาจทำให้มีการสะมสมของวิตามิน เอ และวิตามิน ดี จนเกิดความเป็นพิษขึ้นได้ โดยพิษจากวิตามิน เอ มีดังนี้ มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มีผลต่อระบบประสาท ทำให้ตับถูกทำลาย หิวน้ำ ปัสสาวะบ่อย และอาจทำให้ผมร่วง ผิวแห้งได้ นอกจากนี้ในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับปริมาณวิตามิน เอ มากกว่า 3000 ไมโครกรัมต่อวันจะทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ ส่วนพิษจากวิตามิน ดี มีดังนี้ ทำให้แคลเซียมในร่างกายไม่สมดุล อาจทำให้มีอาการ ปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย เบื่ออาหาร และกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจทำให้เกิดภาวะไตวายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

🎯ดังนั้นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

ที่มา:
1. นลินี จงวิริยะพันธุ์.ประโยชน์ของน้ำมันตับปลา. วารสารวาไรตี้เพื่อสุขภาพ. 2556;11
2. อุษาศิริศรีสกุล.(2022). การใช้ยารักษาภาวะไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงระดับปานกลาง เพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดจากหลอดเลือดแดงแข็ง. [cited 2023 Feb 15] Available form: https://www.pharmacycouncil.org/ccpe/index.php?option=article_detail&subpage=article_detail&id=1224
3.สำนักงานโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.(2020). ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563. [cited 2023 Feb 15] Available form:https://www.thaidietetics.org/wp-content/uploads/2020/04/dri2563.pdf
4.Office of dietary supplements National institutes of health.(2022). Omega-3 Fatty Acids. [cited 2023 Feb 15] Available form: https://ods.od.nih.gov/factsheets/Omega3FattyAcids-HealthProfessional/
5. Office of dietary supplements National institutes of health.(2022).Cod Liver Oil. [cited 2023 Feb 15] Available form: https://medlineplus.gov/druginfo/natural/1040.html
6. Lee YH, Bae SC, Song GG. Omega-3 polyunsaturated fatty acids and the treatment of rheumatoid arthritis: a meta-analysis. Arch Med Res. 2012 Jul;43(5):356-62. doi: 10.1016/j.arcmed.2012.06.011. Epub 2012 Jul 24. PMID: 22835600.
7. Abdelhamid AS, Brown TJ, Brainard JS, Biswas P, Thorpe GC, Moore HJ, Deane KH, Summerbell CD, Worthington HV, Song F, Hooper L. Omega-3 fatty acids for the primary and secondary prevention of cardiovascular disease. Cochrane Database Syst Rev. 2020 Feb 29;3(3):CD003177. doi: 10.1002/14651858.CD003177.pub5. PMID: 32114706; PMCID: PMC7049091.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์:สาขาสำนักงานใหญ่ : 043-320737
สาขาเยื้อง รพ.ศูนย์ขอนแก่น : 043-327345หรือ 084-052-4466
Line:
Facebook:หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์

#น้ำมันปลา #น้ำมันตับปลา #ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ต้องการให้ธุรกิจของคุณ โรงเรียน ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง โรงเรียน ใน Khon Kaen?
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?

Our Story

หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ เปิดทำการอยู่คู่ชาวขอนแก่น มากว่า 40 ปี จำหน่าย ปลีก-ส่ง รับซ่อม เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ เตียงผู้ป่วย รถเข็นผู้ป่วย คุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์คลีนิคเวชกรรม วัสดุใช้แล้วทิ้งทางการแพทย์ รวมทั้ง อุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์สำหรับห้องแล็ปปฎิบัติการทุกชนิด รวมถึงสารเคมีและเคมีภัณฑ์ทุกชนิด และยังมีบริการสำหรับผู้ที่สนใจเปิดร้านขายเครื่องอุปกรณ์การแพทย์เป็นของตัวเอง และ ขายส่งสำหรับร้านยาทั่วประเทศ
บรืการทุกท่านด้วยทีมงานคุณภาพ และดูแลบริหารโดยเภสัชกรปริญญา
*****ขอขอบคุณทุกท่านที่เลือกใช้ในบริการของเรา*****

วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)

หจก.ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ สวัสดีครับ  เราจัดจำหน่าย อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ หลากหลายชนิด เปิด 09.00 -...
วันนี้ร้านเปิดปกตินะคะ  ติดต่อสอบถามได้ค่ะ..สาขา หน้า รพ. ศรีนครินทร์ 043-244188สาขา หน้า รพ. ศูนย์  043-327345สำนักงานใ...

ที่อยู่


หจก. ขอนแก่นอุปกรณ์การแพทย์ สาขา 1 เลขที่ 182/107 ถ. ศรีจันทร์ ต. ในเมือง อ. เมือง จ. ขอนแก่น
Khon Kaen
40000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00
เสาร์ 09:00 - 18:00
อาทิตย์ 09:00 - 18:00