Child Space Clinic คลินิกสุขภาพจิตเด็กและพัฒนาการ by SMIND
คลินิกสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กระตุ้นพัฒนาการ ปรับพฤติกรรม ฝึกพูด ฝึกทักษะด้านการเรียนรู้ โดยทีมจิตแพทย์เด็กและผู้เชี่ยวชาญในเครือ SMIND

✏️ ลูกอ่านหนังสือไม่ออก เขียนช้า เริ่มเกลียดการเรียน
ไม่ใช่แค่เรื่อง “ขี้เกียจ” แต่อาจคือ
“ความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้” ของเด็กคนหนึ่ง
เคยไหมคะ ที่ลูก…
• ทำการบ้านช้าเป็นชั่วโมง
• อ่านหนังสือผิดทุกบรรทัด
• ลายมือไม่เป็นระเบียบ อ่านเองยังลำบาก
แล้วเริ่มพูดว่า…
“หนูไม่อยากเรียนแล้ว”
“ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนคนอื่น”
“ครูบอกว่าเพื่อนเขียนเสร็จกันหมดแล้ว เหลือหนูคนเดียว”
🧠 จากมุมมองจิตวิทยาการเรียนรู้
เด็กที่มีปัญหาด้านการอ่าน เขียน คิดเลข หรือการจัดลำดับความคิด
อาจมีภาวะที่เรียกว่า Specific Learning Disorder (SLD)
ซึ่งพบได้ประมาณ 5–15% ของเด็กวัยเรียนทั่วโลก (APA, 2022)
แต่หลายคนไม่เคยได้รับการประเมินอย่างถูกต้อง เพราะถูกมองว่า “ช้า” หรือ “ไม่ตั้งใจ”
SLD มีหลายรูปแบบ เช่น:
• Dyslexia (บกพร่องด้านการอ่าน) → อ่านผิด, อ่านช้า, อ่านข้ามคำ
• Dysgraphia (บกพร่องด้านการเขียน) → เขียนช้า, ลายมือไม่สม่ำเสมอ, เจ็บมือ
• Dyscalculia (บกพร่องด้านคณิตศาสตร์) → บวก ลบ คูณ หารยาก, จัดลำดับตัวเลขไม่ถูก
❗ แล้วปัญหานี้ส่งผลอย่างไร?
เด็กที่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
จะค่อย ๆ สูญเสีย ความมั่นใจในตัวเอง
และเสี่ยงพัฒนาเป็นภาวะ กลัวการเรียน (school refusal) หรือ วิตกกังวลในห้องเรียน ในอนาคต
ยิ่งมีคนเปรียบเทียบ ดุ หรือเร่งให้เก่งขึ้นไว ๆ
ยิ่งทำให้เด็ก ไม่อยากเข้าใกล้การเรียนรู้ เลย
✅ แล้วพ่อแม่ควรทำอย่างไร?
1. หยุดใช้คำว่า “ขี้เกียจ”
เพราะเบื้องหลังความขี้เกียจ อาจคือ “เด็กที่ไม่ไหว แต่ไม่รู้จะพูดยังไง”
2. สังเกตพฤติกรรมอย่างใจเย็น
• ลูกอ่านแล้วเข้าใจไหม? หรือท่องแต่ไม่เข้าใจ
• เขียนตามคำบอกได้ไหม? หรือกลัวแม้แต่จะเริ่ม
• บ่นว่าปวดมือ? เขียนไม่ทันเพื่อน?
3. ทำความเข้าใจลูกเพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย และไม่กดดัน
บางครั้งที่ลูกเราพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็ไม่ทันเพื่อนสักที อาจจะทำให้รู้สึกด้อย
และเสียความมั่นใจการที่ลูกกล้าที่จะบอกโดยมีพ่อแม่ที่เข้าใจและพยายามไปพร้อมเขา
เข้าใจว่าที่เขาทำไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่ทันและอาจจะช้ากว่าคนอื่นไปบ้างก็ไม่เป็นไร
จะทำให้ลูกมีกำลังใจและพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตามศักยภาพที่เขามี
4. เปิดใจรับการประเมินแบบเฉพาะบุคคล
เพราะ SLD ไม่ใช่โรค
แต่คือความแตกต่างในการประมวลผลข้อมูลของสมอง
ที่จะเข้าใจได้ผ่านการประเมินที่ถูกต้อง และจะสามารถทำให้เราออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสม
ส่งเสริมและพัฒนาทักษะของลูกเราได้อย่างเหมาะสม
👩🏫 บริการที่ Child Space ช่วยได้
📌 บริการประเมินทักษะทางวิชาการ
โดยนักจิตวิทยาการศึกษา
เพื่อประเมินระดับทักษะการอ่าน การเขียน และคำนวณ
เปรียบเทียบกับช่วงวัย พร้อมสังเคราะห์ข้อมูลจากหลายมิติ
📌 ครูการศึกษาพิเศษ
ให้การสอนเสริมแบบเฉพาะบุคคล (Individualized Learning)
ฝึกทักษะพื้นฐานผ่านวิธีที่ลูกเรียนรู้ได้ดีที่สุด
โดยไม่เร่ง ไม่เปรียบเทียบ แต่ช่วยให้เขาค่อย ๆ กลับมาเรียนได้ทันเพื่อน และภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง
📌 ทีมดูแลร่วม (นักกิจกรรมบำบัด/จิตแพทย์เด็ก)
ในกรณีที่มีปัญหาด้านอารมณ์ร่วมด้วย เช่น วิตกกังวล ไม่อยากไปโรงเรียน สมาธิสั้น ฯลฯ
💬 เพราะในโลกของเด็กคนหนึ่ง...
การ “อ่านไม่ออก” อาจไม่เจ็บเท่า “รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ”
และไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า
การมีใครสักคนเข้าใจ...ก่อนจะเสียใจว่า “รู้งี้พาไปดูตั้งแต่แรก”
📍 Child Space – เราพร้อมเป็นพื้นที่ที่เชื่อในศักยภาพของลูกคุณ
และเดินไปพร้อมกับครอบครัวโดยไม่ตัดสิน
📩 ทักมาปรึกษาเรื่องการประเมินทักษะทางวิชาการ หรือเรียนกับครูการศึกษาพิเศษ
เรายินดีตอบทุกคำถามค่ะ
#ลูกเกลียดการเรียน
#ปัญหาการเรียนรู้
#ครูการศึกษาพิเศษ

พฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไป...แค่ช่วงวัยหรือสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม?
พ่อแม่หลายคนรู้สึกได้ว่าลูก “ไม่เหมือนเดิม”
แต่กลับลังเลที่จะขอคำปรึกษา เพราะกลัวว่าจะคิดมากไป
ความจริงคือ...
การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม คือหนึ่งในสัญญาณสำคัญ
ที่ใช้บ่งบอกปัญหาด้านพัฒนาการ อารมณ์ หรือสุขภาพจิตของเด็ก
📌 Child Space จึงขอชวนคุณเช็กสัญญาณผ่าน Checklist พฤติกรรมต้องสังเกต แยกตามช่วงวัย
เพื่อไม่ให้สิ่งที่เริ่มจากเล็กน้อย…กลายเป็นปัญหาเรื้อรังในอนาคต
เพราะพฤติกรรมคือภาษาของใจ…
อย่ารอให้ลูกพูดออกมาเอง
แต่ขอให้เราเป็นผู้เริ่มต้น “ฟัง” ให้ทันก่อนจะสาย
📍 Child Space มีทีมสหวิชาชีพ
ที่พร้อมประเมินอย่างรอบด้าน ทั้งพัฒนาการ อารมณ์ พฤติกรรม และความสัมพันธ์ในครอบครัว
📩 ทักแชตเพื่อสอบถามเพิ่มเติม
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็กและครอบครัว
References
1.Erikson EH. Identity: Youth and Crisis. New York: Norton; 1968.
2.Diamond A. Executive functions. Annu Rev Psychol. 2013;64:135–168.
3.World Health Organization. Adolescent mental health. 2021. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/adolescent-mental-health
4.American Psychiatric Association. Diagnostic and statistical manual of mental disorders. 5th ed., text rev. Washington, DC: APA; 2022.
5.Center on the Developing Child at Harvard University. From Best Practices to Breakthrough Impacts. Cambridge, MA: Harvard University; 2016.
6.Stapinski LA, Araya R, Heron J, Montgomery AA, Stallard P. Peer victimization during adolescence and risk for anxiety disorders in adulthood: A prospective cohort study. Depress Anxiety. 2014;31(7):574–582.

🎁 “รางวัล” กับ “สินบน” ต่างกันยังไง?
ใช้ให้ถูก...ลูกมีวินัย ใช้ผิด...ลูกติดเงื่อนไข
หลายครั้งที่พ่อแม่อยากให้ลูกทำตามข้อตกลง
เลยใช้วิธี “ถ้าทำได้ จะให้ของเล่นนะ” หรือ
“ทำการบ้านเสร็จ แม่จะให้ขนม”
แต่รู้ไหมคะว่า…
การใช้ “ของตอบแทน” มี 2 แบบ แต่ให้ผลต่างกันคนละขั้ว
หนึ่งคือ รางวัลที่เสริมแรงพฤติกรรมดี
แต่อีกหนึ่ง…คือ สินบนที่ลูกทำเพราะอยากได้
ไม่ใช่เพราะเข้าใจ
📚 หลักจิตวิทยาพฤติกรรม: Reinforcement
ทฤษฎีของ B.F. Skinner (1953) กล่าวว่า
การเสริมแรงเชิงบวก (positive reinforcement)
จะช่วยให้พฤติกรรมดี เกิดซ้ำได้อย่างยั่งยืน
แต่ต้องเป็น “รางวัลที่เหมาะสม”
เช่น
✅ ชมทันทีเมื่อทำดี
✅ ให้รางวัลเล็ก ๆ ที่เชื่อมกับความพยายาม
✅ สร้างระบบความเข้าใจร่วม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
🧠 แล้ว “สินบน” คืออะไร?
คือของที่ยื่นให้เพื่อ บังคับให้เด็กทำบางอย่างทันที
โดยที่พฤติกรรมยังไม่เกิด หรือไม่ได้เข้าใจเหตุผล เช่น…
❌ “หยุดร้องเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวซื้อของเล่นให้”
❌ “กินข้าวเถอะ เดี๋ยวแม่ให้ดูมือถือ”
แบบนี้…เด็กอาจยอม “ทำตาม”
แต่ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมต้องกินข้าว หรือควบคุมอารมณ์
✨ ใช้รางวัลให้ลูกมีวินัย ต้องทำยังไง?
✔ รางวัล = สิ่งที่เสริมความพยายาม ไม่ใช่ปิดปากความไม่พอใจ
✔ ชมในสิ่งที่ควบคุมได้ เช่น “แม่เห็นลูกพยายามนั่งทำจนจบเลยนะ”
✔ ไม่ต้องรางวัลใหญ่ แค่คำพูดที่อบอุ่นก็เสริมแรงได้มากแล้ว
✔ ค่อย ๆ ลดของตอบแทนทางวัตถุ แล้วแทนด้วยความภาคภูมิใจ
💛 พฤติกรรมที่ยั่งยืน = พฤติกรรมที่เกิดจากความเข้าใจ ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยน
ถ้าคุณอยากรู้ว่าระบบ “รางวัล–การสื่อสาร–ข้อตกลงในบ้าน” ควรจัดอย่างไรให้เหมาะกับลูก
นักจิตวิทยาเด็ก และนักกิจกรรมบำบัดของเรา
พร้อมช่วยวางแผนให้คุณสร้างวินัยอย่างเข้าใจ ไม่ใช่กดดัน
📩 ทัก Child Space ได้เลย
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็ก
และครอบครัว
#รางวัลไม่ใช่สินบน #วินัยเชิงบวก ่างเข้าใจ

💬 “ลูกพูดช้า...แต่ทำไมหลายคนบอกให้รอ
เดี๋ยวก็พูดเอง?”
ถ้าคุณคือพ่อแม่ที่กำลังรู้สึกว่า
“ลูกยังไม่พูดเหมือนเด็กคนอื่น”
“บางวันเหมือนจะเริ่มพูด แต่ก็เงียบอีก”
“หรือว่าลูกเราช้าไปจริง ๆ?
แล้วคนรอบตัวก็บอกให้คุณ “รอไปก่อน เดี๋ยวก็พูดได้เอง”
📍คำว่า “รอ” นั้น บางครั้งก็เหมาะ
แต่ในหลายกรณี…
“การรอ” กลับทำให้เราพลาดช่วงเวลาทอง
ของการพัฒนาทักษะทางภาษาไปโดยไม่รู้ตัว
🧠 เพราะการสื่อสารคือรากฐานของชีวิต
เด็กที่มีความล่าช้าทางภาษาในวัยก่อน 3 ปี
หากไม่ได้รับการดูแล อาจส่งผลต่อความสามารถ
ในการเรียนรู้
การเข้าสังคม และสุขภาพจิตในระยะยาว
🧩 พูดช้าแบบ “พอรอได้” VS พูดช้าแบบ “ควรประเมิน”
✅ พูดช้าที่ อาจรอได้
มีพัฒนาการด้านอื่นดี เช่น เข้าใจคำสั่ง เล่นสมมุติได้
ใช้ภาษาท่าทางได้ เช่น พยักหน้า ชี้ ขอ
มีความพยายามออกเสียงหรือเลียนแบบ
เรียกชื่อแล้วหัน หรือตอบสนองทางสังคมดี
คำศัพท์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
❗ พูดช้าที่ ควรประเมิน
ไม่เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ แม้อายุ 2 ขวบขึ้นไป
ไม่สบตา ไม่ชี้ ไม่พยายามสื่อสาร
เงียบ ไม่เลียนเสียง พูดแล้วหยุดไป
เรียกแล้วไม่หัน ไม่ตอบสนองคนรอบข้าง
คำศัพท์น้อยลง หรือหยุดพัฒนาไปเฉย ๆ
💡 ถ้าสงสัย อย่ารอจนลูกเสียโอกาส
เพราะในบางกรณี “การพูดช้า”
อาจไม่ใช่แค่ “พัฒนาการช้าทั่วไป”
แต่คือสัญญาณของ
– ภาวะบกพร่องด้านภาษา (Developmental Language disorder)
– ความผิดปกติทางการสื่อสาร (Communication Disorder)
– หรือภาวะออทิสติก
✨ ทางที่ดีที่สุด ไม่ใช่การรอ...แต่คือการรู้ให้เร็ว
ว่าลูกต้องการความช่วยเหลือแบบไหน
เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งช่วยได้มาก และง่ายกว่าในระยะยาว
👩⚕️ ที่ Child Space เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
• นักอรรถบำบัด (นักฝึกพูดเด็ก)
• นักกิจกรรมบำบัดด้านพัฒนาการ
• นักจิตวิทยาเด็กและครอบครัว
เราช่วยประเมินอย่างละเอียด และออกแบบการฝึก
ให้เหมาะกับลูกของคุณแบบเฉพาะบุคคล
📍 หากคุณลังเลว่าควรรอ หรือควรเริ่มดูแล
ให้เราช่วยฟังและประเมินอย่างเข้าใจค่ะ
📩 ทักข้อความเพื่อขอคำแนะนำ
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัย
ของเด็กและครอบครัว
———————
#ลูกพูดช้า
#ประเมินพัฒนาการเด็ก
#ฝึกพูดเด็ก
#นักฝึกพูด
———————
อ้างอิง
American Academy of Pediatrics. Identifying infants and young children with developmental disorders in the medical home: An algorithm for developmental surveillance and screening. Pediatrics. 2020;145(1):e20193449.

💬 ลูกไม่เข้าสังคม ใช้เวลาทั้งวันอยู่กับของเล่น
คนเดียว แค่ชอบอยู่คนเดียว
หรือกำลังส่งสัญญาณภาวะออทิสติก?
เคยรู้สึกไหมคะว่า…
ลูกดู “อยู่ได้ทั้งวันโดยไม่สนใจใคร”
เรียกชื่อแล้วไม่หัน ชวนคุยก็ไม่ตอบ
ชอบเล่นของเล่นแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นชั่วโมง
แล้วในใจเราก็เริ่มตั้งคำถามว่า...
นี่คือลูกเป็นเด็กเงียบ หรือกำลังส่งสัญญาณอะไร
บางอย่างที่เรามองข้ามไป?
👀 วิธีสังเกตง่าย ๆ ที่พ่อแม่เริ่มดูได้จากที่บ้าน
✅ ลูกมักไม่สบตาเวลาคุยด้วย
✅ ไม่พยายามเรียกร้องความสนใจ หรือแบ่งปัน
สิ่งที่สนใจ
✅ ไม่เข้าใจการเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์ เช่น ผลัดกัน หรือเล่นสมมุติ
✅ มีภาษาหรือพฤติกรรมที่ช้ากว่าช่วงวัย
✅ แสดงความสนใจจำกัด หรือเล่นแบบเดิมซ้ำ ๆ นานมาก
🧠 พฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่าลูกผิดปกติทันที
แต่ถ้าเกิดร่วมกันหลายข้อ และต่อเนื่องนานเกิน 1–2 เดือน
การพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจประเมินพัฒนาการอย่างละเอียด
จะช่วยให้ลูกได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ
💛 ที่ Child Space เราเชื่อว่า
เด็กทุกคนมีศักยภาพของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุด...คือการเข้าใจลูกก่อนตัดสิน
📍 หากคุณกำลังลังเลใจว่า “ลูกเป็นเด็กชอบอยู่คนเดียว หรือมีภาวะออทิสติก”
เราพร้อมเดินไปกับคุณและลูกอย่างไม่ตัดสิน
📩 ทักข้อความเพื่อขอคำแนะนำเรื่องการประเมินพัฒนาการ
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็กและครอบครัว
——————
คลินิกเปิดบริการ
จันทร์-ศุกร์ 13:00-20:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10:00-20:00 น.
หยุดทุกวันอังคาร
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375
📍 พิกัด : ถนน ศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
——————
#ลูกไม่เข้าสังคม
#พัฒนาการเด็ก
#เข้าใจออทิสติก
#สังเกตลูกอย่างเข้าใจ

“เตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเข้าโรงเรียน”
ต้องเริ่มจากอะไร ?
Child Space เข้าใจดีว่าการเตรียมตัวลูกก่อนเข้าโรงเรียนเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญ
สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากการอ่านออกเขียนได้...
คือการจัดการตัวเองได้ อยู่กับเพื่อนได้
และกล้าแยกจากพ่อแม่อย่างมั่นใจ
✅ ฝึก EF: เรียนรู้ตามลำดับ จัดของเองได้ มีสมาธินานขึ้น
🤝 ฝึกทักษะสังคม: รอคิวได้ แพ้ได้ ขอโทษเป็น
💛 ฝึกความมั่นคงทางใจ: ค่อย ๆ แยกจากพ่อแม่โดยไม่ต้องร้องไห้ทุกเช้า
เพราะ “ความพร้อมทางใจ” เริ่มได้ที่บ้าน
ไม่ใช่การเร่งให้ลูกโต แต่คือการค่อย ๆ ประคอง
เตรียมพร้อมให้ลูกรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย เพื่อการเรียนรู้
และเติบโตในอนาคต
วันนี้ Child Space มีเทคนิคดีๆมาฝากคุณพ่อคุณแม่
ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกๆของเรา ก้าวเข้าโรงเรียนด้วยความมั่นใจ ฝึกได้ทุกระดับชั้น จะเป็นอย่างไร
ไปเรียนรู้พร้อมๆกันเลยค่ะ 😊
#เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #ทักษะการเข้าสังคม #เตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนไปโรงเรียน
ถ้าเคยมีช่วงที่
“ทะเลาะกับลูกบ่อยขึ้น”
“ลูกเริ่มไม่ค่อยอยากคุยด้วย”
หรือ “รู้สึกว่าคุยกันไม่เข้าใจเหมือนเมื่อก่อน”
อาจไม่ใช่เพราะเราทำอะไรผิด
แต่อาจเป็นเพราะเขากำลังอยู่ในช่วงวัยที่
หัวใจกำลังวุ่นวายพอๆ กับฮอร์โมน
คลิปนี้ชวนพ่อแม่มาทำความเข้าใจวัยรุ่นให้มากขึ้น
ทั้งเรื่องร่างกาย อารมณ์ และวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่เขา “ยอมเปิดใจ”
ลองดูคลิปนี้นะครับ เผื่อวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น
ของการเข้าใจกันมากขึ้น 🧠💬
#เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจ
#นักจิตวิทยา
#สุขภาพจิตวัยรุ่น

🧠 เมื่อลูกไม่ยอมพูดในที่สาธารณะ:
Selective Mutism หรือแค่ “ขี้อาย” ตามวัย?
คุณพ่อคุณแม่เคยไหมคะ?
อยู่บ้านพูดเก่ง สนุกสนาน
แต่พอไปโรงเรียน หรืออยู่กับคนแปลกหน้า...กลับไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว
เด็กบางคนเพียงแค่เขินเมื่อต้องเจอคนใหม่
แต่บางกรณี พฤติกรรม “ไม่พูด” อาจไม่ใช่แค่ “นิสัย”
แต่อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่เรียกว่า
Selective Mutism (การไม่พูดเฉพาะสถานการณ์)
ซึ่งต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง
🔍 แยกให้ออก: ขี้อายปกติ vs Selective Mutism
เด็กขี้อายแบบปกติ
• จะพูดคุยบ้างเมื่อเริ่มคุ้นเคย
• มีพัฒนาการการพูดตามวัย
• สามารถแสดงท่าทาง สบตา และสื่อสารทางอื่นได้
• อารมณ์โดยรวมผ่อนคลายเมื่ออยู่ในที่ใหม่
Selective Mutism
• พูดได้ดีที่บ้าน แต่ไม่พูดเลยที่โรงเรียน/สถานที่สาธารณะ
• มักมาพร้อมอาการวิตกกังวล เช่น กลัวสายตาคนอื่น, กลัวทำผิด
• บางครั้งดูเหมือน “ดื้อ” แต่จริง ๆ “พูดไม่ออก”
⚠️หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล…
ภาวะ Selective Mutism ไม่ได้หายไปเองเสมอไป
หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อเนื่องในระยะยาว เช่น:
• ความมั่นใจลดลงเรื่อย ๆ เพราะรู้สึกผิดทุกครั้ง
ที่พูดไม่ได้
• หลีกเลี่ยงสังคม ไม่กล้าสื่อสารแม้กระทั่งในวัยรุ่น
• เสียโอกาสทางการเรียน เพราะไม่กล้าถาม-ตอบ
ในห้องเรียน
• เกิดภาวะวิตกกังวลเรื้อรัง หรือพัฒนาต่อไปเป็น
โรคทางอารมณ์ในอนาคต
👩⚕️ ภาวะนี้ไม่ใช่แค่เรื่องนิสัย
Selective Mutism คือภาวะที่สามารถรักษา
และฟื้นฟูได้
แต่ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งช่วยให้เด็กกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ที่ Child Space เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งจิตแพทย์เด็ก นักจิตวิทยา นักบำบัดด้านการพูด
ที่จะร่วมกันดูแลและออกแบบแผนฟื้นฟูที่เหมาะกับเด็กแต่ละคนอย่างอ่อนโยน
📍หากคุณสงสัยว่าลูกกำลังเผชิญปัญหานี้
หรืออยากประเมินพัฒนาการด้านการพูดและอารมณ์
สามารถเข้ารับคำปรึกษากับทีมของเราได้เลยค่ะ
📩 ทักข้อความเพื่อสอบถามรายละเอียด
📍 ที่ Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัย
ของเด็กและครอบครัว
-------------
คลินิกเปิดบริการ
จันทร์-ศุกร์ 13:00-20:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10:00-20:00 น.
หยุดทุกวันอังคาร
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375
📍 พิกัด : ถนน ศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
https://maps.app.goo.gl/htufdyEFBE2eiHzG
#พัฒนาการเด็ก #จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

💬 “ถ้าจะลองคุยกับนักจิตวิทยาออนไลน์...
ต้องเตรียมตัวยังไง?”
จะเล่าอะไร? ถ้าพูดไม่เก่งล่ะ? เขาจะเข้าใจเราไหม?
หลายคนอยากเริ่ม “ดูแลใจตัวเอง”
แต่พอถึงจุดจะกดนัด…กลับลังเล
เพราะไม่เคยลอง และไม่รู้ว่ามันจะ “โอเคไหม”
🧠 ถ้าคุณกำลังมีคำถามพวกนี้ในหัว...
❓ “คุยครั้งแรกต้องพูดอะไรบ้าง?”
– แค่เล่าว่า “ช่วงนี้รู้สึกยังไง” ก็พอแล้วค่ะ
– ไม่ต้องเล่าให้ครบทุกเรื่อง
– นักจิตวิทยาจะช่วยพาคุณค่อย ๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวเอง
❓ “ถ้าเราเงียบ...เขาจะว่าไหม?”
– ไม่เลยค่ะ บางช่วงที่เงียบ คือตัวเรากำลังฟังตัวเองอยู่
– นักจิตวิทยาไม่เร่ง ไม่กดดัน และเข้าใจว่าความเงียบก็มีความหมาย
❓ “คุยออนไลน์จะเข้าใจน้อยกว่าคุยตัวจริงไหม?”
– บรรยากาศอาจต่างกันบ้าง แต่ความเข้าใจและความใส่ใจเหมือนเดิม
– เหมาะกับคนที่ยังไม่สะดวกเดินทาง / ยังไม่พร้อมเผชิญหน้าตรง ๆ
– เราใช้แพลตฟอร์มปลอดภัย เป็นส่วนตัว 100%
❓ “คุยกับเพื่อนได้อยู่แล้ว...ทำไมต้องคุยกับนักจิต?”
– เพราะเพื่อนคือคนที่รักเรา
– แต่นักจิตคือคนที่เข้าใจกลไกของใจ และช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่คุณมองไม่ออก
– และที่สำคัญ: สิ่งที่คุณพูดจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัด
❓ “ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองมีปัญหาหรือเปล่า จะคุยอะไรดี?”
– แค่คุณรู้สึกว่า “ใจมันไม่เหมือนเดิม”
– หรือมีบางเรื่องที่ “วนในหัวตลอดเวลา”
– นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มพูดคุย
👩⚕️ Child Space เปิดให้คุณเข้าถึง
“นักจิตวิทยาออนไลน์” ได้ง่าย ๆ
ด้วยบริการ “ปรึกษาใจเบา”
– วางเรื่องหนักไว้กับเรา รับใจเบาเบากลับไป
🕒 คุยแบบ 1:1 เป็นส่วนตัว
⏳ ระยะเวลา 30 นาที
💬 ราคา 800 บาท
📍 ไม่ต้องมีใบส่งตัว ไม่ต้องป่วย เรารับฟังอย่างไม่ตัดสิน
💛 ไม่ต้องพร้อม ไม่ต้องเก่ง
แค่ “กล้าที่จะดูแลใจตัวเอง” แค่นั้นก็พอแล้ว
📩 ทักข้อความเพื่อจองคิว
📍 Child Space – พื้นที่ปลอดภัยของใจคุณ
#ปรึกษาใจเบา
#เริ่มต้นคุยกับนักจิต
#นักจิตวิทยา
#คุยออนไลน์ได้เลย
#ไม่ต้องป่วยถึงจะดูแลใจ

🧠 เมื่อการหยอกล้อสนุก ๆ ของผู้ใหญ่...
กลายเป็น “บาดแผลลึก” ในใจของเด็กไปแสนนาน
..หลายคนอาจพูดโดยไม่คิดอะไร
เพราะตั้งใจ “แหย่เล่น” หรือ “พูดเอาสนุก”
แต่ในความเป็นจริง....
เด็กยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอจะเข้าใจว่าอันไหนคือล้อเล่น
อันไหนคือจริงไม่จริง
พวกเขาจำทุกคำ — และบางคำก็ติดอยู่ในใจ กลายเป็น
‘เสียงในหัว’
ที่ติดตัวเด็กไปนานแสนนาน
งานวิจัยทางจิตวิทยาพบว่า
เด็กที่ถูกล้อบ่อย ๆ มีโอกาสเสี่ยงต่อความวิตกกังวล
ภาวะซึมเศร้า การหลีกเลี่ยงสังคม หรือพฤติกรรมก้าวร้าวตอบโต้ในอนาคต
พฤติกรรมที่ผู้ใหญ่มักจะทำ :
• หัวเราะเยาะ พูดแล้วหัวเราะ
• แกล้งให้ตกใจกลัว หลอกว่ามีอันตราย
• ล้อปมด้อย รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ
• แหย่ให้ร้องไห้
• แหย่โดยใช้คำพูด ยั่วให้เด็กโกรธ
• เปรียบเทียบกับคนอื่น ชื่นชมคนอื่นให้กระทบกับเด็ก
ผลกระทบที่ตามมาต่อความรู้สึกของเด็กคือ
✳️ 1. เด็กขาดความมั่นคงทางอารมณ์
การแหย่หรือล้อเลียนเด็กซ้ำ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่าง หน้าตา หรือแม้กระทั่งการขู่หลอก เช่น
“ถ้าไม่หลับ ผีจะมาจับ”
อาจทำให้เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัยในตัวเอง รู้สึกว่า
“ตัวตน” ของตนเองคือเรื่องตลกของคนอื่น
ซึ่งส่งผลให้เกิดความรู้สึกกดดัน ไม่สบายใจ และสะสมเป็นความเครียดในระยะยาว
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
• เกิดความเครียด และความกดดันโดยไม่รู้ตัว
• มีอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่าย
• รู้สึกกลัว หรือวิตกกังวลมากเกินไป
✳️ 2. เด็กสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง
คำพูดประชดหรือล้อเกี่ยวกับความสามารถ เช่น
“การบ้านง่ายแค่นี้ยังทำไม่ได้เหรอ?” หรือ
“ไม่กินนมไง เลยไม่โตเหมือนเพื่อน”
อาจดูเหมือนไม่รุนแรง แต่กลับทำให้เด็กเกิดความรู้สึก
ด้อยค่า และรู้สึกว่าไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
• ขาดความมั่นใจในตัวเอง
• มองตัวเองในแง่ลบ
• รู้สึกกังวลอยู่ตลอด
• เก็บตัว หลีกเลี่ยงสังคม หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
• เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
• หันไปพึ่งสารเสพติด เพื่อเติมเต็มความรู้สึกยอมรับและความมั่นใจที่ขาดหายไป
✳️ 3. เด็กซึมซับและเลียนแบบพฤติกรรม
เด็กเรียนรู้จากสิ่งที่เห็นในครอบครัว
หากพ่อแม่หรือผู้ใหญ่รอบตัวมีนิสัยชอบแหย่
หรือล้อเลียน
เด็กอาจเข้าใจว่านั่นคือพฤติกรรมที่ “ปกติ” และเริ่มเลียนแบบโดยไม่รู้ขอบเขต
ทำให้ไปแหย่หรือกลั่นแกล้งผู้อื่นโดยไม่เข้าใจ
ผลกระทบ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
• มีพฤติกรรมสร้างความรำคาญหรือก้าวก่ายต่อคนรอบข้าง
• ความสัมพันธ์กับเพื่อนไม่ราบรื่น
• ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า “เล่น” กับ “ล้ำเส้น” ต่างกันอย่างไร
• มีแนวโน้มชอบข่มคนอื่น เพื่อให้รู้สึกเหนือกว่าโดยไม่เข้าใจผลเสีย
✅ ถ้าเผลอพูดไปแล้ว ควรทำอย่างไร?
1.ขอโทษลูกอย่างจริงใจ – ไม่ใช่เพียงบอกว่า “แม่ล้อเล่น” ให้เขาเข้าใจว่าผู้ใหญ่ก็ทำไม่ถูกได้ และขอบคุณที่เขากล้าที่จะบอกว่าตัวเองไม่ชอบและไม่พอใจกับอะไร
2.สอนให้ลูกเคารพสิทธิของผู้อื่น การรังแกผู้อื่นด้วยพฤติกรรมหรือคำพูดเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ได้รับการยอมรับ
3.สร้างบทสนทนาเพื่อฟื้นฟูความมั่นใจ ย้ำกับลูกว่าเขามีคุณค่า ไม่ใช่เพราะคำพูดใคร เช่น “ลูกทำได้ดีมากเลยนะ
ที่ไม่ตอบโต้ด้วยความโกรธ เก่งมากเลย”
✨ การยอมรับความผิดของผู้ใหญ่ คือแบบอย่างที่ดีในการสื่อสารด้วยความเคารพ
🤝 หยอกล้ออย่างไรให้สร้างสัมพันธ์ ไม่ทำร้ายใจเด็ก?
• หยอกให้เด็ก “หัวเราะไปด้วย ไม่ใช่แค่ถูกขำใส่”
• ใช้คำอ่อนโยน ไม่จิกกัด หรือเหน็บแนม
• ถ้าไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม ให้ใช้หลัก: “พูดแล้วเขารู้สึกดีกับตัวเองขึ้นไหม?”
💛 ที่ Child Space เราเชื่อว่า...
คำพูดของผู้ใหญ่ อาจกลายเป็น “เสียงในใจ” ของเด็กไปทั้งชีวิต
การใส่ใจคำพูดเล็ก ๆ วันนี้
อาจเป็นจุดเริ่มต้นของหัวใจที่แข็งแรง มั่นคง และปลอดภัยของลูกในวันหน้า
📍 หากคุณเริ่มสังเกตว่าลูกมีความกลัว ขาดความมั่นใจ หรือหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
เราอยากชวนคุณเข้ามาปรึกษากับทีมจิตแพทย์เด็ก
นักจิตวิทยา และนักบำบัดของเรา
📩 Child Space – พื้นที่ที่เข้าใจหัวใจของเด็กและครอบครัว
——————
เอกสารอ้างอิง:
Stapinski, L. A., Araya, R., Heron, J., Montgomery, A. A., Stallard, P., & Sayal, K. (2014). Peer victimization during adolescence and risk for anxiety disorders in adulthood: A prospective cohort study. Depression and Anxiety, 31(7), 574–582. https://doi.org/10.1002/da.22270
American Psychological Association. (2017). Bullying may contribute to mental health problems in children. Retrieved from https://www.apa.org/news/press/releases/2017/04/bullying-mental-health
StopBullying.gov. (2021). The consequences of bullying. Retrieved from https://www.stopbullying.gov/bullying/effects
#บาดแผลในใจ
“กินยาแล้ว ทำไมยังต้องทำกิจกรรมบำบัด?”
เพราะนักกิจกรรมบำบัดไม่ได้แค่เล่นกับเด็ก
แต่ช่วยออกแบบกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กแต่ละคน
เพื่อฝึกให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น พัฒนาทักษะการจดจ่อ
ที่สนุกและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
แถมมีเทคนิคให้พ่อแม่เอากลับไปใช้ฝึกลูกที่บ้านด้วย
ลองฟังในคลิปนี้ดูนะคะ 👇
🔁 แชร์เก็บไว้ดู หรือแท็กคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองที่กำลังหาคำตอบอยู่ตอนนี้ก็ได้เลย!!
-------------
คลินิกเปิดบริการ
จันทร์-ศุกร์ 13:00-20:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10:00-20:00 น.
หยุดทุกวันอังคาร
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375
📍 พิกัด : ถนน ศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
https://maps.app.goo.gl/htufdyEFBE2eiHzGA
#กิจกรรมบำบัดช่วยอะไร #เข้าใจลูกมากขึ้น #เด็กสมาธิสั้น

ลูกแค่ซน...หรือเป็น “สมาธิสั้น”?
เพราะความต่าง...อาจไม่ใช่เรื่องเล็กในชีวิตลูก
เด็กซนธรรมดา
✅ ฟังคำสั่งได้
✅ หยุดพฤติกรรมเมื่อถูกเตือน
✅ เปลี่ยนกิจกรรมได้ตามสถานการณ์
แต่เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD)
❌ อยู่ไม่สุข วอกแวกง่ายตลอดวัน
❌ ขัดจังหวะผู้อื่นบ่อย
❌ หยุดไม่ได้แม้รู้ว่า “ควรหยุด”
❌ เรียนไม่ทัน ขาดความมั่นใจ
สิ่งที่คุณเห็น...อาจไม่ใช่แค่พฤติกรรม แต่คือ
“เสียงขอความช่วยเหลือ” จากใจลูก
🧠 ที่ Child Space เรามีทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา
พร้อมช่วยคุณประเมิน วินิจฉัย และออกแบบแผนดูแลเฉพาะบุคคล
✅ ประเมินพฤติกรรมและพัฒนาการอย่างครอบคลุม
✅ ให้คำแนะนำเฉพาะทางทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
✅ เสริมทักษะ EF / การจัดการอารมณ์ / การอยู่ร่วมกับเพื่อน
เริ่มเข้าใจลูกวันนี้ = ปลดล็อกศักยภาพของเขาได้ทั้งชีวิต
📍 Child Space คลินิกเฉพาะทางจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น พร้อมทีมสหวิชาชีพครบครัน
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375
#จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น #สมาธิสั้น #เสริมทักษะ
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
ประเภท
เบอร์โทรศัพท์
ที่อยู่
Child Space คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
Khon Kaen
40000
เวลาทำการ
จันทร์ | 04:00 - 20:00 |
พุธ | 04:00 - 20:00 |
พฤหัสบดี | 04:00 - 20:00 |
ศุกร์ | 04:00 - 20:00 |
เสาร์ | 10:00 - 20:00 |
อาทิตย์ | 10:00 - 20:00 |