Metallurgical Failure Analysis

Metallurgical Failure Analysis

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริการอุปกรณ์

K99-auto Parts
K99-auto Parts

เผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับโลหะวิทยา และความเสียหายของวัสดุ

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 17/10/2024

"ทุกสิ่งที่สามารถผิดพลาด มันจะผิดพลาด"

Anything that can go wrong, will go wrong

ประโยคสั้น ๆ จากกฎของเมอร์ฟี่ (Murphy ‘s Law) ที่ด๊อกเตอร์จอห์น พอล สแตปป์ (Dr. John Paul Stapp)

หัวหน้าโครงการวิจัย MX981 ที่ทดสอบว่ามนุษย์เราจะทนแรงที่เกิดจากความเร่งได้สูงขนาดไหนของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา

กล่าวถึงและให้เครดิตว่า โครงการนี้ประสบผลสำเร็จนั้นเป็นเพราะทีมวิจัยได้ตระหนักถึง

“กฎเมอร์ฟี่” (Murphy’s laws) และพยายามทุกวิถีทางที่จะหลีกเลี่ยงมัน

กฎของเมอร์ฟี่ มีที่มาจาก เอ็ดเวิร์ด เอ เมอร์ฟี่ จูเนียร์ (Edward A. Murphy Jr.)

วิศวกรการบินและอวกาศชาวอเมริกันที่บอกกับทีมงานของเขาว่า

"ถ้ามีสองวิธีหรือมากกว่านั้นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และผลลัพธ์จากการกระทำนั้นจะนำไปสู่หายนะ แน่นอนว่าจะต้องมีใครสักคนทำมัน"

If there are two or more ways to do something and one of those results in a catastrophe, then someone will do it that way."

ภายหลังเกิดความผิดพลาดระหว่างการทดสอบจรวดเลื่อน (rocket sled) ในช่วงปี 1948 ถึง 1949

จนกระทั้งด๊อกเตอร์จอห์น พอล สแตปป์ ได้ยินและนำไปกล่าวต่อ

หลายคนที่เคยได้ยินเกี่ยวกับกฎของเมอร์ฟี่อาจจะหัวเราะให้กับกฎของนี้

หรืออาจตีความกฎนี้แบบเมิร์ฟใน Interstellar ว่าเป็นความซวยและยอมรับมันอย่างยอมจำนน

แต่สำหรับผมที่ทำงานวิเคราะห์ความเสียหายของวัสดุก็อยากจะบอกเหลือเกินว่า

กฎของเมอร์ฟี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราตระหนักถึงการทำงานตามขั้นตอนที่ถูกต้องต่างหากเล่า

หลายครั้งในงานวิเคราะห์ความเสียหายที่ผมทำอยู่ เมื่อสืบลึก ๆ ลงไปปัญหามันเกิดขึ้นจากการละเลยขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง อาจเพราะคิดว่าเรื่องนั้นไม่ได้สำคัญอะไรและเราก็มองข้ามมัน

แต่สิ่งที่เราทำมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะและเป็นสารตั้งต้นของความซวย

ที่พร้อมจะดึงดูดทุกความเป็นไปได้ยากให้เข้ามาอยู่รวมกัน

อย่างเช่นในกรณีนี้ก็เช่นกัน

มีคนส่งใบพัดระบายอากาศของเจนเนอเรเตอร์ผลิตกระแสไฟฟ้ามาให้ผมตรวจสอบ
เนื่องจากเกิดการแตกหักหลังจากการซ่อมบำรุงเพียง 1 เดือน


หลังจากได้ตรวจสอบ ก็เกิดข้อสงสัยมากมายว่ามันแตกได้อย่างไร

เพราะรอยแตกที่พบ มีลักณะจุดเริ่มต้นหลายตำแหน่ง (Multi-Crack Origins) เนื่องจากพบร่องรอยของ Ratchet Marks หลายตำแหน่ง

เมื่อตรวจสอบทางโลหะวิทยา ก็พบ โครงสร้างมาร์เทนไซต์ ทั้ง ๆ ที่ใบพัดระบายความร้อนที่เกิดความเสียหาย
มีปริมาณคาร์บอนเพียง 0.2% ซึ่งโครงสร้างมาร์เทนไซต์ (Martensite) ไม่ควรจะถูกพบ

หากไม่ใช่กรณีที่เหล็กมีการเย็นตัวอย่างรวดเร็วมาก ๆ อย่างการเชื่อมโลหะด้วยเลเซอร์

หลังจากทวนสอบข้อมูลการซ่อมบำรุงอยู่นาน ก็พบประเด็นที่น่าสนใจคือ

ในการถอดใบพัดออกจากเพลา ช่างเทคนิคใช้หัวทอร์ช พ่นเปลวไฟสีน้ำเงินที่บริเวณดุมของใบพัด
เพื่อให้ดุมของใบพัดขยายตัวออกเพื่อจะได้ถอดใบพัดออกมาได้


ซึ่งที่จริงแล้วในคู่มือซ่อมบำรุง ก็ระบุไว้ว่าการถอดใบพัดออกจากเพลาด้วยความร้อนจากเปลวไฟก็สามารถทำได้

แต่เปลวไฟที่ออกจากหัวทอร์ช ต้องเป็นไฟสีเหลืองเท่านั้น (Cold Yellow Flame)

เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิสูงเกินไปจนเหล็กเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจุลภาค


จากจุดเล็กที่หัวทอร์ชพ่นเปลวไฟสีฟ้าร้อน ๆ ลงไป กับความบังเอิญที่โครงสร้างจุลภาคของใบพัดมีโครงสร้าง Pearlite Band

ซึ่งทำให้เกิดเป็นบริเวณที่มีปริมาณคาร์บอนสูงหากได้รับความร้อนสูงและมีการเย็นตัวอย่างรวดเร็ว
โครงสร้างที่แข็งแต่เปราะอย่างมาร์เทนไซต์ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้

ซึ่งแน่ละเปลวไฟสีฟ้าที่ช่างเทคนิคใช้มาจากแก๊ส LPG ที่อุณหภูมิเปลวสีฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 องศาเซลเซียสและหัวทอร์ชที่ให้ความร้อนมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดของใบพัดระบายความร้อน

บริเวณที่ไม่ได้ความร้อนจากหัวทอร์ชจึงกลายเป็น Heat Sink ขนาดใหญ่ ที่สามารถดึงความร้อนได้อย่างรวดเร็ว และทำให้บริเวณที่มี Pearlite Band ที่ได้รับความร้อนเกิดการเย็นตัวอย่างรวดเร็ว

โครงสร้างมาร์เทนไซต์ที่ไม่ควรจะเกิดในพัดลมระบายความร้อน จึงสามารถเกิดขึ้นได้ในตำแหน่งที่เคยเป็น
Pearlite Band และทำให้เกิดการแตกหักแบบเปราะในที่สุด


เห็นไหมละครับว่า

"ทุกสิ่งที่สามารถผิดพลาด มันจะผิดพลาด"

แม้หนทางที่นำไปสู่ความผิดพลาดนั้นจะยากเย็นเพียงใด

แต่ความซวยเอง โดยเฉพาะในทางวิศวกรรม บางครั้งก็สามารถป้องกันได้
หากเราพยายามเรียนรู้จากความผิดพลาด และทำงานตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

ขอให้ทุกท่านโชคดีหนีให้พ้นจากกฎของเมอร์ฟี่นะครับ

#เหล็กไม่เอาถ่าน

Ref.

1. M.S. Joo, ISIJ International 53 (2013) 1305-1314.

2. Bo Li, Materials, 2019, 12, 3310.

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 16/10/2024

ทีมวิจัยการวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือให้การต้อนรับคณะจากกองทัพอากาศไทย (กรมนิรภัยทางอากาศ) ในโอกาสเดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวข้องกับวิบัติของชิ้นส่วนอากาศยานและแนวทางในการวิเคราะห์

และปรึกษาหารือในการทำ MOU ระหว่าง ทอ. และ สวทช. เพื่อให้เกิดการร่วมมือกันในอนาคต


สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 10/10/2024

แช่ตู้เย็น = ประหาร ???

พรี่.................น่ากลัวอะ

หนูจะเป็นอะไรไหมเนี่ยยยยยยย คราวก่อนทำไมพี่ไม่บอกหนู
เสียงเจ้าหนูจัมมัยลอยมาบ่นตัดพ้อและคร่ำครวญกับผมตั้งแต่เช้า

เป็นอะไร ? ไหนเล่าให้หมอฟังซิ ?

ก็เนี่ยไงวันก่อนที่หนูกินเงาะกระป๋องไป พี่จำได้ไหม ?

อืมมมมมมม จำได้ดิ ใครจะลืมกระป๋องเปล่า ๆ แสนอร่อยที่เราเหลือให้พี่ล่ะ

เจ้าคิด เจ้าแค้นนะคะ พี่เป็นผู้ใหญ่ต้องใจกว้างดิ แล้วเนี่ยเป็นเพราะพี่เลยชีวิตหนูเลยเสี่ยงจากการกินเงาะกระป๋องแช่เย็น

เงาะกระป๋องแช่เย็น ? เสี่ยงตรงไหนฟ่ะ ?

ก็เนี่ย.......เขาเขียนเลยนะพี่ แช่ตู้เย็น = ประหาร
เขาบอกไหมว่าทำไม ถึงห้าม ?

บอกคะ ว่ามันจะเกิดสนิม ข้างกระป๋องก็เขียนไว้อยู่ว่า

"หลีกเลี่ยงการแช่ตู้เย็นทั้งกระป๋อง เพื่อป้องกันการเกิดสนิม"


ณ จุด ๆ นี้ ผมก็ได้แต่กุมมือและส่ายหัว กับการกลัวเกินเหตุของเจ้าหนูจัมมัยและการไม่พยายามหาเหตุผลในสิ่งที่แชร์ต่อ ๆ กันมาบนโลกโซเชียล

“การกัดกร่อนเป็นเป็นปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้า ปกติหากอุณหภูมิสูงขึ้น เราคิดว่าจะเกิดการกัดกร่อนจะเกิดขึ้นได้เร็วหรือช้าขึ้น?” คราวนี้ผมเริ่มกลายเป็นฝ่ายยิงคำถามใส่เจ้าหนูจัมมัยบ้าง

น่าจะเร็วขึ้นนะคะ ส่วนใหญ่ปฏิกิริยาเคมีที่หนูเห็นจะเกิดได้เร็วขึ้นหากอุณหภูมิสูง

งั้นแล้วเงาะกระป๋องที่แช่เย็น ทำไมเราถึงคิดว่าเกิดสนิมเร็วขึ้นล่ะ ?

เออ !! จริง ด้วย !! ถ้าแช่เย็น มันก็ไม่น่าเกิดเร็วขึ้นสิ มันควรจะช้าลง

“แล้วเราคิดว่าที่เขาเขียนผิดไหม ?” ผมยังคงยิงคำถามต่อเนื่อง

ก็น่าจะผิดมั้งคะ ?

ที่จริงก็ไม่ผิดนะ ที่เขาเขียนเตือนที่ข้างกระป๋องนะถูกหมดนั้นแหละ
เพียงแต่ว่าการตีความผิด และขยายผลแบบเกินจริง มันทำให้เกิดการตื่นตระหนกได้

สิ่งที่เขียนเตือนไว้ข้างกระป๋องที่จริงแล้ว เขาเตือนเรื่องการเกิดสนิมจากบริเวณขอบตัดของกระป๋องที่อยู่ผนังด้านนอก
เนื่องจากหากเก็บไว้ในที่ชื้นบริเวณนี้มันจะเกิดสนิมได้ง่าย เนื่องจากไม่มีแล็คเกอร์ ไม่มีชั้นโลหะป้องกันสนิม
ข้างกระป๋องส่วนใหญ่จึงเขียนไว้ว่า “เก็บในที่แห้งและเย็น”

“ที่แห้งและเย็น ?” แล้วสรุปมันคือตู้เย็นไหมคะ ?

ไม่ใช่ครับ !!

แล้วผู้ผลิตอาหารกระป๋องเขาต้องการอะไรจากเราคะ ?
ที่แห้งและเย็น แต่ตู้เย็นก็ไม่ได้ เราต้องทำยังไงเขาถึงจะพอใจละคะคุณพรี่ !!

ก็ที่ที่กระป๋องชอบ เก็บในที่ที่ไม่เอื้อให้เกิดน้องหนิม เอาน้องป๋องไว้ในที่ร่ม
อย่าปล่อยให้เขาตากแดด เขาต้องการร่มเงา อย่าทิ้งน้องไว้กลางฝน กลางแดด
เอาน้องอยู่บนชั้นในครัว แค่นี้เขาก็โอเคแล้ว

แล้วที่เย็น ๆ อย่างตู้เย็นทำไมน้องเขาไม่ชอบละคะ

ถ้าแช่ในตู้เย็น จังหวะที่เราเปิดตู้เย็น ความชื้นจากอากาศอาจเข้ามาแล้วจังหวะนี้แหละ หยดน้ำเล็ก ๆ อาจ
เกิดการกลั่นตัวบนตัวกระป๋องได้ จังหวะนี้แหละที่ทำให้กระป๋องเสี่ยงต่อการสนิมได้

มันก็แค่สนิมเองเน๊อะ แบบนี้จริง ๆ หนูก็แช่ได้สิ หนูชอบกินเงาะกระป๋องเย็น ๆ

ถ้าแช่คืนนี้กินพรุ่งนี้นะได้ แต่ถ้าแข่ยาว ๆ พี่ไม่แนะนำ บริเวณรอยซีม (Seam) ของกระป๋อง

บริเวณร่องกรีดของฝา Easy Open บริเวณนี้จะเป็นส่วนขอบตัด (Cut Edge) หรือเป็น

บริเวณที่ไม่มีชั้นเคลือบป้องกันสนิม หากมันขยายตัวไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้กระป๋องทะลุได้

พอกระป๋องทะลุที่นี้ก็บันเทิง อากาศเข้าไปได้ และเกิดการกัดกร่อนอย่างรุนแรงของชั้นเคลือบ

พอเปิดกระป๋องมาอาจเห็นเป็นคราบดำ ๆ ของออกไซด์ดีบุก หรืออาจเกิดคราบสนิมของเหล็ก

ซึ่งถ้าหากถึงขั้นนี้ อาจทำให้อาหารข้างในเสียได้

โห.......พี่ !! แล้วแบบนี้เบียร์ที่หนูแช่ตู้เย็นไว้จะเป็นอะไรไหม ?

กระป๋องเบียร์ กระป๋องน้ำอัดลม พวกนี้กระป๋องทำจากอะลูมิเนียม อะลูมิเนียมมีฟิล์มพาสซีฟกันการกัดกร่อนได้

เขาทนการกัดกร่อนได้ แต่ก็ไม่ใช่ทิ้งไว้ยังไงก็ได้นะ บริเวณรอยบากที่ฝา Easy Open เองหากเปียกมาก ๆ มีคลอไรด์นิดหนึ่ง ก็เกิดการกัดกร่อนร่วมกับความเค้น (Stress Corrosion Cracking) ได้ ทีนี้ละเราอาจจะตกใจ เพราะกระป๋องมันจะเปิดเองได้


โหพี่ แล้วแบบนี้คนผลิตอาหารกระป๋อง เครื่องดื่มกระป๋องเขาจะแก้ยังไงละคะ ?

ก็นั้นแหละเขาเลยเขียนคำเตือนเอาไว้ข้างกระป๋องนั้นแหละ
เงาะกระป๋องบางเจ้าถึงมีฝาปิดบริเวณฝากระป๋องฝั่ง Easy Open

หรือเราเคยเห็นฝากระป๋องฝั่ง Easy Open ถูกคว่ำอยู่ในชั้นไหม ?

เคยเห็นคะ

นั้นแหละ ปกติผู้ผลิต จะให้โ โรงผลิต กระป๋อง ปิดด้านฝา Easy Open และผู้ผลิตอาหารกระป๋องจะปิดด้านที่ไม่มีฝาเปิด

เพราะหลังจากบรรจุอาหารลงกระป๋องอาจมีคราบอาหารส่วนเกิน หรือ มีความชื้นตกค้างอยู่ในรอยบากได้

เขาเลยพยายามให้ด้านฝา Easy Open อยู่ด้านล่างเพื่อลดปัญหาการกัดกร่อน


อ๋อ........แบบนี้นี้เอง ผู้ผลิตเขาก็คิดเยอะเหมือนกันเน๊อะ

แต่พี่ก็อย่าคิดมากแบบเขานะคะ เนี่ยดูสิ มัวแต่คิดเรื่องเงาะกระป๋องเมื่อครั้งก่อน

ผมพี่ตอนนี้บางลงไปเยอะแล้วนะคะ เอ็นจอยคะ เอ็นจอย

โอเค เอ็นจอย !! เอ็นจอย !!

ถึงตอนนี้ผมหยิบรองเท้าผ้าใบที่ถอดซุกไว้ใต้โต๊ะขึ้นมาใส่
กะว่าจะไล่เตะคนในเวลางานซักหน่อย จะได้สร้างความเอ็นจอยระหว่างวันทำงาน !!

#เหล็กไม่เอาถ่าน


Ref.
1. V. Konovalova / Materials Today: Proceedings 38 (2021) 1326–1329
2. Measurement 127 (2018) 256–2
3. Can Makers Europe Stress Corrosion-Technical Bulletin, Jan 2004

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 07/10/2024

ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ได้มีโอกาสมาร่วมค้นหารากของปัญหาที่ทำให้รถบัสทัศนศึกษาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นรูปแบบสหวิทยาการ (interdisciplinary) ที่มีทั้งวิศวกร (เครื่องกล ไฟฟ้า วัสดุ ยานยนต์) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย-กรุงเทพมหานคร

ในส่วนที่ทีมซึ่งวันนี้สวมหมวก forensic engineer ได้รับผิดชอบให้ทำการวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุการแตกหักของคาน ซึ่งจากลักษณะทางกายภาพแบบมหภาคของผิวแตกวสามารถบอก fracture mode ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการแตกหักที่ขยายตัวด้วยกลไกการล้า (Fatigue Fracture) ออกมาจากตำแหน่งที่มีการเชื่อมเหล็กฉากยึดติดคาน

การตรวจสอบผิวแตกแบบมหภาคด้วย OM พบ beach marks

การตรวจสอบผิวแตกที่กำลังขยายสูงด้วย SEM พบ striation ใน fatigue zone และพบ cleavage ใน overload zone

ทั้ง beach marks และ striations เป็นลักษณะเฉพาะของการแตกหักด้วยกลไกการล้า

พื้นที่แตกหักด้วยการล้าต่อการแตกหักแบบทันทีทันใด ประมาณ 40:60

เมื่อขยายผลบริเวณ fracture origin ด้วยการตรวจสอบลักษณะทางจุลภาค พบจุดเริ่มรอยแตกหลายตำแหน่งขยายตัวออกมาจากบริเวณที่เกิดการกัดกร่อนภายใต้ตะกรันที่ยึดเกาะแน่นเกิดขึ้นในบริเวณแนวเชื่อม และ crack propagation direction ดูได้จากภาพสเก็ตช์

ปล.1 ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอะไรเกิดก่อน-หลังนะครับ
ปล.2 ทีมได้เข้าไปตรวจสอบภายในตัวรถบริเวณที่แจ้งว่าเป็นจุดที่แก๊สรั่ว พบว่าปลายท่อไม่มีตัวล็อก/ไม่บานแฟร์


สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 04/10/2024

1-4 ตุลาคม 2567
ทีมวิจัยการวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือ (Failure Analysis and Reliability Engineering Research Team) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เดินทางไปตรวจสอบและประเมินระบบถังและท่อเหล็กกล้าไร้สนิมในไลน์การผลิตเครื่องดื่มที่หน้างาน (Onsite investigation) ณ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว

ทีมได้ให้ข้อมูลทางด้านวิศวกรรมวัสดุ ตรวจสอบสภาพหลังการประกอบติดตั้งและใช้งานแบบไม่ทำลาย ทั้งนี้เพื่อให้อุปกรณ์มีอายุการใช้งานเป็นไปตามกำหนดและมีความปลอดภัย



สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]

ทีมวิจัยการวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือ
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 27/09/2024

วันนี้ Failure Analysis Team, Thermal Spray Coating Team และ Tribology Team จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ได้เข้าไปช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกในเรื่องการวิเคราะห์สาเหตุการแตกหักของสกรูรวมทั้งชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องและหาวิธีปรับปรุงคุณภาพของชิ้นส่วนเครื่องจักร

จากข้อมูลที่ได้ทำการวิเคราะห์สกรูที่แตกหักเบื้องต้นโดย Failure Analysis Team แสดงให้เห็นว่าสาเหตุการเสียหายไม่ได้มาจากวัสดุที่เลือกใช้ แต่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตที่อาจยังไม่เหมาะสมต่อการใช้งานจริง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำไปพิจารณาเมื่อมีการเลือกวัสดุและกระบวนการผลิตใหม่

(เคสนี้เป็นสิ่งที่ FA Team เน้นย้ำมาเสมอในการตรวจรับงาน ที่หลายแห่งตรวจรับจาก Composition, Hardness และ Tensile ซึ่งมีน้อยมากที่จะเพิ่มการตรวจรับจาก Microstructure เข้าไปด้วย)

ในด้านของการปรับปรุง ทาง Thermal Spray Coating Team และ Tribology Team แนะนำกระบวนการเคลือบผิวแข็ง ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอและยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนได้ การทดลองเคลือบและทดสอบเคลือบผิวเบื้องต้นก่อนนำไปใช้ในโรงงานอีกครั้งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยยืนยันว่ากระบวนการนี้เหมาะสมกับความต้องการของบริษัท

นี่เป็นอีกตัวอย่างที่มีการบูรณาการความเชี่ยวชาญจากหลากหลายทีมเพื่อแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ


สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 24/09/2024

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมวิเคราะห์ความเสียหายจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ได้รับโอกาสในการช่วยเหลือโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของการรั่วในถังเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 304 ที่ใช้สำหรับเก็บสารละลาย หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยสายตา พบว่าการรั่วเกิดจากการกัดกร่อนภายใต้รอยซ้อน (Crevice Corrosion)
ด้วยเหตุนี้ แอดมินจึงขอนำเสนอข้อมูลพอสังเขปเกี่ยวกับการกัดกร่อนใต้รอยซ้อนในหน้าแปลนและเทคนิคการตรวจจับ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้...

การกัดกร่อนแบบใต้รอยซ้อนของหน้าแปลน (Fl**ge Faces Crevice Corrosion)

การกัดกร่อนแบบใต้รอยซ้อน (Crevice Corrosion) เป็นรูปแบบหนึ่งของการกัดกร่อนเฉพาะที่ (Localized Corrosion) ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพื้นผิวหน้าแปลน (Fl**ge Faces) ของอุปกรณ์อุตสาหกรรม ลักษณะเฉพาะของการกัดกร่อนประเภทนี้ต่างจากการกัดกร่อนแบบทั่วผิวหน้า (Uniform Corrosion) ซึ่งเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอบนพื้นผิวกว้าง โดยการกัดกร่อนใต้รอยซ้อนมักเกิดขึ้นในบริเวณที่อับอากาศหรือถูกจำกัดการเข้าถึงของสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น การขาดออกซิเจน บริเวณผิวสัมผัสของหน้าแปลนที่มีช่องว่างแคบและพื้นผิวที่ประกบกันมีความไวต่อการกัดกร่อนชนิดนี้อย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การรั่วไหลและความเสียหายทางกลได้ในที่สุด

ความเข้าใจเกี่ยวกับการกัดกร่อนแบบใต้รอยซ้อนของหน้าแปลน

การกัดกร่อนใต้รอยซ้อนระหว่างหน้าแปลนและปะเก็น หรือในช่องว่างที่เกิดจากการซีลที่ไม่สมบูรณ์ เกิดขึ้นเมื่อความชื้นหรือสารกัดกร่อนสะสมในพื้นที่แคบ ส่งผลให้ระดับออกซิเจนลดลง การขาดออกซิเจนจะทำให้ชั้นออกไซด์ป้องกันบนผิวโลหะถูกทำลาย ซึ่งจะนำไปสู่การกัดกร่อนที่รุนแรงในบริเวณนั้น การกัดกร่อนประเภทนี้มักซ่อนอยู่ใต้ผิวหน้าแปลน ทำให้ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยตาเปล่า และมักจะพบเมื่อเกิดการรั่วไหลของสารและถอดชิ้นส่วนเพื่อตรวจสอบ

ผลกระทบของการกัดกร่อนใต้รอยซ้อน

ผลกระทบจากการกัดกร่อนใต้รอยซ้อนอาจรุนแรงและมักไม่สามารถสังเกตเห็นได้จนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การเกิดหลุมลึก (ดูรูปสุดท้าย) การสูญเสียเนื้อโลหะ และท้ายที่สุดอาจทำให้ข้อต่อหน้าแปลนเสียหายได้ ในกรณีของหน้าแปลนเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 304 ที่มีการกัดกร่อนใต้รอยซ้อน ความเสียหายมักซ่อนอยู่ภายในและไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก การกัดกร่อนที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีสามารถส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของระบบโดยรวม ทำให้ต้องมีการหยุดทำงานเพื่อซ่อมแซม ซึ่งอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายสูงทั้งในการซ่อมบำรุงและผลกระทบทางธุรกิจ

การตรวจสอบและป้องกันการกัดกร่อนใต้รอยซ้อน

เนื่องจากการกัดกร่อนใต้รอยซ้อนมักไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การตรวจจับการกัดกร่อนในพื้นที่แคบหรือใต้รอยซ้อนตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายแต่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง การตรวจสอบแบบไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการตรวจจับการกัดกร่อนในบริเวณรอยซ้อนของหน้าแปลน หนึ่งในเทคนิคที่มีประสิทธิภาพคือ Phased Array Ultrasonic Testing (PAUT) ซึ่งใช้ลำแสงอัลตราโซนิกหลายลำเพื่อสร้างภาพรายละเอียดของโครงสร้างภายในหน้าแปลน เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถตรวจพบการกัดกร่อนได้อย่างแม่นยำ แม้ในบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง การตรวจสอบด้วย PAUT ช่วยประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นและสนับสนุนการวางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สรุป
การกัดกร่อนใต้รอยซ้อนของหน้าแปลนเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อความสมบูรณ์ของระบบในอุตสาหกรรม การตรวจสอบเป็นประจำด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การทดสอบอัลตราโซนิกแบบ Phased Array (PAUT) เป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจจับการกัดกร่อนตั้งแต่ระยะแรก ช่วยป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายสูง การเข้าใจและจัดการกับการกัดกร่อนใต้รอยซ้อนอย่างเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการยืดอายุการใช้งานและรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์อุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 16/09/2024

ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เดินทางมาบรรยายความรู้ให้กับน้องๆ นักศึกษาและคณาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และนายช่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13 - 14 กันยายน 2567 ในกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การวิเคราะห์ความเสียหายของล้อ-เพลา และรางรถไฟ”

ทีมได้จัดกิจกรรมให้น้องๆ ได้เรียนรู้ในรูปแบบการบรรยายภาคทฤษฎี มีกรณีตัวอย่างจากหน้างานจริงประกอบการบรรยาย มีการลงมือภาคปฏิบัติ และมีการสอบวัดผลองค์ความรู้ทั้งก่อนและหลังการอบรม

ขอขอบพระคุณคณาจารย์ทุกท่านที่ได้เชิญทีมมาบรรยายในครั้งนี้ และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ขอบคุณน้องนักศึกษาทุกคนที่ตั้งใจเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ หวังว่าจะมีประโยชน์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้ และขอให้น้องๆ ทุกคนประสบผลสำเร็จในการเรียน จบไปมีการงานที่ดี และเป็นบุคลากรที่ดีของประเทศชาติต่อไป

ขอขอบคุณวิทยากร FA Team และทีมงานจากเอ็มเทคทุกท่าน

ขอขอบคุณบริษัท ควอลิตี้ รีพอร์ท จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์เครื่องมือวิเคราะห์-ทดสอบประกอบการสัมมนาพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดงาน

แล้วพบกันใหม่ ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ


สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

12/09/2024

ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมการหลักสูตร
📌เรื่อง "การวิเคราะห์และการป้องกันความเสียหายของงานโลหะ"
จัดโดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)
----------------------
📌เน้นให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้พัฒนาทักษะและความรู้..
☑️การใช้เทคนิคการพ่นเคลือบด้วยเปลวความร้อน (Thermal Spray)
☑️เทคโนโลยีเลเซอร์พ่นพอกผิวแข็ง (Laser Cladding)
☑️การปรับปรุงและเสริมความแข็งแรงของวัสดุโลหะ
☑️แนวคิดและวิธีจำลองการทดสอบวัสดุที่มีกลไกความเสียหายที่ระบุอย่างชัดเจน เพื่อที่จะประเมินอายุการใช้เบื้องต้นภายในห้องปฏิบัติการฯ ก่อน นำวัสดุและวิธีการป้องกันไปใช้งานจริงในอุตสาหกรรม

หลังจากที่ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้และความเข้าใจในการวิเคราะห์และป้องกันความเสียหายของงานโลหะ จะสามารถนำไปใช้ในการป้องกันความเสียหายในอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพหาย
-----------------
📌วันที่ 3-4 ธันวาคม 2567 เวลา 9:00 – 17:00 น.
ณ ห้องM120 อาคารเอ็มเทค อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
-----------------
ค่าลงทะเบียน:
บุคคลทั่วไป/เอกชน ราคาจ่ายสุทธิรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว 8,025 บาท/ท่าน
ข้าราชการ/พนักงานองค์กรของรัฐ ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จ่ายสุทธิ 7,500 บาท/ท่าน
-----------------
ลงทะเบียนผ่าน Google form ที่ >>> https://forms.gle/54swjXRUCwCXCkBv7
หรือ
สมัครและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
งานพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีวัสดุเพื่ออุตสาหกรรม (คุณพลธร เวณุนันท์ หรือคุณบุญรักษ์ กาญจนวรวณิชย์)
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
โทรศัพท์ 025646500 ต่อ 4677
E-mail: [email protected]

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 11/09/2024

ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เดินทางไปตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่หน้างาน (Onsite investigation) ของชิ้นส่วนเหล็กกล้าไร้สนิมที่เป็นหน้าแปลนของเครื่องควบแน่น (เป็นอุปกรณ์ภายในระบบทำความเย็น) และถังกรองน้ำอ่อน ณ โรงงานเคมีในจังหวัดระยอง

จากการประเมินชิ้นส่วนหน้าแปลน เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดการกัดกร่อนแบบใต้รอยซ้อน (Crevice corrosion) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการกัดกร่อนเฉพาะที่ (Localized corrosion) ที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับหน้าแปลนในระบบอุตสาหกรรม ส่วนถังกรองน้ำอ่อนยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจประเมิน

อย่างไรก็ตามการระบุรูปแบบการเสียหายที่แท้จริง รวมทั้งการป้องกัน/ยับยั้งไม่ให้เกิดซ้ำต้องวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมในห้องปฏิบัติการ



สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 16/08/2024

วันนี้มีเคสที่เกิดขึ้นนานมาแล้วมาแชร์ครับ

ในยุคที่โทรศัพท์มือถือยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย การสื่อสารส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์ในสำนักงานเป็นหลัก ช่วงนั้นมีการติดตั้งและขยายสัญญาณโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

การให้บริการด้านโทรศัพท์ในช่วงนั้นใช้สายเคเบิลที่ฝังอยู่ในท่อใต้ดินเป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณ

ในระหว่างการให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 5-6 ปีต่อมา ได้ตรวจพบปัญหาการขัดข้องของสัญญาณในหลายคู่สายโทรศัพท์

ปัญหาที่เกิดขึ้นพบในลวดทองแดงซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางแรกเริ่ม 2.54 มิลลิเมตรและถูกลดขนาดเหลือ 0.4 มิลลิเมตร แล้วทำการอบอ่อนเพื่อลดความเค้นตกค้างจากการรีด พร้อมกับหุ้มฉนวนด้วยโพลีเอทิลีน (PE Insulation)

เมื่อเกิดปัญหา แอดมีโอกาสได้ไปร่วมตรวจสอบที่หน้างาน (Onsite Investigation)

การตรวจสอบด้วยสายตา (Visual Inspection) ก็มีสภาพตามภาพประกอบเลยครับ ที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเปลี่ยนสีของฉนวน PE ที่หุ้มลวดทองแดง และหลังจากเฉือนและลอก PE ออกพบการกัดกร่อนที่เกิดขึ้นกับลวดทองแดง พบผลิตภัณฑ์การกัดกร่อนสีเขียว และทองแดงเปลี่ยนเป็นสีเทาดำ

การวิเคราะห์ผิวลวดทองแดงที่เกิดการกัดกร่อนด้วย SEM และ EDS พบว่ามีธาตุซัลเฟอร์และออกซิเจนเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์การกัดกร่อน ซึ่งอาจอยู่ในรูปของ CuSO₄, CuS และ CuO

นอกจากนี้ การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของคราบที่เกิดขึ้นใต้ PE ด้วยเทคนิค FT-Raman พบว่าคราบสีเขียวเป็นผลิตภัณฑ์การกัดกร่อนของคอปเปอร์ซัลเฟต (CuSO₄) ส่วนคราบสีเทาดำมาจากการเสื่อมสภาพของ PE

และจากการตรวจสอบภาคตัดขวางและโครงสร้างจุลภาคพบการกัดกร่อนแบบเฉพาะจุดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดโพรงและรูพรุน (Pitting Corrosion) บนผิวหน้าลวดใต้ฉนวน PE ซึ่งทำให้มองเห็นเป็นจุดสีดำคล้ายกับการเกิดเชื้อรา

การเสื่อมสภาพของลวดทองแดงในสายเคเบิลเกิดขึ้นได้จากการกัดกร่อนทางเคมีไฟฟ้าและการกัดกร่อนทางเคมีโดยตรง ในกรณีนี้เป็น "การกัดกร่อนทางเคมี" หรือ "Chemical Corrosion" ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาโดยตรงระหว่างโลหะกับสารเคมีบางชนิด ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและเกิดความเสียหายต่อพื้นผิวโลหะ สายเคเบิลทองแดงไวต่อการกัดกร่อนจากสารประกอบซัลเฟอร์ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าท่อใต้ดินในบ้านเรามีในน้ำแช่ขังอยู่ภายในจะมีสารประกอบเหล่านี้ค่อนข้างสูง

ไอออนทองแดงบนพื้นผิวสายไฟทำปฏิกิริยากับซัลเฟอร์ไดออกไซด์และเกิดเป็นสารต่าง ๆ เช่น คอปเปอร์ซัลเฟตและคอปเปอร์ไทโอซัลเฟต ทำให้เกิดการกัดกร่อนและการเปลี่ยนสีบนพื้นผิวของสายไฟดังภาพประกอบ

นอกจากการกัดกร่อนทางเคมีไฟฟ้าและการกัดกร่อนทางเคมี ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้กระบวนการกัดกร่อนรุนแรงขึ้น ได้แก่:
1. อุณหภูมิ: อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะเร่งกระบวนการออกซิเดชันและการกัดกร่อนของโลหะ ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง ไอออนของโลหะมีแนวโน้มที่จะทำปฏิกิริยากับไอออนในสารละลายมากขึ้น ส่งผลให้การกัดกร่อนเร็วขึ้น
2. ความชื้น: สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเพิ่มการสัมผัสระหว่างโลหะกับไอน้ำ ทำให้เกิดออกซิเดชันและการกัดกร่อนเร็วขึ้น ฟิล์มออกไซด์บนพื้นผิวโลหะจะดูดความชื้นมากขึ้น เกิดชั้นอิเล็กโทรไลต์ที่ง่ายในการถ่ายโอนอิเล็กตรอน
3. ค่า pH: ค่า pH ของสารละลายมีผลต่ออัตราการกัดกร่อน ในสารละลายกรดที่มีค่า pH ต่ำ ฟิล์มออกไซด์บนพื้นผิวโลหะจะละลายง่ายขึ้น ทำให้การกัดกร่อนรุนแรงขึ้น

นี่คือเคสการเสื่อมสภาพของสายเคเบิลที่เกิดขึ้นในอดีต หวังว่าจะแชร์ประสบการณ์นี้เพื่อเป็นการเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มของเรา หากมีข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นเพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ได้เลยครับ



สนใจงานทดสอบ วิเคราะห์ความเสียหาย งานวิจัย ร่วมวิจัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
0 2564 6500 ต่อ 4736
[email protected]
ทีมวิเคราะห์ความเสียหาย
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 14/08/2024

บ่ายวันนี้ (14/08/67) ทีมวิจัยการวิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช. เดินทางมาอาคาร BTS เพื่อนำเสนอผลการตรวจสอบชิ้นส่วนของรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ผลการวิเคราะห์ทางโลหะวิทยาและเคมีค่อนข้างชัดเจน ทุกฝ่ายรับทราบ น่าจะสามารถนําไปสู่การปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ชิ้นส่วนมีอายุการใช้งานที่นานยิ่งขึ้น

ขอบคุณ ดร.ชัยศักดิ์ ศรีเศรษฐนิล (กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BTS) ทีมวิศวกรจากซิโน-ไทย (STECON) และผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมา ณ โอกาสนี้

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 14/08/2024

จบไปแล้วครับสำหรับการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การวิเคราะห์ความเสียหายงานโลหะครั้งที่ 8” จัดโดยทีมวิจัยการ วิเคราะห์ความเสียหายและวิศวกรรมการเชื่อถือ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติระหว่างวันที่ 5-9 ส.ค. 2567 ที่โรงแรมฮาร์ดร็อค คาเฟ่ พัทยา

ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือทุก ๆ ด้านจนงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ขอบคุณผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านที่ให้ความสนใจหลักสูตรนี้ ซึ่งทุกคนสนใจและตั้งใจเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ

ขอขอบคุณทีมวิทยากรและทีมงานจาก RMT และ SEM ทุกคนที่เป็นแม่งาน

ขอขอบคุณ ดร. เอกรัตน์ ไวยนิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในการกล่าวเปิดสัมมนา ร่วมบรรยาย 2 หัวข้อ “บทปริทัศน์การวิเคราะห์ความเสียหายและการป้องกัน” และ “จุดบกพร่องจากการผลิตและการเชื่อมโลหะ” และเป็นประธานในการกล่าวปิดสัมมนาพร้อมมอบรางวัลต่างๆ และใบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา

ขอขอบคุณ ผศ.ดร.ปิโยรส พรมดิลก จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. ที่ให้ให้เกียรติมาบรรยายในหัวข้อ “การเสียหายของโลหะจากการใช้งานที่อุณหภูมิสูง”

ขอขอบคุณ ดร.วนิดา พงษ์ศักดิ์สวัสดิ์ นักวิจัยของ RMT ที่ให้เกียรติมาบรรยายในหัวข้อ “การกัดกร่อนของโลหะและการป้องกัน”

ขอขอบคุณ อาจารย์สยาม แก้วคำไสย์ ที่เป็นผู้จัดการงานสัมมนาและให้เกียรติมาบรรยายในหัวข้อ “การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักของโลหะ“ และ ”การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกจากการล้า“ รวมทั้งดูแลการออกข้อสอบ และความเรียบรัอยของงานในแต่ละวัน

ขอขอบคุณ อาจารย์วิษณุพงศ์ คนแรง วิศวกรอาวุโส ที่ให้เกียรติมาบรรยายในหัวข้อ “ขั้นตอนการวิเคราะห์ความเสียหาย” รวมทั้งดูแลฐานของภาคปฏิบัติของทุกวัน

ขอขอบคุณ อาจารย์โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว วิศวกรอาวุโส ที่ให้เกียรติมาบรรยายในหัวข้อ “กรณีความเสียหายจากการกัดกร่อนของโลหะ” รวมทั้งดูแลฐานของภาคปฏิบัติของทุกวัน และประสานงานกับบริษัทผู้สนับสนุนงาน

ขอขอบคุณ อาจารย์ศิริวรรณ อ่วมปาน วิศวกรอาวุโส ที่ให้เกียรติมาบรรยายในหัวข้อ “กรณีการเสียหายของโลหะจากการใช้งานที่อุณหภูมิสูง” รวมทั้งดูแลฐานของภาคปฏิบัติของทุกวัน

ขอบคุณ อาจารย์นิรุช บุญชู อาจารย์ดวงรดา ยุทธกำธร และอาจารย์วราพงศ์ ถองกระโทก วิศวกรของ FA Team ที่ช่วยดูแลความเรียบร้อยรวมทั้งดูแลฐานของภาคปฏิบัติของทุกวัน

ขอขอบคุณบริษัท ฟอลคอน อินสเปคชั่น แอนด์ เทสติ้ง จำกัด ที่ให้การสนับสนุนวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในงาน NDT และการสาธิตโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการมอบเสื้อให้กับผู้เข้าร่วมงานด้วย

ขอขอบคุณบริษัท คอร์เทค อินเทกริตี้ แอนด์ เอคซ์เพอร์ทีซ จำกัด ที่ให้การสนับสนุนวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในงานลอกลายโครงสร้างภาคสตาม และการสาธิตการลอกลายโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการมอบเสื้อให้กับผู้เข้าร่วมงานเช่นเดียวกัน

ขอขอบคุณบริษัท ควอลิตี้ รีพอร์ท จำกัด ที่เป็นทั้งผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในงาน welcome party และให้ความอนุเคราะห์เครื่องมือวิเคราะห์-ทดสอบประกอบการสัมมนาพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดงาน

ขอขอบคุณบริษัท โคแอกซ์ กรุป คอร์ปอเรชั่น ที่ให้ความอนุเคราะห์เครื่องมือจุลวิเคราะห์แบบเคลื่อนที่พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดงานเช่นเดียวกัน

ขอบคุณงานฝึกอบรม (คุณบุญรักษ์และคุณพลธร) ที่ดูแลด้านการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและประสานงาน รวมทั้งคุณอมรา (พี่ตุ๊กตา) ที่คอยช่วยประสานงานในด้านต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ขับรถตู้ของ สวทช. ที่พาคณะผู้จัดถึงที่หมายอย่างปลอดภัยทั้งขาไปและขากลับ

และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงแรมทุกๆ คนที่ดูแลคณะสัมมนาดุจญาติมิตร

ขอขอบพระคุณมาก ๆ มา ณ โอกาสนึ้

Photos from Metallurgical Failure Analysis's post 14/08/2024
08/08/2024

เชิญแฟนเพจรับชมการบรรยายเรื่องการลอกลาย (Repica) จากงานสัมนาหัวข้อ “การวิเคราะห์ความเสียหายทางโลหะวิทยาครั้งที่ 8” ขณะนี้ จากโรงแรมฮาร์ดร็อค พัทยา ค่ะ

08/08/2024

การบรรยาย “การลอกลายโครงสร้างจุลภาคของโลหะภาคสนาม (Field Metallography)” โดยคุณจุฑาภรณ์ ชัยเฉลิม

08/08/2024

การบรรยายเรื่อง “การเสียหายที่อุณหภูมิสูงของโลหะ (2)” โดย ผศ.ดร.ปิโยรส พรมดิลก (มจพ.)

08/08/2024

เชิญแฟนเพจรับฟัง live เรื่องการเสียหายที่อุณหภูมิของโลหะ ณ เวลานี้ค่ะ

ต้องการให้ธุรกิจของคุณ ธุรกิจ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง บริการอุปกรณ์ ใน Khlong Luang?
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?

วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)

สาธิตการลอกลายโครงสร้างจุลภาคของโลหะ เป็นวิธีที่สามารถตรวจสอบที่ภาคสนามได้โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนมายังห้องปฏ...
ตัวอย่างการกัดกร่อนที่เกิดขึ้นกับชิ้นส่วนทางวิศวกรรม #corrosionfailure #weldingdefects #MIC #erosion #corrosion #cavitat...
ตัวอย่างบรรยากาศในการบรรยายหัวข้อ “กรณีตัวอย่างการวิเคราะห์ความเสียหายของชิ้นส่วนโลหะจากการกัดกร่อน” และช่วงปฏิบัติการ โ...
ตัวอย่างบรรยากาศในการบรรยายหัวข้อ “กรณีตัวอย่างการวิเคราะห์ความเสียหายของชิ้นส่วนโลหะจากการใช้งานที่อุณหภูมิสูง” โดย อ. ...
บรรยากาศพิธีเปิดและการแนะนำตัวของผู้เข้าร่วมสัมนาในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการวิเคราะห์ความเสียหายทางโลหะวิทยา ครั้งที่ 8...
บรรยากาศในการทำ presentation ของเคสที่แต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายเพื่อนำเสนอ และการนำเสนอ ของแต่ละกลุ่มในช่วงบ่ายของวันสุดท้...
บรรยากาศในการทำเวิร์คช็อปช่วงเช้าของวันสุดท้ายในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการวิเคราะห์ความเสียหายทางโลหะวิทยา ครั้งที่ 8 #ก...
การบรรยาย “การลอกลายโครงสร้างจุลภาคของโลหะภาคสนาม (Field Metallography)” โดยคุณจุฑาภรณ์ ชัยเฉลิม
การบรรยายหัวข้อการกัดกร่อนและการป้องกันโดย ดร.วนิดา พงษ์ศักดิ์สวัสดิ์ ในการสัมมนาหัวข้อการวิเคราะห์ความเสียหายทางโลหะวิท...
การบรรยายเรื่อง “การเสียหายที่อุณหภูมิสูงของโลหะ (2)” โดย ผศ.ดร.ปิโยรส พรมดิลก (มจพ.)

เว็บไซต์

ที่อยู่


ศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ 114 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
Khlong Luang
12120

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00
บริการด้านวิศวกรรม อื่นๆใน Khlong Luang (แสดงผลทั้งหมด)
Amata Point-เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร และงานสแตนเลส Amata Point-เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร และงานสแตนเลส
เลียบคลองสาม
Khlong Luang, 12120

ผลิต จำหน่าย เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร และผลิตงานสแตนเลสตามแบบ 📲086-0600335

Geotechnical Engineering and Geosynthetics Testing Laboratory, AIT Geotechnical Engineering and Geosynthetics Testing Laboratory, AIT
School Of Engineering And Technology, Asian Institute Of Technology
Khlong Luang, 12120

A wide variety of laboratory tests can be performed on the physical properties of soil and rock including geosynthetics to design earthworks.

Misaen Misaen
111 Phahonyothin Road , Klong 1
Khlong Luang, 12120

We providing you with an open platform system integration for Software Defined Automate Test, Measurement, Inspection and IIoT.

Boon TWee Engineering ให้บริการวิชาชีพวิศวกรรมงานออกแบบโครงสร้าง Boon TWee Engineering ให้บริการวิชาชีพวิศวกรรมงานออกแบบโครงสร้าง
Pathum Thani
Khlong Luang

เราให้บริการด้านวิชาชีพวิศวกรรม ออกแบบโครงสร้างและเขียนเเบบ