ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร
ตำแหน่งใกล้เคียง บริการภาครัฐ
315H Street, Chakangrao
442H Street
หมู่ 8 บ้านนาเหนือ ตำบลหนองปลิง
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจังหวัดกำแพงเพชร
⚡️🇹🇭⭐️จังหวัดกำแพงเพชรร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร จัดงาน “เกษตรแฟร์จังหวัดกำแพงเพชร ปี 2567”
วันที่ 6 ก.ย.67 เวลา 17.00น. ที่ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยานจังหวัดกำแพงเพชร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธาน แถลงข่าวงาน “เกษตรแฟร์จังหวัดกำแพงเพชร ปี 2567” เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรปลอดภัย ตามโครงการการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรปลอดภัย พืชเศรษฐกิจ และพืชอัตลักษณ์ตามศักยภาพของพื้นที่ (Zoning) กิจกรรมหลักส่งเสริมและพัฒนา สินค้าเกษตรปลอดภัย พืชเศรษฐกิจ และพืชอัตลักษณ์ตามมาตรฐานเกษตรปลอดภัยเพื่อวางรากฐานสู่เกษตรอินทรีย์ (ข้าว/ไม้ผล/ผัก) งบประมาณโครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีนายธนดล วงษ์ขันธ์ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร พ.ต.ต.ธัญพิสิษฐ์กุณ ประกอบผล สารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร, นายภูมิ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดกำแพงเพชร ประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดกำแพงเพชร และ ผู้จัดการภาคเอกชน ร่วมในกิจกรรมแถลงข่าวดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ได้เล็งเห็นความสำคัญการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ และเชื่อมโยงการค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพให้เกษตรกร ชุมชน และผู้ประกอบการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ของเกษตรกรและพัฒนาทักษะทางด้านการตลาด เปิดโอกาสให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการด้านการตลาด พัฒนาตลาดสินค้าเกษตร แปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน Young Smart Farmer และ Smart Farmer ไปสู่ความเข็มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ให้เป็นที่รู้จัก สามารถกระตุ้นการบริโภคและการขยายธุรกิจ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับเกษตรกร ชุมชน และผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ส่งเสริมและเชื่อมโยงการค้าสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ให้มีการสร้างโอกาส เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรผู้ประกอบการ ให้เกิดการเรียนรู้ พัฒนาการบริหารจัดการ ได้กำหนดจัดกิจกรรม จำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ 11 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ที่ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยานจังหวัดกำแพงเพชร อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
ภายใต้ขอบเขตรูปแบบการจัดงาน (Theme) “งานเกษตรแฟร์จังหวัดกำแพงเพชร ปี 2567”
โดยมีกิจกรรมวิชาการให้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรปลอดภัย การแข่งขันทักษะทางการเกษตรกร จัดสวนถาด “ประเภทสวนถาดแคคตัส CACTUS” การจัดสวนหย่อม “ประเภทสวนหย่อมสไตล์มินิมิมอล MINIMAL STYLE” หรือ สไตล์ญี่ปุ่น “JAPANESE STYLE” ชิงเงินรางวัล พร้อมประกาศนียบัตร กิจกรรมโซน ของดีส่งใจถึงมือ การจำหน่ายสินค้า ที่คัดสรรคุณภาพมาจำหน่าย โซนเกษตรชวนชิม อร่อยชวนแชร์ การแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม- การจำหน่าย Food safety และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้าน YSF ครบเครื่องเรื่องอร่อย (สินค้าเกษตรบริโภคต่าง ๆ) กิจกรรม โซน สร้างสรรค์เรื่องงานดี การแสดงสินค้าและ Workshop เกี่ยวกับงานคราฟท์ การ DIY โซนกิจกรรมพฤกษา เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง เทคโนโลยีก้าวไกล” โซนนี้เป็นโซนสำหรับคนรักต้นไม้ รักการจัดสวน เพื่อรักสัตว์เลี้ยงต่างๆ และเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือ ทางเกษตรและเทคโนโลยีสำหรับใช้ในการเกษตร และกิจกรรมเวทีกลางการแสดงดนตรีโฟล์คซองอะคูสติกของวงดนตรีกลุ่มเยาวชนในจังหวัดกำแพงเพชร , การแสดงพื้นบ้านของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรในจังหวัดกำแพงเพชร, การประกวดหนูน้อยเกษตรแฟร์ และการแสดงมินิคอนเสิร์ต ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกร ประชาชนทั่วไป นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญของสินค้าเกษตรปลอดภัย พืชเศรษฐกิจ และพืชอัตลักษณ์ตามศักยภาพของพื้นที่ เพื่อการพัฒนา สินค้าทางการเกษตรต่อไป โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร โทร.055 -716858
🎙🪬จังหวัดกำแพงเพชรประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
วันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น.ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกำแพงเพชรร่วมการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็คทรอนิกส์ (webex) ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
สำหรับการประชุมดังกล่าว เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเสนอภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยการให้ความช่วยเหลือ และแนวโน้มสถานการณ์จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กลุ่มพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กลุ่มบริหารจัดการน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน รวมทั้ง
การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ของหน่วยงานกระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และกรมประชาสัมพันธ์ ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร และการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในระดับพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ตราด ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ให้ทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบและพื้นที่เสี่ยง ได้รับความช่วยเหลือทันเหตุการณ์และมีแนวทางในการให้การช่วยเหลือบูรณาการร่วมกันจากทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดี ประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้รับการช่วยเหลือได้ทัน ตลอดจนมีการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์ ให้เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือเร่งด่วนครอบคลุมทุกมิติ มีการเยียวยา สำรวจความเสียหายทุกด้าน มีการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบทุกช่องทาง เตรียมกำลังพล อุปกรณ์ ให้พร้อม โดยคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนให้มากที่สุด ตลอดจนมีการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์ ให้เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือเร่งด่วนครอบคลุมทุกมิติ มีการเยียวยา สำรวจความเสียหายทุกด้าน มีการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบทุกช่องทาง เตรียมกำลังพล อุปกรณ์ ให้พร้อม โดยคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนให้มากที่สุด.
🍌🎉ขอเชิญร่วมงาน แถลงข่าวการจัดงานประเพณี "สารทไทย-กล้วยไข่ และของดีเมืองกำแพง" ประจำปี 2567💛💚
📌วันอังคาร ที่ 10 กันยายน 2567
📌ณ พิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชร (พิพิธภัณฑ์เรือนไทย)
📌เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
🎁โดยมี นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย นายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร และ นายนายธนดล วงษ์ขันธ์ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมให้การแถลงข่าว
.......แล้วพบกัน..........
⏱🔋จังหวัดกำแพงเพชรจัดการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานจัดกิจกรรมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประจำปี พ.ศ.2567 ของจังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 2/2567
🔋 วันที่ 6 ก.ย. 67 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมซุ้มกอ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานจัดกิจกรรมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประจำปี พ.ศ.2567 ของจังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 2/2567 โดยมี พันเอกเสมอ แจ่มใส รองผอ.รมน.กพ. , ตำรวจภูธรจังหวัดฯ , สาธารณสุขจังหวัดฯ , หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมภายในที่ประชุม
ด้วยคณะแพทย์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประจำปี พ.ศ.2567 โดยจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 พฤษจิกายน 2567 ซึ่งขับเคลื่อนทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ “แผ่นดินไทย ไร้สโตรค” ซึ่งโครงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมองประชาชน อีกทั้งเพื่อเป็นการรณรงค์การออกกำลังกายอย่างง่ายๆอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานฯของจังหวัดกำแพงเพชร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ จึงได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้นมา ภายในที่ประชุมมีการรายงานผลการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ยอดการสนับสนุนโครงการ และพิจารณาแนวทางการเปิดสนามระดับอำเภอ และเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายประชาชน เพื่อร่วมโครงการตามสัดส่วนที่เหมาะสมจำนวนประชากรในจังหวัด
💟⭐️🏆จังหวัดกำแพงเพชร ขอเชิญชวนหนูน้อย และสาวสวย ที่มีความประสงค์จะเข้าประกวดแข่งขัน ชิงมงกุฎพร้อมสายสะพาย รางวัล หนูน้อยกล้วยไข่ 2024 และ ธิดากล้วยไข่ 2024 ในกิจกรรมงานประเพณี สารทไทย-กล้วยไข่ และของดีเมืองกำแพง ประจำปี 2567 ร่วมชิงเงินรางวัลกว่า 20,000 บาท ท่านใดที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถาม และสมัครได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 16 กันยายน 2567 ที่สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดกำแพงเพชร ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร (โทรศัพท์ : 098-7499182)
(ค่าสมัคร 200 และ 300 บาท)
💥💥มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ มูลนิธิยังมีเรา ไทยสมายล์กรุ๊ป หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย จ.พิจิตร
วันที่ 6 กันยายน 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย
นายประวิทย์ สุขนิมิต ผู้จัดการมูลนิธิยังมีเรา กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป และพลังภาคีเครือข่ายลงพื้นที่มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือและเยี่ยมขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยมี นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางสาวน้อยหน่า บางสีองค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพิจิตร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพิจิตร ร่วมในพิธีรับมอบ ณ วัดรังนก ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร
นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มูลนิธิยังมีเรา กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพิจิตร และพลังภาคีเครือข่าย มีความห่วงใยต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในวันนี้หน่วยงานดังกล่าวจึงได้พร้อมใจกันนำถุงยังชีพ จำนวน 262 ชุด ซึ่งเป็นสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง มามอบให้แก่ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านรังนก หมู่ที่ 4 บ้านเกาะสาลิกา หมู่ที่ 11 บ้านปากคลอง และหมู่ที่ 12 บ้านย่านยาว อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งสิ่งของที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้รับบริจาคมาจากบริษัท ไบ่ ลี่ เอ็นเตอร์ไพร์ส จํากัด กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป และเครือข่ายภาคเอกชน รวมทั้งมูลนิธิยังได้มอบเรือไฟเบอร์กลาส จำนวน 3 ลำ ที่ได้รับบริจาคมาจากกลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป เพื่อมอบให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลรังนกไว้ใช้ประโยชน์นำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่
จากนั้น ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ และคณะ ยังได้ลงเรือท้องแบนไปมอบถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมไม่สามารถเดินทางออกมาได้
นางเธียรรัตน์ กล่าวต่อว่า การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ได้ร่วมกับมูลนิธิยังมีเรา สถานีข่าวท็อป นิวส์ กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป ผู้ให้บริการรถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้นำถุงยังชีพมามอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยและนำเรือไฟเบอร์กลาสมามอบให้จังหวัดพิจิตรในครั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เติมกำลังใจ ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
ที่สำคัญมูลนิธิหัวใจบริสุทธ์เรามีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบางในแต่ละพื้นที่ เช่นเดียวกับการลงพื้นที่มายังจังหวัดพิจิตรในครั้งนี้ เพื่อให้ได้เข้าถึงการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ อย่างทั่วถึง และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลักที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ ต่อชุมชน สังคม ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงเดินหน้าส่งต่อธารน้ำใจร่วมกับพลังเครือข่ายภาคเอกชนถึงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือต่อไป
ถ่ายทอดสด : พิธีมอบรางวัล การประกวดสื่อสร้างสรรค์เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ระดับเยาวชนฯ Website Policy | Privacy Policy | Security Policy | Disclaimer | ข้อกำหนดการใช้ Cookies | Contact us
🇹🇭💙🇹🇭จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกำแพงเพชร โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดกำแพงเพชร
วันที่ 6 ก.ย.67 เวลา 09.30 น. ที่ หอประชุมสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 กำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี มอบหมายให้ นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการเฝ้าระวัง ค้นหา ส่งต่อ บำบัด และติดตาม
และสร้างความรู้ความเข้าใจในการบำบัดรักษาและดูแลอย่างต่อเนื่อง หลังการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ตลอดจนการสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการค้นหา เฝ้าระวัง ระงับเหตุ ส่งต่อ บำบัดรักษา และติดตาม โดยมีนายเสกสันต์ สารการ ป้องกันจังหวัดกำแพงเพชร, นายโชคชัย รักเกื้อ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ อสม., หน่วยงานภาคีเครือข่าว และแขกผู้มีเกียรติ ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ
ทั้งนี้ ด้วยรัฐบาลกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการขับเคลื่อนในการป้องกันและแก้ไขปัญหา เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความสงบสุขของประชาชน เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาประเทศ ซึ่งโทษของการเสพยาเสพติดจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานผิดปกติ เนื่องจากยาเสพติดเเต่ละชนิดออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท และทำให้สารเคมีในสมองเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงส่งผลให้ผู้เสพยาเสพติดนั้นมักจะมีอาการทางจิตเวช ได้แก่โรคซึมเศร้าโรควิตกกังวลโรคไบโพลาร์โรคจิตเภทซึ่งโรคจิตเภทหรือที่เรียกกันอย่างติดปากในภาษาทั่วไปว่าอาการของคนเป็น “บ้า” หรือ “โรคจิต” ผู้ที่เสพสารเสพติดในปริมาณมาก หรือเสพมาเป็นเวลานาน มักจะมีโอกาสเกิดโรคจิตเภทสูง เกิดจากความผิดปกติของความคิด ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดและการรับรู้ที่ไม่ตรงกับความจริง เช่น หลงเชื่อผิด คิดว่ามีคนอื่นจะมาทำร้านตนเอง ระแวง คุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง เกิดภาพหลอน ขาดสติ นำไปสู่พฤติกรรมรุนแรง และการก่ออาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น หรือทำร้ายสิ่งของ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุความรุนแรงของผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้ดำเนินการ Re X-ray กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร พบว่ามีจำนวน 188 ราย จะต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจึงได้ดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อเป็นการซักซ้อมแนวทางปฏิบัติ และสร้างความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตในพื้นที่ชุมชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการเฝ้าระวัง ค้นหา ส่งต่อ บำบัด และติดตามเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการบำบัดรักษาและดูแลอย่างต่อเนื่อง หลังการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต และเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการค้นหา เฝ้าระวัง ระงับเหตุ ส่งต่อ บำบัดรักษา และติดตามต่อไป
นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพจิตเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญของประเทศส่งผลกระทบทั้งตัวผู้ป่วยเอง ญาติพี่น้อง/ผู้ดูแล และบุคคลในสังคมซึ่งผู้ป่วยจิตเวชหรือผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต มักขาดโอกาสทางสังคม ทำให้เสี่ยงต่อการก่อคดีอุกฉกรรจ์ โดยกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตนี้ จำเป็นจะต้องได้รับการรักษา และดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้อาการจิตกำเริบซ้ำ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไปในสังคม ดังนั้นเจ้าหน้าที่ญาติพี่น้องและบุคคลใกล้ชิด จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการดูแลให้มีการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ซึ่งในกระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วนล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนต้นน้ำ คือเจ้าหน้าที่ที่คอยเฝ้าระวังคอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากมีสัญญาณบ่งบอกถึงอาการคลุ้มคลั่ง ก็ให้เร่งประสานเจ้าหน้าที่เข้าเตรียมระงับเหตุ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ล้วนแต่มีความสำคัญต่อการดูแลกลุ่มป่วยที่มีอาการทางจิตนี้ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุความรุนแรงขึ้นในชุมชนได้ต่อไป
📊🔍จังหวัดกำแพงเพชรจัดการประชุมคณะกรรมการประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 2/2567
📊วันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมซุ้มกอ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 2/2567 โดยมีนางสาวปทิตตา เลาหพิบูลรัตนา คลังจังหวัดฯ,พาณิชย์จังหวัดฯ , แรงงานจังหวัดฯ , ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ , หอการค้าจังหวัดฯ , ผู้แทนส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ
ด้วยสำนักงานคลังจังหวัดกำแพงเพชร ได้รวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและผู้ประกอบการธุรกิจที่สำคัญของจังหวัดกำแพงเพชรตามเครื่องชี้เศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชรในแต่ละด้าน และประมวลผลสรุปดัชนีเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชรปี 2567 ภายในที่ประชุมมีการพิจารณาร่างบทวิเคราะห์เครื่องชี้ประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชร ปี 2567 ในด้านอุปทาน อุปสงค์ ด้านรายได้เกษตรกร และด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ เป็นต้น
📌🇹🇭💛 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบรางวัลการประกวดสื่อสร้างสรรค์เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ระดับเยาวชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 วันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 10.00 – 11.00 น. ขอเชิญชม live ทาง https://prdee.prd.go.th
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กรมประชาสัมพันธ์ในนามคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้จัดการ “ประกวดสื่อสร้างสรรค์เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ระดับเยาวชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความเข้าใจบทบาท ความสำคัญ และใช้ความสามารถ อย่างสร้างสรรค์ในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ ผลิตผลงานส่งเข้าประกวดในรูปแบบคลิปวิดีโอ ความยาว 1 – 3 นาที ในหัวข้อ “6 รอบพระชนมพรรษาอาณาราษฎร์ร่มเย็น”
กิจกรรมการประกวดนี้ได้รับความสนใจจากเยาวชนจากทั่วประเทศ จำนวน 91 ทีม ทีมละ 3 คน รวมเยาวชนสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 273 คน โดยเริ่มรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน – 19 กรกฎาคม 2567 จากนั้นในระหว่างที่ 6 – 7 สิงหาคม 2567 กรมประชาสัมพันธ์ได้เชิญคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากภาครัฐเอกชน และผู้แทนเยาวชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อ ได้ร่วมคัดเลือกและตัดสินผลงาน คลิปวิดีโอ โดยมีทีมผ่านเข้ารอบ จำนวน 6 ทีม ซึ่งจะประกาศผลทีมที่ได้รับรางวัลในพิธีมอบรางวัลการประกวดสื่อสร้างสรรค์เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ระดับเยาวชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในวันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 10.00 – 11.00 น. ณ ห้องสตูดิโอ 1 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มอบรางวัลสามารถรับชมการถ่ายทอดสดทาง https://prdee.prd.go.th
#ประกวดสื่อสร้างสรรค์เทิดทูนสถาบัน
#พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา6รอบ
#เฉลิมพระเกียรติ
📌🇹🇭 สธ. โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เฝ้าระวังผักผลไม้นำเข้าอย่างเข้มงวด สกัดกั้นผลไม้นำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
อย. ยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของผักและผลไม้นำเข้า
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้เก็บตัวอย่างผัก ผลไม้ นำไปทดสอบอย่างง่ายที่ห้องปฏิบัติการประจำด่านอาหารทั่วประเทศกว่า 15,400 ตัวอย่าง และมีการดำเนินคดีกับผู้นำเข้ากว่า 200 ราย จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า มีผัก ผลไม้นำเข้ามาในประเทศ พบการปนเปื้อนสารกำจัดศัตรูพืชใน ผัก ผลไม้ ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว โดยให้ความสำคัญและความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้บริโภค
ดังนั้น ในปี 2568 อย. จึงได้ยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของผักและผลไม้ทั้งที่นำเข้าและปลูกในประเทศ สำหรับผักและผลไม้นำเข้าจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพของการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ โดยใช้มาตรการ Hold Test Release (HTR) กักหรืออายัดผักและผลไม้เพื่อทำการทดสอบ หากพบเป็นไปตามข้อกำหนดจะอนุญาตให้ไปจำหน่ายได้ เพื่อสกัดกั้นการกักผลไม้นำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ห้ามเข้ามาจำหน่ายในประเทศโดยเด็ดขาด พร้อมกับแนวคิด 1DAAN/1LAB/1DAY โดยบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ของการส่งตัวอย่าง และการตรวจวิเคราะห์กับห้องปฏิบัติการให้ทราบผลการตรวจวิเคราะห์ภายใน 24 ชั่วโมง ควบคู่กับการเจรจาการค้าร่วมกับภาคีเครือข่ายที่ส่งออกผักและผลไม้มายังประเทศไทย เพื่อไปตรวจดูมาตรฐานของ
โรงคัดบรรจุ และแหล่งผลิตเพื่อแก้ไขคุณภาพก่อนการนำเข้า พร้อมส่งเสริมให้ผู้นำเข้าตรวจวิเคราะห์ผักและผลไม้ก่อนการนำเข้ากับห้องปฏิบัติการในประเทศต้นทางที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 และจัดหาชุดทดสอบอย่างง่ายที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมชนิดของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีการพัฒนาสารใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
จัดกลุ่มผัก - ผลไม้ตามความเสี่ยงของการพบสารพิษตกค้าง
กองด่านอาหารและยาได้จัดกลุ่มผักผลไม้สดตามความเสี่ยงของการพบสารพิษตกค้าจากวัตถุอันตรายทางการเกษตรที่ไม่ผ่านมาตรฐาน เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมาก (Very high risk) หมายถึง ผักผลไม้สดที่ปรากฏในบัญชี “ข้อมูลผักผลไม้นำเข้าที่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐาน” (บัญชีระบบกักกัน)
2. กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง (High risk) หมายถึง ผักผลไม้สดที่ด่านอาหารและยาเก็บตัวอย่างแล้วพบสารตกค้างฯ ไม่ผ่านมาตรฐานมากกว่าร้อยละ 20 ของผักผลไม้แต่ละชนิด
3. กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ (Low risk) หมายถึง ผักผลไม้สดที่ด่านอาหารและยาเก็บตัวอย่างแล้วพบสารตกค้างฯ ไม่ผ่านมาตรฐานน้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 20 ของผักผลไม้แต่ละชนิด และไม่ใช่ กลุ่ม 1 และ 2
เตือนผู้บริโภคก่อนการบริโภคผัก - ผลไม้ ทุกครั้ง ควรแช่ในน้ำสะอาด 10 นาทีและล้างผ่านน้ำไหล
อย. ได้ย้ำเตือนผู้บริโภคว่าก่อนการบริโภคผัก - ผลไม้ทุกครั้ง ให้แช่ในน้ำสะอาดประมาณ 10 นาที และล้างผ่านน้ำไหลจะช่วยลดปริมาณสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างลงได้ ทั้งนี้ อย. อยากจะเชิญชวนให้ผู้ประกอบการตลาดสดควรที่จะจัดโซนจำหน่ายผักและผลไม้ปลอดภัย และแสดงป้ายบอกให้ชัดเจนเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค อย. พร้อมดำเนินการอย่างเต็มกำลังเพื่อให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยในการบริโภคผักและผลไม้รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพชนิดอื่น ๆ ด้วย หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line@FDAThai และ Facebook : FDAThai
#อยเฝ้าระวังผักผลไม้นำเข้าอย่างเข้มงวด #สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา #กระทรวงสาธารณสุข
#นโยบายรัฐบาล20กระทรวง
📌🇹🇭 พม. พร้อมพัฒนาเด็กทุกมิติ ครม.อนุมัติงบกลาง 67 จำนวน 1.2 พันล้าน อุดหนุนโครงการเด็กแรกเกิด – คิกออฟ 12 จ.นำร่องจังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก
(3 ก.ย. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 1,214,216,600 บาท เพื่อเป็นเงินอุดหนุนฯ ที่จะได้รับเงินต่อเนื่องในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 2,275,490 คน เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้
ชี้แจงที่ต้องของบประมาณเพิ่ม เหตุตัวเลขเด็กเปลี่ยนแปลงตลอด
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่าเป็นโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด สำหรับเด็ก 0 - 6 ปี เดือนละ 600 บาท ในช่วงท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยเดือนกันยายนนี้เป็นเดือนสุดท้าย ที่ต้องขอเพิ่ม เนื่องจากในแต่ละปีหรือแต่ละเดือนจำนวนเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จะแปรเปลี่ยนไปอยู่ตลอด และพอเด็กอายุเกิน 6 ปี จะไม่มีสิทธิได้รับเงินแล้ว หรือแม้แต่อาจจะมีอัตราการเสียชีวิตบ้างที่เด็กยังอายุไม่ถึง 6 ปี ดังนั้นตัวเลขจะมีการอัปเดตกันทุกเดือนทำให้ทางสำนักงบประมาณไม่สามารถที่จะให้เงินงบประมาณมาพอดี ในแต่ละปีจะให้งบประมาณหย่อนเอาไว้นิดหน่อยมาในช่วงสุดท้ายของปีงบประมาณ นับเป็นเรื่องปกติที่ทางกระทรวง พม. จะต้องสรุปตัวเลขล่าสุดเพื่อที่จะนำเสนอของบประมาณ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชนได้เสนอข้อมูล
สำหรับการจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในปีนี้ มั่นใจว่าจะไม่ซ้ำรอยปัญหาปีที่แล้วที่มีการค้างจ่าย จ่ายล่าช้า หรือว่าตกหล่น ปีที่แล้วเกิดขึ้นจากรอยต่อของรัฐบาล ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ในการดำเนินงานไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก
พม. จ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ประจำเดือนกันยายน 2567
โดยสามารถตรวจสอบการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
1. เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน http://csgcheck.dcy.go.th
2. แอปพลิเคชัน “เงินเด็ก”
3. แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้
• กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต
• เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
• ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล
• ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” ทั้งนี้ ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน
**เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผลตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน**
• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
พม. คิกออฟ จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็กฯ เตรียมนำร่อง 12 จังหวัด
กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้จัดโครงการ จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก เมืองสร้างเด็ก เด็กสร้างเมือง เพื่อพัฒนาจังหวัดนำร่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ บูรณาการความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกและเครือข่ายการทำงานในระดับพื้นที่
กระทรวง พม. ได้กำหนดจัดงานเปิดตัวกิจกรรม จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก เมืองสร้างเด็ก เด็กสร้างเมือง วันที่ 7 กันยายน 2567 ที่สวนเฉลิมภัทรราชินี (หอคอยบรรหาร - แจ่มใส สุพรรณบุรี) อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. หน่วยงานทีม พม. หนึ่งเดียว จังหวัดสุพรรณบุรี และภาคีเครือข่าย เข้าร่วม
สำหรับจังหวัดนำร่อง 12 จังหวัด ได้แก่
• จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม เพชรบุรี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด พะเยา เชียงราย ปัตตานี สงขลา พิษณุโลก ลพบุรี สกลนคร
ภายในงาน จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ พื้นที่สร้างสรรค์มหัศจรรย์เด็กสุพรรณบุรี ลานกิจกรรมพื้นที่สร้างสรรค์ ได้แก่
1) สภาเด็กสร้างสรรค์ โดยสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี
2) สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย โดยผู้แสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรม
3) ผู้แสดงความสามารถ โดยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุพรรณบุรี
4) Art for kids โดยวิทยาลัยช่างศิลปสุพรรณบุรี
5) Cooking with kids โดยวิทยาลัยสารพัดช่างสุพรรณบุรี
6) การแสดงดนตรี
7) กิจกรรม Ted talk
#พมพร้อมพัฒนาเด็กทุกมิติ #กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ #กรมกิจการเด็กและเยาวชน #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร
💙 ขอเชิญชวน อุดหนุน สินค้าอุปโภคและบริโภค 💙
💙 ณ บริเวณด้านหน้า บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขากำแพงเพชร อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
🚩วันที่ 6 - 8 ก.ย 2567
🚩มีสินค้าอุปโภคและบริโภค จำหน่ายมากมาย
✨️จัดโดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร
💥💥 #ข่าวดีสำหรับคนพิการ... #จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร #สามารถขอรับกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการได้ ฟรี!!! หมดเขตวันที่ 10 กันยายน 2567 โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
คุณสมบัติการขอรับกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ
1. เป็นบุคคลที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ (บัตรประจำตัวคนพิการต้องไม่หมดอายุ)
2. ขอรับกายอุปกรณ์สำหรับช่วยคนพิการ ตรงกับประเภทความพิการในบัตรประจำตัวคนพิการ
- พิการทางการเห็น ขอรับ ไม้เท้าขาว
- พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ขอรับ รถเข็นนั่ง รถสามล้อชนิดมือโยก ที่นอนลม
เตียงผู้ป่วย (ปรับระดับได้)
3. กรณี ประเภทความพิการตามบัตรประจำตัวคนพิการไม่ตรง หรือมีความพิการอื่นๆเพิ่มเติมภายหลัง
จะต้องประเมินความพิการ ณ โรงพยาบาลของรัฐ เพื่อขอใบรับรองความพิการ และเพิ่มประเภทความ
พิการตามบัตรประจำตัวคนพิการให้เรียบร้อย
** ผู้ที่มีความประสงค์ขอรับกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ กรุณากรอกคำขอใน Google Form ที่แนบ ภายในวันที่ 10 กันยายน 2567
***โดย (เป็นคนพิการรายใหม่ที่ยังไม่เคยขอรับกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ในโครงการจัดหากายอุปกรณ์ สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในรอบที่ 1 และรอบที่ 2)
แบบคำขอความต้องการรับอุปกรณ์ช่วยคนพิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร สอบถามเพิ่มเติม โทร. 055705031 ศูนย์บริการคนพิการจัง....
🇹🇭💛⭐️องคมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในโครงการฯ ที่โรงเรียนบ้านสุขสำราญ และโรงเรียนพิไกรวิทยา
วันที่ 5 ก.ย.67 เวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนบ้านสุขสำราญ อ.คลองลาน นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยนายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร, คณะผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี พร้อมคณะ ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมพบปะผู้บริหาร คณะครู, บุคลากรโรงเรียนบ้านสุขสำราญ พร้อมกับมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในโครงการ โดยมี นายสมคิด มาหล้า รองศึกษาธิการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษา คณะครู/นักเรียน ร่วมให้การต้อนรับ
จากนั้น เวลา 13.30 น. องคมนตรี พร้อมคณะ เดินทางเข้าตรวจเยี่ยม และพบปะผู้บริหาร, ครู และบุคลากร โรงเรียนพิไกรวิทยา พร้อมมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในโครงการฯ โดยมีนายกองเอกชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ ปลัดจังหวัดกำแพงเพชร, หัวหน้าส่วนราชการ, คณะผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนพิไกรวิทยา, และบุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ สำหรับ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรครั้งนี้ เพื่อรับทราบรายงานผลการดำเนินการโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ความคืบหน้าของการบริหารงาน ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานด้านต่างๆ โดยพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา การพัฒนาโรงเรียนของกองทุนการศึกษาตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ การปลูกฝังวินัย คุณธรรมและจริยธรรม การสร้างคนดีให้บ้านเมือง การบริหารจัดการโรงเรียนให้มีคุณภาพ และการเป็นต้นแบบของนักเรียนทุนพระราชทาน พร้อมทั้งขอบคุณผู้มีเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนกองทุนการศึกษาเป็นอย่างดี และกล่าวเน้นย้ำในเรื่องของการส่งเสริมภาษาไทย และการดำเนินการทางด้านการเกษตรให้แต่ละโรงเรียน มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการ ตามแนวพระราชดำริ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง.
📌🇹🇭 อุตสาหกรรมรวมใจ ลดคาร์บอนไทย 7.2 ล้านตัน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
เนื่องในโอกาสพระราขพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
กระทรวงอุตสาหกรรมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตั้งใจสานต่อพระราชปณิธาน การสืบสาน รักษา ต่อยอด การทำความดีและทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนและสังคม จึงได้จัดกิจกรรม “โครงการอุตสาหกรรมรวมใจ ลดคาร์บอนไทย 7.2 ล้านตัน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” เป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดตามพระราชปณิธาน เพื่อความสุขของปวงชนชาวไทย และเกิดการบูรณาการ ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ให้ประชาชนรับรู้ถึงห้วงเวลาสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงออกถึงความสามัคคี เป็นการรวมพลังของหน่วยงานภายใต้กระทรวงฯ สนับสนุน ส่งเสริม ผลักดันผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ให้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและรักษาสภาวะสิ่งแวดล้อม คืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศ รวมถึงลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศในภาคอุตสาหกรรม พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนโครงการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้บรรลุตามเป้าหมาย 7.2 ล้านตัน เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ปัจจุบันการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก สาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรและพลังงานเพื่อการผลิต การบริโภค การขนส่ง และการประกอบกิจการอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดทำโครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ลดคาร์บอนไทย7.2 ล้านตัน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อประชาชนชาวไทย ตลอดจนเสริมสร้างจิตสำนึกของการเป็นผู้ให้ โดยให้สถานประกอบการอุตสาหกรรมมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในภาคอุตสาหกรรมปริมาณ 7.2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ผ่านการขับเคลื่อนกิจกรรมใน 8 ด้าน ประกอบด้วย
1. การยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการลดการปล่อย หรือการดูดกลับก๊าซเรือนกระจก กิจกรรมการตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบโครงการลดก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐานภายใต้ การรับรองระบบงาน โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ. : TISI)
2. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารและโรงงาน อาทิ กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และกิจกรรมลดของเสียจากกระบวนการผลิต
3. การส่งเสริมการใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (Hydraulic Cement) ผลิตภัณฑ์การก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะก่อสร้างได้
4. การส่งเสริมและปรับเปลี่ยนมาตรฐานด้านยานยนต์ อาทิ การควบคุมปริมาณสารมลพิษ การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ปรับเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ไฮบริด เป็นต้น
5. การใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงาน ที่ใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล อาทิ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล การติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงานลดการใช้น้ำมันดีเซลโดยเปลี่ยนจากการใช้รถโฟล์คลิฟท์น้ำมันเป็นรถโพล์คลิฟท์ไฟฟ้า และกิจกรรมการนำใบและยอดอ้อยไปใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลในโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นต้น
6. การบริหารจัดการทรัพยากร (นํ้า /ของเสีย /วัตถุดิบ) อาทิ กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ กากอุตสาหกรรม และกิจกรรมการส่งเสริมเทคโนโลยีการบริหารจัดการ การหมุนเวียนการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะ เป็นต้น
7. การจัดการสารเคมี อาทิ กิจกรรมเผาทำลายสารทำความเย็น โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม กับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยเผาทำลายสารทำความเย็น ผ่านเตาเผาระบบฟลูอิดไดซ์เบด (Fluidized Bed) เป็นต้น
8. การลด ดูดซับ และการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากภาคป่าไม้และเกษตร อาทิ กิจกรรมการรณรงค์ลดการเผาอ้อย กิจกรรมการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ทำเหมืองแร่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน และกิจกรรมการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นต้น
เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงอุตสาหกรรม จึงขอเชิญชวนร่วมกันลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาจจะพิจารณาจากหลักการที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานเครือข่ายได้ขับเคลื่อนการดำเนินการ 8 ด้าน จำนวน 298 กิจกรรม ซึ่งบางกิจกรรมสามารถดำเนินการได้โดยเริ่มจากระดับบุคคล หรือจะนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กร เชื่อมั่นว่าจะลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวไทย
#อุตสาหกรรมรวมใจลดคาร์บอนไทย7.2ล้านตัน
#พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา6รอบ
#เฉลิมพระเกียรติ
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)
ประเภท
ติดต่อ ธุรกิจของเรา
เว็บไซต์
ที่อยู่
กำแพงเพชร-สุโขทัย
Kamphaeng Phet
62000
มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม AIC จ?
ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ชั้น 2 ถนน กำแพงเพชร-สุโขทัย ตำบลหนองปลิง
Kamphaeng Phet, 62000
42 หมู่ 9 ต. นครชุม อ. เมือง จ. กำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
วิสัยทัศน์ : องค์กรเป็นเลิศในงานทาง ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง สร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้ทาง
ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
แฟนเพจประชาสัมพันธ์ภารกิจของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ. กำแพงเพชร ถนนพหลโยธิน ตำบลอ่างทอง อำเภอเมืองกำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการแข่งขันทักษะวิชาการ อบจ.กำแพงเพชร
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร
1/2 หมู่ 1 ต. หนองปลิง อ. เมือง
Kamphaeng Phet, 62000
วิทยาลัยสารพัดช่างกำแพงเพชร สถานศึกษาอาชีวศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
Kamphaeng Phet
แฟนเพจประชาสัมพันธ์ ที่ว่าการอำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
343 ถ. เทศา 2 ต. ในเมือง อ. เมือง
Kamphaeng Phet, 62000
แผนกปฏิบัติการและบำรุงรักษา
328 หมู่ 7 ถ. กำแพงเพชร-สุโขทัย ต. หนองปลิง อ. เมืองกำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
การศึกษา
3/298 หมู่ 13 ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร
Kamphaeng Phet, 62000
สำนักงานเคหะชุมชนกำแพงเพชร การเคหะแห่งชาติ โทร.055-799811