Akha Ama Coffee

We are looking forward to see better changes through coffee cultivation and we believe all stakeholders are so important to increase both quality and sustainability. ฤดูกาลวัดหัวใจคนกาแฟมาถึงแล้ว เราต่างเฝ้ามองการเปลี่ยนที่ดีในหลายๆด้าน และเชื่อเหลือเกินว่า การทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย จะเห็นผลดีทั้งรสชาติ และความยั่งยืน

ขอบคุณ SCAJ ที่มอบพื้นที่ให้พวกเราได้ร่วมแลกเปลี่ยน งานปีนี้ถือว่าใหญ่กว่าทุกครั้งที่เราเคยไปเดิน การต้อนรับของคนกาแฟที่นี่ช่างน่ารัก และน่านับถือ นอกจากได้ร่วมนำเสนอกาแฟไทยในงานแล้ว ทุกท่านยังได้ร่วมถกประเด็นการพลักดันให้กาแฟ ASEAN เป็นที่ยอมรับทั้งในด้านรสชาติ และคุณค่ามากขึ้น พร้อมกับหนุนเสริมอุตสาหกรรมให้มุ่งเป้าไปในทิศทางเดียวกันคือ ความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เราเห็นเป้าหมายที่ร่วมกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการกาแฟที่ไม่เน้นแต่การสร้างผลประกอบการ แต่ยังสร้างเส้นเชื่อมของการแบ่งปันกันครับ Many Thanks to SCAJ and all the folks for sharing the wonderful vissions for sustainable coffee career. We are so happy to see very similar master goal, especially supporting ASEAN coffees for great tastes and sustainable values. And we hope to see you again soon!
ภาพโดย: SCAJ / ทีม Nine-One Coffee

เรื่องเล่าเท้าความเดิม กาแฟที่ได้รับการพูดถึงในด้านรสชาติ และการพัฒนาที่เติบโตในมือเกษตรกรไทยตลอดระยะ 6 ปีที่ผ่านมานี้ ต้องมีสายพันธุ์กาแฟพิเศษจากสมาคมกาแฟพิเศษไทยแน่นอน ถ้าไม่ลืมกัน กาแฟตัวนี้มีเรื่องเล่ากันว่า ถูกค้นพบในป่าลึกในประเทศอินโดนีเซีย หลายคนเรียกว่าทิปปิก้าเดิม หรือ Old Typica มีคนไปพบบนเกาะชวาฝั่งตะวันตกมานานเป็นร้อยปีแล้ว และด้วยความที่กาแฟพันธุ์นี้ไปโตอยู่ในมือชนเผ่าพื้นเมืองชาวซุนดา และพอเก็บเกี่ยวมาชิมในภายหลัง ก็เจอว่ามีรสชาติที่โดดเด่นคล้ายพันธุ์เกอิชา หรือ Geisha ที่หลายคนรู้จัก เลยถูกเรียกต่อมาอีกชื่อว่า Sunda Geisha เอาเป็นว่ากาแฟต้นนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่คนกาแฟอย่างพวกเราก็สัมผัสประสบการณ์มาแล้ว และหลายคนก็ชื่นชอบในความอร่อย มีความแตกต่างจากกาแฟที่ปลูกกันมายาวนานในบ้านเราอย่างชัดเจน --- ในปีนี้ พวกเรามีความตั้งใจเหมือนเดิมที่จะมาแบ่งปันกาแฟตัวนี้ให้ทุกคนได้ลองกิน และหาแนวทางพัฒนาต่อไป ที่ขาดไม่ได้คือ พวกเราต้องขอบคุณ ผู้ใหญ่ในสมาคมกาแฟพิเศษไทย หรือ Specialty Coffee Association of Thailand ได้นำมาแจกจ่ายต้นกล้า เมื่อปี 2016 และทำให้หลายคนเรียกกาแฟตัวนี้ติดปากว่า SCATH 01 ซึ่งให้เข้าใจตรงกันว่า มันคือ ต้นกาแฟเดียวกันนี่แหละ ส่วนกาแฟ Sunda Geisha ที่นำมาเสนอในรอบปีนี้มาจากสวน ADER อาเดอ และ จากสวนของ SINGHA สิงหา ครับ
*** กาแฟจากสวนของอาเดอมี 2 ตัว คือ Honey Process หรือ ฮันนี่ และ Natural Process หรือ ดราย โดยกาแฟของอาเดอที่เป็นฮันนี่ Honey นั้นได้ถูกเก็บผลกาแฟเชอร์รี่มาอย่างพิถีพิถัน ก่อนนำผลกาแฟไปล้างให้สะอาด ลอยผลกาแฟที่ไม่สมบูรณ์ออก นำไปหมัก หลังจากนั้นสีเปลือกออก แล้วจึงนำมาตากในโรงตากกาแฟที่มีลมผ่านตลอดเวลา รสชาติที่ได้จากกาแฟตัวนี้คือ องุ่นเขียวมัสแคท หอมคล้ายดอกมะลิ และไอศกรีมนมสด ส่วนกาแฟตัวที่สอง เป็นกาแฟ Natural ซึ่งได้มีการเก็บผลกาแฟจากแหล่งเดียวกัน นำไปหมักให้ได้ที่ ล้างผลกาแฟให้สะอาด และลอยเชอรี่ที่ไม่สมบูรณ์ออก ก่อนนำไปตากในโรงตากเดียวกัน ได้รสชาติที่ซับซ้อน ชวนนึกถึงดอกกุหลาบ ผลไม้อย่างลิ้นจี่ และกลิ่นสดชื่นคล้ายใบมะนาว
*** ส่วนกาแฟจากสวนของสิงหาเป็นกาแฟ Natural Process โดยเลือกเก็บผลเชอร์รี่กาแฟที่สุกงอม นำมาล้างน้ำให้สะอาด ลอยผลกาแฟที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง แล้วนำไปตากในห้องควบคุมอุณหภูมิเพื่อไล่ความชื้นประมาณ 24 ชั่วโมง ก่อนนำออกมาตากอุณหภูมิปกติข้างนอก ปล่อยให้แห้งไปตากธรรมชาติ พอแห้งได้ที่แล้วจึงเก็บไปบ่มต่อเป็นเวลา 2 เดือนแล้วนำไปสีเป็นสารกาแฟครับ ซึ่งรสชาติที่สัมผัสได้คือ สะอาด มีความเป็นผลไม้เมืองหนาวอย่างลูกท้อ หรือ พีช เนคทารีน และตระกูลเบอร์รี่อย่างบลูเบอร์รี่
พวกเราอยากนำกาแฟทั้งสามตัวนี้ มาเสนอทุกท่าน เพื่อเป็นการยกย่องความพยายามของเกษตรกรไทย คนกาแฟไทย และเหนือสิ่งอื่นใด เราอยากเป็นฟันเฟืองของงานพัฒนากาแฟบ้านเราด้วยกันครับ

หากท่านใดสนใจ สามารถสอบถามผ่านทางไลน์ไอดี หรือติดต่อ 088 267 8014 ได้นะครับ

ราคาต่อชุด : 800 บาท ( ยังไม่รวมค่าส่ง )

*** ปัจฉิมลิขิต : หน้าร้านอาข่า อ่ามา สาขาหน้าวัดพระสิงห์ จะมีกาแฟทั้งสามตัวนี้ชงเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมจนหยดสุดท้ายนะครับ

เดือนตุลาคมแล้ว หลายพื้นที่เจอปัญหาน้ำท่วม พวกเราส่งใจไปให้ทุกท่านที่กำลังประสบภัยอยู่นะครับ ปัญหาเรื่องฝนตกยาวนานแบบนี้ ทำให้เกษตรกรหลายท่านที่ปลูกกาแฟต้องสังเกตอาการของต้นกาแฟด้วยนะครับ โดยเฉพาะเชื้อราที่กินราก และทำลายเชอร์รี่กาแฟนั้นต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเลย อีกไม่กี่สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่ฤดูกาลการเก็บเกี่ยวกาแฟแล้ว ต้องมาช่วยกันภาวนาให้ฝนหยุดตก แดดออก มีลมเย็นเข้ามานะครับ ส่วนกาแฟ Origin Of The Month หรือกาแฟคัดสรรของเดือนนี้มี 3 ตัว จาก 3 แหล่งปลูกครับ
*** กาแฟตัวแรก คือกาแฟจากสวนของ คุณอาโง แหล่งปลูกอยู่ที่หมู่บ้านใหม่พัฒนา ดอยปางขอน จังหวัดเชียงราย สวนกาแฟนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ความสูง 1350 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีต้นผลไม้เมืองหนาวอย่างเชอร์รี่ พลัม อะโวคาโด้ ต้นบ๊วย และต้นไม้ป่าปลูกร่วมกัน กาแฟตัวนี้ผ่านการแปรรูปแบบเปียก หรือ Washed Process ได้รสชาติที่ให้ความอร่อยเรียบง่าย ชวนให้นึกถึงมะกอกน้ำ ความหวานที่คล้ายลูกพลัมสีเหลือง ความเปรี้ยวนุ่มนวลในรูปแบบของส้มโอ
*** กาแฟตัวที่สอง เป็นกาแฟจากเบเบ้ หรือคุณอภิวัฒน์ เกษตกรรุ่นใหม่จากบ้านดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยกาแฟตัวนี้ ใช้กระบวนการผลิตแบบ Pulped Natural ซึ่งเป็นรูปแบบการผลิตแบบหนึ่งของ Honey Process โดยกาแฟของเบเบ้ได้ปลูก และแปรรูปใกล้สวนที่ความสูง 1,200-1,395 เมตรจากระดับน้ำทะเล ให้ความเปรี้ยวที่ไม่แหลมที่คล้ายส้มโอ ให้ความหวานยาว ซับซ้อนคล้ายรวงผึ้ง และมีกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงใบมะกรูด
*** กาแฟตัวที่สาม เป็นกาแฟจากน้องโคนัน หรือลีเก๊อะ ลีเก๊อะเป็นเกษตกรรุ่นใหม่จากหมู่บ้านแม่จันใต้ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยกาแฟส่วนใหญ่ของเขาปลูกร่วมกับอะโวคาโด้ ที่ความสูงสวน 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล น้องได้เก็บกาแฟสุกจัดในช่วงที่ไม่มีฝนเพื่ออคงความหวาน และรักษาไม่ให้เมล็ดแตก นำมาผ่านกระบวนการหมักแบบไร้อากาศ หรือที่เรียกว่า Anaerobic ก่อนจะจบกระบวนการผลิตในรูปแบบแห้ง หรือ Natural Process รสชาติที่ได้ชวนให้นึกถึง โกโก้นิปป์ ดอกจำปี และไวน์เครื่องเทศครับ ท่านใดสนใจกาแฟตัวไหนก็ทักกันมาได้เลยนะครับ

Happy international coffee day! We wish you have a wonderful season and find a better cup with more sustainable coffees. ขอให้ทุกคนโชคดีใต้ต้นกาแฟ

ร้านกาแฟและโรงคั่วเป็นความฝันของใครหลายคนที่อยากมี ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ และไม่ใช่ฝันที่เป็นไปไม่ได้ หลายท่านอาจกำลังออกแบบ และครุ่นคิดอยู่ว่าฝันตัวเองจะออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน ที่เขียนนำเรื่องแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าควรจะมีภาพโรงคั่วแบบใดแบบหนึ่ง แต่กำลังชวนทุกท่านมองลึกเข้าไปในเรื่องการใช้พื้นที่ฝันของเรา ให้เป็นพื้นที่ของชีวิตที่หลากหลาย และแทนที่จะออกแบบหนีจากธรรมชาติ พึงตระหนักร่วมว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเช่นกัน พื้นที่ใหญ่เล็กไม่สำคัญ แต่เราได้เริ่มลงมืออย่าเต็มอกเต็มใจ มีหลายคนสงสัยว่าทำไมพวกเราถึงใช้พื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงคั่ว เพื่อปลูกต้นไม้ ทั้งที่การรักษาสิ่งแวดล้อม ดูแลป่า เป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ ป่าไม้ไม่ใช่หรือ เรามีเหตุผลมากมายที่บอกได้ แต่เหตุผลแรกเลยคือ พื้นที่เดิมที่ตรงนี้มันมันโล่งมาก อากาศก็ร้อนมาก และเราแทบใช้ชีวิตอยู่ไม่รอดเลย โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน และเราไม่มีทางหาเงินพอที่จะมาทำให้พื้นที่นี้เย็นขึ้นได้โดยไม่ใช้หลักธรรมชาติ คือสร้างพื้นที่สีเขียว สร้างร่มเงาจากธรรมชาติมากขึ้น จริงอยู่ที่เราทำมา 7 ปีแล้ว แต่อากาศก็ยังร้อนอยู่ แต่เราได้อากาศดีขึ้นชัดเจน เรามีสัตว์ แมลง ผึ้ง มาอยู่กับเรามากขึ้น เราสามารถเดินออกไปอยู่ใต้ร่มไม้ที่เราปลูกเมื่อ 7 ปีที่แล้วได้อย่างสบาย มีบ้างที่เครียดเพราะแมลง ด้วง หนอน มาเจาะกินต้นไม้เราที่รักมาก แต่ก็มองมุมบวกว่าเราได้สร้างอาหารให้สิ่งมีชีวิตได้ และพวกเขาคงรักต้นไม้ที่เราปลูกไม่น้อยกว่าเราแน่ พวกเราถึงอยากเขียนข้อความนี้ไว้ เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านใดที่กำลังอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างฝันของตัวเอง ได้ผ่านมาเจอ ไปลองทบทวน แล้วนำไปปรับใช้จากประสบการณ์ของพวกเราเรา ***เราตระหนักเสมอว่า แม้แต่การคั่วกาแฟเพียงหนึ่งหม้อ หรือการชงกาแฟหนึ่งแก้ว ก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่มากก็น้อย แต่เราก็มีทางสร้างผลกระทบที่ดีชดเชยจากอาชีพของเราได้เสมอเช่นกัน

พวกเราอยากขอบคุณนิตยสาร Transit ฉบับที่ 57 ของประเทศญี่ปุ่นนะครับ ที่ให้โอกาสพวกเราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆในประเทศไทย ทั้งฉบับเป็นการพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ในไทยที่นักเขียน และช่างภาพได้เดินทางไปเก็บเกี่ยวมา แล้วมาเล่าผ่านมุมมองที่พวกเขาได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง สำหรับพวกเรา ดีใจที่ได้ดำเนินประสบการณ์ร่วมกับทีม Transit และที่พิเศษมากคือ กาแฟอาข่า อ่ามา ทั้งทีมประจำประเทศไทย และประจำประเทศญี่ปุ่นได้ร่วมกันเล่าเรื่องของเราผ่านนิตยสารฉบับนี้ด้วย พวกเรานำเสนอเรื่องราวคนตัวเล็กตัวน้อยที่สร้างชุมชน ผ่านอาชีพคนกาแฟ และเชื่อว่าพลังพิเศษของคนเหล่านี้แหละที่ร่วมสร้างสังคมให้มีทางเลือก จริงอยู่ที่การเดินทางของอาข่า อ่ามา เป็นเวลา 12 ปีแล้ว แต่ไม่ได้สวยหรูเสมอ มีล้มตามระหว่างทางก็บ่อย ซึ่งต้องคอยบอกตัวเองว่าลุกขึ้นแล้วเดินต่อไปนะ วันที่ทีมนิตยสาร Transit บอกจะมาหาพวกเราก็เกรงใจพอสมควร เพราะพวกเราทำเรื่องเล็ก ๆ มาตลอด และกังวลไปว่าจะมีอะไรแลกเปลี่ยนให้พวกเขาได้ยินดีนัก แต่ทีมอาข่า อ่ามาญี่ปุ่นก็ได้ทำให้พวกเราคลายความกังวลนั้นได้เป็นอย่างดี เรื่องหนึ่งที่พวกเราได้สื่อให้ทุกคนได้รับรู้ผ่านนิตยสารเล่มนี้คือ ไม่จำเป็นต้องเอาความฝันของตัวเองไปเปรียบกับของใคร ความฝันที่ดี ไม่ว่าจะเล็กในสายตาใคร หรือจะใหญ่เป็นของคนใด ก็เป็นเรื่องสวยงามเสมอ ในเล่มนี้ ยังได้นำเรื่องราวของบ้านหินลาดใน หมู่บ้านพี่น้องปกาเกอะญอ และเป็นบ้านของเพื่อน ๆ ของพวกเราหลายคนอยู่ด้วย แน่นอนว่าความงดงาม และความยั่งยืนของหมู่บ้านนี้ต้องไปติดตามอ่านดู รวมไปถึงเรื่องราวชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในไทยด้วยครับ ขอบคุณ Transit อีกครั้งจากใจ
*** หมายเหตุ พวกเราต้องขออภัยที่ไม่สามารถแปลภาษาญี่ปุ่นที่บรรยายไว้ในนิตยสารเล่มนี้ได้ แต่อาจจะมีผู้ใจดีมาแปลตอบในโพสต์นี้ให้แน่นอน

มีกาแฟของคุณแม่หมี่ลอ Meelor ให้จับจองทั้งหน้าร้าน และออนไลน์นะครับ ภาพโดย : ทีมงานไทยพีบีเอส

Anusorn with his Jember coffee trees. Those Jember cherries would be the second harvest from his varietal initiative and of course his grows many more varietals in his origin. อนุสรณ์กับต้นกาแฟเจมเบอของเขา คาดว่ามีอีกหลายพันธุ์ที่สรณ์จะนำเสนอในโอกาสต่อไป รอกินนะครับ

Teammates are cleaning the drum to be rolled tomorrow! วอร์มเครื่องรอเลยไหม พรุ่งนี้จะร้อนไหมครับ

พวกเรามีโอกาสเดินทางไปร่วมเส้นทางการผดุงพันธุ์กาแฟที่บ้านแม่จันใต้ รอบนี้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงความคิด ผลงาน และแนวทางต่ออนาคตกาแฟไทยอย่างชัดเจน สิ่งที่พวกเราตื่นเต้นมากที่สุดคงหนีไม่พ้นความตั้งใจของกลุ่มผู้ประกอบการทางการเกษตรรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจด้านความยั่งยืน ทั้งในด้านการเพาะปลูก และด้านรสชาติที่ดี จึงไม่แปลกใจนักที่กาแฟบ้านเรายกระดับคุณภาพกาแฟขึ้นมาได้มากในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน และการพัฒนาแบบนี้จะเกิดขึ้นเร็วมากขึ้น เนื่องจากทุกคนมีข้อมูล เครื่องมือวิทยาการ และความร่วมมือจากคนต้นน้ำ และปลายน้ำที่เหนียวแน่นใกล้ชิดมากขึ้น อีกไม่นานทุกท่านจะได้ลิ้มรสกาแฟจากหลากหลายสายพันธุ์ จากฝีมือคนไทยเป็นแน่แท้

ศึกของเขา เราเกี่ยวอะไร ?​ เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเนื้อหาที่กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบกาแฟอาข่า อ่ามา พระสิงห์ Akha Ama Phrasingh
--- บนภูเขานั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่คุ้มค่าแก่การรับรู้ กาแฟและพืชนานาพันธุ์ กำลังเผชิญศึกหนักกับการรุกพื้นที่ของพืชเชิงเดี่ยว ศึกนี้จึงเป็นเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ของต้นกาแฟ ที่เป็นสหายของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยบรรพชนของเรา จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับกาแฟที่จะต้องปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพให้คงอยู่ เพื่อให้ต้นไม้เล็กใหญ่นั้นได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หล่อเลี้ยงมนุษย์อย่างพวกเรา ให้มีพลังในการใช้ชีวิตที่ดี และศึกนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เพราะต้นกาแฟและพืชชนิดอื่น ๆ ต้องต่อสู้กับเหล่ามารเชิงเดี่ยวที่พุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างไม่ปราณี เท่านั้นไม่พอ มีกลุ่มมนุษย์บางกลุ่มหลงไปพึ่งเชิงเดี่ยว เพื่อรวบเอกสิทธิ์ที่ไม่พึงจะได้เพียงผู้เดียว ก่อความเดือดร้อนให้กับเหล่าสรรพสัตว์ รวมถึงมนุษย์ผู้ฝ่ายฝันต่อความยุติธรรม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในศึกนี้คือ กลุ่มเหล่ามารเชิงเดี่ยว มาพร้อมกับอาวุธหนักทางเคมี มีการเพิ่มยุทธการที่มีทั้งพ่น โยน ฆ่า ถาง เผา ส่วนเหล่ากาแฟ และพืชธรรมชาติ จำเป็นต้องเรียกร้องผ่านสภาฤดูกาล จนทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลฤดูต่างเดือดร้อนไปทั่ว ทำให้ฝนตกมากไปในบางพื้นที่ หรือบางพื้นที่แล้งจนไม่มีน้ำดื่มกิน บางพื้นที่เกิดหนาวจัดจนพืชผลต้องล้มตายไปเป็นจำนวนมาก บางพื้นที่ก็กลายเป็นทะเลทราย พวกเราได้รับรายงานจากฝ่ายพันธมิตรกาแฟฝั่งทวีปอเมริกาว่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2564 - 2565 ได้เกิดการฆ่าล้างเผาพันธุ์กาแฟที่ประเทศบราซิล โดยมีรายงานแจ้งจำนวนกาแฟที่เสียชีวิตในศึก และถูกทิ้งใส่กระสอบมากถึง 8-10 ล้านกระสอบ คิดเป็น 40 % ของทัพกาแฟในประเทศบราซิลเลยทีเดียว
--- แล้วพวกเราหละ ศึกของเขา เราเกี่ยวอะไร ? ด้วยเหตุนี้ ทางเราจึงขออนุญาตนำสารที่ได้รับมาบอกกล่าว ผ่านการออกแบบพื้นที่แห่งนี้โดยสันเขป โปรดใช้ความเมตตาในการรับฟัง
--- ท่านจะเห็นต้นกันเกราและกาแฟ ที่คอยต้อนรับทุกคนอยู่หน้าร้าน ซึ่งต้นกันเกราเปรียบเสมือนผู้ภิทักษ์ ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้น ส่วนต้นกาแฟที่อยู่ใต้ต้นกันเกรานั้นเปรียบเสมือนสรรพสิ่งที่ร่วมกันปกป้องสิทธิ์การอยู่ร่วมกัน เฉกเช่นเดียวกับการผึ่งพาอาศัยของคนกับป่าที่แยกจากกันไม่ได้ ด้านในเป็นโรงละครบอกเล่าเรื่องราวธรรมชาติ และการใช้พื้นที่ทำมาหากินของคนอยู่กับธรรมชาติ มีลักษณะของภูเขาที่แตกต่าง สื่อถึงการเปลี่ยนถ่ายของยุคสมัย ชุมชน วัฒนธรรม และวิถีการดำรงอยู่ บนผนังของร้านนี้ ใช้อิฐท้องถิ่นก่อตัวขึ้นเป็นรูปภูเขา แต่ละก้อนแทนความหลากหลายที่เติบโตบนพื้นที่นั้น บันไดใหญ่ที่ทอดลงมาระหว่างบนภูเขาเหล่านี้ เปรียบเสมือนสายน้ำสะอาด ที่ธรรมชาติมอบให้เรา ซึ่งเป็นปัจจัยจำเป็นของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน พื้นที่บาร์กาแฟเปรียบเป็นแหล่งที่ลุ่มตรงกลางร้านนี้ เป็นที่ทำมาหากิน และที่อยู่อาศัยของมนุษย์ทั้งหลาย เราจึงใช้พื้นที่นี้ เพื่อนำเสนอวัตถุดิบอันทรงคุณค่าของธรรมชาติ และเพื่อปกป้องสิทธิ์การดำรงอยู่ของความหลากหลายทางชีวภาพ เฉกเช่นเดียวกับกาแฟที่ท่านกำลังดื่มกินอยู่ ณ ขนะนี้ ย่อมมีความหมาย เพื่อหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งทั้งโลกโดยแท้
----- ขอบคุณ Blankstudio สำหรับความช่วยเหลือด้านการออกแบบ และทำให้ร้านนี้ก่อตัวขึ้นดั่งที่เราตั้งใจไว้อย่างมั่นคง และขอบคุณทุกแรงหนุนที่มีให้กับพวกเรานะครับ

กาแฟประจำของเดือนนี้มาแล้วครับ ในทุก ๆ เดือน เรายังนำเสนอกาแฟดี ๆ จากหลากหลายแหล่งให้ได้ลิ้มลองกัน เช่นเดียวกับเดือนนี้ เรามีกาแฟจาก 3 แหล่งปลูกมาให้ได้กินกันนะครับ
-- เริ่มจากกาแฟตัวแรกที่เราเลือกให้มาประจำในเดือนนี้คือ Chalee ชาลี จากบ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายครับ กาแฟตัวนี้นอกจากได้ประสบการณ์แปรรูปกาแฟมายาวนานของคุณชาลี หยกรุจิแล้ว ยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีความสำคัญ มีการเพาะปลุกสายพันธุ์กาแฟหลากหลายตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งหลายท่านน่าจะเคยไปเยือนแหล่งปลูกนี้มาแล้ว กาแฟตัวนี้ได้ผ่านการผลิตแบบเปียกหรือ washed process โดยชาลีและครอบครัว ซึ่งได้รสชาติที่ให้คิดถึงความเปรี้ยวสดใส ยังชวนให้นึกไปถึงใบมะกรูดหอมสดชื่น และให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวามากมายครับ
-- กาแฟตัวที่สอง เป็นของคุณสมชาย เชอมือ เป็นกาแฟของคนรุ่นใหม่จากบ้านแม่จันใต้ ที่เลือกแปรรูปจากเชอรี่กาแฟของบ้านเลาวู อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ กาแฟตัวนี้ผ่านการผลิตแบบฮันนี่ ​Honey Process ซึ่งแน่นอนว่าความหวานกาแฟที่สะสมมาอย่างดีบนพื้นที่ 1300 เมตรจากระดับทะเลก็จะหวานมาก ๆ ให้รสชาติแนวโคล่า craft cola หอมแบบเปลือกส้ม และหวานคล้ายน้ำตาลอ้อย ซึ่งละมุนยาว ๆ ไปทั้งปาก
-- และกาแฟตัวที่สามเป็นกาแฟของคุณอภิวัฒน์ หรือ น้องเบ้ ที่เรารู้จัก น้องเคยทำงานเป็น Roaster และ Barista ที่ร้านของพวกเรามาก่อน และด้วยความที่น้องเบ้มีความสนใจในด้านศาสตร์ของรสชาติกาแฟ จึงผันตัวเองมาแปรรูปกาแฟจากสวนกาแฟของตัวเองที่บ้านดอยช้าง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยกาแฟตัวนี้น้องเบ้ทำแบบแห้ง หรือ Natural Process ที่หลายคนดื่มแล้วต้องนำเมล็ดกาแฟติดตัวกลับไปชงแบ่งกันกินที่บ้านอีก รสชาติที่ได้ก็มีความเปรี้ยวที่ไม่แหลมคมคล้ายกินส้มโอสุก กลิ่นและสัมผัสคล้ายช็อคโกแลตนม และหวานฉ่ำแนวแยมสตรอว์เบอรี่
-------------
พวกเราหวังว่ากาแฟเหล่านี้ จะสร้างความตื่นเต้นในทุก ๆ วันให้กับคนรักกาแฟอย่างคุณนะครับ และสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://www.akhaamacoffee.com/collections/origin-of-the-month ขอบคุณที่อุดหนุนกาแฟไทยครับ

ช่วงนี้ครอบครัว Akha Ama Japan เดินทางมาแลกเปลี่ยนความรู้ที่เมืองไทย และร่วมฉลองครบรอบ 2 ปีกาแฟอาข่า อ่ามาญี่ปุ่นด้วยกันครับ พวกเราขอบคุณทุกท่านทีอุดหนุนและเมตตาเรามาตลอดนะครับ Our family Akha Ama Japan is visiting Thailand and on the journey of learning many things to shape future together. It was the wonderful night that we also celebrated the 2nd year anniversary of Akha Ama Japan! Thank you for drinking coffee with us.

ยินดีกับ The Standard ในวาระโอกาสครบรอบ 5 ปี และขอบคุณที่ให้พวกเรามีส่วนร่วมในงานเฉลิมฉลองในครั้งนี้ด้วยครับ ขอให้ครอบครัว The Standard มีแต่ความสุข และเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เย้! THE STANDARD

เส้นทางที่เปลี่ยวเงียบ ย่อมมีนักเดินทางที่หลงได้ แต่หากวันหนึ่งเส้นทางถูกถางให้กว้างขึ้น จากผู้คนที่เห็นความเปลี่ยวเงียบเป็นความท้าทาย ก็ย่อมจะมีนักเดินทางที่หลงใหลก็เป็นได้ บางทีเราก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ ว่าอนาคตจะพาเราไปสู่แห่งหนใด แต่ทุกก้าวย่างก็พึงมีเมตตากัน และขอบคุณทุกคนที่เมตตาพวกเราเสมอครับ

วันนี้มาอวดต้นไม้ที่โรงคั่วกาแฟของเราอีกครั้ง ท่านใดผ่านมาแม่ริมช่วงนี้ แวะมาทักทายได้นะครับ ต้นไม้ธรรมชาติกำลังดีเลย

Coffee calling, are you coming? June 18th-19th at Bambini Villa, Bangkok กาแฟก็พร้อม รอเธอมาล้อม งาน Coffee Calling ณ เมืองกรุง ที่ Bambini Villa วันที่ 18-19 มิถุนายน แจมกันครับ

Hypothenemus hampei or coffee berry borer could be the most harmful pets for coffee. We worked with to educate coffee farmers in Maejantai village to prevent their crops from early stage. เรื่องมอดเป็นเรื่องปวดหัวของชาวเกษตรกรทุกคน เราจึงได้ร่วมกับพี่น้องกลุ่มสหาย เพื่อแนะนำการป้องกันปัญหาจากศัตรูพืชตัวนี้ตั้งแต่ต้นครับ

Paid a visit at Maejanluang and Maeter villages, most of villagers here are cultivating coffee and tropical fruits and their farms are located not far from the Thai-Myanmar border. We enjoyed their coffee just brewed with simple method at their indigenous kitchen. The living culture and agricultural practices here are fabulous and sustainably! แม่จันหลวงและแม่เต๋อคือ หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยงามตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทยพม่าครับ เราได้ดื่มด่ำกาแฟของพวกเขาอย่างเรียบง่าย แต่แสนอร่อย ชาวบ้านที่นี่ปลูกกาแฟและผลไม้มากมาย วิถีที่นี่น่าอิจฉาไม่ใช่น้อยเลย

ทุกท่านครับ ร้านอาข่า อ่ามา หยุดให้บริการ 1 วัน ในวันที่ 17 พฤษภาคม แล้วเจอกันในวันที่ 18 พฤษภาคม นะครับทุกท่าน Dear all, all Akha Ama cafes are closed for 1 day on 17th May and will come back to see you on 18th May as usual. Thank you.

เดือนนี้เรายังมีกาแฟ Origin of the month อยู่นะครับ พร้อมกับตัวเบลนด์พิเศษอย่าง Tutti Frutti ที่พวกเราสร้างมาเพื่อนักดื่มกาแฟที่ต้องการรสผลไม้จัด ๆ ครับ
- Saenchai Coconut ตัวนี้เป็นโพรเสส Natural กินเมื่อไหร่ ชงท่าไหนก็อร่อย กินก่อนนอนยังอร่อยเลย
- Saenchai โพรเสส Honey ตัวนี้ทั้งผลไม้และเครื่องเทศมาพร้อมกันเลย
- Shiyo โพรเสส Washed หวาน ๆ แบบน้ำดอกมะพร้าว
- Tutti Frutti เป็นเบลนด์ที่เราเอากาแฟจากต่างแหล่งปลูกไทยมาจัดรวมร่างให้เกิดรสที่เน้นความหวาน และผลไม้เยอะๆ
*************
เข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.akhaamacoffee.com/collections/origin-of-the-month หรือติดต่อพวกเราโดยตรงได้ทางไลน์ ที่ ID : @ akhaama และโทรที่เบอร์ 0882678014 ได้เลยครับ

Many thanks to our teamates for the great run and see you tomorrow! ขอบคุณน้อง ๆ ทุกคน และลูกค้าที่น่ารักทุกท่านเลยครับ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ

วันนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นวันที่เร่ิมต้นการเดินทางของกาแฟอาข่า อ่ามาอย่างแท้จริง ระหว่างทางนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย และเกิดสิ่งมหัศจรรย์มากมาย พวกเราได้เรียนรู้อาชีพนี้ที่หล่อเลี้ยงผู้คนนับล้านบนโลกนี้ ได้พบมิตรสหายที่มีอุดมการณ์ที่คล้าย และต่างกันไป เป็นสีสัน เป็นคุณค่า แม้เราได้ร่ำเรียนสิ่งต่าง ๆ มาโดยตลอด เพื่อดำเนินไปสู่เป้าหมาย แต่เราก็พบว่า ตัวเรานั้นยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมากมาย ในวันที่ครบรอบ 12 ปี พวกเราอยากขอบคุณทุกท่านที่ปราณี เมตตา และอ่อนโยนต่อเรา พวกเราอาจทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องบ้าง ก็ต้องขอโทษ ขออภัย ณ ที่นี้ และพวกเราสัญญาว่าจะสร้างสรรค์คุณค่าที่ดี ผ่านเส้นทางกาแฟนี้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ ขอบคุณมากครับ We are 12 years young today and we want to thank you for being amazing supporters. We have been learning so much along this coffee journey and we still loving to extend our experiences. We will be continuing to enhance our works, services and establish many more mindful experiences. Thank you so much for being here with us and love to see you tomorrow :).

แก้วใบสุดท้ายในชุดแรกมาแล้วครับ ขอนำเสนอเป็นสีโอลีฟ เกรย์ Olive Grey เป็นสีแห่งความเสมอภาค และความเมตตาธรรม หากพวกเรามองเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในจักรวาล เป็นดั่งกัลยาณามิตร และครอบครัวเดียวกันความสันติสุขก็เกิดขึ้นแก่ทุกชนชาติอย่างเท่าเทียม เฉกเช่นเดียวกับโลกของกาแฟเป็นวิถีซึ่งไร้พรมแดน มีสีสัน และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป มีส่วนร่วมของผู้คมากมาย ก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมร่วม พบเจอสายพันธุ์กาแฟหลากหลาย รากชีวิตคนกาแฟที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความลึกซึ้งขององค์ความรู้ที่เติบโต ส่งเสริมให้มีผลผลิตที่มีคุณค่า มีแต่การสร้างมิตรสหาย สร้างอาชีพ จนพันผูกหนุนเสริมชีวิตมีความสมดุลก้าวหน้า และด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงให้แก้วกาแฟสีโอลีฟ เกรย์ Olive Grey ใบนี้ เป็นตัวแทนของความใจกว้าง ความเคารพรักในความแตกต่างของสรรพสิ่งในจักรวาลครับ และแก้วใบนี้สามารถจับจองได้แล้วทาง https://www.akhaamacoffee.com/collections/brew-at-home/products/olive-grey-mug-แก้วเซรามิค หรือ https://shop.line.me//product/1001315140 ขอบคุณที่อุดหนุนนะครับทุกท่าน

เรื่องต่อของแก้ว วันนี้พวกเราขอเสนอแก้วสี Midnight Blue สีน้ำเงินคราม ที่สื่อถึงค่ำคืนแห่งความสงบ พร้อมรับทุกความท้าทายในยามรุ่งอรุณ
แก้วใบนี้เป็นตัวแทนของความสุขุม ก่อเกิดเป็นสติปัญญาที่น่านับถือ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น พร้อมส่งเสริมสันติภาพที่ไม่เป็นพิษแก่สังคม ส่วนแรงบันดาลใจและเหตุผลที่เลือกใช้สี midnight blue กับแก้วกาแฟใบนี้ คือ ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนไหนของห่วงโซ่กาแฟก็ตาม เราจำเป็นต้องมีความเชื่อมั่น ความอ่อนโยน และสติปัญญาในการสัมผัสรสทั้งปวงอย่าสร้างสรรค์ ก้นแก้วของใบนี้ มีผลเชอรี่กาแฟ กำลังเติบโตแผ่กิ่งก้านตระหง่านอย่างผ่าเผย พร้อมเชื่อมั่นว่า แม้จะมีอุปสรรคใด ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ก็จะผ่านไปได้ด้วยดี และอย่างมีคุณค่า ท่านใดที่สนใจสามารถมาจับจองผ่าน www.akhaamacoffee.com และ https://shop.line.me/ ได้เลยนะครับ

CLOSED 08.03.22
For our family day

ร้านปิด 1 วัน 08.03.22 ทุกสาขา




Sorry for any inconvenience 🙏

สวัสดีครับ วันนี้พวกเรามาแนะนำแก้วใบแรกของพวกเราครับ แก้วใบนี้ผ่านการผลิตด้วยวิธีแบบกึ่ง Stoneware กับ porcelain ซึ่งเป็นประเภทของเซรามิคที่ดีมาก นำไปเผาในเตาที่มีอุณหภูมิสูงถึง 1280 องศาเซลเซียส ทำให้แก้วแข็งแรงทนทาน และรักษาอุษหภูมิได้ดี สามารถนำแก้วไปล้างในเครื่องล้างจาน ใช้กับ microwave หรือแม้แต่เขาเตาอบก็ได้เช่นกัน กรรมวิธีการผลิตแก้วใบนี้ นอกจากให้ความปลอดภัยต่อการใช้ ก็มีความแข็งแรงกว่า stoneware ทั่วไปอีก หูแก้วที่เราเลือกใช้คือ Rectangular C-Shape ที่เหมาะมือในการถือจับ พร้อมใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรที่ให้ความแม่นยำตามแบบ แต่ผ่านการจบงานโดยมนุษย์ ทำให้คงเสน่ห์ของงานฝีมือได้อย่างลงตัว หากท่านใดสนใจจะจับจองไปใช้ที่ร้านหรือที่บ้านก็เชิญทาง https://www.akhaamacoffee.com/collections/brew-at-home/products/ceramic-enamel-mug-แก้วเซรามิค ได้เลยครับผม

Maejantai village at 1300 meters above sea level. Smallholder families in this village are still producing a very promising coffee for all coffee lovers. บ้านแม่จันใต้ บนความสูงเหนือ 1300 เมตรจากระดับน้ำทะเล พวกเรายังคงทำกาแฟที่ดี ๆ เพื่อให้คนรักกาแฟได้ดื่มด่ำกันไปยาว ๆ นะ

ความไม่แน่นอนของภาวะสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่กระทบเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้เราได้มีโอกาสพบกับผู้ประกอบการทางการเกษตรรุ่นใหม่ของบ้านแม่จันใต้ หลายคนเห็นตรงกันว่าสภาวะเช่นนี้ ทำให้การเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวพืชผลยากมากขึ้น เช่นปีนี้มีฝนตกหลายวันติดต่อกันในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวกาแฟ ทำให้กาแฟเชอรี่ของเกษตรกรหลายท่านเสียหาย บวกกับบางพื้นที่ได้รับรายงานมาว่ามีลูกเห็บตกมาด้วย ยิ่งทำให้ต้องเร่งเก็บเกี่ยว แต่ก็ทำได้ยาก เนื่องจากแรงงานมีไม่พอ ภาวะโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้หลายท่านเผชิญกับความไม่แน่นอนของการดูแลทั้งต้นกาแฟ ผลผลิต และคุณภาพที่จะได้ ในความไม่แน่นอนเช่นนี้ เราได้เห็นความตั้งใจของเกษตรกรรุ่นใหม่หลายคน ที่ไม่ได้ย่อท้อ และพยายามหาทางรอดที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์
เช่นเดียวกับ ADER หรือน้องวิ ที่หลายท่านรู้จัก เป็นเกษตรกรรุ่น 2 ของครอบครัวที่ต้องการปรับจูนวิถีคนกาแฟรุ่นพ่อแม่ กับรุ่นของตัวเองให้มีความสมดุลมากขึ้น เราได้ติดตาม ADER ไปที่ไร่กาแฟของน้องที่อยู่ในเขตบ้านแม่จันใต้ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย น้องเล่าให้ฟังว่า เดิมทีพ่อแม่ปลูกผลไม้เมืองหนาว และผักตามฤดู แต่รายได้จากผลผลิตไม่พอต่อการเลี้ยงดูลูก ๆ ทำให้ต้องเพิ่มการปลูกกาแฟเมื่อราว 27 ปีที่แล้ว ทำให้พื้นที่ของไร่ ADER เป็นสวนผสมมากขึ้น สิ่งที่น้องได้แลกเปลี่ยนกับพ่อแม่คือ การปลูกกาแฟพันธุ์เดิม ๆ ซึ่งเอาเข้าจริง น้องบอกว่าง่ายต่อการดูแลมาก แต่น้องต้องการปลูกสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น เกชา ทิปปิก้า และอื่น ๆ ที่พี่ ๆ คนกาแฟนำมามอบให้ รอบนี้น้องพาเราไปชมจุดที่ปลูกกาแฟเกชา ต้นสายมาทางปานามา และเป็นปีที่สามเข้าสู่ปีที่สี่ เริ่มเห็นการเติบโตของต้นกาแฟชัดเจน เริ่มเห็นความแตกต่างของการแตกกิ่งก้านและใบ ทำให้เราตื่นเต้นมาก แต่สิ่งที่เรามองเห็นจากนัยน์ตาของน้องคือ การสร้างความสมดุลของสิ่งแวดล้อมให้ต้นกาแฟเหล่านี้ได้เติบโต ให้สิ่งแวดล้อมมีโอกาสได้ใช้ชีวิตในแบบของมัน ปลูกต้นไม้เพิ่มเติม เพื่อเป็นไม้ร่มเงาให้กับต้นกาแฟที่น้องรัก และมากกว่านั้นคือ การที่น้องต้องสร้างความสมดุลทางความคิดระหว่างรุ่นของพ่อแม่ กับตัวเอง เพราะหลาย ๆ ครั้งคนรุ่นใหม่ก็มีทางความคิดของตัวเอง และรุ่นพ่อแม่เองก็มีประสบการณ์ในแบบของเขาเช่นกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด การได้เห็นคนรุ่นใหม่ไม่ย่อท้อต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสรรพสิ่ง ที่เกี่ยวเนื่องในการดำรงอยู่นั้น สำคัญยิ่งกว่าการได้กินกาแฟแพง ๆ เพียงลำพัง กาแฟของน้องอาเดอจะอร่อยแค่ไหน และจะไปไกลแค่ไหน เราคงต้องติดตามต่อไป แต่จากประสบการณ์ที่เราได้ลิ้มรส ADER Sunda Geisha จากสวนเดียวกันนี้แล้ว ยังตราตรึงลิ้นถึงวันนี้เลย

สวัสดีครับทุกคน กาแฟ Single Origin ของเดือนนี้มาแล้วนะครับ พวกเราเชื่อว่าการมีกาแฟดี ๆ สักตัวไว้ดื่มด่ำกับเพื่อน หรือครอบครัว ในยามที่ต้องพาตัวเองออกห่างจากผู้คนเยอะ ๆ ก็ดีไม่น้อยเลย ซึ่งตัวที่เราเลือกมาให้ในเดือนแห่งการเริ่มต้นปีใหม่นี้ มีถึง 5 ตัวครับ
1. Ayo & Mika : Natural เป็นกาแฟที่ปลูกที่หมู่บ้านใหม่พัฒนา ดอยปางขอน เชียงราย รสชาติออกทาง ฝรั่งชมพู มะเดื่อป่า และ แอปเปิ้ลสตาร์ ครับ
2. Saenchai : Honey เป็นกาแฟของคุณแสนชัย จากบ้านกัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่ เป็นกาแฟที่ให้ความรู้สึกถึงการกินชมพู่อร่อย ๆ มะเขือเทศเชอร์รี่ และกลิ่นแนวมะกรูดครับ
3. Apiwat : Washed เป็นกาแฟที่กินกี่ทีก็ไม่เบื่อ ปลูกและแปรรูปบนหมู่บ้านดอยช้าง เชียงราย เป็นกาแฟที่สะอาด ๆ ให้รสชาติที่เป็นแนวชามะนาว สว่าง ๆ แบบลูกเชอร์รี่เมือง และชาดำสวย ๆ ครับ
4. Anusorn : Honey เป็นกาแฟสายหวานหอมจากคุณอนุสรณ์ จือปา แห่งบ้านแม่จันใต้ เชียงราย มีรสชาติที่ให้นึกถึงการลิ้มรสคอมบูชา มะเขือเทศฉ่ำ ๆ และน้ำพลัมหวานอมเปรี้ยว
5. Numwan : Washed เป็นกาแฟของคุณน้ำหวาน เกษตรกรจากบ้านห้วยน้ำกืน เป็นกาแฟที่ได้ลำดับที่ 13 บนเวทีการประกวด 10 สุดยอดกาแฟไทยปี ด้วย ฉะนั้น เรื่องคุณภาพหายห่วงเลย รสชาติมีเสนห์คล้ายแอปเปิ้ลป่า มีความเป็นดอกไม้สีขาวแนวกรรณิการ์ และจบแบบหวานหอมเหมือนได้กินลูกพลัมเหลือง รับรองว่ากาแฟเหล่านี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ หากท่านใดสนใจก็ติดต่อผ่านไลน์ไอดีที่ หรือกดเข้ามาที่ https://www.akhaamacoffee.com/collections/origin-of-the-month ทันทีเลยครับ สวัสดีปีใหม่อีกครั้งครับ