ดวงอาทิตย์ทางการเงิน-The Sun of The Future
เอาจริงๆ เรื่องการเงินควรสอนตั้งแต่ในโรงเรียน
หนี้อะไรควรจะโปะ หนี้อะไรควรจะปล่อย(ตามศักยภาพ)
ช่วงหนี้สำนักข่าวหลายสำนักโหมพูดถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย ดูแล้วค่อนข้างน่าหนักใจแทนผู้บริหารบ้านเมือง ซ้ำเติมด้วยภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง เราประชาชนตัวเล็กๆควรจะบริหารจัดการอย่างไร ควรรีบโปะหนี้ให้หมด หรือค่อยๆผ่อนไปตามกำลังไม่ต้องเร่งรีบ บทความนี้มีคำตอบ
ปัจจุบันนี้คนไทยมีหนี้ครัวเรือนอยู่ประมาณ 90% ของ GDP ถามว่ามากขนาดไหนต้องบอกว่าจากมาตรฐานของ IMF สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาควรบริหารหนี้ครัวเรือนให้มีไม่เกิน 80% ของ GDP ถ้ามีมากกว่านี้อาจนำเข้าสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ได้ อย่างไรก็ตามเราสามารถแบ่งประเภทของหนี้ครัวออกเป็น หนี้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ หนี้เพื่อซื้อยานยนต์ หนี้เพื่อการประกอบธุรกิจ หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภค และอื่นๆเช่น หนี้เพื่อการศึกษา เป็นต้น
ถ้าหากเรียงตามลำดับภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย จากมากไปน้อยเราจะพบกว่า หนี้ระยะสั้นโดยเฉพาะหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคถือว่ามีดอกเบี้ยในอัตราที่มากที่สุด เช่นหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล ถัดมาก็คือหนี้เพื่อการประกอบธุรกิจ ซึ่งมีทั้งแบบระยะสั้นหรือระยะยาวที่ธุรกิจนำไปใช้ในการดำเนินกิจการ ลองลงมาก็คือหนี้เพื่อซื้อยานยนต์ซึ่งจะแบ่งเป็นรถมือสองหรือรถมือหนึ่ง โดยอัตราดอกเบี้ยในการซื้อรถมือสองจะสูงกว่ารถมือหนึ่งเสมอ สำหรับหนี้เพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์และหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาถือว่าเป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับหนี้ประเภทอื่นๆ
จริงๆแล้ววิธีการบริหารจัดการหนี้มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความวิกฤตทางการเงินของผู้มีภาระหนี้ บางคนอาจเข้าขั้นวิกฤตจนถึงระดับหนี้ท่วมหัวซึ่งก็อาจต้องรับคำแนะนำที่ต่างออกไป แต่บทความนี้ต้องการเน้นคนที่ยังสามารถรับมือกับภาระหนี้ของตนเองได้เป็นอย่างดี เพื่อจัดการกับความวิตกกังวลในสถานการณ์ที่สื่อต่างๆกำลังโหมให้ข่าวในแง่ลบกับหนี้ครัวเรือนอย่างเช่นปัจจุบัน อย่างน้อยก็เพื่อให้เราอยู่กับภาระหนี้ได้อย่างสบายใจและไม่ประมาท
คนส่วนใหญ่มักจะมีหนี้บ้านและหนี้รถยนต์เป็นหนี้ก้อนใหญ่และยาวนาน บางคนอาจมีหนี้บัตรเครดิตบ้างตามกระแสทุนนิยมของสังคม แต่หลายคนมีความกังวลกับปริมาณหนี้ที่ต้องผ่อนชำระคืน จนอาจนำมาซึ่งความเครียดแล้วส่งผลต่อสุขภาพและส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ ดังนั้นในภาวการณ์เช่นนี้เราควรมีความอดทนอดกรั้นก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ควรซื้อสิ้นค้าโดยไม่จำเป็น การเปลี่ยนรถ เปลี่ยนมือถือใหม่ อาจต้องชะลอไปก่อน การวิ่งตามแฟชั่นอาจต้องหยุดหรือลดลงไปบ้าง
อย่างที่ทราบกันดีว่าอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นสูงถึง 15-25% เลยทีเดียว ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่มีหนี้ประเภทนี้อยู่ ท่านควรรีบผ่อนให้หมดโดยเร็ว อย่าคิดที่จะผ่อนเพียงแค่อัตราขั้นต่ำในทุกๆเดือน เพราะมันจะเป็นสาเหตุนำมาซึ่งภาวะดอกเบี้ยท่วมเงินต้นได้ ดังนั้นถ้ามีเงินเหลืออยู่บ้าง หนี้ส่วนนี้ที่ควรจะเป็นหนี้ที่ถูกโปะให้หมดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับหนี้ประเภทถัดไปที่เราสามารถโปะให้หมดก่อนกำหนดได้เช่นกัน นั่นก็คือหนี้เพื่อเช่าซื้อรถยนต์ หากเราสามารถปิดหนี้ให้หมดก่อนกำหนดเราก็จะมีโอกาสได้ส่วนลดดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้ได้ อย่างไรก็ตามหนี้ประเภทนี้อาจไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องรีบเร่งให้เหมือนกับหนี้บัตรเครดิต เนื่องจากถึงแม้เราจะรีบลดเงินต้นลงไป ก็ไม่มีผลกับดอกเบี้ยที่ถูกคำนวณล่วงหน้าไว้แล้ว เพียงแต่เราควรระมัดระวังอย่าลืมที่จะชำระค่างวดให้เต็มจำนวนและตรงเวลา เพื่อไม่ให้ถูกเบี้ยปรับเงินเพิ่มทำให้เสียเครดิตทางการเงินของตนเอง ยกเว้นหากมีเงินก้อนใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องนำไปใช้อย่างอื่น เราก็สามารถนำมาปิดหนี้ประเภทนี้เพื่อลดภาระของตนเองก่อนได้
มาถึงหนี้บ้านซึ่งถือว่าเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดสำหรับคนทั่วไป และทำให้หลายๆคนรู้สึกหนักอึ้งในการรับภาระหนี้เช่นนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูเหมือนว่าจะเป็นภาระที่ยาวนานจนรู้สึกไม่มีวันจบสิ้น หากเรามองอีกมุม หนี้ในการซื้อบ้านเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ถือว่าเป็นหนี้ที่ดีประเภทหนึ่งเลยทีเดียว เพราะการที่เราได้อยู่อาศัยไปพร้อมกับการผ่อนคืนหนี้นั้นถือว่าเราได้กำไรจากการใช้ประโยชน์ไปเป็นที่เรียบร้อย ยกเว้นการซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อปล่อยเช่าอันนี้ถือว่าเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการซื้อแบบนี้ก็คือการกู้ซื้อหลายๆที่เพื่อหวังที่จะปล่อยเช่า เพราะอาจจะนำมาสู่วิกฤตการเงินของตนเองได้ แต่สำหรับการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยนอกจากจะได้กำไรจากการใช้ประโยชน์แล้ว มูลค่าบ้านและที่ดินก็ยังมีโอกาสสูงขึ้นได้อีกในอนาคต บางทำเลอาจสูงขึ้นมากยิ่งกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ผ่อนชำระด้วยซ้ำ ดังนั้นการเร่งผ่อนคืนเพื่อลดเงินต้นหากไม่ทำให้สภาพคล่องของตนเองตึงตัวมากเกินไปก็สามารถทำได้ แต่ในความเป็นจริงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบถึงขนาดนั้น เราสามารถมองเงินที่เราผ่อนคืนในแต่ละเดือนเป็นเสมือนเงินออมที่ออมไว้ในมูลค่าบ้านของเราเอง หากวันใดก็ตามถ้าไม่สามารถผ่อนต่อได้ ก็สามารถประกาศขายเพื่อถอนเงินที่เราลงทุนไว้ออกมา เพียงแต่เราก็จะหมดความเป็นเจ้าของลงไปและต้องพิจารณาถึงทำเลในการซื้อตอนแรกให้ดี ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเครียดกับก้อนหนี้ประเภทนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพียงแค่ระมัดระวังในวินัยทางการเงินของตนเองก็พอ
การบริหารหนี้ที่ดีนั้น นอกจากจะได้ทำให้ชีวิตตนเองไม่เสี่ยงกับการล้มละลายแล้วยังได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ประเทศชาติไม่ตกอยู่ในภาวะวิกฤตใหญ่ทางการเงินอีกครั้ง ซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้งซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่สาเหตุจากหนี้ครัวเรือน แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนสามารถนำมาสู่วิกฤตที่รุณแรงแบบนั้นได้เช่นกัน
💚การลงทุนต้องรอสถานการณ์ดีขึ้นก่อนหรือไม่💚
🚩ช่วงต้นปี ค.ศ. 2022 ข่าวร้ายรุมเร้าภาวะตลาดการลงทุนทำให้สินทรัพย์เสี่ยงร่วงหนัก
ช่วงนี้มีข่าวกดดันภาวะการลงทุนของโลกอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้งจนเป็นสงครามระหว่างประเทศ หรือเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานทำให้แต่ละประเทศกำลังพิจารณาที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อดังกล่าว โดยข่าวเหล่านี้เป็นสาเหตุให้สินทรัพย์เพื่อการลงทุนพากันร่วงลงอย่างรุนแรง คำถามคือหากเราต้องการลงทุนเราควรรอให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติก่อนดีหรือไม่
🚩ไม่มีใครตอบได้อย่างแน่ชัดว่าลักษณะอย่างไรจึงเป็นสถานการณ์ที่ดีและมันจะดีได้เมื่อใด
ก่อนที่จะตอบคำถามดังกล่าว อยากเชิญชวนให้ทุกท่านลองหาคำตอบให้กับตนเองก่อนว่า คำว่า “สถานการณ์ที่ดี” มันควรเป็นอย่างไรและเมื่อใดมันจะกลับมาดีอย่างที่เราคาด หากคำตอบในใจของท่านดูลังเลและไม่แน่ใจ นั่นหมายความว่าท่านเป็นคนส่วนใหญ่เพราะคนส่วนใหญ่มักหาคำตอบได้อย่างไม่แน่ใจ คนบางส่วนเท่านั้นที่อาจคิดว่าตนเองตอบได้แต่จริงๆแล้วเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น จึงไม่มีใครตอบได้อย่างแน่ชัดว่าลักษณะอย่างไรจึงเป็นสถานการณ์ที่ดีและมันจะดีได้เมื่อใด
🚩ที่ผ่านมาไม่มีปีไหนที่ห่างหายจากขาวร้ายทางเศรษฐกิจ
ซึ่งถ้าหากเราพิจารณาย้อนกลับไปในอดีตทุกปีก็แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีปีไหนเลยที่เราห่างหายจากข่าวร้ายทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับภาวะสงครามที่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลายต่อหลายครั้งที่เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศขึ้นบนโลกใบนี้มักจะกดดันตลาดหุ้นให้ดิ่งลง และโดยสถิติในอดีตก็พบว่าตลาดหุ้นก็สามารถกลับคืนมายืนในระดับก่อนเกิดสงครามได้ภายในไม่กี่เดือน แล้วหลังจากนั้นก็มีข่าวอื่นมากดดันตลาดต่อไป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นข่าวโรคระบาด สถานการณ์กีดกันทางการค้า ภัยพิบัติ การประท้วง หรืออื่นๆ ซึ่งหากมองย้อนกลับไป สิ่งเหล่านี้มันคือความผันผวนระหว่างทางของการลงทุนเท่านั้น แต่ในระยะยาวเศรษฐกิจโลกย่อมมีทิศทางที่จะต้องเติบโตตามความพยายามของแต่ละประเทศ
🚩เราควรจัดการบริหารความเสี่ยงให้เป็นขั้นตอน
การจัดการกับความผันผวนระหว่างทางต่างที่เราควรให้ความสำคัญ หรือที่เราเรียกกันว่าการบริหารความเสี่ยงนั่นเอง ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้โดยการกำหนดเป้ามายหรือวัตถุประสงค์ในการลงทุนไว้อย่างชัดเจน จากนั้นมีการจัดสรรสินทรัพย์ วางกลยุทธ์ในการคัดเลือกและบริหารสินทรัพย์ รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการลงทุน และหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เป็นประจำ เราก็จะสามารถอยู่กับการลงทุนได้อย่างเข้าใจและมีประสิทธิภาพ
🚩สำคัญที่สุดคือกำหนดเป้าหมายให้กับการลงทุนในขั้นตอนแรกให้ดี
เรื่องของการกำหนดเป้าหมายนั้น ถือว่าเป็นความสำคัญอันดับแรกของการลงุทน เพราะหลังจากที่เรามีเป้าหมายแล้วเราจะสามารถกำหนดเรื่องอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร ให้ท่านลองค้นหาความต้องการของตนเอง เช่น หากท่านมีบุตรก็คงอยากออมเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูก ถ้าท่านเป็นห่วงชีวิตหลังเกษียณท่านก็จะทยอยออมเงินเพื่อเป็นเงินใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ หรือแม้แต่บางคนอาจจะอยากเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหรือซื้อรถ เป็นต้น บางคนต้องการสร้างกระแสรายได้ก็จะลงทุนในสิ่งที่สร้างกระแสรายเงินระหว่างทางเช่น ปันผล หรือดอกเบี้ย เป็นต้น
🚩ขั้นตอนต่อไปคือจัดสรรสินทรัพย์เพื่อกระจายการลงทุนให้เหมาะสม
หลังจากที่ท่านได้เป้าหมายในการลงทุนแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อย ก็คือการจัดสรรสินทรัพย์เพื่อการลงทุนหรือการจัดพอร์ตการลงทุนนั่นเอง เพราะการจัดพอร์ตคือการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ หุ้นสามัญ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือแม้แต่น้ำมัน ก็สามารถลงทุนได้ ซึ่งหลายๆครั้งที่มีวิกฤตท่านจะเห็นว่ามีบางสินทรัพย์ที่เติบโตได้ดี ดังนั้นเมื่อเรามีสินทรัพย์ที่หลากหลาย สินทรัพย์ในพอร์ตจะช่วยกันพยุงให้ผ่านพ้นสถานการณ์ต่างๆไปได้ด้วยดี การจัดพอร์ตจึงเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้เราสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกได้โดยไม่หวั่นไหวกับสถานการณ์ระหว่างทาง
🚩ต่อไปคือปฏิบัตตามแผนด้วยความมั่นคงไม่หวั่นไหวง่าย
แผนปฏิบัติในการลงทุน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ท่านต้องยึดเหนี่ยวไว้ให้มั่น บางท่านวางแผน DCA รายเดือน บางท่านวางแผนลงทุนเป็นเงินก้อนใหญ่ บางท่านอาจมีการปรับพอร์ตบ้างเล็กน้อยระหว่างทางเพื่อให้เหมาะสมกับภาวะการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแผนการลงทุนอย่างไรท่านก็ควรยึดถือทำตามแผนโดยไม่สั่นคลอน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ท่านคาดหวังไว้ก็ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้
🚩การรอสถานการณ์ไม่มีความจำเป็นหากเราเป็นนักลงทุนระยะยาวดังนั้นเราควรลงมือทำตามแผนเพื่อป้องกันการตกขบวน
สรุปแล้วหากท่านไม่ได้เชี่ยวชาญการลงทุนอย่างมาก การรอสถานกาณ์ให้ดีขึ้นจึงไม่มีความจำเป็น เพราะการรออาจทำให้ท่านไม่ได้ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ หรือเลวร้ายกว่านั้นท่านอาจตกขบวน จนเป็นเหตุให้ท่านได้ของแพงก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนเป็นพอร์ตจะช่วยให้ท่านไม่จำเป็นต้องจับจังหวะ และลดความผันผวนของตลาดได้ดี
ผู้เขียน
ชูชาติ ช่างสัก CFP®
https://edition.cnn.com/2022/01/11/health/deliberate-omicron-infection-wellness/index.html
“อย่าเล่นกับไฟ” คำตือนจากหมอและผู้เชี่ยวชาญวัคซีนจากอเมริกา เตือนพวกที่มีแนวคิดว่า ไปติดโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอน กันให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มหมู่แล้วเรื่องนี้จะได้จบๆ กันไป
แนวคิดนี้เป็นที่พูดถึงกันในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆในหมู่ฝรั่ง ดังนั้นผมจึงขออนุญาตนำข่าวนี้มาสรุปให้ทุกคนฟัง ดังนี้ครับ
ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกาได้ยอมรับว่า ผู้ติดเชื้อโอไมครอนจะมีสถิติการเสียชีวิตหรือป่วยหนักที่น้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่อันตราย โดยให้เหตุผลที่เราไม่ควรจะไปพยายามทำให้ตนเองติดเชื้อ ดังนี้
มันไม่ใช่แค่โรคไข้หวัดที่รุนแรง แต่เป็นโรคที่คุกคามถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่อายุตั้งแต่ 65 ปีเป็นต้นไป หรือผู้ที่มีโรคเรื้อรังรายแรงเป็นโรคประจำตัว
เราอาจจะเจอกับคำนี้ “โควิคระยะยาว” เพราะยังไม่แน่ชัดว่าผลกระทบระยะยาวหลังจากติดเชื้อไปแล้วจะเป็นอย่างไร เพราะพบว่ามีบางเคสสูญเสียการรับรสไปเป็นเดือนๆ บางเคสถึงครึ่งปี
เราอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อไปสู่เด็กๆซะเอง เพราะอย่าลืมว่าตอนนี้เด็กๆ ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน และยังไม่มีการศึกษาว่าระยะยาวจะมีผลกระทบอย่างไรกับเด็กที่ติดเชื้อไปแล้ว
ระบบสาธารณะสุขอาจล่มสลายได้เพราะไม่สามารถรองรับกับผู้ป่วยจำนวนมาก มันจะมีผลกระทบลุกลามไปถึงการรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยโรคอื่นๆด้วย
อย่าเล่นกับ ธรรมชาติซึ่งเป็นแม่ของเรา ยกตัวอย่างมีฝรั่งบางกลุ่มมีแนวคิดให้ลูกของตนเองไปปาร์ตี้กับเด็กที่เป็นอีสุกอีใส เพื่อให้ลูกตนเองติดโรคตอนเด็กดีกว่าไปติดตอนโต แต่สุดท้ายมีรายงานว่ามีเคสเด็กตายด้วยอีสุกอีใสหลังจากไปร่วมปาร์ตี้ลักษณะอย่างนี้มา
สรุปจากคำเตือนข้างต้น ก็คือ “อย่าหาทำ” การที่เราไม่ติดเชื้อเป็นเรื่องที่ดีที่สุด และจะดีกว่าหากเราป้องกันตัวโดยไปรับวัคซีนให้ครบ
ผมขออนุญาตให้ความคิดเห็นส่วนตัวว่า ถึงแม้ปัจจุบันนี้รัฐบาลยังสนับสนุนค่ารักษาพยาบาล Covid-19 แต่ในระยะยาวเราไม่รู้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวอย่างต่อเนื่องขนาดไหน ดังนั้นการมีประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ
ด้วยหลักการเจียดเงินก้อนเล็กไปป้องกันการสูญเสียเงินก้อนใหญ่ในอนาคต เราก็สามารถหมดห่วงเรื่องนี้ได้
ทั้งนี้การออกแบบแผนประกันสุขภาพสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับงบประมาณที่เรามีได้ พูดง่ายๆ ว่า “ไหวที่เท่าไหร่” ก็สามารถออกแบบได้ตามนั้น
การมีโอกาสปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญการวางแผนการเงินจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนะครับ ผมยินดีให้ความช่วยเหลือฟรี แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ลอง inbox มาถามดูได้ครับ
ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยครับ
ชูชาติ ช่างสัก CFP
นักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิ
-19
#อย่าหาทำ
#วางแผนการเงิน
5 reasons you should not deliberately catch Omicron to 'get it over with' People keep talking about getting infected with a "mild" case of Omicron on purpose. Experts weigh in on why that's not a good idea.
⚠️2 ทางแก้เมื่อกำลังเข้าสู่ภาวะขาดทุนจาก Bitcoin อย่างแรง (ราคา Cryptocurrency ร่วงอย่างหนัก)⚠️
ลองจินตนาการว่าหากท่านเคยมีมูลค่าของเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเงินของท่านลดลงเกือบครึ่ง จากที่เคยมีเงิน 1 ล้าน เหลือเพียงแค่ 5 แสนบาท หรือเงินแสนเหลือเพียงหลักหมื่น ท่านจะทำอย่างไร
สถานการณ์เช่นนี้กำลังเกิดขึ้นกับนักลงทุน Bitcoin หลายคน ผมจึงมีคำแนะนำสองทางเลือก ซึ่งก็ถือเป็นทางปฏิบัติที่แสนธรรมดาเลยครับ แต่ทำใจลำบากมากในการตัดสินใจลงมือทำ เพื่อช่วยให้ท่านตัดสินใจได้ดีขึ้น ผมจึงอยากให้ท่านพิจารณาสิ่งต่อไปนี้
ก่อนอื่นสองทางเลือกข้างต้นที่ผมพูดถึง นั่นก็คือทางเลือกของการ “หนี”โดยตัดขาดทุน หรืออีกทางเลือกคือ “สู้” โดยถือต่อและเชื่อว่ามันจะกลับขึ้นมา
ฟังดูง่ายใช่มั้ยครับ โดยเฉพาะทางเลือกแรก แต่จริงๆแล้วการรตัดขาดทุน หรือ Cut Loss เป็นสิ่งที่ท่านควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อมีสัญญาณการเป็นขาลง นั่นหมายความว่าท่านต้องเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์พอสมควร ถึงจะสามารถหาจุด Cut Loss ได้ทันเวลาเพื่อไม่ให้ตนเองเจ็บตัวไปมาก หรือเพื่อทำกำไรออกมาก่อนการดิ่งลงอย่างรุนแรง
ปัญหาคือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีราคาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ภายในหนึ่งวันท่านอาจจะขาดทุนได้ถึง 20%-30% ได้เลยทีเดียว นั่นจึงทำให้หลายคนไม่สามารถ Cut Loss ได้ทันเวลา จนต้องอยู่ในสภาพติดดอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหากเลือกการตัดขาดทุนตอนนี้ก็ถือว่าตัดสินใจช้าไปหน่อย แต่ก็ยังไม่สายมากที่จะตัดสินใจทำนะครับ หรือถ้าท่านจะหันไปใช้ทางเลือกที่สองนั่นคือสู้ต่อ ท่านควรพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ให้ดีนะครับ
สาเหตุที่ทำให้ Bitcoin ที่ถือว่าเป็นสกุลเงิน Digital ที่มีมูลค่ามากที่สุดในตอนนี้(คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 23 ล้านล้านบาท ณ ขณะที่เขียนบทความ)สามารถเคลื่อนไหวอย่างรุณแรง ก็เพราะถึงแม้มูลค่าจะใหญ่ขนาดไหนก็ตามแต่ก็ยังไม่ใหญ่มากพอที่จะทำให้คนทั้งโลกยอมรับที่จะใช้เป็นเงินในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการได้อย่างแพร่หลาย จึงทำให้โลกการลงทุนของ Bitcoin มีคนบางกลุ่มที่สามารถทำตัวเป็นคนคุมเกมได้ วิธีการคุมเกมอาจไม่ใช่แค่ใช้ปริมาณเงินจำนวนมากในการปั่นราคา แต่เป็นการเล่นด้วยสงครามจิตวิทยา เช่น การปล่อยข่าวๆต่างๆ ออกมา เป็นต้น
ยกตัวอย่าง ในต้นปี 2021 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทยานขึ้นอย่างรุณแรงของ Bitcoin ก็เพราะสาเหตุที่ Eron Musk ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ Tesla ออกมาประกาศว่า สามารถใช้ Bitcoin ในการซื้อรถยนต์ของเขาได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานในเดือนเมษยายนเขาก็ออกมาประกาศยกเลิกการซื้อรถด้วย Bitcoin โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่สนับสนุนการทำเหมืองขุด Bitcoin ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าจากถ่านหิน และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการดิ่งลงของราคา Cropto เกือบทุกสกุลเงินในโลกนี้ โดยเฉพาะ Bitcoin
ผีซำ้กรรมซัดด้วยเรื่องการออกคำสั่งห้ามและปราบปรามการทำเหมืองขุด Crypto ของรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นแหล่งในการทำเหมืองขุด Bitcoin มากที่สุดในโลก ข่าวนี้ทำให้ราคา Bitcoin ที่เคยไปได้ถึง 1 เหรียญเท่ากับสองล้านกว่าบาท ลดลงกว่าครึ่งแล้วมาวิ่งอยู่ที่ 1 เหรียญเท่ากับหนึ่งล้านบาทภายในเดือนเดียว (มีวันที่หลุดหนึ่งล้านลงมาด้วยนะครับ)
ทั้งที่ในเดือน กุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ นาง เจนเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเตือนในระหว่างการเข้าร่วมประชุม New York Time DealBook เกี่ยวกับอันตรายของบิตคอยน์อย่างชัดเจน เพื่อเตือนสตินักลงทุนที่กำลังฮึกเหิมจากราคา Bitcoin ที่ทยานขึ้นเรื่อยๆ โดยเธอให้เหตุผลอยู่สามข้อว่าทำไมถึงต้องระวังการลงทุนใน Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ดังนี้
เธอเชื่อว่า Bitcoin ยังไม่สามารถเป็นที่ยอมรับเพื่อทำธุรกรรมในวงกว้างได้
เธอเป็นห่วงการใช้ Bitcoin ในทางที่ผิดกฏหมายโดยเฉพาะการฟอกเงิน
เธอให้ข้อคิดว่าการขุดเหมือง Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาลเกินความจำเป็น
ตัวผมเองไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ Bitcoin หรือ Cryptocurrency แต่อย่างใด กลับมองว่าแนวคิด Decentralized ในเทคโนโลยี Blockchain ของ Bitcoin เป็นอะไรที่มีประโยชน์และอาจเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกได้เลยทีเดียว แต่เพียงแค่การจะนำมาใช้เป็นสกุลเงินในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันจริงๆยังเป็นไปได้ยาก เพราะยังมีจุดอ่อนใหญ่ในความเป็น Decentralized ของมันเองนี่แหละครับ
ถึงแม้การไม่มีศูนย์รวมตรงกลางของระบบหรือที่เราเรียกว่าการ Decentralize จะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น จะไม่สามารถมีใครโกงใครได้ หรือ ไม่มีใครสามารถ Copy งานของใครได้ ที่สำคัญจะไม่มีใครหรือผู้มีอำนวจหน้าไหนเข้ามาแทรกแซงระบบทำให้เกิดการบิดเบือนได้ แต่อย่าลืมว่าในโลกความเป็นจริงมนุษย์ยังคงต้องการการกำกับดูแล และผู้ที่มีหน้าที่บริหารจัดการประเทศก็ยังคงไม่ยอมให้มีระบบอิสระที่ไม่สามารถควบคุมได้ มาบ่อนทำลายอำนาจการปกครองของตนเอง สัจธรรมข้อนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะมีระบบไหนเข้ามาแทนที่ได้
นี่แหละครับจึงเป็นสาเหตุให้รัฐบาลจีนที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นประเทศแรกๆที่ออกมาต่อต้านการทำธุรกรรมของเงิน Digital รวมถึงต่อต้านการขุดเหมือง Bitcoin ซึ่งผมก็เชื่อว่าทุกประเทศทั่วโลกก็คงจับจ้องเรื่องนี้อยู่พอสมควรแต่การเคลื่อนไหวอาจจะยังไม่เฉียบขาดเท่าประเทศจีน
อย่างประเทศอินเดียเองเรื่องการไม่สนับสนุน Cryptocurrency จากภาครัฐก็ใช่ว่าเป็นเรื่องใหม่ รัฐบาลอินเดียเคยสั่งห้ามธนาคารภายในประเทศรับแลกเปลี่ยนเงิน Crypto มาเป็นเงินจริง แต่เนื่องจากมีการตู่สู้คดีจนสุดท้ายต้องสั่งเพิกถอนคำสั่งนี้ออกไป แต่ก็ใช่ว่าจะสิ้นสุดลงเพราะถึงปัจจุบันนี้ธนาคารในอินเดียเองก็ยังไม่สามารถที่จะให้บริการรับแลกเปลี่ยนเหรียญ Cryptocurrency อยู่ดี
ย้อนกลับมาดูคำแนะนำในทางเลือกที่สอง ซึ่งก็คือการเลือกที่จะสู้ต่อหรือเลือกที่จะถือต่อไปนั่นเอง จริงๆการเลือกทางนี้ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะไม่มีใครสามารถรู้อนาคตได้ มันอาจจะกลับขึ้นมาจนท่านได้เงินต้นคืนหรือทำกำไรต่อไปให้กับท่านก็ได้ เพียงแต่ท่านควรพิจารณาให้รอบคอบ ฟังเหตุผลจากรอบด้าน อย่าตัดสินใจโดยเข้าข้างตนเอง
ผมจึงมีอีกหนึ่งประเด็นที่อยากให้ท่านพิจารณาก่อนเลือกทางเลือกนี้ นั่นคือประเด็นที่ท่านต้องแน่ใจให้ได้ว่าเงินก้อนนี้ของท่านไม่ได้ต้องการสภาพคล่องจนต้องถอนใช้เร็วๆนี้ เพราะถ้าท่านต้องถอนใช้เร็วๆนี้ ท่านจะมีโอกาสสูงมากที่จะขาดทุนอย่างแท้จริง เพราะการลงทุนที่หดตัวขนาดนี้การกลับขึ้นมาเหมือนเดิมไม่ใช่เรื่องง่าย มันอาจใช้เวลาเป็นปีหรือหลายปี อย่างไรก็ตามหากท่านยังเลือกทางที่จะสู้ต่อ และอยากได้คืนเร็ว ท่านก็อาจต้องใช้ความพยายามในการ Trade อย่างมาก บวกกับฝึมือและภาวนาว่าอย่าให้มีข่าวร้ายอะไรมาซ้ำเติมอีก เป็นอันพอ
ถ้าใจผมตอนนี้อยากแนะนำอะไร ผมก็คงอยากจะบอกนักลงทุนว่าให้ท่านตั้งทัพการลงทุนของท่านใหม่ดีกว่าอย่าเอาเงินของท่านมากระจุกในการลงทุนเพียงสิ่งเดียว เปรียบเสมือนเราไม่เอาไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว นั่นก็คือท่านควรแบ่งเงินเพื่อลงทุนในทางเลือกอื่นบ้างหรือการสร้างพอร์ตการลงทุนลงทุนนั่นเอง ยกเว้นถ้าท่านได้มีการแบ่งเงินมาแล้วและเงินก้อนนี้เป็นเงินเพียงเล็กน้อยของท่านๆก็สามารถเดินหน้าต่อสู้ต่อได้ หรือแม้แต่ท่านจะจับจังหวะข้ามไปข้ามมาระหว่างสินทรัพย์ต่างๆก็สามารถทำได้ ด้วยเงินก้อนเล็กๆนี้
หากท่านใดต้องการคำแนะนำในการวางแผนการลงทุนติดต่อมาได้เลยนะครับ ไม่ว่าช่องทาง inbox หรือเข้าไปดูข้อมูลหน้าเว็บ TheSunOfTheFuture.com ยินดีเป็นที่ปรึกษาให้ท่านครับ
หรือหากท่านต้องการศึกษาบทความนี้อย่างละเอียดก็สามารถเข้าไปชมได้ใน TheSunOfTheFuture.com เช่นกัน
ชูชาติ ช่างสัก CFP
👉🏻วางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิ จากสมาคามนักวางแผนการเงินระดับสากล
👉🏻ผู้แนะนำการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
ประเภท
ติดต่อ ธุรกิจของเรา
เว็บไซต์
ที่อยู่
Chiang Mai
50300
29 ตึก Lion LT ชั้น 7
Chiang Mai, 50200
ให้คำปรึกษาและบริการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ลดหย่อนภาษี
ตึก Icon IT ชั้น 7
Chiang Mai, 50200
ให้คำปรึกษาประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และการออม กับ บริษัท ซัมซุงประกันชีวิต
เมือง
Chiang Mai, 50000
ผมผู้อำนวยการ ดร.เวย์ ธนันท์ชากฤต รัตนกิตติโรจน์ ยินดีให้คำปรึกษาครับ
Chiang Mai, 50300
เรื่องประกันให้หมวยดูแลสิค่ะ
สารภี
Chiang Mai, 50140
บริการประกันอันดับ 1 ที่ลูกค้าไว้ใจให้เราดูแล
ซุปเปอร์ไฮเวย์, หนองป่าครั่ง, หมู่ที่ 4
Chiang Mai, 50000
รับปรึกษาประกันทุกรูปแบบครับผม
มหิดล
Chiang Mai, 50000
A little progress each day adds up to big results