We Plot Business IDEA

We Plot Business IDEA updated their phone number.

We Plot Business IDEA updated their phone number.

We Plot Business IDEA updated their phone number.

We Plot Business IDEA updated their phone number.

We Plot Business IDEA updated their information in their About section.

We Plot Business IDEA updated their information in their About section.

We Plot Business IDEA updated their business hours.

We Plot Business IDEA updated their business hours.

It's now easier to send We Plot Business IDEA a message.

It's now easier to send We Plot Business IDEA a message.

ธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และ How to Part 1

ทุกวันนี้น่าสนใจที่คนไทยชอบ "แรงบันดาลใจ " เช่น ต้องลาออกจากงานประจำ , เป็นมนุษย์เงินเดือนมันไม่ดี , ต้องทำตามความฝันอย่างมีพลังและ passion และ อีกมากมายที่ สื่อโฆษณาพยายามยัดเยียดให้กับผู้คน ที่กล่าวมาไม่ได้ แปลว่า "แรงบันดาลใจ" ไม่สำคัญ แต่ต้องมาพร้อมกับ " How to " ด้วยเช่นเดียวกัน

เพราะคนไทยตอนนี้ไม่ค่อยมอง "วิธีการปฏิบัติ" กันเท่าไรนักแต่ชอบที่จะฟังสิ่งดีๆ โดยไม่มีแผนที่ที่แท้จริงนำทาง เช่นเดียวกับการทำงานการสื่อสาร เรามองแค่ความ Creative ไม่ได้ แต่ต้องมองถึงความเป็นจริง มองตั้งแต่แก่นของธุรกิจ ( Core Business ) แล้วก็อีกนั่นแหละ อะไรล่ะคือ Core Business เอาง่ายๆ รู้ก่อนว่า เรามอบอะไรให้ลูกค้า และสิ่งที่มอบนั่นสิ่งไหนมีต้นทุนอย่างไร สิ่งไหนทำกำไรได้มากที่สุด สิ่งไหนแน้น volume เรื่องแบบนี้เราต้องเคลียร์กันชัดๆ

หลังจากที่เรารู้ Core Business ของเราลองดูซิว่า Business Model ของเราสามารถแตกหนทางการทำธุรกิจในทิศทางอื่นได้หรือไม่ ในส่วนนี้จะมาเพิ่มเติมกันอีกที เพื่อให้เรารู้ว่า "ทำจริง" ทำยังไง

สำหรับ Part 1 จะขอจบง่ายๆแบบนี้เดี๋ยวมาต่อกันอีกทีนะครับ

การสร้างแบรนด์ ( Brand Building ) ตอนที่ 3
ก่อนอื่น Admin ต้องขออภัยนะครับ ที่หายไปนาน

มาต่อจากครั้งที่แล้วนะครับ ครั้งที่แล้วเราหา Brand Element ซึ่งประกอบด้วย
1. Brand Vision
2. Brand Promise
3. Brand Personality
4. Brand Positioning
5. Brand Attribute
ในส่วนBrand Attribute นั่นคือ องค์ประกอบของแบรนด์ คำถามคือมีนหายังไง ึคงไม่ได้ Make มโนขึ้นมา เราใช้ Brand Essence นั่นคือ DO FEEL LOOK เพื่อให้เห็นภาพรวมของแบรนด์ แล้วเลือกสิ่งที่สำคัญมาเป็น Attribute Brand Attribute ก้อเหมือนอาหารครับ ในอาหารนี้มีส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้ และถ้าไม่ใช่ส่วนประกอบนี้ จะไม่ใช่อาหาารชนิดนี้
DO : แบรนด์นี้ทำอะไร
Feel: แบรนด์นี้ให้ความรู้สึกอย่างไร
Look : แบรนด์นี้ดูแล้วมีLook ภาพลักษณ์ แบบไหน
พรุ่งนี้มาดูตัวอย่างกันนะครับ #Brand #Weplot #Weplotagency #Branding #Weplotbrand #Weplotstrategy #Weplotcreative #Weplotagency

การสร้างแบรนด์ ( Brand Building ) ตอนที่ 2
ความเดิมตอนที่แล้ว เราพูดถึงการสร้างแนวคิดทางธุรกิจ กลยุทธ์ทางธุรกิจ และโมเดลทางธุรกิจกันก่อนที่จะทำ Branding ซึ่งหลังจากกระบวนการที่กล่าวมาในตอนที่ 1 แล้ว นั่นแปลว่ากว่าจะมาเป็น Business Model ของบริษัทนั้น จะต้องไตร่ตรองทำ Prototype , Scenario แล้ว มาถึงการสร้างแบรนด์

โมเดลในการสร้างแบรนด์มีมากมายทั้ง CBBE ของ Keller แต่ในเฉพาะมุมมองผมนั้น การ "คิดมากเกินไป" ทำให้งานแม่งไม่จบ การทำ Brand Strategy ในมุมของ We Plot เรามีแนวคิด 5 ประการ
1. Brand Vision : Brand ของเราที่สื่อสารกับคนภายในองค์กรให้เข้าใจว่าแบรนด์เราทำไร ให้ใคร
2. Brand Promise : Brand ที่สื่อสารกับคนภายนอก ว่าเราสัญญาว่าเราจะให้อะไรกับเขา
3. Brand Positioning : ตำแหน่งของแบรนด์คือ คุณมีอะไรที่เหมือนคู่แข่ง อะไรแตกต่าง อะไรเป็นจุดเด่น ใช้คุณตอนไหน และใครใช้
4. Brand Personality : บุคคลิกภาพ ง่ายๆคือ ถ้าแบรนด์เป็นคนมันเป็นคนที่มี Personal ยังไง ใช้ตอนสื่อสาร
5. Brand Attribute : องค์ประกอบหลักของแบรนด์ สิ่งนี้จะมากำหนด ว่า จะAction อย่างไร

คนส่วนใหญ่ทำให้ใหญ่โตวุ่นวาย จนเกินไปหรือทำ research ที่เกินจริง หรือทำแล้วเอาไปใช้ไม่ได้ สำหรับ We Plot เรามองความจริงว่าจะเอาไปใช้ยังไง เพราะสุดท้าย Image ดีไม่พอ ต้องกำไรด้วย สำหรับเคสตัวอย่าง เจอกันตอนนหน้า ครับ #แบรนด์ #การตลาด #ธุรกิจ #การสื่อสารการตลาด #weplot #Thaibrand #Brand #Business #Marketing---- We Plot

การสร้างแบรนด์ ( Brand Building )ตอนที่ 1
หลายๆคนคงรู้จักคำว่าแบรนด์ แต่รู้จักในแบบที่ต่างกัน บ้างก้อ โลโก้ เพลงประกอบ เวป โฆษณา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของงาน "Design" แต่จริงๆแล้วจะแบรนด์ใดก้อตามต่างต้องการ "กำไร" เมื่อเรารู้ถึงobjective นี้สิ่งที่เราต้องพิจารณาก่อน คือ Business หรือธุรกิจ ยังไม่ต้องพูดถึง Marketing เอาง่ายๆคือ( ขออ้างอิง แนวคิด Business model canvas )
1. ธุรกิจนี้มีใครเป็น กลุ่มลูกค้าบ้าง
2. คุณdeliver อะไรให้ลูกค้า แต่ละกลุ่ม เพราะproduct หรือservice อาจตอบหลายกลุ่ม
3. ความสัมพันธ์กับลูกค้า จุดนี้คือจุดที่ทุกคนสับสน ชอบคิดว่าว่าหมายถึงต้องมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่จริงๆคือ คุณมีความสัมพันธ์ทางการค้าแบบไหน เช่น ขายขาด ,จ่ายรายเดือน , เป็นmember หรือ เป็นแฟรนไชส
4. ช่องทางไหนบ้างที่เจอแบรนด์
5. กิจกรรมอะไรที่ธุรกิจต้องทำเป็นประจำ เช่น product development , branding เป็นต้น
6. Resource ของกิจการมีอะไร เช่น เรามีทีมโปรแกรมเมอขั้นเทพ อะไรที่ทำให้เราดูเหนือ
7. ต้นทุนมีไรบ้าง
8. จุดนี้เปนสิ่งที่คนละเลยมาตลอดการคิด คือ เงินมายังไง กำไรมาจากอะไร
สิ่งเหล่านี้ให้พิจารณาก่อน เดี๋ยวมาต่อตอนที่ 2 -- We Plot #weplot #ธุรกิจ #แบรนด์ #idea #ไอเดีย #วีพลอต

สำหรับวันนี้ขอกล่าวถึงเรื่องที่ทุกคนที่เป็นนักการตลาดชอบพูดกัน นั่นคือ Marketing Mix หรือ ปัจจัย 4 Ps สมัยก่อนจะเรียกว่า Product / Price / Place / Promotions แต่ตอนนี้ Marketing Mix ประกอบด้วย Product & Services / Price / Distribution Channel / Integrated Marketing Communication ซึ่งเป็นอะไรที่พื้นฐานมากจนคิดอะไรไม่ออกก้อจะพูดถึง 4 Ps เพื่อให้ดูมีความรู้มากขึ้น หรือ เทื่อกล่าวเพิ่อมไปถึงธุรกิจที่เป็น Services ก้อจะเพิ่มมาเป็น 7Ps คือเพิ่ม People / Process / Physical Evidence เข้ามาพิจารณาเพิ่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก้อแต่ย่อยมาจาก 4Ps นั่นเอง แต่สร้างปัจจัยให้พิจารณามากขึ้น
รู้แล้วยังไงต่อ? พอรู้จักแล้วเราก้อจะมาให้ว่า 4Ps นี้มีอารัย Product หน้าตายังไง ราคา เท่าไร ขายที่ไหนอารัยทำนองนี้ ใส่แล้วเป็นไง ? คือถ้าแค่ใส่น่ะมันก้อแค่มารายงานสรุปเฉยๆ เพราะจริงๆแล้ว 4Ps นั้นเชื่อมโยงกับ Strategy ง่ายๆก้อคือ มันมีชื่อว่า Marketing Mix และเราต้องการวางแผน Marketing Strategy ดังนั้น เราก็จะวางแผน เป็น
1. Product Strategy : ใช้ Anchoff's Model คือพิจารณาง่าย ว่า Product ไหนใช้กับ Market ไหน เช่น Product ที่มีอยู่ กับตลาดเดิม นั่นแปลว่าต้องการให้ใช้มากขึ้น หรือ Product ที่มีอยู่กับตลาดใหม่ เช่น น้ำยาอุทัยทิพย์ที่ดื่มกินสดชื่น แต่เปลี่ยนเป็นตลาดเด็กแว๊นซ ก้อจะเอาไปทาแก้มแทน
2. Price Strategy : การกำหนดราคาต้องดูลักษณะของ Product ว่าแม่งเป็นชนิดไหนเช่น Productแบบเทคโนโลยี มันก้อจะมีพวกบ้าเห่อต้องซื้อก่อน แล้วจะมีพวกรออกรุ่นใหม่ก่อนค่อยซื้อรุ่นเก่า ก้อจะตั้งราคาแบบ Skimming คือ แบ่งลูกค้าแปน Tier ตั้งสูงแล้วลดลงเรื่อยๆ
3. Distribution Channel Strategy : เดี๋ยวนี้ที่ๆจะขายก้อไม่ได้มีแค่ในห้าง มีไปจนถึงออนไลน์ เช่น ของชนิดนี้เจาะกลุ่มชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว ก้อต้องวางแผนวางใน King's Power /ตลาดน้ำ / museum ที่นักท่องเที่ยวชอบไป อันนี้ยกตัวอย่างนะ หรือ บางอย่างต้องวางขายที่ category killer เช่นต้องลงขายในบุญถาวร สำหรับผู้ต้องการทำบ้านใหม่ เป็นต้น
4. Integrated Marketing Communication Strategy : เมื่อทุกอย่างพร้อมจะสื่อสารถึงผู้บริโภคอย่างไร นั้นก้อเป็นส่วน Media Planning วางแผนสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย จะใช้ช่องทางไหน หรืออาจต้อง integrate กันในทุกๆ channel สมมติต้องการสร้าง awareness ก้อใช้ Advertising แต่ถ้าต้องการขายได้เร็วก้อใช้ Promotion เป็นต้น

เครื่องมือเหล่านี้มีให้ใช้งานไม่ได้มีเอาไว้พูดเพราะเอามาเขียนๆไปงั้นๆ เหมือนครั้งที่ผมเล่าถึง SWOT ส่วน Model ทางการตลาดก้อใช้ให้เหมาะไม่ใช่ใช้แม่งทุกอันมั่วไปหมด โอเควันนี้น่าจะได้ไรไปมั่ง จบนะ

สวัสดีครับ เพจนี้เป็นเพจนำเสนอความรู้ทางธุรกิจ และการตลาดที่น่าสนใจ หรือทำให้มันง่ายขึ้น และใช้ได้จริง เราจะไม่นำเสนอข้อมูลคามรู้แบบมโน เอานะ