พรรคภูมิใจไทย
ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อปากท้องประชาชน
"ไชยชนก" เปิดบ้านรับ นศ.ม.วลัยลักษณ์ แลกเปลี่ยนความคิด โชว์ พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม และภาษีบ้านเกิดเมืองนอน พร้อมเปิดรับคนรุ่นใหม่
นายไชยชนก ชิดชอบ
ส.ส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
#ไชยชนก #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มอวลัยลักษณ์ #พรบการศึกษาเท่าเทียม #พรบภาษีบ้านเกิดเมืองนอน #เปิดรับคนรุ่นใหม่

"ไชยชนก" เปิดบ้านรับ นศ.ม.วลัยลักษณ์ แลกเปลี่ยนความคิด โชว์ พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม และภาษีบ้านเกิดเมืองนอน พร้อมเปิดรับคนรุ่นใหม่
วันที่ 13 มกราคม 2567 พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ต้อนรับอาจารย์และนักศึกษาสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จำนวน 144 คน ที่มาศึกษาดูงาน ณ ที่ทำการใหญ่พรรคภูมิใจไทย
นายไชยชนก กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการร่างกฎหมาย โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน ที่เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ พรรคยังเปิดรับสมัคร “ยุวชนภูมิใจไทย” เพื่อส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ของตนเอง โดยพรรคพร้อมเป็นตัวช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่และประเทศ
ทั้งนี้ นักศึกษาที่เข้าร่วมงานชื่นชมแนวคิด และนโยบายของพรรค โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาเท่าเทียม ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสการเรียนรู้ น้องๆ นักศึกษายังรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจและสนใจงานการเมืองมากขึ้นจากการเยี่ยมชมครั้งนี้
#ไชยชนก #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มอวลัยลักษณ์ #พรบการศึกษาเท่าเทียม #พรบภาษีบ้านเกิดเมืองนอน #เปิดรับคนรุ่นใหม่
“โสภณ” ชี้ รวมพลังแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการได้ผลจริง ดึงผู้เสพคืนครอบครัว สังคมได้เกินครึ่ง "มูลนิธิลูกเติ้ง" มอบเงิน 9 แสนให้ รพ.ปรับปรุงอาคาร แยกผู้ป่วยทั่วไปออกจากผู้ป่วยยาเสพติด และหน่วยงานปราบมยาเสพติด 1.2 แสน
นายโสภณ ซารัมย์
ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร
ประธานชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน
#โสภณ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มูลนิธิลูกเติ้ง #แก้ยาเสพติด #แบบบูรณาการ #บุรีรัมย์

“โสภณ” ชี้ รวมพลังแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการได้ผลจริง ดึงผู้เสพคืนครอบครัว สังคมได้เกินครึ่ง "มูลนิธิลูกเติ้ง" มอบเงิน 9 แสนให้ รพ.ปรับปรุงอาคาร แยกผู้ป่วยทั่วไปออกจากผู้ป่วยยาเสพติด และหน่วยงานปราบมยาเสพติด 1.2 แสน
วันที่ 13 ม.ค.68 นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และประธานชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน พร้อมด้วยนายศักดิ์ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ , นายรัฐพล ซารัมย์ ประธานมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับนายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สาธารณสุข, ผอ.โรงพยาบาล ทั้ง 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ลำปลายมาศ คูเมือง พุทไธสง หนองหงส์ นาโพธิ์ และ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้แถลงความก้าวหน้าโครงการ "รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ" ในพื้นที่ 6 อำเภอ ณ ห้องประชุมชั้น 3 โรงพยาบาลคูเมือง อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
โดยโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายหลายภาคส่วน อาทิ มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการด้านต่างๆ ส่วนนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และภาคเอกชน ก็ร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะปัญหาผู้เสพยาบ้าที่นำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม การลักทรัพย์ ความผิดปกติทางจิต และปัญหาสังคมอื่นๆ
ผลการดำเนินโครงการนำร่อง ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ได้เริ่มดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ตัดวงจรผู้ค้าเพื่อลดจำนวนผู้เสพรายใหม่ บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพรายเก่า โดยมีการดำเนินงานดังนี้
ฝ่ายปกครองและตำรวจ ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จับกุม 40 คดี พบผู้ค้า 63 ราย ยึดยาบ้า 438,496 เม็ด และยาไอซ์ 0.3 กรัม ฝ่ายปกครองร่วมกับสาธารณสุขค้นหาและคัดกรองผู้เสพในพื้นที่ 22 หมู่บ้านนำร่องใน 6 อำเภอ โดยมุ่งเน้นกลุ่มประชากรอายุ 13-60 ปี จากจำนวนผู้เข้ารับการคัดกรองทั้งหมด 6,300 คน พบผู้เสพยาเสพติด 501 คน คิดเป็น 8% ของกลุ่มประชากรเป้าหมาย ทั้งนี้ หากดำเนินการคัดกรองในประชากรทั้งหมด (ประมาณ 150,000 คน) คาดว่าจะพบผู้เสพสูงถึง 12,000 คน ซึ่งเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขในปัจจุบันจะรองรับได้ จึงต้องบูรณาการกับเครือข่ายชุมชนและภาคเอกชนอย่างเข้มแข็ง ถึงจะสามารถบำบัดรักษาผู้เสพยาได้อย่างมีคุณภาพ
สำหรับแนวทางการแก้ไขดูแลบำบัดรักษา มีดังนั้น 1.กลุ่มผู้เสพที่ไม่มีอาการทางจิต ดูแลโดยชุมชนล้อมรักษ์ (Community-Based Treatment: CBTx) ฝ่ายปกครองร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ติดตามและบำบัดในระยะเวลา 16 สัปดาห์ กรณีที่ผู้เสพไม่มารายงานตัวหรือตรวจพบปัสสาวะเป็นบวก จะถูกส่งต่อไปยังศูนย์บำบัดระดับอำเภอ (ศูนย์ CI) 2.กลุ่มผู้เสพที่มีอาการทางจิต ส่งรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ โดยมีฝ่ายปกครองและตำรวจดูแลความปลอดภัย การรักษาแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะฉับพลัน (1-14 วัน) รักษาอาการก้าวร้าว อาการถอนพิษยา และอาการทางจิต ระยะกลาง (15-30 วัน) เฝ้าระวังภาวะถอนพิษยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจ ระยะยาว (60-120 วัน) ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมฝึกอาชีพและเตรียมความพร้อมกลับสู่ชุมชน เนื่องจากศูนย์บำบัดมินิธัญรักษ์ในปัจจุบันไม่เพียงพอ โรงพยาบาลแต่ละแห่งจึงมีแผนขยายศูนย์บำบัดเพิ่มเติม และในอนาคตจะแยกผู้ป่วยจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดออกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา
หลังจากแถลงผลการดำเนินโครงการฯ ประธานมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ยังได้มอบเงินสนับสนุนให้โรงพยาบาลปรับปรุงอาคาร เพื่อแยกผู้ป่วยทั่วไปออกจากผู้ป่วยที่เสพยาเสพติด จำนวน 900,000 บาท และมอบเงินให้หน่วยงานที่มีผลงานปราบปรามยาเสพติดอีกจำนวน 120,000 บาท
ด้าน นายโสภณ กล่าวว่า โครงการ "รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ" เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อป้องกัน ปราบปราม บำบัดฟื้นฟู ฝึกทักษะอาชีพ สร้างภูมิคุ้มกัน ผลการดำเนินการ 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ มีผู้เข้าบำบัดฟื้นฟู 700 คน สามารถดึงกลับคืนสู่ครอบครัวและสังคมได้ถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังมีการฝึกทักษะฝีมือ เพื่อให้นำไปประกอบอาชีพ ไม่หวนกลับมาเสพซ้ำ และในปี 2568 ยังจะดำเนินการต่อเนื่อง แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไป โดยจะเน้นการสร้างแรงจูงใจ หากหมู่บ้านไหนปลอดยาเสพติด เป็นหมู่บ้านสีขาว จะมีเงินรางวัลไปพัฒนาหมู่บ้าน ซึ่งเป้าหมายหลักเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด สิ่งที่อำเภอต่างๆ สะท้อนคือ ต้องการแยกผู้ป่วยจากการติดยาเสพติด ออกจากผู้ป่วยทั่วไป แต่ยังติดขัดเรื่องสถานที่และงบประมาณ จึงอยากให้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญตรงนี้
"การดำเนินโครงการนี้ไม่ใช่การหาเสียง แต่เป็นการบูรณาการร่วมกันในการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าห่วง เพราะปัจจุบันผู้เสพมีทั้งเด็กระดับประถม และผู้สูงอายุกว่า 70 ปี จึงมองว่าไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ ควรจะร่วมมือกันทุกภาคส่วน ที่สำคัญเป็นการสร้างความสามัคคีและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม อยากให้รัฐบาลหรือผู้บริหารระดับประเทศได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และท้าให้ลงพื้นที่มาพิสูจน์ หากอยากรู้ว่าสิ่งที่ทำได้ผลจริงหรือไม่" นายโสภณ กล่าวทิ้งท้าย
#โสภณ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มูลนิธิลูกเติ้ง #แก้ยาเสพติด #แบบบูรณาการ #บุรีรัมย์

"สิรภพ" เยี่ยมให้กำลังใจ 3 อส.ถูกสะเก็ดระเบิด บาดเจ็บจากเหตุระเบิดรถจยย.บอมบ์ จ.ปัตตานี
วันที่ 13 ม.ค.68 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ มีผู้ก่อเหตุซุกระเบิดไว้ภายในรถจักรยานยนต์ แล้วนำไปจอดไว้ภายในซอย บริเวณข้าง TK Park ถนนปัตานีภิรมย์ ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ที่อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ก่อนจุดชนวน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ตำรวจ ฉก.ตร.ปน 92 และสมาชิก.อส.สังกัดกองร้อย อส.อ.เมืองปัตตานีที่2 ชุดปฏิบัติการร่วม 3 ฝ่าย กำลังเตรียมปล่อยแถวสายตรวจ รักษาความปลอดภัยตามปกติในช่วงเช้า และขณะรอการเข้าแถวเจ้าหน้าที่บางส่วนรออยู่ในซอยจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ในการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บางส่วนอยู่ในซอยดังกล่าว เป็นเหตุให้อาสาสมัครรักษาดินแดง บาดเจ็บ 6 นาย และตำรวจ 3 นาย
ล่าสุด นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เดินทางเข้าเยี่ยมและมอบกระเช้าเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ 3 อาสาสมัครรักษาดินแดน ที่ถูกสะเก็ดได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดรถจักรยานยนต์บอมบ์ ที่โรงพยาบาลปัตตานี
#สิรภพ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #เยี่ยมให้กำลังใจ3อส #ถูกสะเก็ดระเบิด #บาดเจ็บ #จยยบอมบ์

'อนุทิน' Kick off มอบธงแห่งความรักทั่วไทย ภายใต้แนวคิด "สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality: Love Wins in 878 Districts)" พร้อมย้ำ "ความรักไม่มีพรมแดน" และ "ความเท่าเทียม" คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาค
วันนี้ (13 ม.ค. 68) เวลา 13.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีไทยและ รมว.มหาดไทย เป็นประธาน Kick off แสดงความพร้อมเชิงสัญลักษณ์ "มอบธงแห่งความรักทั่วไทย" ตามโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด "สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality : Love Wins in 878 Districts)" จัดโดยกรมการปกครองร่วมกับสหประประชาชาติในประเทศไทย (United Nations Country Team in Thailand) โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ (H.E. Ms. Michaela Friberg-Storey) ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nations Resident Coordinator in Thailand) เอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ผู้แทนภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และภาคีเครือข่าย ร่วมในกิจกรรม
กิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญของโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียมภายใต้แนวคิด "สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality: Love Wins in 878 Districts)" โดยนายอนุทิน ได้กล่าวแสดงความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยในการให้บริการประชาชนตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม คุณมิเกลล่า และคุณมิเรียม อ๊อตโต อัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (Ms. Miriam Otto, Deputy Ambassador of the Netherlands to Thailand) กล่าวแสดงความยินดี จากนั้น นายอนุทิน มอบธงสัญลักษณ์ให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และร่วมรับฟังการแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมในมิติต่าง ๆ ผ่านกิจกรรม Symposium Session : 5-Minute Talk "เสียงจากหลากมุมมอง 5 นาที แห่งความเท่าเทียม"
นายอนุทิน กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสหประชาชาติประเทศไทยเป็นพลังที่สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสหประชาชาติและรัฐบาลไทยในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ และย้ำว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในการให้บริการสาธารณะให้กับประชาชน โดยเฉพาะในการดำเนินการตาม พรบ.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือที่เรียกว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งรับรองสิทธิในการสมรสสำหรับทุกคู่รัก ซึ่งวันนี้ เราทุกคนมารวมตัวกันเพื่อโอบรับความเท่าเทียมและยอมรับความรักในรูปแบบที่หลากหลาย
"กระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองภูมิใจที่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ในฐานะนายทะเบียนกลาง สำหรับการทำหน้าที่นายทะเบียนให้กับทุกความรักทั่วประเทศ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการให้บริการจดทะเบียนที่ยึดถือหลักการของความเสมอภาคและความเท่าเทียม และเราขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการจดทะเบียนสมรสอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกคู่รัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในระเบียบและระบบที่ให้คุณค่าแก่ความหลากหลายและเคารพศักดิ์ศรีของประชาชน ด้วยการตระหนักถึงพันธกรณีของไทยในฐานะประเทศใหม่ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 5 ว่าด้วยความเท่าเทียมทางเพศ และเป้าหมายที่ 10 ว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ"
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า กิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงแค่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับโลก แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในระบบการบริการที่มีความโปร่งใส เท่าเทียม และยุติธรรมอีกด้วย ซึ่งตนต้องขอขอบคุณสหประชาชาติประเทศไทย และทุกภาคส่วนที่ร่วมจัดกิจกรรม พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า เราก้าวไปข้างหน้าร่วมกันด้วยความเชื่อมั่นว่า "ความรักไม่มีพรมแดน" และ "ความเท่าเทียม" คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนกลางได้เตรียมความพร้อมให้กับสำนักทะเบียนอำเภอ 878 แห่ง สำนักทะเบียนเขต กทม. 50 เขต และสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่ง เพื่อสอดคล้องกับ พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 มกราคม 2568 รวม 4 ด้าน คือ
1) ด้านระเบียบ โดยได้ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย ทำให้คู่รักสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย
2) ด้านระบบ โดยได้มีการแก้ไขระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่า และมีการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น
3) ด้านบุคลากร โดยได้จัดทำชุดความรู้และอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การปรับกรอบความคิดในการให้บริการประชาชน และการบริการที่เป็นสากลบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงมารยาทสากลและหลักสิทธิมนุษยชน
4) ด้านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Kick Off ในวันนี้ และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่ง ในวันที่ 23 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักตามแนวคิด "กรมการปกครองยินดีเป็นนายทะเบียนให้กับทุกความรัก"
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548 หรือที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต ทุกแห่งทั่วประเทศ
#อนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #ธงแห่งความรักทั่วไทย #ความรักไม่มีพรมแดน #สมรสเท่าเทียม

"อนุทิน" มอบปลัด มท. คาดโทษสูงสุดนายอำเภอเรียกรับผลประโยชน์ พร้อมเร่งอธิบดีปกครองสอบสวยวินัย ชี้สั่งพักหรือให้ออกจากราชการก่อนได้
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ต่อกรณีที่นายอำเภอพร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการรับเหมาว่า ด้วยประเด็นนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนในวงกว้าง ในวันนี้ (12 ม.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จึงมีคำสั่งและการมอบหมายเพิ่มเติมเพื่อเร่งรัดการสอบสวน ลงโทษผู้ทำผิด ให้ความกระจ่างแก่ประชาชนและสังคมเร็วที่สุด
นายอนุทิน ได้มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เร่งพิจารณาดำเนินการในโทษสูงสุดที่สามารถดำเนินการได้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยก่อน เนื่องจากกรณีนี้ถือเป็นการถูกกล่าวว่าในคดีทุจริตและกระทำผิดซึ่งหน้า และเป็นการกระทำของหัวหน้าส่วนราชการด้วย การย้ายให้ไปช่วยราชการนอกพื้นที่ระหว่างรอการสอบสวนนั้นอาจไม่เพียงพอ
"ท่าน มท.1 ได้เร่งให้ดำเนินการในโทษสูงสุดที่สามารถทำได้ในชั้นของมหาดไทย และให้อธิบดีกรมการปกครองเร่งดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยสามารถดำเนินการสั่งพักราชการหรือให้ออกไว้ก่อนได้" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 ภายหลังที่ชุดสืบสวนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าจับกุมนายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ปกครอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งให้นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ มาช่วยราชการเป็นการประจำ ณ วิทยาลัยการปกครอง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปกครองที่เกี่ยวข้องมาช่วยราชการ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดกระบี่ พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมการปกครองได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยเร่งรัดดำเนินการสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน
#อนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #สิรภพ #คาดโทษสูงสุด #นายอำเภอเรียกรับผลประโยชน์
"พิพัฒน์" ชู "เด็กไทยวันนี้เป็นกำลังแรงงานแห่งอนาคต" มอบทุนการศึกษาทั่วประเทศ ลูกหลานแรงงานกว่า 10,000 คน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
#พิพัฒน์ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #สิรภพ #วันเด็กแห่งชาติปี2568 #มอบทุนการศึกษา #ลูกหลานแรงงาน #คำขวัญวัญวันเด็ก

"พิพัฒน์" ชู "เด็กไทยวันนี้เป็นกำลังแรงงานแห่งอนาคต" มอบทุนการศึกษาทั่วประเทศ ลูกหลานแรงงานกว่า 10,000 คน
วันที่ 11 มกราคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาเนื่องในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 กระทรวงแรงงาน พร้อมกล่าวเปิดงานและให้โอวาทมอบของขวัญแก่เด็ก และเยี่ยมชมบูธกิจกรรมของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานและสถานประกอบกิจการ โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการกระทรวงแรงงาน พ่อแม่ผู้ปกครอง น้องๆ เด็กนักเรียน ชุมชนแฟลตดินแดง ลูกหลานของพี่น้องแรงงาน เข้าร่วมงาน อย่างเนืองแน่น ณ บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพฯ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมขอต้อนรับทุกท่านที่มาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติของกระทรวงแรงงาน ประจำปี 2568 ในวันนี้ โดยในปีนี้ รัฐบาลได้กำหนดคำขวัญวัญวันเด็กว่า "ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัว สู่อนาคต ที่เลือกเอง" ซึ่งมุ่งหมายให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้เรียนรู้ในทุกๆ โอกาสที่เข้ามาสามารถออกแบบอนาคตของตนเองได้ตามต้องการ เพื่อสร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้ตนเอง
"กระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้ได้รับการแนะแนว เพื่อให้ทราบถึงความถนัดของตนเอง และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ ทั้งในช่วงวัยเรียน และหลังจบการศึกษา เพื่อเพิ่มรายได้ และลดภาระในครอบครัว รวมทั้งส่งเสริมสวัสดิการ ตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กและมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการ เพื่อลดรายจ่ายของครอบครัวพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และคลายกังวลขณะไปทำงาน กิจกรรมในวันนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงาน สถานประกอบที่สนับสนุนการจัดงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน เตรียมกิจกรรมให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์ ความรู้ ผ่านการเล่นกิจกรรมที่หลากหลาย" นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกของการทำงานและอาชีพในอนาคต การพัฒนาทักษะฝีมือของตนเอง ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับสวัสดิการแรงงาน ประกันสังคม และความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รับความสนุกสนานรื่นเริง กล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ ตระหนักในสิทธิหน้าที่ มีระเบียบวินัยมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เพื่อเป็นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกระทรวงแรงงาน สถานประกอบการภาคเอกชน สถานศึกษา และชุมชน โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงบนเวที การออกบูธกิจกรรมเล่นเกมแจกของรางวัลของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งอาชีพในอนาคต ฝึกประลองความรู้ ความสามารถ ทักษะฝีมือของตนเอง ตลอดจนสอดแทรกความรู้ด้านแรงงาน ประกันสังคม และความปลอดภัยในการทำงาน การออกบูธกิจกรรมของสถานประกอบการภาคเอกชน และบูธบริการอาหาร และเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชน พี่น้องแรงงาน และชาวชุมชนดินแดงต่างพาลูกหลานมาเข้าร่วมกิจกรรมกับกระทรวงแรงงานกว่า 10,000 คน
#พิพัฒน์ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #สิรภพ #วันเด็กแห่งชาติปี2568 #มอบทุนการศึกษา #ลูกหลานแรงงาน #คำขวัญวัญวันเด็ก

มหาดไทยย้ายนายอำเภอเหนือคลอง กระบี่ ออกจากพื้นที่ทันที เปิดทางให้สอบสวนเข้ม หลัง จนท.ถูกชุดสืบ ป.ป.ช. เข้าจับกุม ด้าน "อนุทิน" กำชับปกครองดำเนินการตามกฎหมาย พบทำผิดลงโทษเด็ดขาดไม่มีละเว้น
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้รับทราบรายงานจากนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง
กรณีที่วันนี้ (10 ม.ค. 68) ชุดสืบสวนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าจับกุมนายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ปกครอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
โดยนายอนุทิน ได้กำชับให้กรมการปกครองในฐานะต้นสังกัดดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และหากการสืบสวนพบว่าเป็นการกระทำความผิดจริง ให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุด อธิบดีกรมการปกครองได้มีคำสั่งให้นายอำเภอเหนือคลอง มาช่วยราชการเป็นการประจำ ณ วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันนี้ (10 ม.ค. 68) เป็นต้นไป และผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปกครองที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มาช่วยราชการ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดกระบี่ พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมการปกครองได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเร่งรัดดำเนินการสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน และสำหรับในชั้นของพนักงานสอบสวน ข้าราชการทั้ง 2 รายดังกล่าว อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย
"นายอนุทิน ให้ความสำคัญและมีนโยบายที่ชัดเจนในการดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตทุกประเภท และได้กำชับให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ถือปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว อย่างเคร่งครัด โดยหากพบการกระทำการอันเป็นการทุจริตทั้งต่อหน้าที่ และการสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ต้องได้รับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
#อนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #นายอำเภอ #นายอำเภอเหนือคลอง #กระบี่ #ปปชจับกุม #มหาดไทย

งาน “อว. For Kids” รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 68 เริ่มแล้วคึกคัก เด็กเข้าร่วมงานล้นหลาม ต่อคิวนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวง อว.แน่น “ศุภมาส” ปลื้มนำเดินชมบูธและเข้าร่วมกิจกรรมวิทยาศาสตร์ พร้อมจัดเต็มของรางวัลกว่า 100,000 ชิ้น เพื่อส่งมอบความสุข จุดประกายความฝันเพื่ออนาคตของชาติ
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงาน “อว. For Kids” รับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้สโลแกน “มาเปิดโลกการเรียนรู้ ก้าวสู่อนาคตด้วยกัน” ที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 กระทรวง อว. ถนนโยธี โดยมี พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ราชการกระทรวง อว. รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวง อว. นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ ที่ปรึกษาด้านระบบบริหารการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิ จัยและนวัตกรรม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวง อว. นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วมอย่างอย่างคับคั่ง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ อาทิ โรงเรียนพญาไท โรงเรียนสวนมิสกวัน รวมถึงเด็ก ๆ และเยาวชนชนที่เดินทางมาเที่ยวชมงานพร้อมกับผู้ปกครองเป็นจำนวนมาก โดยมีบูธกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ให้เด็ก ๆ ได้ร่วมสนุกมากมาย ซึ่งกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ทั้งในและนอกอาคารของกระทรวง อว.
เมื่อ น.ส.ศุภมาส มาถึงก็ได้สักการะพระบรมรูป ร.4 เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มต้นกิจกรรมฯ จากนั้นได้นำทีมคณะผู้บริหารมายังเวทีกลาง และร่วมชมโขน ซึ่งแสดงโดยน้องๆ เยาวชนจากโขนเด็กสถาบันเอกชนการละคร พร้อมมอบของรางวัลให้กับตัวแทนน้องๆ จากโรงเรียนพญาไทและโรงเรียนสวนมิสกวัน นอกจากนี้ ยังมีขบวนเหล่ากองทัพมาสคอตของหน่วยงานในกระทรวง อว. มาสร้างสีสัน เรียกเสียงฮือฮาจากน้องๆ ได้เป็นอย่างมาก
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า งาน “อว. For Kids” รับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 เป็นกิจกรรมที่ อว.ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้เด็ก ๆ และเยาวชน เข้ามาร่วมสนุกกับกิจกรรมที่จะสร้างโอกาสในการเรียนรู้ ฝึกจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ได้คิดค้น ทดลอง ผ่านกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่สนุกสนานมากมาย โดยมี 22 หน่วยงานมาร่วมจัดกิจกรรม รวมถึงมีผู้ใหญ่ใจดีทั้งภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุนของขวัญและของรางวัลมามอบให้น้อง ๆ กว่า 100,000 ชิ้น เพื่อสร้างความสุข ความทรงจำที่มีคุณค่าและต่อเติมความฝันให้กับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญของชาติ โดยงานจะจัดถึงวันที่ 11 ม.ค.นี้
จากนั้น รมว.อว. ได้นำน้อง ๆ เยาวชนที่มาร่วมงานเดินชมบูธและเข้าร่วมกิจกรรมที่แบ่งเป็นสถานีต่าง ๆ ตั้งแต่ SRI for All (Kids) สนุก Kids วิทยาศาสตร์ PMU-B เด็กวิทย์ช่างฝัน ปั้นจินตนาการร่วมสร้างอนาคตไทย พร้อมแจกของขวัญให้กับน้อง ๆ เช่น ตุ๊กตา จักรยาน รถบังคับ และของเล่นทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมในงาน ไฮไลต์พิเศษที่เรียกความสนใจจากน้องๆ ได้อย่างล้นหลามคือ ขบวนพาเหรดหุ่นยนต์ ที่มีทั้งหุ่นยนต์กู้ภัยปี 2024, หุ่นยนต์น้องดาวเหนือ, หุ่นยนต์กู้ภัยจิ๋ว RMRC, หุ่นยนต์ Dubot, หุ่นยนต์ MakeX และ Unitree Go2 ที่ตบเท้ากันมาให้ความสนุกกับน้องๆ อย่างเต็มที่ ที่สำคัญยังมีตู้คีบมนุษย์ เครื่องเล่นสุดท้าทาย ที่น้องๆ จะต้องเอาตัวเข้าไปคีบของขวัญและของรางวัลด้วยตัวเอง เรียกว่าได้ลุ้นและออกแรงไปพร้อมกัน ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เรียกเสียงเชียร์ได้ตลอด และที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กิจกรรมอื่นๆ ก็คือการเปิดห้องทำงานของ น.ส.ศุภมาส ที่ใจดีเปิดห้องทำงานของรัฐมนตรี เพื่อให้น้อง ๆ และผู้ปกครองได้เข้าไปถ่ายรูปกับโต๊ะทำงานของรัฐมนตรี มีน้อง ๆ และผู้ปกครองเข้ามาเยี่ยมชมและถ่ายรูปกันอย่างไม่ขาดสาย โดย ด.ญ.ปรีชญา ลาภพิทักษ์พงษ์ หรือน้องยูกิ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพญาไทเป็นคนแรกที่ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ได้บอกความรู้สึกว่า รู้สึกตื่นเต้นมาก คิดว่าถ้าได้เป็นรัฐมนตรีจริง ๆ คงงานเยอะมาก เพราะน่าจะมีเอกสารให้เซ็นหลายเรื่อง แต่อาชีพที่อยากเป็นในอนาคตคือโปรแกรมเกมเมอร์ เพราะชอบเล่นเกม จึงอยากสร้างเกมเป็นของตัวเอง
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีน้อง ๆ ต่อคิวร่วมสนุกทุกบูธ ทั้งนี้ งาน “อว. For Kids” ปีนี้ นอกจากจัดที่กระทรวง อว. โยธี ในวันที่ 10 - 11 มกราคมแล้ว ในวันที่ 11 ม.ค. ยังมีจัดที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา กรุงเทพฯ และที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลองห้า ปทุมธานี ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในต่างจังหวัดทั่วประเทศก็มีสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานในกระทรวง อว. ร่วมจัดงาน เพื่อมอบความสุขและความสนุกให้กับเด็ก ๆ ทั่วประเทศ ในทุกภูมิภาคอย่างทั่วถึง
#ศุภมาส #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #วันเด็กแห่งชาติปี68
“สฤษฏ์พงษ์” หนุน ตั้ง กมธ.พิจารณาศึกษานําสายไฟฟ้า สายสื่อสารลงดิน ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ยัน เพื่อความปลอดภัยต่อปชช. สร้างภูมิทัศน์ที่ดี ทำให้ท่องเที่ยวเติบโต
นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่
พรรคภูมิใจไทย
#สฤษฏ์พงษ์เกี่ยวข้อง #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #กระบี่
วาระแห่งชาติ! “ณัฏฐ์ชนน” แนะ รัฐจัดการปัญหา จัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสารทั่วประเทศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา
พรรคภูมิใจไทย
#ณัฏฐ์ชนนศรีก่อเกื้อ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #สงขลา
"รมช.สุรศักดิ์" ตอบกระทู้ ยัน ปี 69 ศธ.ของบฯ สร้างอาคารเรียน รร.เทพศิรินทร์ ลาดหญ้า เพิ่มเป็น 24 ห้องเรียน มั่นใจให้ความสำคัญในสิ่งขาดแคลน อยู่ลำดับ 1 ของเขต
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
#สุรศักดิ์พันธ์เจริญวรกุล #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #กระทรวงศึกษาธิการ
"รมช.สุรศักดิ์" ตอบกระทู้ รัฐบาลแก้ปัญหาเด็กหลุดนอกระบบการศึกษาจริงจัง ร่วมมือเครือข่ายเดินเท้าตามหาแล้วเกือบ 7 แสนราย ชี้ ปี 70 เด็กหลุดจากระบบต้องหมดไป
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
#สุรศักดิ์พันธ์เจริญวรกุล #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #กระทรวงศึกษาธิการ
"อนุทิน" มอบนโยบาย 14 จังหวัดภาคใต้ ย้ำบทบาทผู้ว่า CEO ร่วมมือเอกชนและทุกภาคส่วน พัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
#อนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มอบนโยบาย #14จังหวัดภาคใต้ #พัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม

"อนุทิน" มอบนโยบาย 14 จังหวัดภาคใต้ ย้ำบทบาทผู้ว่า CEO ร่วมมือเอกชนและทุกภาคส่วน พัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (9 ม.ค. 68) เวลา 13.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และมอบนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสงขลา ร่วมประชุม ณ โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นายอนุทิน กล่าวว่า ภาคใต้ของไทยเป็นพื้นที่มีศักยภาพสูง ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการพัฒนาทรัพยากร แต่ก็ยังมีปัญหาและความท้าทายที่ต้องเผชิญ อาทิ ปัญหาความมั่นคง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่สมบูรณ์ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยของจังหวัดเข้ามาสนับสนุนการบริหารจัดการความท้าทาย ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามยาเสพติด การให้บริการน้ำประปาดื่มได้ ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
นายอนุทิน ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ต้องทำงานประสานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนเพื่อสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งพิจารณาสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ หรือการท่องเที่ยว ไม่มีการแบ่งจังหวัดเป็นเมืองหลักหรือเมืองรองอีกต่อไป โดยต้องส่งเสริมให้ทุกพื้นที่เป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าท่องเที่ยว และความสำเร็จอยู่ที่การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนควบคู่ส่งเสริมศักยภาพของจังหวัดให้โดดเด่น
"กระทรวงมหาดไทยเน้นการทำงานที่ทันสมัย "ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที" เราปรับโครงสร้างการทำงาน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่เหมือน CEO ดูแลเป้าหมายในภาพรวม ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยขับเคลื่อนงานในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1. ด้านความมั่นคง รับผิดชอบการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามยาเสพติด และการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 2. ด้านเศรษฐกิจ รับผิดชอบการแก้ปัญหาความยากจน และส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ 3. ด้านบริหาร รับผิดชอบงานบริการประชาชน โดยเน้นการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ และ 4. ด้านสังคม รับผิดชอบการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และปลูกฝังจิตสำนึกด้านความสามัคคี" นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ นายอนุทินยังได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ และนายอำเภอ เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมสื่อสารกับประชาชนเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือ เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้บริหารระดับสูงพร้อมสนับสนุนการทำงานด้วยการร่วมมือกันสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนของพี่น้องประชาชนภาคใต้
ในช่วงท้ายของการประชุม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวเน้นย้ำการปฏิบัติราชการของผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และคนมหาดไทย ต้องนำนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายของคนมหาดไทย คือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขโดยถ้วนหน้า ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งได้ร่วมรับฟังการนำเสนอประเด็นการขับเคลื่อนงานตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยของผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้แทนทั้ง 14 จังหวัด
#อนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มอบนโยบาย #14จังหวัดภาคใต้ #พัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
"พิพัฒน์" ลุยพอร์ตมัจฉานุท่าเรือซุปเปอร์ยอร์ชใหญ่สุดในเอเชีย สร้างแรงงานในธุรกิจเรือรายได้สูง รองรับฮับท่องเที่ยวระดับโลกฝั่งอันดามัน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
#พิพัฒน์ #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #มัจฉานุ #ท่าเรือซุปเปอร์ยอร์ช #ใหญ่สุดในเอเชีย
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)
ประเภท
เว็บไซต์
ที่อยู่
Bangkok
10900