ข่าวสารการลงทุน ในไทยและต่างประเทศที่น่าสนใจ
เปิดเหมือนปกติ
Bigmove Indy Alert สัญญาณซื้อตลาดหุ้นไทย ในรอบ 4 เดือน สัญญาณครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มีโอกาสที่เราจะใกล้ Bottom หรือจังหวะซื้อที่สำคัญสำหรับหุ้นไทย มาลุ้นกัน
Boyles Bigmove Club
โอกาสบนความเสี่ยง การร่วงของหุ้นในช่วงนี้ จะว่าไปก็มองเป็นโอกาสได้ แต่ความไม่แน่นอนสูงมาก สถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดได้ตลอดเวลา มีมุมไหนบ้างที่เรายังพอมองด้านบวกได้บ้าง แต่ขอเล่าย้อนหลังไปไกลนิดนึง เอาแบบคร่าวๆล่ะกัน เพราะแค่อาทิตย์เดียว มีเรื่องราวมากมายเหลือเกิน
1. ย้อนกลับไปอาทิตย์ที่แล้ว เริ่มจาก รัสเซียผ่านร่างกฎหมายรับรอง 2 รัฐในยูเครนเป็นรัฐอิสระ เปิดทางให้ทหารรัสเซียเปิดการโจมตีเข้าไปที่ 2 รัฐนี้ได้เลย แต่ที่ไหนได้ รัสเซียดันเปิดการโจมตีทั่วทั้งประเทศยูเครน หุ้นร่วงแรงอยู่แปปเดียว กลายเป็นดีดกลับมาแรงมาก นักลงทุนน่าจะเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว รวมกับตอนนั้นเชื่อกันว่า การ Sanction ของยุโรปกับอเมริกาเบามาก + อเมริกาบอกจะไม่ยุ่งเรื่องทหาร มีการย้ายทหารไปที่เยอรมันเพียง 7 พันคนเท่านั้น นั่นทำให้คนยังมองว่าเป็นแค่สงครามในภูมิภาคเท่านั้น ทำให้วันนั้น Nasdaq จากลบ -3.5% ดีดกลับขึ้นมา +3.3% รวมถึงทองวิ่งไปถึง 1975 ร่วงหลุด 1900 ในไม่กี่ชม.ถัดมา
2. แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ พลิกผันอีกรอบ คืออาทิตย์ที่แล้ว อเมริกาตัดสินใจยังไม่แบน Swift (การโอนเงินระหว่างประเทศ) ของรัสเซียเพราะกลัวราคาน้ำมัน และอาหารพุ่งสูงขึ้นในช่วงเงินเฟ้อนี้ ในส่วนยุโรปก็มีแค่บางประเทศอยากจะแบน Swift ไปเลย แต่พอเสาร์ อาทิตย์คุยกัน สรุปอเมริกาและยุโรปจะ แบน Swift เปิดอาทิตย์นี้ตลาดเริ่มผันผวนอีกรอบ เพราะ Swift สำคัญมาก ถ้าทำธุรกรรมระหว่างประเทศไม่ได้ เวลาซื้อขายของกัน จะส่งของกันอย่างไร นั่นส่งผลทันทีต่อ ตลาดน้ำมัน เพราะรัสเซียผลิตน้ำมันได้ราวๆ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอย่าลืมว่ายังมีสินค้าการเกษตร และนิเกิลอีก นั่นทำให้ความกังวลเรื่องของเงินเฟ้อ และ Financial stress สูงขึ้นทันที
3. อย่าลืมว่ารัสเซีย เอาเศรษฐกิจไปผูกกับยุโรปเยอะมาก ทำให้เกิดความกังวลกันว่าจะกระทบการเงินโลกได้ จริงๆในเรื่องการแบน Swift ถือว่า surprise มาก เพราะไม่คิดว่าจะตกลงกันได้เร็ว และทางฝั่งรัสเซียก็ยังบอกด้วยว่า ยุโรปไม่กล้าแบนหรอก เพราะจะส่งผลต่อพวกเขาเอง แต่ยุโรปดูเหมือนไม่ได้กลัวเลย แต่มีบางอย่างที่พอจะมองดีได้บ้างคือ ในสถาการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้ ตลาดหุ้นผันผวนจริง แต่ไม่ได้ร่วงหลุดจุดต่ำสุดเดิม แม้กระทั่งทองที่ใช้ Hedging เองก็ไม่ได้ขึ้นทำจุดสูงสุดต่อ
4. ถ้าย้อนกลับไปที่ต้นเรื่องคือ ช่วงกลางปี 2020 ยูเครนทำเรื่องขอเป็นสมาชิกนาโต้ ซึ่งรัสเซียก็ออกมาเรียกร้องไม่ให้รับยูเครน แต่ก็เหมือนไม่ได้มีอะไรคืบทั้งสองฝ่าย รัสเซียจึงเริ่มปฎิบัติการทางทหารตั้งแต่ต้นปี 2021 ในช่วงอเมริกาก็ออกมาเตือนตลอด แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจ จนต้นปี 2022 ปูตินก็ยังเรียกร้องให้มีการเจรจา และอเมริกาก็เริ่มส่งสัญญาณที่มากขึ้น ท้ายที่สุดก็เหมือนทุกอย่างจะสายไปแล้ว เมื่อปูตินตัดสินใจบุกยูเครน และยิ่งทำให้ทุกอย่างมันยิ่งยากขึ้นไปอีก
5. จริงๆ สถานการณ์ตอนนี้ เปลี่ยนเร็วมาก และยากที่จะคาดเดาได้ แต่ก็อาจจะยังพอมีความหวังเหมือนกันที่อาจจะไม่พัฒนาไปเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม เป็นเพียงแค่ความขัดแย้งในภูมิภาคเท่านั้น จริงๆ ถ้าดูท่าทีของรัสเซียมาตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่ยูเครนขอเป็นสมาชิก NATO รัสเซียเรียกร้องการเจรจามาตลอด ครั้งนี้ก็น่าจะยังมีความเป็นไปได้เช่นกัน แต่อาจจะใช้เวลาพอสมควร รวมถึงมาตราการ Swift ก็น่าจะเป็นกดดันให้ทุกฝ่ายต้องรีบหาข้อสรุปให้ได้ สถานการณ์ตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน เราอาจจะอยู่ในจุดที่เลวร้ายที่สุด เพราะไบเดนเองก็ยังบอกว่า มาตราการ Sanction ทั้งหมดและ Swift เนี่ย หนักที่สุดแล้ว ถ้ามากกว่านี้คือการทำสงครามแล้ว ดังนั้น เป็นไปได้ว่า ตลาดรับรู้ เรื่องที่เลวร้ายที่สุดไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นถ้าต่อจากนี้ถ้ามีข่าวดีเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจรจา หรือเรื่องธนาคารทั่วโลกที่น่าจะมีแนวโน้ม Dovish มากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะดีดได้แรงเช่นกัน
ความเสี่ยงคือ ระยะเวลาการเจรจา ถ้ายิ่งนานยิ่งเป็นผลเสีย รวมถึงถ้าความขัดแย้งมันลุกลามขึ้นเป็นระดับทวีป หรือยักษ์ใหญ่ด้วยกันแล้ว อันนี้น่าจะน่ากลัวจริงๆ แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ยังดูเหมือนประเทศยักษ์ใหญ่ยังต้องเร่งรัดให้เกิดการเจรตาให้เร็วที่สุด เราก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
Boyles Bigmove Club
สถิติหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การเกิดสงครามทั้งหมดตั้งแต่ปี 1948-2022 การซื้อหุ้นในช่วงการปรับฐานจาก Geopolitical Conflict จะเห็นว่า Max Drawdown(ช่องข้างหลัง มีการปรับฐานมากที่สุดกี่%) และถือยาวไปอีก 3-6 เดือน ผลตอบแทนเป็นบวกเกือบทั้งหมด ดังนั้นรอบนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน
ปล. ช่วงนี้แอดไม่ค่อยสบาย เพิ่งเริ่มหาย เลยไม่ได้ค่อยได้ update จริงๆอยาก update เรื่องรัสเซีย ยูเครนเหมือนกัน กำลังระอุ แต่คิดว่าน่าจะมองเป็นโอกาสมากกว่า
Boyles Bigmove Club
ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นที่พักเงินของต่างชาติไปแล้ว หลังจาก Carry Trade กลับเข้ามาในกลุ่ม EM อีกครั้งในรอบ 3 ปี ขอเล่าย้อนกลับไปเหตุการณ์ที่สำคัญในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ วันนั้นมีการประชุม ECB และอย่างที่เรารู้กัน เงินเฟ้อที่ยุโรปสูงมาก ทางประธาน ECB(Lagarde) ค่อนข้าง Dovish มากซึ่งยืนกรานมาตลอดว่ายุโรปไม่ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย หรือขึ้นไม่เยอะ แต่การประชุมวันนั้น เหมือนจะเริ่มกังวลเงินเฟ้อ และเริ่ม Hawkish มาก เรียกได้ว่าเป็น Game Changer เลย ทำให้ Yield ในยุโรปพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผลต่างระหว่าง Yield ยุโรปและอเมริกาแคบลง จน Dollar อ่อนลงอย่างรุนแรง นั่นส่งกลายเป็นส่งผลดี สกุลเงินในกลุ่ม Emerging เพราะการลงทุนในอเมริกาก็เริ่มยากขึ้นจากที่คนเริ่มเก็งกำไรว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ย 6-7 ครั้ง นั่นทำให้ Dollar เองก็กลายเป็นเริ่มเสี่ยง + ยูโรเองก็มีต้นทุนการกู้ยืมที่มากขึ้นจากแนวโน้มที่ Hawkish กลายเป็นค่าเงินในกลุ่ม EM ได้รับผลประโยชน์แทน เพราะเงินเฟ้อที่ต่ำ + กับอยู่ในช่วง Recovery ทำให้ 17 ค่าเงินใน 23 ค่าเงินในกลุ่ม EM มีเงินไหลเข้ามา
หลังจากวันนั้น 3 กุมภา จะเห็นว่า ต่างชาติซื้อพันธบัตรบ้านเราไปราวๆ 6 หมื่นล้าน รวมถึงเงินเข้ามาในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข่าวรัสเซีย FED จะ Hawkish อย่างไรก็ตาม ก็จะเห็นว่า Fund flow ยังเข้าต่อเนื่องจนค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้นถึงราว 15% เทียบกับ Dollar index รวมถึงหุ้นไทยก็ยังมีหุ้น Value อยู่เยอะ รวมถึงพลังงานที่มักจะถูกซื้อในช่วงที่เงินเฟ้อสูงๆ + นโยบายของบ้านเรา เงินเฟ้อยังไม่ได้สูงมาก และมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยไปตลอดทั้งปี นั่นทำให้ ค่าเงินบาท เป็นสกุลที่น่าสนใจขึ้นมาท่ามกลางนโยบายที่เปลี่ยนไปของ ECB
ความเสี่ยง คือ ถ้าอเมริกาเริ่มเห็นสํญญาณเงินเฟ้อชะลอตัว หรือ FED Dovish มากกว่าที่คาด หรือ ECB กลับมา Dovish นั่นน่าจะทำให้เงินไหลกลับ แต่คิดว่าน่าจะยังไม่ง่ายๆในระยะสั้นๆนี้ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องติดตาม แต่ถ้าย้อนกลับมาดูตลาดไทยที่ดูไม่ค่อยน่าสนใจ ก็เหมือนจะมีความน่าสนใจขึ้นมาไม่มากก็น้อยแล้วเหมือนกัน
Boyles Bigmove Club
https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-02-13/the-carry-trade-is-faltering-just-as-it-began-to-deliver-gains
สรุปหุ้นลงเพราะ FED หรือ Russia อ่านข่าวทุกวันก็แอบงงนิดๆ อเมริกาก็ประโคมข่าว รัสเซียจะบุกแล้วทุกคนโปรดระวัง ส่วนรัสเซียก็บอก ตรูอยู่เฉยๆ อยากให้บุกจังเลยโว้ย เลิกกล่าวหาสักที
ก่อนหน้าเมื่อวานอเมริกาบอกรัสเซียจะบุก เมื่อวานรัสเซียทนไม่ได้ เอาทหารออกไปให้เชยชมหน่อย แล้วบอกเราคุยกันได้โว้ย เห็นท่าจะสงบ ยูเครนเลยปั่นต่อ บอกรัสเซียอาจจะบุก สักพักเหมือนพูดแล้วลืมเตี๊ยมกัน กลับคำบอกว่าพูดตามสื่อตะวันตก แล้วบอกเราต้องการความสงบ เราต้องการเจรจา ตอนเย็นรัสเซียเริ่มถอนกำลัง สรุปปั่นกันน่าดู ไม่รู้พรุ่งนี้จะยังไงต่อ
จริงๆ ถ้าให้วิเคราะห์ก็ยังดูเกิดสงครามยาก เพราะสถานการณ์ที่ยุโรปเงินเฟ้อสูงมาก และรัสเซียส่งออก Gas ไปที่ยุโรปเยอะมาก มีการทำ Model ออกมาว่าถ้าเกิดสงคราม เศรษฐกิจยุโรปจะมีปัญหาเยอะมาก ร่วมถึงมีโอกาสเกิด Recession ได้เลย รวมถึงคะแนนความนิยมของรัฐบาลต่างๆก็ลดล รวมถึงที่อเมริกาเอง ไบเดน คะแนนความนิยมลดจาก 57% --> 41% ถ้าปล่อยให้เงินเฟ้อ หรือพลังงานสูงไปเรื่อยๆ น่าจะส่งผลต่อคะแนนนิยม เพราะปลายปีนี้จะมีการเลือกตั้งกลางวาระด้วย เรื่องการเมืองก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ไม่ง่าย จริงอยู่ว่า สมัยก่อน อเมริกาถ้าคะแนนนิยมเริ่มต่ำ มักจะทำสงครามเพื่อจะทำให้ความนิยมกลับมา แต่สมัยนี้ดูจะแตกต่างจากเดิมในกลยุทธ์แบบนี้
Boyles Bigmove Club
รัสเซีย ยูเครนน่ากังวลไหม การปรับฐานในอเมริกาดูยังไม่น่ากังวลจากข้อมูลล่าสุด ยังดูเหมือนข่าวรัสเซีย Noise ในตลาดมากกว่า มีข้อมูลอะไรที่น่าจะยังเชื่อว่าตลาดหุ้นน่าจะยังอยู่ในขาขึ้นมากกว่า การปรับฐานน่าจะยังมองเป็นโอกาสมากกว่า
1. net value Put คนเล่น Short สูงมาก และโดยปกติมักเป็น Sign ตลาดใกล้ Bottom หรือจุดที่มีโอกาสรีบาวน์ได้แรง
2. Forward EPS ในตลาดหุ้นอเมริกา เทียบกับราคาหุ้นกว้างมาก แสดงถึงหุ้นน่าจะเริ่มถูกแล้วในตลาดอเมริกา หรือไม่ได้แพงมากแล้ว ดังนั้นเราน่าจะเริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาหลังจากนี้
3. Fund flow ยังไหลเข้าหุ้นต่อเนื่อง รวมถึงยังไหลออกจากพันธบัตร
4. Skew index ยังต่ำ คือต้นทุนคนที่ปกป้องความเสี่ยงในฝั่งขาลงยังไม่สูง ถ้าคนมองลงเยอะๆ ต้นทุนการประกันความเสียงจะสูงขึ้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้สูงมาก แสดงมุมมองด้านบวกต่อตลาด
5. ค่าเงินรัสเซีย ความผันผวนยังน้อยกว่าช่วง ปี 2014 ที่รัสเซียบุกยูเครนจริงๆ อยู่เยอะ แสดงว่าตลาดที่รัสเซีย ยัง Price ถึงความเป็นไปได้ของสงครามยังไม่เยอะมาก
ทั้งหมดนี่คร่าวๆ น่ามองโอกาสในการปรับฐาน เป็นจังหวะในการเก็บหุ้นที่น่าสนใจ หุ้นเหมือนจะ Panic เล็กๆ ไม่แน่ใจว่าเรื่องรัสเซีย หรือเรื่อง FED มากกว่ากัน แต่ข้อดีคือ Fed fund future เริ่ม Price แล้วว่า การขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนมีนาของ FED ลดลงจาก 80% --> 40% พอมีความไม่แน่นอนในตลาด ก็มีข้อดีอยู่บ้างตรง คนเริ่มคาดการณ์แล้วว่า FED จะไม่ Hawkish มากมายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าดูตลาดอื่น indicator หลายๆอย่างก็ดูเหมือนยังไม่ได้ Panic เท่าไหร่เลยนะ
Boyles Bigmove Club
ตลาดน่าจะตกใจเกินไปสำหรับ Comment ของ Bullard เมื่อวานตอนเงินเฟ้อออกมาร้อนแรง ตลาดก็ดูตกใจอยู่แปปเดียว แล้วก็ดีดกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คราวนี้พอเงินเฟ้อมากกว่าคาด นักข่าวก็รีบไปสัมภาษณ์กรรมการ FED คนนั่น คนนี้กันวุ่นวาย คราวนี้ก็ดันไปสัมภาษณ์ Bullard ก่อนซึ่งคนนี้จริงๆ Background ก็ Hawkish มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว Bullard บอกเลยว่าหลังจากเห็นข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดแล้ว เขาคิดว่าควรจะขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1% เลยในกลางปี และลด Balance sheet ใน Q2 ทันที จริงๆ เขายังบอกอีกว่า ถ้าประชุมตอนนี้ได้ จะขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เท่านั้นแหล่ะ ตลาดโดนขายรุนแรงอีกรอบ แต่จริงๆ Comment ของ Bullard ถ้าฟังให้จบ เขาก็เหมือนยังแบ่งรับแบ่งสู้ คือ เขาจะโน้มน้าวกรรมการ FED แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็จะไปตัดสินใจอีกครั้งในเดือนมีนา รวมถึงในครึ่งปีหลัง เขาจะตัดสินใจเรื่องขึ้นดอกเบี้ยตามข้อมูลในช่วงนั้น (Depend Data)
ถ้าไปดูกรรมการ FED คนอื่นก็ดูไม่ได้ไปในทิศทาง Bullard มากเท่าไหร่ อย่างเช่น Atlanta FED ก็ออกมาบอกว่า เขาคิดว่า เขาไม่ได้เปลี่ยนความคิดเห็นว่าปีนี้ ควรจะขึ้นดอกเบี้ยแค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น และเดือนมีนาจะขึ้นแค่ครั้งเดียว(แต่คนนี้พูดก่อนเงินเฟ้อประกาศวันนึง)
ส่วน MARY DALY กรรมการ FED อีกคนก็ออกมาบอก หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อออกมา ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในเดือนมีนาเลย ไม่ใช่ตัวเลือกของเธอ เธอยังได้บอกว่าตลาดได้ Price ในส่วนของการถอนความช่วยเหลือของ FED ไปแล้ว
ส่วน Tom Barkin อีนนี้พูดกลางๆ จะขึ้น 2 ครั้งหรือไม่ ขอไปคุยกันก่อน
ดังนั้นจะเห็นว่า ส่วนใหญ่ FED จะยังคงความคิดคล้ายๆเดิม คือคนที่ Hawk ก็ยัง Hawk แต่น่าจะมากขึ้นหน่อย ส่วนคนอื่นก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าจะ Hawkish มากกว่าปกติเท่าไหร่ ดังนั้นหลังจากวันนี้ไปจนถึง Black Period (ช่วงก่อนการประชุม จะไม่ให้กรรมการออกมาให้ความเห็นแล้ว) 5 มีนา เราอาจจะเห็น กรรมการ FED ออกมาให้ความคิดเห็นอีก จากนักข่าวแน่ๆ ซึ่งตลาดก็อาจจะผันผวน
แต่ถ้าดูภาพรวมก็เหมือนจะยังไม่ได้อะไรเพิ่มเติมจากสมาชิก กรรมการ FED หลังเงินเฟ้อออก ส่วนใหญ่ก็พูดคล้ายๆกัน ว่าจะรอไปตัดสินใจในช่วงการประชุม สิ่งที่พอจะเห็นได้คือ ถึงเงินเฟ้อจะออกมารุนแรงกว่าคาด แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ทำให้ กรรมการ FED ในกลุ่ม Dovish เปลี่ยนใจเท่าไหร่ ในขณะที่ราคาเริ่ม price ไปในทิศทางที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผลการประชุมออกมา ตรงข้ามตลาดก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
Boyles Bigmove Club
https://www.youtube.com/watch?v=w9S4G5101G8
SETTRADE.COM - Leading Technology for Professional Investors www.settrade.com
Robot สำหรับตลาด Forex เป็นระบบที่เน้นป้องกันความเสียหายของเงินลงทุนเป็นสำคัญ คืนทุนเร็ว
Buy, Sell or Rent a Condo, House, Land, Factory or Business in Thailand, at the best rates.
อิสรภาพทางการเงิน FOREX เทรดเดอร์ อาชีพอิสระ ไอเท็มความงาม บิวตี้ จองตั๋วเครื่องบิน
การลงทุน,การเก็งกำไรค่าเงินระหว่างประเทศ(Forex)
การลงทุนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินตราต่างประเทศ Foreign Exchange Market หรือ FOREX Line add : @forexbangkok
Quant by CAF (Quant Services by Classic Ausiris Investment Advisory Securities Co., Ltd)
, Richard Cayne of Meyer International Thailand says that getting the right health insurance plan is one of the greatest gifts you can give yourself and your loved ones.
LIVING with Thai culture!! GET Rich in Thai society
Trading platform Metatrader 4