มูลนิธิกระจกเงา

ปี 2563 โควิดรอบแรก คู่รักวัย 70 กลาง เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

“ชีวิตลำบากมาก งานก็ไม่มีให้รับจ้าง มีมอเตอร์ไซค์อยู่คันก็ซ้อนกันออกไปตระเวนตั้งแต่เช้า ไปหารับข้าวที่เขาแจก มีเงินก็จากเบี้ยผู้สูงอายุ ก็ได้เบี้ยผู้สูงอายุนั่นแหละที่เอามาเติมน้ำมันรถออกไปรับข้าวแจกมากินกันกับหลานอีก 4 คน”

“ป้านอนไม่ค่อยหลับหรอก มันเครียด ไม่สบายก็ฝืนออกไปด้วยกับลุง ลุงไม่ค่อยระวัง กลัวรถชน ตาแกก็ไม่ดี ป้าเองก็มีโรคประจำตัว ช่วงนั้นเครียด ความดันไม่ลดเลย ถ้าถามว่าได้กิน 3 มื้อมั้ย ก็กิน 3 มื้อแหละ ยังไงก็ต้องกินยา มีข้าวเปล่ารองท้องก็พอได้อยู่”
เดือนสิงหาคมปี 2563 สองคนตายายเข้าสู่การทำงานในโครงการจ้างวานข้า….
ปี 2566 โควิดจบไป คู่รักวัย 70 ปลาย ให้สัมภาษณ์ครั้งใหม่ว่า

“ชีวิตตอนนี้สบายมาก ต้องขอบคุณกระจกเงามากๆ ข้าวปลาอาหารได้กินครบ โรคประจำตัวที่เป็นก็ปกติไปหมด ไม่เครียด กินยาได้ตรงตามเวลา นอนเต็มที่หลับง่ายเลย มีเงินเหลือก็ไปทำบุญได้อีก ไม่เหงาด้วยพอมีงานก็มีเพื่อนที่มาทำงานด้วยกัน”

สัมภาษณ์ยังไม่ทันจบ ชายชราลงจากมอเตอร์ไซค์ที่ขับไกลมาจากบ้านถึงที่ทำงานของป้า ป้าตะโกนกึ่งถามกึ่งโมโห “บอกให้มารับที่ท่าเรือแถวบ้านไงไม่ต้องมาไกลถึงที่นี่” ลุงยังคงเดินยิ้มเข้ามา แตะไหล่ป้า ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเมื่อตะกี๊นี้และชีวิตที่ผ่านมาของทั้งคู่
_____________________

สนับสนุนจ้างวานข้าได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB

‘บ้าน’ ที่อาศัย พื้นที่ปลอดภัย
ให้ชีวิตได้ซุกตัวลงนอน
เพิงสังกะสีที่ล้อมด้วยผ้าใบ
เป็นบ้านของแม่เมาะ
และลูกสาวออทิสติก
มันถูกสร้างขึ้นเมื่อ 17 ปีก่อน
ตอนที่สามีแม่เมาะเสียชีวิต
และเธอต้องกระเตงลูกจากกรุงเทพ
กลับมาหากินที่โคราชบ้านเกิด
ที่บ้านเกิด เธอไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง
มีเพียงที่ดินเปล่าผืนเล็กๆ ของญาติ
กับงานรับจ้างปอกหัวหอม
แม่เมาะจึงเก็บเงินจากงานตรงนั้น
มาซื้อสังกะสี ไม้ ป้ายไวนิล จากร้านขายของเก่า
นั่นแหละเป็นอุปกรณ์สร้างเพิงพักของเธอ
เพิงที่ทำขึ้น ค้ำยันไว้ด้วยไม้
คุ้มแดดคุ้มฝนให้เธอมาได้หลายระยะ
แต่เวลาผ่านไปแม่เมาะแก่ตัว
กับโรคความดันที่มีเป็นทุนเดิม
หลังคาสังกะสี ฝาบ้านที่เคยเป็นไม้
เริ่มผุพัง พัดหายไปกับลมฝน
แม่เมาะบอกว่า
ร่างกายเธอไม่แข็งแรงเหมือนเก่าแล้ว
จะปีนหลังคาไปอุดรูรั่วก็ไม่ไหว
ส่วนฝาบ้านที่หายไป เธอเอาผ้าใบมากันไว้แทน
”เวลาฝนตกน้ำมันซึมนองพื้นมาถึงมุ้ง
เวลาลมพัดน่ากลัวมาก
กลัวว่าสังกะสีมันจะหล่นมาบาดคอเอา“
โครงการอาสามาเยี่ยม
ได้รับเรื่องจากอาสาสมัครในพื้นที่
ถึงความเดือดร้อนของครอบครัวแม่เมาะ
เรารับครอบครัวนี้เข้าดูแลเรื่องอาหาร
มากกว่านั้น วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง
ที่คุณหลายคนบริจาคมานั้น
เราจะนำมันมาใช้ สร้างบ้านใหม่ทั้งหลัง
เป็นบ้านที่แข็งแรง มีผนังรอบขอบชิด
ให้สองแม่ลูกได้ซุกตัวลงนอนอย่างมั่นคง
และเป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อชีวิตที่ดำรงอยู่

————————————————————
ถัดจากบ้านแม่แมาะ
โครงการอาสามาเยี่ยม มูลนิธิกระจกเงา
ยังมีแพลนปรับปรุงที่อยู่อาศัย
ให้ผู้สูงอายุตัวคนเดียวที่มีปัญหาด้านสายตา
และผู้ป่วยติดเตียงยากไร้อีกราย
คุณสามารถมีส่วนร่วมสนับสนุนภารกิจสร้างบ้าน
เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง
ได้ที่ บัญชีกองทุนอาสามาเยี่ยม มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-258297-5 ธ.ไทยพาณิชย์
หรือสามารถบริจาควัสดุอุปกรณ์สร้างบ้าน
เหล็ก สี ไม้ กระเบื้อง ฯลฯ เหลือใช้
เพื่อร่วมต่อเติมบ้านให้แม่เมาะ
ได้ที่ มูลนิธิ​กระจกเงา​
เลขที่​ 191 ซอย​ วิภาวดี​รังสิต 62 แยก 4-7
แขวง​ตลาด​บางเขน เขต​หลักสี่ ​กทม. 10210​​​​
โทร. 061-909-1840
หรือหากคุณเป็นบริษัท กลุ่มองค์กร
โครงการกิจกรรม CSR
ประสงค์จะช่วยเหลือในงานซ่อมสร้างบ้าน
สามารถติดต่อเราได้ที่
0619091840 , 0639316340
#ปรับที่อยู่อาศัยให้ผู้ป่วยยากไร้
#เยี่ยมเยียนเพื่อเยียวยา
#โครงการอาสามาเยี่ยม
#มูลนิธิกระจกเงา

“สดชื่นสถาน” เป็นพื้นที่บริการคนไร้บ้านให้ได้มาอาบน้ำ ซักผ้าอบผ้า ในวันที่เขายังไม่สามารถออกจากวิถีคนไร้บ้านได้ ในวันที่เขาสู้กับชีวิตและชีวิตสู้กลับอย่างหนักหน่วง เรามีความคิดจัดพื้นที่พักใจให้พวกเขา ใช้เป็นพื้นที่ไปมาหาสู่กันเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาชีวิตที่ติดขัด
พื้นที่นั้นใช้เป็นพื้นที่สาธารณะร่วมกันระหว่างคนทั่วไปกับคนไร้บ้านที่ผ่านการเข้าถึงการอาบน้ำ ซักเสื้อผ้า และอาจจะดีกว่านี้ถ้าใครบางคนเป็นแค่อดีตคนไร้บ้านจากการมีงานมีรายได้ และเขามานั่งพักผ่อน นั่งดูกิจกรรมต่างๆที่อดีตตอนเป็นคนไร้บ้านเขาเคยมาดูชมเพื่อผ่อนคลายเรื่องราวในหัว
วันนี้พื้นที่ตรงนี้กำลังฟูมฟักตัวเองโดยมี นศ.จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร มาช่วยร่างต้นแบบพื้นที่ในอนาคตนี้ให้ ก่อนไปถึงวันที่พื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ น้องๆ นศ. ได้สร้างนิทรรศการศิลปะที่บอกเล่าถึงชีวิตคนไร้บ้าน รวมถึงแบบแปลนพื้นที่สาธารณะอนาคตไว้ในงานนี้ด้วย
เชิญชวน!!! ใครสนใจเรื่องราวไร้บ้านและแนวคิดแก้ปัญหาคนไร้บ้าน สามารถไปแวะชม แวะเช็คอินได้ที่ ใต้สะพานพระปิ่นเกล้าฝั่งถนนพระอาทิตย์ นิทรรศการนี้จะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค.นี้ครับ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00น. ถ้ามาช่วงแสงตอนเย็นตรงนี้จะสวยมาก ถ้ามาหัวค่ำก่อนปิดก็จะได้แสงสีอีกแบบ

สัปดาห์ก่อนในวันที่ กทม.อากาศหนาว
ที่ศูนย์รับบริจาค มูลนิธิกระจกเงา
มีผู้บริจาคส่งพัสดุมาถึงเรา
ข้างในกล่องพัสดุ
เต็มไปด้วยหมวกไหมพรม และผ้าพันคอ
ทีมงานได้รับข้อมูลจากผู้บริจาครายนี้ว่า
ที่บ้านของเธอมีกลุ่มด้ายไหมพรมเหลือใช้
เธอจึงหยิบเอามาถัก และส่งมาให้เรา
เผื่อเราจะได้เอาไปใช้ประโยชน์
วันรุ่งขึ้น ทีมงานนำหมวก และผ้าพันคอ
ที่บรรจุความปรารถนาดีทั้งหมดนั้น
เดินทางขึ้นมูลนิธิกระจกเงา สำนักงานเชียงราย
ที่นั่น เรากำลังจัดกิจกรรมแจกจ่ายอุปกรณ์กันหนาว
ให้กับชาวบ้านบนดอย
ขณะนี้ หมวก และผ้าพันคอหลากสี
จากกลุ่มด้ายเหลือใช้ของผู้บริจาค
ถูกส่งถึงผู้ที่ต้องการ เพื่อทำหน้าที่
“เปลี่ยนความหนาวเย็น เป็นความอบอุ่น”
ให้กับพี่น้องชนเผ่าเป็นที่เรียบร้อย

————————————
ภัยหนาวปีนี้ มูลนิธิกระจกเงา
เปิดรับบริจาคเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม
และอุปกรณ์กันหนาวทุกประเภท
ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า ถุงนอนเราก็รับบริจาค
ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธ.ค.2566
ผู้บริจาคสามารถแบ่งปันเสื้อกันหนาว
ได้ที่ ร้านยูนิโคล่ ทุกสาขา Uniqlo Thailand
ในโครงการ RE.UNIQLO
เสื้อกันหนาวเหล่านั้น จะถูกส่งมาถึงมูลนิธิกระจกเงา
เพื่อส่งต่อให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยหนาว
ในภาคเหนือ และอีสาน
ย้ำ!! หากคุณมีเสื้อผ้า หรืออุปกรณ์กันหนาวเหลือใช้
สามารถบริจาคได้ที่ร้านยูนิโคล่ ทุกสาขา
หรือได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา (บริจาคเสื้อกันหนาว)
เลขที่ 191 ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทร. 061-9091840
ดูตำแหน่งร้านยุนิโคล่ใกล้บ้านได้ที่
https://map.uniqlo.com/th/th/
หรือส่งมอบเสื้อกันหนาวด้วยตัวเองที่ มูลนิธิกระจกเงา
https://maps.app.goo.gl/KKHtkZJLEc1pTHy37
#บริจาคเสื้อกันหนาว
#การแบ่งปันของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้
#มูลนิธิกระจกเงา

เก็บของเคลียร์บ้านสิ้นปี จะเอาไปทิ้งก็เสียดาย
ชวนมายกเทของเหลือใช้ใจกลางเมือง
เปลี่ยนของเหลือใช้ เป็นน้ำใจแบบ เทน้ำเทท่า!
กิจกรรมวัน Taejai Day เคลียร์บ้านใจกลางกรุง
เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับการแบ่งปัน
และการจัดการสิ่งของเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์
จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจหรือระแวกใกล้เคียง
ระดมสิ่งของเหลือใช้นำมาบริจาค
ไว้ที่ลานกิจกรรม Taejai Day
เพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ขาดแคลนและเป็นของขวัญ
ให้อีกหลายๆ คนในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่นี้
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
เครื่องแบบนักเรียน เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า
ของเล่นเด็ก คอมพิวเตอร์ หนังสือ ฯลฯ
เฟอร์นิเจอร์ ของชิ้นใหญ่
เราก็มีบริการรถออกรับถึงบ้าน

ในงานนอกจากจะมีบูธรับของบริจาคแล้ว
ยังสามารถอุดหนุนตลาดนัดครอบครัว
เพื่อการกุศล
ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม
ของที่ระลึกจากฝีมือจากเด็กๆ
ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโครงการต่างๆ
ของมูลนิธิกระจกเงา
และยังมีเวทีการแสดงความสามารถจากน้องๆ
ทั้งร้องทั้งเต้น เล่นดนตรีอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจบริจาคสิ่งของและร่วมกิจกรรม
เจอกันวันที่ 17 ธันวาคม 2566
ที่ Bambini Villa (แบมบีนี่ วิลล่า) สุขุมวิท 26
ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 - 17.00 น.
พิกัดกิจกรรม
https://maps.app.goo.gl/nAYdo9sWtZiEiyRe8
สำหรับใครที่มีของชิ้นใหญ่
และต้องการบริจาค แต่ไม่สามารถนำมาที่งานได้
เรามีบริการ "รถออกรับของบริจาค"
ให้บริการถึงหน้าบ้าน
สามารถเข้ามาลงทะเบียน
นัดคิวรับของกันภายในงานได้เลย
ขอบคุณผู้สนับสนุน
เทใจ - TaejaiDotcom
Bambini Villa

ทีมงานถ่ายภาพเหล่านี้ ณ ร้านชาบู
ก่อนเด็กชายตัวเล็กที่ใส่ชุดฮีโร่ในภาพ
ต้องไปนอนบนเตียงคนไข้
มีเข็มเจาะตัว สายน้ำเกลือเต็มแขน
แอดมิทในโรงพยาบาลยาว 5 วัน
ชาบูร้านนี้ตั้งอยู่ติดถนน
เป็นทางผ่านของรถประจำทาง
ที่แม่ต้องพาเด็กชายนั่งข้ามจังหวัด
ไปรับสารอาหารทางเส้นเลือด
เพื่อประคับประคองให้ร่างกายอยู่รอด
จากภาวะลำไส้ทำงานผิดปกติ
ในโรงพยาบาลเฉพาะทางทุกสองสัปดาห์
แม่เล่าว่า ทุกครั้งที่รถขับผ่านร้าน
เด็กชายมักถามว่า ‘กลับจากโรงพยาบาลแล้ว
เราแวะมากินกันดูมั้ย’
เด็กชายอยากจะรู้ ชาบูรสชาติเป็นแบบไหนกัน
แม่มักตอบเด็กชาย ว่าวันไหนทำงานได้เงินมากๆ
แม่จะจูงมือเด็กชายและน้องสาว
มาคีบกุ้งตัวโตๆ ล้อมวงหม้อชาบูกันสักครั้ง
แต่ผ่านไปวันแล้ววันเล่า
รายได้ของแม่เลี้ยงเดี่ยว
ที่เป็นลูกจ้างร้านเสริมสวย
ทั้งยังพยายามทำงานเสริม
ขายผ้ามือสองในตลาดนัด
หักลบค่ากิน ค่าไปโรงเรียน
ค่าเดินทางพาลูกไปหาหมอแล้ว
ก็ยังเหลือไม่พอเป็นค่าชาบูสักมื้ออยู่ดี
สัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมงานโรงพยาบาลมีสุข
จึงแปลงร่างเป็นฮีโร่ในดวงใจของเด็กชาย
ใส่ชุดสไปเดอร์แมนไปหาถึงหน้าบ้าน
ชวนเด็กชายและครอบครัวแต่งตัวขึ้นรถ
มุ่งตรงไปร้านชาบู
ให้เด็กชายได้สั่งอาหารที่อยากกินเต็มที่
ได้ลิ้มรสชาบูแสนอร่อยเป็นครั้งแรก
พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว
อาหารบนโต๊ะถูกจัดการจนหมดเกลี้ยง
ความสุขส่งออกมาผ่านเสียงเจื้อยแจ้วไม่ขาดสาย
ก่อนกลับ เด็กชายทิ้งท้ายกับพี่สไปเดอร์แมนว่า
“วันนี้ได้กินชาบูหนูดีใจมาก
ว่างๆ มาหาหนูอีกนะครับ”

————————
ขอขอบคุณ ไข่ชาบู สาขาเสนา อยุธยา - Shabu Egg
เสกชาบูหม้อพิเศษ สนับสนุนค่าอาหาร
ให้เด็กป่วยและครอบครัว
หลังจากนี้โครงการโรงพยาบาลมีสุข จะเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งความสุข ให้ความสุขเดินทางไปหาเด็กป่วยและครอบครัวถึงหน้าบ้าน เพราะเราเชื่อว่าเด็กป่วยก็ยังเป็นเด็ก ที่ต้องการเที่ยวเล่น ต้องการความสุขเยียวยาใจ ในวันที่ร่างกายน้อยๆ พยายามต่อสู้กับโรคร้ายเรื้อรัง
คุณสามารถมีส่วนร่วม
ในการสร้างความสุข ให้กับเด็กป่วยเรื้อรัง
โดยบริจาคผ่านบัญชีโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่ 2022582860 ธ.ไทยพาณิชย์
#สร้างความสุขลดความทุกข์
#โครงการโรงพยาบาลมีสุข #มูลนิธิกระจกเงา
#โครงการโรงพยาบาลมีสุข
#มูลนิธิกระจกเงา

เจ้าแม่คงคา ไม่ต้องการขยะพลาสติก
แต่มูลนิธิกระจกเงา ต้องการจำนวนมาก
ขยะพลาสติก ที่บริจาคมาให้เรา
โครงการชรารีไซเคิล จะนำมาคัดแยก
ขยะจะถูกนำไปรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
ขยะยังกลายเป็นงาน เป็นรายได้
ให้คุณตาคุณยาย ในโครงการชราฯ
มีคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลาย
สามารถบริจาค ขยะพลาสติก
โดยล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง
แล้วส่งเข้ามาได้ที่ มูลนิธิ​กระจกเงา
เลขที่ 191 ซอย วิภาวดี 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
สอบถามเพิ่มเติม โทร 061-909-1840
หรือบริจาคสมทบทุนดูแลคุณยาคุณยาย
ในโครงการชรารีไซเคิล ได้ที่
บัญชี โครงการชรารีไซเคิล โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่​ 202-270399-5 ธ.ไทยพาณิชย์
#ลอยกระทง
#บริจาคพลาสติกเพื่อสร้างอาชีพให้คนชรา
#โครงการชรารีไซเลคิล #มูลนิธิกระจกเงา

จากรุ่น สู่รุ่น
ประเพณีกินข้าวใหม่ พี่น้องชนเผ่าอาข่า
หมู่บ้านลีผ่า ต.แม่ยาว จ.เชียงราย
หลังฤดูเก็บเกี่ยว ก็นำผลผลิตมาแบ่งปันกัน
ชุดชนเผ่าเย็บปักอย่างสวยงาม
จะถูกนำมาสวมใส่
พิธีกรรมนี้ ยังถูกส่งต่อ รุ่นสู่รุ่น
#กินข้าวใหม่
#มูลนิธิกระจกเงาเชียงราย

“ดาวทุกดวงเป็นเพื่อนกัน ฟ้านั้นไม่มีเขตแดน”
เด็กทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน
การเติบโตนั้น ไม่ควรมีเขตแดน
เด็กควรได้รับการศึกษา
ได้กินอยู่หลับนอนในที่ที่ดี
ได้ฝึกฝน พัฒนาทักษะ ได้เรียนรู้
วันข้างหน้า จะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี
เด็กๆ ไม่ควรถูกปิดกั้นโอกาส
ด้วยความยากจน และพรมแดน
ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา มูลนิธิกระจกเงา
จึงเข้าไปเปิดพื้นที่เรียนรู้กลางสวนส้ม อ.ฝาง
ให้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติ
ที่ครอบครัวหนีภัยความยากจน
เข้ามาทำงานในฝั่งประเทศไทย
ได้มีการศึกษา มีโภชนาการ เติบโตสมวัย
ด้วยความเป็นแรงงานเคลื่อนย้าย
และเด็กก็ย้ายถิ่นตามที่ทำงานพ่อแม่
ดังนั้นแม้เปิดเทอมไปนานแล้ว
แต่ที่ศูนย์การเรียนไร่ส้ม เพิ่งจะลงทะเบียนเด็ก
ครบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง
เทอมนี้ เด็กๆ มาเข้าแถวต่อคิว
เพื่อรายงานตัว รวมแล้ว 222 ราย
ความจริงจำนวนเด็ก
เกินกว่าศูนย์การเรียนเล็กๆ ของเรา
ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐจะรับไหว
แต่เมื่อดาวทุกดวงเป็นเพื่อนกัน
เราจึงยินดีโอบรับเด็กทั้งหมด
เข้าสู่ครอบครัวศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา
ณ ที่นี่ เด็กๆ จะได้เล่น ได้มีสังคม เพิ่มทักษะชีวิต
ได้เรียนรู้ และได้กินอิ่มจนพุงกางในทุกวัน
แถมบางวัน หิ้วข้าวกลับไปฝากพ่อแม่
เราก็ยังยินดี

——————————————————
สนับสนุนศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยาได้ที่
ชื่อบัญชี ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา
เลขที่ 539-0-57058-8
ธนาคารกรุงไทย KTB
บริจาคเพื่อเป็นทุนอาหารกลางวันเพื่อเด็กๆ
ได้ที่ เทใจดอทคอม
https://taejai.com/th/d/meal_raisomwitdhaya/
(ทุกการบริจาคสามารถลดหย่อนภาษีได้)
เครดิต:
“ดาวทุกดวงเป็นเพื่อนกัน ฟ้านั้นไม่มีเขตแดน”
คือท่อนหนึ่งในเพลง เพลง “เพื่อนดาว”
คำร้อง-ทำนอง : ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
จัดทำโดย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก
#ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา #มูลนิธิกระจกเงา

คุณยังจำโมเมนต์
ที่เล่นกีฬาเป็นครั้งแรกได้อยู่ไหม
โมเมนต์ที่เริ่มหาอุปกรณ์เหมาะมือสักชิ้น
ไว้ใช้ฝึกฝน ได้ทุ่มกำลังสุดตัวไปกับกีฬา
ไปถึงจุดที่ภูมิใจว่าคุณทำได้
หากอุปกรณ์กีฬาเก่าของคุณ
ได้สร้างโมเมนต์เหล่านี้ให้คุณมาสุดทาง
หลายชิ้นปลดระวางแล้วแต่ยังสภาพดี
กระจกเงาชวนให้คุณเอามันมาส่งต่อ
ที่ดีแคทลอน 5 สาขา
Decathlon Thailand ดีแคทลอน ประเทศไทย
ในแคมเปญ กีฬาที่ใช่หาได้ที่นี่
"FIND YOUR SPORT at DECATHLON"
ที่ดีแคทลอน 3 สาขา ตามวันดังนี้
สาขาบางใหญ่ วันที่ 25 พ.ย.66
สาขาพระราม4 วันที่ 26 พ.ย.66
สาขารังสิต วันที่ 3 ธ.ค. 66
อุปกรณ์กีฬาเก่าของคุณ
จะได้มาทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์กีฬาใหม่
สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ
ผ่าน ศูนย์แบ่งต่อ มูลนิธิกระจกเงา
พิเศษ อุปกรณ์กีฬาสภาพดี
สามารถแลกเป็นส่วนลดเพื่อซื้ออุปกรณ์
กีฬาใหม่ใหม่ในร้านได้ด้วยนะคะ
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
https://shorturl.asia/EukIt
#รับบริจาคอุปกรณ์กีฬา
#ดีแคทลอนXมูลนิธิกระจกเงา

“คนพิการ ต้องได้ออกมาใช้ชีวิต!”
เป็นประโยคที่พูดคุยกันอย่างเรียบง่าย
แต่กลับเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนพิการ
หากแปลความหมายการใช้ชีวิตของแต่ละคน
ก็คงจะมีความหมายแตกต่างกันไป
สำหรับคนพิการหลายคน “การใช้ชีวิต”
อาจหมายถึง การมีชีวิตอยู่
ให้พ้นวันนี้ไปก็เพียงพอ
ด้วยข้อจำกัดที่มี จะออกไปท้าทายกับชีวิตสักที
ก็ยากซะเหลือเกิน
แต่วันนี้กาลพลิก มูลนิธิกระจกเงา
ร่วมกับเครือข่ายเพื่อนพิการ
ขอชวนเพื่อนเราทุกคน
ทั้งคนพิการและคนไม่พิการ
“มาลองพิการ มาลองออกไปใช้ชีวิต”
เราขอเชิญชวนคนทั่วไป
มาลองเรียนรู้ความพิการ
และชวนคนพิการ
มาลองออกจากบ้านเพื่อออกไปใช้ชีวิต
มานั่งปิกนิก ร้องเพลง เล่นเกมกันในสวน
และมาร่วมสร้างพื้นที่ สร้างสังคม
ที่เราอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม
พบกัน วันที่ 3 ธ.ค. นี้ เวลา 16.00 - 18.00 น.
เพื่อเฉลิมฉลองวันคนพิการสากล
ณ สวนสาธารณะเบญจกิติ กรุงเทพมหานคร
กาลพลิก เชื่อว่า…
เพราะการได้พบ ได้เรียนรู้ และแลกเปลี่ยนกัน
จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่จะพาพวกเราทุกคน
พบเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
พิเศษ!! สำหรับ 10 ท่านแรก
ที่ติดต่อมาทางเพจ กาลพลิก มูลนิธิกระจกเงา
เรามีเสื่อปิกนิกให้ยืม
พร้อมอุปกรณ์ปิกนิกแบบจัดเต็ม
ไว้ถ่ายรูปอวดเพื่อน ๆ กันไปเลยย

----------------------------------
ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในประเด็นคนพิการ
เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนเท่าเทียมได้ที่
โครงการกาลพลิก มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-272892-9 SCB
#เพื่อนพาไป #อาสาสมัคร
#กาลพลิก #มูลนิธิกระจกเงา

ปีใหม่นี้ ขอของขวัญให้เด็กป่วยได้ไหมคะ
ให้ยา ให้น้ำเกลือมาตลอดทั้งปีแล้ว
ให้คีโมจน ไม่ได้ไปเรียน
ให้พักฟื้น ก็มากจนไม่ได้ไปเที่ยวแล้ว
ในเทศกาลส่งท้ายปี เรามาให้ของขวัญ
เพื่อสร้างรอยยิ้ม เรียกคืนความเป็นเด็ก
ให้กับเด็กป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาลกันค่ะ
หากคุณกำลังหาไอเดีย ทำอะไรดีๆ ส่งท้ายปี
มูลนิธิกระจกเงาชวนบริจาคของเล่น ตุ๊กตา
ของเล่นเสริมพัฒนาการ อุปกรณ์เครื่องเขียน
หนังสือนิทาน และอื่นๆ
เพื่อเป็นกำลังใจ ให้เด็กๆ และครอบครัว
ต่อสู้กับโรคร้ายในปีต่อๆ ไป
ส่งของขวัญปีใหม่ให้น้องเด็กป่วย ได้ที่
ที่อยู่ โครงการโรงพยาบาลมีสุข มูลนิธิกระจกเงา
Mirror Art (สำนักงานมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 143/19 ซอย แจ้งวัฒนะ 1 แยก 6
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทร : 085-1966102
*ส่งได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2566
** ของขวัญขอรับเป็นของบริจาคมือ 1
เนื่องจากเด็กป่วยบางคนมีอาการแพ้ไรฝุ่นค่ะ
#รับบริจาคของขวัญให้เด็กป่วยในเทศกาลปีใหม่
#เพิ่มความสุขลดความทุกข์ให้เด็กป่วย
#โครงการโรงพยาบาลมีสุข #มูลนิธิกระจกเงา

“เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว น้องกันเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเข้าไอซียู หมอบอกยายว่าถ้ารักษาครั้งนี้น้องไม่ดีขึ้น อยากให้ยายได้พาน้องกลับไปอยู่ที่บ้าน”
“ความรู้สึกตอนที่รู้ว่าหลานสุดทางรักษาแล้ว ยายท้อใจมากถึงขั้นคิดชั่ววูบว่าจะไปกระโดดตึกตาย เพราะถ้าไม่มีหลานยายก็คงอยู่ต่อไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ต้องทำใจยอมรับ เพราะตั้งแต่พยายามหาทางรักษามา 3 ปีเต็ม หลานเจ็บมาเยอะมาก ยายสงสารหลาน ไม่อยากให้หลานต้องทรมานอีก”
“ยายเลี้ยงน้องกันมาตั้งแต่เกิด ตอนเล็กๆ นี่เขาอ้วนท้วนแข็งแรงเลยนะ แต่พอประมาณปี 2563 จู่ๆ ร่างกายน้องก็เริ่มไม่มีแรง พูดไม่มีเสียง ยายเรียกกินข้าวก็ไม่เอา กินน้ำก็ไม่เอา แล้วหมอก็ตรวจเจอว่าน้องกันมีภาวะความดันในปอดสูง มีภาวะหัวใจโตหนึ่งข้าง และมีภาวะตับแข็ง”
“หมออธิบายยายว่ามันเป็นภาวะที่เกิดขึ้นมาแบบหาสาเหตุไม่ได้ ตั้งแต่ตรวจเจอ ยายก็ต้องพาหลานไปโรงพยาบาลเดือนละหลายครั้ง พยายามรักษากันมาแบบเต็มที่ แต่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ผ่าตัดหลายส่วนแล้วก็ไม่ดีขึ้น”
“รักษามาเรื่อย จนถึงวันนั้นแหละวันที่หัวใจล้มเหลวต้องผ่าตัด ถ้าหลานสู้ไม่ไหวก็คงไปแบบเฉียบพลัน แต่น้องกันเป็นเด็กที่สู้มาก เหนื่อยก็ไม่เคยบอกเหนื่อย ขนาดนอนเข็นไปไอซียู เขายังบอกยายว่าหนูจะอยู่กับยายไปจนเป็นหนุ่ม ถ้าหายแล้วเราจะกลับบ้านกัน”
“หลังรอดตายมาครั้งนั้น อาการก็ทรงๆ ยายเลยตัดสินใจพาหลานกลับมาอยู่บ้านแบบเต็มตัว ตั้งแต่กลับบ้านมาเวลาดูรูปทะเลในโทรศัพท์ จะชอบบอกยายตลอดว่าหนูอยากไปจัง มันได้ยินแล้วก็น้ำตาไหลนะ หลานเกิดมาไม่เคยมีโอกาสพาหลานไปเที่ยวไหนเลย“
“ทุกวันนี้ยายพยายามเก็บเงิน ทั้งเงินร้อยมาลัย เงินเดือนคนแก่ 600 ก็เก็บไว้ให้หลาน แต่ร้อยมาลัยชักหน้าไม่ถึงหลังต้องใช้จ่ายค่ารักษาส่วนต่างให้โรงพยาบาล ไหนจะค่ารถ ค่ายานอกบัญชี มันก็เลยยังไม่มีปัญญาพาหลานไปกันสักที”
“ตอนเจ้าหน้าที่โครงการโรงพยาบาลมีสุขโทรมาชวนไปเที่ยวดูปลา น้องกันดีใจมาก พูดไม่หยุดเลยว่า ‘ยายไปกับหนูด้วยนะ’ จนจะถึงวันไปเที่ยวอยู่แล้ว จู่ๆ อาการน้องก็ทรุดหัวใจเต้นเร็วจนต้องให้ออกซิเจนช่วย พอเห็นอาการไม่ดียายก็เป็นห่วง ไม่กล้าพาไปข้างนอกเลย แต่สักพักอาการก็ดีขึ้นเองเฉย ก็ยังแซวขำๆ เลยนะ ว่าสงสัยตื่นเต้นที่จะได้ไปดูปลาแน่”
“ทุกวันนี้ก็มีหลานนี่แหละ ที่เป็นแรงให้ยายใช้ชีวิต ตอนที่เกิดแรกๆ ก็หวังแค่ว่าถ้าวันหนึ่งเราตายก่อน หลานจะสามารถเลี้ยงตัวเองได้ แต่มาวันนี้ยายไม่หวังอะไรแล้ว แค่หลานสู้และรอดกลับมา ได้มาเที่ยวด้วยกันแบบที่หลานชอบยายก็ดีใจมากแล้ว“
สองอาทิตย์ก่อน ทีมงานโรงพยาบาลมีสุข เอาเงินที่ได้จากการบริจาค มาจัดกิจกรรมพาเด็กป่วย 14 ครอบครัวท่องโลกใต้ทะเลที่ Sea Life Bangkok Ocean World หนึ่งในนั้นมีครอบครัวน้องกัน เด็กป่วยระยะสุดท้ายรวมอยู่ด้วย
ในวันนั้นน้องกันตื่นตาตื่นใจวิ่งเข้าหาพี่ปลาทุกตู้ เกิดเป็นรอยยิ้มจากความสุข ที่ทั้งน้องกันและครอบครัวก็ไม่รู้ว่าการมาเที่ยวครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ แต่มันจะเป็นความทรงจำและกำลังใจ ที่อาจช่วยต่อเวลาให้วันสุดท้ายของเด็กป่วยเพิ่มขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง

————————
คุณสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างความสุข
ให้กับเด็กป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล
โดยบริจาคผ่านบัญชีโครงการโรงพยาบาลมีสุข
เลขที่ 2022582860 ธ.ไทยพาณิชย์
#สร้างความสุขลดความทุกข์
#โครงการโรงพยาบาลมีสุข
#มูลนิธิกระจกเงา

พระสติสายมู.. (มูลนิธิ)
พุทธคุณเสริมคุณภาพชีวิตคนชรารอบด้าน
สร้างงาน สร้างรายได้
ให้คนชราไร้บ้านมีที่อยู่อาศัย
จัดการขยะได้อย่างยั่งยืน
พลาสติกที่มาจากการบริจาค
ของผู้บริจาคทั่วประเทศ
ถูกนำมาคัดแยกประเภท
โดยแรงงานวัยชรา ที่อดีตเคยไร้บ้าน
ในโครงการชรารีไซเคิลมูลนิธิกระจกเงา
จากนั้นพลาสติกจะถูกนำมาขึ้นรูปใหม่
เป็น ‘พระสติ’ มวลสารขยะพลาสติก
ไอเท็มที่สายมูควรมีไว้
ช่วยจัดการพลาสติกให้พ้นจากกองขยะ
ช่วยคนชราพ้นจากชีวิตไร้บ้าน
ทุกการสนับสนุน จะเกิดการจ้างงาน
ให้ผู้สูงอายุมีรายได้ในวัยบั้นปลาย
พระสติเหมาะเป็นของขวัญทรงคุณค่า
สำหรับแจากจ่ายในเทศกาลสำคัญช่วงปีใหม่
หรือบริจาค 200 บาท เพื่อรับพระสติ 1 องค์
ได้ที่ Inbox เพจเฟซบุ๊ก
ชรารีไซเคิล โดยมูลนิธิกระจกเงา
#ของขวัญของที่ระลึกในวันขึ้นปีใหม่
#พระสติ #ชรารีไซเคิล
#มูลนิธิกระจกเงา

เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ พลเมืองดีแจ้งข้อมูล พบเด็กหญิงวัยรุ่นหน้าตาสะอาดสะอ้านมานั่งขอทาน จึงอยากให้มูลนิธิกระจกเงาช่วยตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือ ทีมงานจึงลงพื้นที่ไปพูดคุย
เด็กหญิงคนนั้น เธอเล่าว่า ที่ต้องนั่งขอทาน เพราะต้องหาเงินไปจ่ายค่าเช่าห้องที่ค้างไว้ ระหว่างพูดมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาสลับกัน เธอว่ายายป่วยเป็นเบาหวานต้องตัดขา ไม่มีรายได้จากทางอื่น เธอตั้งเป้าว่าวันนี้ต้องได้เงินประมาณ 2,000-3,000 บาท เธอถึงจะกลับที่พัก
ระหว่างนั่งขอทาน ก็มีคนให้เงินตลอด เพราะความสะอาดสะอ้าน กลายเป็นความน่าสงสาร ว่าเหตุใดเด็กสาววัยรุ่นหน้าตาดี ถึงมีชีวิตมานั่งขอทานอยู่แบบนี้
ความจริงเปิดเผยภายหลังว่า เธอไม่ได้เลี้ยงดูยายที่พิการขาขาด ไม่ได้มีห้องที่ค้างค่าเช่าที่ต้องรอเงินจากการขอทานไปจ่าย มีเค้าโครงของความจริงอยู่บ้าง แต่เรื่องราวส่วนใหญ่ เล่าเพื่อทำให้คนสงสาร
เรื่องราวข้างต้น เป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่าง ที่ทำให้เห็นความสำคัญของการสอบสวน ก่อนให้ความช่วยเหลือ หรือการตัดสินใจดำเนินการใด
การจับกุมขอทานในบ้านเรา โดยเฉพาะข้ามชาติและค้ามนุษย์ ถ้าไม่สืบสวนมาก่อน ก็ยากจะเอาผิด แนวโน้มดำเนินการจับปรับ ผลักดันกลับประเทศจะเป็นแนวทางที่ง่าย สะดวก และประหยัดงบที่สุด แต่ไม่นานขอทานเหล่านั้นจะกลับเข้ามาอีก
โดยเฉพาะถ้าการขอทานนั้นเป็นการค้ามนุษย์ การสืบสวนเก็บหลักฐาน ตั้งแต่เงินที่หย่อนลงแก้ว ระยะเวลาการขอทานที่แสดงถึงเกินกว่าความยากจน การบังคับเพื่อหาประโยชน์ ตามถึงแหล่งพักพิง ไล่จนถึงเส้นทางการเงิน จะนำมาซึ่งการดำเนินคดีอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงจะอยู่หมัด
ขณะที่โลกยุคปัจจุบัน ก็มีคนยากจนเข้าสู่การขอทานจริงๆ คนที่ถูกค้ามนุษย์โดยขบวนการจริงๆ และยังมีคนที่เหมือนถูกขบวนการนำพามา แต่จริงๆ มาด้วยตัวเองอยู่จริง
การสืบสวนเก็บข้อมูลก่อนดำเนินการ จึง “สำคัญมาก” เพราะจะรู้ว่าเคสนั้นต้องจัดการอย่างไร
เครดิตภาพ: PPTV
#ขอทานจีน #ค้ามนุษย์
#หยุดทำบุญบนธุรกิจบาป
#มูลนิธิกระจกเงา

“ป้าเบา” ขึ้นบ้านใหม่แล้วนะ
คุณยังจำ “ป้าเบา” กันได้ไหม
“ป้าเบา” ที่เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน
เคยเล่าให้ฟังในเพจนี้ว่า
เธอเดินเท้าเข้ามาที่มูลนิธิกระจกเงา เชียงราย
เพื่อของความช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัย
ป้าเบา คนที่เป็นคนตัวเปล่า ไม่มีลูกหลาน
สามีมาตายจากด้วยโรคร้าย
ทิ้งไว้เพียงที่ดินผืนเล็กๆ
และเธอไม่มีทั้งกำลัง และเงินทอง
มากพอจะสร้างบ้านสำหรับพักพิง
ซ้ำร้ายโรคประจำตัว
ยังทำให้ไม่มีงาน และรายได้ที่แน่นอน
ไม่มีทั้งเงิน และที่อยู่อาศัย ในวัยใกล้สูงอายุ
ที่สุดป้าเบาตัดสินใจ
มาขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิกระจกเงา
หลังจากเราเล่าเรื่องของป้าเบา
พร้อมประกาศขอระดมทุน
เพื่อคุณป้า จะได้มีบ้านในบั้นปลายของชีวิต
ความช่วยเหลือของทุกคนในวันนั้น
ทำให้วันนี้ ป้าเบา “มีบ้านอยู่” แล้วนะคะ
บ้านขนาดย่อม สีสดใส
มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่ครัว
สร้างโดยทีมงานมูลนิธิ ร่วมกับชุมชน
สัปดาห์ที่แล้ว เธอจัดงานทำบุญชึ้นบ้านใหม่
เป็นศิริมงคล ให้กับบ้านหลังน้อย
ชวนชาวกระจกเงา ไปร่วมงานด้วย
จึงเก็บภาพมาฝากทุกคน
ขอบคุณบริษัท CONWOOD ที่ส่งผลิตภัณฑ์ไม้
จากการรีไซเคิล มาเป็นฝาบ้านของป้าเบา
ที่สำคัญ ขอบคุณ คุณ...คุณทุกคน
ที่ร่วมสนับสนุน ให้ป้าเบา ได้มีบ้านหลังนี้
(อ่านเรื่องของป้าเบา ก่อนหน้านี้ได้ที่
https://shorturl.asia/EbGd3)
——————————————
อัพเดทโครงการสร้างบ้านหลังอื่นๆ
มูลนิธิกระจกเงา โดยโครงการอาสามาเยี่ยม
กำลังจะไปทำบ้านให้กับผู้เดือดร้อน อีก 2 หลังนะคะ
หลังหนึ่ง เป็นบ้านของคู่แม่ลูก
แม่ป่วยจิตเวช ดูแลลูก ออทิสติก
หลังสอง เป็นบ้านของคุณตาคนหนึ่ง
ที่ป่วยเรื้อรัง หลายโรครุมเร้า
คุณสามารถร่วมบริจาควัสดุอุปกรณ์สร้างบ้าน
เหล็ก สี ไม้ กระเบื้อง ฯลฯ เหลือใช้
เพื่อช่วยเหลือ ได้ที่ มูลนิธิ​กระจกเงา​
เลขที่​ 191 ซอย​ วิภาวดี​รังสิต 62 แยก 4-7
แขวง​ตลาด​บางเขน เขต​หลักสี่ ​กทม. 10210​​​​
โทร. 061-909-1840
หรือสนับสนุนภารกิจซ่อมสร้างบ้านกลุ่มเปราะบาง
ได้ที่ ชื่อบัญชี กองทุนอาสามาเยี่ยม
เลขที่บัญชี 202-258297-5 ธ.ไทยพาณิชย์
สอบถามข้อมูลเพิ่ม โทร.061-909-1840
หรือหากคุณเป็นบริษัท กลุ่มองค์กร
โครงการกิจกรรม CSR
ประสงค์จะช่วยเหลือในงานซ่อมสร้างบ้าน
สามารถติดต่อเราได้ที่
061-909-1840 , 063-931-6340

เคยสงสัยไหม?
ว่าทำไมต้องบริจาคเสื้อกันหนาว
ช่วยภัยหนาวกันทุกปี
หน้าหนาวสำหรับคนเมือง บางครั้งมันก็อบอุ่นเกินจะเรียกว่าหน้าหนาว แต่สำหรับทางภาคเหนือในบางจังหวัด เรียกได้ว่าหนาวจนเป็น "ภัย"
ด้วยอากาศที่หนาวตลอดทั้งวันและคืน ทำให้ต้องใส่เสื้อกันหนาวตลอดเวลา ทั้งในตอนทำงานไร่งานสวน ขึ้นเขาลงห้วย เด็กที่วิ่งเล่นทั้งวัน ล้มลุกคลุกฝุ่นอย่างเป็นกิจวัตร ตั้งแต่ตื่นยันนอน
เสื้อกันหนาวที่ได้รับบริจาคมาบางครั้งก็เก่าจนแทบชำรุด นำมาใส่ได้ก็ไม่นาน หรือไม่ก็บางจนไม่สามารถต้านกับอากาศที่หนาวขนาดนั้นได้ จึงต้องใส่เสื้อกันหนาว หลายๆ ชั้น เพื่อให้มันกันหนาวได้ตามชื่อของมัน
และปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ความหนาว ทำงานไม่หยุดหย่อน
สร้างความเจ็บป่วย ทั้งเด็ก และคนชรา
มูลนิธิกระจกเงา จึงขอระดมเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม
และอุปกรณ์กันหนาวทุกประเภท
ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า ถุงนอนเราก็รับบริจาค
ปีนี้ พิเศษ!! สามารถบริจาคเสื้อกันหนาว
ได้ที่ ร้านยูนิโคล่ ทุกสาขา Uniqlo Thailand
ในโครงการ RE.UNIQLO
เสื้อกันหนาวเหล่านั้น จะถูกส่งมาถึงมูลนิธิกระจกเงา
เพื่อส่งต่อให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยหนาว
ในภาคเหนือ และอีสาน
ย้ำ!! หากคุณมีเสื้อผ้า หรืออุปกรณ์กันหนาวเหลือใช้
สามารถบริจาคได้ที่ร้านยูนิโคล่ ทุกสาขา
หรือได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา (บริจาคเสื้อกันหนาว)
เลขที่ 191 ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทร. 061-9091840
ดูตำแหน่งร้านยุนิโคล่ใกล้บ้านได้ที่
https://map.uniqlo.com/th/th/
หรือส่งมอบเสื้อกันหนาวด้วยตัวเองที่ มูลนิธิกระจกเงา
https://maps.app.goo.gl/KKHtkZJLEc1pTHy37
#บริจาคเสื้อกันหนาว #ขอบคุณยูนิโคล่
#การแบ่งปันของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้
#มูลนิธิกระจกเงา

“คนหาคนหาย”

ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา
เปิดรับสมัครเพื่อนร่วมงาน เพิ่ม 2 อัตรา
#ตำแหน่ง
🚩เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุและประสานงานติดตามคนหาย 🚩
🔺ภารกิจ
-รับแจ้งเหตุคนหาย จากทุกช่องทาง
-ประสานครอบครัวคนหาย หน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
-บันทึก สรุป รายละเอียดข้อมูลคนหายลงฐานข้อมูล
-ตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงกรณีคนหายเพื่อนำเสนอในที่ประชุมทีม
-ทำงานจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30-18.00 น.
-เข้าเวรรับแจ้งคนหายในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดองค์กรในบางสัปดาห์ (มีค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุด)
-ปฏิบัติงานในสำนักงานเป็นหลักและสามารถลงพื้นที่ต่างจังหวัดได้เป็นครั้งคราว
-ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่โครงการมอบหมาย
-ลงแรงเป็นอาสาสมัครในงานอื่นๆขององค์กร ตามที่ได้รับมอบหมาย
🔺คุณสมบัติ :
-ชอบรับฟังปัญหาของผู้อื่น
-ตั้งคำถามได้ อยากรู้ สงสัยในประเด็นต่างๆ
-ใจเย็นต่อแรงกดดัน ความคาดหวังของผู้แจ้งเหตุ
-มีแรงขับต่อการอยากแก้ไขปัญหาสังคม
-บริหารจัดการอารมณ์ ต่องานที่เครียด การแบกรับปัญหาของคนอื่น
-ทำงานเป็นทีม ไม่เก็บตัว สื่อสารข้อมูลและปัญหาการทำงานได้ตลอด
-ต้องเก็บความลับของเคสที่รับแจ้งได้
-ใช้คอมพิวเตอร์ได้ , ใช้โปรแกรมการสื่อสารพื้นฐานทั่วไป LINE FACEBOOK อีเมล์และแอพพลิเคชั่นทั่วไปได้คล่อง
-อ่านออกเขียนได้ ,ใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องในการสื่อสาร
-จับประเด็นและสรุปในเรื่องที่รับฟังได้
-หากมีเหตุจำเป็นสามารถไปสนับสนุนภารกิจอื่นของทีมและของมูลนิธิได้
-สามารถอ่านไลน์ของทีมและประสานในเวลากลางคืนและเวลาส่วนตัวได้
-จบการศึกษาทางด้านสังคมศาสตร์/สังคมสงเคราะห์/จิตวิทยา/กฏหมาย

***เป็นงานที่มีเนื้อหางานที่เครียด ต้องประเมินว่ารับมือกับความเครียดได้***
🔺สวัสดิการ
-ประกันสังคม
-วันลาตามนโยบายขององค์กร
-อาหารกลางวันฟรี (ครัวกลางองค์กร)
-มีฟิสเนต/โต๊ะสนุ๊ก/แป้นบาส/ลานกีฬา/

🔺ทดลองงาน 2 เดือน อัตราเงินเดือนเริ่มต้น 15,000บาท
🔺ปิดรับใบสมัคร 3 ธันวาคม 2566
🔺เรียกสัมภาษณ์ตั้งแต่ 6 ธันวาคม 2566
🔺ปฏิบัติงานที่ แจ้งวัฒนะซอย1 เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
🔺พร้อมเริ่มงาน 2 มกราคม 2567
🔺วิธีการสมัคร
-เขียนจดหมายแนะนำตัว ประสบการณ์ เหตุผลว่าทำไมถึงอยากทำงานนี้และสิ่งที่อยากจะบอกเรา
-ภาพถ่าย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาวุฒิการศึกษา
ส่งมาทางอีเมล์ [email protected] เท่านั้น

🔺พิจารณาจากเอกสารเป็นลำดับแรก จากนั้นจะคัดเลือกเพื่อนัดสัมภาษณ์ต่อไป
***ผู้ได้รับการพิจารณา ทีมงานจะติดต่อกลับไปทางโทรศัพท์เพื่อนัดสัมภาษณ์***

❤️หากท่านไม่ได้สมัครงาน แต่อยากสนับสนุน
ภารกิจติดตามคนหาย
บัญชี โครงการศูนย์ข้อมูลคนหาย โดยมูลนิธิกระจกเงา
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 202-258288-6

เธอเพิ่งออกจากเรือนจำมาได้ไม่ถึงเดือน คดีความที่ทำให้ต้องเข้าไปอยู่นั้นมันนับเนื่องมาจากความจน เธอไปรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารในช่วงเวลาที่ออกมานอนข้างถนนในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา โควิดที่ทำให้มีคนไร้บ้านเพิ่มถึง 30% และเธอคือหนึ่งในนั้น
เธอถูกจ้างเป็นเงิน 500 บาท ในช่วงเวลานั้นมีคนไร้บ้านไม่น้อยที่ทำแบบเดียวกับเธอ ช่วงเวลาที่หลายชีวิตกำลังจะจมดิ่งลงก้นทะเล และ 500 บาทมันพอที่จะเกาะเกี่ยวลอยคอใช้ชีวิตไปได้อีกสักหน่อย
“ทำยังไงได้ ก็มันไม่มีเงินเลย ป้ารู้ว่าผิดแต่มันเลือกไม่ได้” เธอพูดทั้งน้ำตาในวันที่ไปเยี่ยมเธอในเรือนจำ เมื่อพ้นโทษ เธอกลับมาที่จ้างวานข้าตามคำที่เราได้บอกเธอไว้ “ป้าออกมาแล้วกลับมาทำงานต่อกับจ้างวานข้าได้เหมือนเดิมเลย ป้าไม่ต้องไปเริ่มใหม่ที่ไหนอีก”
ในวันแรกที่เธอกลับมา ทุกอย่างที่มันสูญหายไปชั่วคราวในช่วงรับโทษในเรือนจำนั้น มันกลับคืนมาให้เธอครบถ้วนแล้วทุกอย่าง ห้องเช่าที่เธอเคยมี ที่นอนหมอนมุ้ง ข้าวของเครื่องใช้จำเป็น การงานรายได้จากจ้างวานข้า
ก่อนเข้าเรือนจำ สถานะเธอไม่ใช่คนไร้บ้านอีกแล้ว เมื่อกลับมาเราก็ยืนยันว่าเธอควรมีสถานะเช่นเดิม มีบ้าน มีงาน มีรายได้ และยังเป็นสมาชิกจ้างวานข้า เพราะคุกนั้นไม่ควรเป็นหลุมดำที่ดูดกลืนสิ่งต่างๆ ที่เคยมีในชีวิตให้สูญหายไปโดยไม่มีวันได้คืนกลับมา
_____________________

สนับสนุนจ้างวานข้าได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-2-58289-4 SCB

เก็บไว้ทั้งปี จะบริจาคทีก็ไม่รู้จะขนไปยังไง
หากคุณกำลังประสบปัญหานี้อยู่ เราช่วยคุณได้
ระยะทางที่แสนจะไกล ของบริจาคที่หนักอึ้ง
ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น ทีวี
เสื้อผ้าเก่าก็มีอีกกองเบ้อเร่อ
แล้วเราคนเดียวจะขนไหวหรอ ของตั้งหลายลัง
จะส่งบริษัทขนส่ง ก็โดนค่าส่งตามน้ำหนักอีก
รถไม่มีมีแค่มอเตอร์ไซค์
แต่ใจอยากจะให้ไปหมดนี่เลย
มาทางนี้ "ทีมออกรับของบริจาค" ยินดีให้บริการ
หมดปัญหาของเยอะ ขนคนเดียวไม่ไหว
เราพร้อมด้วยพละกำลังในการยกของ
เราพร้อมบรรทุกของเหลือใช้ทุกสรรพสิ่ง แบบจุกๆ
บริการรับของบริจาคถึงบ้าน ฟรี!! 40 กม.แรก
(วัดระยะทางจากมูลนิธิกระจกเงา)
สนใจรถรับของบริจาคถึงบ้าน
โทร. 063-224-1141 และ 084-2079363
Email: [email protected]
Line Id:
#บริการออกรับของบริจาค
#การแบ่งปันของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้
#มูลนิธิกระจกเงา

ถ้วยรางวัลมือสอง ตุ๊กตา เสื้อผ้า
ริบบิ้น โบว์ อุปกรณ์ประดิษฐ์ ฯลฯ
สิ่งของเล็กน้อยจากผู้บริจาค
เรียงร้อยเข้าด้วยกัน
เกิดเป็นพื้นที่ความทรงจำให้เด็กพิการ
ที่ศูนย์แบ่งต่อ มูลนิธิกระจกเงา
มักมีสิ่งของเหลือใช้ ที่เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ
เมื่อวันหนึ่ง ของเล็กๆ นั้นรวมกัน
คุณค่าของแต่ละอันจะทวีคูณขึ้น
ดังเช่นครั้งนี้ ที่ของเหลือใช้กลายเป็นส่วนหนึ่ง
ของกิจกรรมให้เด็กพิการแสดงความสามารถ
แม่เด็กพิการคนหนึ่ง เล่าให้ทีมงานฟังว่า
ช่วงหนึ่งลูกสาวเธอมีอาการน้ำท่วมปอด
ทำให้แขนขาอ่อนแรงลง
ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเป็นระยะ
ลูกสาวกลายเป็นเด็กไม่สดใส
เก็บตัวเงียบในบ้านอยู่เกือบ 3 ปี
จนวันที่ลูกสาวได้มีโอกาสมาทำกิจกรรม
กับสมาคมเด็กพิการ ได้เจอเพื่อนพิการคนอื่นๆ
พากันเปิดเพลง ชวนเต้นชวนร้อง
ยิ่งมีพื้นที่ให้ลูกพิการของเธอ
ได้แสดงออกด้วยแล้วยิ่งดี
“ดีมากเลยที่มีกิจกรรมอย่างนี้ ลูกแม่ชอบมาก
การที่ลูกมีพื้นที่พบปะเพื่อนที่เป็นเหมือนเขา
เข้ากับคนอื่นได้ มันก็เป็นความสุขของแม่ด้วย”
ตอนท้ายของกิจกรรมนี้ เด็กๆ ได้อยู่ในโมเมนต์
แสดงความสามารถอย่างสุดตัว ได้ถือถ้วยรางวัล
บ้างเป็นตุ๊กตาพี่หมีตัวใหญ่กลับบ้าน
เป็นเครื่องยืนยัน
ว่าความสามารถของพวกเขามีความหมาย
ถึงกิจกรรมจบไป แต่ความทรงจำในวันนี้
จะคงอยู่ในใจไปอีกนาน

-----------------------------
มูลนิธิกระจกเงา
ยินดีรับบริจาคสิ่งของเหลือใช้ทุกประเภท
สามารถส่งมาได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 191 ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7
แขวงตลาดบางเขน เขต หลักสี่ กทม. 10210
โทร.061-909-1840, -63-931-6340
หรือสนับสนุนศูนย์แบ่งต่อได้ที่
บัญชีศูนย์แบ่งต่อ โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 202-269023-1 SCB
———————————————--

#พื้นที่ขอบคุณผู้สนับสนุน
มูลนิธิศรีเทพไทย
บริษัทไทยเวิลด์แวร์โพลีโพรดักส์จำกัด
บริษัทไออาร์พีซีจํากัด (มหาชน)
บริษัทเอ็กโคแล็บจำกัด
บริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์จำกัด (มหาชน)
บริษัทหงต้าเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
น้องๆ Berry berry
ทีมป้าแดงอาสามาช่วย
และ บ้านบางแค สนับสนุนพื้นที่จัดงาน
#ศูนย์แบ่งต่อ #มูลนิธิกระจกเงา

4 สัญญาณเตือน
พื้นที่ภายในบ้านเริ่มวิกฤต
1.ทางเดินในบ้านเริ่มแคบลง
ทางเดินสัญจรในบ้านจากแต่เดิมเคยกว้างเหมือนถนน 8 เลน
นานวันเข้าเริ่มแคบลง ถูกทับด้วยของที่เพิ่งซื้อใหม่และของเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน
2.ของเคยอยู่ตรงนี้!! หายไปไหน?
อาการลืมว่าของชิ้นนี้อยู่ที่ไหน เป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป
อาการลักษณะนี่เกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย สาเหตุของอาการเกิดจาก
Flash Sale, 11.11 วันช็อปแห่งปี, นาทีทอง เป็นต้น
หากคุณเคยมีอาการแบบนี้ แสดงว่าพื้นที่ในบ้านเริ่มวิกฤตแล้ว
3.ราวแขวนผ้าเริ่มแอ่น ไม้แขวนเสื้อหมดตู้
ซื้อเสื้อผ้ามาใหม่ แต่เปิดตู้เสื้อผ้า กลับไม่มีไม้ที่จะแขวน
ตู้เองก็เริ่มเต็ม ต่อให้ราวแขวนผ้าที่ผลิตจากเหล็กน้ำดี
ก็ต้องยอมแพ้ให้กับปริมาณเสื้อผ้าที่มาใหม่แทบทุกอาทิตย์
4.เมื่อคุณเลื่อนฟีด แล้วเจอ "มูลนิธิกระจกเงา เคลียร์บ้าน"
บางครั้งเฟสบุ๊คเองก็เหมือนจะได้ยินสิ่งที่เราต้องการอยู่ตลอดเวลา
และหากวันนึงเลื่อนฟีด เจอโพสต์กระจกเงา ชวนเคลียร์บ้านละก็
คงถึงเวลาที่ต้องจัดการสิ่งของเหลือใช้ภายในบ้านแล้วล่ะ
สิ่งของเหลือใช้ที่ทำให้พื้นที่ในบ้านวิกฤต
เรายินดีรับไว้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าเสีย
เสื้อผ้าทุกประเภท อุปกรณ์การเรียน เครื่องมือทางการแพทย์ และอื่นๆ
เพื่อเปลี่ยนสิ่งของที่รกรุงรังให้เป็น "สิ่งของที่สร้างการเปลี่ยนแปลง"
สร้างอาชีพแก่ผู้ที่มีรายได้น้อย สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กๆ
สร้างการดูแลที่ดีให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง และสร้างพื้นที่และสังคมของการแบ่งปันให้กว้างขึ้น
หากผู้ที่สนใจนำของมาบริจาค​เอง
สามารถ​ Walk In เข้ามาได้ที่มูลนิธิ​กระจกเงา
เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.30 -​ 16.30
โทร. 061-909-1840

พิกัดแผนที่มูลนิธิ​กระจกเงา​
https://maps.app.goo.gl/QvDKq8XoQUD7N4Fe6

หรือบริจาคโดยส่งพัสดุ​มาที่มูลนิธิ​กระจกเงา​
​เลขที่​ 191 ซอย​ วิภาวดี​รังสิต 62 แยก 4-7
แขวง​ตลาด​บางเขน เขต​หลักสี่ ​กทม. 10210​​​​
โทร. 061-909-1840

#การแบ่งปันของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้
#มูลนิธิกระจกเงา