สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านผลิบาน

สัปดาห์นี้ขออัพเดตคลิปกิจกรรมและบรรยากาศการอยู่ร่วมกันของเด็กๆให้ชมกันแบบชิลๆยาวๆ 20 นาทีเต็มกันไปเลยนะคะ

เรายังทำกิจกรรมรูปแบบเดิมๆทุกวัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เด็กๆก้าวผ่านแต่ละช่วงวัยไปอย่างมั่นคงและราบรื่นที่สุด

ทำซ้ำ ทำอย่างสม่ำเสมอ ทำทุกวัน และจะทำต่อไป

ช่วงนี้ยังไม่เปิดรับสมัครเด็กๆนะคะ แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ รบกวนทำนัดเยี่ยมชมสถานที่และพูดคุยถึงแนวทางการดูแลด้วยกันก่อน แม่เหมยไม่สามารถรับดูแลได้ทุกเคส เพราะท้องใหญ่ขึ้นทุกวันแล้ว ขอให้แม่เก็บพลังงานกาย-ใจดูแลลูกน้อยในครรภ์ก่อนนะคะ ♥️♥️

สวัสดีค่ะ วันนี้แม่เหมยมาอัพคลิปกิจกรรม ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาให้ชมกันนะคะ

ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เด็กๆอยู่กับงานปั้นแป้งข้าวเหนียวกับงานศิลปะเป็นหลัก เพราะค่าฝุ่นละอองสูงมาก ไม่สามารถพาเด็กๆออกไปเล่นในสวนได้เลย

เราจึงตั้งโต๊ะ ผสมแป้งข้าวเหนียว ล้อมวงลงปั้นแป้งกัน ทำตัวละะครสำหรับเล่านิทาน เราตั้งชื่อนิทานเรื่องนี้ว่า "นิทานกาลเวลา" ที่เล่าถึงกิจวัตรประจำวัน ของเหล่าสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนถึงพระอาทิตย์ตกดิน

เป็นเรื่องราวของ กาลเวลาที่เปลี่ยนผ่านในแต่ละวัน ยามเช้ามีคุณพระอาทิตย์คอยส่งยิ้มหวาน และยามค่ำมีคุณดวงจันทร์คอยส่งเด็กๆเข้านอนในอ้อมกอดของแม่และพ่อ

ในส่วนของงานศิลปะ เราใช้สีผสมอาหาร ผสมกับกลีเซอรีนจากพืช นำมาให้เด็กๆได้ใช้ระบายสีด้วยมือหรือไม่ก็พู่กัน แล้วพาเด็กๆจินตนาการตามนิทานก่อนจะลงมือละเลงสีคนผืนกระดาษค่ะ

เรายังคงหาช่วงเวลาทอง ที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับน้องๆในห้องเสมอ หลังจากพาพี่ๆปั้นแป้ง และทำงานศิลปะสร็จแล้ว เราจะโยกย้ายเข้าไปหาน้องๆในห้อง ไปนั่งล้อมวงฟังนิทาน ร้องเพลง เล่น finger play ท่องคำคล้องจอง สัปดาห์นี้ ยังเป็นนิทานเรื่อง "ณ ที่ซึ่งไร้แสงทองฉาย" ที่เจ้าทูตจิ๋วตัวน้อย พ่ายแพ้เกิดคุณงามความดีของนางฟ้าน้อย เหมือนกับเด็กๆ ที่วันนึงจะเบื่อหน่ายความดื้อรั้นของตัวเอง แล้วมองเห็นความดีงามของโลกใบนี้ในที่สุด

แม่เหมยยังคงแน่วแน่ กับการพาดวงจิตวิญญาณของเด็กๆระลึกถึงโลกเบื้องบนที่เขาจากมา ด้วยเครื่องมือนิทาน ด้วยการเชื่อมโยงจิตวิญญาณกับงานศิลปะ ด้วยการฝึกจากลมหายใจ เพื่อเป็นพื้นฐานการสร้างภาวะความไหลลื่นของดวงจิตอย่างง่าย

แต่เพราะเด็กๆแต่ละคน มีทรัพยากรติดตัวมาแตกต่างกันออกไป จังหวะชีวิตไม่เหมือนกัน จึงเป็นหน้าที่ของแม่เหมย ที่ต้องวางจังหวะชีวิตให้เนิบช้าและชัดเจนในบ้านหลังนี้ ให้ดวงจิตน้อยๆได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ให้สองมือด้วยน้อยๆได้มีโอกาสลองผิดลองถูก ให้เด็กตัวน้อยๆของแม่ ได้เรียนรู้จังหวะชีวิตที่มั่นคงทุกวัน

ทำทุกวัน ทำต่อไป ทำอย่างสม่ำเสมอ แล้ววันหนึ่งดอกผลจะงอกงาม

ไปชมคลิปบรรยากาศการอยู่ร่วมกันของเด็กๆ ที่บ้านเนอสของเรากันนะคะ

ช่วงนี้ยังไม่เปิดรับสมัครเด็กๆนะคะ ขอเวลาแม่เหมยได้ใช้พลังกายและพลังใจ ดูแลลูกน้อยในครรภ์ก่อน แต่หากคุณพ่อคุณแม่ มีความจำเป็นจริงๆ รบกวนเข้ามาพูดคุยมาเยี่ยมชมสถานที่กันก่อนนะคะ แม่เหมยไม่สามารถรับดูแลได้ทุกเคส เพราะเรามีบุคลากรจำกัด จึงจำเป็นต้องเข้ามาพูดคุยกันและเยี่ยมชมสถานที่กันก่อนตัดสินใจรับดูแลค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้แม่เหมยมาอัพคลิปวีดีโอกิจกรรมในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ของเรากันค่ะ

เรายังพอมีโชคบ้าง ที่ในช่วงต้นสัปดาห์ก่อนยังพอมีสภาพอากาศดีๆให้เด็กๆได้ออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งกัน แม้เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่ PM 2.5 จะหนาแน่นขึ้นก็ตามที

ในช่วงต้นสัปดาห์นั้น เด็กๆยังได้ออกไปวิ่งเล่นในสวน ชมกระรอก ฟังเสียงนกร้อง เล่นกับแมว เหยียบดิน เล่นทราย ระบายสีก้อนหิน ทำของเล่นจากกิ่งไม้ อีกทั้งยังได้ปีนป่ายบันไดไม้ไผ่ ไปเก็บดอกไม้ใบหญ้ามาจัดแจกันน้อยๆกันได้

เสมือนเป็นกุญแจดอกน้อยๆ ที่ให้เด็กๆไขประตูก้าวไปสู่โลกใบใหญ่ ให้เค้าได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัว ช่วยปลอบประโลมดวงจิตดวงใจของเด็กๆ ให้สงบ ในยุคสมัยที่ทุกอย่างหมุนวนรอบตัวเด็กๆด้วยความเร่งรีบ

แต่ในวันที่ฝุ่น PM หนามากๆ แน่นอนค่ะ เราใช้ชีวิตกลางแจ้งไม่ไหว เราจะจำกัดเวลาเหลือเพียงแค่เก็บเกี่ยวใบไม้ใบหญ้ามาประดับแจกันเท่านั้น แล้วเราก็ย้ายเข้ามาล้อมวงร้องเพลง ท่องคำคล้องจอง เล่น finger play ฝึกกำหนดจับลมหายใจเข้าออกง่ายๆ ผ่านการจินตนาการสู่โลกเบื้องบน และฟังนิทานเรื่องเล่า จากหนังสือ "เมฆเริงรำ สายน้ำร้องเพลง" โดย 3 สัปดาห์ต่อจากนี้ เป็นเรื่อง "ณ ที่ซึ่งไร้แสงทองฉาย"ค่ะ

แล้วเราจะปิดท้ายกันที่ การขอพรจากนางฟ้าแม่เฒ่า ผู้สถิตอยู่ ณ สะพานสายรุ้งแห่งสรวงสวรรค์ ให้เปลวเทียนแห่งความเมตตาอารี ประทับอยู่ในใจของเด็กๆตราบนานเท่านาน

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เด็กๆจำเป็นต้องมีระดับความสามารถในการกำกับตัวเองตามวัยเพียงพอ ที่จะสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่รบกวนผู้อื่น และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขภายใต้บ้านน้อยหลังนี้ได้

แม่เหมยกราบขอบพระคุณผู้ปกครองเด็กๆทุกท่าน ที่ช่วยเหลือฝึกฝนวินัยตามวัยแก่เด็กๆต่อเนื่องที่บ้าน ในฐานะแม่ เราทราบดี การฝึกฝนวินัยให้ลูก มิใช่แค่การลงมือฝึกอย่างสม่ำเสมอด้วยมือของแม่เอง แต่คือการเป็นแบบอย่างที่งดงามของครอบครัว ที่จะนำพาจิตใจของเด็กๆให้เข้มแข็งและผ่านแต่ละขั้นตอนการฝึกฝนไปด้วยความราบรื่นที่สุด

"สามเหลี่ยมพ่อแม่คือสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อพ่อแม่พูดตรงกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ลูกจะไม่ไขว้เขว" อาจารย์หมอประเสริฐเคยกล่าวไว้

ช่วงนี้เรายังไม่เปิดรับสมัครเด็กๆ เพราะแม่เหมยตั้งครรภ์กำลังจะครบไตรมาสที่ 2 แล้ว จำต้องเก็บพลังกายพลังใจเอาไว้ดูแลลูกในครรภ์ก่อน ต้องขออภัยทุกท่าน ที่มีความตั้งใจนำส่งลูกๆของท่าน มาอยู่ร่วมเนอสเซอรี่ของเรามา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้แม่เหมยมาอัพเดทคลิปกิจกรรมในในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ค่ะ

ในสวนผักของบ้านเรา ผักในแปลงเขียวสดชื่นชุ่มฉ่ำ อากาศเย็นสบายตั้งแต่เดือนธันวาคม วันนี้อายุผักครบ 45 วันแล้ว รสชาติหวานกรอบ ขอบคุณเทวดาเดินดิน (คุณตาของเด็กๆ) ที่คอยดูแลผักทุกต้นด้วยความใส่ใจ จนวันนี้เรามีวัตถุดิบชั้นดีปลอดสารพิษ มาปรุงอาหารให้เด็กๆทานกันค่ะ

ถึงแม้อากาศจะเย็นสบายแต่ค่าฝุ่นละอองสูงมาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม่เหมยจึงจำกัดเวลาเล่นกลางแจ้งของเด็กๆ แน่นอนค่ะมันทำให้เด็กๆรู้สึกอึดอัดใจไปบ้าง เพราะเขาเป็นช่วงวัยที่ต้องการพื้นที่เล่นกว้างๆ วิ่งเล่นกลางแสงแดด ให้เวลาตัวเองเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวมากที่สุด

เพราะธรรมชาติ เป็นพลังงานที่อ่อนโยน เยียวยาจิตใจมนุษย์ทุกคนบนโลกได้เสมอ

ทุกๆวันเราจะเริ่มต้นวัน ด้วยการล้อมวงทำงานศิลปะจากสีน้ำ เป็นสีผสมอาหารกับแป้งข้าวเหนียว พากำหนดลมหายใจเข้าออกง่ายๆ เอามือปิดตา แล้วพากันเดินเท้าเปล่าท่องไปในทุ่งหญ้าในจินตนาการ พาหัวใจดวงน้อยๆเชื่อมโยงสู่โลกแห่งจิตวิญญาณ กลับไปหาแหล่งพลังงานทางใจที่จะช่วยกล่อมเกลาให้หัวใจดวงน้อยสงบลง

หากดอกไม้ในแจกันเหี่ยวเฉา เราจะพาการท่องไปในสวน ตามหาดอกไม้ใบหญ้ามาประดับตกแต่งแจกันกันใหม่ แม้ดอกไม้ช่วงนี้จะโรยราไปแล้ว เราปรับเปลี่ยนมาเป็นโรสแมรี่ , ดอกอัญชันหลากสี , ดอกหางกระรอกสีแดง, และใบมะกรูด มาแต่งแต้มแจกันให้สวยงามก็ย่อมได้

บางวันเราจะทำของเล่นจากไหมพรม เป็นเชือกถักบ้าง เป็นร้อยเชือกบ้าง หรือจะนำผ้าอ้อมมามัดเป็นตุ๊กตาก็ได้ หนทางในการทำของเล่นของเราในสิ้นสุดง่ายๆหรอกค่ะ

แล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย คือการได้ล้อมวงกันฟังนิทาน ได้เล่น finger play ทองคำคล้องจอง ร้องเพลงร่วมกัน และปิดท้ายที่การขอพรจากนางฟ้าแม่เฒ่า ผู้สถิตอยู่ ณ สะพานสายรุ้งแห่งสรวงสวรรค์ ให้เปลวเทียนแห่งความเมตตาอารี เสกพรวิเศษให้เด็กๆมีสติตื่นรู้ตราบนานเท่านาน

แน่นอนว่ากิจกรรมเหล่านี้ เราพยายามจะทำให้ครบถ้วนทุกวัน แต่ความพร้อมของเด็กๆในแต่ละวันมีไม่เท่ากัน บางวันทำครบถ้วนดี กว่าเราจะได้ทานข้าวกลางวันร่วมกันก็ปาไปบ่ายแล้ว หรือบางวันเราอาจจะทำได้เพียงแค่กิจกรรมเดียวเพราะความพร้อมของเด็กๆไม่อำนวย

ค่อยๆปรับค่อยๆเปลี่ยนกันไปนะคะ

แม่เหมยขอบคุณพ่อแม่ทุกคนจากหัวใจ ที่เข้าใจธรรมชาติของลูกตัวเอง และยินดีให้แม่เหมยปรับเปลี่ยนกิจกรรมในแต่ละวันด้วยความยืดหยุ่นมาตลอด

และขอบคุณจากหัวใจอีกครั้ง ที่ทุกท่านช่วยฝึกฝนเด็กๆให้ช่วยเหลือตัวเองตามวัย ถ้าเด็กๆไม่ได้ฝึกฝนต่อเนื่องไปถึงที่บ้าน แม่เหมยคงไม่มีโอกาส ได้พาเด็กๆทำกิจกรรมเต็มที่แบบนี้หรอกค่ะ

เพราะเมื่อเด็กๆมีพัฒนาการตามวัยดีแล้ว ช่วยเหลือตัวเองได้ดีแล้ว เขาจะพร้อมทำกิจกรรมที่ต้องอดทนกำกับตัวเอง ให้อยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างสันติสุขได้

น้องเล็กในห้องเด็กอ่อนไม่สบายกันจะครบ 2 อาทิตย์แล้ว คุณพ่อคุณแม่อดทนกันอีกหน่อย คุณยายหอมของเราดูแลเด็กๆอย่างใกล้ชิดทุกคน เป็นเด็กเมื่อสถานการณ์ฝุ่นควันดีขึ้น เด็กๆจะแข็งแรงขึ้นค่ะ

รอบนี้คลิปยาวหน่อยเพราะกิจกรรมแน่น ดูกันไปเพลินๆแล้วกันนะคะ

สวัสดีปีใหม่ 2568 นะคะ

2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาแสนสวยงามที่เด็กๆได้เติบโตขึ้นไปพร้อมหน้าพร้อมตากัน เด็กๆหลายคนก้าวข้ามผ่านช่วงเปลี่ยนแปลงตามวัยได้อย่างราบรื่น ยังความชื่นใจมาสู่ผู้เลี้ยงดูอย่างแม่เหมยคนนี้เป็นที่สุด

จากเด็กน้อยที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ปีนี้กลายเป็นเด็กที่ร่าเริงสดใส กล้าเผชิญหน้าเล่นกับเพื่อนได้มากขึ้น

บางคนเมื่อปีกลาย ยังเป็นเด็กที่มักจะเล่นกับเพื่อนแรงๆ มาปีนี้กลายเป็นเด็กที่พยายามเล่นกับเพื่อนอย่างสุภาพอ่อนโยน

หรือเด็กน้อยบางคน ปีที่แล้วยังกำกับตัวเองลำบาก มาปีนี้กลับพยายามดูแลพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ

ทุกการเปลี่ยนแปลงที่ดี เป็นสัญญาณบอกว่า

"เรามาถูกทางแล้ว"

"อะไรที่ยากเย็นในวันวาน มาวันนี้ควรง่ายดายขึ้น" เป็นคำพูดติดปากของอาจารย์หมอประเสริฐเสมอ

และผู้ปกครองที่บ้านผลิบานของเรา ก็ดูแลลูกๆด้วยความอุตสาหะและแน่วแน่ในทิศทางเดียวกันเสมอมา บัดนี้ผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้นแล้ว ลูกๆของเราเติบโตขึ้นอย่างงดงามจริงๆ

ปีนี้ เราจึงเพิ่มเวลาทำกิจกรรมศิลปะบำบัด และธรรมชาติบำบัดให้กับลูกๆของเรามากขึ้น ให้ชีวิตน้อยๆได้เรียนรู้ความยืดหยุ่น เพิ่มเวลาให้เด็กๆได้ใช้ทักษะชีวิตกับสิ่งที่ตัวเองกำลังลงมือทำงานตรงหน้ามากขึ้น

เมื่อเค้าได้มี "เวลา" อยู่กับทักษะตรงหน้ามากขึ้น เค้าจะเห็น "โอกาสในการทำอีกครั้ง" แม้จะทำไม่ถูกไปสัก 10 รอบ แต่ในรอบที่ 11 ต่อจากนี้ไป เค้าจะพบว่า เค้าทำมันได้ด้วยตัวเองแล้ว

แน่นอน มีเด็กบางคนจะถอยหลังไปบ้างก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมนุษย์ทุกคนจะเลือกวิธีที่ง่ายกว่าเสมอ แต่เมื่อเรา ผู้เลี้ยงดูและพ่อแม่ ฝึกฝนลูกๆไปในทิศมางเดียวกันด้วยความเสมอต้นเสมอปลาย เหล่านี้แสดงถึงความ "มีวินัย" ที่เข้มแข็ง ไม่ย่อหย่อน ซึ่งช่วยประคับประคองจิตใจเด็กๆ ให้อดทนฝึกปรือทักษะได้อย่างต่อเนื่อง จนเค้าพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกันได้อีกครั้ง

เหมือนที่อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเคยบอกแม่เหมยไว้

"พาทำไปเถอะ อดทนพาทำไปเรื่อยๆ พาทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าเค้าจะมั่นใจ แล้ววันหนึ่งเค้าจะก้าวข้ามมันไปได้ด้วยตัวเอง"

มันไม่ใช่การวิ่งแข่งระยะสั้น แต่คือการแข่งระดับมาราธอน บนถนนของการฝึกฝนสายนี้ เด็กๆจะค่อยๆเรียนรู้และเกิดทักษะไปโดยปริยาย แล้วทักษะชีวิตเหล่านี้จะติดตัวเด็กๆไปตราบนานเท่านาน

ไปดูเหล่าดอกไม้น้อยๆเติบโตด้วยกันนะคะ

รวมคลิปบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันของเด็กๆ รอบสัปดาห์นี้ค่ะ

รวมคลิปและภาพบรรยากาศการอยู่ร่วมกันของเด็กๆในรอบสัปดาห์นี้ค่ะ

ที่บ้านผลิบาน เราสนับสนุนให้เด็กๆได้ใช้นิ้วมือทั้งสิบนิ้วผ่านงานปั้น งานศิลปะ งานฝีมืออย่างง่าย เช่น ปั้นแป้งจากแป้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า , ร้อยกระดุม , ร้อยใบมะกรูดทำเป็นพวงเครื่องหอม รวมถึงงานบ้าน งานครัว ที่เด็กๆจะร่วมลงมือลงแรงทำด้วยกันในบ้านหลังนี้ค่ะ

หากวันไหนพอมีเวลาเหลือ จะพาทำงงานศิลปะประเมินสภาวะอารมณ์ผ่านสีสัน ด้วยเครื่องมือเรื่องเล่า "ลูกหนูในโรงนา" ที่เด็กๆและแม่เหมยจะได้ทำงานศิลปะที่แสนเรียบง่ายล้อไปตามเนื้อหานิทานค่ะ

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เด็กๆใช้สีเขียว, สีฟ้าและสีเหลืองเป็นส่วนมา เป็นสีสันที่พบเจอได้ในสวน เป็นสีวันของใบไม้ใบหญ้า เป็นสีแห่งแสงจ้าและท้องฟ้า จึงทำให้แม่เหมยตระหนักได้ว่า เด็กๆคิดถึงการวิ่งเล่นกลางแจ้ง อยากเดินย่ำพื้นดินในสวนแล้ว ในรอบสัปดาห์ต่อๆไป จะพยายามปรับกิจกรรมออกไปนอกบ้านบ้างนะคะ

ส่วนน้องๆ มีช่วงเวลาที่ได้พบปะกับพี่ๆช่วงชมละครนิทานและงานฝีมือบางอย่าง เพื่อให้เค้าได้ซึมซับบรรยากาศการอยุ่ร่วมกันอย่างสันติค่ะ

เพราะสายสัมพันธ์คือสื่อกระตุ้นพัฒนาการที่เรียบง่าย ได้ผลชัดเจน และงดงามเสมอ

ขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กๆได้มาเรียนรู้กันและกันนะคะ

สวัสดีค่ะทุกท่าน

บ้านผลิบาน ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่าตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป สถานรับเลี้ยงเด็กบ้านผลิบ้าน ปิดการรับสมัครเด็กๆไปจนถึงเดือนธันวาคม 2568 เลยนะคะ

เนื่องจากเด็กๆของเรามีจำนวนเต็มอัตรากำลังของผู้ดูแลแล้ว และแม่เหมยกำลังตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 เพื่อให้เด็กๆของเราทุกคนได้มีเวลาคุณภาพและลงมือลงใจทำกิจกรรมฝึกฝนพัฒนาการให้ตัวเองก้าวผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านวัยได้อย่างราบรื่นที่สุด แม่เหมยจึงตัดสินใจปิดรับสมัครเด็กๆทุกช่วงวัยตั้งแต่บัดนี้ไปต้นไปค่ะ

อย่างที่ทุกท่านทราบ ภารกิจของบ้านผลิบานของเรา นอกเหนือจากดูแลเด็กๆ ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัยแล้วนั้น เรายังนำศิลปะแขนงต่างๆ มาเป็นเครื่องมือในการกล่อมเกลาจิตวิญญาณน้อยๆให้เติบโตร่วมด้วย

ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า "เด็กแต่ละคนมีช่วงจังหวะเวลาที่แตกต่างกัน"

ดังนั้น กิจกรรมของบ้านผลิบาน จึงดำเนินไปด้วยความเรียบง่าย รูปแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อรอจนกว่าเด็กๆ จะมีความมั่นใจและก้าวผ่านไปได้ด้วยตัวเอง

แต่ถึงอย่างไร จิตวิณญาณของความเป็นแม่ในตัวแม่เหมยคนนี้ ยังคงเหมือนเดิม

เรายังคงให้ความสำคัญกับการฝึกฝนทักษะการช่วยเหลือตัวเองตามวัย ผ่านงานดูแลพื้นที่ส่วนตัวของเด็กๆเอง

พาฝึกทักษะการใช้นิ้วมือทั้งสิบด้วยงานบ้าน งานครัว งานสวน และงานฝีมือจากวัสดุธรรมชาติในสวน

พาฝึกทักษะการใช้และเข้าใจภาษาผ่านนิทานเรื่องเล่าด้วยเครื่องมือตุ๊กตาตั้งโต๊ะทำมือ และวัสดุธรรมชาติ

พาทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมที่ไม่น่ารักผ่านบทเพลง ร้อง เคาะ เต้น ตามท่วงทำนองที่เรียบง่ายและแผ่วเบา

พาฝึกทักษะระบบการคิดแบบยืดหยุ่นผ่านการเล่นวัสดุตามธรรมชาติ และข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านอันเป็นวิถีชีวิตปู่ย่าตายายสืบกันมา

ตลอดจนการฝึกปรับทักษะมารยาทการอยู่ร่วมกันบนกติกาที่ชัดเจน และเคารพในความเป็นตัวตนของกันและกัน

เพราะแม่คนนี้ ทำใจเห็นลูกเป็นภาระคนนอกบ้านไม่ได้

อย่างน้อย เมื่อถึงวัยไปโรงเรียนแล้ว ลูกควรพร้อมเรียน พร้อมเล่นกับเพื่อน พร้อมเอนจอยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ไม่ใช่พะวงหาแต่ความช่วยเหลือพึ่งพาจากครู หรือผู้ใหญ่

แล้วเมื่อไหร่ลูกจะพร้อมไปโรงเรียนล่ะ

เมื่อลูกๆ ของเรา พร้อมที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่คนอื่นโดยไม่ต้องร้องขอแล้วอย่างไรเล่า

เมื่อเด็กคนหนึ่งมีความรักและตระหนักถึงคุณค่าของตนเองเพียงพอแล้ว มีความมั่นใจที่จะช่วยเหลือตัวเองตามวัยดีแล้ว เด็กคนนั้นจะไม่ลังเลที่จะหยิบยื่นและแบ่งปันความรัก ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น

เราบ่มเพาะได้ตั้งแต่เขายังเล็ก ไม่มีคำว่าสาย มีแต่คำว่าลงมือทำกันวันนี้เลยเถอะ

เหนือสิ่งอื่นใด พ่อและแม่ต้องปรับเปลี่ยนไปพร้อมๆกับลูกนะคะ เดินจูงมือกันไป ก้าวข้ามผ่านทุกข์และสุขไปพร้อมกับลูก คือเครื่องการันตีความรักของครอบครัว ที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้อีกบนโลกใบนี้ค่ะ

บรรยากาศเล่านิทานประกอบการเล่นตุ๊กตาตั้งโต๊ะเรื่อง "บุบบิบบู้บี้" จากหนังสือ "เมฆเริงรำ สายน้ำร้องเพลง"

รอบแรก แม่เล่าให้ฟัง เด็กๆอยู่ฟังครบ ใครรบกวนเพื่อน ขอให้รอชมอยู่ด้านหลัง

รอบที่สอง เด็กๆอยากเล่าให้ฟังบ้าง ใครจะอยู่ฟัง ก็ยินดี ใครอยากออกไปเล่นตามสบายก็ไม่มีปัญหา

ให้เด็กๆลงมือเชิดหุ่นตามเรื่องราวกันเอง

เสียงกระดิ่งแทนพิณ เมตรอนอมส่งจังหวะที่เบาบางผ่อนคลาย

ให้บรรยากาศดั่งต้องมนตร์สะกด เชื่อมโยงเด็กๆเข้าสู่เรื่องราวในความฝัน

"ได้เวลาของโลกนิทาน"