เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/916241548488939/

Mugs Cafe'

Q: ที่อยู่อะไร?

บ้านใหญ่ ต เมืองคง

ความคิดเห็น

น้ำพั้นอร่อยๆครับ

รสชาติ ละมุล ทั่วปากเมื่อได้ดื่ม

อาราบิก้า �% กาแฟเข้ม เต็มรสชาติ

18/03/2020

Photos from เต็มใจเนื้อย่าง & Mugs Cafe''s post

09/02/2020

คนรักกาแฟ☕️☕️☕️🍵🍵🍵

21/12/2019

มาจ๊ะ อากาศดีดี ซด กาแฟร้อน กัน

05/07/2017

😍

09/01/2017

Mugs Cafe'

อืม

Mugs Cafe' อาราบิก้า �% กาแฟเข้ม เต็มรสชาติ

14/12/2016

Timeline photos

07/12/2016

Timeline photos

16/10/2016

Timeline photos

13/09/2016

แฟนประจำ

30/08/2016

Timeline photos

20/08/2016

ชานมหอมๆ

03/08/2016

นัวๆ

01/08/2016

ชาเขียวปั่น ชื่นใจ

29/07/2016

Timeline photos

26/07/2016

โยเกิร์ตสมูทตี้ ส้ม

26/07/2016

หลวงพี่ ก็มาจัดชาเขียว. สาธุ

13/07/2016

ฟ้าหลังฝน

24/06/2016

ขอบคุณครับ ขาประจำเช้าๆ

09/06/2016

Timeline photos

01/06/2016

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1678336615762272&id=100007578494709

31/05/2016

หยุดอีกวัน เศร้า

26/05/2016

https://www.youtube.com/watch?v=EQRnZA0y4Poเมล็ดกาแฟที่ทางร้านเลือกใช้

26/05/2016

คำคมคนรักกาแฟ : "Coffee should be black as the devil, hot as hell ,pure as an angle and sweet as love"

หลายคนเคยตั้งคำถามกับผมว่า กาแฟสดกับกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) ที่เราชงดื่มกันทุก ๆ เช้านั้นต่างกันอย่างไร ทำไมคนจึงหันมานิยมดื่มกาแฟสดกันมาก ทั้งที่กาแฟสดบางแก้วมีราคาแพงมากอาจถึงแก้วละ 100 บาท

คำถามยังมีอีกมากเหมือนยิงสลุตงานพิธีการ เช่น กาแฟสดกับกาแฟสำเร็จรูปนั้น ชนิดไหนมีคาเฟอีนมากน้อยกว่ากัน ในฐานะผู้บริโภคเราควรจะดื่มกาแฟชนิดใดดี วิธีการชงกาแฟสดยุ่งยากไหม กาแฟพันธุ์อะไรอร่อยที่สุดในโลก

คำถามอื่น ๆ ผมพอจะค้นคว้ามารับใช้ท่านได้ครับ แต่คำถามที่ว่ากาแฟอะไรงามเลิศที่สุดในปฐพี เอ้ย...อร่อยที่สุดในโลกนั้น บอกตรง ๆ ว่าตอบยากครับ

มันอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนมากกว่า เช่น บางคนชอบกาแฟร้อน บางคนชอบกาแฟเย็น บางคนใส่น้ำตาลและคอฟฟี่เมท บางคนไม่ใส่เลย ชอบดื่มแค่น้ำกาแฟเพียว ๆ เพื่อชิมรสชาติแท้ ๆ ของเครื่องดื่มจากสวรรค์ชนิดนี้

แต่ผมตอบท่านได้เต็มปากเต็มคำได้อย่างหนึ่งว่า "หากได้มีโอกาสดื่มกาแฟสดแล้ว น้อยมากที่ท่านจะหันกลับไปดื่มกาแฟสำเร็จรูปอีก"

รูปแบบหนึ่งของการแต่งหน้ากาแฟสด

ทีนี้เราลองมาดูกันว่า กาแฟสดกับกาแฟชนิดเกล็ดนั้นแตกต่างกันอย่างไร ว่ากันตั้งแต่กระบวนการผลิตกันเลยครับ

"กาแฟสด" เป็นกาแฟที่ทำจากเมล็ดกาแฟ 100% นำมาบดให้เป็นผง แล้วนำเข้าเครื่องชง มีต้นทางจากการเก็บเมล็ดกาแฟในไร่ แล้วนำมาผ่านขบวนการต่าง ๆ จนเข้าสู่โรงงานคัดกรอง เพื่อคัดแยกและดูแลในเรื่องคุณภาพอีกต่อหนึ่ง เพื่อได้กาแฟสดจริงๆ

ขั้นตอนต่างๆกว่าที่จะมาเป็นกาแฟสดให้เราดื่มกันนั้น ต้องผ่านหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนต้องพิถีพิถันละเอียดในทุกจุด ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ เพราะกาแฟแต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศรสชาติไม่เหมือนกัน เกี่ยวข้องหลายปัจจัย ทั้งภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ดิน และอื่นๆหลายอย่าง

เมื่อกำจัดเนื้อเยื่อกาแฟออกหมดแล้ว เอามาทำให้แห้งแล้วคั่ว บางแห่งเอากาแฟคั่วกับเนย ใส่เกลือน้ำตาลเล็กน้อย กาแฟที่คั่วและบดแล้วเป็นสีน้ำตาลแก่ กระบวนการคั่วและบดก็มีกรรมวิธีต่างกัน เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละคน เช่น เราคงได้ยินว่าคั่วแบบฝรั่งเศส หรือคั่วแบบเอสเพรสโซ (Espresso)

การนำกาแฟคั่วแล้วมาชงเป็นกาแฟสดก็มีเครื่องชงหลากหลายประเภทเช่นกัน

ส่วนกาแฟไม่สดหรือกาแฟสำเร็จรูปนั้นนั้น ก็คือ การทำให้กาแฟละลายน้ำร้อนง่ายๆ และพร้อมดื่มได้ทันที ไม่ต้องต้มกรองชนิดที่ต้องอาศัยเครื่องมือ อุปกรณ์ชง และกรรมวิธีที่ชวนให้วุ่นวาย

กาแฟชงสำเร็จรูป

กาแฟสำเร็จรูปนี้ประวัติย้อนหลังไปถึงกว่า 107 ปี ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างใด เกิดจากนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่ไม่ชอบใจในฝีมือการชงกาแฟของตัวเอง บางทีชงเข้มไป บางทีชงอ่อนไป ก็เลยประดิษฐ์วิธีที่ต้มกาแฟทีเดียวแล้วเก็บไว้ดื่มใหม่ได้อีก โดยคิดการต้มกาแฟแล้วทำให้ "ระเหิด" หรือทำให้ของเหลวกลายเป็นของแข็ง(เกล็ดหรือผง) กรรมวิธีนี้เรียกว่า "สเปรย์ดราย" (Spraydried)

วิธีนี้นับว่าเป็นการปฏิวัติวงการกาแฟครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ทำให้การดื่มกาแฟเป็นเรื่องง่ายมาก ไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายสารพัด การผลิตกาแฟสำเร็จรูปนี้จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

แต่กระบวนการผลิตกาแฟสำเร็จรูปนี้ทำให้กาแฟสูญเสียกลิ่นหอมอันเป็นคุณสมบัติที่ความสำคัญสุด ๆ ไป

จนเมื่อประมาณสัก 30 ปีมานี้เอง นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งก็นำมาพัฒนาต่อ ทำให้น้ำกาแฟกลายเป็นเกล็ดที่อุณหภูมิเย็นมากๆ เรียกว่ากรรมวิธีแบบ "ฟรี๊ซดราย" (Freezdry) ช่วยคงความหอมของกาแฟได้มากกว่ากรรมวิธีสเปรย์ดราย

แน่นอนว่าต้นทุนดำเนินการก็สูงกว่าแบบเดิมมาก กาแฟสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดจึงมักจะเป็นแบบสเปรย์ดรายอยู่ประมาณ 3 เท่าตัว

หวังว่าคงพอจะเข้าใจกันไม่มากก็น้อย ถ้าอยากให้เพิ่มเติมหรือเจาะลึกตรงไหนของเรื่องกาแฟก็บอกกันได้ครับ