จ่าแดง
ตำแหน่งใกล้เคียง การปฏิบัติตามกฎหมาย
109, Si Sa Ket
ศาลากลางจังหวัด ชั้น, Sisakate
ถนนวิจิตรนคร ตำบลเมืองเห, Sisakate
Sisakate 33270
หมู่ที่ 10 ต. น้ำเกลี้ยง อ. น้ำเกลี้ยง, Sisakate
Si Sa Ket 33000
ม. 11 ต. หนองไผ่ อ. เมือง จ. ศรีสะเกษ, Si Sa Ket
ซอย อัมพรร่วมใจ, Si Sa Ket
คิงส์วัสดุ ถนนศรีสะเกษขุขัน, Si Sa Ket
ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท เงินทุน
Sisaket, Si Sa Ket
173 ถนนเทพา ต.เมืองเหนือ อ.เมือง, Sisakate
109, Si Sa Ket
Bangkok
Si Sa Ket 33000
Si Sa Ket 33270
ไขปัญหากับจ่าแดง
คำพิพากษา (สิ่งดีๆมาฝากครับ..)
ในเมืองนิวยอร์ค เมื่อปี ค.ศ. 1935 มีการพิพากษาคดีหนึ่งในยามหัวค่ำอันหนาวเหน็บของเดือนมกราคม หญิงชราคนหนึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีลักขโมยขนมปังหนึ่งก้อน
หญิงชรามีท่าทีเศร้าหมอง และภายใต้ความเศร้านั้นก็มีความละอายแก่ใจอยู่ด้วย คืนนั้น ฟิโอเรลโล ลากวาเดีย ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กในขณะนั้นเป็นผู้พิพากษา
ฟิโอเรลโล ถามหญิงชรา “คุณขโมยขนมปังไปจริงหรือ?”
หญิงชราก้มหัวตอบอย่างหดหู่ “ฉันขโมยขนมปังจริงๆ ค่ะท่าน”
ผู้พิพากษาถามต่อว่า “เพราะเหตุใดคุณจึงต้องขโมยขนมปัง คุณไม่มีอะไรจะกินหรือ?”
หญิงชราเงยหน้าขึ้นบอกผู้พิพากษา “ใช่ค่ะ ฉันหิวมาก แต่ฉันไม่ได้ขโมยขนมปังไปเพื่อกินเอง ลูกเขยของฉันทิ้งครอบครัวไป ลูกสาวของฉันล้มป่วย หลานสองคนของฉันไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ฉันไม่อาจทนเห็นหลานตัวเล็กๆ ทนหิวได้”
ห้องพิจารณาคดีเงียบกริบหลังได้ฟังคำอธิบายของหญิงชรา
ผู้พิพากษากล่าวกับหญิงชราว่า “ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย สำหรับข้อหาขโมยขนมปังคุณเลือกเอาว่าจะจ่ายค่าปรับ 10 เหรียญ หรือติดคุกเป็นเวลา 10 วัน”
หญิงชราตอบ “ท่านผู้พิพากษา ฉันยอมรับโทษในทุกสิ่งที่ฉันทำ หากฉันมีเงิน 10 เหรียญ ฉันจะไม่ขโมยขนมปังหรอก ดังนั้นโปรดจำคุกฉันเถิด แต่สิ่งเดียวที่ฉันห่วงคือใครจะดูแลลูกสาวและหลานของฉันในช่วงเวลาที่ฉันติดคุก”
ผู้พิพากษาหยุดคิดพักหนึ่ง แล้วเขาก็ล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรสิบเหรียญขึ้นมาถือในมือ แล้วกล่าวว่า “ผมจะจ่ายค่าปรับให้คุณสิบเหรียญ คุณกลับบ้านไปได้”
ผู้พิพากษาหันไปพูดกับคนที่มาฟังการพิจารณาคดีในที่นั้นว่า “นอกจากนั้น ผมขอปรับทุกคนในห้องนี้คนละ 50 เซนต์ โทษฐานที่พวกคุณเมินเฉยและไร้น้ำใจในสังคม หญิงชราคนนี้ไม่ควรจะต้องขโมยขนมปังเพื่อประทังชีวิตหลานและคนในครอบครัวหากพวกคุณให้การช่วยเหลือเธอ คุณไบลีฟ โปรดเก็บเงินจากทุกคน คนละ 50 เซนต์ แล้วมอบเงินนั้นให้ผู้ต้องหา”
ทุกคนในที่นั้นรวมไปถึงเจ้าของร้านขนมปังที่ฟ้องร้องนำหญิงชรามาขึ้นศาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มาฟังการตัดสินรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการจ่ายค่าปรับคนละ 50 เซนต์ พวกเขายอมรับและยืนขึ้นปรบมือชื่นชมผลการตัดสิน
วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ลงข่าวการมอบเงินค่าปรับจำนวน 47.5 เหรียญ ให้กับหญิงชราผู้น่าสงสารเพื่อนำไปซื้ออาหารให้ครอบครัว
🥖 🍞 🥖 🍞 🥖 🍞
ผลการตัดสินคดีของผู้พิพากษากระตุ้นให้ผู้คนในสังคมได้เห็นว่า ทุกคนมีส่วนร่วมในทุกข์สุขของกันและกัน และหากมีอาชญากรรมเนื่องด้วยเรื่องของปากท้องเช่นนี้เกิดขึ้นในชุมชน นั่นก็หมายถึงเราทุกคนมีส่วนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
เราทุกคนต่างเกี่ยวเนื่องกัน หากคนหนึ่งทุกข์ คนอื่นๆ ก็จะทุกข์ตาม เราจะต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้กัน เพื่อมิให้มีใครคนใดคนหนึ่งถูกลืมไปจากสังคม
คำพิพากษา เรียบเรียงมาจากเรื่องเล่าส่วนหนึ่งในชีวิตจริงของ ฟิโอเรลโล ลากวาเดีย อดีตนายกเทศมนตรีผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับแห่งมหานครนิวยอร์ก ขอบคุณฎีกาดีๆครับ
❤❤❤ใครมีร้านขายเบียร์ โปรดอ่านทางนี้
ยินยอมให้ติดแผ่นป้ายไวนิลมีข้อความว่า “เบียร์เป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมได้” ที่ชายคาหน้าร้าน อาจเป็นเหตุให้เจ้าของร้านติดคุกได้
(เกร็ดกฎหมาย 26) : คดีนี้เจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดนครพนม ติดป้ายไวนิลสีเขียวเข้ม ขนาดกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร จำนวน 3 ผืน ผูกแขวนอยู่หน้าร้าน ทุกป้ายมีข้อความว่า “เบียร์เป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมได้” ตรงกลางมีคำว่า “ช้าง” ด้านล่างมีสัญลักษณ์รูปช้างสองเชือกสีขาวยืนหันหน้าเข้าหากันภายใต้น้ำพุ และอักษรภาษาอังกฤษว่า “Chang” และ “BEER” ผู้อ่านคงทราบแล้วนะครับว่าเป็นสัญลักษณ์ของเบียร์ยี่ห้ออะไร บางคนดื่มบ่อยด้วย
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าของร้านเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัด ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 3 ,32 ,43 ปรากฎว่าศาลจังหวัดยกฟ้อง พนักงานอัยการอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลจังหวัดว่า เจ้าของร้านมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 วรรคหนึ่ง ,43 วรรคหนึ่ง พิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี เจ้าของร้านฎีกา ปรากฎว่า ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ด้านล่างของป้ายมีสัญลักษณ์รูปช้างสองเชือกสีขาวยืนหันหน้าเข้าหากันภายใต้น้ำพุ และอักษรภาษาอังกฤษว่า “Chang” และ “BEER” เป็นรูปเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัทเบียร์ช้างจำกัด ส่อให้เห็นหรือทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นภาพของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทเบียร์ ยี่ห้อช้าง อันเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทเบียร์ที่มีชื่อการค้าว่า “Chang” เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเห็นและทราบข้อความดังกล่าว เมื่อเจ้าของร้านยินยอมให้ปิดแผ่นป้ายโฆษณาดังกล่าวที่หน้าร้าน ประกอบกับเป็นร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทเบียร์ ยี่ห้อช้าง ร้านตั้งอยู่ริมถนนที่ผู้คนสัญจรไปมาสามารถมองเห็นได้ง่าย การปิดแผ่นป้ายดังกล่าวจึงเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้าและการสื่อสารการตลาด เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 วรรคหนึ่ง และมาตรา 43 วรรคหนึ่ง อย่างไรก็ดี ศาลฎีกาเห็นว่า การที่เจ้าของร้านเพียงแต่ยินยอมให้พนักงานของบริษัทผู้จำหน่ายนำป้ายไวนิลดังกล่าวไปติดตั้งที่บริเวณชายคาหน้าร้านนั้น เป็นพฤติการณ์ที่ไม่ร้ายแรงนัก เมื่อเจ้าของร้านไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้โอกาสเจ้าของร้านกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นไม่ลงโทษจำคุกและไม่ปรับ แต่ให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 2 ปี (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3624/2560)
ข้อสังเกตหรืออุทธาหรณ์เตือนใจ บางครั้งการไม่รู้กฎหมายอย่างเจ้าของร้านในคดีนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาแก่ตนเองและครอบครัวได้ เพียงแค่ยินยอมให้พนักงานของบริษัทจำหน่ายเบียร์ติดป้ายไวนิลที่ชายคาหน้าร้าน เกือบถูกจำคุกซะแล้ว เพราะเท่ากับว่าเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้าและการสื่อสารการตลาด ตามนิยามความหมายของคำว่า “โฆษณา” ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 3 ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง และมาตรา 43 วรรคหนึ่ง โชคดีที่ศาลฎีกาในคดีนี้เมตตาเจ้าของร้าน จึงพิพากษาไม่ลงโทษทั้งจำคุกและปรับ แต่ให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ซึ่งหมายความว่า ภายใน 2 ปีนั้น เจ้าของร้านต้องไม่กระทำความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในทำนองเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้น จะถูกศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีนี้บวกเข้ากับโทษในคดีหลัง
“วรวุฒิ เทพทอง”
19 มีค. 61
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
มาตรา 3 “ในพระราชบัญญัตินี้...
“โฆษณา” หมายความว่า การกระทำไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ให้ประชาชนเห็น ได้ยินหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้า และให้หมายความรวมถึงการสื่อสารการตลาด”
มาตรา 32 วรรคหนึ่ง “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม”
มาตรา 43 วรรคหนึ่ง “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 32 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”....ขอบคุณข้อมุลดีๆ ❤❤❤
....การดื่มสุราหรือสิ่งเมาอย่างอื่น หรือเสพยาเสพติด จนไม่สามารถรู้ผิดชอบได้ และได้ไปกระทำความผิดกฎหมายอาญาขึ้น ผู้นั้นจะยกว่าตนเมาไม่ได้สติแก้ตัวไม่ให้ถูกลงโทษไม่ได้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๖...
🙇🙇คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 7471/2556 จำเลยเป็นห้างสรรพสินค้าขายปลีกและขายส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค ย่อมต้องให้ความสำคัญด้านบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการเกี่ยวกับสถานที่จอดรถซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้าที่จะเข้าไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการอื่น ๆ หรือไม่แม้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 8(9),34 บัญญัติให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารต้องจัดให้มีพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การจราจร แต่จำเลยยังต้องคำนึงและมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทั่งในชีวิตและทรัพย์สิน มิใช่ปล่อยให้ลูกค้าระมัดระวังหรือเสี่ยงภัยเอาเอง การที่จำเลยเคยจัดให้มีการแจกบัตรสำหรับรถของลูกค้าที่เข้ามาในห้างซึ่งเป็นวิธีการที่ข่อนข้างรัดกุม เพราะหากไม่มีบัตรผ่าน กรณีจะนำรถออกไปจะต้องถูกตรวจสอบโดยพนักงานของจำเลย แต่ขณะเกิดเหตุกลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวเสียโดยใช้กล้องวงจรปิดแทน เป็นเหตุให้คนร้ายสามารถเข้าออกลานจอดรถห้างฯของจำเลยและโจรกรรมรถได้โดยง่ายยิ่งขึ่น แม้จำเลยจะปิดประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ รวมทั้งการที่ลูกค้าก็ทราบถึงการยกเลิกการแจกบัตรจอดรถ แต่ยังนำรถเข้ามาจอดก็ตาม ก็เป็นเรื่องข้อกำหนดของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลเป็นการยกเว้นความรับผิดในการทำละเมิดของจำเลย ...👩👩
🉑🈷...คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2559🈷🈶...
พฤติการณ์ของจำเลยที่จำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 1 เม็ด ให้แก่ บ. หลังจากนั้นแบ่งเมทแอมเฟตามีนให้แก่ บ. ส. ท. และ ร. คนละ 1/4 เม็ด เพื่อนำไปเสพอีก และจำเลยก็เสพในเวลาต่อเนื่องกัน แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะเสพด้วยจึงแบ่งเมทแอมเฟตามีนให้บุคคลดังกล่าวเพื่อจะเสพพร้อมกับจำเลย กรณีไม่ใช่จำเลยแบ่งเมทแอมเฟตามีนให้บุคคลดังกล่าวเพื่อให้แต่ละคนไปเสพเพียงลำพังภายหลัง จึงเป็นการมอบเมทแอมเฟตามีนให้แก่ผู้กระทำความผิดด้วยกัน มิใช่มีเจตนาแจกจ่ายให้แก่บุคคลดังกล่าว การกระทำของจำเลยหาได้อยู่ในความหมายของคำว่าจำหน่าย ตามความในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522

คำพิพากษาศาล จว.สิงห์บุรี คดีแดง ๑๗๔๙/๕๙
การแสดงใบอนุญาตใบขับขี่..... หมายถึง ชี้แจง อธิบาย บอกข้อความให้รู้ ทำให้ปรากฏออกมา ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ของใบอนุญาตขับรถนั้น
มิใช่เพียง การถือไว้และแจ้งว่า มีใบอนุญาตขับรถ จึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะมองเห็นรายละเอียดและตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่
-จำเลยเมื่อทราบคำสั่ง ต้องให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามคำสั่ง
-ส่วนจำเลยจะกระทำผิดหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง
เมื่อจำเลย ไม่ส่งมอบใบอนุญาตขับรถ แต่กลับขอดูบัตรตำรวจ ขณะปฏิบัติหน้าที่ในเครื่องแบบบริเวณจุดตรวจ ทั้งที่ไม่มีเหตุอันควรสงสัยหรือระแวงว่าพยานโจทก์ทั้งสาม ไม่ใช่ตำรวจ
ล้วนบ่งชี้ ถึงเจตนาของจำเลยที่ต้องการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน
ข้ออ้างของจำเลย ที่ไม่ยอมลงจากรถ ไม่ยอมส่งมอบใบขับขี่ เพราะไม่เชื่อว่า เป็นตำรวจและกลัวถูกทำร้าย
จึงไม่ถือว่าเป็นเหตุผลเพียงพอ.
เป็นความผิด ตาม ปอ.328 วรรคแรก
ทางปฏิบัติ ให้เตือนก่อนว่าการกระทำเช่นนี้เป็นความผิด หากไม่ยอมรับผิดและไม่ยอมให้ตรวจใบขับขี่ สมุดคู่มือรถ ฯลฯ หรือยอมแต่ไม่ชำระค่าปรับ ให้จับกุม บันทึกจับกุม ส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป

แก้กม.ได้ "บำนาญ" ขรก.ติดคุก-ทุจริต - GotoKnow
.......🚶🚶ขรก.ติดคุก-ทุจริต รับบำนาญได้หรือไม่....
กรมบัญชีกลางช่วยอดีต ขรก. เสนอแก้กฎหมายให้ผู้รับบำนาญที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก หรือเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต มีสิทธิได้รับเงินบำนาญหรือบำนาญตกทอดเหมือนเดิม ชี้โทษจำคุก-ล้มละลายเพียงพอแล้ว หากตัดสิทธิจะเป็นการเพิ่มโทษเป็น 2 เท่า นาย มนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่ากรมบัญชีกลางได้เสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 เกี่ยวกับการเสียสิทธิการรับบำนาญ โดยแก้ไขให้ผู้รับบำนาญที่ถูกตัดสินให้จำคุก หรือศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย ยังคงมีสิทธิได้รับบำนาญหรือบำเหน็จตกทอดเหมือนเดิม ขณะที่กฎหมายในปัจจุบันเมื่อผู้รับบำนาญถูกตัดสินให้จำคุกหรือเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต จะถูกตัดสิทธิการรับบำนาญหรือบำเหน็จตกทอดทันที โดยขณะนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวอยู่ระหว่างการนำเสนอ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป นายมนัสกล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ ก็เนื่องมาจากเห็นว่า บำนาญเป็นเงินที่ทางราชการให้ เพื่อตอบแทนการทำงานที่ผ่านมาแก่ข้าราชการ กรณีที่ผู้รับบำนาญกระทำความผิดและถูกศาลตัดสินให้ถูกจำคุก หรือเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตนั้น ถือเป็นการลงโทษไปแล้ว เพื่อความเป็นธรรมและเสมอภาคกับบุคคลโดยทั่วไป จึงไม่ควรที่จะถูกลงโทษเพิ่มด้วยการตัดสิทธิการรับบำนาญหรือบำเหน็จตกทอดอีก "ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย ดังกล่าว ได้มีการถกเถียงกันว่า การเพิ่มสิทธินี้จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้รับบำนาญไปกระทำความผิดเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทางกรมบัญชีกลางเห็นว่า ข้าราชการเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้วก็เสมือนประชาชนทั่วไป หากกระทำความผิดใด ๆ ก็ย่อมได้รับโทษตามกรณีนั้น ๆ ส่วนการให้บำนาญเป็นการตอบแทนการทำงาน และเป็นเงินยังชีพหลังออกจากราชการ เนื่องจากข้าราชการในขณะรับราชการจะไม่ได้สะสมเงินไว้ใช้ แต่หากตัดสิทธิการจ่ายเงินบำนาญอีกจะเหมือนกับถูกลงโทษ เป็น 2 เท่า" นายมนัสกล่าว นายมนัสกล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้รับบำนาญที่ถูกตัดสิทธิการรับบำนาญ เนื่องจากมีคำพิพากษาศาลให้จำคุก ในปี 2547 จำนวน 3 ราย ปี 2548 จำนวน 4 ราย ปี 2549 จำนวน 5 ราย ปี 2550 จำนวน 7 ราย และปี 2551 จำนวน 2 ราย สำหรับกรณีล้มละลายมีจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จึงยังต้องโอนเงินให้แก่กรมบังคับคดีในฐานะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อยู่ ทั้งนี้ บุคคลล้มละลายทุจริต ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2547 ได้กำหนดความหมายว่า บุคคลล้มละลายที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามมาตรา 163 ถึงมาตรา 170 แห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมาจาก หรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดฐานยักยอก หรือฉ้อโกงตาม ประมวลกฎหมายอาญา หรือการกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน นายมนัสยังกล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการคำนวณบำเหน็จตกทอด โดยให้นำเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ มารวมกับบำนาญรายเดือน เพื่อคูณ 30 เท่า เป็นเงินบำเหน็จตกทอด และการปรับเงินบำนาญพิเศษให้ผู้รับบำนาญพิเศษเหตุทุพพลภาพเมื่อรวมกับเงินบำนาญปกติแล้ว ถ้าไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือน ก็ให้ได้รับบำนาญพิเศษฯ เพิ่มจนครบ 15,000 บาท ว่าได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 25 ก ลงวันที่ 31 มกราคม 2551 มติชน 9 ก.พ. 51🚶🚶
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/164609
แก้กม.ได้ "บำนาญ" ขรก.ติดคุก-ทุจริต - GotoKnow บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5834/2559
จำเลยนำเมทแอมเฟตามีน 1 เม็ด มาแบ่งให้ ธ. เสพ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำให้ยาเสพติดแพร่กระจายไปยังบุคคลอื่นโดยวิธีการให้อันเป็นการจำหน่ายตามบทนิยามคำว่า "จำหน่าย" ตามความในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน
ฎีกานี้น่าสนใจครับ
ฏีกาดีๆ มาฝาก
ฎีกา บัตร ปปส. 2558
ฎีกาที่ 10067/2558
ย่อสั้น
การที่พันตำรวจโท ก. แสดงบัตร ป.ป.ส. ต่อจำเลยก่อนทำการค้น แสดงว่าพันตำรวจโท ก. แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 และตามพฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้จำเลยจะหลบหนีไป ทั้งทรัพย์สินในบ้านเกิดเหตุซึ่งมีไว้เป็นความผิดจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม พันตำรวจโท ก. กับพวกจึงมีอำนาจเข้าไปในบ้านเกิดเหตุเพื่อตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายค้นตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 14 ตรี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 4, 7, 8, 15, 66, 97, 100/1, 102 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 72 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 92 ริบเมทแอมเฟตามีนกับอาวุธปืนของกลาง และเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษมาก่อนตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2) 66 วรรคสาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000 บาท เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 97 แต่เมื่อจำคุกตลอดชีวิตแล้วจึงไม่อาจเพิ่มโทษจำคุกได้คงเพิ่มโทษได้เฉพาะโทษปรับ เป็นปรับ 1,500,000 บาท คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือนและปรับ 1,000,000 บาท ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 1 ปี เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 1 ปี 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือน รวมจำคุก 33 ปี 12 เดือน และปรับ 1,000,000 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 กรณีต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังได้เกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนและอาวุธปืนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาเฉพาะความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 เวลาประมาณ 12 นาฬิกา เจ้าพนักงานตำรวจได้ไปที่บ้านเลขที่ 70/152 หมู่บ้านกายสิทธิ์วิลล์ หมู่ที่ 1 ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี แล้วจับกุมจำเลยพร้อมกับยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. 1 กระบอก กับกระสุนปืน 8 นัด และเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) บรรจุในถุงพลาสติกแบบปิดเปิดปากถุงได้จำนวน 10 ถุง น้ำหนักรวม 25.605 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 20.427 กรัม ตามรายงานผลการตรวจพิสูจน์เป็นของกลาง ในข้อหามีอาวุธปืนไม่มีเครื่องหมายทะเบียนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษแล้ว ข้อหานี้เป็นอันยุติโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์คัดค้าน คงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว แม้พันตำรวจโทกันตพัฒน์ พยานโจทก์ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี จะเข้าตรวจค้นบ้านเกิดเหตุโดยไม่มีหมายค้น ทั้งไม่ได้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาก็ตาม แต่การที่พันตำรวจโทกันตพัฒน์แสดงบัตร ป.ป.ส. ต่อจำเลยก่อนทำการค้นในบ้านเกิดเหตุจนพบเมทแอมเฟตามีน กับอาวุธปืนของกลางย่อมเป็นการแสดงว่าพันตำรวจโทกันตพัฒน์แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 ตามคำเบิกความของพันตำรวจโทกันตพัฒน์ยังปรากฏด้วยว่า เมื่อพันตำรวจโทกันตพัฒน์กับพวกมาถึงบ้านเกิดเหตุโดยรถกระบะ 3 คัน เห็นจำเลยไม่สวมใส่เสื้อ มีรอยสักตามร่างกาย อันตรงกับตำหนิรูปพรรณที่ดาบตำรวจฉลอง เต็มแป้น พยานโจทก์อีกปากหนึ่ง ซึ่งเข้าร่วมตรวจค้นกับพันตำรวจโทกันตพัฒน์ ได้รับแจ้งมาจากสายลับ ยืนอยู่ตรงบริเวณประตูบ้าน แล้วเดินหลบเข้าไปในบ้าน จึงเป็นพฤติการณ์ให้พันตำรวจโทกันตพัฒน์มีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ จำเลยจะหลบหนีไป ทั้งทรัพย์สินในบ้านเกิดเหตุซึ่งมีไว้เป็นความผิดจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม พันตำรวจโทกันตพัฒน์กับพวกจึงมีอำนาจเข้าไปในบ้านเกิดเหตุเพื่อตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายค้นตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 14 ตรี และเมื่อเป็นการเข้าค้นตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอันเป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ จึงไม่ต้องทำการค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอันเป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้เป็นการทั่วไป เมื่อข้อนำสืบของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำเบิกความของพันตำรวจโทกันตพัฒน์และดาบตำรวจฉลองว่านอกจากจะพบอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางอยู่ใต้หมอนในห้องของจำเลยแล้ว ยังพบเมทแอมเฟตามีนของกลางบนฟูกที่นอนด้วย แม้จำเลยให้การรับสารภาพเพียงความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางไว้ในครอบครองก็ตาม แต่ก็เป็นพฤติการณ์ที่บ่งบอกแล้วว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางเป็นของจำเลยดังคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

คพพิพากษา สำหรับ คอหวย คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๔๓/๒๕๔๙ จำเลยทั้งสองกับพวกและผู้เสียหายได้ให้หมอไสยศาสตร์ทำพิธีปลุกเสกเหรียญรัชการที่ ๕ เพื่อให้ได้สลากกินรวบจนปรากฏเป็นเลข ๒ ตัว ซึ่งอ้างว่าเป็นเลขท้าย ๒ ตัวของสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อมาจำเลยทั้งสองกับพวกขับรถยนต์กระบะมารับผู้เสียหายไปซื้อหวยใต้ดิน (สลากกินรวบ) ที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เพราะเจ้ามือหวยใต้ดินในอำเภอดังกล่าวกำลังดวงไม่ดี เมื่อเดินทางถึงหลังโรงพยาบาลชุมพร ผู้เสียหายมอบเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท ให้จำเลยที่ ๒ ไปซื้อหวยใต้ดินตามที่หมอไสยศาสตร์บอก หลังจากนั้นจำเลยที่ ๒ กับพวกก็หลบหนีไป พฤติการณ์ของผู้เสียหายดังกล่าวเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสองกับพวกเล่นการพนัน สลากกินรวบอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา ผู้เสียหายในคดีนี้จึงไม่ใช่ ผู้เสียหายโดยนิตินัย ที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองในความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ พนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ และพนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้องในความผิดดังกล่าว หมายเหตุท้ายฎีกา
คดีนี้ พนักงานอัยการจังหวัดชุมพรฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑ ประกอบมาตรา ๘๓ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้องจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๖ เดือน และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง $$$ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้อง$$$

ฝากประชาสัมพันธ์ครับ. สำหรับพวกช๊อตปลา. กฎหมายออกมาใหม่. มีโทษปรับ สองแสนถึงหนึ่งล้าน. เริ่มใช้แต่วันที่ 14 พ.ย.58. พระราชกำหนดการประมง 2558. มาตรา 60,141 โทษปรับสูงมาก. สงสารชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมายครับ

เรื่องเล่า......เช้านี้
ณ โรงพักแห่งหนึ่งในเมืองหลวงอันศิวิไลน์ ดต มณี กับ ดต นพเกล้า คู่บัดดี้สายตรวจจักรยานยนต์..... ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า มีเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านทอง แห่งหนึ่งในตลาด ให้เข้าจุดสกัดจับตามแผน ทั้งสองไม่รอช้า ไปยังจุดที่คิดว่าคนร้ายจะผ่านพอถึงจุดก็จอดรอสังเกตรถคนร้ายตามที่ได้รับแจ้งทาง วอ
ผ่านไป 5 นาที มีรถเก๋งคันงามขับผ่านมา พร้อมกับพูดคุยกันในรถ
ก: เห้ย! ดูดิ ตำรวจ 2คนนั้น ด่านลอยป่าวว่ะ ดักจับไรอีกละแมร่งน่าเบื่อว่ะ
ข: เออ นั่นดิ แมร่งน่าเบื่อจริงๆ ทำไมไม่ไปจับคนขายยาบ้าโน้นมาดักจับอะไรนักหนาว่ะแมร่ง
ทั้งสองพูดเชิงตำหนิพร้อมทั้งหยิบโทรศัพราคาเรือนหมื่นมาถ่ายภาพ ดต มณี กับ ดต นพเกล้า พร้อมทั้งอัพลงเฟรสบุคและตั้งสเตรตัสหรูๆว่า" วันๆไม่ทำไร คอยดักจับแต่ชาวบ้าน ด่านลอย แชร์หนักๆอย่าให้มันมีที่ยืน" ผ่านไป5 นาที มีคนมากดไล้กดแชร์แสดงความเห็นเพจต่างๆแชร์สนั่นและพร้อมใจกันด่าตำรวจทั้ง2นายในทางเสียๆหายๆ (โดยที่ไม่มีใครสนใจถามว่าที่ตำรวจทั้งสองนายไปยืนอยุ่นั่นเขายืนเพื่อทำอะไร)
เก๋งคันงามผ่านไป สักพักรถคนร้ายขับมาพอดี ตำรวจออกมาจากที่ซุ่มและกระโดดถีบรถมอไซต์คนร้ายรถคนร้ายล้มคว่ำลง บังเอิญ รถกระบะคันหรูสี่ประตูคันงามขับมาเห็นเหตุการณ์พอดี พร้อมกับเอ่ยปากชมตำรวจเบาๆในรถว่า "เห้ย! ดูดิตำรวจแมร่งเลวว่ะ ดักจับมอไซเรียกให้เขาจอดเขาไม่จอด แมร่ง
กระโดดถีบเลยอะ"
"เออ นั่นดิ ทำเกินไปป่าวว่ะ เอากล้องมาดิเดี๋ยวถ่ายประจานแมร่งเลย" ผุ้เป็นเมียกล่าวเสริม พร้อมกับถ่ายภาพ ตำรวจทั้งสองนายลงเฟรสบุ๊ค และตั้งสะเตตัสเริศๆว่า"ตำรวจ แมร่ง โค-ตะ-ระ-เหี้ย!!! ตั้ง"ด่านลอย"ว่าแย่แล้วแต่นี่แมร่ง
เรียกรถเขาไม่จอดแมร่งกระโดดถีบเลยอะ" และเพื่อนในเฟรสเห็นก็พากันด่าตำรวจต่างๆนานา
สุดท้ายตำรวจจับคนร้ายได้ คนร้ายเข้าคุกในฐานะผู้กระทำผิด
แต่ไม่มีใครมาถ่ายรูปไม่มีใครมาเอาลงสื่อกล่าวชมในสิ่งที่ได้ทำ แล้วกี่คอมเม้นด่า กี่แชร์ที่สาปแช่ง แล้วเขาผิดอะไร ตำรวจผิดอะไร?
ถ้าสมมุติว่า ตำรวจทั้งสองนายมาเห็นสิ่งที่ประชาชนด่า แล้วมีเหตุขึ้น ทั้งสองนายบอกว่า กูไม่ไปแม่งละ ไปยืนร้อนก็ร้อน เสี่ยงก็เสี่ยงยังจะมาโดนคนด่าอีก "ช่างแมร่งมัน" แล้วสังคมประเทศชาติจะเป็นยังไงไม่วุ่นวายกันไปหมดเลยหรอ แต่คงไม่มีหรอกเพราะตำรวจเขารุ้ว่าอะไรคือหน้าที่
ดังนั้น อย่าเพิ่งตัดสินใครอะไรเพียงแค่ภาพที่เห็นเพราะภาพที่เห็นไม่อาจอธิบายเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ถ้าไม่ผิดไม่มีใครกล้าจับหรอกไม่ว่าข้อหาอะไร แต่ถ้าไม่ผิดแล้วยังจับแจ้งความกลับเลยครับ
สุดท้ายนี้ขอได้รับความขอบคุณจากใจจริงที่อ่านจนจบ../ .....
กฎหมายทวงหนี้ ประกาศใช้แล้ว ( พรบ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558)
สาระสำคัญของกฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่(ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อ 6 มีนาคม 2558 จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 2 ก .ย. 2558 เป็นต้นไป) มานำเสนอ
1.คนทวงหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท ตามมาตรา 39-มาตรา 45
2.นักรับจ้างทวงหนี้(ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้)ต้องขอจดทะเบียนต่อทางราชการ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท (มาตรา 39)
3.นักทวงหนี้ทวงได้เฉพาะลูกหนี้และผู้ค้ำประกันเท่านั้น จะไปทวงกับบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นไม่ได้ ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท (มาตรา 39)
4.ทวงหนี้ได้เฉพาะสถานที่ที่ลูกหนี้ให้ไว้เท่านั้น ยกเว้นติดต่อไม่ได้ เวลาจันทร์-ศุกร์ 8.00-20.00 น. วันหยุดราชการ 8.00-18.00 น. นอกนั้นทวงไม่ได้ (มาตรา 9(2))
5. จำนวนครั้งต้องเหมาะสม ไม่ใช่ทวงทั้งวัน (มาตรา 9(3))
6.ผู้รับมอบอำนาจทวงหนี้ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจ รับชำระหนี้ต้องออกหลักฐานการชำระหนี้ตามมาตรา 9 และมาตรา 10
7. ห้ามข่มขู่ ดูหมิ่น เปิดเผย เกี่ยวกับความเป็นหนี้ ทวงโดยใช้ไปรษณียบัตร เอกสารเปิดผนึก โทรสาร ซองจดหมายที่มีข้อความหรือสัญลักษณ์ว่าส่งมาทวงหนี้ (มาตรา 11) ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท (มาตรา 41)
8.ห้ามทวงหนี้ในลักษณะหลอกลวง แสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น อ้างตัวเป็นทหาร ตำรวจ ทนายความ หรือขู่ว่าถ้าไม่จ่าย จะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือน หรืออ้างว่าดำเนินการให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิตหรือรับจ้างจากบริษัทข้อมูลเครดิต (มาตรา 12)
9.ห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเกินกว่าอัตราที่คณะกรรมการประกาศ เช่น ค่าทวงหนี้ ค่าปรับ ต้องมีการกำหนดกันใหม่ หลังกฎหมายใหม่ใช้บังคับ (มาตรา 13)
10.ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการทวงหนี้ ตามมาตรา 14 ฝ่าฝืนมีบทลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท (มาตรา 42)

คำพิพากษาศาลฎีกา ปี55
เรื่อง อุบัติเหตุ ผู้ตายขับรถ จยย.ตกหลุมกลางถนน ญาติเป็นโจทก์ฟ้อง กรมทางหลวง เรื่องมีว่า สืบเนื่องจากถนนสาย โชคชัย-เดชอุดม ตรงหน้าปั๊มแก๊สสกุลรัตน์ บ้านหนองตะเคียน ตำบลหัวถนน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นหลุมขนาดใหญ่ เวลากลางคืนผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาตกหลุม คอหักตาย ภรรยาของผู้ตายจึงมาให้ตั้งทนายฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรมทางหลวงให้ คดีนี้ศาลชั้นต้นให้ชนะ ศาลอุทธรณ์ให้แพ้ โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาท่านวินิจฉัยว่า มีข้อวินิจฉัยว่า การที่กรมทางหลวงปล่อยให้ถนนมีหลุมขนาดกว้างประมาณ ๑ เมตร ยาวประมาณ ๑ เมตร ลึก ๒๐ เซ็นติเมตร เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้ผู้ตายขับรถตกหลุมหรือไม่ เห็นว่า ถนนที่เกิดเหตุเป็นทางหลวงแผ่นดินดังนั้นจำเลยที่ ๑ จึงมีหน้าที่ดูแลและซ่อมแซมรักษาให้ถนนอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ หากเกิดหลุมก็ต้องรีบกลบ เพื่อไม่ให้รถยนต์ที่แล่นเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจะต้องติดสัญญาณไฟให้ผู้ใช้ถนนได้เห็นชัดเจน การที่จำเลยที่ ๑ ไม่ซ่อมแซมถนนและไม่ติดตั้งสัญญาณไฟดังกล่าวจึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อผู้ตายขับรถตกหลุมถึงแก่ความตายและรถจักรยานยนต์เสียหายจึงเป็นความผิดของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งสองเต็มตามที่โจทก์ทั้งสองขอมา (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๐๖๐/๒๕๕๕)
- เป็นบรรทัดฐานครับ สำหรับ จนท.ผู้รับผิดชอบ หากพบเห็น หรือได้รับแจ้ง ต้องรีบแก้ไข หากฉุกเฉิน ให้ ตำรวจทางหลวง. ท้องที่ ช่วยวางไฟ วางกรวย เวลากลางคืนให้ก่อน ทุกชีวิตมีค่าครับ
เว็บไซต์
ที่อยู่
Sisaket
Amphoe Muang Sisaket
33000