คลินิกเด็กหมอก้อย-หมออาร์ม

📌📌ประกาศ📌📌
🦠🦠เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่🦠🦠

🦠🏥🌡 ทางคลินิกขอความร่วมมือผู้ปกครองที่นำบุตรที่ป่วย มีไข้ หรือร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจ (น้ำมูก ไอ หอบเหนื่อย) รวมถึงมีบุคคลในครอบครัวมีประวัติเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหรือสัมผัสกับบุคคลเสี่ยง กรุณานำบุตรหลานของท่านไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อเข้าสู่ระบบคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

💉🩺 💊กรณีที่มารับวัคซีน ตรวจติดตามตามนัด หรือซื้อยา ทางคลินิกยังคงให้บริการได้ตามปกติค่ะ

และขอความร่วมมือเมื่อทุกท่านเข้ามารับบริการที่คลินิก
1. สวมหน้ากากทุกท่าน 😷
2. ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลก่อน-หลังออกจากคลินิก 👏🏻
3.ให้ผู้ปกครองเข้าตรวจ ไม่เกิน 2 ท่าน 👨‍👩‍👦
4. ขอความร่วมมือผู้ปกครองที่ “ไม่มี” ความเสี่ยง เป็นผู้นำบุตรหลานเข้ามารับบริการที่คลินิก
5. กรุณาให้ข้อมูลทุกอย่างตามความเป็นจริง

ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการกระจายของเชื้อโรคครับ
♥️♥️ ขอบพระคุณในความร่วมมือของผู้ปกครองทุกท่าน และขออภัยในความไม่สะดวกครับ 😷😷

สวัสดีปีใหม่ทุกครอบครัวนะครับ
เนื่องด้วยเทศกาลปีใหม่ คลินิกปิดให้บริการในวันที่ 31 ธ.ค. 63 - 1 ม.ค. 64
แล้วเปิดทำการปกติในวันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. 64 นะครับ

ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยค่ะ
ขอให้ทุกครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรงตลอดปี และตลอดไปนะคะ

Siriraj Channel

RSV ไวรัสตัวร้าย ที่ต้องระวัง
มาฟังความรู้ดีๆ จาก รศ.พญ.วนัทปรียา พงษ์สามารถ กันครับ

รายการสุขภาพดีศิริราช ตอน RSV ไวรัสตัวร้าย...ที่ต้องระวัง
โดย รศ.พญ.วนัทปรียา พงษ์สามารถ
หัวหน้าสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

ดูใน Youtube ▶ https://youtu.be/DqvjyaQTkfE

-เชื้อไวรัส RSV ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
-หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ติดเชื้อ และอยู่ในที่ชุมชน ใส่แมส
-ถ้าหอบเหนื่อย ทานน้อยให้รีบมาพบแพทย์
Cr.กรมควบคุมโรค

Si DBP: พัฒนาการและพฤติกรรมเด็กศิริราช

สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินจะมาแนะนำในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาการช่วงขวบปีแรกค่ะ

❣️ต้องขอบอกคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะคะ ว่า ช่วงขวบปีแรก เป็นช่วงที่เด็กจะเริ่มทำความรู้จักและสัมผัสกับโลกใบใหม่
สิ่งสำคัญที่เด็กต้องใช้ในการเรียนรู้โลกใบใหม่นี้ในระยะเริ่มแรก คือ “ความไว้วางใจ💕”โดยเฉพาะกับคุณพ่อคุณแม่ ผู้เลี้ยงดูใกล้ชิด ซึ่งเด็กจะสร้างขึ้นในช่วง 6 เดือนแรก และพัฒนาความไว้วางใจนี้เป็นความผูกพันกับพ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูมากขึ้น จนทำให้เด็กสามารถจดจำพ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูได้ เมื่อความไว้วางใจนี้สร้างได้ดีจะทำให้เด็กรู้สึกถึงความมั่นคงปลอดภัยในการเรียนรู้โลกใบนี้ต่อไป ดังนั้นการสร้างความไว้วางใจให้กับลูกน้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้เลี้ยงดู ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ และคอยตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของเด็ก เช่น เมื่อเด็กร้องไห้เพราะหิว พ่อแม่ตอบสนองโดยการให้เด็กกินนม หรือเด็กร้องส่งเสียงเรียกเพราะอยากคุยหรือเล่นกับพ่อแม่ พ่อแม่ควรตอบสนองโดยเข้าไปพูดคุยและเล่นด้วย จากนั้นช่วง 6 เดือนหลัง เมื่อเด็กรับรู้ได้แล้วว่าพ่อแม่มีอยู่จริง รู้สึกมั่นคง เด็กจะเริ่มมั่นใจที่จะออกไปเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น และสร้างความไว้วางใจกับบุคคลอื่นๆรอบตัวเด็ก ช่วงเวลานี้เองคุณพ่อคุณแม่ค่อยๆเปิดโอกาสให้เด็กออกห่าง ลดการตอบสนองให้ช้าลง และสอนให้เด็กเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวได้มากขึ้น เพราะเด็กจะรับรู้ได้ว่า แม้ไม่เห็นพ่อแม่ในทันทีที่ร้องหา พ่อแม่ก็จะยังมีอยู่จากในความทรงจำเสมอ เด็กจะค่อยๆสร้างความมั่นใจที่จะเรียนรู้ และเผชิญสถานการณ์ใหม่ๆด้วยตัวเองได้มากขึ้นเมื่อเขาเติบใหญ่
หากในช่วง 6 เดือนแรก พ่อแม่ไม่ตอบสนอง หรือตอบสนองไม่สม่ำเสมอ หรือตอบสนองด้วยวิธีรุนแรง จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย อาจส่งผลต่อในช่วงอายุ 6 เดือนหลัง ซึ่งเด็กจะไม่สามารถพัฒนาความไว้วางใจ หรือความผูกพันต่อพ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูได้และยังส่งผลต่อการเรียนรู้โลกหรือสิ่งต่างๆรอบตัวเด็กด้วย หรือหากหลัง6 เดือนไปแล้วพ่อแม่ไม่ลดการตอบสนองให้เด็กค่อยๆออกห่างและเรียนรู้ด้วยตนเอง เด็กก็จะไม่กล้าออกห่างจากพ่อแม่ และไม่สามารถเผชิญสถานการณ์ใหม่ๆได้ด้วยตัวเอง
❣️ดังนั้น เพื่อพัฒนาความไว้วางใจและความผูกพัน วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กสร้างความไว้วางใจและเกิดความผูกพันกับคุณพ่อคุณแม่ นั่นคือ “การเข้าใจและส่งเสริมพัฒนาการเด็กตามช่วงอายุที่เหมาะสม” วันนี้แอดมินจึงมีข้อมูลมานำเสนอ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการเป็น pdf file สามารถ scan QR code ได้เลยนะคะ

Si DBP: พัฒนาการและพฤติกรรมเด็กศิริราช

🧐🧐 ปัญหาพัฒนาการด้านภาษาเป็นความผิดปกติของพัฒนาการที่พบได้บ่อยที่สุด ..

ความผิดปกติของพัฒนาการด้านภาษามีทั้ง
📍 1. ภาษาล่าช้าซึ่งรวมทั้ง การใช้ภาษาด้วยการพูด หรือ การเข้าใจภาษาใช้ท่าทางสื่อความหมาย
📍2. ความผิดปกติของการเปล่งเสียงพูด เช่น พูดไม่ชัด
📍3. ความผิดปกติของจังหวะการพูด เช่น พูดติดอ่าง
📍4. การสื่อสารที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ

โดยในที่นี้จะขอพูดเรื่อง ภาษาล่าช้า ( การพูดและการเข้าใจภาษา) เพียงอย่างเดียวนะคะ มาสังเกตการสื่อสารของลูกรักกันค่ะ 🤭🤭

แล้วจะเริ่มสงสัยเมื่อไหร่ ว่าลูกพูดช้า เช่น
เด็กอายุ 1ปี ไม่เรียก พ่อแม่ ไม่มีภาษาท่าทาง
เด็กอายุ 15 เดือน ยังไม่มีคำพูดที่มีความหมายอย่างน้อย1คำ หรือที่อายุ 18 เดือนอย่างน้อย 3 คำ โดยไม่นับรวมชื่อคนและสัตว์เลี้ยง หรือ ทำตามคำสั่งง่ายๆที่คุ้นเคยไม่ได้
เด็กอายุ 2 ปีที่ยังไม่พูดเป็นวลี เช่น กินนม แม่ไป หรือ 3 ปียังไม่พูดเป็นประโยค หรือ ไม่ชี้รูป อวัยวะตามคำบอก
เด็กอายุ 4 ปี ยังไม่สามารถเล่าเรื่องสั้นๆได้

ซึ่งหากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณเตือนเหล่านี้ อย่ารอช้า รีบส่งเสริมพัฒนาการ และ ปรึกษาแพทย์หากยังไม่ดีขึ้น

😤😤😤 แล้วจะทำอย่างไรเมื่อลูกพูดช้า..

1. หมั่นพูดคุยกับเด็กในชีวิตประจำวัน ควรพูดคุยในสิ่งที่เด็กกำลังสนใจอยู่ พูดช้าๆชัดๆ เด็กที่ยังไม่มีคำพูดเป็นคำ ให้เน้นสอนคำศัพท์ โดยอาจจะเน้นคำที่จะสอน เช่น มากินข้าว นี่’’ข้าว’’ ในเด็กที่พอมีคำศัพท์บ้างแล้ว กระตุ้นให้คำศัพท์หลากหลายขึ้นหรือเป็นประโยคที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เช่น หากเด็กพูด กิน หรือ หม่ำ อาจพูดกลับว่า กินข้าว

📌 ในเด็กที่หัดพูดและพูดภาษาต่างดาวไม่มีคำที่มีความหมาย พยายามคาดเดาแล้วพูดแทนเด็ก

📌 ในเด็กที่มีความเข้าใจช้า การพูดต้องมีท่าทางประกอบ หรือ สิ่งของนั้นๆช่วยอธิบายเพื่อให้เด็กเข้าใจและเชื่อมโยงได้ดีขึ้น

📌 ในเด็กที่พูดคุยได้บ้างแล้ว เน้นพ่อแม่ตั้งคำถามให้เด็กตอบ และ ช่วยขยายความ อธิบายบรรยายคำที่เด็กพูดให้ได้ใจความที่หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น เด็กพูด หนูกินแอปเปิ้ล คุณพ่อคุณแม่อาจพูดต่อว่า ใช่ แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ มีเปลือกสีแดง รสชาติหวาน ผลไม้นอกจากแอปเปิ้ลก็มี ส้ม กล้วย ....การพูดคุยลักษณะนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งคำถามให้เด็กช่วยตอบเพิ่มเติมได้อีกด้วยนะคะ

2. ฝึกให้เด็กทำตามคำสั่งที่หลากหลาย หากเด็กไม่เข้าใจ ให้จับมือทำ พร้อมพูดบรรยายช้าๆ ใช้คำสั้นๆกระชับเข้าใจง่าย

3. เปิดโอกาสให้เด็กใช้ภาษาสื่อสาร ร้องขอ ก่อนหยิบยื่นสิ่งที่เด็กต้องการให้

4. หมั่นทำกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาเช่น ดูรูปภาพชี้รูปภาพ อวัยวะ อ่านนิทาน เล่นบทบาทสมมติพร้อมพูดคุยระหว่างการเล่น ลดเวลาในการดูสื่อจอเพียงลำพังของเด็ก เพราะเด็กยังไม่สามารถเรียนรู้ภาษาจากโทรทัศน์ได้

📍การอ่านนิทานให้เด็กที่คำศัพท์หรือการเข้าใจภาษาน้อย เน้นอ่านสอนคำศัพท์ สำหรับเด็กที่สื่อสารได้บ้างแล้ว แต่พูดได้ไม่หลากหลาย เน้น อ่านแล้วตั้งคำถามแลายเปิดให้เด็กตอบ วิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร หรือ แก้ไขปัญหาในนิทานอย่างไร พร้อมกระตุ้นให้เด็กช่วยเล่าเรื่องในนิทานอาจให้เด็กใช้จิตนาการของตนในการเล่าเรื่องต่อได้

5. อย่าลงโทษหรือตำหนิหากเด็กไม่พูด พร้อมกระตุ้นให้พูด หรือชมเชยเมื่อเด็กพยายาม

สุดท้าย..เด็กที่มีปัญหาด้านภาษาล่าช้า คุณพ่อคุณแม่ควรติดตามจนกระทั่งเด็กถึงวัยเรียนนะคะ เนื่องจาก พบความเสี่ยงที่จะมีปัญหาในเรื่อง การอ่าน สะกดคำ และความเข้าใจบทเรียนตามมาได้ค่ะ

รู้แล้วอย่ารอช้า...อยู่บ้าน พูดคุย อ่านหนังสือกับลูกกันนะคะ

ช่วงนี้พยายามอยู่บ้าน ออกบ้านเมื่อจำเป็นนะคะ

สำหรับคำถามที่พบบ่อยๆ ในภาวะฉุกเฉินช่วงนี้
#เมื่อไหร่ควรพาลูกไปโรงพยาบาล
#จะเลื่อนฉีดวัคซีนได้ไหม
มีคำตอบค่ะ

สำหรับบุตรหลานที่ป่วย มีไข้ อาการทางระบบหายใจ หรือสัมผัสบุคคลเสี่ยง ทางคลินิกแนะนำให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานของท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าสู่ระบบคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขต่อไปค่ะ

ขอบพระคุณในความร่วมมือของผู้ปกครองทุกท่าน และขออภัยในความไม่สะดวกนะคะ
เราจะผ่านภาวะฉุกเฉินนี้ไปด้วยกันค่ะ

#สรุปอาการที่ต้องพาลูกมารพ.
.
สัปดาห์ที่ผ่านมา
หมอได้ตรวจเคส ผู้ป่วยเด็ก ที่ต้องมาโรงพยาบาล
เพราะความกังวลของผู้เลี้ยงดู หลายเคสมากๆ
ในที่นี้หมายถึง ในภาวะปกติ เค้าคงไม่พาลูกมาตรวจ
พามาตรวจ เพราะอยากให้หมอบอกให้สบายใจว่า ไม่ใช่ COVID
แต่พามารพ. ในเพลานี้
คือ #สถานที่เสี่ยง กับการติด COVID-19
(มีข้อมูลจากจีน เคสปอดอักเสบ 138 ราย
พบว่า 41% ผู้ป่วยได้รับเชื้อจากมารพ.นะคะ)
.
เอาอย่างนี้นะคะ!

ถึงทางการแพทย์จะยังรู้จักเจ้า COVID-19 ไม่มาก
แต่ข้อมูลที่ตรงกันคือ
#คนไข้เด็กอายุน้อยกว่า_15ปี_มีอาการไม่รุนแรง
และอัตราการตายในเด็กแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว เป็น 0

#ความน่ากลัวของคนไข้เด็กอยู่ที่_เค้าจะเป็นตัวกลางแพร่เชื้อให้คนอื่นในครอบครัว
เพราะเด็กแสดงอาการน้อยมาก
และเด็กๆทุกบ้าน อยู่ไม่ได้โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่
ถ้าเชื้อจากเด็กไปติดผู้สูงอายุ
จะทำให้เกิดเคสอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นมา
เพราะฉะนั้น....ให้ลูกอยู่บ้าน ดีที่สุด
ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านจริงๆ ตกลงกับลูกให้เข้าใจว่า
ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอด และต้องล้างมือ
อย่าเอามือไปจับสิ่งต่างๆ ห้ามจับใบหน้า
(ซึ่งยากมาก...สำหรับเด็ก)

.
ถ้าตอนนี้ลูกเจ็บป่วยเล็กน้อย
เป็นโอกาสดีแล้วค่ะ ที่เราจะได้ฝึกทักษะการดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น
หมอมี link ที่เคยเขียนเอาไว้ให้

1.เด็กเป็นหวัด
https://www.facebook.com/drpambookclub/posts/382999938701372?__tn__=H-R
และ
https://www.facebook.com/drpambookclub/photos/a.334724846862215/620205558314141/?type=3&theater

2.ท้องเสียถ่ายเหลว
https://www.facebook.com/drpambookclub/posts/391226954545337
และเรื่องเกี่ยวกับเกลือแร่ ORS
https://www.facebook.com/search/posts/?q=ORS&epa=FILTERS&filters=eyJycF9hdXRob3IiOiJ7XCJuYW1lXCI6XCJhdXRob3JcIixcImFyZ3NcIjpcIjMzMjU1OTQ1Mzc0NTQyMVwifSJ9

3.ความเข้าใจเกี่ยวกับ “ไข้”
https://www.facebook.com/watch/?v=435122763489089

4.ไข้สูงแล้วชัก
https://www.facebook.com/drpambookclub/posts/383853181949381?__xts__[0]=68.ARDzqCDijN5X9mJZFVdrSZsdn51eJMMeBDEXeeLAY7NWxk5Ot0vCB6tgI4mVQxnQr_yRITgkIpf0J6Z7NLy_C51pcdrOVdJWTlMlMTE7xNutsLktVBJMbQLaW00ruIuH9546UWxj5bTlzKSUSVHwqznV6zBrZb8OmVAji72O6qPpN3lf3XgSGuV6dsjInaNcHMYIGCSSUNc8WM3ugYc2TUoJkmZUkCqTO_lJyevJYT4srQ2YQEahIuTHek7ufG8hRzV8lr1rK_o-10cUw1MRp8mkQNXaARVtgS13z45zcaSVFtdZ8yIcKPrwjDkM1dG1LZDnf7bjhs_2SzxbDahHGSs&__tn__=-R

5.การล้างจมูกในเด็ก
https://www.facebook.com/drpambookclub/photos/a.334724846862215/430430427291656/?type=3&theater

6.การไอในเด็ก
https://www.facebook.com/drpambookclub/posts/456134144721284

คุณพ่อคุณแม่ลองอ่าน และทำความเข้าใจดูนะคะ

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤
ที่นี้ ถ้าเราสงสัยว่า
#แล้วเมื่อไหร่ที่เราต้องพาลูกที่ป่วยไปหาหมอ
หมอจะแยกตามอาการสำคัญนะคะ

👉1.โรคทางเดินหายใจ
ร้อยละ 90 ของเด็กเล็กเกิดจากไวรัส
มักมีอาการหวัดก่อน
ซึ่งไข้จะไม่สูงมาก มีน้ำมูก
ไอเล็กน้อยเพราะน้ำมูกกับเสมหะหยดลงคอ
Character ของเด็กคือ กลางวันเล่นได้ กินได้ ไข้ต่ำ
พอกลางคืน เริ่มซม ไข้สูงขึ้น
ซึ่งอาการจะหนักในช่วงวันที่ 2-4 หลังจากนั้นอาการจะดีขึ้นแต่ถ้ามีอาการดังนี้ ก็ควรพามาหาหมอ

-ไข้สูงตลอดเวลา กลางวันจากที่เคยเล่นได้กินได้ ก็ซมพอๆกับกลางคืน
- กินนม กินอาหาร กินน้ำได้ลดลง (กินได้น้อยกว่า 50%ของ baseline)
- หายใจแรง ตอนหลับหายใจอกกระเพื่อมแรง อกบุ๋ม --> แบบนี้ระวังว่าการติดเชื้อลามไปทางเดินหายใจส่วนล่าง
- เป็นหวัด โดยที่อาการไม่ดีขึ้นเลย นานเกิน 7 วัน (ย้ำว่า ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยมีแต่ทรงกับทรุดเกิน 7 วัน) -->มีภาวะแทรกซ้อนของหวัด เช่น หูอักเสบ ไซนัสอักเสบ หรือติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมในร่างกาย
-หายใจลำบาก

❤❤❤❤❤❤

👉2.ไข้สูงอย่างเดียว ไม่มีอาการอื่นร่วม
นิยามของไข้ในเด็ก คืออุณหภูมิมากกว่า 37.5 C
ถ้าไข้อยู่ในช่วง 37.6-38 C แต่ยังเล่นได้ ยังกินอาหารได้ปกติ
ให้เช็ดตัวลดไข้ กินยาลดไป และดูอาการไปก่อน
เด็กต่อไปนี้ควรมาพบแพทย์

- เด็กอายุน้อยกว่า 1 เดือน ที่แม่วัดว่ามีไข้ > 37.5C ติดต่อกัน 2 ครั้ง โดยที่ไม่ได้เกิดจากการห่อตัวที่หนาเกินไป
หรือ ห้องอุณหภูมิร้อนเกินไป (ทารกยังปรับอุณภูมิกายไม่เก่ง สิ่งแวดล้อมสำคัญ) ต้องพามาพบกุมารแพทย์

- เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ที่ไข้สูงลอย แม้จะกินยาลดไข้ หรือเช็ดตัว (อย่างเต็มที่) ก็ไม่สามารถทำให้อุณภูมิกาย < 38 C ได้เลย

- เด็กมีไข้ ร่วมกับ ซึมมาก จากที่เคยเล่นไม่เล่น เคยกิน ไม่กิน
- เด็กทุกอายุ เป็นไข้สูงอย่างเดียว นานเกิน 72 ชั่วโมง สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก (ด้วยเหตุใดๆก็ตาม)

❤❤❤❤❤❤

👉3. ระบบทางเดินอาหาร
- เด็กที่ถ่ายเหลว หรือ อาเจียน โดยที่ผู้ดูแล ไม่สามารถป้อนน้ำเกลือแร่ ได้ทันกับที่เด็กถ่ายเหลวหรืออาเจียน
ทำให้มีภาวะขาดน้ำปานกลาง ถึงรุนแรง คือ ซึม ตาโหล ฉี่เข้มมาก ปากแห้ง น้ำลายเหนียว --> ต้องมาให้น้ำเกลือแร่ทดแทนเข้าทางเส้นเลือด
- เด็กที่ปวดท้องด้านขวาล่าง ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับมีไข้ อาเจียน ท้องอืดขึ้น กินอาหารได้น้อยลง -->พามาตรวจเพื่อยืนยันว่ามีภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการผ่าตัดหรือไม่ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ เป็นต้น
- เด็กที่ปวดท้อง อาเจียน(กินอะไรก็อาเจียน บางครั้งอาเจียนออกมาเป็นน้ำดี คือ น้ำสีเหลืองๆ) ท้องอืดมากกกกกขึ้นเรื่อย -->พามาตรวจประเมินภาวะลำไส้อุดตัน

❤❤❤❤❤❤

👉4.ระบบประสาท
- เด็กที่มีภาวะชัก ครั้งแรก ไม่ว่าจะมีไข้หรือไม่มีไข้
(เด็กชักจากไข้สูง ที่พ่อแม่ “เก่งเรื่องการดูแล”แล้ว ไม่ต้องพามา
ให้กินยาลดไข้ รักษาตามอาการ ยกเว้นมีอาการที่เข้าได้กับคำแนะนำที่หมอบอกว่าให้มาตรวจ)
- เด็กที่มีการชักนานเกิน 15 นาที หรือ ชักไม่นาน แต่ชักซ้ำๆหลายรอบใน 1 วัน
-มีการเปลี่ยนแปลงของระดับสติสัมปชัญญะ ที่เรารู้สึกว่า ไม่ได้มาจากแค่ไข้อย่างเดียว

❤❤❤❤❤❤
👉5.อื่นๆ
เด็กที่มีโรคประจำตัว กลุ่มนี้คุณพ่อคุณแม่มักมีความชำนาญ และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลูกได้
ถ้ารู้สึกว่าอาการลูกแย่ลง
อาการแย่มาก ไปพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินได้ตลอดเวลา
อาการรอได้ ลองโทรหาคลินิกที่รักษาประจำก่อนเบื้องต้น พยาบาลจะปรึกษาหมอให้ว่าควรทำอะไร
แต่โดยส่วนใหญ่เด็กกลุ่มนี้ติดตามการรักษาที่คลินิกเฉพาะทาง เพราะฉะนั้น ต้องถามข้อมูลว่าคุณหมอประจำออกตรวจมั้ย หรือ จะพบคุณหมอ ได้วันไหนบ้าง

❤❤❤❤❤❤
6. เรื่องฉีดวัคซีน
อ่านที่หมออร สรุปเลยละกันนะคะ
https://www.facebook.com/113780158959315/posts/1106160919721229/
==================

หมอหวังว่าข้อมูลจะพอช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ได้บ้างนะคะ
หากมีคำถาม ถามใน comment ถ้าหมอตอบได้ (หมายถึงมีทั้งเวลาและความรู้เพียงพอ)จะตอบให้ค่ะ
👉👉👉👉👉👉👉👉
หมอแพม
(พญ.ปุษยบรรพ์ สุวรรณคีรี
กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ
และเวชบำบัดวิกฤติ)

ประกาศ ‼️
จากสถาณการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 🦠🦠

เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคและให้เป็นไปตามนโยบายการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข

🦠🏥🌡 ทางคลินิกขอความร่วมมือผู้ปกครองที่นำบุตรที่ป่วย มีไข้ ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจ (น้ำมูก ไอ หอบเหนื่อย) รวมถึงมีบุคคลในครอบครัวมีประวัติเดินทางหรือสัมผัสกับบุคคลที่ไปต่างประเทศ หรือเดินทางกลับจากกรุงเทพและปริมณฑล กรุณานำบุตรหลานของท่านไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อเข้าสู่ระบบคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

💉🩺 💊กรณีที่มารับวัคซีน ตรวจติดตามตามนัด หรือซื้อยา ทางคลินิกยังคงให้บริการได้ตามปกติค่ะ

และขอความร่วมมือเมื่อท่านเข้ามารับบริการที่คลินิก
1. กรุณาสวมหน้ากากทุกท่าน
2. ให้มีผู้ปกครอง หรือผู้ติดตามรวมไม่เกิน 2 ท่าน
3. ขอความร่วมมือผู้ปกครอง หรือผู้ติดตามที่ “ไม่มี” ความเสี่ยง เป็นผู้นำบุตรหลานเข้ามารับบริการที่คลินิก
4. กรุณาให้ข้อมูลทุกอย่างตามความเป็นจริง เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัย
ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการกระจายของเชื้อโรคครับ

♥️♥️ ขอบพระคุณในความร่วมมือของผู้ปกครองทุกท่าน และขออภัยในความไม่สะดวกนะครับ

ประกาศ

ช่วงเช้า วันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค. 63 (9.00-12.00 น.) คลินิก “ปิด” ให้บริการนะครับ
แต่ช่วงเย็น (17.00-20.00 น.) เปิดทำการตามปกติครับ
ขอบคุณครับ ^^

ประกาศ

ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ (28 ธ.ค. 62 - 1 ม.ค. 63)
คลินิกปิดเพียงวันเดียว
คือวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562 นะครับ

แล้วเปิดทำการตามปกติวันพุธที่ 1 มกราคม 2562 เวลา 17.00 น. นะครับ

ขอให้ทุกครอบครัว มีความสุข ในช่วงวันหยุดปีใหม่นี้
และอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ^^
สวัสดีปีใหม่ 2563 นะครับ

สาระวันหยุด...

มาศึกษา "วิธีเช็ดตัวเด็กที่ถูกต้อง เมื่อลูกน้อยเป็นไข้" และข้อควรระวังในการเช็ดตัวเด็กกันนะครับ

ที่มา : FDATHAI

ประกาศ
วันที่ 11 - 12 เมษายน 2562 คลินิกเปิดให้บริการตามปกติแล้วนะครับ

คลินิกปิด ช่วงวันหยุดสงกรานต์
ตั้งแต่วันที่ 13 - 15 เมษายน 2562

แล้วเปิดทำการตามปกติวันที่ 16 เมษายน 2562 เวลา 17.00 น. นะครับ

ขอให้ทุกครอบครัว มีความสุข ในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้
และอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ^^

ช่วงเย็นวันนี้ 7 เม.ย. 62 (17.00-20.00น.)
คลินิก ปิดนะครับ
ต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าด้วยนะครับ

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
เนื่องในวันหยุดยาวปีใหม่
คลินิกเปิดทำการจนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 ธ.ค. 61 ช่วงเช้า 9.00-12.00 น.
เริ่มปิด ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 61 ช่วงเย็น จนถึงวันที่ 1 ม.ค. 62
เปิดทำการตามปกติอีกครั้ง วันพุธที่ 2 ม.ค. 62 เวลา 17.00 น.

ขอให้ทุกคน ทุกครอบครัว มีความสุขกับวันหยุดยาวปีใหม่นะครับ
#สวัสดีปีใหม่2562

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
เนื่องจากวันนี้ 13 ต.ค. 61 เทศบาลเมืองลำปาง ดับไฟเส้นถนนคลินิก ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. ทำให้บริการการตรวจรักษาโรคไม่ได้ตามปกติ

ทางคลินิกขออภัยเป็นอย่างสูงที่ต้องขอปิดบริการในช่วงเช้า
โดยเปิดให้บริการตามปกติในช่วงเย็น 17.00-20.00 น. ตามปกตินะครับ

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
วัน อังคารที่ 21 ถึง วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2561
หมอก้อย และหมออาร์มติดภาระกิจ ไม่สามารถมาออกตรวจได้นะครับ

แต่คลินิกยัง “เปิด” ให้บริการตามปกติ
โดยจะมี คุณหมอกอล์ฟ และ คุณหมอข้าวฟ่าง มาออกตรวจให้แทนชั่วคราวนะครับ

แล้วพบกันใหม่ วันที่ 25 สิงหาคม 2561 นะครับ
ขอบคุณครับ/ค่ะ
หมอก้อย-หมออาร์ม

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
วันเสาร์ที่ 14 ก.ค. 61 ช่วงเย็น (17.00-20.00 น.) ทางคลินิกปิดให้บริการ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ^^
พบกันอีกทีวันอาทิตย์นะครับ

สวัสดีปีใหม่ 2561 นะครับ/คะ ^^

เนื่องในวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2561 ทางคลินิกขอปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2561
เปิดบริการตามปกติวันที่ 2 มกราคม 2561 นะครับ/คะ

ขอให้ทุกคน ทุกครอบครัว มีความสุข และสนุกกับเทศกาลปีใหม่ ... แล้วอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยน้าาา ^^

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
วันที่ 27 ส.ค. 60 ช่วงเช้า (9.00-12.00น.) ทางคลินิกปิดให้บริการ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ^^
พบกันอีกทีช่วงเย็น (17.00-20.00น.) นะครับ

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
วันที่ 2 ก.ค. 60 ช่วงเช้า (9.00-12.00น.) ทางคลินิกปิดให้บริการ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ^^
พบกันอีกทีช่วงเย็น (17.00-20.00น.) นะครับ

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
วันที่ 13-15 เม.ย. 60 ทางคลินิกปิดให้บริการเนื่องในวันหยุดสงกรานต์ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ^^
พบกันอีกทีวันที่ 16 เม.ย.60 นะครับ

สุขสันต์วันสงกรานต์ และสวัสดีปี๋ใหม่เมืองแก่ทุกๆท่านนะครับ ^^

เรียนผู้ใช้บริการทุกท่าน
วันนี้ 12 ก.พ. 60 ช่วงเย็น (17.00-20.00 น.) ทางคลินิกปิดให้บริการ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ^^
พบกันอีกทีวันที่ 13 ก.พ.60 เย็นนะครับ